สิ้นคำกล่าวสั้นๆ ของมาดามแจสมิน ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงาน ในขณะที่ลูเซียน่ากำลังจะแหกปากส่งเสียงกรี๊ด แต่ก็ถูกฮาร์ดี้ มือขวาคนสนิทของลูเซียสเอามือปิดปาก แล้วถูกอุ้มออกจากงานไปที่รถ ที่มีลูเซียสนั่งรออยู่ก่อน ท่ามกลางสายตาหลายๆ คู่ที่หันไปมองกันอย่างสนใจ
แพททริกสันยิ้มแก้มแทบปริกับคำประกาศของมารดา ในที่สุดสิ่งที่เขาเฝ้ารอคอยก็มาถึงซะที ต้องขอบคุณมารดาของเขา สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ มันคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ แม้เขาจะแอบท้วงในใจว่าสามเดือนมันนานเกินไปก็ตาม
พิมพลอยยืนตัวแข็งทื่อ อึ้งแล้วอึ้งอีกกับหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างจนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน ‘พระเจ้า! วันนี้มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งวัน แถมเป็นเซอร์ไพรส์ต่อๆ กัน จนเธอแทบไม่มีเวลาจะหายใจเลย’
เจคอปกับออร์แลนโด้ผิวปากแซว พร้อมกับยกนิ้วให้มารดาที่ชัดเจนและเด็ดขาด มิน่า! บิดาของพวกเขาถึงได้ไม่กล้าหือ!
มะลิฉัตรส่งไมค์ต่อให้แพททริกสัน ที่ยืนยิ้มจนเหงือกแทบแห้งก็ยังไม่ยอมหุบยิ้มสักที เธอสะกิดเตือนบุตรสาวบุญธรรมที่เหมือนวิญญาณ จะออกจากร่างไปชั่วขณะ โถๆ แม่คุณ คงจะช็อกละสิ
“สวัสดีครับทุกๆ ท่าน ที่ผ่านมาผมไม่ได้ออกมาบอกใคร หรือประกาศว่าดูใจอยู่กับน้องพิม เพราะเธอกำลังเรียนอยู่ครับ เลยทำให้ใครต่อใครเข้าใจผิดไปต่างๆ นานา ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ผมยุ่งอยู่กับธุรกิจต่างๆ จนแทบไม่มีเวลาว่าง ก็ขอถือโอกาสนี้...เคลียร์ให้ทราบโดยทั่วกันครับว่าผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจผมมาหลายปี และเป็นคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วยคือพิมพลอย อัครเหมษ์ คนนี้ครับ”แพททริกสันกล่าวจบก็มีเสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือจากแขกในงานดังขึ้น
พิมพลอยถึงกับน้ำตาคลอกับความชัดเจนและจริงใจของเขา มันทำให้เธอหัวใจพองคับอกไปหมด เธอรู้สึกเหมือนกับว่า...ตัวเองคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ได้รักกับคนที่เธอแอบหลงรักมานาน
มะลิฉัตรยิ้มกว้างให้กับแขกในงานก่อนขอตัวลงจากเวทีด้านแพททริกสันก็เดินไปหานักร้องสาว ที่ยืนตัวแข็งตาค้างเพราะกำลังโดนมนตร์สะกดของเทพบุตรสุดหล่อเข้าอีกครั้ง
“ร้องเพลง A thousand years ได้ไหม?”
“ดะ... ได้ค่ะได้” นักร้องสาวบอกเสียงสั่น
“ดีเลย งั้นช่วยร้องเพลงนี้ให้หน่อยครับ” แพททริกสันบอกเสร็จก็เดินลงเวทีตามสองสาวไป
บีเชี่ยนยืนนิ่งอยู่กับที่ เหมือนคนโดนสาปให้กลายเป็นหิน ไม่ยอมกลับมาทำหน้าที่ร้องนำต่อ จนเพื่อนในวงต้องวิ่งเข้ามาสะกิด นักร้องสาวจึงได้สติ จากนั้น... เสียงดนตรีเพลง A thousand years ก็เริ่มบรรเลงขึ้น
แพททริกสันขอพิมพลอยเต้นรำ หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะส่งมือให้ชายหนุ่มด้วยหัวใจที่เต้นแรง
หญิงสาวที่น่าทะนุถนอม อยู่ในอ้อมแขนของบุรุษที่สมบูรณ์แบบ ทั้งคู่เต้นรำด้วยท่วงท่าอ่อนโยน สง่างาม ท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างชื่นชมแกมอิจฉาของสาวๆ ที่หันมามองกันเป็นระยะๆ
Reveryong Villa…
ลูเซียสกลับก่อนโดยไม่ได้กล่าวลาเจ้าของงาน เพราะทั้งโกรธและอายที่บุตรสาวคนเดียวขยันทำเรื่องโง่ๆ ไร้สมอง จนทำให้ตนต้องขายหน้าอยู่ตลอดเวลา ‘หึ! พรุ่งนี้คงจะมีเรื่องให้เมาท์กันสนุกปากในวงสังคมกันอีกนานแต่ก็นั่นแหละ จะไปโทษใครได้! ก็ลูกสาวของเขามันเกินคำบรรยายจริงๆ’
“กรี๊ดดดด ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า! ปล่อยยยย” คนที่ถูกอุ้มเข้ามาในคฤหาสน์กรีดร้องอย่างเจ็บใจ!
“พอได้แล้วซีน่า วันนี้แกทำเกินไปนะ! ฉันละเอือมระอากับการกระทำของแกจริงๆ แกรู้ไหมว่าพรุ่งนี้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะลงข่าวเรื่องงานวันนี้ว่ายังไงฮะ! มีสมองก็หัดใช้ซะมั่งสิ ไม่ใช่ดีแต่แต่งตัวสวยไปวันๆ!” ลูเซียสหันไปตะคอกใส่บุตรสาวที่ทั้งร้องไห้และส่งเสียงโวยวายไม่หยุดหย่อน!
“ก็ซีน่ารักพี่แพททริกนี่คะ คุณพ่อไม่เห็นเหรอ นังนั่นมันมีอะไรดีมันมีอะไรที่ซีน่าไม่มี ซีน่าเหนือกว่ามันทุกๆ อย่าง ฮือๆๆ ซีน่าเจ็บไปหมดเลย ทำไมไม่ใช่ซีน่าล่ะ ทำไมพี่แพททริกทำแบบนี้ ฮือๆๆ... ทำไม!” หญิงสาวโอดครวญที่ถูกหักหน้ากลางงาน
‘เธอหลงรักเขามากี่ปีแล้ว ทำไมเขาถึงไม่รักเธอบ้างเลยล่ะ นังนั่นมันเป็นใคร มันก็แค่เด็กที่คุณมะลิฉัตรเก็บมาเลี้ยง แล้วเธอล่ะเป็นใคร? เธอเป็นถึงลูกสาวของเพื่อนรักของบิดาเขา! ทั้งฐานะ ทั้งเงินทอง เธอคือผู้หญิงที่เหมาะสมจะยืนอยู่ข้างๆ เขา ไม่ใช่นังเด็กกาฝากคนนั้น!’
“แกก็รู้มาตลอดเวลาว่าแพททริกเขาไม่ได้รักแก แต่แกเองต่างหากที่หลอกตัวเอง แถมยังไปให้สัมภาษณ์บ้าๆ นั่นอีก เชื่อเถอะซีน่า ตอนนี้ยังไม่สาย ตัดใจซะ! จะได้ไม่เจ็บไปกว่านี้!” ลูเซียสเอ่ยเตือนบุตรสาว ที่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับความจริงใดๆ ไม่ว่าจะบอกกี่ครั้ง เตือนกี่ครั้ง ก็ยังรั้นจะตามตอแยอีกฝ่าย จนตนต้องพูดตรงๆ แรงๆ ออกไปเผื่อบุตรสาวจะได้สติขึ้นมาบ้าง
“ไม่!! ซีน่าจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด พี่แพททริกจะต้องเป็นของ ซีน่าคนเดียวเท่านั้น!!” ลูเซียน่าตะโกนตอบเสียงดัง ก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดไปห้องนอนของตัวเอง
ลูเซียสกุมหน้าอกตัวเองแล้วค่อยๆ นั่งลงกับพื้น เพราะรู้สึกเจ็บแปลบๆ ตรงหน้าอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!
“ท่านครับ! เป็นอะไรหรือเปล่า ท่านลุกไหวไหมครับ”
“ฮาร์ดี้!” ลูเซียสเอ่ยเรียกมือขวาของตน
“ครับท่าน!” ฮาร์ดี้เข้ามาช่วยพยุงผู้เป็นนายให้ลุกขึ้น
“ขอบใจมากฮาร์ดี้ ช่วยพาฉันไปนั่งที่ระเบียงด้านนอกได้ไหม ฉันอยากสูดอากาศข้างนอก”
“ครับท่าน” ฮาร์ดี้รีบตามที่ผู้เป็นนายต้องการ
ด้านลูเซียน่าที่เข้าไปในห้องนอนก็ร้องไห้ ตัดพ้อต่อว่าคนที่ตนหลงรักมานาน แต่อีกฝ่ายกลับไปรักผู้หญิงอีกคน เธอมั่นใจมาตลอดว่าจะต้องได้เป็นเจ้าสาวของเขา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็พังลงต่อหน้าต่อตา...เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าชีวิตจะต้องมีวันนี้ วันที่แพททริกสันกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนที่ไม่ใช่เธอ!
“ถ้าไม่มีแกสักคน! พี่แพททริกจะต้องขอฉันแต่งงาน ฉันจะต้องเป็นเจ้าสาวที่ใครๆ ต่างก็อิจฉา ฮือๆๆๆ ฉันเกลียดแกอีพิม ฮือๆๆ ฉันเกลียดแก!”
เช้าวันต่อมา...
พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างลงข่าวผู้ชายที่ติดอันดับ Top 10 ประกาศสละโสด ทำให้ใครๆ ต่างก็ให้ความสนใจ ข่าวนี้เป็นอย่างมาก
{คาสโนวาตระกูลดัง แพททริกสัน โรคาซานเดอร์ ประกาศลั่นกลางงานวันเกิดของมารดา ว่าเตรียมตัวสละโสดในอีกสามเดือนข้างหน้าอย่างแน่นอน พร้อมเปิดตัวแฟนสาวอย่างเป็นทางการพิมพลอย อัครเหมษ์สาวน้อยเชื้อสายไทย ที่หน้าตาสะสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ เธอคือบุตรสาวบุญธรรมที่เลโอนาดท์และมาดามแจสมินรับมาอุปการะ
กลายเป็นข่าวอภิมหาเซอร์ไพรส์แห่งปีไปเลยก็ว่าได้ครับ แหม! น่าตื่นเต้นจริงๆ ปล. สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารครับท่าน เจมส์ ลอยท์รายงาน}
Rocasander Grand Hotel...
แพททริกสันรีบตื่นนอนแต่เช้ามาสั่งงาน พร้อมกับมอบหมายหน้าที่ให้จิมมี่เจมส์ดูแลงานทุกอย่างแทน เพราะวันนี้ตนจะพาพิมพลอยไปออกเดต!
ขณะที่ชายหนุ่มเดินผ่านพนักงานทุกคนต่างรีบพากันทำความเคารพอย่างมึนงง ที่เห็นบอสใหญ่เดินยิ้มมาแต่ไกลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อรุณสวัสดิ์ครับบอส ยินดีด้วยนะครับ” เดวิดผู้จัดการโรงแรมรีบเอ่ยแสดงความยินดี
“ขอบใจเดวิด ถ้างานมีปัญหาอะไรก็บอกเจเจได้เลยนะ ตอนนี้เขาจะรักษาการแทนฉันระยะหนึ่ง ไปละ ฉันรีบ!!” แพททริกสันเอ่ยก่อนจะเดินไปยัง บูกัตติ เวย์รอน สีดำเงา ที่พนักงานนำมาจอดรออยู่ด้านหน้าของโรงแรมอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็ว ท่ามกลางสายตาของพนักงานและแขกที่เข้าพัก ซึ่งพากันหันมองทั้งคนทั้งรถอย่างอิจฉาในความสมบูรณ์แบบของคาสโนวาตระกูลดังที่ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ในเช้านี้!
พนักงานสาวแผนกต้อนรับแอบซุบซิบกันหลังเคาน์เตอร์ หลังจากคนที่เป็นหัวข้อของการสนทนาเพิ่งจะขับรถออกไปได้ไม่นาน“ตอนแรกนะ ฉันคิดว่าคุณแพททริกจะได้กับยัยลูเซียน่าซะอีก ขานั้นชอบวีนชอบเหวี่ยง แถมเวลามาที่นี่ก็ชอบวางตัวราวกับเจ้าของน่ะแกฉันละเกลียดแม่นี่จริงๆ” นีน่าพนักงานต้อนรับเอ่ยขึ้น“เมื่อคืนฉันได้ไปช่วยบริการแขกในงานที่คฤหาสน์มา ฉันเห็นนางหน้าแตกกลางงาน แล้วส่งเสียงกรี๊ดจนคุณเจคอปสุดหล่อของฉันทนไม่ไหวต้องยกมือขึ้นปิดหูเลยแก!” เจนนี่ที่ได้ไปช่วยดูแลแขกที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์เมื่อคืน คุยอวดสองสาวที่ไม่ได้ไป“แหม น้อยๆ หน่อยเถอะหล่อน คุณเจคอปของฉัน ฮ่าๆๆๆ อย่างแกน่ะเดินผ่านสักสิบรอบ คุณเจคอปยังไม่มองเลยย่ะ!” มินนี่ตอกกลับเพื่อนสาวอย่างรู้สึกหมั่นไส้“โถๆ ทำอย่างกะแกไม่เคยฝันอย่างนั้นแหละมินนี่! ฉันเห็นนะเวลาที่คุณออร์แลนโด้พาสาวๆ มาฟาดที่นี่ แกก็ได้แค่มองเขาเดินผ่านแกไปอย่างไร้ตัวตนทุกครั้ง ฮ่าๆๆ ผู้ชายอะไร! เย็นชาชะมัดเลยอะ!” เจนนี่เอาคืน เพื่อนสาว“เย็นชาแบบนี้แหละ มินนี่ชอบบบบบ” มินนี่
สามชั่วโมงต่อมา...“น้องพิมคะ! น้องพิม! หนังจบแล้วค่ะ” แพททริกสันเรียกคนที่หลับสนิทไปตั้งแต่สามสิบนาทีแรก จนกระทั่งหนังจบแล้วสาวเจ้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เขานอนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับตาพริ้มในอ้อมแขน มันทำให้ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นตั้งแต่ที่ขาเรียวสวยยกขึ้นมาพาดบนขาของเขาจนกระทั่งตอนนี้บางอย่างของเขาก็ยังไม่ยอมสงบ! ไม่ว่าหนังที่ดูจะบู๊ดุเดือดแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงสายตาของเขาไปจากใบหน้าเธอได้เลย เขาจำต้องรีบปลุกเธอก่อนที่เขาจะระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองไม่ไหว!“น้องพิมขอโทษค่ะ” คนที่เพิ่งตื่นอายจนหน้าแดง“ไม่เป็นไรค่ะน้องพิมจะนอนต่อไหมคะ พี่แพทจะได้นอนเป็นเพื่อนค่ะ” แพททริกสันบอกพลางส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้หญิงสาว“เอ่อ...ไม่แล้วค่ะ น้องพิมขอไปห้องน้ำก่อน พี่แพทรอน้องพิมที่หน้าโรงหนังนะคะ” เธอรีบลุกเดินออกไปยังห้องน้ำข้างนอก เพื่อเช็กความเรียบร้อยของตัวเองอย่างอายๆ“ได้ครับ เจ้าหญิงของพี่” แพททริกสัขำเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของสาวเจ้า
ครึ่งชั่วโมงต่อมา... แพททริกสันก็ออกมานั่งรอที่โต๊ะอาหารด้านนอก หยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่านและจิบกาแฟไปพลางๆ อย่างอารมณ์ดีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ พิมพลอยก็สวมใส่เสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ รวมทั้งชุดชั้นในที่เธอใส่มันได้พอดีจนแอบสงสัยว่าเขารู้ไซส์ของเธอ ได้ยังไงหญิงสาวเดินออกไปที่ห้องอาหาร เห็นอีกฝ่ายนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปอมยิ้มไปก็อดสงสัยไม่ได้“พี่แพทอ่านข่าวอะไรอยู่หรือคะ” พิมพลอยเอ่ยถามขณะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับชายนหนุ่ม“อ้าว! น้องพิมมาแล้วเหรอคะ! พี่แพทกำลังอ่านข่าวคู่รักคู่หนึ่งอยู่ค่ะ ข่าวบอกว่าผู้หญิงคนนี้โชคดีมากๆ ที่ได้หัวใจของผู้ชายที่หล่อเหลาและแสนจะเพอร์เฟกต์ไปครอง ข่าวยังบอกว่า...ผู้ชายคนนี้หลงรักหญิงสาวหัวปักหัวปำมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุได้ 17 ปีน่ะค่ะ ลองดูรูปไหมคะ พี่แพทว่าน้องพิมอาจจะรู้จักเธอ!” แพททริกสันบอกเสียงจริงจัง พร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ไปให้หญิงสาวดู“จริงหรือคะว้าว!! ชักอยากจะรู้แล้วว่าเธอคนนั้นคือใคร”พิมพลอยยื่นมือไปรับหนังสือพิมพ์มาเปิดดู ก่อนจะ
“น้องพิมนั่งรอพี่ที่ห้องทำงานนะคะ พี่คุยงานที่ห้องประชุมใหญ่สักครู่ เดี๋ยวตามไปค่ะ” ชายหนุ่มกระซิบบอก“พี่แพทไม่ต้องรีบนะคะ น้องพิมรอได้ค่ะ” พิมพลอยบอกก่อนจะเดินตามนีรยาไป หลังจากที่อีกฝ่ายพยักหน้าชวนแพททริกสันมองตามแผ่นหลังบางที่เดินเข้าไปในห้องทำงานของตนจนกระทั่งประตูห้องทำงานปิดลง จึงเดินตามจิมมี่เจมส์กับจอแดนไปยังห้องประชุมใหญ่ เพื่อวางแผนงานให้รัดกุมขึ้นกว่าเดิมห้องทำงานของท่านประธาน...“ว้าว! ห้องทำงานของพี่แพทสวยและดูหรูหราจังเลยนะคะ คุณนีรยา” หญิงสาวเอ่ยด้วยท่าทางตื่นเต้น“คุณแพททริกเป็นคนที่มีสไตล์น่ะค่ะ มีห้องนอนและห้องน้ำด้วยนะคะ ตรงประตูด้านโน้น แต่ต้องใส่รหัสเข้าไปค่ะ คุณพิมจะเข้าไปดูก็ได้นะคะสวยมากเลยค่ะ รหัสคือ Pimploy ค่ะ รหัสนี้ทราบกันไม่กี่คน เอ่อ...ยังไงนีขอตัวก่อนค่ะ ต้องเตรียมเอกสารให้ที่ประชุม เดี๋ยวให้ผู้ช่วยของณีจะยกเครื่องดื่มกับของว่างมาให้ เชิญคุณพิมตามสบายเลยนะคะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็กดหนึ่ง ที่โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของบอส เรียกใช้ผู้ช่วยขอ
ทันทีที่เข้ามาในห้อง มิเชลก็ต้องตกใจที่เห็นสีหน้าบึ้งตึงของบอสใหญ่ที่เธอแอบหลงรักมานาน หันมามองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “เธอเป็นคนยกน้ำส้มมาให้คนรักของฉันใช่ไหม!” แพททริกสัน เอ่ยถาม“เอ่อ...ชะ...ใช่ค่ะ” มิเชลตอบเสียงสั่นๆ เพราะปกติเคยเจอชายหนุ่มแต่ในโหมดเย็นชาและเงียบขรึมซะมากกว่าจะเห็นในมุมที่อารมณ์ร้อนแบบนี้ “เธอใส่อะไรลงไปในน้ำส้ม?” แพททริกสันถามเข้าเรื่องอย่างไม่รีรอ“เอ่อ...เอ่อมิเชลไม่ได้ใส่อะไรลงไปเลยค่ะคุณแพท” มิเชลรู้สึกกลัว ลนลานจนเผลอเรียกประธานใหญ่ว่า คุณแพท ออกไปอย่างไม่ทันได้คิด ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ เพื่อข่มอารมณ์เดือดดาล แต่ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี! เพราะตอนนี้เขารู้สึกเดือดจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว!“ใครใช้ให้เธอเรียกฉันว่าแพท! ผู้หญิงที่เรียกฉันว่าแพทได้มีอยู่สองคนเท่านั้นคือ แม่กับเมีย ซึ่งเธอไม่ใช่ทั้งสองอย่าง!!
แพททริกสันสั่ง Blue Lable พร้อมมิกเซอร์ ส่วนพิมพลอยสั่งเหล้าบ๊วยญี่ปุ่นที่เทเหล้าใส่น้ำแข็งก็พร้อมดื่มได้เลย (เหล้าบ๊วยมีรสชาติหอมหวาน ไม่เหมือนดื่มเหล้า เหมือนดื่มน้ำรสบ๊วยมากกว่า แต่มีทีเด็ดคือถ้ากินลูกบ๊วยที่อยู่ในเหล้าเมื่อไหร่ จะเมาสุดๆ ถึงขั้นเซนิดๆ และอาจเสียการทรงตัว)ยี่สิบนาทีต่อมา...นีรยา จอแดนและจิมมี่เจมส์ก็มาถึง สองหนุ่มดื่ม Blue Lable ตามแพททริกสัน ส่วนนีรยาดื่มเหล้าบ๊วยกับพิมพลอยตามสไตล์ผู้หญิงที่ชอบเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายพนักงานต่างทยอยเสิร์ฟของที่สั่งไปอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ทุกคนดื่มกิน และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แพททริกสันก็เสนอให้เล่าเรื่องตลกๆ ที่แต่ละคนไปเจอมา พร้อมกับวางเดิมพันกันไว้ว่าถ้าเรื่องของใครเด็ดสุดจะได้เงินเดิมพัน!แล้วเรื่องเด็ดสุดที่ทุกคนต่างลงคะแนนให้ก็คือเรื่องของนีรยา ที่เจ้าตัวเล่าว่า...สมัยตอนเป็นเด็กฟันหน้าเธอหลอสามซี่ เป็นเวลาสองปีกว่าฟันใหม่ก็ยังไม่ยอมขึ้น เวลาพูดหรือยิ้มก็จะมีแต่คนหัวเราะเพราะเธอมีแต่ฟันล่างไม่มีฟันบน ตอนงานลอยกระทงนีรยาได้เป็นนางนพมาศ ผู้ใหญ่บ้านสั่งกำชับไม่ให้เธอพูดหรือยิ้มแบบเห็
“ครับ! พอดีพวกเราดื่มสังสรรค์กับคนสนิทตั้งแต่บ่าย นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้วผมอยากกลับไปอาบน้ำแล้วนอนกอดคนรักที่ห้องมากกว่า”แพททริกสันเอ่ยเสียงดังอย่างจงใจ ‘มองอะไรนักหนาวะ! บอกชัดขนาดนี้แล้วยังจะมองอยู่อีกเดี๋ยวพ่อก็ควักลูกตาทิ้งซะ’“บอสครับ คืนนี้ไปนอนที่คฤหาสน์หรือว่าเพนต์เฮาส์ครับ”จิมมี่เจมส์แกล้งเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่เคลียร์ทางกลับเพนต์เฮาส์ไว้ก่อนแล้ว ‘ไอ้หน้าจืดนี่วอนหาที่ตายจริงๆ’“บอกคนของเรา คืนนี้ฉันกับน้องพิมจะกลับไปนอนด้วยกันที่เพนต์เฮาส์” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ย“งั้นเรากลับก่อนนะ ไปค่ะพี่แพท” พิมพลอยรีบเอ่ยลาเพื่อนอีกครั้ง แล้วดึงแขนคนขี้หึงให้ออกมาข้างนอกคลับ กลัวอีกฝ่ายจะเผลอไปต่อยเพื่อนเธอเข้า มาร์กชอบมองหน้าเธอด้วยสายตาแบบนี้ทุกครั้งที่เจอในชั่วโมงเรียน บางครั้งเธอก็จิตตกคิดว่าอีกฝ่ายเป็นโรคจิต แต่มาร์กก็ไม่ได้พูดหรือทำอะไรมากไปกว่าการมองเธอนานๆ เท่านั้น!นีน่ากับมาร์กเดินตามออกมาส่งที่หน้าคลับ ก็เห็นบูกัตติเวย์รอนสีดำเงาป้ายทะเบียน R1111 ของแพททริกสัน หญิงสาวถึงกับอ้า
พิมพลอยที่หาเสื้อผ้าใส่เรียบร้อยแล้ว เดินออกมาจากห้อง แต่งตัวอย่างกล้าๆ กลัวๆ ใช่ เธอมีเรื่องต้องคุยกับพี่แพท เธอรู้ว่ารอยช้ำเป็นจ้ำๆ ที่หน้าอกและอีกหลายๆ ที่ มันคือรอยคิสมาร์ก! เพราะเธอเคยเห็นนีน่าหรือลิซ่าก็มีหลังจากที่ไปออกเดต แต่ของเธอมีทั้งที่หน้าอกและตามตัวอีกหลายแห่งหรือว่าเมื่อคืนเขาจะทำอะไรเธอ? เธอคิดทบทวนในใจ จนกระทั่งเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ก็เห็นรอยเลือดที่หยดเป็นทางพิมพลอยหัวใจกระตุกวูบขึ้นมาทันใด ‘พี่แพทจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ?’ เธอรู้สึกใจสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงเดินตามไปอีกห้องที่ประตูเป็นชั้นวางหนังสือเปิดทิ้งเอาไว้เธอเดินตามรอยเลือดเข้าไปจนถึงห้องน้ำ ก็เห็นชายหนุ่มนอนหลับตาแช่ในอ่างที่มีฟองสบู่ลอยอยู่เต็ม“พี่แพทคะ พี่แพทเป็นอะไรหรือเปล่า น้องพิมเห็นรอยเลือดหยดเป็นทางเลย” ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไร พิมพลอยจึงรีบเอ่ยถามออกไปแพททริกสันลืมตาขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำอย่างอึ้งๆ ‘พระเจ้า! สาบานได้ว่าตอนนี้เขาสงบแล้วแต่พอเห็นหน้าเธอปุ๊บภาพเปลือยเปล่า