หน้าหลัก / โรแมนติก / อุ้มรักเพื่อนสนิท / บทที่ 2 ผู้หญิงที่โชคดี

แชร์

บทที่ 2 ผู้หญิงที่โชคดี

หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ 

ความสัมพันธ์ระหว่างส้มกับแบงค์ยังคงเป็นเพื่อนกันดั่งเดิม แม้ช่วงแรกส้มจะทำตัวห่าง ๆ เพื่อนชายไปบ้าง 

แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมยังคงไปมาหาสู่เธอเป็นประจำ บางครั้งก็ซื้ออาหารมาทานที่ห้องเธอบ้างล่ะ วันหยุดก็มาชวนเธอไปเที่ยวบ้าง 

วนเวียนอยู่แบบนั้นทำเหมือนว่าเรื่องในคืนนั้นไม่เคยเกิดขึ้นจนสุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ให้กับความช่างตื้อของเขา อย่างเช่นตอนนี้ที่เขามานั่งหน้าสล่อนอยู่ห้องเธอพร้อมกับถุงอาหารมากมาย

"หอบอะไรมาเยอะแยะแบงค์" เธอหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาอีกฝั่งกวาดสายตามองถุงข้าวของที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะกระจก ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้าถามเพื่อนชาย

"ข้าวเที่ยงไง กินคนเดียวมันเหงาเลยพามากินกับเธอ" แบงค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วลุกเดินไปหยิบจานในครัวเพื่อมาใส่อาหารทำเหมือนที่นี่เป็นห้องตัวเองไม่ต้องขออนุญาตเพื่อนสาวสักนิด 

เขามาบ่อยจนรู้แล้วว่าอะไรวางอยู่ตรงไหนบ้าง

"จริง ๆ เลย" ส้มได้แต่ส่ายหน้าถอนหายใจออกมาเบา ๆ กับการตีเนียนทำเหมือนเป็นเจ้าของห้องของเพื่อนชาย เลือกจะนั่งเอนหลังพิงโซฟาแล้วหลับตาลง ปล่อยให้อีกคนใช้ห้องได้ตามสบาย ช่วงนี้เธอรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลาไม่รู้ทำไมกัน

ส่วนแบงค์หลังจากเอาจานมาก็ทำการนั่งแกะอาหารในกล่องใส่จานเงียบ ๆ ไม่คิดส่งเสียงรบกวนอีกคนที่นั่งหลับตาอยู่

กลิ่นหอมของอะไรบางอย่างลอยแตะจมูกคนที่นั่งหลับตาอยู่จนเธอต้องลืมตาขึ้นมองด้วยความสนใจ "หอมจังซื้อไรมาอ่ะ"

"ฮึ..หอมงั้นเหรอปกติส้มไม่ชอบไม่ใช่เหรอ" แบงค์ที่ได้ยินคำพูดเพื่อนสาวถึงกับขมวดคิ้วชนกันเป็นปมในตอนที่กำลังแกะแกงส้มชะอมทอดใส่ถ้วย ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าเรียวด้วยความสงสัยเพราะปกติเพื่อนสาวจะบอกว่าเหม็นตลอด แต่มาครั้งนี่กลับบอกว่ามันหอม "ส้มเป็นหวัดคัดจมูกรึเปล่า"

"ไม่น่ะส้มสบายดี" ส้มเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันจ้องมองแกงส้มชะอมทอดในถ้วยอย่างพินิศที่ผ่านมาเธอไม่เคยจะชอบกลิ่นมันเลย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับรังเกียจเพราะมันเป็นของโปรดแบงค์ แต่ตอนนี้เธอกลับมองว่ามันทั้งหอมทั้งน่าทานด้วยซ้ำ ยื่นจมูกเข้าไปสูดดมกลิ่นหอมของแกงใกล้ ๆ 

"สงสัยส้มจะได้เห็น ได้กลิ่นบ่อย ๆ จนเริ่มชอบตามแบงค์ไปแล้วมั้ง" เปล่งเอ่ยไปตามที่คิดไม่ได้นึกเอะใจ หรือคิดว่าเป็นตัวเองที่ผิดปกติไป

"มันมีด้วยเหรอแบบนี้" แบงค์ยิ่งขมวดคิ้วมากกว่าเดิมตั้งแต่เกิดมาเขาก็เพิ่งเคยได้ยินจากเพื่อนสาวครั้งแรกนี่แหละว่าคนเราสามารถเปลี่ยนจากไม่ชอบเป็นชอบได้เพียงได้เห็น และได้กลิ่นบ่อย ๆ เหมือนสำนวนที่ว่าเห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง "บะ.."

"เลิกสงสัยแล้วกินกันเถอะน่า ฉันอยากกินจนน้ำลายสอแล้ว" ส้มรีบพูดแทรกขึ้นก่อนเพื่อนชายจะได้เอ่ยอะไรต่อพลางยื่นมือไปตักข้าวจากกล่องใส่จานให้ตัวเองกับเขา แล้วเริ่มลงมือทาน

"แปลกจริง" แบงค์บ่นพึมพำกับตัวเอง นึกแปลกใจไม่ได้จริง ๆ กับท่าทางเพื่อนสาวในตอนนี้ที่กำลังตักแกงส้มชะอมทอดเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย 

ส่วนทางกับก่อนนี้สิ้นเชิงเพราะเพียงได้กลิ่นแกงเธอก็หน้านิ่วคิ้วขมวดแล้ว

เขามองเพื่อนสาวนิ่ง ๆ พลันทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ส้มถือเป็นเพื่อนที่ดีมาก ๆ คนหนึ่ง เขารู้จักกับเธอ และนับดาวมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น 

ความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนสาวสองคนดีมาตลอด เวลามีปัญหาอะไรก็ช่วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด กระทั่งนับดาวแยกไปมีครอบครัวนี่แหละจึงทำให้เหลือเพียงเขากับส้มที่ยังไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นเขาจึงพยายามรักษาความสัมพันธ์อันดีกับเธอไว้

"กินสิแบงค์นั่งมองส้มจะไปอิ่มเหรอ" เสียงของส้มดังทบโสตประสาททำให้เขาหลุดออกจากห้วงความคิด พยักเพยิดหน้าให้เพื่อนสาวโดยไม่เอ่ยอะไร ก่อนก้มหน้าทานข้าวไปพลางปรายตามองใบหน้าเรียวเป็นระยะ สังเกตท่าทางของเพื่อนสาว

เขาเป็นหมอย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่เพื่อนสาวเป็นอยู่มันไม่ปกติ คิดว่าคงมีปัญหาอะไรสักอย่างแน่ ๆ เพียงแต่เขาเป็นหมอกระดูกจึงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับหู คอ จมูกมากเท่าไรนักหากให้แน่ใจต้องหาหมอเฉพาะทาง

"แบงค์ว่าส้มลองไปหาหมอดูไหมจะได้แน่ใจว่าไม่ได้ป่วยเป็นอะไรจริง ๆ" เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้งหลังจากทานข้าวเสร็จแล้วเพราะอดห่วงเพื่อนสาวไม่ได้จริง ๆ

"อือ ๆ ไว้พรุ่งนี้จะไปหา" ส้มรับปากแบบขอไปที ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างคนเกียจคร้านเมื่อรู้สึกอิ่มเป้ล อีกคนได้แต่ส่ายหน้ากับท่าทางของเธอแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา 

จัดการเก็บจานพาไปวางในครัวทิ้งให้หน้าที่ล้างจานเป็นของเธอเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อเสร็จก็เดินกลับไปหย่อนก้นนั่งที่เดิม

ครืดดด~

สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ส้มที่กำลังจะอ้าปากพูดกับเพื่อนชายชะงัก มือเรียวหยิบโทรศัพท์ที่วางข้างตัวขึ้นมาดูครั้นเห็นเบอร์มารดาโชว์หราบนหน้าจอจึงกดรับสาย

"ว่าไงคะแม่"

(พ่อเขาบ่นคิดถึงน่ะ เย็นนี้กลับมาทานข้าวที่บ้านนะ)

"ได้ค่ะ" 

(โอเคจ้ะ)

หลังจากวางสายมารดาส้มก็ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะทุกครั้งที่กลับไปบ้านเธอมักจะถูกท่านบ่นเสมอ และชอบบังคับให้ทำนู่นทำนี่ที่เธอไม่อยากทำ นึ่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงแยกออกมาอยู่คอนโดทั้งที่มีบ้านหลังใหญ่โตโออา มีคนใช้คอยทำทุกอย่างให้ สะดวกสบายไปหมดทุกอย่าง

ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าเธอโคตรโชคดีเกิดมาบนกองเงินกองทอง มีครอบครัวแสนอบอุ่น พ่อกับแม่ดูรักเธอมาก ๆ ทว่านั่นเป็นเพียงภายนอกที่คนอื่นเห็น 

ความเป็นจริงคือเธอไม่มีความสุขเลยสักนิดตั้งแต่เล็กจนโตเธอโดนพ่อแม่ขีดเส้นตลอด ต้องเป็นไปตามที่พวกท่านต้องการไม่เคยมีความคิดเป็นของตัวเอง และไม่เคยมีอิสระเหมือนเด็กคนอื่น ๆ เลย

สิ่งที่พวกท่านพูดกลอกหูเธอทุกวันคืออย่าทำให้พวกท่านขายหน้า ต้องเรียนเก่ง ๆ ต้องได้เป็นที่หนึ่งเพราะพวกท่านเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคมจะน้อยหน้าคนอื่น ๆ ไม่ได้ 

โดยพวกท่านไม่เคยถามถึงความต้องการ และความรู้สึกของเธอสักนิด

"เป็นอะไร" แบงค์ที่นั่งมองเพื่อนสาวเงียบ ๆ ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าหน่าย ๆ ของเธอ หากให้เดาแม่เธอคงโทรให้กลับบ้านเพราะเธอมักบ่นเรื่องที่บ้านให้ฟังบ่อย ๆ เรื่องที่กระทบกระเทือนใจเพื่อนสาวได้มีแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้น

"แม่โทรให้กลับบ้านน่ะ" ส้มตอบอย่างเซ็ง ๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ แบงค์ได้ยินดังนั้นจึงยื่นมือไปตบบ่าเพื่อนสาวเชิงให้กำลังใจ "เอาน่านาน ๆ จะกลับบ้านที"

ส้มเพียงพยักหน้ารับไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา สายตามองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกหลากหลาย เพราะเพื่อนชายดีแสนดีแบบนี้ไงจะไม่ให้เธอหลงรักได้ยังไงกัน 

แบงค์เป็นเพื่อนที่ช่างสังเกตและใส่ใจเพื่อน ๆ ทุกคนมาก หากเพื่อนมีปัญหาก็คอยอยู่ข้าง ๆ  และคอยปลอบประโลมให้กำลังใจเสมอ เวลาเพื่อนพบเจออันตรายก็จะออกหน้าปกป้อง ยามเพื่อนไม่สบายก็คอยดูแลไม่ห่าง

ผู้หญิงคนไหนได้เขาเป็นสามีคงโชคดีมาก ๆ แต่ที่แน่ ๆ คงไม่ใช่เธอ เธอมันคงเป็นได้แค่เพื่อนสนิทของเขาเท่านั้นพอคิดมาถึงตรงนี้ก็อดเศร้าไม่ได้ 

แต่ก็พยายามเก็บอาการสุดฤทธิ์ชวนเพื่อนชายพูดคุยอะไรเรื่อยเปื่อยกระทั่งเขาขอแยกตัวกลับไปทำงาน เธอจึงกลับบ้านเช่นกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status