Share

บทที่ 3 ท้อง?

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-14 11:25:03

@บ้านเอกวิโรจน์

ส้มขับรถเข้ามาจอดยังบ้านหลังใหญ่โตโออาไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า คฤหาสน์ที่เป็นเหมือนกรงขังสำหรับเธอ เป็นคฤหาสน์ที่หาความสุขไม่เจอ

เธอนั่งมองรอบ ๆ บริเวณบ้านผ่านกระจกรถพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน

เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องโถงก็เห็นพ่อกับแม่ และพี่ชายนั่งอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาจึงยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม "สวัสดีค่ะพ่อ แม่ พี่เบส"

"นี่ถ้าพ่อไม่ให้แม่เขาโทรตาม ลูกก็คงไม่คิดจะกลับบ้านเลยใช่ไหม" อภิสิทธิ์ประมุขของบ้านมองบุตรสาวคนเล็กที่กำลังหย่อนก้นนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาดุแทนที่จะรับไหว้

ส้มไม่ได้ตอบอะไรกลับทั้งที่ในใจอยากตะโกนบอกท่านดัง ๆ ว่าสาเหตุที่เธอไม่อยากกลับบ้าน หรืออยู่ในบ้านหลังนี้เพราะความเข้มงวดของพวกท่านสองคนนั่นแหละ

ทว่ารู้แก่ใจดีว่าถ้าพูดไปท่านทั้งสองคงจะพานโกรธหาว่าเธอไม่เคารพพวกท่านอีกเพราะมันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นมาเธอจึงเลือกสงบปากสงบคำดีกว่าปล่อยให้พวกท่านบ่นไป

"พ่อก็อย่าดุน้องเลยครับ" เบสชายหนุ่มตาหล่อเหลาวัยสามสิบปีออกหน้ารับแทนน้องสาวเพราะเข้าใจดี เขาเองก็ถูกคาดหวังจากพ่อแม่ไม่ต่างจากน้องสาวเลย

"ลูกก็เข้าข้างน้องตลอด" เป็นอัปสรที่เลื่อนสายตาเอ่ยกับบุตรชายด้วยน้ำเสียงตำหนิ ก่อนเลื่อนสายตามองหน้าบุตรสาวต่อ "ที่พ่อเขาพูดก็ถูก แม่ว่าลูกควรขายคอนโดแล้วกลับมาอยู่บ้านซะ"

"ส้มยอมทำตามที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการมาตลอด แต่เรื่องนี้ส้มขอเถอะค่ะให้ส้มได้ใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง" ทำพูดของผู้เป็นแม่ทำเอาส้มต้องหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดยาว ๆ พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ แล้วปรือตาขึ้นบอกกล่าวอย่างใจเย็นที่สุด

ทุกวันนี้ถึงเธอจะอายุยี่สิบหกแล้วแต่ก็ยังต้องทำตามคำสั่งของพ่อแม่อยู่เลย พวกท่านบอกให้เธอเข้าไปช่วยงานที่บริษัทเธอก็ต้องทำทั้งที่ความฝันของเธอคือการเป็นดีไซน์เนอร์ต่างหาก

เพราะคำว่าบุญคุณที่พวกท่านพร่ำพูดกลอกหูเธออยู่ซ้ำ ๆ เพราะคำขู่ที่ว่าหากไม่ทำตามจะตัดออกจากกองมรดก และไม่ต้องมาเป็นเป็นพ่อแม่ลูกกันอีก

"แม่จะยอมให้ลูกอยู่คอนโดต่อก็ได้" คำตอบของผู้เป็นแม่ทำให้เธอยิ้มออกมาได้บ้าง แต่เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้นใบหน้าก็พลันบึ้งตึงอีกครั้งกับประโยคถัดมาของท่าน

"แต่มีข้อแม้ว่าลูกต้องไปดูตัวกับจิณณะลูกชายคุณหญิงพิมพรรณวันพรุ่งนี้"

"เมื่อไรแม่จะเลิกจับคู่ให้หนูสักทีคะ" เธอได้แต่ส่ายหน้าไปมามองผู้เป็นแม่ด้วยความผิดหวัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านบังคับให้เธอไปดูตัว แต่มันนับไม่ถ้วนแล้วต่างหากจนเธอเอือมระอาเต็มทนแล้ว

"ก็ต่อเมื่อลูกได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี และเหมาะสมกับลูกไง" อัปสรตอบกลับเสียงราบเรียบ ที่เธอทำไปทั้งหมดมีจุดประสงค์เดียวคือหวังดีต่อบุตรสาว อยากให้บุตรสาวได้เจอกับคนที่ดี

บุตรสาวเธอมีเพรียบพร้อมทุกอย่างทั้งฐานะ การศึกษา หน้าตา และชาติตระกูลผู้ชายที่จะเข้ามาเป็นลูกเขยเธอจึงต้องมีทุกอย่างเท่าเทียมกับบุตรสาว ต้องผ่านการค้ดกรองจากเธอจะคว้าใครมามั่ว ๆ ไม่ได้

"หนูหาเองได้ค่ะ แม่ไม่จำเป็นต้องมากังวลกับเรื่องนี้"

"แม่ต้องยุ่งสิเกิดลูกไปคว้าใครมามั่ว ๆ แม่จะทำยังไง ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่ แม่อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด"

"แม่หวังดีกับหนูจริง ๆ หรือแม่กลัวจะอับอายขายหน้ากันแน่คะถ้าสมมุติว่าหนูคว้าผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาให้แม่" ส้มเอ่ยอย่างรู้ทันเพราะพ่อแม่ของเธอให้ความสำคัญกับหน้าตาทางสังคมมากไม่อย่างนั้นคงไม่บังคับให้เธอกับพี่ชายอยู่ในกรอบที่พวกท่านต้องการตลอด

"แม่เขาบอกว่าหวังดี ก็คือหวังดีแกเป็นลูกก็ควรทำตามไม่ใช่มายอกย้อนแบบนี้" อภิสิทธิ์เอ่ยแทรกขึ้นอย่างไม่ชอบใจที่บุตรสาวแข็งข้อขึ้นมา

ส้มกับเบสจึงได้แค่ส่ายหน้าไปมาสุดท้ายทั้งสองก็มิอาจชนะท่านทั้งสองได้เพราะคำว่าพ่อแม่มันค้ำคออยู่

"พรุ่งนี้แม่นัดทานข้าวกับคุณหญิงพิมพรรณช่วงเย็น ๆ ที่ร้านอาหารเดอะลองค์ ลูกต้องมาอย่าทำให้แม่ขายหน้าเด็ดขาด" อัปสรยื่นคำขาด มองหน้าบุตรสาวอย่างกดดันบ่งบอกให้รู้ว่าบุตรสาวจะได้เห็นดีหากไม่มาตามคำสั่ง

"มะ.."

"อาหารเสร็จแล้วค่ะ คุณท่านกับคุณผู้หญิงจะทานเลยไหมคะ" ส้มทำท่าจะตอบกลับไปแต่เสียงแม่บ้านก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อนเธอจึงจำใจต้องเงียบปากลง

"ทานเลยจ้ะ" อัปสรตอบแม่บ้านไปด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ครั้นแม่บ้านหายหลังไปก็หันมาเอ่ยกับบุตรสาวต่อ "ตามนี้นะส้ม อย่าทำให้แม่ผิดหวัง" ว่าจบก็ลุกเดินไปยังห้องอาหารโดยมีประมุขของบ้านลุกเดินตามไปติด ๆ

"เฮ้อ.." ส้มได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายจนคนเป็นพี่ชายอย่างเบสต้องยื่นมือไปตบบ่าปลอบประโลม และให้กำลังใจในคราวเดียวกัน "อดทนนะพี่เชื่อว่าสักวันทุกอย่างจะดีขึ้น"

"ส้มก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นค่ะ" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกมาเบาหวิวพร้อมกับลมหายใจหนัก ๆ บอกเลยว่าเธอมีความหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ

ว่าจบก็ลุกเดินตามพ่อกับแม่ไปยังห้องอาหาร เบสก็เช่นกัน

บนโต๊ะอาหารถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบบรรยากาศเป็นไปอย่างอึมครึมทั้งที่ความจริงการทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาภายในครอบครัวมันควรมีความสุข และเต็มไปด้วยความอบอุ่น

ส้มกับเบสมีความรู้สึกไม่ต่างกันเลยนั่นก็คืออึดอัดจนแทบอยากจะหายไป ทว่าก็ทำไม่ได้

ทั้งสองได้แต่นั่งมองตากัน ก่อนที่ส้มจะต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากปิดจมูกเมื่อแม่บ้านนำอาหารมาวางบนโต๊ะ "อึก.."

"เป็นอะไรส้ม" อัปสรขมวดคิ้วถามบุตรสาวด้วยความสงสัย คนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกัน

"เหม็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะแม่ มันเหม็นมากเลย" ส้มบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงอู้อี้ มือปิดปากกับจมูกไว้แน่นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหม็นอะไร รู้เพียงว่ามันเหม็นมากจนเธออยากจะอาเจียนออกมา

"เหม็นอะไรพี่ไม่เห็นว่าจะเหม็นอะไรเลย" เบสทำจมูกฟุดฟิดพยายามสูดดมหากลิ่นตามที่น้องสาวบอก แต่ก็ไม่เห็นว่าจะได้กลิ่นอะไรเลยจึงหันมองหน้าน้องสาวด้วยความแปลกใจ "พี่ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย มีแต่หอมกับข้าวที่แม่บ้านยกมา"

"มันเหม็นจริง ๆ นะพี่เบส" เธอยังคงยืนยันเสียงหนักแน่นพร้อมกับคลายมือออกจากปาก และจมูก พยายามสูดดมหาต้นตอของกลิ่นเพื่อยืนยัน ทว่าในวินาทีที่ก้มลงสูดดมหากลิ่นบริเวณถ้วยต้มข่าไก่เธอก็ต้องรีบยกมือขึ้นอุดปากเพราะรู้สึกพะอืดพะอมจนอยากจะอาเจียนออกมา

รีบผลุกผลันลุกวิ่งไปยังห้องน้ำสำหรับแขก โก้งคออาเจียนออกมาจนหน้าดำหน้าแดง

ทุกคนต่างพากันลุกขึ้นวิ่งตามไปดูด้วยความเป็นห่วง โดยเบสเป็นคนเข้าไปคอยลูบหลังให้น้องสาวพลางถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง "เป็นอะไรส้ม"

ส่วนประมุขของบ้านกับอัปสรยืนดูอยู่ที่ประตูห้องน้ำ สายตามองบุตรสาวที่กำลังโก้งคออาเจียนด้วยความเป็นห่วง

ทว่าในใจอัปสรนั้นกำลังนึกสงสัยอะไรบางอย่างอยู่กับอาการที่บุตรสาวเป็นอยู่

เธอสังเกตเห็นตั้งแต่บนโต๊ะอาหารแล้วว่าบุตรสาวมีอาการแปลก ๆ พอได้กลิ่นอาหารก็รู้สึกเหม็นทั้งที่มันออกจะหอม อาการคล้ายกับเธอตอนแพ้ท้องเมื่อก่อนไม่มีผิด แต่เธอยังไม่อยากคิดเองเออเองคงต้องหาทางพิสูจน์

"ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณหน่อยค่ะ" เธอกระซิบกับผู้เป็นสามีพร้อมกับลากแขนให้เดินตามออกมา ขณะที่เบสยังคงคอยยืนลูบหลังให้น้องสาวไม่ห่าง "ไหวไหมส้ม"

"อึก.." ส้มส่ายหน้าให้ผู้เป็นพี่ชายแทนคำตอบว่าไม่ไหว ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเรี่ยวแรงหดหายไปหมดคงเป็นเพราะอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง

ครั้นอาเจียนเสร็จก็ทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นเย็นเฉียบอย่างอ่อนแรง เหงื่อเริ่มผุดพรายขึ้นตามใบหน้าจนชื่น จากผิวหน้าอมชมพูก็เปลี่ยนเป็นซีดเซียวไร้สีเลือดทำเอาเบสตกใจไม่น้อย

"พี่ว่าส้มขึ้นไปนอนพักที่ห้องดีกว่า จะได้เรียกหมอมาว่าตรวจดูด้วยว่าเป็นอะไร" รีบโน้มไปช้อนตัวน้องสาวขึ้นอุ้มพาเดินออกจากห้องน้ำ ซึ่งเจอกับพ่อแม่ที่เดินมาพอดีจึงรีบบอกกล่าว "ผมว่าน้องเหมือนจะเป็นลมเลยครับ ผมจะพาน้องขึ้นไปพักบนห้องแล้วโทรตามหมอว่าตรวจดู"

"โอเค รีบพาน้องขึ้นไปพักเถอะ เดี๋ยวแม่โทรตามหมอเอง" อัปสรพยักหน้ารับ แล้วหันมองหน้าสามีเพราะหลังจากได้ปรึกษาถึงอาการที่น่าสงสัยของบุตรสาวแล้วทั้งสองก็คิดว่าจะโทรตามหมอประจำตระกูลให้มาตรวจดูเช่นกันจึงเข้าทางพอดี

จะได้รู้ว่าสิ่งที่กำลังสงสัยเป็นจริงไหม หรือเธอกังวลไปเอง

Bab terkait

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 4 พ่อของลูก?

    "ส้มรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะพี่เบส ไม่ต้องให้หมอมาตรวจหรอก" ส้มบอกกล่าวกับผู้เป็นพี่ชายที่นั่งอยู่ริมเตียงข้าง ๆ เธอพลางหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงหลังจากได้นอนพัก และได้ยาดมมาดมจนรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว"ตรวจดูนั่นแหละดีแล้วจะได้รู้ว่าเป็นอะไร หากป่วยจะได้รักษาทัน" ไม่ทันที่เบสจะได้ตอบอะไรอัปสรที่ยืนอยู่ริมเตียงอีกฝั่งกับสามีก็เอ่ยแทรกขึ้น สายตาจ้องมองหน้าบุตรสาวด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดาได้"พี่ก็เห็นด้วยกับแม่นะ เกิดเป็นขึ้นมาอีกจะทำยังไง" ข้อนี้เบสเห็นด้วยกับผู้เป็นแม่ถึงแม้น้องสาวจะบอกว่าดีขึ้นแล้วแต่เขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ให้หมอตรวจดูจะได้รู้ชัดเจนไปเลยว่าเป็นอะไร"ก็ได้ค่ะ" ส้มพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายไม่คิดเอะใจสักนิดถึงความผิดปกติในร่างกาย คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองชอบนอนดึก และไม่ค่อยทานข้าวจึงเกิดอาการแบบนี้ เพื่อความสบายใจของทุกคนตรวจดูหน่อยก็ไม่เสียหายผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีหมอประจำตระกูลก็เดินทางมาถึง "ช่วยตรวจดูลูกสาวฉันให้หน่อยค่ะว่าเป็นอะไร เมื่อกี้พอได้กลิ่นอาหารก็เหม็นจนต้องวิ่งไปอาเจียน ช่วยตรวจดูหน่อยค่ะว่าเป็นอะไร" ทันทีที่หมอหญิงวัยสามสิบแปดปีเดินเข้ามาถึงในห้องอัปส

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-19
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 5 ความไม่ลับ

    @คอนโดส้มหลังจากคุยกับผู้เป็นแม่ และพี่ชายจนเข้าใจส้มก็ขับรถกลับมายังคอนโด ซึ่งระหว่างทางก็แวะซื้อที่ตรวจครรภ์ติดมือมาด้วยจะได้รู้ชัดเจนไปเลยว่าท้องจริงหรือไม่ และผลมันก็ออกมาว่าท้องจริง ๆ..ตอนนี้เธอมืดแปดด้านไปหมดไม่รู้ว่าควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดีเพราะพ่อกับแม่เธอคงยอมแน่ ๆ จนกว่าจะได้รู้ว่าพ่อของลูกในท้องเธอเป็นใคร ถ้าบอกไปท่านต้องบังคับให้เพื่อนชายรับผิดชอบแน่ ๆหากบอกเรื่องท้องกับเพื่อนชายเธอก็ไม่รู้เลยว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง เขาจะยอมรับไหม หรือความสัมพันธ์อันดีระหว่างเธอกับเขาจะต้องจบลงด้วยหรือเปล่า แล้วเธอควรทำยังไงดี...ครืดดด~ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอนั่งจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกมากมายจนเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้น เธอพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่วางข้างตัวมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์เพื่อนสาวจึงกดรับสาย"ว่าไงนับ"(เมื่อกี้แม่แกโทรมาถามฉันว่าแฟนแกเป็นใคร ท่านบอกว่าแกท้อง มันเป็นความจริงรึเปล่า""มะ..แม่ฉันโทรหาแกอย่างนั้นเหรอ" หัวใจดวงน้อย ๆ ของส้มถึงกับหล่นไปอยู่ตาตุ่มกับคำบอกกล่าวจากปลายสายไม่ใช่เพราะตกใจที่เพื่อนสาวอย่างนับดาวรู้ แต่เธอกลัวผู้เป็นแม่จ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-19
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 6 เห็นแก่ตัว

    "ทำไมแบงค์มองส้มแบบนั้น" ในที่สุดส้มก็ทนอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อเพื่อนชายเอาแต่นั่งมองหน้าเธอเป็นสิบ ๆ นาทีแล้วรวบรวมความกล้าข่มความตื่นเต้นเอาไว้เปล่งเสียงถามไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ มือที่ประสานกันบนหน้าตักบีบเข้าหากันแน่น"แม่ส้มโทรมาถามแบงค์ว่ารู้จักแฟนส้มไหม ท่านบอกว่าส้มท้อง สรุปส้มท้องจริง ๆ ใช่ไหม" แบงค์หลับตาพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนปรือขึ้นถามเพื่อนสาวที่นั่งตรงหน้าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าในใจกลับลุ้นระทึกกับคำตอบเป็นอย่างมาก แอบภาวนาขอให้ทั้งหมดเป็นเรื่องไม่จริงบอกตามตรงว่าวินาทีที่ได้ยินแม่ของส้มบอกว่าเธอท้องหัวใจของเขามันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไรตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาส้มไม่เคยมีแฟนสักคน ไม่เคยข้องแวะ หรือยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนในเชิงชู้สาว หรือกระทั่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครนอกจากเขาที่มาจากความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น แล้วแบบนี้ลูกในท้องเธอจะเป็นลูกใครไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่ลูกเขา"ใช่ส้มท้องจริง ๆ" ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายพลันกระตุกวูบกับคำยืนยันจากปากเพื่อนสาว 'อ่า..ให้ตายเถอะ' ได้แค่สบถในใจซ้

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-19
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 7 ตลบหลัง

    วันต่อมา@บ้านวิสุทธิ์ภักดี"ตาแบงค์มานั่งคุยกับแม่หน่อย" เสียงของผู้เป็นแม่ทำให้แบงค์ที่กำลังจะเดินผ่านห้องโถงหยุดชะงัก หันไปเลิกคิ้วถามท่านด้วยความสงสัย "แม่มีอะไรครับผมต้องรีบไปเคลียร์งานที่บริษัท เสร็จแล้วจะได้ไปเปิดคลินิกต่อ""วันนี้ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ลูกต้องไปธุระกับพ่อ และแม่" คุณหญิงผกาเอ่ยแกล้มออกคำสั่งจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาดุไร้แววล้อเล่นทำเอาแบงค์แปลกใจไม่น้อยเพราะไม่ใช่บ่อยครั้งที่จะเห็นผู้เป็นแม่ในมุมแบบนี้ แสดงว่ามันต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ ๆ เขาจึงต้องเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาอีกตัวตรงข้ามพ่อแม่อย่างเลี่ยงไม่ได้"แม่มีอะไรครับทำไมต้องทำหน้าซีเรียสขนาดนั้น" เปล่งเสียงถามไปด้วยความสงสัยกับท่าทางตึงเครียดของแม่กับพ่อที่มองมายังเขาราวกับว่าเขาไปทำอะไรผิดมาอย่างนั้น"แกทำหนูส้มท้องยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ" วินิจประมุขของบ้านพูดโดยไม่อ้อมค้อม มองหน้าบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยแววตาคาดโทษ ขณะที่แบงค์นั่นถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับคำบอกกล่าวจากปากผู้เป็นพ่อ คิ้วเข้มขมวดชนกันด้วยความสงสัย สมองเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามว่าท่านรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน ไหนจะกังวัลว่าบทสรุปขอ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-25
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 8 ไม่เหมือนเดิม

    @บ้านเอกวิโรจน์สุดท้ายแบงค์ก็ไม่อาจต้านทานแรงกดดัน และคำประกาศกร้าวของพ่อแม่ได้จำใจต้องมาที่บ้านของเพื่อนสาวกับพวกท่าน เขาถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ครั้นรถจอดลงหน้าบ้านเอกวิโรจน์ บ้านของเพื่อนสาวที่เขาเข้าออกเป็นว่าเล่น แต่ตอนนี้เขากลับไม่อยากจะเหยียบเข้าไปที่สุด"ทำหน้าให้มันดี ๆ ตาแบงค์" ผกาเอ็ดบุตรชายด้วยน้ำเสียงดุรู้สึกไม่ชอบใจที่บุตรชายทำหน้าซังกะตาย หากพ่อแม่ของเด็กสาวเห็นคงคิดว่าบุตรชายของเธอไม่เต็มใจรับผิดชอบลูกสาวของทั้งสองคนโดนดุไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับ ลงจากรถไปเงียบ ๆ ทิ้งให้คนเป็นพ่อแม่ส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเอือมระอากับท่าทางของบุตรชาย ก่อนจะพากันลงจากรถ.."รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่หนูส้ม อย่าคิดทำอะไรให้แม่กับพ่อขายหน้าเด็ดขาดเข้าใจไหม" ผกาเน้นย้ำกับบุตรชายด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้งในขณะที่กำลังพากันเดินเข้าไปในบ้าน"แม่ย้ำกับผมเป็นร้อยรอบแล้วครับ" แบงค์เอ่ยออกมาอย่างอ่อนใจพลางปรายตามองผู้เป็นแม่ เพราะตั้งแต่ออกจากบ้านมาท่านก็เอาแต่ย้ำเรื่องนี้ กลัวเหลือเกินกลัวว่าวะเสียหน้าไม่คิดจะถามเขาเลยสักนิดว่ารู้สึกอย่างไรมีความสุขไหมกับการตัดสินใจของพวกท่าน

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-25
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 9 ตัดสัมพันธ์

    "มีอะไรก็ว่ามา" ทันทีที่เดินมาถึงลานสนามหญ้าหน้าบ้านแบงค์ก็ถามไถ่ขึ้นทั้งที่ไม่หันไปมองหน้าคนที่ดินตามหลังมาสักนิด เขาไม่อยากเห็นหน้าเพื่อนสาวตอนนี้เกรงว่าจะข่มอารมณ์ไม่อยู่แล้วเผลอทำอะไรรุนแรงไป"ส้มขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส้มมันสะเพร่าเองทำให้แบงค์ต้องมาเดือดร้อนด้วย แบงค์คงโกรธส้มมากสินะ" ส้มไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เพื่อนชายจะทำหน้ายังไงพยายามกักเก็บความเสียใจเอาไว้เปล่งเสียงพูดไปอย่างแผ่วเบา หวังว่าคำขอโทษจากเธอมันจะสามารถเรียกความรู้สึกของเพื่อนชายกลับมาได้บ้าง แต่เธอก็ต้องผิดหวังเพราะเขาไม่แม้แต่จะตอบอะไรกลับมายืนนิ่งราวกับหิน มือทั้งสองกำแน่นจนเส้นเลือดนูนคงกำลังข่มอารมณ์บางอย่างอยู่เพราะเพื่อนชายมักกำหมัดแน่นทุกครั้งที่โกรธ หรือต้องข่มอารมณ์ต่าง ๆ ไว้ บอกตามตรงว่าเจอแบบนี้ก็แอบหวั่นใจเหมือนกันเธอเคยเห็นมาแล้วว่าเวลาเพื่อนชายโกรธมันน่ากลัวขนาดไหนทว่าหากไม่ใช้โอกาสนี้คุยกันให้เข้าใจเกรงว่าหลังจากนี้จะไม่ได้คุยดี ๆ กันอีกแล้วจึงรวบรวมความกล้า แล้วเดินอ้อมไปยืนเผชิญหน้ากับเขา เอ่ยไปด้วยใบหน้าเศร้า "มีอะไร หรือรู้สึกอะไรแบงค์ช่วยพูดกับส้มตรง ๆ ได้ไหม อย่าทำเย็นชาแบบนี้เลยส้มรู้สึกไ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-25
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 10 แค่แปดเดือน

    ส้มมองคู่รักหนุ่มสาวที่พากันมาลองชุดภายในร้านด้วยความรู้สึกจุกในอกระคนอิจฉา ผู้หญิงเหล่านั้นช่างโชคดีที่ได้แต่งงานกับคนที่รัก ใบหน้าของพวกเธออิ่มเอมไปด้วยความสุข ออร่าเจ้าสาวจับ ต่างจากเธอที่ได้แต่งงานกับคนที่รักก็จริง แต่กลับไม่มีความสุขเลยเพราะเป็นการรักข้างเดียว หนำซ้ำการแต่งงานยังเกิดขึ้นเพราะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายบังคับ ภายในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมยิ่งเห็นว่าที่เจ้าบ่าวภายในร้านแสดงความรัก ความเอาใจใส่ต่อว่าที่เจ้าสาวของตัวเองก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกเจ็บ ขณะที่เธอต้องยืนโดดเดี่ยวคนเดียวได้แต่ถามตัวเองในใจว่าเธอมาทำอะไรที่นี่"เชิญทางนี้ค่ะคุณส้ม" เสียงของพนักงานดังขึ้นทางด้านหลังเธอจึงละสายตาออกจากเหล่าคู่รักตรงหน้า หันมองเจ้าของเสียงแทน พยายามฝืนยิ้มให้พนักงานหญิงวัยยี่สิบต้น แล้วเดินตามเธอขึ้นไปยังชั้นสองของร้านซึ่งมีชุดเจ้าสาวแบบต่าง ๆ แขวนอยู่ในตู้โชว์จนลายตา แต่ละชุดสวยมาก ๆ เหมือนที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้ว่าสักวันจะสวมใส่ให้ได้ทว่าในตอนนี้เธอกลับไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับชุดสวย ๆ เหล่านี้สักนิดเธอไม่อยากจะใส่ด้วยซ้ำ มันจะมีประโยชน์อะไรต่อให้ใส่ชุดแต่งงานสวยแค่ไหนแต่ในใจเต็มไปด้

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-25
  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 11 งานแต่งจอมปลอม

    วันเวลาดำเนินมาถึงวันที่ส้มกับแบงค์ต้องแต่งงานกัน ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยซึ่งจัดขึ้นที่บ้านของส้ม ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ทั้งสองจะบาดหมางกันแต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีปั้นหน้ายิ้ม และแสดงความรักต่อหน้าแขกเหรื่อได้อย่างแนบเนียน และช่วงค่ำก็เป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสที่โรงแรมชื่อดัง งานฉลองของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมฐานะของสองตระกูล แขกเหรื่อถูกเชิญมาร่วมงานนับพันคน"เฮ้อ.." ส้มมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ชุดเจ้าสาวแสนสวยที่สวมอยู่บนตัวไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขสักนิด ในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมอยากจะให้งานแต่งนี้เสร็จสิ้นไว ๆ ด้วยซ้ำไปเพราะเหนื่อยกับการที่ต้องปั้นหน้ายิ้ม และทำตัวเหมือนมีความสุขเต็มทน"วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหมส้ม ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยสิ" นับดาวที่คอยช่วยเพื่อนสาวแต่งตัวเอ่ยขึ้นครั้นเห็นสีหน้าเศร้าหมองในกระจกของเพื่อนพลางใช้มือตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจและปลอบประโลมในเวลาเดียวกัน เพื่อนสาวเล่าทุกอย่าที่เกิดขึ้นให้ฟังหมดแล้วเธอจึงเข้าใจความรู้สึกเพื่อนสาวดีเพราะเคยผ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-29

Bab terbaru

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 2

    @บ้านวิสุทธิ์ภักดี"ว้าย!" ส้มร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกพ่อของลูกยกขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวขณะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านวิสุทธิ์ภักดี "จะอุ้มทำไมแบงค์ส้มก็กำลังจะเดินเข้าบ้านอยู่นี่ไง" ครั้นตั้งตัวได้เธก็โวยวายใส่ร่างสูงพลางใช้มือทุบอกเขาแรง ๆ ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาอุ้มทำไมกันในเมื่อเธอก็ยอมเดินเข้าบ้านดี ๆ ไม่ได้จะวิ่งหนีกลับบ้านสักหน่อยแบงค์เพียงยิ้มให้เพื่อนสาวเล็กน้อยไม่ได้ตอบอะไรตั้งหน้าอุ้มเธอเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้าน ก่อนจะพาเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านทำเอาส้มต้องขมวดคิ้วเป็นปม รีบเปล่งเสียงถามทันที "แบงค์จะพาส้มไปไหน ปล่อยส้มลงเดี๋ยวนี้นะ""พาขึ้นไปดูทะเบียนสมรส แล้วก็ใบหย่าไงเพื่อยืนยันว่าแบงค์ยังไม่ได้เซ็นมันจริง ๆ เพราะฉะนั้นเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่" สิ้นประโยคใบหน้าหล่อเหลาก็เคลือบไปด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม แววตาทอประกายเจ้าเล่ห์จนส้มอดหัวใจเต้นแรงไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย พยายามข่มอาการเอาไว้แล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงดุหวังว่าอีกคนจะเกรงขึ้นมาบ้าง "แบงค์ก็ขึ้นไปหยิบลงมาให้ดูสิ จะอุ้มส้มขึ้นไปด้วยทำไม" "อยากพาขึ้นไปดูให้ถึงที่ไง" "มันใช่เรื่องไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 1

    หลายปีต่อมา"คุณพ่อคะเมื่อวานตอนไปห้างมีหนุ่ม ๆ มาจีบคุณแม่ด้วยค่ะ" ทันทีที่แบงค์ย่างกรายเข้ามาภายในบ้านเอกวิโรจน์บุตรสาวที่นั่งรอการมาของเขาในห้องโถงก็รีบเอ่ยฟ้องเสียงเจื้อยแจ๋ว"จริงเหรอครับ" ทำเอาแบงค์ถึงกับหูผึ่งรีบเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้างบุตรสาว ถามไถ่ด้วยความร้อนรนใจ "แล้วผู้ชายคนนั้นหล่อไหม แล้วแม่เขาตอบผู้ชายคนนั้นไปว่ายังไงบ้าง""เขาก็หล่อนะคะ แต่น้อยกว่าคุณพ่อ" ภริตาเด็กน้อยวัยย่างเข้าเก้าขวบตอบไปตามความจริงเพราะสำหรับเธอแล้วไม่มีใครหล่อกว่าพ่อตัวเอง "ส่วนคุณแม่แค่ยิ้มหวานให้ผู้ชายคนนั้นค่ะไม่ได้ตอบอะไร น้องริตาเลยตอบแทนคุณแม่ไปว่ามีลูกแล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินหนีไปเลย""ทำดีมากลูกรัก ไม่เสียแรงที่พ่อให้ลูกช่วยดูแลแม่จากผู้ชายคนอื่น" ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยบึ้งตึงก่อนหน้านี้เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นเมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากบุตรสาว ก่อนเขาจะเอื้อมมือไปหยีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสี่ปีเกือบห้าปีแล้วอีกแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะคบห้าปีพอดี บุตรสาวของเขาอายุย่างเข้าเก้าปีเริ่มเติบโตเป็นสาวแล้วรู้เรื่องทุกอย่างจึงเป็นตัวช่วยของเขาได้ดีงานที่เขามอ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 50 The end

    จากวันนั้นเวลาก็ดำเนินมาหนึ่งปีเต็ม ๆแบงค์ยังคงคอยดูแลลูกในฐานะคุณอาที่แสนดี ซึ่งเขาก็เต็มใจยอมรับไม่คิดเรียกร้องอะไรแค่ได้อยู่ในชีวิตผู้หญิงที่รักทั้งสองคนเขาก็มีความสุขแล้วครืดดด~สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้แบงค์ที่กำลังเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปหาบุตรสาวที่บ้านเอกวิโรจน์เหมือนเช่นทุกวันต้องหยุดชะงัก ก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดูคิ้วเข้มพลันขมวดชนกันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสายที่โทรเข้ามาคือแม่ของลูกอดแปลกใจไม่ได้เพราะปกติเธอจะไม่โทรมาแต่เช้าแบบนี้ จึงกดรับสายด้วยความอยากรู้"โทรมาแต่เช้าเลยมีอะไรรึเปล่าส้ม"(ส้มจะโทรมาบอกว่าวันนี้ให้มาหาลูกตอนเย็น ๆ นะ เพราะช่วงเช้าพ่อกับแม่ส้มจะพาน้องริตาไปข้างนอก)พอได้ฟังประโยคจากปลายสายเขาก็หน้าหงอยลงฉับพลันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะกะไว้ว่าจะไปรับสองแม่ลูกไปทำบุญด้วยกันที่วัดสักหน่อยเนื่องในวันนี้เป็นวันเกิดของเขา อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนสาวคงจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาเพราะเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทั้งสองไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันตั้งแต่เกิดเรื่องนั่น"อ๋อ..ได้ ๆ" เขาได้แต่เก็บความเศร้าไว้ในใจแล้วเปล่งเสียงตอบปลายสายไ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 49 หน้าที่พ่อแม่

    ส้มทอดสายตามองบรรยากาศยามค่ำคืนริมระเบียงห้องพักด้วยความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่พาบุตรสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในสมองก็ครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับเรื่องชายหนุ่มและลูก ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดจนสายลมเย็นยะเยือกลอยสัมผัสผิวเรียบเนียนทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นโอบกอดตัวเอง ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำนิลที่มีดวงดาวน้อยใหญ่ลอยประดับประดาอย่างสวยงาม แต่นาทีต่อมาเธอก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรนุ่ม ๆ อุ่น ๆ ที่คลุมลงมาบนไหล่ ครั้นเอี่ยวหน้ามองก็พบว่าเป็นพ่อของลูกนั่นเองที่เอาผ้ามาคลุมไหล่ให้เธอ จึงเอ่ยขอบคุณไปตามมารยาท "ขอบคุณ"แบงค์เพียงยกยิ้มให้เพื่อนสาวบาง ๆ แล้วเดินไปยืนริมระเบียงข้าง ๆ ทอดสายตามองออกไปนอกท้องทะเลอันมืดสลัวโดยไม่พูดอะไรออกมา เฉกเช่นเดียวกับส้มที่มองออกไปยังทะเลอีกครั้งโดยไม่พูดอะไรทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ปกคลุมไปด้วยความเงียบมีเพียงเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาเป็นระยะไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ต่างคนต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ก่อนแบงค์จะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นชวนคุยขณะที่สายตายังคงจดจ่อกับทะเลเบื้องหน้า "บรรยากาศดีเนาะ ส้มว่าไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 48 สายเลือด

    เช้าวันต่อมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็พากันลงไปทานอาหาร ครั้นทานอาหารเสร็จก็เช่ารถของโรงแรมพาบุตรสาวไปเล่นที่สวนน้ำกระทั่งเที่ยงจึงพากันไปทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังของภูเก็ต"กินข้าวเสร็จคุณอาใจดีจะพาน้องริตาไปเที่ยวไหนต่อคะ" เด็กน้อยภริตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ๋วระหว่างที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับเอียงหน้าขึ้นมองคุณอาใจดีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่ส้มนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งจ้องมองบุตรสาวด้วยความรู้สึกเอ็นดูระคนมันเขี้ยวเพราะยิ่งนับวันบุตรสาวก็ยิ่งติดคนเป็นพ่อมากขึ้น ดูอย่างตอนนี้สิแทนที่จะนั่งข้างเธอ กลับเลือกไปนั่งข้างชายหนุ่มแต่ก็คงไม่แปลกอะไรเพราะเขาเล่นตามใจบุตรสาวไปเสียทุกอย่างไม่ว่าบุตรสาวจะบอกจะขออะไรก็ทำให้หมดไม่เคยขัดจึงทำให้บุตรสาวชอบอยู่กับเขา"อืม..เราไปดูเครื่องบินที่หาดไม้ขาวกันไหมครับ พอแดดร่มหน่อยเดี๋ยวเราค่อยไปเล่นน้ำทะเลกัน" คนถูกถามอย่างแบงค์นั่งใช้ความคิดชั่วครู่ ก่อนเสนอความคิดเห็นให้บุตรสาวพร้อมกับยกมือลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความรักใคร่เอ็นดู"ได้ค่ะ"เด็กน้อยภริตายิ้มรับจนตาหยีพลอยทำให้คนเป็นพ่อแม่ยิ้มตามไปด้วย ก่อนแบงค์จะเล

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 47 เที่ยว

    นับจากวันนั้นเวลาก็ผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ แล้วที่แบงค์ได้กลับเข้ามาในชีวิตเพื่อนสาวกับลูกอีกครั้ง ตอนเช้าของทุกวันก่อนไปทำงานเขาจะแวะมาหาบุตรสาวก่อนเสมอ และหลังเลิกงานตอนเย็นก็แวะมาเล่นกับบุตรสาวอีกครั้ง หากเป็นวันหยุดเขาก็จะมารับบุตรสาวพาไปเที่ยวเป็นประจำ บางครั้งก็พาไปนอนค้างคืนที่บ้านด้วยกัน ส่วนความสัมพันธ์กับแม่ของลูกก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากกว่าเดิมเพราะเธอปิดกั้นเขาทุกทางคงจะมีแค่เรื่องลูกที่ทำให้เธอยอมเกี่ยวข้องกับเขา ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ถอดใจหวังว่าสักวันจะแทรกซึมเข้าไปในใจเธอได้อีกครั้งวันนี้เป็นวันหยุดเขาเลยชวนบุตรสาวไปเที่ยวทะเลตามที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ และเขายังแอบพูดกับบุตรสาวว่าให้ชวนแม่ไปด้วยเพราะหวังว่าจะได้สร้างโมเม้นท์ดี ๆ กับแม่ของลูกเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้นกว่าเดิม และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนส้มยอมไปเที่ยวทะเลด้วยเพราะทนแรงออดอ้อนจากบุตรสาวไม่ไหว ทะเลที่เขาจะพาสองแม่ลูกไปเที่ยวก็คือภูเก็ตนั่นเองเพราะเขาไปมาครั้งที่แล้วมันสวยมาก ที่เที่ยวก็มีเยอะแยะจึงอยากให้บุตรสาวได้เที่ยวบ้าง ทั้งสามออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยรถส่วนตัวโดยแบงค์ทำหน้าที่เป็นคนขับ เขาอยากจะ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 46 ฐานะอะไรก็ได้

    ส้มนั่งคุยกับนับดาวไปเรื่อย ๆ โดยปล่อยให้บุตรสาวเล่นกับชายหนุ่มไปเพราะเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างนั้นก็ปรายตามองสองคนพ่อลูกเป็นระยะ ๆ "แกจะไม่ให้น้องริตารู้จริง ๆ เหรอว่าแบงค์เป็นพ่อของเขา ฉันว่าน้องริตามีความสุขมากนะที่ได้เจอแบงค์" นับดาวเอียงหน้ากระซิบถามเพื่อนสาวเบา ๆ หลังจากนั่งมองเพื่อนชายกับบุตรสาวเล่นด้วยกันมาสักครู่แล้ว"ตอนนี้ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ แต่ถ้าในอนาคตไม่รู้" ส้มเองยังคงยืนยันคำเดิมเพราะเธอยังจำความหมางเมินที่ชายหนุ่มแสดงต่อลูกในท้องได้ดี เขาไม่แม้แต่ทำหน้าที่พ่อสักครั้ง"แกลองเปิดโอกาสให้แบงค์ได้ทำหน้าที่พ่อดูสักหน่อยสิ หากมันดีหรือไม่ดีแกก็ค่อยตัดสินใจอีกครั้ง" นับดาวใช้มือตบลงบนบ่าเพื่อนสาวเบา ๆ เชิงให้กำลัง ก่อนจะหันไปชวนเด็กน้อยภริตาเข้าไปในครัวเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้คุยกัน "น้องริตาไปดูขนมคุกกี้ในครัวกับแม่นับดีกว่าค่ะว่าเสร็จรึยัง""ค่ะ" เด็กน้อยภริตารีบพยักหน้ารับคำอย่างไร้เดียงสาพร้อมกับลุกเดินไปหานับดาว จากนั้นก็พากันเดินหายเข้าไปในครัวทิ้งให้แบงค์กับส้มนั่งกันตามลำพังภายในห้องโถงถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบนานหลายนาที ก่อนแบงค์จะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา "แบงค์รู้เร

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 45 ลดสถานะ

    วันต่อมา"สรุปเรื่องของลูกกับเจ้านายเป็นยังไงแล้วลูก" เสียงของคุณหญิงอัปสรดังขึ้นทำให้ส้มที่นั่งจมอยู่กับความคิดมากมายในหัวหลุดจากภวังค์ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียงตอบผู้เป็นแม่อย่างเนือย ๆ "มันจบแล้วค่ะแม่ หนูกับพี่นายคุยกันจนได้ข้อสรุปแล้วว่ากลับไปพี่น้องกันเหมือนเดิมดีกว่าเพราะขืนดันทุรังคบกันต่อไปหนูคิดว่าคงมีปัญหาตามมาไม่จบไม่สิ้น หนูไม่อยากเสียใจและเหนื่อยกับเรื่องความรักแล้ว""แม่เข้าใจ ไม่เป็นไรนะยังไงลูกก็ยังมีพ่อกับแม่อยู่ข้าง ๆ" อัปสรนึกเห็นใจบุตรสาวไม่น้อยที่ต้องมาผิดหวังกับเรื่องความรักซ้ำ ๆ ถึงสองครั้งสองคราทำได้เพียงขยับตัวเข้าไปรั้งบุตรสาวมาสวมกอดไว้หลวม ๆ เชิงปลอบประโลมและให้กำลังใจในเวลาเดียว ซึ่งส้มไม่ได้ตอบอะไรกลับเพียงฝืนระบายยิ้มให้ท่านบาง ๆ แม้ในใจจะรู้สึกชอกช้ำไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานหลังจากเจ้านายมาหาที่บ้านเธอก็ตัดสินใจถามเขาไปตรง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ลียามาบอก คำตอบที่ได้รับจากปากเจ้านายคือมันเป็นเรื่องจริง เขาพลาดมีอะไรกับลียาจริง ๆ เพราะความเมาเขาเล่าให้เธอฟังทุกอย่างโดยไม่ปิดบังรวมทั้งเรื่องที่โดนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายบังคับให้แต่ง

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 44 ...

    หลังจากวันนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ เรื่องระหว่างส้มกับเจ้านายก็เหมือนจะไม่มีอะไรเพราะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาแม่ของเขาไม่ได้โทรมากวน หรือทำอะไรเลยซึ่งเจ้านายเองก็ไปมาหาสู่เธอเป็นปกติเหมือนเช่นทุกวัน ส่วนพ่อของลูกก็หายเงียบไปเลยตั้งแต่วันนั้นเธอก็ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอกับลูกจะราบรื่นสักที ทว่าเหมือนที่เธอหวังจะไม่เป็นจริงเมื่อแม่บ้านเดินมารายงานว่า "คุณส้มค่ะมีคนมาขอพบค่ะ เห็นว่าชื่อลียา"คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเพียงได้ยินชื่อคนที่มาหา แต่คิดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่เพราะเธอกับลียาไม่ได้สนิท หรือรู้จักกันแต่อย่างใดที่เธอมาหาคงไม่พ้นเรื่องของเจ้านายแน่ ๆ เธอลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะบอกกล่าวแม่บ้าน "เชิญเขาเข้ามาเถอะค่ะ"สิ้นเสียงเธอแม่บ้านก็เดินออกไปทันที และเพียงไม่นานก็เห็นแม่บ้านเดินนำหญิงสาวรูปร่างผอมเพรียวเข้ามา"สวัสดีค่ะคุณส้ม" ลียายกมือขึ้นไหว้ส้มซึ่งมีอายุมากกว่าเธออย่างนอบน้อมทันทีที่เดินมาถึงส้มเพียงพยักหน้ารับคำกล่าวทักทาย แล้วถามไถ่เข้าประเด็นทันทีเพราะไม่อยากเสียเวลาแม้แแต่นาทีเดียว "คุณลียามีอะไรคะถึงได้มาหาส้มถึงที

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status