แชร์

บทที่ 10 แค่แปดเดือน

ผู้เขียน: ลภัสลัล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-25 10:56:14

ส้มมองคู่รักหนุ่มสาวที่พากันมาลองชุดภายในร้านด้วยความรู้สึกจุกในอกระคนอิจฉา ผู้หญิงเหล่านั้นช่างโชคดีที่ได้แต่งงานกับคนที่รัก ใบหน้าของพวกเธออิ่มเอมไปด้วยความสุข ออร่าเจ้าสาวจับ 

ต่างจากเธอที่ได้แต่งงานกับคนที่รักก็จริง แต่กลับไม่มีความสุขเลยเพราะเป็นการรักข้างเดียว หนำซ้ำการแต่งงานยังเกิดขึ้นเพราะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายบังคับ 

ภายในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมยิ่งเห็นว่าที่เจ้าบ่าวภายในร้านแสดงความรัก ความเอาใจใส่ต่อว่าที่เจ้าสาวของตัวเองก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกเจ็บ ขณะที่เธอต้องยืนโดดเดี่ยวคนเดียวได้แต่ถามตัวเองในใจว่าเธอมาทำอะไรที่นี่

"เชิญทางนี้ค่ะคุณส้ม" เสียงของพนักงานดังขึ้นทางด้านหลังเธอจึงละสายตาออกจากเหล่าคู่รักตรงหน้า หันมองเจ้าของเสียงแทน 

พยายามฝืนยิ้มให้พนักงานหญิงวัยยี่สิบต้น แล้วเดินตามเธอขึ้นไปยังชั้นสองของร้านซึ่งมีชุดเจ้าสาวแบบต่าง ๆ แขวนอยู่ในตู้โชว์จนลายตา แต่ละชุดสวยมาก ๆ เหมือนที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้ว่าสักวันจะสวมใส่ให้ได้

ทว่าในตอนนี้เธอกลับไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับชุดสวย ๆ เหล่านี้สักนิดเธอไม่อยากจะใส่ด้วยซ้ำ มันจะมีประโยชน์อะไรต่อให้ใส่ชุดแต่งงานสวยแค่ไหนแต่ในใจเต็มไปด้วยความทุกข์ 

หรือต่อให้เธอสวยดั่งนางฟ้าลงมาโปรดก็ไม่สามารถทำให้เพื่อนชายเปลี่ยนมารักได้ 

การแต่งงานเกิดจากการถูกบังคับมันจะมีความสุขได้ยังไงกัน หนำซ้ำว่าที่เจ้ายังไม่มองหน้าเธอด้วยซ้ำ จะใส่ชุดยังไงมันก็มีค่าเท่ากัน 

 "เลือกได้เลยนะคะว่าชอบชุดไหน หรืออยากได้แบบไหนก็สามารถสอบถามได้ค่ะ" พนักงานสาวเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ส้มต้องฝืนระบายยิ้มออกมาอีกครั้งทำเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุข 

"ค่ะ" พยักหน้ารับน้อย ๆ แล้วทำเป็นเดินเข้าไปเลือกชุดแต่งงานใกล้ ๆ เดินวนไปมาสองสามครั้ง ก่อนชี้ชุดที่แขวนอยู่ริมสุดให้พนักงานดู เป็นชุดที่เธอเลือกไปแบบสง ๆ เท่านั้นเพื่อทำให้มันจบ ๆ ไป "ฉันขอลองชุดนี้หน่อยค่ะ"

"ได้ค่ะ" พนักงานยิ้มรับ แล้วเดินเข้าไปหยิบชุดแต่งงานมายื่นให้พร้อมบอกกล่าว "ห้องลองชุดอยู่ทางนั้นนะคะ"

"ค่ะ" ส้มยื่นมือไปรับชุดจากพนักงานสาวมาถือไว้พร้อมกับระบายยิ้มให้เธอน้อย ๆ แล้วหมุนตัวเดินตรงไปยังห้องลองชุด เมื่อเข้ามาในห้องก็ทำการลองชุดอย่างไม่รอช้าเพราะต้องการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ มันช้ำใจ 

หลังจากลองเสร็จเธอก็ตัดสินใจเลือกชุดนั้นเลย จากนั้นก็เลือกชุดไทยสำหรับใส่ในงานหมั้นช่วงเช้าต่อ การเลือกชุดของเธอใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ 

"ลองชุดเสร็จแล้วใช่ไหม" ระหว่างที่เธอกำลังยืนคุยกับพนักงานเสียงทรงพลังก็ดังแทรกขึ้นจากด้านหลัง ซึ่งเธอจำได้ขึ้นใจว่าคือเสียงของเพื่อนชาย 

ทว่าครั้งนี้กลับดุดันจนเธอใจหวิว ค่อย ๆ หันกลับไปมองเจ้าของเสียงด้วยแววตาสงสัยไหนเขาบอกว่าต้องทำการทำงานแต่ทำไมถึงกลับมาโผล่ที่นี่ได้ แม้รู้สึกสงสัยแต่ไม่คิดจะถามไถ่เปล่งเสียงตอบเบา ๆ "เสร็จแล้ว"

"เสร็จแล้วก็กลับ" แบงค์เอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วนใบหน้าบึ้งตึงไม่สนใจสักนิดว่าตรงนั้นจะมีพนักงานอยู่ด้วยทำเอาส้มถึงกับหน้าเจื่อนรู้สึกเสียเซล์ฟไม่น้อยที่เพื่อนชายพูดจาไม่ไว้หน้ากันต่อหน้าคนอื่น 

ถึงเธอจะรักเขาก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ กดเสียงตอบกลับไปพอได้ยินแค่สองคน "ถ้ารีบก็กลับก่อนได้เลย ส้มกลับเองได้"

"ฉันบอกให้กลับก็กลับ อย่าให้ฉันโมโหเธอไปมากกว่านี้" ท่าทางต่อต้านของหญิงสาวยิ่งทำให้แบงค์มีน้ำโหมากกว่าเดิมเดินเข้าไปประชิดเธออีกนิด แล้วใช้มือบีบมือเรียวเบา ๆ

หากคนนอกมองคงเหมือนเขาจับมือเธอเฉย ๆ แต่ความจริงคือกำลังบีบมือเรียวอยู่ต่างหากให้เธอรู้ว่าอย่าคิดแข็งข้อกับเขา

แน่นอนว่าแรงบีบจากมือหนาสร้างความเจ็บให้ส้มไม่น้อยจนเผลอเบ้หน้าออกมา แต่เพียงเสี้ยวนาทีก็รีบปรับสีหน้าให้ราบเรียบ ไม่อยากให้พนักงานสาวเห็นความผิดปกติ ก่อนบอกกล่าวไปด้วยน้ำเสียงนุ่ม "งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ"

"ค่ะ ขอบคุณคุณส้มมากนะคะที่มาใช้บริการร้านเรา ถ้าชุดแก้เสร็จเรียบร้อยแล้วทางร้านจะติดต่อไปนะคะ" พนักงานสาวน้อมรับด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ส้มเพียงยิ้มรับน้อย ๆ แล้วหมุนตัวเดินออกไปโดยมีร่างสูงเดินเคียงข้าง ขณะที่มือของเขายังคงกอบกำมือเธออยู่แบบนั้น ครั้นเธอจะดึงกลับเขาก็ยิ่งออกแรงบีบมากขึ้น

"ปล่อยได้แล้วแบงค์ ส้มเจ็บ" เธอร้องท้วงทันทีที่เดินออกมาด้านนอกพลางพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุม "ทำไมแบงค์ต้องทำรุนแรงด้วย กับไอ้แค่เรื่องแต่งงานแบงค์จำเป็นต้องทำกับส้มถึงขนาดนี้เลยเหรอ"

"สำหรับเธอการแต่งงานที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเรื่องดี แต่สำหรับฉันมันโคตรเป็นเรื่องที่เฮงซวย ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักอย่างเธอได้ยินไหม" ความโกรธทำให้แบงค์พรั่งพรูคำพูดออกไปโดยไม่คิดสักนิดว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร 

เขารู้สึกโกรธมากที่ถูกผู้เป็นแม่โทรมาต่อว่าเรื่องที่เขาปล่อยให้เธอเข้าไปลองชุดแต่งงานคนเดียว ซึ่งหากหญิงสาวไม่ได้เป็นคนโทรไปฟ้อง แม่ของเขาไม่มีทางรู้แน่ ๆ ทั้งที่สั่งห้ามแล้วแท้ ๆ ถือว่าเธอท้าทายเขามากเหลือเกิน เพราะเหตุนี้ยังไงล่ะเขาถึงต้องกลับมาหาเธออีกครั้ง

ขณะที่คนฟังอย่างส้มถึงกับสะอึก คำพูดแสนร้ายกาจของคนที่รักเหมือนเข็มทิ่มแทงลงในอก กี่ประโยคที่เขาพูดจายังไม่เจ็บเท่าเขาบอกว่าการแต่งงานกับเธอเป็นเรื่องเฮงซวย ถึงเขาจะไม่รักก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดแรงขนาดนี้ 

มือเรียวกำหมัดแน่นพยายามเก็บขมขืนเอาไว้ เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อน "ส้มรู้แบงค์ไม่ต้องย้ำ แบงค์ช่วยทนหน่อยแล้วกันช่วยแต่งงานกับส้มเพื่อรักษาหน้าครอบครัวของส้ม หลังจากส้มคลอดแล้วเราค่อยเลิกกัน" 

"เธอต้องการแค่นี้จริง ๆ  เหรอ หรือเพียงพูดให้ตัวเองดูดี ไม่ใช่ว่าเธออยากแต่งงานกับฉันจนยอมตลบหลังฉัน นำเรื่องที่เธอท้องกับฉันไปบอกพ่อแม่ฉันจนท่านจับให้แต่งงานกันหรอกเหรอ แล้วเธอคิดว่าการเลิกกันมันง่ายนักเหรอเธอคิดว่าพ่อแม่เธอกับพ่อแม่ฉันจะยอมงั้นเหรอ" 

สำหรับคนมีอคติอย่างแบงค์ต่อให้หญิงสาวพูดอะไรไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัวไม่คิดจะเก็บมาไตร่ตรองว่าเป็นเช่นไร ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล 

"ตลบหลังอะไรส้มไม่รู้เรื่อง ส้มไม่ได้บอกพ่อแม่แบงค์ส้มจะทำอย่างนั้นไปทำไมในเมื่อเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว" ส้มขมวดคิ้วเป็นปมมองหน้าเพื่อนชายอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา ตลบหลังอะไรกันเธอไม่รู้เรื่องสักนิดจู่ ๆ เขาก็มากล่าวหากันโดยไม่คิดจะถามกันสักคำ 

และอย่างน้อยเขาก็ควรจะรู้สิว่าเธอนิสัยยังไงเพราะคบกันมานาน คนอย่างเธอไม่มีทางตลบหลัง หรือหักหลังเพื่อนแน่นอน "ตลอดเวลาที่เป็นเพื่อนกันมานานหลายปีไม่ได้ทำให้แบงค์รู้เลยเหรอว่าส้มเป็นคนยังไง"

"เป็นเพื่อนกันมานานก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้จักกันดี ขึ้นชื่อว่ามนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หรือบางทีสิ่งที่เธอแสดงออกมาอาจจะเป็นแค่ด้านเดียวไม่ใช่ทั้งหมด" 

"งั้นก็แล้วแต่แบงค์จะคิดเลยเพราะตอนนี้ส้มไม่ดีในสายตาแบงค์ไปแล้ว ต่อให้ส้มพูดอะไร หรืออธิบายอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์" ส้มได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ เลือกจะไม่พูดอธิบายอะไรอีกเห็นแล้วว่าเขาคงไม่เชื่อ เมื่อเขาตัดสินใจไปแล้วว่าเธอไม่ดี มองสบแววตาเย็นชานิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

"แต่แบงค์ช่วยแต่งงานรักษาหน้าให้ส้มหน่อย อดทนแค่แปดเดือน และเมื่อถึงตอนนั้นส้มจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง แบงค์ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะต้องทนอยู่กับส้มไปตลอดชีวิต เพราะส้มก็ไม่ได้อยากอยู่กับคนไร้หัวใจ และใจร้ายแบบแบงค์เหมือนกัน"

"คำพูดของเธอมันเชื่อได้ด้วยเหรอส้ม ขนาดตลบหลังฉันเธอยังทำมาแล้วเลย"

ทว่าเหมือนเพื่อนชายยังไม่ยอมจบพูดจาจิกกัดเธอไม่เลิก แน่นอนว่าเธอย่อมรู้สึกแต่พยายามอดทนไว้ขืนตอบโต้ไปอีกเกรงว่าวันนี้ก็คงไม่จบ 

เธอรู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจอย่างจะกลับบ้านเต็มทีแล้ว

"ส้มเหนื่อยอยากกับไปพักผ่อนแล้ว เราแยกกันตรงนี้แล้วกัน" พูดตัดบทแล้วหันหลังเดินจากไปทันทีไม่รอให้อีกคนพูดจาจิกกัดอะไรได้อีก

"อ๊ะ!" 

ก้าวเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวเธอก็ต้องหลุดร้องด้วยความตกใจกับแรงดึงจากด้านหลังทำให้ตัวเธอเซเล็กน้อย ครั้นตั้งตัวได้ก็หันกลับไปถามไถ่ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจพลางดึงแขนออกจากการจับกุม "อะไรอีกแบงค์" 

"กลับเองงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าพอห่างจากฉันหน่อยเธอก็โทรไปฟ้องแม่ฉันอีกเหรอว่าฉันไม่ยอมไปส่ง เหมือนที่โทรไปฟ้องว่าฉันไม่อยู่ลองชุดแต่งงานด้วย" แบงค์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว จับจ้องใบหน้าเรียวด้วยแววตาวาวโรจน์

"อะไรกันอีกส้มไม่รู้เรื่อง ส้มไม่ได้โทรฟ้องแม่แบงค์" คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างส้มได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่ได้ยิน คำถามมากมายผุดขึ้นเต็มสมองไปหมดว่านี่มันเกิดบ้าอะไรกัน ทั้งเรื่องที่เพื่อนชายหาว่าเธอตลบหลังบอกเรื่องท้องกับพ่อแม่เขา ไหนจะเรื่องที่โทรฟ้องนี่อีก

เธอไม่ได้เป็นคนทำ ทว่าแล้วใครกันที่เป็นคนทำเพราะเรื่องพ่อของลูกในท้องมีแค่เธอกับเพื่อนชายที่รู้ ซึ่งไม่แปลกเลยถ้าเขาจะคิดว่าเป็นเธอ แต่เขาก็ควรฟังเธออธิบายบ้างไม่ใช่คิดเองตัดสินเองแบบนี้

บอกตามตรงว่าเจอแบบนี้ก็เหนื่อยเหมือนกัน..

"ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมีแค่ฉันกับเธอ ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร หรือเธอคิดว่าฉันจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนเอง"

"แบงค์จะให้ส้มเป็นคนผิดให้ได้เลยใช่ไหม งั้นก็ได้ใช่ส้มเป็นคนทำเอง พอใจรึยัง" เมื่ออีกคนยังคงพยายามยัดเยียดให้เธอเป็นคนผิดให้ได้เธอก็ยอมรับไปหวังว่ามันจบ ๆ สักที ตะเบ็งเสียงใส่หน้าเขาดังลั่น จากนั้นก็สะบัดแขนออกจากการจับกุม แล้วรีบสาวเท้าเดินหนี

ขณะที่แบงค์ได้แต่กำหมัดแน่นมองร่างบางที่เดินจากไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย คำพูดของหญิงสาวทำให้เขาสับสนชั่วขณะไม่คิดว่าเธอจะยอมรับง่าย ๆ แต่เหมือนเป็นการยอมรับที่ทำให้มันปล่อย ๆ ไปมากกว่า

สรุปแล้วเธอเป็นคนทำหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครในเมื่อเรื่องนี้มีแค่เธอกับเขาที่รู้ ทุกอย่างมันบ่งชี้ไปที่เธอหมด

แรงจูงใจคือเธอแอบรักเขา เรื่องนี้เขารู้มานานแล้ว แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เพราะคนที่เขาชอบคือนับดาว และต้องการรักษามิตรภาพอันดีเอาไว้

แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมทนอยู่กับเธอถึงแปดเดือนแน่ ๆ เขาจะทำทุกทางให้เธอถอยออกไปจากชีวิตของเขาโดยเร็วที่สุด จะทำหน้าที่พ่อของลูกเพียงเท่านั้น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 11 งานแต่งจอมปลอม

    วันเวลาดำเนินมาถึงวันที่ส้มกับแบงค์ต้องแต่งงานกัน ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยซึ่งจัดขึ้นที่บ้านของส้ม ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ทั้งสองจะบาดหมางกันแต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีปั้นหน้ายิ้ม และแสดงความรักต่อหน้าแขกเหรื่อได้อย่างแนบเนียน และช่วงค่ำก็เป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสที่โรงแรมชื่อดัง งานฉลองของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมฐานะของสองตระกูล แขกเหรื่อถูกเชิญมาร่วมงานนับพันคน"เฮ้อ.." ส้มมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ชุดเจ้าสาวแสนสวยที่สวมอยู่บนตัวไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขสักนิด ในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมอยากจะให้งานแต่งนี้เสร็จสิ้นไว ๆ ด้วยซ้ำไปเพราะเหนื่อยกับการที่ต้องปั้นหน้ายิ้ม และทำตัวเหมือนมีความสุขเต็มทน"วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหมส้ม ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยสิ" นับดาวที่คอยช่วยเพื่อนสาวแต่งตัวเอ่ยขึ้นครั้นเห็นสีหน้าเศร้าหมองในกระจกของเพื่อนพลางใช้มือตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจและปลอบประโลมในเวลาเดียวกัน เพื่อนสาวเล่าทุกอย่าที่เกิดขึ้นให้ฟังหมดแล้วเธอจึงเข้าใจความรู้สึกเพื่อนสาวดีเพราะเคยผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 12 เหยียบย่ำหัวใจ

    "หึ" ส้มมองห้องที่ถูกจัดเป็นห้องหอ บนเตียงโรยด้วยกลีบกุหลาบเป็นรูปหัวใจอย่างสวยงามด้วยแววตาว่างเปล่าพร้อมกับเค้นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน เธอช่างเป็นเจ้าสาวที่น่าสมเพชสิ้นดีนอกจากจะโดนเจ้าบ่าวพูดจาจิกกัดตลอดงานแล้ว ในคืนเข้าหอเจ้าบ่าวก็หายตัวไปอีก หลังจากแขกเหรื่อทยอยกันกลับไปหมดเจ้าบ่าวของเธอก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน ยอมรับว่าเสียใจไม่น้อยต่อให้นี่จะเป็นการแต่งงานปลอม ๆ เขาก็ควรให้เกียรติเธอกับครอบครัวหน่อย หากคนอื่นรู้คงเอาไปนินทากันสนุกปากเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนทำการปัดกลีบกุหลาบบนที่นอนออกจนเกลี้ยง จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนทั้งที่ยังสวมชุดแต่งงานอยู่เพราะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก ๆ เปลือกตาก็แทบปิดอยู่รอมร่อ ทันทีที่หัวถึงหมอนนุ่ม ๆ เพียงไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปติ้ง~ ติ้ง~ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอหลับไปกระทั่งเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ยกมือขึ้นขยี้ตาไล่อาการงัวเงียเบา ๆ ก่อนจะลุกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หน้าโต๊ะกระจกมาดู คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าข้อความที่ถูกส่งมาจากไลน์แปลก ๆ โปรไฟล์เป็นรูปตั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 13 คนสกปรก

    "อ๊ะ!"หัวใจดวงน้อย ๆ ของส้มหล่นวูบลงสู่ตาตุ่มเมื่อถูกเพื่อนชายทุ่มลงบนเตียงนุ่ม ๆ สีหน้าแสดงความตื่นตระหนกให้เห็นอย่างชัดเจน "แบงค์จะทำอะไร""ลองมีอะไรกับคนความคิดสกปรก และร่างกายสกปรกแบบฉันหน่อยเป็นไร ไหน ๆ เธอก็ยอมลงทุนตลบหลังฉันบากหน้าไปบอกเรื่องท้องกับพ่อแม่ฉันจนได้ตำแหน่งเมียไปครอง" ไม่ว่าเปล่าแบงค์ตามลงไปคร่อมร่างบางที่กำลังจะขยับหนีทันที รวบมือเรียวทั้งสองกดตรึงไว้ข้างศีรษะ จับจ้องดวงหน้าเรียวที่ฉายไปด้วยความตื่นตระหนกนิ่ง ๆความจริงเขาไม่ได้อยากทำเกินเลยกับหญิงสาวเป็นครั้งที่สอง แต่คำพูดของเธอทำให้เขาเปลี่ยนความคิด"อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะแบงค์ส้มท้องอยู่ เราตกลงกันแล้วไงว่าจะอยู่ด้วยกันในฐานะพ่อแม่ของลูกเฉย ๆ จะไม่มีเรื่องแบบนี้" ส้มทักท้วงข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันก่อนแต่งงานหวังว่าจะช่วยเตือนสติเพื่อนชายได้บ้าง พร้อมกับพยายามขืนมือออกจากการกดตรึง เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเขาถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ พอเวลาต้องเลิกกันมันคงเจ็บปวดมาก บางทีอาจจะมองหน้าไม่ติดกันด้วยซ้ำไป และที่สำคัญเธอไม่อยากซ้ำรอยใครเธอรับไม่ได้จริง ๆ"ฉันเป็นหมอฉันรู้ว่าทำได้ หรือไม่ได้ เธอแค่นอนอ้าขาให้ฉั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 14 ลูกที่ไม่ต้องการ

    หลังจากแบงค์เสร็จสมตามที่ตัวเองต้องการเขาก็ทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้หญิงสาวอย่างไร้เยื่อใย จากนั้นไม่กี่นาทีก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อวาน ขณะที่ส้มได้แต่กลำกลืนความขืนขมไว้ในอกกับท่าทางของเพื่อนชายที่ทำเหมือนเธอเป็นกระโถนรองรับอารมณ์พอได้ดั่งใจก็ทิ้งขว้างไม่เหลียวแลจ้องมองแผ่นหลังกว้างด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะละสายตาออก หยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบอกแล้วพาตัวลงจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายที่เคลือบไปด้วยเหงื่อ และน้ำกามตามหว่างขาออกจากนั้นออกมาแต่งตัวโดยที่อีกคนยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง และเธอไม่คิดจะปลุกเขา ครั้นแต่งตัวเสร็จก็เดินลงไปยังชั้นล่างของบ้านวิสุทธิ์ภักดี"อ้าว! หนูส้มทำไมรีบลงมา ไม่พักผ่อนอีกหน่อยล่ะจ๊ะ กำลังท้องกำลังไส้อยู่ เมื่อวานก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" ผกาที่นั่งคุยกับสามีในห้องโถงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมกับระบายยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นลูกสะใภ้คนโปรดเดินลงมาจากบันใด"หนูชินกับการตื่นเช้าแล้วค่ะคุณป้า" ส้มระบายยิ้มตอบพร้อมกับเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาอีกตัว "ยังเรียกป้าอยู่อีก หนูแต่งงานเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ไม่ใช่เพื่อนตาแบงค์แล้ว เรียก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 15 คนมักมาก

    หลังจากหาหมอเสร็จส้มก็โทรเรียกแกร็บคาร์ แล้วออกไปยืนรอด้านหน้าอาคารของโรงพยาบาล ยืนรอไม่ถึงห้าสิบนาทีรถก็มาถึง เธอลอบถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากก้าวขึ้นมานั่งบนรถแล้วเพราะอากาศข้างนอกทั้งร้อนทั้งอบอ้าว พอได้รับแอร์เย็นฉ่ำทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย มือเรียววางลงบนหน้าท้องที่มีอีกหนึ่งหัวใจอาศัยอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย หมอบอกว่าเธอตั้งครรภ์ได้ห้าสัปดาห์แล้ว ถึงแม้เขาจะเกิดมาจากความผิดพลาดแต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ และมันยังมาจากผู้ชายที่เธอแอบรักหมดหัวใจถือเสียว่าเป็นตัวแทนความรักของเธอที่มีต่อเขาก็แล้วกัน ต่อให้พ่อของเขาจะไม่ต้องการแต่เธอจะดูแลหัวใจดวงนี้ให้ดีที่สุด แววตาเศร้าหมองทอดมองวิวริมทางขณะที่รถกำลังแล่นไปตามถนน มือยังคงวางบนหน้าท้องแบนราบในสมองครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เธอไม่รู้เลยว่าวันข้างต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง และไม่รู้ว่าจะสามารถทนต่อความร้ายกาจของเพื่อนชายได้ตลอดรอดฝั่งไหม แต่ไม่ว่ายังไงเธอจะอดทนให้ถึงที่สุดหากไม่ไหวจริง ๆ ค่อยว่ากันอีกทีเธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ครั้นแกร็บคาร์เคลื่อนตัวมาจอดลงหน้ารั้วบ้านวิสุทธิ์ภักดี เลือกให้รถจอดหน้าร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 16 ไม่ไว้ใจ

    อื้อ.." ส้มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่สดชื่นเลยสักนิด หนำซ้ำยังปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมดเพราะนอนบนพื้นตลอดคืน ใช่ฟังไม่ผิดเมื่อคืนเธอหลับไม่ลงจริง ๆ เพราะกลิ่นแอลกอฮอล์บวกกลิ่นบุหรี่จากคนข้าง ๆ ลอยเข้าจมูกแม้ใช้ผ้าห่มปิดจมูกแล้วก็ตาม จนเธอทนไม่ไหวสุดท้ายต้องเอาผ้าห่มมารองนอนที่พื้นแข็ง ๆ และเย็นเฉียบบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้า ขณะที่อีกคนนอนหลับสบายอยู่บนเตียงเธอประสานมือเหนือศีรษะแล้วบิดตัวไปมาเพื่อไล่อาการปวดเมื่อยออก จากนั้นก็หยัดกายลุกขึ้นยืนพับผ้าห่มไปวางบนที่นอน ซึ่งยังมีคนเห็นแก่ตัวนอนอยู่ ยืนจ้องใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกตัดพ้อขนาดเธอท้องอยู่เขาก็ยังไม่คิดเห็นใจ หรือไม่อย่างน้อยเขาควรนึกถึงลูกในท้องเธอบ้างเพราะเป็นลูกเขาเช่นกันไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอยืนมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่แบบนั้น กระทั่งร่างสูงเริ่มขยับเขยื้อนเธอจึงละสายตาออก แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาอาบน้ำยี่สิบนาทีก็เสร็จครั้นเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเพื่อนชายนั่งพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางงัวเงียคงเพิ่งตื่น เธอปรายตามองแวบหนึ่งแล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจ รีบหยิบเสื้อผ้าพาเข้าไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 17 น่ารังเกียจ

    จากวันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาห้าเดือนเดือนเต็ม ๆ ที่ส้มเข้ามาอยู่ในบ้านวิสุทธิ์ภักดี ทุกอย่างยังคงวนลูปเหมือนเดิมแม้เธอจะอยู่อย่างสะดวกสบายในบ้านหลังนี้ แต่ใจของเธอมีแต่ความทุกข์ระทมไม่เคยได้สัมผัสคำว่าความสุขเลยเพราะถูกเพื่อนชายรังแกทั้งทางร่างกาย วาจา และจิตใจ เรื่องลูกเขาก็ไม่เคยสนใจตั้งแต่เธอท้องเดือนแรกกระทั่งเข้าเดือนที่หกแล้วเขาไม่แม้แต่จะถามถึงสักครั้ง เวลาไปหาหมอก็แค่พาไปตามหน้าที่ ไปส่งเธอแล้วทิ้งให้กลับเองทุกครั้ง อย่างเช่นตอนนี้ที่เขามาส่งเธอแล้วกลับไป ครั้นหาหมอเสร็จเธอก็ต้องโทรเรียกแกร็บคาร์ให้ไปส่งที่บ้านเหมือนเช่นเคย ชีวิตของการมีสามีมันเหมือนจะเหนื่อย และทุกข์ใจกว่าตอนอยู่ตัวคนเดียวด้วยซ้ำเมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ตรงขึ้นห้องนอนทันทีเพราะวันนี้ผกาไม่อยู่บ้านเลยไม่ต้องแวะพูดคุยกับท่าน ส่วนอีกคนคงจะกลับมาดึก ๆ หรือไม่ก็ไปนอนกกกับผู้หญิงกลับมาอีกทีก็เช้ามืดเหมือนที่ผ่านมา เพื่อนชายเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเมื่อก่อนเขาไม่เคยดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน และมัวผู้หญิงแบบนี้ แต่พอแต่งงานกับเธอก็เป็นอย่างที่เห็นเธอเจอเรื่องแบบนี้เกือบตลอดห้าเดือนที่ผ่านมาจนหัวใจมันเริ่มชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 18 เมียเบอร์ 1

    วันต่อมา"อ้วก..แหวะ!"เสียงอาเจียนโฮกฮากดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำทำให้ร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"เฮ้อ.." เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางยกมือขึ้นนี้ผมอย่างไม่สบอารมณ์ ตอนนี้เพิ่งหกโมงเช้าเอง แต่เขาต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงอาเจียนจะนอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว ซึ่งมันเป็นแบบนี้เกือบทุกเช้าลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นจากจมูกโด่งอีกครั้งระคนหงุดหงิด ก่อนเขาจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งใช้มือลูบหน้าไล่อาการงัวเงียออก แล้วขยับไปนั่งห้อยขาริมเตียงมองไปยังประตูห้องน้ำด้วยความไม่พอใจส้มที่เดินออกมาจากห้องน้ำถึงกับชะงักเล็กน้อยในตอนที่ก้าวเท้าพ้นประตูห้องน้ำแล้วเจอกับแววตาดุดันที่มองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคงไม่พอใจที่เธออาเจียนจนทำให้เขาตื่นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทีไม่พอใจแบบนี้ หากเป็นไปได้อยากจะให้เขาลองมาอุ้มท้องเองจริง ๆ จะได้รู้สึกว่ามันเป็นยังไงเธอเลือกจะทำเป็นไม่สนใจเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้มาใส่ แล้วไปนั่งทาครีมที่โต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อเสร็จก็ลุกเดินไปยังชั้นล่างทำเหมือนอีกคนเป็นธาตุอากาศ คิ้วสวยพลันขมวดชนกันด้วยความแปลกใจครั้นเดินลงมาถึงชั้นล่างแล้วเห็นกระเป๋าเดินทางใบโต ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29

บทล่าสุด

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 30 เชื้อพ่อแรง

    หลายวันต่อมาหลังจากวันที่ได้เจอเพื่อนสาวนี่ก็ผ่านไปสี่วันเต็ม ๆ แล้วที่แบงค์เฝ้าตามหาเธอหนักกว่าเดิมเพราะค่อนข้างมั่นใจมากว่าเป็นเพื่อนสาว อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเธออยู่นิวยอร์กจริง ๆ ทว่าเขาออกตามหาทุกซอกทุกมุมของนิวยอร์กก็ไร้วี่แวว จากวันที่ได้เจอเธอเขาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับสมองเอาแต่นึกถึงภาพเพื่อนสาวจนร่างกายซูบผอมลงเล็กน้อยนึกโทษตัวเองตลอดเวลาว่าหากวันนั้นเขาไม่ก้มลงช่วยเด็กคงไม่คาดกับเพื่อนสาว เขาคิดถึงเธอมากอยากจะรู้ว่าเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า แล้วลูกของเขาเป็นยังไงบ้าง มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมากเหลือเกินอยากจะรู้ถึงเรื่องราวชีวิตของเพื่อนสาวกับลูก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ หากหาเพื่อนสาวไม่เจอไม่ได้เอ่ยคำขอโทษออกไปเขาคงต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิด และความทุกข์ระทมตลอดชีวิต วันนี้ผลจากการกระทำเลว ๆ ได้ย้อนกลับมาคืนสนองเขาแล้วทางด้านส้มเธอก็ได้ให้กำเนิดบุตรสาวในตอนเที่ยงของเมื่อวานโดยวิธีผ่าคลอด และนับว่าเป็นโชคดีของเธอที่บุตรสาวเกิดมาสมบรูณ์ดีทุกอย่างแม้ว่าตอนอุ้มท้องเธอจะเครียด เศร้า และร้องไห้อยู่บ่อย ๆเธอนอนมองลูกน้อยที่หลับในอ้อมกอดด้วยความรู้สึกเจ็บช้ำในอกเพราะบุตรสาวหน้

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 29 อย่าพบเจอกันอีกเลย

    วันรุ่งขึ้นแบงค์ก็เดินทางไปยังประเทศอเมริกาทันทีจุดมุ่งหมายคือนครนิวยอร์กตามที่คิดไว้ว่าเพื่อนสาวน่าจะอยู่ที่นั่น ครั้นเดินทางมาถึงเขาก็เข้าพักผ่อนที่โรงแรมชื่อดังย่านใจกลางเมือง นอนพักผ่อนเอาแรงวันพรุ่งนี้จะได้เริ่มออกตามหาเพื่อนสาวพอรุ่งเช้าแบงค์ก็เริ่มออกตามหาเพื่อนสาวทันทีโดยเริ่มจากบริเวณโรงแรมที่พักอยู่ใช้รูปถามไถ่ผู้คนไปเรื่อย ๆ และยังจ้างนักสืบของที่นี่ช่วยตามหาอีกแรง ทว่าผลการตามหาในวันแรกกลับไม่ได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเธอเลย ทุกคนที่เขาไปถามไถ่ต่างบอกว่าไม่เคยเจอแต่ไม่ว่ายังไงเขาจะไม่มีวันถอดใจ นิวยอร์กพื้นที่ออกกว้างขว้างต้องมีสักที่แหละที่เขาจะเจอเพื่อนสาวแม้จะต้องใช้เวลาพอสมควรก็ตาม"เธอกับลูกอยู่ที่ไหนนะส้ม" เขาถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาเปิดดูรูปของเพื่อนสาวที่ถ่ายคู่กับเขา นิ้วเรียวลูบไล้ใบหน้าที่เคลือบด้วยรอยยิ้มของเพื่อนสาวบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกผิดรอยยิ้มที่เขาคงไม่มีวันได้เห็นมันอีกเพราะเขาได้ทำลายมันเองกับมือไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขานั่งมองรูปเพื่อนสาวอยู่อย่างนั้น ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วปิดหน้าจอโทรศัพท์ลงจัดก

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 28 รู้ตัวเมื่อสายไป

    ภายในห้องโถงตกอยู่ในความเงียบนานหลายนาที ก่อนแบงค์จะยกมือขึ้นไหว้ขอโทษพ่อแม่ของเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกผิด "ผมขอโทษคุณลุง คุณป้าอีกครั้งนะครับที่เป็นต้นเหตุทำให้ส้มหายไป""ขอโทษให้ได้อะไรขึ้นมา ขอโทษไปก็ไม่ได้ทำให้ลูกสาวลุงกลับมา ถ้าอยากให้ลุงยกโทษให้ก็ตามลูกสาวลุงกลับมาให้ได้สิ" อภิสิทธิ์เป็นคนตอบ สายตาจ้องมองหน้าเด็กหนุ่มด้วยความโกรธ "หากแบงค์ไม่พาเมียน้อยมาหยามหน้าลูกสาวลุงถึงในบ้าน แถมยังมีลูกด้วยกันอีกลูกสาวลุงคงไม่หนีเตลิดไปแบบนี้แบงค์ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นไม่คิดแก้ตัวแม้ทุกอย่างที่ท่านพูดไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนเห็นสักนิด ความจริงคือผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เมียน้อย หรือเด็กของเขา และเธอก็ไม่ได้ท้องด้วยทุกอย่างล้วนเป็นการแสดงเขาจ้างผู้หญิงคนนั้นให้ช่วยแสดงละครเป็นผู้หญิงของเขาเพื่อทำให้เพื่อนสาวรู้ซึ้งถึงการถูกหักหลัง เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอสักครั้ง และเขาก็ไม่ใช่คนมักมากที่มีอะไรกับใครไปทั่วอย่างที่เพื่อนสาวคิด ทุกอย่างที่เห็นล้วนเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้น เขาไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืนเหมือนที่เพื่อนสาวเข้าใจ แต่ทำเหมือนว่าไปเที่ยวจริง ๆ ด้วยการซื้อเหล้าไปนั่งดื่มที่คอนโด ซื้

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 27 ความจริง

    จากวันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาสามเดือนเต็ม ๆ แล้วที่ส้มหนีมาอยู่อเมริกา เดือนแรกที่มาอยู่มันยากเย็นมากสำหรับเธอ รู้สึกโดดเดี่ยวเคว้งคว้างหัวใจสุด ๆ กลางคืนนอนกอดตัวเองร้องไห้จนหลับไปทุกคืนเพราะคิดถึงคนใจร้าย แต่พอเข้าเดือนที่สองก็เริ่มเคยชินกับการอยู่ตัวคนเดียว กระทั่งมาถึงวันนี้หัวใจที่บอบช้ำของเธอค่อย ๆ แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจมีคิดถึงเขาบ้างแต่ก็ไม่ได้มีน้ำตา หรือเจ็บปวดเหมือนช่วงแรก เวลาค่อย ๆ เยียวยาหัวใจที่แตกสลายของเธอ และเชื่อว่าในสักวันเธอจะนึกถึงเขาได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย..เธอนั่งมองรูปที่เคยถ่ายกับเพื่อนชายในโทรศัพท์ด้วยแววตาเรียบนิ่ง วันนี้เธอสามารถมองรูปของเขาได้โดยไม่มีน้ำตาแล้ว มือเรียวเลื่อนดูรูปในโทรศัพท์ที่เป็นโมเม้นต์ต่าง ๆ ของเธอกับเขาที่มีมากกว่าสองร้อยรูปไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงรูปสุดท้ายจึงกดไปที่ลบอัลบั้มวันนี้เธอตัดสินใจจะลบออกจากโทรศัพท์แม้จะรู้สึกเสียดายก็ตาม แต่ในเมื่อมันเป็นแค่อดีตไปแล้วก็ไม่รู้จะเก็บไว้อีกทำไม เธอหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ พร้อมกับจิ้มนิ้วลงบนคำว่ายืนยันลบรูป แค่เสี้ยวนาทีรูปนับสองร้อยก็หายไปในพริบตา นับจากนี้ไปจะไม่มีคนชื่อแบงค์อยู่ในชีวิต

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 26 แผลสด

    "น้องส้มอยากทานอะไรครับ บอกมาได้เลยเดี๋ยวพี่พาไป" เจ้านายถามไถ่ขณะขับรถไปตามถนนทำให้ส้มที่ทอดสายตามองวิวริมทางอย่างเหม่อลอยได้สติ หันหน้ากลับมาตอบอย่างเกรงใจ "ส้มทานอะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่พี่นายเลย""งั้นอาหารไทยไหมครับ มีร้านอาหารไทยร้านหนึ่งพี่ไปทานเป็นประจำเลย" เจ้านายเสนอ ซึ่งส้มก็พยักหน้ารับ "ค่ะ""น้องส้มท้องได้กี่เดือนแล้วครับ" เจ้านายชวนคุยไปเรื่อย ๆ เพื่อสร้างความสนืทสนมกับหญิงสาว"ห้าเดือนใกล้หกเดือนแล้วค่ะ" "แล้วรู้รึยังครับเพศหญิง หรือเพศชาย""หญิงค่ะ" ส้มยิ้มตอบ ทว่าในใจกลับย้อนนึกถึงอีกคนที่เป็นถึงพ่อแท้ ๆ แต่ไม่เคยถามไถ่อะไรเกี่ยวกับลูกเลย พอคิดแล้วความรู้สึกก็เริ่มดำดิ่งอีกครั้ง ใบหน้าเรียวหม่นหมองลงฉับพลันจนเจ้านายที่ปรายตามองเธอเป็นครั้งคราวสัมผัสได้จึงชวนคุยเรื่องอื่นเพื่อไม่ให้เธอเศร้า"อาหารไทยน้องส้มชอบทานอะไรมากที่สุดครับ""ส้มตำค่ะ แซ่บสุดอร่อยสุดแล้ว" คำถามจากชายหนุ่มทำให้ส้มต้องปรับอารมณ์ฝืนระบายยิ้มออกมาบาง ๆ "เหมือนพี่เลยครับชอบทานส้มตำ อีกอย่างก็คือต้มยำทะเล" "ค่ะ แล้วพี่เจ้านายอยู่อเมริกานานแล้วเหรอคะ" ส้มเป็นฝ่ายชวนคุยบ้างเพราะหากปล่อยให้ชายหนุ่มชวนคุยอย

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 25 งมเข็มในมหาสมุทร

    หลังจากกลับมาจากบ้านเอกวิโรจน์แบงค์ก็เดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงในห้องนอนด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในสมอง คำถามผุดขึ้นในสมองตลอดเวลาว่าหญิงสาวหายไปไหน จะว่าไปอยู่บ้านเพื่อนคนไหนก็คงไม่ใช่เพราะเธอมีแค่นับดาวกับเขาที่เป็นเพื่อนกันเท่านั้น ลองติดต่อไปที่คนรู้จักของเธอ ทุกคนต่างก็บอกว่าไม่รู้ลำพังเขาไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนเท่าไรหรอกกับการหายไปของเธอแม้จะรู้สึกวูบโหวงในใจอยู่บ้างคิดว่าอีกสักพักคงหายไปเอง แต่พ่อแม่ของเขากับพ่อแม่ของเธอพากันโทษว่าเป็นความผิดของเขา และบังคับให้เขาตามหาหญิงสาวให้เจอ โดยเฉพาะแม่ของเขาที่ยื่นคำขาดว่าหากหาเธอไม่เจอจะตัดเขาออกจากกองมรดกแต่ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าจะเริ่มตามหาหญิงสาวจากตรงไหนดีเพราะไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยสักนิด หนำซ้ำก่อนหน้านี้เธอไม่มีท่าทีว่าจะจากไปเลย หากหาก็เหมือนงมเข้มในมหาสมุทร เธอยังอยู่ในกรุงเทพหรือไปอยู่จังหวัดไหนก็มิอาจรู้ได้"เฮ้อ.." ลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นออกจากจมูกโด่งด้วยความรู้สึกหนักใจ ก่อนเขาจะทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา ยกมือขึ้นกายหน้าผาก สายตาจ้องมองเพดานสีขาวอย่างครุ่นคิด ผ่านไปเนินนานหลายนาทีจึงดีดตัวลุกขึ้นนั่งครั้นคิดอะไรออก ล้วงไปหยิบโทร

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 24 หายไปไหน

    @บ้านเอกวิโรจน์รถโตโยต้า อัลฟาร์ดที่มีผกากับแบงค์นั่งอยู่ด้านในเคลื่อนตัวมาจอดลงยังบ้านเอกวิโรจน์ ก่อนทั้งสองจะพากันลงจากรถเดินเข้าไปในบ้าน"เอ้า! คุณพี่ผกาสวัสดีค่ะ" อัปสรที่นั่งอยู่ในห้องโถงรีบลุกขึ้นทักทายเมื่อเหลือบเห็นผกากับบุตรชายเดินเข้ามา อดแปลกใจไม่ได้ที่จู่ ๆ ทั้งสองก็มาปรากฏตัวที่บ้าน "มาได้ยังไงกันคะเนี่ย"ผกาพยักหน้ารับไหว้ ขณะที่แบงค์นั้นยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม "สวัสดีครับคุณป้า"อัปสรยิ้มรับ ก่อนทั้งสามจะพากันนั่งลงที่โซฟา"ฉันกับตาแบงค์มาหาหนูส้มน่ะ" ผกาเปิดประเด็นคุยทันที ขณะที่สายตามองสำรวจไปรอบบ้านเพื่อหาลูกสะใภ้เช่นเดียวกับแบงค์ที่กวาดสายตามองหา แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า"มาหาส้ม ไม่ใช่ว่าส้มอยู่ที่บ้านคุณพี่เหรอคะ" อัปสรถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความงุนงง จู่ ๆ ผกาก็มาถามหาบุตรสาวที่นี่ ซึ่งเธอคิดว่าบุตรสาวอยู่บ้านวิสุทธิ์ภักดีมาตลอด แล้วตกลงมันยังไงกันแน่ มองหน้าถามทั้งสองสลับกันไปมาด้วยความสงสัย "มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ น้องงงไปหมดแล้ว""บอกไปสิตาแบงค์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ผกาหันมองหน้าบุตรชายด้วยแววตาดุ แบงค์อำอึ้งอยู่สักพักใหญ่ก่อนบอกกล่าวไปอย่างไม่เต็มเสียงมากน

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 23 สวนทางความรู้สึก

    หัวใจของแบงค์วูบโหวงโดยไม่ทราบสาเหตุวินาทีที่เห็นข้อความบนกระดาษที่เขียนว่าใบสำคัญการหย่ามีลายเซ็นของหญิงสาวเรียบร้อยใบหย่าคือสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด แต่ทำไมเขาไม่ได้รู้สึกดีใจหรือมีความสุขสักนิดทั้งที่ความจริงเขาควรรู้สึกแบบนั้นไม่ใช่อาการวูบโหวงในอกอย่างเช่นตอนนี้รีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าดูปรากฏว่าภายในตู้เหลือเพียงเสื้อผ้าของเขาแขวนอยู่ ส่วนฝั่งของหญิงสาวว่างเปล่ามีเพียงไม้แขวนไร้เสื้อผ้าเขาเดินกลับมาหย่อนก้นลงนั่งริมเตียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย อีกมือยื่นไปหยิบแหวนแต่งงานที่หญิงสาวถอดทิ้งเอาไว้มาดูสลับกับใบหย่า พร่ำบอกตัวเองว่ามันเป็นสิ่งที่เขาต้องการแล้วทำไมถึงไม่ดีใจบางทีอาจเป็นเพราะอยู่กับเธอทุกวันพอรู้ว่าอีกคนหายไปเป็นปกติที่ต้องรู้สึกแปลก ๆ เขาลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะสลัดความคิดและความรู้สึกที่ตีกันออก แล้วลุกถอดเสื้อผ้าคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำทว่าพอเข้ามาในห้องน้ำแล้วเห็นแก้วใส่แปรงสีฟันเหลือเพียงของเขาอันเดียววางโดดเดี่ยว โฬมล้างหน้าและของใช้ต่าง ๆ ของเธอที่เคยวางเต็มขอบอ่างล้างหน้าก็หายไปพานทำให้รู้สึกแปลก ๆ ไม่น้อย เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย.."บ้าชะมัด" เส

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 22 ไม่ได้หมดรัก แต่หมดแรง

    วันต่อมาส้มขับรถออกจากคอนโดกลับบ้านวิสุทธิ์ภักดีแต่เช้าเพื่อเก็บเสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ เพราะเธอจองตั๋วเครื่องบินสำหรับไปประเทศอเมริกาตอนสิบเอ็ดโมงเธอลอบถอนหายใจเบา ๆ เมื่อรถจอดลงหน้าบ้านนั่งจมอยู่กับความเศร้าเนินนานหลายนาที ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ เท้าเล็กพลันหยุดชะงักหลังจากที่ก้าวเดินได้เพียงสองสามก้าวในตอนที่เห็นผู้ชายใจร้ายเดินออกมาจากบ้าน จ้องมองใบหน้าของเขาด้วยนัยน์ตาเศร้าหมองระคนเจ็บปวด นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นหน้าหล่อ ๆ ของเขาซึ่งตอนนี้เขาก็มองมาที่เธอเช่นกันแต่มองด้วยสายตาเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึกมันเจ็บปวดในอกเหลือเกิน มือเรียวกำหมัดแน่นพยายามข่มหยาดน้ำตาที่กำลังจะรินไหลออกจากหางตา แล้วก้าวเท้าเดินต่อสายตามองตรงไปข้างหน้าเดินสวนไปราวกับคนไม่รู้จักกันทั้งที่ในใจกำลังร้องไห้อยู่หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ค่อย ๆ หยดเผาะลงบนพวงแก้มครั้นเดินผ่านผู้ชายใจร้ายมาได้แค่สองก้าวเพราะคำว่ารักเพียงคำเดียวทำให้เธอเจ็บปวดได้มากขนาดนี้แม้พยายามบอกใจให้เกลียดเขา แม้พยายามทำเป็นเข้มแข็งแล้วก็ตาม แต่ในสักวันเธอจะต้องเลิกรักเขาให้ได้..มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากพวงแก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status