Share

Chapter 6

อิธานอายุสิบเจ็ดปีกำลังเรียนมัธยมปลายโรงเรียนในจังหวัดที่เดียวกับสนานและหนุ่มสาวลูกชาวไร่อายุเท่ากัน ส่วนเกล้ากมลและวรดาอยู่ชั้นประถมในโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดที่ห่างกันไปสองกิโลเมตร

ด้วยมีจำนวนเด็กในวัยเรียนมาก คุณย่าอิสรีจึงเหมารถสองแถวคันโตให้มารับส่งนักเรียนทุกวัน เด็กประถมเลิกเร็วแต่เด็กมัธยมมักมีการเข้าชมรม พวกเธอจึงได้นั่งแกร่วรอคนอายุมากกว่าบนรถสองแถวอยู่บ่อย ๆ

สมาชิกในรุ่นอายุเจ็ดขวบของไร่เฉพาะเพศหญิงมีเพียงเกล้ากมลกับวรดา ส่วนคนอยู่มาก่อนดีใจมากที่มีเพื่อนเล่นเพิ่มมาอีกคน

“พี่หนานพาแต่ฉันไปตกปลาหรือขึ้นป่าไปวางกับดักกระต่าย”

วรดาระบายความอัดอั้นตันใจแก้มป่อง สนานใจดีกับน้องสาว แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้ชาย ไม่อาจเข้าถึงจิตใจสาวน้อยได้ ครั้นจะชวนเล่นทำกับข้าวหรือเล่นพ่อแม่ลูกเขาก็ไม่ยอม บอกว่าเด็กไป

“ตกปลาเหรอ ฟังดูน่าสนุก”

เกล้ากมลคิดถึงปลาดุกย่างเสียบไม้ ผิวชโลมเครื่องเทศกรอบหอม ๆ ควันฉุย ซึ่งนานทียายเกดจะซื้อให้กิน

“ฉันไม่ชอบเวลาปลามันดิ้นกระแด่ว ๆ น่าสงสาร” คนเล่าคิ้วตก “เกล้านิสัยท่าทางจะไปได้ดีคุณอิธกับพี่หนานนะ”

“กับพี่หนานน่ะเฉย ๆ แต่กับคุณอิธเขาไม่ชอบฉัน”

อิธานมักมองเกล้ากมลตาขุ่นบ้าง บางทีทำเป็นมองไม่เห็นก็มี จนสาวน้อยคิดว่าเขานิสัยเหมือนตัวร้ายในละคร ชอบแกล้ง เจ้าคิดเจ้าแค้น

“คุณอิธไม่ได้ไม่ชอบเกล้าหรอก เขาแค่หน้าดุ”

“พูดดีไป เป็ดก็กลัวเขา”

วรดาคอย่น เสตามองพื้น

“เขาเป็นเจ้านายพ่อแม่ฉันนี่ ถ้าทำไม่ดีเดี๋ยวโดนไล่ออก จะไปอยู่ที่ไหนกัน”

ยายพลวงสอนลูกสาวให้เคารพนายจ้างโดยใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือ วรดารักครอบครัว จึงพลอยกลัวอิธานไปด้วย ข้อนี้เธอเพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง

“ฉันปวดฉี่อะ ลงไปเป็นเพื่อนหน่อย”

เกล้ากมลเปลี่ยนหัวข้อสนทนาชวนเพื่อนลงจากรถ โดยไม่ลืมบอกคนขับที่สูบยาเส้นอยู่ใต้ต้นมะขามให้รับทราบ เขาจะได้ไม่ต้องตกใจตอนนับจำนวนแล้วเด็กไม่ครบ

สักพักวรดาที่ไปเป็นเพื่อนเกิดอยากเข้าห้องน้ำบ้าง สาวน้อยบอกให้เพื่อนไปรออยู่ที่โรงอาหาร เพราะตนอาจทำธุระหนัก

เด็กหญิงตัวน้อยจึงเดินไปในโรงอาหารเปิดโล่ง ตอนเย็นร้านค้าปิดหมดแล้ว เหลือแต่ร้านสหกรณ์ที่ยังเปิดไฟอยู่ สาวน้อยสะดุดตากับตู้กระจกใส มองดูข้างในเป็นขนมอบกรอบฟูสีน้ำตาลอ่อน ถาดข้างกันมีเค้กสี่เหลี่ยมแต่งหน้าด้วยครีมเป็นรูปกระต่าย

เค้กเป็นของฟุ่มเฟือยที่จะกินได้ปีละครั้งในวันเกิดเท่านั้น และเค้กที่เคยกินมันมีสีน้ำตาลเนื้อร่วนหน้าเคลือบอะไรบางอย่างใสเหมือนวุ้นแต่หวานและหนืดเล็กน้อย มีครีมบีบเป็นเส้นตกแต่งเพียงบาง ๆ การได้เห็นเค้กชิ้นสวยตกแต่งด้วยครีมเต็มที่เหมือนในโฆษณาโทรทัศน์จึงเป็นของตื่นตาตื่นใจมาก

“หนูซื้อเค้กไหม ชิ้นละยี่สิบห้าบาท” พนักงานผูกผ้ากันเปื้อนมีหมวกคลุมผมถามจากเหนือตู้กระจก “เหลือไม่กี่ชิ้นแล้ว”

เกล้ากมลส่ายหน้าแล้ววิ่งกลับไปห้องน้ำโดยไว สวนทางกับที่วรดาออกมาพอดี สองสาวน้อยจึงไปขึ้นรถ

วรดาเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟังแจ้ว ๆ แต่เค้กครีมชิ้นนั้นยังคงอยู่ในสมองเกล้ากมล

คุณย่าอิสรีให้เงินมาโรงเรียนวันละสิบบาท เพราะโรงเรียนประถมมีโครงการอาหารกลางวันให้อยู่แล้ว จะซื้อเพิ่มก็มีเพียงน้ำหวานหรือขนมเล็ก ๆ น้อย ดับความหิวช่วงบ่าย

เกล้ากมลนึกถึงเงินที่ยายเกดสอดมาในซองจดหมาย แต่ก็ใจแฟ่บเมื่อจำได้ว่าเงินนั้นคุณย่าอิสรีให้คนพาเธอไปเปิดบัญชีธนาคารออมสินแล้วฝากเงินไว้ เธอต้องยอมอดน้ำหวาน อดขนมช่วงบ่ายเสียแล้วล่ะ เงินยี่สิบห้าบาทเท่ากับต้องอดถึงสามวัน

วันแรกผ่านไปด้วยดี แค่เกล้ากมลหิวจนตาลายกลับมากินกล้วยในครัวไปสองลูก วันต่อมาแผนล้มเหลว เพราะมีสายไหมแบบหยอดเหรียญมาจอดตอนกลางวัน จึงเผลอใช้เงินลุ้นสายไหม ได้มาห้าอัน มันแสบคอจนต้องดื่มน้ำหวานซ่าล้างปาก

วันต่อมาดูเหมือนพระเจ้าจะส่งบททดสอบมาให้อีก เพราะร้านค้าในโรงเรียนมีตุ๊กตากระดาษมาขาย ในแผงโฆษณาว่า “แฟชั่นล่าสุด” สองสาวจึงซื้อมาคนละชุด เล่นกันเพลินพร้อมดื่มนมเปรี้ยว กระทั่งวันศุกร์ เธอมีเงินวางอยู่ในกระป๋องออมสินสิบบาท ยังเหลืออีกสิบห้าบาทจึงจะซื้อเค้กได้ วันพรุ่งนี้เป็นวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์จะไม่ได้เห็นเค้กนั่น

เด็กหญิงรู้สึกร้อนรนจนทนไม่ได้ เป็นความรู้สึกท่วมท้นในอกซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลยยามอยู่กับยายเกด ความรู้สึกที่อยากได้มาครอบครอง อยากลิ้มรส

ตอนนี้เธอมีชีวิตดี มีห้องนอนกว้าง มีชุดสวยเหมือนในโฆษณา แล้วทำไมถึงจะกินเค้กไม่ได้

เอาล่ะ...พรุ่งนี้เธอจะบอกคุณย่าอิสรีว่าอยากกินเค้ก ท่านต้องหามาให้ได้แน่ ๆ ขณะยิ้มกริ่มอยู่แล้วก็ขมวดคิ้ว ท่านจะมองเกล้ากมลเป็นเด็กขี้ขอหรือเปล่า จะมองว่าเป็นเด็กไม่น่ารักหรือไม่ เธอไม่อยากให้คุณย่าไม่ชอบ สาวน้อยคิดอย่างวุ่นวายใจจนผล็อยหลับไปเพราะเพลีย

ตื่นมาอีกก็เกือบฟ้าสาง ด้วยยายพลวงมาปลุก ระหว่างเดินลงมาชั้นล่าง ผ่านห้องครัว เธอเห็นยายพลวงกับแม่ครัวอีกคนกำลังทำกับข้าว ผักหลายชนิดวางอยู่บนโต๊ะเตรียมอาหาร

ท่ามกลางสีเขียวเข้มของผัก มีสีเขียวซีดอยู่ ธนบัตรใบละยี่สิบบาทวางยับ ๆ ข้างถุงคะน้า เงินใครกัน แต่คนทำครัวดูเหมือนจะไม่สนใจกันเลย ยังอยู่หน้าเตา หน้าอ่างล้างจาน

เกล้ากมลจึงเดินไม่ต่างกับย่อง ใช้มือคว้าหมับเข้าที่เงิน กำแน่นมิดชนิดไม่ให้ใครเห็น กลั้นหายใจดูว่าสองคนนั้นจะหันมาหรือไม่ แต่ไม่มีใครสนใจเธอเลย เกล้ากมลจึงเอามือไปซุกไว้ในกระเป๋ากระโปรง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status