ทั้งสองเดินจับมือกันกลับเข้างาน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมาอย่างสนใจใคร่รู้ แต่แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างหลังดังมาแต่ไกล
“พี่แพททริกคะ!”
ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่เดินแกมวิ่งเข้ามาหา ‘พระเจ้า! ให้มันได้อย่างนี้สิพับผ่า ลูเซียน่าชอบเข้ามายุ่มย่ามกับเขาบ่อยๆ ทำตัววุ่นวายอย่างกับเป็นคนรัก ล่าสุดมือขวาคนสนิทเพิ่งรายงานว่าหล่อนไปให้สัมภาษณ์ ว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับเขา จนมารดาของเขาทราบข่าวเข้า ถึงกับต่อสายตรงมาเคลียร์ขณะที่เขากำลังประชุมอยู่ เขาหัวเสียและหงุดหงิดกับคำขู่สารพัดของมารดา จนสั่งยกเลิกประชุมทั้งวัน พอจะจัดการกับตัวปัญหา ลูเซียน่าก็บินหนีไปเที่ยวต่างประเทศซะอย่างงั้น! เขาเลยไม่ได้เคลียร์กับเธอสักที หึ! วันนี้แหละฤกษ์ดีเลยละ เขาไม่อยากให้พิมพลอยลังเลหรือกังวลอะไรอีก แค่เรื่องอายุก็มากพอละ คงถึงเวลาที่จะต้องชัดเจนในทุกๆ อย่างซะที!’
“พี่แพททริกคะ ซีน่ามองหาพี่อยู่ตั้งนาน...แล้วนี่ใครคะ?” ลูเซียน่าเอ่ยถามเพราะจำสาวตรงหน้าไม่ได้ แต่ก็รู้สึกคุ้นๆ หน้าอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย เธอรีบเดินเข้าไปกอดแขนแพททริกสันอีกข้างไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ พร้อมกับใช้สายตาประเมินค่าของสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจดเท้าอย่างเหยียดๆ
‘นี่ถ้าไม่ใช่งานวันเกิดคุณมะลิฉัตร เธอจะกระชากแขนนังนี่มาตบซักที กล้าดียังไงมาจับมือกับพี่แพททริก ไม่รู้หรือยังไงว่าเขาเป็นของเธอ!’
“สวัสดีซีน่า นี่น้องพิม พิมพลอย อัครเหมษ์ เธอคือคู่หมั้น และว่าที่ภรรยาของพี่ น้องพิมจ๊ะนี่ลูเซียน่า รีเวอร์ยองค่ะ ลูกสาวของ คุณอาลูเซียส เพื่อนสนิทของคุณพ่อน่ะค่ะ จำได้ไหมคะ!” แพททริกสันแนะนำเสร็จ ก็แกะมือของอีกฝ่ายออกอย่างพยายามรักษามารยาท
คนที่ถูกแนะนำถึงกับอึ้งและเขินอาย ‘พระเจ้า! เธอเพิ่งจะคบกับเขาได้ไม่ถึงสิบนาที ตอนนี้กลายเป็นคู่หมั้น แล้วยังเลยไปถึงว่าที่ภรรยาอีกด้วย ว้าว! มีอะไรให้อึ้งกว่านี้อีกไหมเนี่ย’ พิมพลอยส่งยิ้มบางๆ ไปให้สาวตรงหน้า
ลูเซียน่าแทบจะกรี๊ดออกมา หลังจากที่ได้ยินชายหนุ่มแนะนำอีกฝ่าย ‘ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้! นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม ก็เขาไม่ควงใครมาสองปีกว่าแล้วนี่ แถมผู้หญิงที่สนิทกับเขาที่สุดในช่วงสองปีมานี้ก็มีแต่เธอเท่านั้น’
“นี่พี่แพททริกล้อเล่นใช่ไหมคะ!! ยัยเด็กนี่ถึงยี่สิบหรือยังก็ไม่รู้ พี่บ้าไปแล้วหรือไง ถ้าจะมองหาใครสักคนที่เหมาะสมและคู่ควรกับพี่ คนคนนั้นก็ควรจะเป็นซีน่าสิคะ ไม่ใช่ยัยเด็กหน้าจืดนี่” ลูเซียน่าระเบิดอารมณ์ออกมาในที่สุด จากตอนแรกที่ว่าจะใจเย็น แต่ตอนนี้เธอไม่ไหวจะเย็นแล้ว
‘ทำไมทุกอย่างถึงต้องเป็นแบบนี้ แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ? เพิ่งให้สัมภาษณ์ไปด้วย แบบนี้มันฉีกหน้ากันชัดๆ
แขกในงานเริ่มหันมามองตามๆ กันมากขึ้น เพราะเสียงอันแหลมสูงของลูเซียน่าที่ดังเมื่อครู่ รวมไปถึงสองหนุ่มเจคอปและ ออร์แลนโด้ ที่พากันรีบเดินเข้ามาสมทบ เพราะกลัวว่าถ้าแพททริกสันอารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจจะกลายร่างเป็นอีกคนขึ้นมา และนั่นคงไม่ดีต่อหลายๆ ฝ่ายเป็นแน่
“โว้ๆ ใจเย็นๆ ก่อนนะซีน่า อย่างแรกที่ควรจะรู้ก็คือ...คนอย่างพี่ไม่เคยล้อเล่นกับใคร อย่างที่สอง! อย่าเรียกคนรักของพี่ว่ายัยเด็กนี่อีกพี่ไม่ชอบ เพราะน้องพิมอายุ 23 แล้ว ไม่ใช่เด็กอย่างแน่นอน และข้อสุดท้าย ถ้าพี่ จะเลือกใครสักคนมาเป็นภรรยา คนๆ นั้น จะต้องเป็นคนที่พี่รักเท่านั้น” แพททริกสันตอกกลับเสียงดังพอที่จะทำให้ใครหลายๆ คนที่อยู่ใกล้ได้ยิน ไปด้วย
“กรี๊ดดดด” ลูเซียน่ากรีดร้องขึ้นอย่างรับไม่ได้ กับคำพูดที่ตรงแบบไม่อ้อมโลกของชายหนุ่ม ทำให้แขกในงานหันมากันมากขึ้นกว่าเดิม
แพททริกสันรีบดึงพิมพลอยเข้ามากอดเอาไว้! เพราะกลัวว่า ลูเซียน่าจะโมโหแล้วเผลอทำอะไรสาวเจ้าเข้า!
‘ให้ตายสิ! เขาว่าที่ผับเขาเสียงดังแล้วนะ เจอเสียงของยัยซีน่ากรี๊ดวันนี้ เขาคงต้องคิดใหม่แล้วสิ’ เจ้าพ่อคอนสตรักชั่นส่ายหัวนิดๆ อย่างเอือมระอา
หนุ่มเจคอปที่เพิ่งมาถึงก็รีบยกมือขึ้นปิดหู เพราะเสียงอันแหลมสูงจนแสบแก้วหูของสาวตรงหน้าที่รู้จักมานาน ทำเอาขนในกายของเขาลุกชูชันไปทั้งตัว
‘โอ้...ขอบคุณพระเจ้า! โชคดีที่พี่ชายของเขาไม่สนยัยนี่ ไม่งั้นตระกูลเขาคงได้หูหนวกกันทั้งบ้านแน่ๆ’ หนุ่มเจ้าของฉายารอยยิ้มกระชากใจคิด ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้กับพี่ชายคนรองแล้วเอ่ยด้วยท่าทางสยดสยอง
“นี่เฮีย! ถ้าคู่นอนของผมแหกปากร้องเสียงแหลมเหมือนยัยนี่ผมคงเผลอบีบคอหล่อนตายก่อนได้ขึ้นสวรรค์แน่ๆ”
“แต่ฉันว่าเสียงของหล่อนคงจะทำให้ไอ้หนูของฉันสลบคากางเกงใน ก่อนจะได้ออกมาเห็นหน้าหล่อนด้วยซ้ำ!” ออร์แลนโด้บอกด้วยท่าทางนิ่งๆ
นักข่าวต่างรีบกรูกันเข้ามากดชัตเตอร์เก็บภาพที่ไม่น่าอภิรมย์ของลูเซียน่าบุตรสาวของนักธุรกิจใหญ่ลูเซียส! ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาตั้งแต่ที่หญิงสาวไปให้สัมภาษณ์กับสื่อแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับการคบหาดูใจกับแพททริกสัน
ด้านเลโอนาดท์กับมะลิฉัตรเดินมาหาหนุ่มๆ ด้วยใบหน้าตึงๆ กับเสียงกรี๊ดแปดหลอดของสาวตรงหน้า
‘ไม่นึกเลยว่าลูเซียน่าจะทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ ทั้งการศึกษาและ ชาติตระกูลไม่ได้ขัดเกลากิริยามารยาทของหล่อนเลยสักนิดเดียว ดีที่แพททริกสันตาถึง ไม่งั้นคงได้ตกนรกแน่ๆ ถ้าเลือกแม่คนนี้มาร่วมสกุลด้วย’
มะลิฉัตรคิดในใจอย่างขุ่นเคือง กับการกระทำของลูกสาว ของเพื่อนรักสามี ที่ดูเหมือนจะถูกตามใจซะจนทำตัวไม่เหมาะไม่งาม ต่อหน้าคนเยอะแยะ
“ฉันเหลือจะทนกับแม่คนนี้จริงๆ เลยเลโอนาดท์ และฉันทนทำเป็นเฉยอีกต่อไปไม่ได้แล้ว!” มะลิฉัตรเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปหาบุตรชายคนโตกับ บุตรสาวบุญธรรม
เลโอนาดท์ถึงกับสะดุ้งเฮือก เมื่อถูกภรรยาสุดที่รักเรียกชื่อจริงด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าใครขวางตายแน่ๆ งานนี้คนที่รักและเคารพเมียอย่างเขามีหรือจะกล้าขัดใจ
ประมุขใหญ่แห่งโรคาซานเดอร์รีบเดินไปหาบุตรชายทั้งสองเพื่อถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และทันทีที่หันไปมองยังบุตรสาวของเพื่อนรักที่ยืน อยู่ไม่ไกล
‘โอ้พระเจ้า! ดูไม่ได้เลยให้ตายสิ!!’ เลโอนาดท์ก็ถึงกับตกใจ!รีบล้วงมือถือขึ้นมา แล้วกดโทร. หาเพื่อนรักให้รีบมาจัดการกับบุตรสาวก่อนที่จะอับอายใครๆ ไปเยอะกว่านี้
“แพท! ถึงเวลาที่ต้องเคลียร์ข่าวแล้ว! ไปจ้ะน้องพิม!” มะลิฉัตรเอ่ยกับทั้งสองหลังจากที่เข้าไปถึง
“ปะ..ไปไหนคะคุณแม่” พิมพลอยเอ่ยถามอย่างมึนงง แต่ทว่า แพททริกสันนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีทันใด
“ไปเปิดตัวสิจ๊ะลูก” มะลิฉัตรบอกเสร็จก็ดึงมือบุตรชายกับบุตรสาว บุญธรรมให้ตามขึ้นไปบนเวที
นักร้องสาว บีเชี่ยน หยุดร้องเพลงไปตั้งแต่เห็นสถานการณ์ข้างล่างเวทีเมื่อครู่ ที่แขกในงานต่างพากันให้ความสนใจ และเธอเองก็ไม่อยากจะพลาดช็อตเด็ดของงานด้วยเช่นกัน
บีเชี่ยนเคยไปร้องเพลงที่งานวันเกิดคนดังคนหนึ่ง ทันทีที่นักร้องสาวเสียงทองได้เห็นชายหนุ่มที่ได้ฉายาหล่อลืมชื่อ! เดินเข้ามาข้างในงาน หญิงสาวถึงกับตะลึงในความหล่อเหลาคมคายของแพททริกสันราวกับถูกมนตร์สะกด จนเผลออุทานออกไมค์ไป ในขณะที่ยังร้องเพลงอยู่‘โอ้ พระเจ้า’ ทำให้แขกทั้งงานหันมามองเป็นตาเดียว
และที่ร้ายกว่านั้น...หลังจากที่ร้องเพลงเสร็จ พอนักร้องสาวเดินลงเวทีมาได้เพียงสองก้าว ก็ถูกลูเซียน่า รีเวอร์ยอง เอาแชมเปญสาดใส่หน้าทำให้อับอายคนไปทั้งงาน
ความแค้นครั้งนั้นยังจำได้ดี หึ! แล้วในที่สุดเธอก็ได้เห็นอีกฝ่ายหน้าแหกกลางงาน! พรุ่งนี้คงเป็นข่าวใหญ่ และเธอก็ไม่พลาดที่จะขยายข่าวช็อกวงการนี้อย่างแน่นอน
บีเชี่ยนเผลอยิ้มออกมาอย่างสะใจ ก่อนจะสะดุ้งน้อยๆ เมื่อถูกมาดามแจสมินเอ่ยขอไมค์ นักร้องสาวจึงรีบส่งไมค์ให้กับเจ้าของงานทันที
“สวัสดีค่ะ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เนื่องจากครบรอบวันเกิดปีนี้พิเศษกว่าทุกๆ ปี ดิฉันมีความยินดีที่จะเรียนให้ทราบว่าแพททริกสัน บุตรชายคนโต กับพิมพลอย อัครเหมษ์ บุตรสาวบุญธรรมของเรา จะหมั้นและแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้า ขอเชิญทุกๆ ท่านร่วมเป็นสักขีพยานในงานมงคลที่จะมีขึ้นกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
สิ้นคำกล่าวสั้นๆ ของมาดามแจสมิน ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงาน ในขณะที่ลูเซียน่ากำลังจะแหกปากส่งเสียงกรี๊ด แต่ก็ถูกฮาร์ดี้ มือขวาคนสนิทของลูเซียสเอามือปิดปาก แล้วถูกอุ้มออกจากงานไปที่รถ ที่มีลูเซียสนั่งรออยู่ก่อน ท่ามกลางสายตาหลายๆ คู่ที่หันไปมองกันอย่างสนใจแพททริกสันยิ้มแก้มแทบปริกับคำประกาศของมารดา ในที่สุดสิ่งที่เขาเฝ้ารอคอยก็มาถึงซะที ต้องขอบคุณมารดาของเขา สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ มันคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ แม้เขาจะแอบท้วงในใจว่าสามเดือนมันนานเกินไปก็ตามพิมพลอยยืนตัวแข็งทื่อ อึ้งแล้วอึ้งอีกกับหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างจนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน ‘พระเจ้า! วันนี้มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งวัน แถมเป็นเซอร์ไพรส์ต่อๆ กัน จนเธอแทบไม่มีเวลาจะหายใจเลย’เจคอปกับออร์แลนโด้ผิวปากแซว พร้อมกับยกนิ้วให้มารดาที่ชัดเจนและเด็ดขาด มิน่า! บิดาของพวกเขาถึงได้ไม่กล้าหือ! มะลิฉัตรส่งไมค์ต่อให้แพททริกสัน ที่ยืนยิ้มจนเหงือกแทบแห้งก็ยังไม่ยอมหุบยิ้มสักที เธอสะกิดเตือนบุตรสาวบุญธรรมที่เหมือนวิญญาณ จะออกจากร่างไปชั่วขณะ โถๆ
พนักงานสาวแผนกต้อนรับแอบซุบซิบกันหลังเคาน์เตอร์ หลังจากคนที่เป็นหัวข้อของการสนทนาเพิ่งจะขับรถออกไปได้ไม่นาน“ตอนแรกนะ ฉันคิดว่าคุณแพททริกจะได้กับยัยลูเซียน่าซะอีก ขานั้นชอบวีนชอบเหวี่ยง แถมเวลามาที่นี่ก็ชอบวางตัวราวกับเจ้าของน่ะแกฉันละเกลียดแม่นี่จริงๆ” นีน่าพนักงานต้อนรับเอ่ยขึ้น“เมื่อคืนฉันได้ไปช่วยบริการแขกในงานที่คฤหาสน์มา ฉันเห็นนางหน้าแตกกลางงาน แล้วส่งเสียงกรี๊ดจนคุณเจคอปสุดหล่อของฉันทนไม่ไหวต้องยกมือขึ้นปิดหูเลยแก!” เจนนี่ที่ได้ไปช่วยดูแลแขกที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์เมื่อคืน คุยอวดสองสาวที่ไม่ได้ไป“แหม น้อยๆ หน่อยเถอะหล่อน คุณเจคอปของฉัน ฮ่าๆๆๆ อย่างแกน่ะเดินผ่านสักสิบรอบ คุณเจคอปยังไม่มองเลยย่ะ!” มินนี่ตอกกลับเพื่อนสาวอย่างรู้สึกหมั่นไส้“โถๆ ทำอย่างกะแกไม่เคยฝันอย่างนั้นแหละมินนี่! ฉันเห็นนะเวลาที่คุณออร์แลนโด้พาสาวๆ มาฟาดที่นี่ แกก็ได้แค่มองเขาเดินผ่านแกไปอย่างไร้ตัวตนทุกครั้ง ฮ่าๆๆ ผู้ชายอะไร! เย็นชาชะมัดเลยอะ!” เจนนี่เอาคืน เพื่อนสาว“เย็นชาแบบนี้แหละ มินนี่ชอบบบบบ” มินนี่
สามชั่วโมงต่อมา...“น้องพิมคะ! น้องพิม! หนังจบแล้วค่ะ” แพททริกสันเรียกคนที่หลับสนิทไปตั้งแต่สามสิบนาทีแรก จนกระทั่งหนังจบแล้วสาวเจ้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เขานอนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับตาพริ้มในอ้อมแขน มันทำให้ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นตั้งแต่ที่ขาเรียวสวยยกขึ้นมาพาดบนขาของเขาจนกระทั่งตอนนี้บางอย่างของเขาก็ยังไม่ยอมสงบ! ไม่ว่าหนังที่ดูจะบู๊ดุเดือดแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงสายตาของเขาไปจากใบหน้าเธอได้เลย เขาจำต้องรีบปลุกเธอก่อนที่เขาจะระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองไม่ไหว!“น้องพิมขอโทษค่ะ” คนที่เพิ่งตื่นอายจนหน้าแดง“ไม่เป็นไรค่ะน้องพิมจะนอนต่อไหมคะ พี่แพทจะได้นอนเป็นเพื่อนค่ะ” แพททริกสันบอกพลางส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้หญิงสาว“เอ่อ...ไม่แล้วค่ะ น้องพิมขอไปห้องน้ำก่อน พี่แพทรอน้องพิมที่หน้าโรงหนังนะคะ” เธอรีบลุกเดินออกไปยังห้องน้ำข้างนอก เพื่อเช็กความเรียบร้อยของตัวเองอย่างอายๆ“ได้ครับ เจ้าหญิงของพี่” แพททริกสัขำเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของสาวเจ้า
ครึ่งชั่วโมงต่อมา... แพททริกสันก็ออกมานั่งรอที่โต๊ะอาหารด้านนอก หยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่านและจิบกาแฟไปพลางๆ อย่างอารมณ์ดีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ พิมพลอยก็สวมใส่เสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ รวมทั้งชุดชั้นในที่เธอใส่มันได้พอดีจนแอบสงสัยว่าเขารู้ไซส์ของเธอ ได้ยังไงหญิงสาวเดินออกไปที่ห้องอาหาร เห็นอีกฝ่ายนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปอมยิ้มไปก็อดสงสัยไม่ได้“พี่แพทอ่านข่าวอะไรอยู่หรือคะ” พิมพลอยเอ่ยถามขณะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับชายนหนุ่ม“อ้าว! น้องพิมมาแล้วเหรอคะ! พี่แพทกำลังอ่านข่าวคู่รักคู่หนึ่งอยู่ค่ะ ข่าวบอกว่าผู้หญิงคนนี้โชคดีมากๆ ที่ได้หัวใจของผู้ชายที่หล่อเหลาและแสนจะเพอร์เฟกต์ไปครอง ข่าวยังบอกว่า...ผู้ชายคนนี้หลงรักหญิงสาวหัวปักหัวปำมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุได้ 17 ปีน่ะค่ะ ลองดูรูปไหมคะ พี่แพทว่าน้องพิมอาจจะรู้จักเธอ!” แพททริกสันบอกเสียงจริงจัง พร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ไปให้หญิงสาวดู“จริงหรือคะว้าว!! ชักอยากจะรู้แล้วว่าเธอคนนั้นคือใคร”พิมพลอยยื่นมือไปรับหนังสือพิมพ์มาเปิดดู ก่อนจะ
“น้องพิมนั่งรอพี่ที่ห้องทำงานนะคะ พี่คุยงานที่ห้องประชุมใหญ่สักครู่ เดี๋ยวตามไปค่ะ” ชายหนุ่มกระซิบบอก“พี่แพทไม่ต้องรีบนะคะ น้องพิมรอได้ค่ะ” พิมพลอยบอกก่อนจะเดินตามนีรยาไป หลังจากที่อีกฝ่ายพยักหน้าชวนแพททริกสันมองตามแผ่นหลังบางที่เดินเข้าไปในห้องทำงานของตนจนกระทั่งประตูห้องทำงานปิดลง จึงเดินตามจิมมี่เจมส์กับจอแดนไปยังห้องประชุมใหญ่ เพื่อวางแผนงานให้รัดกุมขึ้นกว่าเดิมห้องทำงานของท่านประธาน...“ว้าว! ห้องทำงานของพี่แพทสวยและดูหรูหราจังเลยนะคะ คุณนีรยา” หญิงสาวเอ่ยด้วยท่าทางตื่นเต้น“คุณแพททริกเป็นคนที่มีสไตล์น่ะค่ะ มีห้องนอนและห้องน้ำด้วยนะคะ ตรงประตูด้านโน้น แต่ต้องใส่รหัสเข้าไปค่ะ คุณพิมจะเข้าไปดูก็ได้นะคะสวยมากเลยค่ะ รหัสคือ Pimploy ค่ะ รหัสนี้ทราบกันไม่กี่คน เอ่อ...ยังไงนีขอตัวก่อนค่ะ ต้องเตรียมเอกสารให้ที่ประชุม เดี๋ยวให้ผู้ช่วยของณีจะยกเครื่องดื่มกับของว่างมาให้ เชิญคุณพิมตามสบายเลยนะคะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็กดหนึ่ง ที่โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของบอส เรียกใช้ผู้ช่วยขอ
ทันทีที่เข้ามาในห้อง มิเชลก็ต้องตกใจที่เห็นสีหน้าบึ้งตึงของบอสใหญ่ที่เธอแอบหลงรักมานาน หันมามองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “เธอเป็นคนยกน้ำส้มมาให้คนรักของฉันใช่ไหม!” แพททริกสัน เอ่ยถาม“เอ่อ...ชะ...ใช่ค่ะ” มิเชลตอบเสียงสั่นๆ เพราะปกติเคยเจอชายหนุ่มแต่ในโหมดเย็นชาและเงียบขรึมซะมากกว่าจะเห็นในมุมที่อารมณ์ร้อนแบบนี้ “เธอใส่อะไรลงไปในน้ำส้ม?” แพททริกสันถามเข้าเรื่องอย่างไม่รีรอ“เอ่อ...เอ่อมิเชลไม่ได้ใส่อะไรลงไปเลยค่ะคุณแพท” มิเชลรู้สึกกลัว ลนลานจนเผลอเรียกประธานใหญ่ว่า คุณแพท ออกไปอย่างไม่ทันได้คิด ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ เพื่อข่มอารมณ์เดือดดาล แต่ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี! เพราะตอนนี้เขารู้สึกเดือดจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว!“ใครใช้ให้เธอเรียกฉันว่าแพท! ผู้หญิงที่เรียกฉันว่าแพทได้มีอยู่สองคนเท่านั้นคือ แม่กับเมีย ซึ่งเธอไม่ใช่ทั้งสองอย่าง!!
แพททริกสันสั่ง Blue Lable พร้อมมิกเซอร์ ส่วนพิมพลอยสั่งเหล้าบ๊วยญี่ปุ่นที่เทเหล้าใส่น้ำแข็งก็พร้อมดื่มได้เลย (เหล้าบ๊วยมีรสชาติหอมหวาน ไม่เหมือนดื่มเหล้า เหมือนดื่มน้ำรสบ๊วยมากกว่า แต่มีทีเด็ดคือถ้ากินลูกบ๊วยที่อยู่ในเหล้าเมื่อไหร่ จะเมาสุดๆ ถึงขั้นเซนิดๆ และอาจเสียการทรงตัว)ยี่สิบนาทีต่อมา...นีรยา จอแดนและจิมมี่เจมส์ก็มาถึง สองหนุ่มดื่ม Blue Lable ตามแพททริกสัน ส่วนนีรยาดื่มเหล้าบ๊วยกับพิมพลอยตามสไตล์ผู้หญิงที่ชอบเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายพนักงานต่างทยอยเสิร์ฟของที่สั่งไปอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ทุกคนดื่มกิน และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แพททริกสันก็เสนอให้เล่าเรื่องตลกๆ ที่แต่ละคนไปเจอมา พร้อมกับวางเดิมพันกันไว้ว่าถ้าเรื่องของใครเด็ดสุดจะได้เงินเดิมพัน!แล้วเรื่องเด็ดสุดที่ทุกคนต่างลงคะแนนให้ก็คือเรื่องของนีรยา ที่เจ้าตัวเล่าว่า...สมัยตอนเป็นเด็กฟันหน้าเธอหลอสามซี่ เป็นเวลาสองปีกว่าฟันใหม่ก็ยังไม่ยอมขึ้น เวลาพูดหรือยิ้มก็จะมีแต่คนหัวเราะเพราะเธอมีแต่ฟันล่างไม่มีฟันบน ตอนงานลอยกระทงนีรยาได้เป็นนางนพมาศ ผู้ใหญ่บ้านสั่งกำชับไม่ให้เธอพูดหรือยิ้มแบบเห็
“ครับ! พอดีพวกเราดื่มสังสรรค์กับคนสนิทตั้งแต่บ่าย นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้วผมอยากกลับไปอาบน้ำแล้วนอนกอดคนรักที่ห้องมากกว่า”แพททริกสันเอ่ยเสียงดังอย่างจงใจ ‘มองอะไรนักหนาวะ! บอกชัดขนาดนี้แล้วยังจะมองอยู่อีกเดี๋ยวพ่อก็ควักลูกตาทิ้งซะ’“บอสครับ คืนนี้ไปนอนที่คฤหาสน์หรือว่าเพนต์เฮาส์ครับ”จิมมี่เจมส์แกล้งเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่เคลียร์ทางกลับเพนต์เฮาส์ไว้ก่อนแล้ว ‘ไอ้หน้าจืดนี่วอนหาที่ตายจริงๆ’“บอกคนของเรา คืนนี้ฉันกับน้องพิมจะกลับไปนอนด้วยกันที่เพนต์เฮาส์” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ย“งั้นเรากลับก่อนนะ ไปค่ะพี่แพท” พิมพลอยรีบเอ่ยลาเพื่อนอีกครั้ง แล้วดึงแขนคนขี้หึงให้ออกมาข้างนอกคลับ กลัวอีกฝ่ายจะเผลอไปต่อยเพื่อนเธอเข้า มาร์กชอบมองหน้าเธอด้วยสายตาแบบนี้ทุกครั้งที่เจอในชั่วโมงเรียน บางครั้งเธอก็จิตตกคิดว่าอีกฝ่ายเป็นโรคจิต แต่มาร์กก็ไม่ได้พูดหรือทำอะไรมากไปกว่าการมองเธอนานๆ เท่านั้น!นีน่ากับมาร์กเดินตามออกมาส่งที่หน้าคลับ ก็เห็นบูกัตติเวย์รอนสีดำเงาป้ายทะเบียน R1111 ของแพททริกสัน หญิงสาวถึงกับอ้า