Home / โรแมนติก / อุ้มรักเพื่อนสนิท / บทที่ 9 ตัดสัมพันธ์

Share

บทที่ 9 ตัดสัมพันธ์

last update Last Updated: 2024-11-25 10:54:09

"มีอะไรก็ว่ามา" ทันทีที่เดินมาถึงลานสนามหญ้าหน้าบ้านแบงค์ก็ถามไถ่ขึ้นทั้งที่ไม่หันไปมองหน้าคนที่ดินตามหลังมาสักนิด เขาไม่อยากเห็นหน้าเพื่อนสาวตอนนี้เกรงว่าจะข่มอารมณ์ไม่อยู่แล้วเผลอทำอะไรรุนแรงไป

"ส้มขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส้มมันสะเพร่าเองทำให้แบงค์ต้องมาเดือดร้อนด้วย แบงค์คงโกรธส้มมากสินะ" ส้มไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เพื่อนชายจะทำหน้ายังไงพยายามกักเก็บความเสียใจเอาไว้เปล่งเสียงพูดไปอย่างแผ่วเบา หวังว่าคำขอโทษจากเธอมันจะสามารถเรียกความรู้สึกของเพื่อนชายกลับมาได้บ้าง

แต่เธอก็ต้องผิดหวังเพราะเขาไม่แม้แต่จะตอบอะไรกลับมายืนนิ่งราวกับหิน มือทั้งสองกำแน่นจนเส้นเลือดนูนคงกำลังข่มอารมณ์บางอย่างอยู่เพราะเพื่อนชายมักกำหมัดแน่นทุกครั้งที่โกรธ หรือต้องข่มอารมณ์ต่าง ๆ ไว้

บอกตามตรงว่าเจอแบบนี้ก็แอบหวั่นใจเหมือนกันเธอเคยเห็นมาแล้วว่าเวลาเพื่อนชายโกรธมันน่ากลัวขนาดไหน

ทว่าหากไม่ใช้โอกาสนี้คุยกันให้เข้าใจเกรงว่าหลังจากนี้จะไม่ได้คุยดี ๆ กันอีกแล้วจึงรวบรวมความกล้า แล้วเดินอ้อมไปยืนเผชิญหน้ากับเขา เอ่ยไปด้วยใบหน้าเศร้า "มีอะไร หรือรู้สึกอะไรแบงค์ช่วยพูดกับส้มตรง ๆ ได้ไหม อย่าทำเย็นชาแบบนี้เลยส้มรู้สึกไม่ดี"

"ฉันกับเธอมีอะไรต้องคุยกันอีกเหรอ ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่เธอต้องการแล้วไม่ใช่เหรอจะอะไรอีก" แบงค์หลับตาพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ พยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ แล้วปรือตาขึ้นตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

จ้องมองหน้าอดีตเพื่อนสนิทด้วยแววตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึกใด ๆ แม้แต่สรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเองและเธอก็ดูเหินห่าง

"ส้มขอโทษส้มไม่รู้จริง ๆ ว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาขนาดนี้ แบงค์อย่าโกรธส้มเลย อย่าทำตัวเหินห่าง หรือเฉยชากับส้มแบบนี้สิ" ทุกสิ่งทุกอย่างที่เพื่อนชายพูดหรือแสดงออกมาทำเอาคนฟังเจ็บจี๊ดในอก มองสบสายตาว่างเปล่าด้วยแววตาไหวระริก ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อ ๆ

การแอบรักว่าเจ็บแล้ว แต่การเห็นคนที่แอบรักเมินเฉยต่อกันมันเจ็บยิ่งกว่า เธอรับไม่ได้จริง ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

"เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ไหมแบงค์ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมใช่ไหมแบงค์" เปล่งเสียงสั่นเครือถามไปส่งสายตาเว้าวอนร่างสูงตรงหน้าสุดฤทธิ์ มือเรียวเอื้อมไปจับมือเขามากอบกุมไว้หลวม ๆ

"มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว หากอยากเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมก็ไปบอกพ่อแม่เธอกับพ่อแม่ฉันให้ล้มเลิกเรื่องแต่งงานสิ ทำได้ไหมส้ม"

ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับยิ่งทำให้เธอเจ็บหนักกว่าเดิมน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ค่อย ๆ รินไหลออกจากตาหยดเผาะลงบนพวงแก้ม มองหน้าเพื่อนชายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เคยแสนดี และมีเหตุผลมากจะกลายเป็นคนแบบนี้ได้

เธอเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกอย่างแต่เขาไม่เคยนึกถึงข้อนี้เลย ไม่เคยถามว่าเธอรู้ยังไง ไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะโดนพ่อแม่ด่าไหมนึกถึงแต่ตัวเอง

ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเขาจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้หากเธอตั้งใจให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็ว่าไปอย่าง

"แล้วแบงค์เคยรู้บ้างไหมว่าส้มต้องเจออะไรบ้างกับเรื่องที่เกิดขึ้น คิดว่าส้มอยากให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นรึไง" สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวตอกกลับเพื่อนชายอย่างเหลืออด หวังว่าเขาจะคิดอะไรได้บ้าง

ทว่าสำหรับแบงค์แล้วต่อให้เธอพูดยังไงก็ไม่สามารถลบความคิดที่ว่าเธอตลบหลังเขาได้แล้ว เขาปักใจเชื่อไปร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

"ถ้าไม่ได้จากนี้ไปฉันกับเธอก็ไม่ใช่เพื่อนกัน เราจะเป็นแค่คนแปลกหน้ากันเท่านั้น" เขาเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันกดเสียงพูดอย่างไร้เยื่อใย ว่าจบก็สะบัดมือออกจากการจับกุมของหญิงสาว แล้วเดินตัวปลิวกลับเข้าไปในบ้านไม่สนใจอีกคนที่ยืนร้องไห้สักนิด

"อึก.." ส้มใช้มือขยำชายกระโปรงชุดเดรสแน่นจนมือสั่นพยายามสะกดกลั้นน้ำตาที่กำลังรินไหลลงมาด้วยความเจ็บปวดและเสียใจ

สำหรับเพื่อนชายแล้วความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานคงไม่มีความหมายอะไรเลยเขาถึงตัดได้อย่างง่ายดายแบบนี้ ความรักและสิ่งดี ๆ ที่เธอคอยทำให้เขามาตลอดมันไม่เคยแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเขาบ้างเลยหรือยังไงกัน

ทว่าต่อจากนี้ไม่ว่าจะเสียใจยังไงเธอก็คงต้องทำใจยอมรับให้ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป เดินไปตามเส้นทางที่พ่อแม่ขีดไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้

.

.

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ การแต่งงานของส้มกับแบงค์จะถูกจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าตามฤกษ์ที่ผกาได้ไปดูมา ทุกฝ่ายดูเหมือนจะแฮปปี้มากยกเว้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่างส้มกับแบงค์ที่ยิ่งเข้าใกล้วันแต่งงานเท่าไรก็ยิ่งทุกข์ใจ

ส้มถูกพ่อแม่กักบริเวณให้อยู่ในบ้านทุกวัน จะออกไปไหนต้องมีคนคอยติดตามเพราะผู้เป็นแม่กลัวว่าเธอจะหนีงานแต่ง อีกทั้งยังหวงลูกในท้องของเธอด้วยกลัวว่าเธอจะซุ่มซ่ามจนแท้งหลังจากได้รู้ว่าใครคือพ่อของลูก

มันช่างหน้าขำสิ้นดี สมมุติว่าเธอท้องกับผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแม่ของเธอคงจะไม่ชอบถึงขั้นไล่ให้เธอไปเอาออกด้วยซ้ำมั้ง

"แต่งตัวรึยังส้ม เดี๋ยวตาแบงค์จะมารับไปลองชุดแต่งงาน" เสียงของผู้เป็นแม่ดังทบโสตประสาททำให้ส้มที่นั่งเหม่อลอยอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งสะดุ้งหลุดจากภวังค์

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนเอี่ยวหน้าตอบผู้เป็นแม่ที่ยืนชะเง้อคอมองอยู่หลังประตูด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เสร็จแล้วค่ะ"

"ดีมาก เสร็จแล้วก็ลงไปนั่งรอเขาด้านล่าง" อัปสรยกยิ้มอย่างพึงพอใจที่บุตรสาวไม่หือไม่อือ ว่าจบก็เดินจากไปทิ้งให้ส้มนั่งถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่ารู้สึกเหนื่อยกับชีวิตเหลือเกิน

ทุกวันนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรจากหุ่นยนต์ที่ถูกพ่อแม่ชักนำ

พวกท่านจัดการและคิดทุกอย่างแทนเธอไปหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องแต่งงาน ไม่เว้นแม้แต่ติดต่อกับเพื่อนชายเรื่องการลองชุดแต่งงาน และอีกสารพัดเรื่อง

เพราะหลังจากเพื่อนชายตัดความเป็นเพื่อนกันในวันนั้นเธอกับเขาก็ไม่ได้พบเจอ หรือติดต่อกันอีกเลยทุกเรื่องจะผ่านทางแม่ของเธอกับแม่ของเขาหมด

การเจอกันวันนี้ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงอีกบอกตามตรงว่าเธอไม่ดีใจเลยสักนิด แค่นึกถึงสีหน้าท่าทางของเพื่อนชายในวันนั้นก็อึดอัดตั้งไว้แล้ว แต่ก็นั่นแหละถึงไม่อยากเจอก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

เธอถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ แล้วเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อรอเพื่อนชายมารับตามคำบอกกล่าวของผู้เป็นแม่

เท้าเล็กพลันชะงักเล็กน้อยครั้นเดินมาถึงห้องโถงแล้วพบว่าเพื่อนชายนั่งคุยอยู่กับแม่

หัวใจดวงน้อย ๆ สั่นไหวอย่างห้ามไม่ได้เกิดอาการเกร็งฉับพลันจนต้องใช้มือกำสายสะพายกระเป๋าแน่นในตอนที่ดวงตาคมกริบของเพื่อนชายตวัดมองมายังเธอ

ภายในแววตามันเต็มไปด้วยความเย็นชาคนถูกมองอย่างเธอถึงกับหนาวไปถึงขั้วหัวใจ อาการปวดหนึบในหัวใจเริ่มกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง

"น้องมาแล้วจ้ะ" อัปสรเอ่ยขึ้นเมื่อหันไปเห็นบุตรสาว ซึ่งแบงค์ก็พยักหน้ารับด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ก่อนหยัดกายลุกขึ้นยืน

"งั้นผมไปก่อนนะครับ" บอกกล่าวกับท่าน แล้วหันไปเอ่ยกับหญิงสาวต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเพราะอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ "ไปกันเถอะ"

ส้มเพียงพยักหน้ารับแล้วเดินตามเพื่อนชายออกไปจากบ้านโดยไม่คิดพูดจากับผู้เป็นแม่สักนิด เธอมองรถสปอร์ตคันหรูที่จองอยู่หน้าบ้านด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยว

เมื่อก่อนมันเคยเป็นรถที่เธอชอบนั่งมากที่สุดชอบให้เพื่อนชายพาซิงไปเที่ยวเพราะได้ใช้เวลาร่วมกับเขา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกแล้วมันมีแต่ความรู้สึกอึดอัด

"จะขึ้นรถได้รึยัง หรือต้องให้อันเชิญ" ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอยืนเหม่อลอยกระทั่งเสียงแข็งกร้าวดังขึ้นทำให้เธอได้สติ รีบกุลีกุจอขึ้นไปนั่งบนรถด้วยความเร็วแม้ในใจกำลังนึกเสียใจกับคำพูดแดกดันของเพื่อนชาย

ต่อมน้ำตาพานจะแตกเสียให้ได้จึงต้องเบือนหน้ามองออกไปนอกกระจกรถ จิกเล็บลงบนอุ้งมือแน่นข่มไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

เธอไม่ได้อยากอ่อนแอแบบนี้เลยแต่ไม่รู้ทำไมถึงอ่อนไหวง่ายนัก อะไรกระทบจิตใจหน่อยก็จะร้องไห้อย่างเดียวทั้งที่เมื่อก่อนเธอเข็มแข็งกว่านี้

ภายในรถตกอยู่ในความเงียบแบงค์ไม่คิดจะคุยกับคนข้าง ๆ ไม่แม้แต่จะชายตามอง สร้างความอึดอัดให้อีกคนไม่น้อย หากทำได้เธออยากจะหายไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเพราะยิ่งคิดถึงเรื่องราววันเก่าที่เธอกับเขาเคยนั่งรถเที่ยวด้วยกันอย่างมีความสุข มีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกเจ็บ

ช่างน่าเสียดายที่หลังจากนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว..

@ร้านสวีทเวดดิ้งเดย์

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงรถสปอร์ตคันหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดลงหน้าร้านชุดแต่งงานชื่อดังย่านใจกลางเมืองส้มลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปเปิดประตูเพื่อลงจากรถไม่รอให้อีกคนพูดจากระแทกแดกดันอีก

"เธอเข้าไปลองชุดคนเดียวแล้วกัน ส่วนฉันมีการมีงานต้องทำไม่มีเวลาว่างมาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้" ทว่าในตอนที่กำลังก้าวขาลงจากรถเธอก็ต้องชะงักดังกึกกับประโยคบอกกล่าวไร้เยื่อใยของคนที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับ หันกลับไปมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาไหวระริก

สำหรับเขาแล้วการแต่งงานในครั้งนี้มันคงเป็นเรื่องที่แย่ และไร้สาระมากสินะ ข้อนี้เธอพอเข้าใจแต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมเพื่อนชายถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ พูดจาออกมาแต่ละคำไม่นึกถึงใจคนฟังสักนิดว่ารู้สึกยังไงทั้งที่เมื่อก่อนเขาเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนรอบข้างมาก จะทำอะไรก็นึกถึงจิตใจคนอื่นก่อนเสมอ

"อ๋อ..แล้วก็อย่าปากโป้งเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อแม่ฉันอีกล่ะ" แบงค์มองสบแววตาไหวระริกของหญิงสาวนิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงดุเมื่อเธอเอาแต่มองหน้าเขาไม่ตอบโต้อะไร

ความจริงเขาไม่ได้มีธุระที่ไหนหรอก เรื่องงานผู้เป็นแม่ก็สั่งให้หยุดเพื่อมาลองชุดแต่งงานโดยเฉพาะ แต่การแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่บังคับเขาไม่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญแค่ทำให้มันเสร็จ ๆ ไปตามหน้าที่

ส้มไม่ได้ตอบอะไรกลับเช่นเดิมรีบก้าวลงจากรถก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา แต่สุดท้ายเธอก็กลั้นมันไม่ไหวอยู่ดีเมื่อได้ยินเสียงรถเพื่อนชายแล่นออกไป เขาไม่มีแม่แต่เยื่อใยให้กัน

เป็นแบบนี้เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนอยู่กับเขาได้นานแค่ไหน

Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เป็นเรานะ เราจะขอความช่วยเหลือจากนับดาวและพี่ภัทรให้ช่วยพาหนีไปให้ไกลๆในวันที่แต่งงาน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 10 แค่แปดเดือน

    ส้มมองคู่รักหนุ่มสาวที่พากันมาลองชุดภายในร้านด้วยความรู้สึกจุกในอกระคนอิจฉา ผู้หญิงเหล่านั้นช่างโชคดีที่ได้แต่งงานกับคนที่รัก ใบหน้าของพวกเธออิ่มเอมไปด้วยความสุข ออร่าเจ้าสาวจับ ต่างจากเธอที่ได้แต่งงานกับคนที่รักก็จริง แต่กลับไม่มีความสุขเลยเพราะเป็นการรักข้างเดียว หนำซ้ำการแต่งงานยังเกิดขึ้นเพราะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายบังคับ ภายในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมยิ่งเห็นว่าที่เจ้าบ่าวภายในร้านแสดงความรัก ความเอาใจใส่ต่อว่าที่เจ้าสาวของตัวเองก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกเจ็บ ขณะที่เธอต้องยืนโดดเดี่ยวคนเดียวได้แต่ถามตัวเองในใจว่าเธอมาทำอะไรที่นี่"เชิญทางนี้ค่ะคุณส้ม" เสียงของพนักงานดังขึ้นทางด้านหลังเธอจึงละสายตาออกจากเหล่าคู่รักตรงหน้า หันมองเจ้าของเสียงแทน พยายามฝืนยิ้มให้พนักงานหญิงวัยยี่สิบต้น แล้วเดินตามเธอขึ้นไปยังชั้นสองของร้านซึ่งมีชุดเจ้าสาวแบบต่าง ๆ แขวนอยู่ในตู้โชว์จนลายตา แต่ละชุดสวยมาก ๆ เหมือนที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้ว่าสักวันจะสวมใส่ให้ได้ทว่าในตอนนี้เธอกลับไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับชุดสวย ๆ เหล่านี้สักนิดเธอไม่อยากจะใส่ด้วยซ้ำ มันจะมีประโยชน์อะไรต่อให้ใส่ชุดแต่งงานสวยแค่ไหนแต่ในใจเต็มไปด้

    Last Updated : 2024-11-25
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 11 งานแต่งจอมปลอม

    วันเวลาดำเนินมาถึงวันที่ส้มกับแบงค์ต้องแต่งงานกัน ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยซึ่งจัดขึ้นที่บ้านของส้ม ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ทั้งสองจะบาดหมางกันแต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีปั้นหน้ายิ้ม และแสดงความรักต่อหน้าแขกเหรื่อได้อย่างแนบเนียน และช่วงค่ำก็เป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสที่โรงแรมชื่อดัง งานฉลองของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมฐานะของสองตระกูล แขกเหรื่อถูกเชิญมาร่วมงานนับพันคน"เฮ้อ.." ส้มมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ชุดเจ้าสาวแสนสวยที่สวมอยู่บนตัวไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขสักนิด ในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมอยากจะให้งานแต่งนี้เสร็จสิ้นไว ๆ ด้วยซ้ำไปเพราะเหนื่อยกับการที่ต้องปั้นหน้ายิ้ม และทำตัวเหมือนมีความสุขเต็มทน"วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหมส้ม ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยสิ" นับดาวที่คอยช่วยเพื่อนสาวแต่งตัวเอ่ยขึ้นครั้นเห็นสีหน้าเศร้าหมองในกระจกของเพื่อนพลางใช้มือตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจและปลอบประโลมในเวลาเดียวกัน เพื่อนสาวเล่าทุกอย่าที่เกิดขึ้นให้ฟังหมดแล้วเธอจึงเข้าใจความรู้สึกเพื่อนสาวดีเพราะเคยผ

    Last Updated : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 12 เหยียบย่ำหัวใจ

    "หึ" ส้มมองห้องที่ถูกจัดเป็นห้องหอ บนเตียงโรยด้วยกลีบกุหลาบเป็นรูปหัวใจอย่างสวยงามด้วยแววตาว่างเปล่าพร้อมกับเค้นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน เธอช่างเป็นเจ้าสาวที่น่าสมเพชสิ้นดีนอกจากจะโดนเจ้าบ่าวพูดจาจิกกัดตลอดงานแล้ว ในคืนเข้าหอเจ้าบ่าวก็หายตัวไปอีก หลังจากแขกเหรื่อทยอยกันกลับไปหมดเจ้าบ่าวของเธอก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน ยอมรับว่าเสียใจไม่น้อยต่อให้นี่จะเป็นการแต่งงานปลอม ๆ เขาก็ควรให้เกียรติเธอกับครอบครัวหน่อย หากคนอื่นรู้คงเอาไปนินทากันสนุกปากเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนทำการปัดกลีบกุหลาบบนที่นอนออกจนเกลี้ยง จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนทั้งที่ยังสวมชุดแต่งงานอยู่เพราะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก ๆ เปลือกตาก็แทบปิดอยู่รอมร่อ ทันทีที่หัวถึงหมอนนุ่ม ๆ เพียงไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปติ้ง~ ติ้ง~ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอหลับไปกระทั่งเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ยกมือขึ้นขยี้ตาไล่อาการงัวเงียเบา ๆ ก่อนจะลุกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หน้าโต๊ะกระจกมาดู คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าข้อความที่ถูกส่งมาจากไลน์แปลก ๆ โปรไฟล์เป็นรูปตั

    Last Updated : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 13 คนสกปรก

    "อ๊ะ!"หัวใจดวงน้อย ๆ ของส้มหล่นวูบลงสู่ตาตุ่มเมื่อถูกเพื่อนชายทุ่มลงบนเตียงนุ่ม ๆ สีหน้าแสดงความตื่นตระหนกให้เห็นอย่างชัดเจน "แบงค์จะทำอะไร""ลองมีอะไรกับคนความคิดสกปรก และร่างกายสกปรกแบบฉันหน่อยเป็นไร ไหน ๆ เธอก็ยอมลงทุนตลบหลังฉันบากหน้าไปบอกเรื่องท้องกับพ่อแม่ฉันจนได้ตำแหน่งเมียไปครอง" ไม่ว่าเปล่าแบงค์ตามลงไปคร่อมร่างบางที่กำลังจะขยับหนีทันที รวบมือเรียวทั้งสองกดตรึงไว้ข้างศีรษะ จับจ้องดวงหน้าเรียวที่ฉายไปด้วยความตื่นตระหนกนิ่ง ๆความจริงเขาไม่ได้อยากทำเกินเลยกับหญิงสาวเป็นครั้งที่สอง แต่คำพูดของเธอทำให้เขาเปลี่ยนความคิด"อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะแบงค์ส้มท้องอยู่ เราตกลงกันแล้วไงว่าจะอยู่ด้วยกันในฐานะพ่อแม่ของลูกเฉย ๆ จะไม่มีเรื่องแบบนี้" ส้มทักท้วงข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันก่อนแต่งงานหวังว่าจะช่วยเตือนสติเพื่อนชายได้บ้าง พร้อมกับพยายามขืนมือออกจากการกดตรึง เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเขาถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ พอเวลาต้องเลิกกันมันคงเจ็บปวดมาก บางทีอาจจะมองหน้าไม่ติดกันด้วยซ้ำไป และที่สำคัญเธอไม่อยากซ้ำรอยใครเธอรับไม่ได้จริง ๆ"ฉันเป็นหมอฉันรู้ว่าทำได้ หรือไม่ได้ เธอแค่นอนอ้าขาให้ฉั

    Last Updated : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 14 ลูกที่ไม่ต้องการ

    หลังจากแบงค์เสร็จสมตามที่ตัวเองต้องการเขาก็ทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้หญิงสาวอย่างไร้เยื่อใย จากนั้นไม่กี่นาทีก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อวาน ขณะที่ส้มได้แต่กลำกลืนความขืนขมไว้ในอกกับท่าทางของเพื่อนชายที่ทำเหมือนเธอเป็นกระโถนรองรับอารมณ์พอได้ดั่งใจก็ทิ้งขว้างไม่เหลียวแลจ้องมองแผ่นหลังกว้างด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะละสายตาออก หยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบอกแล้วพาตัวลงจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายที่เคลือบไปด้วยเหงื่อ และน้ำกามตามหว่างขาออกจากนั้นออกมาแต่งตัวโดยที่อีกคนยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง และเธอไม่คิดจะปลุกเขา ครั้นแต่งตัวเสร็จก็เดินลงไปยังชั้นล่างของบ้านวิสุทธิ์ภักดี"อ้าว! หนูส้มทำไมรีบลงมา ไม่พักผ่อนอีกหน่อยล่ะจ๊ะ กำลังท้องกำลังไส้อยู่ เมื่อวานก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" ผกาที่นั่งคุยกับสามีในห้องโถงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมกับระบายยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นลูกสะใภ้คนโปรดเดินลงมาจากบันใด"หนูชินกับการตื่นเช้าแล้วค่ะคุณป้า" ส้มระบายยิ้มตอบพร้อมกับเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาอีกตัว "ยังเรียกป้าอยู่อีก หนูแต่งงานเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ไม่ใช่เพื่อนตาแบงค์แล้ว เรียก

    Last Updated : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 15 คนมักมาก

    หลังจากหาหมอเสร็จส้มก็โทรเรียกแกร็บคาร์ แล้วออกไปยืนรอด้านหน้าอาคารของโรงพยาบาล ยืนรอไม่ถึงห้าสิบนาทีรถก็มาถึง เธอลอบถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากก้าวขึ้นมานั่งบนรถแล้วเพราะอากาศข้างนอกทั้งร้อนทั้งอบอ้าว พอได้รับแอร์เย็นฉ่ำทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย มือเรียววางลงบนหน้าท้องที่มีอีกหนึ่งหัวใจอาศัยอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย หมอบอกว่าเธอตั้งครรภ์ได้ห้าสัปดาห์แล้ว ถึงแม้เขาจะเกิดมาจากความผิดพลาดแต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ และมันยังมาจากผู้ชายที่เธอแอบรักหมดหัวใจถือเสียว่าเป็นตัวแทนความรักของเธอที่มีต่อเขาก็แล้วกัน ต่อให้พ่อของเขาจะไม่ต้องการแต่เธอจะดูแลหัวใจดวงนี้ให้ดีที่สุด แววตาเศร้าหมองทอดมองวิวริมทางขณะที่รถกำลังแล่นไปตามถนน มือยังคงวางบนหน้าท้องแบนราบในสมองครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เธอไม่รู้เลยว่าวันข้างต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง และไม่รู้ว่าจะสามารถทนต่อความร้ายกาจของเพื่อนชายได้ตลอดรอดฝั่งไหม แต่ไม่ว่ายังไงเธอจะอดทนให้ถึงที่สุดหากไม่ไหวจริง ๆ ค่อยว่ากันอีกทีเธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ครั้นแกร็บคาร์เคลื่อนตัวมาจอดลงหน้ารั้วบ้านวิสุทธิ์ภักดี เลือกให้รถจอดหน้าร

    Last Updated : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 16 ไม่ไว้ใจ

    อื้อ.." ส้มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่สดชื่นเลยสักนิด หนำซ้ำยังปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมดเพราะนอนบนพื้นตลอดคืน ใช่ฟังไม่ผิดเมื่อคืนเธอหลับไม่ลงจริง ๆ เพราะกลิ่นแอลกอฮอล์บวกกลิ่นบุหรี่จากคนข้าง ๆ ลอยเข้าจมูกแม้ใช้ผ้าห่มปิดจมูกแล้วก็ตาม จนเธอทนไม่ไหวสุดท้ายต้องเอาผ้าห่มมารองนอนที่พื้นแข็ง ๆ และเย็นเฉียบบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้า ขณะที่อีกคนนอนหลับสบายอยู่บนเตียงเธอประสานมือเหนือศีรษะแล้วบิดตัวไปมาเพื่อไล่อาการปวดเมื่อยออก จากนั้นก็หยัดกายลุกขึ้นยืนพับผ้าห่มไปวางบนที่นอน ซึ่งยังมีคนเห็นแก่ตัวนอนอยู่ ยืนจ้องใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกตัดพ้อขนาดเธอท้องอยู่เขาก็ยังไม่คิดเห็นใจ หรือไม่อย่างน้อยเขาควรนึกถึงลูกในท้องเธอบ้างเพราะเป็นลูกเขาเช่นกันไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอยืนมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่แบบนั้น กระทั่งร่างสูงเริ่มขยับเขยื้อนเธอจึงละสายตาออก แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาอาบน้ำยี่สิบนาทีก็เสร็จครั้นเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเพื่อนชายนั่งพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางงัวเงียคงเพิ่งตื่น เธอปรายตามองแวบหนึ่งแล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจ รีบหยิบเสื้อผ้าพาเข้าไป

    Last Updated : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 17 น่ารังเกียจ

    จากวันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาห้าเดือนเดือนเต็ม ๆ ที่ส้มเข้ามาอยู่ในบ้านวิสุทธิ์ภักดี ทุกอย่างยังคงวนลูปเหมือนเดิมแม้เธอจะอยู่อย่างสะดวกสบายในบ้านหลังนี้ แต่ใจของเธอมีแต่ความทุกข์ระทมไม่เคยได้สัมผัสคำว่าความสุขเลยเพราะถูกเพื่อนชายรังแกทั้งทางร่างกาย วาจา และจิตใจ เรื่องลูกเขาก็ไม่เคยสนใจตั้งแต่เธอท้องเดือนแรกกระทั่งเข้าเดือนที่หกแล้วเขาไม่แม้แต่จะถามถึงสักครั้ง เวลาไปหาหมอก็แค่พาไปตามหน้าที่ ไปส่งเธอแล้วทิ้งให้กลับเองทุกครั้ง อย่างเช่นตอนนี้ที่เขามาส่งเธอแล้วกลับไป ครั้นหาหมอเสร็จเธอก็ต้องโทรเรียกแกร็บคาร์ให้ไปส่งที่บ้านเหมือนเช่นเคย ชีวิตของการมีสามีมันเหมือนจะเหนื่อย และทุกข์ใจกว่าตอนอยู่ตัวคนเดียวด้วยซ้ำเมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ตรงขึ้นห้องนอนทันทีเพราะวันนี้ผกาไม่อยู่บ้านเลยไม่ต้องแวะพูดคุยกับท่าน ส่วนอีกคนคงจะกลับมาดึก ๆ หรือไม่ก็ไปนอนกกกับผู้หญิงกลับมาอีกทีก็เช้ามืดเหมือนที่ผ่านมา เพื่อนชายเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเมื่อก่อนเขาไม่เคยดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน และมัวผู้หญิงแบบนี้ แต่พอแต่งงานกับเธอก็เป็นอย่างที่เห็นเธอเจอเรื่องแบบนี้เกือบตลอดห้าเดือนที่ผ่านมาจนหัวใจมันเริ่มชิ

    Last Updated : 2024-11-29

Latest chapter

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 2

    @บ้านวิสุทธิ์ภักดี"ว้าย!" ส้มร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกพ่อของลูกยกขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวขณะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านวิสุทธิ์ภักดี "จะอุ้มทำไมแบงค์ส้มก็กำลังจะเดินเข้าบ้านอยู่นี่ไง" ครั้นตั้งตัวได้เธก็โวยวายใส่ร่างสูงพลางใช้มือทุบอกเขาแรง ๆ ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาอุ้มทำไมกันในเมื่อเธอก็ยอมเดินเข้าบ้านดี ๆ ไม่ได้จะวิ่งหนีกลับบ้านสักหน่อยแบงค์เพียงยิ้มให้เพื่อนสาวเล็กน้อยไม่ได้ตอบอะไรตั้งหน้าอุ้มเธอเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้าน ก่อนจะพาเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านทำเอาส้มต้องขมวดคิ้วเป็นปม รีบเปล่งเสียงถามทันที "แบงค์จะพาส้มไปไหน ปล่อยส้มลงเดี๋ยวนี้นะ""พาขึ้นไปดูทะเบียนสมรส แล้วก็ใบหย่าไงเพื่อยืนยันว่าแบงค์ยังไม่ได้เซ็นมันจริง ๆ เพราะฉะนั้นเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่" สิ้นประโยคใบหน้าหล่อเหลาก็เคลือบไปด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม แววตาทอประกายเจ้าเล่ห์จนส้มอดหัวใจเต้นแรงไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย พยายามข่มอาการเอาไว้แล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงดุหวังว่าอีกคนจะเกรงขึ้นมาบ้าง "แบงค์ก็ขึ้นไปหยิบลงมาให้ดูสิ จะอุ้มส้มขึ้นไปด้วยทำไม" "อยากพาขึ้นไปดูให้ถึงที่ไง" "มันใช่เรื่องไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 1

    หลายปีต่อมา"คุณพ่อคะเมื่อวานตอนไปห้างมีหนุ่ม ๆ มาจีบคุณแม่ด้วยค่ะ" ทันทีที่แบงค์ย่างกรายเข้ามาภายในบ้านเอกวิโรจน์บุตรสาวที่นั่งรอการมาของเขาในห้องโถงก็รีบเอ่ยฟ้องเสียงเจื้อยแจ๋ว"จริงเหรอครับ" ทำเอาแบงค์ถึงกับหูผึ่งรีบเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้างบุตรสาว ถามไถ่ด้วยความร้อนรนใจ "แล้วผู้ชายคนนั้นหล่อไหม แล้วแม่เขาตอบผู้ชายคนนั้นไปว่ายังไงบ้าง""เขาก็หล่อนะคะ แต่น้อยกว่าคุณพ่อ" ภริตาเด็กน้อยวัยย่างเข้าเก้าขวบตอบไปตามความจริงเพราะสำหรับเธอแล้วไม่มีใครหล่อกว่าพ่อตัวเอง "ส่วนคุณแม่แค่ยิ้มหวานให้ผู้ชายคนนั้นค่ะไม่ได้ตอบอะไร น้องริตาเลยตอบแทนคุณแม่ไปว่ามีลูกแล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินหนีไปเลย""ทำดีมากลูกรัก ไม่เสียแรงที่พ่อให้ลูกช่วยดูแลแม่จากผู้ชายคนอื่น" ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยบึ้งตึงก่อนหน้านี้เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นเมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากบุตรสาว ก่อนเขาจะเอื้อมมือไปหยีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสี่ปีเกือบห้าปีแล้วอีกแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะคบห้าปีพอดี บุตรสาวของเขาอายุย่างเข้าเก้าปีเริ่มเติบโตเป็นสาวแล้วรู้เรื่องทุกอย่างจึงเป็นตัวช่วยของเขาได้ดีงานที่เขามอ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 50 The end

    จากวันนั้นเวลาก็ดำเนินมาหนึ่งปีเต็ม ๆแบงค์ยังคงคอยดูแลลูกในฐานะคุณอาที่แสนดี ซึ่งเขาก็เต็มใจยอมรับไม่คิดเรียกร้องอะไรแค่ได้อยู่ในชีวิตผู้หญิงที่รักทั้งสองคนเขาก็มีความสุขแล้วครืดดด~สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้แบงค์ที่กำลังเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปหาบุตรสาวที่บ้านเอกวิโรจน์เหมือนเช่นทุกวันต้องหยุดชะงัก ก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดูคิ้วเข้มพลันขมวดชนกันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสายที่โทรเข้ามาคือแม่ของลูกอดแปลกใจไม่ได้เพราะปกติเธอจะไม่โทรมาแต่เช้าแบบนี้ จึงกดรับสายด้วยความอยากรู้"โทรมาแต่เช้าเลยมีอะไรรึเปล่าส้ม"(ส้มจะโทรมาบอกว่าวันนี้ให้มาหาลูกตอนเย็น ๆ นะ เพราะช่วงเช้าพ่อกับแม่ส้มจะพาน้องริตาไปข้างนอก)พอได้ฟังประโยคจากปลายสายเขาก็หน้าหงอยลงฉับพลันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะกะไว้ว่าจะไปรับสองแม่ลูกไปทำบุญด้วยกันที่วัดสักหน่อยเนื่องในวันนี้เป็นวันเกิดของเขา อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนสาวคงจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาเพราะเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทั้งสองไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันตั้งแต่เกิดเรื่องนั่น"อ๋อ..ได้ ๆ" เขาได้แต่เก็บความเศร้าไว้ในใจแล้วเปล่งเสียงตอบปลายสายไ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 49 หน้าที่พ่อแม่

    ส้มทอดสายตามองบรรยากาศยามค่ำคืนริมระเบียงห้องพักด้วยความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่พาบุตรสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในสมองก็ครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับเรื่องชายหนุ่มและลูก ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดจนสายลมเย็นยะเยือกลอยสัมผัสผิวเรียบเนียนทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นโอบกอดตัวเอง ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำนิลที่มีดวงดาวน้อยใหญ่ลอยประดับประดาอย่างสวยงาม แต่นาทีต่อมาเธอก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรนุ่ม ๆ อุ่น ๆ ที่คลุมลงมาบนไหล่ ครั้นเอี่ยวหน้ามองก็พบว่าเป็นพ่อของลูกนั่นเองที่เอาผ้ามาคลุมไหล่ให้เธอ จึงเอ่ยขอบคุณไปตามมารยาท "ขอบคุณ"แบงค์เพียงยกยิ้มให้เพื่อนสาวบาง ๆ แล้วเดินไปยืนริมระเบียงข้าง ๆ ทอดสายตามองออกไปนอกท้องทะเลอันมืดสลัวโดยไม่พูดอะไรออกมา เฉกเช่นเดียวกับส้มที่มองออกไปยังทะเลอีกครั้งโดยไม่พูดอะไรทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ปกคลุมไปด้วยความเงียบมีเพียงเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาเป็นระยะไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ต่างคนต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ก่อนแบงค์จะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นชวนคุยขณะที่สายตายังคงจดจ่อกับทะเลเบื้องหน้า "บรรยากาศดีเนาะ ส้มว่าไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 48 สายเลือด

    เช้าวันต่อมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็พากันลงไปทานอาหาร ครั้นทานอาหารเสร็จก็เช่ารถของโรงแรมพาบุตรสาวไปเล่นที่สวนน้ำกระทั่งเที่ยงจึงพากันไปทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังของภูเก็ต"กินข้าวเสร็จคุณอาใจดีจะพาน้องริตาไปเที่ยวไหนต่อคะ" เด็กน้อยภริตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ๋วระหว่างที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับเอียงหน้าขึ้นมองคุณอาใจดีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่ส้มนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งจ้องมองบุตรสาวด้วยความรู้สึกเอ็นดูระคนมันเขี้ยวเพราะยิ่งนับวันบุตรสาวก็ยิ่งติดคนเป็นพ่อมากขึ้น ดูอย่างตอนนี้สิแทนที่จะนั่งข้างเธอ กลับเลือกไปนั่งข้างชายหนุ่มแต่ก็คงไม่แปลกอะไรเพราะเขาเล่นตามใจบุตรสาวไปเสียทุกอย่างไม่ว่าบุตรสาวจะบอกจะขออะไรก็ทำให้หมดไม่เคยขัดจึงทำให้บุตรสาวชอบอยู่กับเขา"อืม..เราไปดูเครื่องบินที่หาดไม้ขาวกันไหมครับ พอแดดร่มหน่อยเดี๋ยวเราค่อยไปเล่นน้ำทะเลกัน" คนถูกถามอย่างแบงค์นั่งใช้ความคิดชั่วครู่ ก่อนเสนอความคิดเห็นให้บุตรสาวพร้อมกับยกมือลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความรักใคร่เอ็นดู"ได้ค่ะ"เด็กน้อยภริตายิ้มรับจนตาหยีพลอยทำให้คนเป็นพ่อแม่ยิ้มตามไปด้วย ก่อนแบงค์จะเล

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 47 เที่ยว

    นับจากวันนั้นเวลาก็ผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ แล้วที่แบงค์ได้กลับเข้ามาในชีวิตเพื่อนสาวกับลูกอีกครั้ง ตอนเช้าของทุกวันก่อนไปทำงานเขาจะแวะมาหาบุตรสาวก่อนเสมอ และหลังเลิกงานตอนเย็นก็แวะมาเล่นกับบุตรสาวอีกครั้ง หากเป็นวันหยุดเขาก็จะมารับบุตรสาวพาไปเที่ยวเป็นประจำ บางครั้งก็พาไปนอนค้างคืนที่บ้านด้วยกัน ส่วนความสัมพันธ์กับแม่ของลูกก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากกว่าเดิมเพราะเธอปิดกั้นเขาทุกทางคงจะมีแค่เรื่องลูกที่ทำให้เธอยอมเกี่ยวข้องกับเขา ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ถอดใจหวังว่าสักวันจะแทรกซึมเข้าไปในใจเธอได้อีกครั้งวันนี้เป็นวันหยุดเขาเลยชวนบุตรสาวไปเที่ยวทะเลตามที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ และเขายังแอบพูดกับบุตรสาวว่าให้ชวนแม่ไปด้วยเพราะหวังว่าจะได้สร้างโมเม้นท์ดี ๆ กับแม่ของลูกเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้นกว่าเดิม และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนส้มยอมไปเที่ยวทะเลด้วยเพราะทนแรงออดอ้อนจากบุตรสาวไม่ไหว ทะเลที่เขาจะพาสองแม่ลูกไปเที่ยวก็คือภูเก็ตนั่นเองเพราะเขาไปมาครั้งที่แล้วมันสวยมาก ที่เที่ยวก็มีเยอะแยะจึงอยากให้บุตรสาวได้เที่ยวบ้าง ทั้งสามออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยรถส่วนตัวโดยแบงค์ทำหน้าที่เป็นคนขับ เขาอยากจะ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 46 ฐานะอะไรก็ได้

    ส้มนั่งคุยกับนับดาวไปเรื่อย ๆ โดยปล่อยให้บุตรสาวเล่นกับชายหนุ่มไปเพราะเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างนั้นก็ปรายตามองสองคนพ่อลูกเป็นระยะ ๆ "แกจะไม่ให้น้องริตารู้จริง ๆ เหรอว่าแบงค์เป็นพ่อของเขา ฉันว่าน้องริตามีความสุขมากนะที่ได้เจอแบงค์" นับดาวเอียงหน้ากระซิบถามเพื่อนสาวเบา ๆ หลังจากนั่งมองเพื่อนชายกับบุตรสาวเล่นด้วยกันมาสักครู่แล้ว"ตอนนี้ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ แต่ถ้าในอนาคตไม่รู้" ส้มเองยังคงยืนยันคำเดิมเพราะเธอยังจำความหมางเมินที่ชายหนุ่มแสดงต่อลูกในท้องได้ดี เขาไม่แม้แต่ทำหน้าที่พ่อสักครั้ง"แกลองเปิดโอกาสให้แบงค์ได้ทำหน้าที่พ่อดูสักหน่อยสิ หากมันดีหรือไม่ดีแกก็ค่อยตัดสินใจอีกครั้ง" นับดาวใช้มือตบลงบนบ่าเพื่อนสาวเบา ๆ เชิงให้กำลัง ก่อนจะหันไปชวนเด็กน้อยภริตาเข้าไปในครัวเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้คุยกัน "น้องริตาไปดูขนมคุกกี้ในครัวกับแม่นับดีกว่าค่ะว่าเสร็จรึยัง""ค่ะ" เด็กน้อยภริตารีบพยักหน้ารับคำอย่างไร้เดียงสาพร้อมกับลุกเดินไปหานับดาว จากนั้นก็พากันเดินหายเข้าไปในครัวทิ้งให้แบงค์กับส้มนั่งกันตามลำพังภายในห้องโถงถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบนานหลายนาที ก่อนแบงค์จะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา "แบงค์รู้เร

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 45 ลดสถานะ

    วันต่อมา"สรุปเรื่องของลูกกับเจ้านายเป็นยังไงแล้วลูก" เสียงของคุณหญิงอัปสรดังขึ้นทำให้ส้มที่นั่งจมอยู่กับความคิดมากมายในหัวหลุดจากภวังค์ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียงตอบผู้เป็นแม่อย่างเนือย ๆ "มันจบแล้วค่ะแม่ หนูกับพี่นายคุยกันจนได้ข้อสรุปแล้วว่ากลับไปพี่น้องกันเหมือนเดิมดีกว่าเพราะขืนดันทุรังคบกันต่อไปหนูคิดว่าคงมีปัญหาตามมาไม่จบไม่สิ้น หนูไม่อยากเสียใจและเหนื่อยกับเรื่องความรักแล้ว""แม่เข้าใจ ไม่เป็นไรนะยังไงลูกก็ยังมีพ่อกับแม่อยู่ข้าง ๆ" อัปสรนึกเห็นใจบุตรสาวไม่น้อยที่ต้องมาผิดหวังกับเรื่องความรักซ้ำ ๆ ถึงสองครั้งสองคราทำได้เพียงขยับตัวเข้าไปรั้งบุตรสาวมาสวมกอดไว้หลวม ๆ เชิงปลอบประโลมและให้กำลังใจในเวลาเดียว ซึ่งส้มไม่ได้ตอบอะไรกลับเพียงฝืนระบายยิ้มให้ท่านบาง ๆ แม้ในใจจะรู้สึกชอกช้ำไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานหลังจากเจ้านายมาหาที่บ้านเธอก็ตัดสินใจถามเขาไปตรง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ลียามาบอก คำตอบที่ได้รับจากปากเจ้านายคือมันเป็นเรื่องจริง เขาพลาดมีอะไรกับลียาจริง ๆ เพราะความเมาเขาเล่าให้เธอฟังทุกอย่างโดยไม่ปิดบังรวมทั้งเรื่องที่โดนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายบังคับให้แต่ง

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 44 ...

    หลังจากวันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ เรื่องระหว่างส้มกับเจ้านายก็เหมือนจะไม่มีอะไรเพราะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาแม่ของเขาไม่ได้โทรมากวน หรือทำอะไรเลยซึ่งเจ้านายเองก็ไปมาหาสู่เธอเป็นปกติเหมือนเช่นทุกวัน ส่วนพ่อของลูกก็หายเงียบไปเลยตั้งแต่วันนั้นเธอก็ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอกับลูกจะราบรื่นสักที ทว่าเหมือนที่เธอหวังจะไม่เป็นจริงเมื่อแม่บ้านเดินมารายงานว่า "คุณส้มค่ะมีคนมาขอพบค่ะ เห็นว่าชื่อลียา"คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเพียงได้ยินชื่อคนที่มาหา แต่คิดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่เพราะเธอกับลียาไม่ได้สนิท หรือรู้จักกันแต่อย่างใดที่เธอมาหาคงไม่พ้นเรื่องของเจ้านายแน่ ๆ เธอลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะบอกกล่าวแม่บ้าน "เชิญเขาเข้ามาเถอะค่ะ"สิ้นเสียงเธอแม่บ้านก็เดินออกไปทันที และเพียงไม่นานก็เห็นแม่บ้านเดินนำหญิงสาวรูปร่างผอมเพรียวเข้ามา"สวัสดีค่ะคุณส้ม" ลียายกมือขึ้นไหว้ส้มซึ่งมีอายุมากกว่าเธออย่างนอบน้อมทันทีที่เดินมาถึงส้มเพียงพยักหน้ารับคำกล่าวทักทาย แล้วถามไถ่เข้าประเด็นทันทีเพราะไม่อยากเสียเวลาแม้แแต่นาทีเดียว "คุณลียามีอะไรคะถึงได้มาหาส้มถึงที

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status