พนักงานสาวแผนกต้อนรับแอบซุบซิบกันหลังเคาน์เตอร์ หลังจากคนที่เป็นหัวข้อของการสนทนาเพิ่งจะขับรถออกไปได้ไม่นาน
“ตอนแรกนะ ฉันคิดว่าคุณแพททริกจะได้กับยัยลูเซียน่าซะอีก ขานั้นชอบวีนชอบเหวี่ยง แถมเวลามาที่นี่ก็ชอบวางตัวราวกับเจ้าของน่ะแกฉันละเกลียดแม่นี่จริงๆ” นีน่าพนักงานต้อนรับเอ่ยขึ้น
“เมื่อคืนฉันได้ไปช่วยบริการแขกในงานที่คฤหาสน์มา ฉันเห็นนางหน้าแตกกลางงาน แล้วส่งเสียงกรี๊ดจนคุณเจคอปสุดหล่อของฉันทนไม่ไหวต้องยกมือขึ้นปิดหูเลยแก!” เจนนี่ที่ได้ไปช่วยดูแลแขกที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์เมื่อคืน คุยอวดสองสาวที่ไม่ได้ไป
“แหม น้อยๆ หน่อยเถอะหล่อน คุณเจคอปของฉัน ฮ่าๆๆๆ อย่างแกน่ะเดินผ่านสักสิบรอบ คุณเจคอปยังไม่มองเลยย่ะ!” มินนี่ตอกกลับเพื่อนสาวอย่างรู้สึกหมั่นไส้
“โถๆ ทำอย่างกะแกไม่เคยฝันอย่างนั้นแหละมินนี่! ฉันเห็นนะเวลาที่คุณออร์แลนโด้พาสาวๆ มาฟาดที่นี่ แกก็ได้แค่มองเขาเดินผ่านแกไปอย่างไร้ตัวตนทุกครั้ง ฮ่าๆๆ ผู้ชายอะไร! เย็นชาชะมัดเลยอะ!” เจนนี่เอาคืน เพื่อนสาว
“เย็นชาแบบนี้แหละ มินนี่ชอบบบบบ” มินนี่เพ้อต่ออย่างสุขใจ เมื่อนึกไปถึงเจ้าชายน้ำแข็งที่ตนแอบชื่นชอบ
“แหม! ทำงานครับ ทำงาน! ถ้าอยากจะเพ้อจะฝันต่อ ไปฝันที่บ้านนะครับที่นี่ที่ทำงาน หรือว่ามีใครอยากจะกลับไปนอนฝันยาวสักสามเดือนบ้างไหม? เดี๋ยวผมจะได้เซ็นอนุมัติให้เลย!” เดวิดเอ่ยเตือน หลังจากที่ยืนฟังสามสาวมาสักพัก!
“ว้าย!” สามสาวตกใจที่จู่ๆ ผู้จัดการก็โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง จึงรีบพากันสลายตัวอย่างรวดเร็ว!
Rocasander Villa...บูกัตติเวย์รอนสีดำเงาแล่นเข้ามาจอดด้วยความเร็ว แพททริกสันก้าวลงจากรถและเดินตรงไปยังห้องอาหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาถึงก็เจอทุกคนกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ เขารีบส่งยิ้มไปให้สาวเจ้าที่นั่งอยู่ข้างๆ กับมารดา
พิมพลอยหน้าแดงขึ้นมาทันใด ‘พระเจ้า! เธอนอนไม่หลับเลย เอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดซ้ำไปซ้ำมา ทุกอย่างช่างดูราวกับความฝัน และคนที่ตอกย้ำว่าความฝันนั้นเป็นจริง! ก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้วตอนนี้!’
“สวัสดีครับพ่อ แม่ สวัสดีจ้ะน้องพิม!” แพททริกสันเอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่กำลังจะเข้านั่งข้างๆ กับสาวเจ้า พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นน้องชายเดินผิวปากลงบันไดมาอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามคนที่เดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะด้วยสีหน้าตึงๆ
“ทำไมนายยังอยู่ที่นี่! เมื่อคืนไม่ได้กลับไปนอนที่เพนต์เฮาส์เหรอเจค?”
“พอดีผมไม่มีรถกลับน่ะป๋า จะขอยืมของพ่อไปใช้ก็เกรงใจมันไม่เหมือนใช้รถของตัวเองน่ะ ว่าไหมครับ!” เจคอปส่งยิ้มยียวนไปให้พี่ชายที่ทำหน้าบูดบึ้ง มะลิฉัตรหัวเราะเบาๆ อย่างเข้าใจความรู้สึกของบุตรชายคนโต เพราะตนเป็นคนสั่งห้ามไม่ให้เจ้าตัวนอนที่คฤหาสน์ จนกว่าจะได้แต่งงานกับพิมพลอยซะก่อน
แพททริกสันโอดครวญกว่าจะยอมกลับก็เกือบตีสามทำให้จิมมี่เจมส์ที่นั่งรออยู่ตรงม้านั่งด้านหน้าคฤหาสน์ถึงกับสัปหงกเป็นพักๆ จนเธอต้องเอ่ยปากไล่ให้บุตรชายกลับไปนอนที่เพนต์เฮาส์! ไม่อย่างนั้นเช้านี้คงได้เห็น จิมมี่เจมส์นอนอยู่ตรงม้านั่งแน่ๆ
“รถนายมีตั้งหลายคันไม่ใช่เหรอ? ก็เอามาใช้สักคันสิ! แม่ครับ เมื่อคืนทำไมแพทนอนที่นี่ไม่ได้ แต่เจคนอนได้ แบบนี้แพทไม่ยอมจริงๆ ด้วย” ชายหนุ่มหันไปตัดพ้อต่อว่าผู้เป็นมารดาด้วยสีหน้าบึ้งตึงทันใด
“แหมๆ ป๋านี่ยังไม่ทันแก่ก็ขี้น้อยใจแล้วเหรอ อ๊ะ! หรือว่า...ใกล้จะแก่แล้วล่ะ หืม!” เจคอปหยอกพี่ชายต่ออย่างนึกสนุก
“เจคถ้านายพูดคำว่าแก่อีกคำเดียว ได้กินยำโปรตีนแต่เช้าแน่ อ้อ! ส่วนรถนายเอาคืนไปเลยฉันยกให้ แล้วไม่ต้องมานอนที่นี่อีก จนกว่าฉันกับน้องพิมจะแต่งงานกันเข้าใจไหม!” แพททริกสันบอกเสียงห้วนๆ พร้อมกับโยนกุญแจรถให้น้องชายอย่างเซ็งๆ
“งั้นผมกลับก่อนนะครับพ่อ แม่ พี่ไปก่อนนะสาวน้อย” เจคอปรีบคว้ากุญแจอรถ พลางยิ้มกว้างอย่างสมใจที่ได้รถคืน จากนั้นก็รีบโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มน้องสาวบุญธรรม แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เจค!” แพททริกสันลุกขึ้นตะโกนตามหลังน้องชายตัวแสบอย่างโมโห ‘ไอ้น้องเวรนี่มันกวนจริงๆ เลยให้ตายสิ นี่ถ้าเราไม่ยอมยกรถคืนให้ สงสัยว่ามันต้องมานอนที่นี่ยาวแน่ๆ’ ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้หญิงสาว แล้วรับประทานอาหารเช้าร่วมกับครอบครัว ท่ามกลางรอยยิ้มของเลโอนาดท์และมะลิฉัตร ที่แอบขำกับอาการหึงหวงของบุตรชายคนโต
พอทานอาหารเสร็จ แพททริกสันก็ขออนุญาตพาสาวเจ้าออกไปเที่ยวข้างนอก ตามประสาชายวัยสามสิบห้าที่กำลังอินเลิฟ มะลิฉัตรอนุญาตแต่ก็กำชับให้พาพิมพลอยกลับก่อนสี่ทุ่ม ชายหนุ่มอ้าปากค้างราวกับไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อถูกกำหนดขอบเขตเหมือนเด็กวัยรุ่น ที่ห้ามกลับเข้าบ้านหลังสี่ทุ่ม!
หญิงสาวอมยิ้มขณะที่นั่งบูกัตติมากับอีกฝ่ายครั้งแรก เธอรู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูกกับสายตาที่หันมามองเธอเป็นระยะๆ
“พี่แพท จะพาน้องพิมไปไหนเหรอคะวันนี้?”
“น้องพิมอยากไปไหนล่ะคะ” เขาหันมาเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
“น้องพิมอยากจะไปดูหนังเรื่อง The Avengers 2 ที่เพิ่งเข้าโรงน่ะค่ะ พี่แพทอยากดูไหมคะ?” พิมพลอยถามยิ้มๆ
“น่าสนุกนะคะ แต่พี่แพทว่า...ฟิฟตี้เชดส์ ออฟ เกรย์ (Fifty Shades Fo Grey) ก็น่าสนใจนะ” แพททริกสันเสนอ
“เอ่อ...น้องพิมว่าอเวนเจอร์ดีกว่าค่ะ” เธอรีบบอกอย่างอายๆ ‘บ้าจริง! ใครจะไปกล้าดูหนังรักอีโรติกกับเขากันล่ะ!’
“โอเคค่ะ อเวนเจอร์ก็อเวนเจอร์ พี่แพทตามใจน้องพิมค่ะ แต่ถ้ามีแผ่นออกเมื่อไหร่ พี่แพทจะซื้อเอาไว้ดูกับน้องพิมในห้องนอนของเราด้วยกันสองต่อสองนะคะ” แพททริกสันยังไม่ยอมละความพยายามที่จะดูหนังรัก อีโรติกกับสาวเจ้าให้ได้
“ไม่ดูค่ะ! แล้วก็เลิกมองน้องพิมแบบนี้ซะที!” พิมพลอยตกใจที่อีกฝ่ายหันมามองเธอด้วยสายตาหื่นๆ ‘พระเจ้า! เธอชักจะเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วสิ’
“กลัวอะไรคะ น้องพิม!” แพททริกสันแสร้งเอ่ยถาม ‘โถๆ แม่กวางน้อยของเขา สั่นใหญ่เลย หึๆ!’
“ก็กลัวที่พี่แพททำท่าทางหื่นๆ น่ะสิคะ” พิมพลอยบอกน้ำเสียงจริงจัง พลางส่งค้อนให้คนที่ยังไม่หยุดส่งสายตาแพรวพราวมาให้
“ฮ่าๆๆ ก็แฟนพี่น่ามองนี่คะ แล้วพี่ก็อยากจะทำอะไรๆ กับน้องพิมมานานแล้ว ก็เลยเก็บท่าทางไม่ค่อยอยู่ แต่ช่างเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวน้องพิมก็ชินเอง เพราะหลังจากนี้...รับรองได้เห็นทุกวันแน่ๆ ค่ะ” แพททริกสันยอมรับอย่างหน้าด้านๆ ในความหื่นที่เก็บกดเอาไว้มานาน ‘ให้ตาย! เธอไม่รู้หรอกว่ามันอึดอัดและทรมานขนาดไหน!’
“พี่แพท! น้องพิมจะไม่คุยด้วยแล้วนะ” พิมพลอยคิดในใจอย่างหวั่นๆ พร้อมกับจินตนาการไปถึงฉากวาบหวิวในหนังรักอีโรติก ฟิฟตี้เชดส์ที่ไปดูกับเพื่อนสาวเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ไม่กล้าบอกให้อีกฝ่ายรู้ เพราะกลัวว่าเขาจะปล่อยความหื่นออกมาเยอะกว่าเดิม
The Diamond R…แพททริกสันอมยิ้มและลอบมองหญิงสาวเป็นพักๆ จนกระทั่งมาถึงห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ในเครือของโรคาซานเดอร์ที่ตนดูแลอยู่
เหล่าพนักงานต่างพากันหันมองอย่างสนใจ ที่เห็นประธานใหญ่แต่งตัวสบายๆ เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ และรองเท้าหนังสีน้ำตาล ซึ่งแทบจะไม่มีใครเคยเห็นมุมนี้มาก่อน แถมสาวน้อยที่เดินมาด้วยข้างๆ กายนั้น เป็นคนเดียวกับที่อยู่ในข่าวหน้าหนึ่งของวันนี้
“น้องพิมจะหาอะไรทานก่อนไหมคะ หรือว่าจะดูหนังเลย”
“เพิ่งทานข้าวมา น้องพิมว่าดูหนังเลยก็ได้ค่ะ” พิมพลอยตอบ เสียงเบา
“จัดให้ตามคำขอครับเจ้าหญิงของพี่” ชายหนุ่มบอก พร้อมกับยิ้มกว้างให้หญิงสาว
‘โอ๊ย! นี่พี่แพทจะขยันหว่านเสน่ห์เธอทุกห้านาทีเลยเหรอ ไม่รู้หรือไงนะว่าแค่นี้เธอก็ไปไหนไม่รอดอยู่แล้ว’ พิมพลอยใบหน้าร้อนผ่าวกับคำพูดที่หวานปนเลี่ยนของอีกฝ่าย ที่ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริงๆ
ทั้งสองเดินเข้าไปในโรงหนัง VIP ซึ่งที่นั่งออกแบบมาเหมือนเตียงนอน มีทั้งหมอนและผ้าห่ม บรรยากาศราวกับห้องนอนส่วนตัวไม่มีผิด
พิมพลอยมองห้องวีไอพีที่ไม่เคยได้เข้ามาใช้บริการเลยสักครั้งอย่างทึ่งๆ ‘นี่กะจะให้ได้กันในนี้เลยเหรอเนี่ย? พระเจ้า! ทั้งโรงมีแค่เธอกับเขาเท่านั้น! แถมแอร์ก็เย็นอย่างกับอยู่ขั้วโลกเหนืออีก’ หญิงสาวหันไปมองหน้าคนที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ อย่างหวาดระแวง
หลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นไปนั่งพิงบนเตียงได้ครู่หนึ่ง พนักงานก็ยก ป็อบคอร์น ยี่ห้อ Garrett Popcorn ที่มีทั้งอัลมอนด์ แมคคาเดเมียคลุกกับคาราเมล (Almond Macadamia CaramelCrisp) พร้อมเครื่องดื่มเข้ามาเสิร์ฟ
พอหนังเริ่มฉายไปได้สักพัก แพททริกสันก็หันไปมองอาการที่สั่นเป็นเจ้าเข้าของสาวข้างกายอย่างขำๆ
“หนาวไหมคะ น้องพิม” ชายหนุ่มกระซิบถามที่ข้างหูเบาๆ ทำเอาคนที่กำลังหวาดระแวงถึงกับสะดุ้งนิดๆ อย่างตกใจ
“มะ...ไม่ค่อยหนาว ทะ...เท่าไหร่ค่ะ” เธอตอบเสียงสั่นๆ
“เหรอคะ แต่ทำไมพี่แพทถึงหนาวมากก็ไม่รู้สิ!”
แพททริกสันบอกพลางยกคนตัวเล็กมานั่งบนตักของตัวเอง จากนั้นก็ดึงผ้ามาห่มให้ แล้วใช้แขนสองข้างโอบกอดเธอเอาไว้อย่างถือโอกาส พิมพลอยดิ้นขัดขืนในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอมให้อีกฝ่ายกอดแต่โดย
สามชั่วโมงต่อมา...“น้องพิมคะ! น้องพิม! หนังจบแล้วค่ะ” แพททริกสันเรียกคนที่หลับสนิทไปตั้งแต่สามสิบนาทีแรก จนกระทั่งหนังจบแล้วสาวเจ้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เขานอนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับตาพริ้มในอ้อมแขน มันทำให้ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นตั้งแต่ที่ขาเรียวสวยยกขึ้นมาพาดบนขาของเขาจนกระทั่งตอนนี้บางอย่างของเขาก็ยังไม่ยอมสงบ! ไม่ว่าหนังที่ดูจะบู๊ดุเดือดแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงสายตาของเขาไปจากใบหน้าเธอได้เลย เขาจำต้องรีบปลุกเธอก่อนที่เขาจะระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองไม่ไหว!“น้องพิมขอโทษค่ะ” คนที่เพิ่งตื่นอายจนหน้าแดง“ไม่เป็นไรค่ะน้องพิมจะนอนต่อไหมคะ พี่แพทจะได้นอนเป็นเพื่อนค่ะ” แพททริกสันบอกพลางส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้หญิงสาว“เอ่อ...ไม่แล้วค่ะ น้องพิมขอไปห้องน้ำก่อน พี่แพทรอน้องพิมที่หน้าโรงหนังนะคะ” เธอรีบลุกเดินออกไปยังห้องน้ำข้างนอก เพื่อเช็กความเรียบร้อยของตัวเองอย่างอายๆ“ได้ครับ เจ้าหญิงของพี่” แพททริกสัขำเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของสาวเจ้า
ครึ่งชั่วโมงต่อมา... แพททริกสันก็ออกมานั่งรอที่โต๊ะอาหารด้านนอก หยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่านและจิบกาแฟไปพลางๆ อย่างอารมณ์ดีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ พิมพลอยก็สวมใส่เสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ รวมทั้งชุดชั้นในที่เธอใส่มันได้พอดีจนแอบสงสัยว่าเขารู้ไซส์ของเธอ ได้ยังไงหญิงสาวเดินออกไปที่ห้องอาหาร เห็นอีกฝ่ายนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปอมยิ้มไปก็อดสงสัยไม่ได้“พี่แพทอ่านข่าวอะไรอยู่หรือคะ” พิมพลอยเอ่ยถามขณะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับชายนหนุ่ม“อ้าว! น้องพิมมาแล้วเหรอคะ! พี่แพทกำลังอ่านข่าวคู่รักคู่หนึ่งอยู่ค่ะ ข่าวบอกว่าผู้หญิงคนนี้โชคดีมากๆ ที่ได้หัวใจของผู้ชายที่หล่อเหลาและแสนจะเพอร์เฟกต์ไปครอง ข่าวยังบอกว่า...ผู้ชายคนนี้หลงรักหญิงสาวหัวปักหัวปำมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุได้ 17 ปีน่ะค่ะ ลองดูรูปไหมคะ พี่แพทว่าน้องพิมอาจจะรู้จักเธอ!” แพททริกสันบอกเสียงจริงจัง พร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ไปให้หญิงสาวดู“จริงหรือคะว้าว!! ชักอยากจะรู้แล้วว่าเธอคนนั้นคือใคร”พิมพลอยยื่นมือไปรับหนังสือพิมพ์มาเปิดดู ก่อนจะ
“น้องพิมนั่งรอพี่ที่ห้องทำงานนะคะ พี่คุยงานที่ห้องประชุมใหญ่สักครู่ เดี๋ยวตามไปค่ะ” ชายหนุ่มกระซิบบอก“พี่แพทไม่ต้องรีบนะคะ น้องพิมรอได้ค่ะ” พิมพลอยบอกก่อนจะเดินตามนีรยาไป หลังจากที่อีกฝ่ายพยักหน้าชวนแพททริกสันมองตามแผ่นหลังบางที่เดินเข้าไปในห้องทำงานของตนจนกระทั่งประตูห้องทำงานปิดลง จึงเดินตามจิมมี่เจมส์กับจอแดนไปยังห้องประชุมใหญ่ เพื่อวางแผนงานให้รัดกุมขึ้นกว่าเดิมห้องทำงานของท่านประธาน...“ว้าว! ห้องทำงานของพี่แพทสวยและดูหรูหราจังเลยนะคะ คุณนีรยา” หญิงสาวเอ่ยด้วยท่าทางตื่นเต้น“คุณแพททริกเป็นคนที่มีสไตล์น่ะค่ะ มีห้องนอนและห้องน้ำด้วยนะคะ ตรงประตูด้านโน้น แต่ต้องใส่รหัสเข้าไปค่ะ คุณพิมจะเข้าไปดูก็ได้นะคะสวยมากเลยค่ะ รหัสคือ Pimploy ค่ะ รหัสนี้ทราบกันไม่กี่คน เอ่อ...ยังไงนีขอตัวก่อนค่ะ ต้องเตรียมเอกสารให้ที่ประชุม เดี๋ยวให้ผู้ช่วยของณีจะยกเครื่องดื่มกับของว่างมาให้ เชิญคุณพิมตามสบายเลยนะคะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็กดหนึ่ง ที่โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของบอส เรียกใช้ผู้ช่วยขอ
ทันทีที่เข้ามาในห้อง มิเชลก็ต้องตกใจที่เห็นสีหน้าบึ้งตึงของบอสใหญ่ที่เธอแอบหลงรักมานาน หันมามองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “เธอเป็นคนยกน้ำส้มมาให้คนรักของฉันใช่ไหม!” แพททริกสัน เอ่ยถาม“เอ่อ...ชะ...ใช่ค่ะ” มิเชลตอบเสียงสั่นๆ เพราะปกติเคยเจอชายหนุ่มแต่ในโหมดเย็นชาและเงียบขรึมซะมากกว่าจะเห็นในมุมที่อารมณ์ร้อนแบบนี้ “เธอใส่อะไรลงไปในน้ำส้ม?” แพททริกสันถามเข้าเรื่องอย่างไม่รีรอ“เอ่อ...เอ่อมิเชลไม่ได้ใส่อะไรลงไปเลยค่ะคุณแพท” มิเชลรู้สึกกลัว ลนลานจนเผลอเรียกประธานใหญ่ว่า คุณแพท ออกไปอย่างไม่ทันได้คิด ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ เพื่อข่มอารมณ์เดือดดาล แต่ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี! เพราะตอนนี้เขารู้สึกเดือดจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว!“ใครใช้ให้เธอเรียกฉันว่าแพท! ผู้หญิงที่เรียกฉันว่าแพทได้มีอยู่สองคนเท่านั้นคือ แม่กับเมีย ซึ่งเธอไม่ใช่ทั้งสองอย่าง!!
แพททริกสันสั่ง Blue Lable พร้อมมิกเซอร์ ส่วนพิมพลอยสั่งเหล้าบ๊วยญี่ปุ่นที่เทเหล้าใส่น้ำแข็งก็พร้อมดื่มได้เลย (เหล้าบ๊วยมีรสชาติหอมหวาน ไม่เหมือนดื่มเหล้า เหมือนดื่มน้ำรสบ๊วยมากกว่า แต่มีทีเด็ดคือถ้ากินลูกบ๊วยที่อยู่ในเหล้าเมื่อไหร่ จะเมาสุดๆ ถึงขั้นเซนิดๆ และอาจเสียการทรงตัว)ยี่สิบนาทีต่อมา...นีรยา จอแดนและจิมมี่เจมส์ก็มาถึง สองหนุ่มดื่ม Blue Lable ตามแพททริกสัน ส่วนนีรยาดื่มเหล้าบ๊วยกับพิมพลอยตามสไตล์ผู้หญิงที่ชอบเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายพนักงานต่างทยอยเสิร์ฟของที่สั่งไปอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ทุกคนดื่มกิน และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แพททริกสันก็เสนอให้เล่าเรื่องตลกๆ ที่แต่ละคนไปเจอมา พร้อมกับวางเดิมพันกันไว้ว่าถ้าเรื่องของใครเด็ดสุดจะได้เงินเดิมพัน!แล้วเรื่องเด็ดสุดที่ทุกคนต่างลงคะแนนให้ก็คือเรื่องของนีรยา ที่เจ้าตัวเล่าว่า...สมัยตอนเป็นเด็กฟันหน้าเธอหลอสามซี่ เป็นเวลาสองปีกว่าฟันใหม่ก็ยังไม่ยอมขึ้น เวลาพูดหรือยิ้มก็จะมีแต่คนหัวเราะเพราะเธอมีแต่ฟันล่างไม่มีฟันบน ตอนงานลอยกระทงนีรยาได้เป็นนางนพมาศ ผู้ใหญ่บ้านสั่งกำชับไม่ให้เธอพูดหรือยิ้มแบบเห็
“ครับ! พอดีพวกเราดื่มสังสรรค์กับคนสนิทตั้งแต่บ่าย นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้วผมอยากกลับไปอาบน้ำแล้วนอนกอดคนรักที่ห้องมากกว่า”แพททริกสันเอ่ยเสียงดังอย่างจงใจ ‘มองอะไรนักหนาวะ! บอกชัดขนาดนี้แล้วยังจะมองอยู่อีกเดี๋ยวพ่อก็ควักลูกตาทิ้งซะ’“บอสครับ คืนนี้ไปนอนที่คฤหาสน์หรือว่าเพนต์เฮาส์ครับ”จิมมี่เจมส์แกล้งเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่เคลียร์ทางกลับเพนต์เฮาส์ไว้ก่อนแล้ว ‘ไอ้หน้าจืดนี่วอนหาที่ตายจริงๆ’“บอกคนของเรา คืนนี้ฉันกับน้องพิมจะกลับไปนอนด้วยกันที่เพนต์เฮาส์” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ย“งั้นเรากลับก่อนนะ ไปค่ะพี่แพท” พิมพลอยรีบเอ่ยลาเพื่อนอีกครั้ง แล้วดึงแขนคนขี้หึงให้ออกมาข้างนอกคลับ กลัวอีกฝ่ายจะเผลอไปต่อยเพื่อนเธอเข้า มาร์กชอบมองหน้าเธอด้วยสายตาแบบนี้ทุกครั้งที่เจอในชั่วโมงเรียน บางครั้งเธอก็จิตตกคิดว่าอีกฝ่ายเป็นโรคจิต แต่มาร์กก็ไม่ได้พูดหรือทำอะไรมากไปกว่าการมองเธอนานๆ เท่านั้น!นีน่ากับมาร์กเดินตามออกมาส่งที่หน้าคลับ ก็เห็นบูกัตติเวย์รอนสีดำเงาป้ายทะเบียน R1111 ของแพททริกสัน หญิงสาวถึงกับอ้า
พิมพลอยที่หาเสื้อผ้าใส่เรียบร้อยแล้ว เดินออกมาจากห้อง แต่งตัวอย่างกล้าๆ กลัวๆ ใช่ เธอมีเรื่องต้องคุยกับพี่แพท เธอรู้ว่ารอยช้ำเป็นจ้ำๆ ที่หน้าอกและอีกหลายๆ ที่ มันคือรอยคิสมาร์ก! เพราะเธอเคยเห็นนีน่าหรือลิซ่าก็มีหลังจากที่ไปออกเดต แต่ของเธอมีทั้งที่หน้าอกและตามตัวอีกหลายแห่งหรือว่าเมื่อคืนเขาจะทำอะไรเธอ? เธอคิดทบทวนในใจ จนกระทั่งเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ก็เห็นรอยเลือดที่หยดเป็นทางพิมพลอยหัวใจกระตุกวูบขึ้นมาทันใด ‘พี่แพทจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ?’ เธอรู้สึกใจสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงเดินตามไปอีกห้องที่ประตูเป็นชั้นวางหนังสือเปิดทิ้งเอาไว้เธอเดินตามรอยเลือดเข้าไปจนถึงห้องน้ำ ก็เห็นชายหนุ่มนอนหลับตาแช่ในอ่างที่มีฟองสบู่ลอยอยู่เต็ม“พี่แพทคะ พี่แพทเป็นอะไรหรือเปล่า น้องพิมเห็นรอยเลือดหยดเป็นทางเลย” ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไร พิมพลอยจึงรีบเอ่ยถามออกไปแพททริกสันลืมตาขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำอย่างอึ้งๆ ‘พระเจ้า! สาบานได้ว่าตอนนี้เขาสงบแล้วแต่พอเห็นหน้าเธอปุ๊บภาพเปลือยเปล่า
“ฮ่าๆๆๆ” มือขวาคนสนิทหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่กับคำพูดของผู้เป็นนายที่กล่าวถึงเพื่อนรักจนแทบจะหาดีไม่ได้!‘นี่บอสเขาไม่รู้ตัวเหรอว่า ตัวเองน่ะเคยเป็นยังไงมาก่อน!’“ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีงานต้องทำต่อ ไปก่อนนะครับบอส คุณพิมหมึกไข่นึ่งมะนาวกับต้มยำกุ้งอร่อยมากครับ” มือขวาคนสนิทที่อิ่มแล้วรีบขอตัว ก่อนที่จะได้กินยำโปรตีนของเจ้านายต่อจากกินข้าว ชายหนุ่มรีบเดินไปหอบแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ เข้าไปไว้ในห้องทำงาน ทิ้งให้ ผู้เป็นนายบรรยายสรรพคุณเพื่อนรักต่อ“พี่แพทก็! คิดอะไรก็ไม่รู้ น้องพิมรักพี่แพทแค่คนเดียวค่ะ ห้ามคิดแบบนี้อีกนะคะ”หญิงสาวบอกเสร็จก็ขยับไปหอมแก้มของอีกฝ่ายเพื่อย้ำให้มั่นใจ!“จริงนะคะ” แพททริกสันยิ้มก่อนจะถามย้ำอีกครั้ง“จริงค่ะ แต่น้องพิมมีเรื่องจะถามพี่แพท” พิมพลอยมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคือง เมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอเกือบลืมไปขึ้นมาได้“ถามอะไรคะ?” ชายหนุ่มรู้สึกเสียววูบกับสายตาที่มองมา“พี่แพททำอะไรตอนที่น้