หน้าหลัก / โรแมนติก / อุ้มรักเพื่อนสนิท / บทที่ 11 งานแต่งจอมปลอม

แชร์

บทที่ 11 งานแต่งจอมปลอม

ผู้เขียน: ลภัสลัล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 10:39:36

วันเวลาดำเนินมาถึงวันที่ส้มกับแบงค์ต้องแต่งงานกัน ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยซึ่งจัดขึ้นที่บ้านของส้ม ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ทั้งสองจะบาดหมางกันแต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีปั้นหน้ายิ้ม และแสดงความรักต่อหน้าแขกเหรื่อได้อย่างแนบเนียน 

และช่วงค่ำก็เป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสที่โรงแรมชื่อดัง งานฉลองของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมฐานะของสองตระกูล แขกเหรื่อถูกเชิญมาร่วมงานนับพันคน

"เฮ้อ.." ส้มมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ชุดเจ้าสาวแสนสวยที่สวมอยู่บนตัวไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขสักนิด 

ในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมอยากจะให้งานแต่งนี้เสร็จสิ้นไว ๆ ด้วยซ้ำไปเพราะเหนื่อยกับการที่ต้องปั้นหน้ายิ้ม และทำตัวเหมือนมีความสุขเต็มทน

"วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหมส้ม ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยสิ" นับดาวที่คอยช่วยเพื่อนสาวแต่งตัวเอ่ยขึ้นครั้นเห็นสีหน้าเศร้าหมองในกระจกของเพื่อนพลางใช้มือตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจและปลอบประโลมในเวลาเดียวกัน 

เพื่อนสาวเล่าทุกอย่าที่เกิดขึ้นให้ฟังหมดแล้วเธอจึงเข้าใจความรู้สึกเพื่อนสาวดีเพราะเคยผ่านเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้ว

"เจ้าสาวที่สวยที่สุด แต่ไม่มีความสุข" ส้มเลื่อนสายตามองหน้าเพื่อนสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังผ่านกระจกอย่างปลง ๆ จะให้เธอมีความสุขได้ยังไงกันในเมื่องานแต่งครั้งนี้เกิดขึ้นจากการถูกบังคับ เธอได้แต่งงานกับคนที่รักก็จริงแต่เพราะลูก หนำซ้ำเขาก็ไม่ได้รักเธอสักนิด

"เอาน่าฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้น"

"ฉันก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น"

แกร็ก!

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันประตูก็ถูกเปิดเข้ามาโดยแม่ของส้มนั่นเอง 

"ช่วยทำหน้าให้มันดี ๆ สมกับเป็นวันดี ๆ หน่อยได้ไหมยัยส้ม" อัปสรเดินเข้ามาหยุดยืนข้างบุตรสาวแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุรู้สึกไม่ชอบใจกับสีหน้าเศร้าหมองของบุตรสาวทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของตัวเองแท้ ๆ

"มันคงเป็นวันดี ๆ ของแม่กับพ่อมากกว่าค่ะ ไม่ใช่วันดีสำหรับส้ม" ส้มตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเอี่ยวมองหน้าท่านด้วยแววตาตัดพ้อ 

หากท่านฟังและนึกถึงความรู้สึกของเธอสักนิดท่านจะรู้ว่าเธอไม่ได้มีความสุขกับการแต่งงานครั้งนี้เลย ขนาดเธอบอกไปตรง ๆ ก็แล้วว่าไม่อยากแต่งท่านก็ยังจะบังคับ

"พูดให้มะ.." 

"ใจเย็น ๆ นะคะคุณแม่ วันนี้เป็นวันดีอย่าทะเลาะกันเลยค่ะ" นับดาวรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่แม่ของเพื่อนสาวจะได้เอ่ยอะไรออกมาเพราะดูจากสีหน้าของท่านแล้วคงโกรธมากที่เพื่อนสาวตอบไปแบบนั้น เกรงว่าจะทะเลาะกันใหญ่โตพานทำให้เสียบรรยากาศในวันดี ๆ

"จ้ะ" อัปสรยอมสงบอารมณ์อย่างว่าง่ายหลับตาพรูลมหายใจออกมายาว ๆ ก่อนจะปรือตาขึ้นเอ่ยกับบุตรสาวอย่างใจเย็นที่สุด "ลงไปที่งานได้แล้ว ถึงเวลาแล้ว"

ส้มไม่ได้ตอบอะไรหยัดกายลุกขึ้นยืน ใช้มือรวบกระโปรงชุดแต่งงานที่ยาวพะรุงพะรังยกขึ้น แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องโดยมีเพื่อนสาวกับผู้เป็นแม่เดินตามหลังไปติด ๆ 

เท้าเล็กชะงักเล็กน้อยเมื่อเดินมาถึงประตูทางเข้างานแล้วเห็นเจ้าบ่าวของเธอยืนอยู่ ไล่สายตามองสำรวจร่างสูงในชุดสูทสีเทาตรงอกด้านขวาติดดอกไม้สีขาวเพิ่มความเก๋ ทรงผมถูกปาดขึ้นโชว์หน้าผากให้ลุคคุณชายสุดเนี้ยบดูแปลกตาจากทุกวันนิ่ง ๆ อดชื่นชมไม่ได้วันนี้เขาหล่อ และดูดีกว่าทุกวันจริง ๆ 

แต่เพียงเสี้ยวนาทีเธอก็รีบสลัดความคิดออกเดินเข้าไปหาเขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง 

ขณะที่แบงค์ก็ไล่สายตามองร่างบางในชุดเจ้าสาวปาดไหล่แขนยาวสีขาวปักลวดลาย Art Deco ด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ จากแบรนด์ระดับโอต์ กูตูร์ สวมเครื่องเพชรประจำตระกูลที่แม่ของเขามอบให้ ทรงผมฟุ้ง รวบหลัง เปิดหน้าผากโชว์ปอยขับใบหน้าที่หวานอยู่แล้วหวานฉ่ำด้วยแววตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก 

ทั้งที่ความจริงคนตรงหน้าสวยมากวินาทีแรกที่เห็นยอมรับว่าตะลึงเล็กน้อบ แต่เสี้ยวนาทีก็สลัดความรู้สึกออกไป

"พร้อมแล้วใช่ไหม" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับอ้าแขนออกเชิงบอกให้เธอควงแขน ส้มพยักหน้ารับพร้อมกับเดินไปยืนเคียงข้างเขาสอดมือเข้าไปควงแขนอย่างรู้งาน 

จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในงานตามพรมแดงที่ถูกปูไว้ ตลอดทางเดินเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย และมีกลุ่มเพื่อน ๆ คอยโปรยกลีบดอกกุหลาบเพิ่มบรรยากาศโรแมนติก

ทั้งสองต้องปั้นหน้ายิ้มทำเหมือนว่ามีความสุขทั้งที่ความจริงต่างทุกข์ระทม ขณะที่กำลังก้าวขึ้นเวทีส้มก็เผลอขยำแขนเสื้อของร่างสูงแน่นเพราะรู้สึกตื่นเต้นเกินไปทำให้อีกคนต้องปรายตามองด้วยความสงสัย กดเสียงถามเบา ๆ "เป็นอะไร"

คนถูกถามส่ายหน้าปฏิเสธเบา ๆ แทนคำตอบพร้อมกับคลายมือออกจากแขนเสื้อเขาเล็กน้อย ซึ่งอีกคนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อพากันเดินไปยังกลางเวทีที่มีพิธีกรรออยู่ 

พิธีกรหญิงวัยสามสิบต้น ๆ คลี่ยิ้มให้คู่บ่าวสาวด้วยความยินดี ก่อนจะเชิญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายขึ้นมากล่าวคำอวยพรบนเวที  "เจ้าบ่าวเจ้าสาวของเรามาแล้ว ลำดับต่อไปขอเชิญพ่อแม่บ่าวสาวขึ้นมากล่าวคำอวยพรค่ะ"

สิิ้นเสียงประกาศของพิธีกรพ่อแม่ของส้มกับแบงค์ก็พากันเดินขึ้นบนเวที กล่าวความรู้สึกของตัวเอง อวยพรบ่าวสาว และกล่าวขอบคุณแขกในงาน จากนั้นก็เชิญประธานขึ้นเวลาเวทีคล้องพวงมาลัยให้บ่าวสาว และกล่าวคำอวยพร

และก็มาถึงช่วงเวลาสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวซึ่งเป็นเวลาที่ส้มรู้สึกกดดันที่สุดกลัวว่าจะถูกถามคำถามแปลก ๆ หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ มือไม้เย็นเฉียบไปหมด ขณะที่แบงค์มีท่าทีเรียบนิ่งไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด

"เจ้าบ่าวเจ้าสาวช่วยเล่าจุดเริ่มต้นของความให้ฟังได้ไหมคะว่าจากเพื่อนสนิททำไมถึงกลายมาเป็นคู่รักกันได้" 

แค่คำถามแรกจากพิธีกรส้มก็ถึงกับสะอึกเผลอจิกเล็บลงบนอุ่งมือแน่น ก่อนหันไปมองร่างสูงข้าง ๆ เชิงขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจ 

สุดท้ายเธอก็ต้องคิดหาคำพูดเอาเอง พยายามบังคับมืออันสั่นเทายกไมค์ขึ้นพูด "พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าความรู้สึกนี้มันก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อไร มารู้ตัวอีกทีต่างคนก็ต่างมีใจให้กันค่ะ" 

ขณะพูดเธอก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วยพร้อมกับระบายยิ้มหวานออกมาทำเหมือนว่ากำลังรู้สึกมีความสุขมากที่ได้เขามาเป็นคู่ชีวิต 

แต่ใครจะรู้เลยว่าในใจขืนขมแค่ไหน แบงค์เค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันกับคำตอบโกหกของหญิงสาว ค่อย ๆ โน้มริมฝีปากไปกระซิบชิดกกหูเล็กด้วยน้ำเสียงหยัน "เธอนี่แต่งเรื่องเก่งจริง ๆ นะ"

คำพูดราบเรียบที่ดังข้างกกหูเหมือนคมมีดกรีดลึกลงกลางใจคนฟัง ตาคู่สวยไหวระริกด้วยความเสียใจ แค่เขาไม่ช่วยพูดว่าแย่แล้ว ยังจะมาพูดจาทำลายความรู้สึกกันอีกทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้กัน 

มือเรียวที่ขนาบอยู่ข้างตัวกำแน่นพยายามข่มก้อนสะอื้นที่กำลังจะตีขึ้นมา เอียงคอออกห่างใบหน้าหล่อเหลาเล็กน้อย แล้วเอี่ยวมองสบสายตาของเขาพร้อมกับระบายยิ้มออกมาราวกับว่าตอนนี้เธอกับเขากำลังหยอกล้อกันให้ทุกคนเข้าใจแบบนั้น

"หื้ม..เจ้าบ่าวเจ้าสาวสวีทหวานไม่เกรงใจกันเลยนะคะ พิธีกรตาร้อนไปหมดแล้ว" พิธีกรสาวเอ่ยแซวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ทั้งสองละสายตาออกจากกันให้ความสนใจแขกเหรื่อเหมือนเดิม ก่อนพิธีกรจะถามคำถามต่อไป

"แล้วอะไรที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวประทับใจในตัวกันและกันคะ" 

"สิ่งที่ผมประทับใจในตัวเจ้าสาวของผมที่สุดคือนิสัยครับ เธอเป็นคนที่รักครอบครัวมาก จิตใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แม้กระทั่งหมาแมวเธอก็ยังช่วยเหลือครับ ที่สำคัญคือเธอคอยอยู่เคียงข้าง และคอยให้กำลังกำลังใจผมเสมอในยามที่ผมพบเจอปัญหา หรือมีเรื่องไม่สบายใจ" 

ครั้งนี้เป็นแบงค์ที่ตอบก่อน ทุกอย่างที่เขาเอ่ยออกไปล้วนมาจากความรู้สึกข้างในหญิงสาวเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทว่าตอนนี้มันกลับไม่ใช่อีกแล้วเพื่อนสาวคนที่แสนดีคนนั้นได้จากเขาไปแล้ว

ส้มมองหน้าเพื่อนชายอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ตอนแรกที่ได้ยินคำถามก็แอบกังวลกลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดออกไป 

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความโล่งอก ก่อนยกไมค์ขึ้นตอบต่อ สายตายังคงจับจ้องบนใบหน้าหล่อเหลาส่งผ่านความรู้สึก

"ส่วนดิฉันสิ่งที่ประทับใจและรักในตัวผู้ชายคนนี้ที่สุดคือนิสัยเช่นกันค่ะ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่มีเขาอยู่เคียงข้าง เขาเป็นเหมือนป้อมปราการที่คอยปกป้องฉันจากอันตรายต่าง ๆ เขาเป็นทั้งเพื่อนและคนรักที่ดีมากค่ะ ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาตั้งแต่ในสถานะเพื่อนจนเลือกขั้นเป็นคนรักเขาดูแลเอาใจใส่ฉันเป็นอย่างดี ทำให้ฉันมีแต่ความสุขและเสียงหัวเราะ" 

ขณะเอ่ยไปน้ำสีใสก็ค่อย ๆ รินไหลออกจากแววตาไหวระริกอย่างสุดจะกลั้น ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายบีบรัดด้วยความเจ็บปวดเพราะผู้ชายคนนั้นที่เธอพูดถึงมันไม่มีอีกแล้ว 

เพื่อนชายที่แสนดีของเธอคนนั้นไม่มีอีกแล้วคนตรงหน้าเธอในตอนนี้เป็นใครก็ไม่รู้ที่ใจร้ายกับเธอมาก ๆ หากสามารถขอพรได้สักข้อเธอก็ขอให้เพื่อนชายคนเดิมของเธอกลับมา 

และขอให้เขารักเธอตอบบ้าง..

สำหรับทุกคนในงานคงคิดว่าที่เธอร้องไห้เพราะรู้สึกดีใจ และตื้นตันที่ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี และรักเธอมากทั้งที่ความจริงไม่ใช่สักนิด 

แน่นอนว่าแบงค์ต้องแสดงเป็นเจ้าบ่าวที่รักเจ้าสาวมากยกมือขึ้นข้างที่ถือไมค์โอบไหล่มนเอาไว้ แล้วใช้อีกข้างซับน้ำตาบนพวงแก้มนวลอย่างอ่อนโยน ส่วนทางกับคำพูดที่เอ่ยออกมา "เธออย่าอินไปหน่อยเลยมันก็แค่การแต่งงานจอมปลอม"

ส้มได้แต่กำหมัดแน่นกับคำพูดจิกกัดแสนร้ายกาจของเพื่อนชาย พยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอแล้วเค้นเสียงตอกกลับอย่างเหลืออด  "ที่ส้มร้องไห้ไม่ใช่เพราะอิน แต่เสียใจต่างหากที่เพื่อนชายแสนดีคนนั้นหายไป เหลือแต่ผู้ชายใจร้ายที่ยืนว่าส้มอยู่ตอนนี้"

"หากจะโทษต้องโทษเธอที่ทำให้เพื่อนชายผู้แสนดีคนนั้นหายไป"

"แบงค์ไม่เคยคิดจะโทษตัวเองบ้างเลยใช่ไหม"

"ช่างเป็นคู่ที่เกื้อกูลกันจริง ๆ เลยใช่ไหมคะทุกคน สุดท้ายนี้เชิญเจ้าบ่าวขอบคุณแขกในงานหน่อยค่ะ" ระหว่างที่ทั้งสองกำลังถกเถียงกันเสียงของพิธีกรสาวก็ตังแทรกขึ้นทำให้ทั้งสองต้องสงบศึกปั้นหน้ายิ้มต่อ โดยแบงค์ก็ทำหน้าที่กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน

จากนั้นก็เดินควงแขนกันไปทำการจุดเทียนที่ซุ่ม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ของบ่าวสาว เพื่อเป็นการอวยพรให้ชีวิตรักเป็นไปอย่างราบรื่น 

และทำการจดทะเบียนสมรสต่อทั้งสองมองใบทะเบียนสมรสที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าด้วยความลำบากใจต่างคนต่างไม่อยากจด แต่ก็ต้องฝืนใจจรดปลายปากกาลงเซ็นเพราะมีสายตานับพันคู่จับจ้องอยู่

เมื่อการจดทะเบียนสมรสเสร็จสิ้นก็ถึงเวลาตัดเค้ก ทั้งสองร่วมกันตัดเค้กระหว่างนั้นก็มีดนตรีเปิดคลอไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศ 

ทว่ากลับไม่ได้ช่วยให้คนทั้งสองอารมณ์ดีขึ้นมาสักนิดต่างอยากให้งานในค่ำคืนนี้จบลงสักที ครั้นทำการตัดเค้กเสร็จก็นำไปมอบให้กับประธานพิธี พ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ 

จากนั้นก็เดินกลับไปยังเวทีอีกครั้งเพื่อทำการโยนช่อดอกไม้ที่เตรียมเอาไว้

และงานเลี้ยงฉลองในค่ำคืนนี้ก็เป็นอันจบลง แขกเหรื่อที่มาร่วมงานเริ่มทยอยกันกลับเพราะส้มไม่ได้จัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้เหมือนหลาย ๆ งานที่เขาชอบจัดกัน 

การแต่งงานครั้งนี้เป็นแค่การแต่งงานจอมปลอมเหมือนที่เพื่อนชายว่าไว้ ไม่จำเป็นต้องอะไรมากมาย อีกอย่างเธอทุกข์ระทมเกินกว่าจะมีอารมณ์สนุกได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 12 เหยียบย่ำหัวใจ

    "หึ" ส้มมองห้องที่ถูกจัดเป็นห้องหอ บนเตียงโรยด้วยกลีบกุหลาบเป็นรูปหัวใจอย่างสวยงามด้วยแววตาว่างเปล่าพร้อมกับเค้นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน เธอช่างเป็นเจ้าสาวที่น่าสมเพชสิ้นดีนอกจากจะโดนเจ้าบ่าวพูดจาจิกกัดตลอดงานแล้ว ในคืนเข้าหอเจ้าบ่าวก็หายตัวไปอีก หลังจากแขกเหรื่อทยอยกันกลับไปหมดเจ้าบ่าวของเธอก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน ยอมรับว่าเสียใจไม่น้อยต่อให้นี่จะเป็นการแต่งงานปลอม ๆ เขาก็ควรให้เกียรติเธอกับครอบครัวหน่อย หากคนอื่นรู้คงเอาไปนินทากันสนุกปากเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนทำการปัดกลีบกุหลาบบนที่นอนออกจนเกลี้ยง จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนทั้งที่ยังสวมชุดแต่งงานอยู่เพราะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก ๆ เปลือกตาก็แทบปิดอยู่รอมร่อ ทันทีที่หัวถึงหมอนนุ่ม ๆ เพียงไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปติ้ง~ ติ้ง~ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอหลับไปกระทั่งเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ยกมือขึ้นขยี้ตาไล่อาการงัวเงียเบา ๆ ก่อนจะลุกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หน้าโต๊ะกระจกมาดู คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าข้อความที่ถูกส่งมาจากไลน์แปลก ๆ โปรไฟล์เป็นรูปตั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 13 คนสกปรก

    "อ๊ะ!"หัวใจดวงน้อย ๆ ของส้มหล่นวูบลงสู่ตาตุ่มเมื่อถูกเพื่อนชายทุ่มลงบนเตียงนุ่ม ๆ สีหน้าแสดงความตื่นตระหนกให้เห็นอย่างชัดเจน "แบงค์จะทำอะไร""ลองมีอะไรกับคนความคิดสกปรก และร่างกายสกปรกแบบฉันหน่อยเป็นไร ไหน ๆ เธอก็ยอมลงทุนตลบหลังฉันบากหน้าไปบอกเรื่องท้องกับพ่อแม่ฉันจนได้ตำแหน่งเมียไปครอง" ไม่ว่าเปล่าแบงค์ตามลงไปคร่อมร่างบางที่กำลังจะขยับหนีทันที รวบมือเรียวทั้งสองกดตรึงไว้ข้างศีรษะ จับจ้องดวงหน้าเรียวที่ฉายไปด้วยความตื่นตระหนกนิ่ง ๆความจริงเขาไม่ได้อยากทำเกินเลยกับหญิงสาวเป็นครั้งที่สอง แต่คำพูดของเธอทำให้เขาเปลี่ยนความคิด"อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะแบงค์ส้มท้องอยู่ เราตกลงกันแล้วไงว่าจะอยู่ด้วยกันในฐานะพ่อแม่ของลูกเฉย ๆ จะไม่มีเรื่องแบบนี้" ส้มทักท้วงข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันก่อนแต่งงานหวังว่าจะช่วยเตือนสติเพื่อนชายได้บ้าง พร้อมกับพยายามขืนมือออกจากการกดตรึง เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเขาถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ พอเวลาต้องเลิกกันมันคงเจ็บปวดมาก บางทีอาจจะมองหน้าไม่ติดกันด้วยซ้ำไป และที่สำคัญเธอไม่อยากซ้ำรอยใครเธอรับไม่ได้จริง ๆ"ฉันเป็นหมอฉันรู้ว่าทำได้ หรือไม่ได้ เธอแค่นอนอ้าขาให้ฉั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 14 ลูกที่ไม่ต้องการ

    หลังจากแบงค์เสร็จสมตามที่ตัวเองต้องการเขาก็ทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้หญิงสาวอย่างไร้เยื่อใย จากนั้นไม่กี่นาทีก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อวาน ขณะที่ส้มได้แต่กลำกลืนความขืนขมไว้ในอกกับท่าทางของเพื่อนชายที่ทำเหมือนเธอเป็นกระโถนรองรับอารมณ์พอได้ดั่งใจก็ทิ้งขว้างไม่เหลียวแลจ้องมองแผ่นหลังกว้างด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะละสายตาออก หยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบอกแล้วพาตัวลงจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายที่เคลือบไปด้วยเหงื่อ และน้ำกามตามหว่างขาออกจากนั้นออกมาแต่งตัวโดยที่อีกคนยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง และเธอไม่คิดจะปลุกเขา ครั้นแต่งตัวเสร็จก็เดินลงไปยังชั้นล่างของบ้านวิสุทธิ์ภักดี"อ้าว! หนูส้มทำไมรีบลงมา ไม่พักผ่อนอีกหน่อยล่ะจ๊ะ กำลังท้องกำลังไส้อยู่ เมื่อวานก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" ผกาที่นั่งคุยกับสามีในห้องโถงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมกับระบายยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นลูกสะใภ้คนโปรดเดินลงมาจากบันใด"หนูชินกับการตื่นเช้าแล้วค่ะคุณป้า" ส้มระบายยิ้มตอบพร้อมกับเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาอีกตัว "ยังเรียกป้าอยู่อีก หนูแต่งงานเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ไม่ใช่เพื่อนตาแบงค์แล้ว เรียก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 15 คนมักมาก

    หลังจากหาหมอเสร็จส้มก็โทรเรียกแกร็บคาร์ แล้วออกไปยืนรอด้านหน้าอาคารของโรงพยาบาล ยืนรอไม่ถึงห้าสิบนาทีรถก็มาถึง เธอลอบถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากก้าวขึ้นมานั่งบนรถแล้วเพราะอากาศข้างนอกทั้งร้อนทั้งอบอ้าว พอได้รับแอร์เย็นฉ่ำทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย มือเรียววางลงบนหน้าท้องที่มีอีกหนึ่งหัวใจอาศัยอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย หมอบอกว่าเธอตั้งครรภ์ได้ห้าสัปดาห์แล้ว ถึงแม้เขาจะเกิดมาจากความผิดพลาดแต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ และมันยังมาจากผู้ชายที่เธอแอบรักหมดหัวใจถือเสียว่าเป็นตัวแทนความรักของเธอที่มีต่อเขาก็แล้วกัน ต่อให้พ่อของเขาจะไม่ต้องการแต่เธอจะดูแลหัวใจดวงนี้ให้ดีที่สุด แววตาเศร้าหมองทอดมองวิวริมทางขณะที่รถกำลังแล่นไปตามถนน มือยังคงวางบนหน้าท้องแบนราบในสมองครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เธอไม่รู้เลยว่าวันข้างต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง และไม่รู้ว่าจะสามารถทนต่อความร้ายกาจของเพื่อนชายได้ตลอดรอดฝั่งไหม แต่ไม่ว่ายังไงเธอจะอดทนให้ถึงที่สุดหากไม่ไหวจริง ๆ ค่อยว่ากันอีกทีเธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ครั้นแกร็บคาร์เคลื่อนตัวมาจอดลงหน้ารั้วบ้านวิสุทธิ์ภักดี เลือกให้รถจอดหน้าร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 16 ไม่ไว้ใจ

    อื้อ.." ส้มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่สดชื่นเลยสักนิด หนำซ้ำยังปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมดเพราะนอนบนพื้นตลอดคืน ใช่ฟังไม่ผิดเมื่อคืนเธอหลับไม่ลงจริง ๆ เพราะกลิ่นแอลกอฮอล์บวกกลิ่นบุหรี่จากคนข้าง ๆ ลอยเข้าจมูกแม้ใช้ผ้าห่มปิดจมูกแล้วก็ตาม จนเธอทนไม่ไหวสุดท้ายต้องเอาผ้าห่มมารองนอนที่พื้นแข็ง ๆ และเย็นเฉียบบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้า ขณะที่อีกคนนอนหลับสบายอยู่บนเตียงเธอประสานมือเหนือศีรษะแล้วบิดตัวไปมาเพื่อไล่อาการปวดเมื่อยออก จากนั้นก็หยัดกายลุกขึ้นยืนพับผ้าห่มไปวางบนที่นอน ซึ่งยังมีคนเห็นแก่ตัวนอนอยู่ ยืนจ้องใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกตัดพ้อขนาดเธอท้องอยู่เขาก็ยังไม่คิดเห็นใจ หรือไม่อย่างน้อยเขาควรนึกถึงลูกในท้องเธอบ้างเพราะเป็นลูกเขาเช่นกันไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอยืนมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่แบบนั้น กระทั่งร่างสูงเริ่มขยับเขยื้อนเธอจึงละสายตาออก แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาอาบน้ำยี่สิบนาทีก็เสร็จครั้นเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเพื่อนชายนั่งพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางงัวเงียคงเพิ่งตื่น เธอปรายตามองแวบหนึ่งแล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจ รีบหยิบเสื้อผ้าพาเข้าไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 17 น่ารังเกียจ

    จากวันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาห้าเดือนเดือนเต็ม ๆ ที่ส้มเข้ามาอยู่ในบ้านวิสุทธิ์ภักดี ทุกอย่างยังคงวนลูปเหมือนเดิมแม้เธอจะอยู่อย่างสะดวกสบายในบ้านหลังนี้ แต่ใจของเธอมีแต่ความทุกข์ระทมไม่เคยได้สัมผัสคำว่าความสุขเลยเพราะถูกเพื่อนชายรังแกทั้งทางร่างกาย วาจา และจิตใจ เรื่องลูกเขาก็ไม่เคยสนใจตั้งแต่เธอท้องเดือนแรกกระทั่งเข้าเดือนที่หกแล้วเขาไม่แม้แต่จะถามถึงสักครั้ง เวลาไปหาหมอก็แค่พาไปตามหน้าที่ ไปส่งเธอแล้วทิ้งให้กลับเองทุกครั้ง อย่างเช่นตอนนี้ที่เขามาส่งเธอแล้วกลับไป ครั้นหาหมอเสร็จเธอก็ต้องโทรเรียกแกร็บคาร์ให้ไปส่งที่บ้านเหมือนเช่นเคย ชีวิตของการมีสามีมันเหมือนจะเหนื่อย และทุกข์ใจกว่าตอนอยู่ตัวคนเดียวด้วยซ้ำเมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ตรงขึ้นห้องนอนทันทีเพราะวันนี้ผกาไม่อยู่บ้านเลยไม่ต้องแวะพูดคุยกับท่าน ส่วนอีกคนคงจะกลับมาดึก ๆ หรือไม่ก็ไปนอนกกกับผู้หญิงกลับมาอีกทีก็เช้ามืดเหมือนที่ผ่านมา เพื่อนชายเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเมื่อก่อนเขาไม่เคยดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน และมัวผู้หญิงแบบนี้ แต่พอแต่งงานกับเธอก็เป็นอย่างที่เห็นเธอเจอเรื่องแบบนี้เกือบตลอดห้าเดือนที่ผ่านมาจนหัวใจมันเริ่มชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 18 เมียเบอร์ 1

    วันต่อมา"อ้วก..แหวะ!"เสียงอาเจียนโฮกฮากดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำทำให้ร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"เฮ้อ.." เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางยกมือขึ้นนี้ผมอย่างไม่สบอารมณ์ ตอนนี้เพิ่งหกโมงเช้าเอง แต่เขาต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงอาเจียนจะนอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว ซึ่งมันเป็นแบบนี้เกือบทุกเช้าลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นจากจมูกโด่งอีกครั้งระคนหงุดหงิด ก่อนเขาจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งใช้มือลูบหน้าไล่อาการงัวเงียออก แล้วขยับไปนั่งห้อยขาริมเตียงมองไปยังประตูห้องน้ำด้วยความไม่พอใจส้มที่เดินออกมาจากห้องน้ำถึงกับชะงักเล็กน้อยในตอนที่ก้าวเท้าพ้นประตูห้องน้ำแล้วเจอกับแววตาดุดันที่มองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคงไม่พอใจที่เธออาเจียนจนทำให้เขาตื่นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทีไม่พอใจแบบนี้ หากเป็นไปได้อยากจะให้เขาลองมาอุ้มท้องเองจริง ๆ จะได้รู้สึกว่ามันเป็นยังไงเธอเลือกจะทำเป็นไม่สนใจเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้มาใส่ แล้วไปนั่งทาครีมที่โต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อเสร็จก็ลุกเดินไปยังชั้นล่างทำเหมือนอีกคนเป็นธาตุอากาศ คิ้วสวยพลันขมวดชนกันด้วยความแปลกใจครั้นเดินลงมาถึงชั้นล่างแล้วเห็นกระเป๋าเดินทางใบโต ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 19 ไม่เคยต้องการ

    น้ำสีใสที่คลั่งอยู่ในหน่วยตาของส้มค่อย ๆ ร่วงหล่นลงแก้มทันทีที่แบงค์เดินโอบไหล่หญิงสาวข้างกายผ่านเธอเข้าไปในบ้าน เสียงของเขาที่ถามไถ่ผู้หญิงคนนั้นว่าวันนี้ทำงานเหนื่อยไหม หิวข้าวหรือยัง พูดคุยกันอย่างกระหนุงกระหนิงลอยมาเข้าหูยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกเจ็บ มันเป็นคำถามที่เธอไม่เคยได้รับสักครั้ง เขาไม่เคยแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเธอกับลูกในท้องเหมือนที่แสดงกับผู้หญิงคนนั้นเลย แล้วเธอกับลูกผิดอะไรนักหนาทำไมเขาถึงใจร้ายได้ขนาดนี้"คุณส้มคะคุณแบงค์ให้มาตามไปทานข้าวค่ะ" ไม่รู้ว่าแค่ไหนที่เธอยืนนิ่งปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาระบายความเจ็บปวดในใจกระทั่งเสียงแม่บ้านดังขึ้นจึงรีบใช้มือเช็ดน้ำตาออก หลับตาสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วหันไปพยักหน้ารับ "ค่ะ"มือทั้งสองกำหมัดแน่นพยายามข่มความรู้สึกมากมายที่อัดอั้นอยู่ในอก เธอรู้ว่าที่เพื่อนชายให้แม่บ้านมาตามไปทานข้าวทั้งที่ปกติไม่เคยคิดจะชวนเลยสักครั้งคงอยากให้เธอไปเห็นภาพสวีทของเขากับเมียน้อย รู้อยู่เต็มอกว่าต้องเป็นแบบนั้นแต่เธอก็เลือกจะเดินเข้าไปร่วมโต๊ะอาหารที่มีผู้ชายเลวกับหญิงแพศยานั่งอยู่เพราะหากเธอไม่มาทั้งสองคงหัวเราะเยาะ และยิ่งได้ใจเธอมองสามีของตัวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29

บทล่าสุด

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 2

    @บ้านวิสุทธิ์ภักดี"ว้าย!" ส้มร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกพ่อของลูกยกขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวขณะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านวิสุทธิ์ภักดี "จะอุ้มทำไมแบงค์ส้มก็กำลังจะเดินเข้าบ้านอยู่นี่ไง" ครั้นตั้งตัวได้เธก็โวยวายใส่ร่างสูงพลางใช้มือทุบอกเขาแรง ๆ ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาอุ้มทำไมกันในเมื่อเธอก็ยอมเดินเข้าบ้านดี ๆ ไม่ได้จะวิ่งหนีกลับบ้านสักหน่อยแบงค์เพียงยิ้มให้เพื่อนสาวเล็กน้อยไม่ได้ตอบอะไรตั้งหน้าอุ้มเธอเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้าน ก่อนจะพาเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านทำเอาส้มต้องขมวดคิ้วเป็นปม รีบเปล่งเสียงถามทันที "แบงค์จะพาส้มไปไหน ปล่อยส้มลงเดี๋ยวนี้นะ""พาขึ้นไปดูทะเบียนสมรส แล้วก็ใบหย่าไงเพื่อยืนยันว่าแบงค์ยังไม่ได้เซ็นมันจริง ๆ เพราะฉะนั้นเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่" สิ้นประโยคใบหน้าหล่อเหลาก็เคลือบไปด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม แววตาทอประกายเจ้าเล่ห์จนส้มอดหัวใจเต้นแรงไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย พยายามข่มอาการเอาไว้แล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงดุหวังว่าอีกคนจะเกรงขึ้นมาบ้าง "แบงค์ก็ขึ้นไปหยิบลงมาให้ดูสิ จะอุ้มส้มขึ้นไปด้วยทำไม" "อยากพาขึ้นไปดูให้ถึงที่ไง" "มันใช่เรื่องไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 1

    หลายปีต่อมา"คุณพ่อคะเมื่อวานตอนไปห้างมีหนุ่ม ๆ มาจีบคุณแม่ด้วยค่ะ" ทันทีที่แบงค์ย่างกรายเข้ามาภายในบ้านเอกวิโรจน์บุตรสาวที่นั่งรอการมาของเขาในห้องโถงก็รีบเอ่ยฟ้องเสียงเจื้อยแจ๋ว"จริงเหรอครับ" ทำเอาแบงค์ถึงกับหูผึ่งรีบเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้างบุตรสาว ถามไถ่ด้วยความร้อนรนใจ "แล้วผู้ชายคนนั้นหล่อไหม แล้วแม่เขาตอบผู้ชายคนนั้นไปว่ายังไงบ้าง""เขาก็หล่อนะคะ แต่น้อยกว่าคุณพ่อ" ภริตาเด็กน้อยวัยย่างเข้าเก้าขวบตอบไปตามความจริงเพราะสำหรับเธอแล้วไม่มีใครหล่อกว่าพ่อตัวเอง "ส่วนคุณแม่แค่ยิ้มหวานให้ผู้ชายคนนั้นค่ะไม่ได้ตอบอะไร น้องริตาเลยตอบแทนคุณแม่ไปว่ามีลูกแล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินหนีไปเลย""ทำดีมากลูกรัก ไม่เสียแรงที่พ่อให้ลูกช่วยดูแลแม่จากผู้ชายคนอื่น" ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยบึ้งตึงก่อนหน้านี้เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นเมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากบุตรสาว ก่อนเขาจะเอื้อมมือไปหยีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสี่ปีเกือบห้าปีแล้วอีกแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะคบห้าปีพอดี บุตรสาวของเขาอายุย่างเข้าเก้าปีเริ่มเติบโตเป็นสาวแล้วรู้เรื่องทุกอย่างจึงเป็นตัวช่วยของเขาได้ดีงานที่เขามอ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 50 The end

    จากวันนั้นเวลาก็ดำเนินมาหนึ่งปีเต็ม ๆแบงค์ยังคงคอยดูแลลูกในฐานะคุณอาที่แสนดี ซึ่งเขาก็เต็มใจยอมรับไม่คิดเรียกร้องอะไรแค่ได้อยู่ในชีวิตผู้หญิงที่รักทั้งสองคนเขาก็มีความสุขแล้วครืดดด~สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้แบงค์ที่กำลังเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปหาบุตรสาวที่บ้านเอกวิโรจน์เหมือนเช่นทุกวันต้องหยุดชะงัก ก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดูคิ้วเข้มพลันขมวดชนกันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสายที่โทรเข้ามาคือแม่ของลูกอดแปลกใจไม่ได้เพราะปกติเธอจะไม่โทรมาแต่เช้าแบบนี้ จึงกดรับสายด้วยความอยากรู้"โทรมาแต่เช้าเลยมีอะไรรึเปล่าส้ม"(ส้มจะโทรมาบอกว่าวันนี้ให้มาหาลูกตอนเย็น ๆ นะ เพราะช่วงเช้าพ่อกับแม่ส้มจะพาน้องริตาไปข้างนอก)พอได้ฟังประโยคจากปลายสายเขาก็หน้าหงอยลงฉับพลันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะกะไว้ว่าจะไปรับสองแม่ลูกไปทำบุญด้วยกันที่วัดสักหน่อยเนื่องในวันนี้เป็นวันเกิดของเขา อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนสาวคงจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาเพราะเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทั้งสองไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันตั้งแต่เกิดเรื่องนั่น"อ๋อ..ได้ ๆ" เขาได้แต่เก็บความเศร้าไว้ในใจแล้วเปล่งเสียงตอบปลายสายไ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 49 หน้าที่พ่อแม่

    ส้มทอดสายตามองบรรยากาศยามค่ำคืนริมระเบียงห้องพักด้วยความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่พาบุตรสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในสมองก็ครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับเรื่องชายหนุ่มและลูก ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดจนสายลมเย็นยะเยือกลอยสัมผัสผิวเรียบเนียนทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นโอบกอดตัวเอง ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำนิลที่มีดวงดาวน้อยใหญ่ลอยประดับประดาอย่างสวยงาม แต่นาทีต่อมาเธอก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรนุ่ม ๆ อุ่น ๆ ที่คลุมลงมาบนไหล่ ครั้นเอี่ยวหน้ามองก็พบว่าเป็นพ่อของลูกนั่นเองที่เอาผ้ามาคลุมไหล่ให้เธอ จึงเอ่ยขอบคุณไปตามมารยาท "ขอบคุณ"แบงค์เพียงยกยิ้มให้เพื่อนสาวบาง ๆ แล้วเดินไปยืนริมระเบียงข้าง ๆ ทอดสายตามองออกไปนอกท้องทะเลอันมืดสลัวโดยไม่พูดอะไรออกมา เฉกเช่นเดียวกับส้มที่มองออกไปยังทะเลอีกครั้งโดยไม่พูดอะไรทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ปกคลุมไปด้วยความเงียบมีเพียงเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาเป็นระยะไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ต่างคนต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ก่อนแบงค์จะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นชวนคุยขณะที่สายตายังคงจดจ่อกับทะเลเบื้องหน้า "บรรยากาศดีเนาะ ส้มว่าไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 48 สายเลือด

    เช้าวันต่อมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็พากันลงไปทานอาหาร ครั้นทานอาหารเสร็จก็เช่ารถของโรงแรมพาบุตรสาวไปเล่นที่สวนน้ำกระทั่งเที่ยงจึงพากันไปทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังของภูเก็ต"กินข้าวเสร็จคุณอาใจดีจะพาน้องริตาไปเที่ยวไหนต่อคะ" เด็กน้อยภริตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ๋วระหว่างที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับเอียงหน้าขึ้นมองคุณอาใจดีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่ส้มนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งจ้องมองบุตรสาวด้วยความรู้สึกเอ็นดูระคนมันเขี้ยวเพราะยิ่งนับวันบุตรสาวก็ยิ่งติดคนเป็นพ่อมากขึ้น ดูอย่างตอนนี้สิแทนที่จะนั่งข้างเธอ กลับเลือกไปนั่งข้างชายหนุ่มแต่ก็คงไม่แปลกอะไรเพราะเขาเล่นตามใจบุตรสาวไปเสียทุกอย่างไม่ว่าบุตรสาวจะบอกจะขออะไรก็ทำให้หมดไม่เคยขัดจึงทำให้บุตรสาวชอบอยู่กับเขา"อืม..เราไปดูเครื่องบินที่หาดไม้ขาวกันไหมครับ พอแดดร่มหน่อยเดี๋ยวเราค่อยไปเล่นน้ำทะเลกัน" คนถูกถามอย่างแบงค์นั่งใช้ความคิดชั่วครู่ ก่อนเสนอความคิดเห็นให้บุตรสาวพร้อมกับยกมือลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความรักใคร่เอ็นดู"ได้ค่ะ"เด็กน้อยภริตายิ้มรับจนตาหยีพลอยทำให้คนเป็นพ่อแม่ยิ้มตามไปด้วย ก่อนแบงค์จะเล

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 47 เที่ยว

    นับจากวันนั้นเวลาก็ผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ แล้วที่แบงค์ได้กลับเข้ามาในชีวิตเพื่อนสาวกับลูกอีกครั้ง ตอนเช้าของทุกวันก่อนไปทำงานเขาจะแวะมาหาบุตรสาวก่อนเสมอ และหลังเลิกงานตอนเย็นก็แวะมาเล่นกับบุตรสาวอีกครั้ง หากเป็นวันหยุดเขาก็จะมารับบุตรสาวพาไปเที่ยวเป็นประจำ บางครั้งก็พาไปนอนค้างคืนที่บ้านด้วยกัน ส่วนความสัมพันธ์กับแม่ของลูกก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากกว่าเดิมเพราะเธอปิดกั้นเขาทุกทางคงจะมีแค่เรื่องลูกที่ทำให้เธอยอมเกี่ยวข้องกับเขา ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ถอดใจหวังว่าสักวันจะแทรกซึมเข้าไปในใจเธอได้อีกครั้งวันนี้เป็นวันหยุดเขาเลยชวนบุตรสาวไปเที่ยวทะเลตามที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ และเขายังแอบพูดกับบุตรสาวว่าให้ชวนแม่ไปด้วยเพราะหวังว่าจะได้สร้างโมเม้นท์ดี ๆ กับแม่ของลูกเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้นกว่าเดิม และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนส้มยอมไปเที่ยวทะเลด้วยเพราะทนแรงออดอ้อนจากบุตรสาวไม่ไหว ทะเลที่เขาจะพาสองแม่ลูกไปเที่ยวก็คือภูเก็ตนั่นเองเพราะเขาไปมาครั้งที่แล้วมันสวยมาก ที่เที่ยวก็มีเยอะแยะจึงอยากให้บุตรสาวได้เที่ยวบ้าง ทั้งสามออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยรถส่วนตัวโดยแบงค์ทำหน้าที่เป็นคนขับ เขาอยากจะ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 46 ฐานะอะไรก็ได้

    ส้มนั่งคุยกับนับดาวไปเรื่อย ๆ โดยปล่อยให้บุตรสาวเล่นกับชายหนุ่มไปเพราะเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างนั้นก็ปรายตามองสองคนพ่อลูกเป็นระยะ ๆ "แกจะไม่ให้น้องริตารู้จริง ๆ เหรอว่าแบงค์เป็นพ่อของเขา ฉันว่าน้องริตามีความสุขมากนะที่ได้เจอแบงค์" นับดาวเอียงหน้ากระซิบถามเพื่อนสาวเบา ๆ หลังจากนั่งมองเพื่อนชายกับบุตรสาวเล่นด้วยกันมาสักครู่แล้ว"ตอนนี้ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ แต่ถ้าในอนาคตไม่รู้" ส้มเองยังคงยืนยันคำเดิมเพราะเธอยังจำความหมางเมินที่ชายหนุ่มแสดงต่อลูกในท้องได้ดี เขาไม่แม้แต่ทำหน้าที่พ่อสักครั้ง"แกลองเปิดโอกาสให้แบงค์ได้ทำหน้าที่พ่อดูสักหน่อยสิ หากมันดีหรือไม่ดีแกก็ค่อยตัดสินใจอีกครั้ง" นับดาวใช้มือตบลงบนบ่าเพื่อนสาวเบา ๆ เชิงให้กำลัง ก่อนจะหันไปชวนเด็กน้อยภริตาเข้าไปในครัวเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้คุยกัน "น้องริตาไปดูขนมคุกกี้ในครัวกับแม่นับดีกว่าค่ะว่าเสร็จรึยัง""ค่ะ" เด็กน้อยภริตารีบพยักหน้ารับคำอย่างไร้เดียงสาพร้อมกับลุกเดินไปหานับดาว จากนั้นก็พากันเดินหายเข้าไปในครัวทิ้งให้แบงค์กับส้มนั่งกันตามลำพังภายในห้องโถงถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบนานหลายนาที ก่อนแบงค์จะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา "แบงค์รู้เร

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 45 ลดสถานะ

    วันต่อมา"สรุปเรื่องของลูกกับเจ้านายเป็นยังไงแล้วลูก" เสียงของคุณหญิงอัปสรดังขึ้นทำให้ส้มที่นั่งจมอยู่กับความคิดมากมายในหัวหลุดจากภวังค์ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียงตอบผู้เป็นแม่อย่างเนือย ๆ "มันจบแล้วค่ะแม่ หนูกับพี่นายคุยกันจนได้ข้อสรุปแล้วว่ากลับไปพี่น้องกันเหมือนเดิมดีกว่าเพราะขืนดันทุรังคบกันต่อไปหนูคิดว่าคงมีปัญหาตามมาไม่จบไม่สิ้น หนูไม่อยากเสียใจและเหนื่อยกับเรื่องความรักแล้ว""แม่เข้าใจ ไม่เป็นไรนะยังไงลูกก็ยังมีพ่อกับแม่อยู่ข้าง ๆ" อัปสรนึกเห็นใจบุตรสาวไม่น้อยที่ต้องมาผิดหวังกับเรื่องความรักซ้ำ ๆ ถึงสองครั้งสองคราทำได้เพียงขยับตัวเข้าไปรั้งบุตรสาวมาสวมกอดไว้หลวม ๆ เชิงปลอบประโลมและให้กำลังใจในเวลาเดียว ซึ่งส้มไม่ได้ตอบอะไรกลับเพียงฝืนระบายยิ้มให้ท่านบาง ๆ แม้ในใจจะรู้สึกชอกช้ำไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานหลังจากเจ้านายมาหาที่บ้านเธอก็ตัดสินใจถามเขาไปตรง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ลียามาบอก คำตอบที่ได้รับจากปากเจ้านายคือมันเป็นเรื่องจริง เขาพลาดมีอะไรกับลียาจริง ๆ เพราะความเมาเขาเล่าให้เธอฟังทุกอย่างโดยไม่ปิดบังรวมทั้งเรื่องที่โดนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายบังคับให้แต่ง

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 44 ...

    หลังจากวันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ เรื่องระหว่างส้มกับเจ้านายก็เหมือนจะไม่มีอะไรเพราะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาแม่ของเขาไม่ได้โทรมากวน หรือทำอะไรเลยซึ่งเจ้านายเองก็ไปมาหาสู่เธอเป็นปกติเหมือนเช่นทุกวัน ส่วนพ่อของลูกก็หายเงียบไปเลยตั้งแต่วันนั้นเธอก็ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอกับลูกจะราบรื่นสักที ทว่าเหมือนที่เธอหวังจะไม่เป็นจริงเมื่อแม่บ้านเดินมารายงานว่า "คุณส้มค่ะมีคนมาขอพบค่ะ เห็นว่าชื่อลียา"คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเพียงได้ยินชื่อคนที่มาหา แต่คิดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่เพราะเธอกับลียาไม่ได้สนิท หรือรู้จักกันแต่อย่างใดที่เธอมาหาคงไม่พ้นเรื่องของเจ้านายแน่ ๆ เธอลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะบอกกล่าวแม่บ้าน "เชิญเขาเข้ามาเถอะค่ะ"สิ้นเสียงเธอแม่บ้านก็เดินออกไปทันที และเพียงไม่นานก็เห็นแม่บ้านเดินนำหญิงสาวรูปร่างผอมเพรียวเข้ามา"สวัสดีค่ะคุณส้ม" ลียายกมือขึ้นไหว้ส้มซึ่งมีอายุมากกว่าเธออย่างนอบน้อมทันทีที่เดินมาถึงส้มเพียงพยักหน้ารับคำกล่าวทักทาย แล้วถามไถ่เข้าประเด็นทันทีเพราะไม่อยากเสียเวลาแม้แแต่นาทีเดียว "คุณลียามีอะไรคะถึงได้มาหาส้มถึงที

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status