เกล้ากมลอาศัยจังวะที่อีกฝ่ายอึ้งระบายความในใจต่อ“คุณย่าให้เราแต่งงานกันเพราะความเข้าใจผิด”“แต่เรามีลูกด้วยกัน” เขาพยายามย้ำ“เก๊าะ...ก็คืนนั้นเกล้าปล้ำคุณ”ไม่รู้ใครปล้ำใคร แต่เธอถือว่าตัวเองเป็นคนทำ ยังสบายใจเสียกว่า“มันจะไม่สำเร็จถ้าฉันไม่ใช่ความร่วมมือ เราทำกันทั้งสองคน”ผู้สมรู้ร่วมคิดรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน“แล้วคุณอิธจะเล่าเรื่องของเราให้ลูกฟังแบบไหนล่ะ”ทำนบที่กลั้นสิ่งค้างคาใจกำลังแตกออก เกล้ากมลพรั่งพรูถ้อยคำที่อยากถาม“เพราะมันไม่มีการจีบ ไม่มีการบอกรัก ไม่มีของขวัญ ไม่มีอะไรเลย ยอมรับเถอะค่ะ คุณอิธไม่ได้รักเกล้า แล้วจะทนอยู่อย่างนี้ไปทำไม”“เธออย่ามาพูดเหมือนรู้ดีเลยเกล้า”ในดวงตาสีน้ำตาลนั้น หาได้หวั่นไหวกับคำถามเธอไม่“เกล้าพูดอย่างที่ตาเห็นค่ะ แค่นี้นะคะ วันนี้เหนื่อยแล้ว เกล้าอยากพักผ่อน”เกล้ากมลกลับเข้าห้อง ล็อกมันเสียจากเขา ทิ้งตัวลงนอน...แล้วน้ำตาก็ไหล พูดไปเสียตั้งมากมาย คำว่ารักที่ได้กลับไม่มีหลุดจากปากเขาหากให้คะแนนผู้ชายยอดแย่ ตอนนี้เธอให้กรวีกับอิธานคะแนนเท่ากัน พวกชอบทำร้ายจิตใจผู้หญิง หากคิดพินิจสักนิด หากไตร่ตรองเสียหน่อย แค่คำว่ารักสั้น ๆ คำเดียวก็ท
“คุณอิธออกไปเกล้าอึดอัด”ถัดจากให้ดอกไม้ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเขาก็มานอนรัดเธอเป็นงูเหลือมอยู่บนเตียง“เตียงออกจะกว้าง”อ้อมแขนมีแต่จะยิ่งแน่น หญิงสาวกำลังคิดหาวิธีไล่เขาออกไป แต่ก็ยังคิดไม่ออก“ท้องเกล้าเริ่มใหญ่ ตัวคุณก็โต นอนเบียดกันบนเตียงยิ่งอึดอัด มันไม่ดีต่อลูกนะคะ เดี๋ยวแกไม่โต”เกล้ากมลเอาคนในท้องมาอ้าง เล่นเอาอ้อมแขนที่รัดรอบอยู่ชะงัก เขาเงยศีรษะขึ้น สำรวจหน้าท้องภรรยา“ท้องเธอยังไม่โตขนาดนั้นสักหน่อย”“แต่เกล้าอึดอัดค่ะ ดิ้นไปดิ้นมาลำบาก”ยิ่งเขาขมวดคิ้วกังวลแสดงว่าข้ออ้างเธอได้ผล“พรุ่งนี้จะให้คนหาเตียงไซซ์พิเศษมาให้”“งั้นคืนนี้ คุณอิธให้เกล้านอนคนเดียวนะคะ ลูกจะได้ไม่อึดอัด”“ไม่ได้ ๆ” ดวงตาคมเปล่งแสงไม่ยอมตามที่พูด “เกิดเธอปวดท้อง หรือเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ”“เกล้าท้องแค่สามเดือนเองนะคะ” คุณแม่ท้องสาวทำแก้มป่อง บ่นในใจว่าเขาจะห่วงอะไรหนักหนา“จะกี่เดือนฉันก็ไม่ไว้ใจ”“ถ้าคุณอิธห่วง เกล้าไปนอนกับคุณย่าก็ได้”“อย่านะ!”เขาร้อง ถ้าทำเช่นนั้นต้องตอบคำถามคุณย่านานแน่ แถมด้วยมีสายตาทิ่มแทงจากยายพลวงเป็นของแถม“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงล่ะ”เกล้ากมลกอดอก รู้สึกตนกำลังเป็นต่อ“ฉันจะนอนพื้น
เกล้ากมลและอิธานได้ลูกสาว เด็กหญิงกาญน์เกล้า หรือน้องเอิร์ธ เป็นหนูน้อยลูกเสี้ยวที่สดใส เธอได้จมูกโด่งมาจากผู้เป็นพ่อ และตาโตใสแจ๋วมาจากผู้เป็นแม่ กินรีซื้อทองรับขวัญหลานหลายสิบบาท นางญาติดีกับอิธานหลังจากรู้ว่าให้เงินสิบล้านเป็นสินสอด“ขอโทษที่ช้าไปหน่อยครับคุณแม่”เงินทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ฝากคืนในบัญชีส่วนตัวของเกล้ากมล ผู้เป็นแม่แค่กลัวอิธานจะไม่รัก ทิ้งขว้างลูกสาวเหมือนครั้งหนึ่งที่นางเคยเจอ เมื่อได้เห็นความจริงใจของเขาเป็นเงินนางก็เบาใจลงบ้างอิธานไม่ให้เกล้ากมลทำงานเลย เขาให้เธอเลี้ยงลูกอย่างเดียว แล้วตั้งวรดาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านขายของฝาก แต่กระนั้นหากมีเวลาว่าง เกล้ากมลก็หอบหนูน้อยไปเยี่ยมทุกคนที่ร้านเสมอ ชนันธรกับกรวีคลอดลูกชายที่อเมริกาก่อนลูกสาวเธอไม่กี่สัปดาห์ และพูดเล่น ๆ ว่าอยากให้ลูก ๆ ดองกัน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนหวงลูกสาวอย่างอิธานคุณพ่อหลงหนูน้อยขนาดหนัก ยอมลงทุนโกนหนวดให้เกลี้ยงเกลาทุกวัน หลังจากเอาหน้าไปถูแล้วแก้มลูกสาวเป็นปื้นแดงเพราะรอยหนวดกาญจน์เกล้าก็ติดพ่อ ตอนเช้าส่งเสียงปลุก ให้พ่อป้อนอาหารเช้า โบกมือหย็อย ๆ ส่งจูบให้อิธานตอนไปทำงาน เย็นก็ต้
แดดสิบนาฬิกาเริ่มแรงด้วยอีกสองชั่วโมงจะใกล้เที่ยง เวลาที่ดวงอาทิตย์จะทำมุมกับโลกและแดดส่องแสงร้อนที่สุดของวัน หญิงสาวในรถแท็กซี่ไม่อนาทรร้อนใจ ด้วยเธอกำลังกังวลกับสถานที่ที่จะไปถึงต่างหากเสียงเพลงในวิทยุรถดังแว่วมาพอคลายความอึดอัดที่คนแปลกหน้ามานั่งอยู่ในรถด้วยกันถึงสองคน ทว่าไม่ได้เข้าถึงโสตประสาทเธอ ด้วยสมองกระหวัดเห็นภาพเครื่องหมายสองขีดสีแดงบนพื้นขาว“จอดตรงข้างนี้แหละค่ะ”เป้าหมายอยู่เลยจากจุดเดิมมาประมาณสิบนาที เธอชำระค่าโดยสาร มือบางกระชับสายกระเป๋าทรงเมสเซนเจอร์สะพายข้างใบโปรดไว้มั่น“ติดต่อเรื่องอะไรคะ” ประชาสัมพันธ์หน้าเคาน์เตอร์ส่งยิ้มสวย“เอ่อ...ที่โทรมานัดคุณหมอไว้ค่ะ ชื่อเกล้ากมล ผ่องบุรี”เธอหลบสายตา เสมองแจกันดอกกล้วยไม้ที่ตั้งอยู่ใกล้เคาน์เตอร์“เชิญชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง แล้วก็ซักประวัติ ในห้องนั้นนะคะ”มือบางผายไปยังอีกห้องที่ประตูเลื่อนเปิดโล่งอยู่ มีพยาบาลรุ่นคุณป้าคอยทำหน้าที่“ไปรอเรียกคิวหน้าห้องตรวจนะคะ”นางผายมือไปอีกห้องซึ่งอยู่ด้านใน หลังซักประวัติเธอเรียบร้อย ผู้มาใช้บริการวันนี้มีแต่เพศหญิง หุ่นยังเพรียวสมส่วนอย่างเธอบ้าง หรืออวบอูมตามอายุครรภ์ บางคนก็อ่
เด็กหญิงเกล้ากมลอ้าปากกว้างเมื่อรถหกล้อขนพืชผลการเกษตรแล่นเข้าสู่อาณาเขตไร่สมบูรณ์ดี ทุ่งหญ้าเขียวขจีเหมือนใครเอาสีเขียวเข้มมาเทบนพื้นตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าใสไร้เมฆ แต่งแต้มด้วยลายขาวดำของวัวที่แทะเล็มหญ้าอยู่เป็นจุด ๆ ลมฤดูร้อนพัดมาโลมผิว แต่หนูน้อยไม่รู้สึก ด้วยกำลังตื่นเต้นกับทุกอย่างในครรลองสายตา กระทั่งรถมาจอด ณ โรงครัวใหญ่ ที่มีผู้คนเดินไปมาขวักไขว่“ยายพลวง ๆ”คนขับรถเรียกหญิงชราวัยเดียวกับยายเกดที่ยืนคุยกับแม่ครัวโพกหัวผูกผ้ากันเปื้อน“อะไรเจ้าพร” เจ้าของชื่อร้องถาม“ยายเกดจะมาหาคุณท่าน”ยายพลวงยกมือไหว้ผู้อายุมากกว่าทันทีที่เห็น“ไปยังไงมายังไงล่ะพี่”“ว่าจะมาเยี่ยมคุณท่านนานแล้ว ไม่มีโอกาสเสียที วันนี้ว่างเลยมาหา” ยายเธอเล่า พลางแนะนำ “นี่หลานฉัน เกล้า ไหว้ยายพลวงเสียสิ”เกล้ากมลกระพุ่มมือไหว้ ผู้ใหญ่มองเธอด้วยสายตาเอ็นดู“ไหว้พระเถอะลูก ใกล้เที่ยงแล้ว มา...กินข้าวด้วยกันก่อนสิ”“ฉันกินเรียบร้อยมาตั้งแต่ในตลาดแล้ว”“แต่หนูหิวนะยาย”เกล้ากมลไม่เข้าใจว่ายายเกดจะโกหกไปทำไม เพราะในตลาดได้กินเพียงขนมครกเท่านั้น มันมิใช่ข้าวเลยมิใช่หรือ ผู้เป็นยายขึงตาใส่หลาน ยายพลวงหัวเราะ พอรู้ว
เกล้ากมลรีบสาวเท้าไปดู จักรยานเป็นของที่เธออยากได้อีกอย่าง แต่ยายเกดให้ไม่ได้ สีแดงสลับเงินของมันทอประกายยามต้องแสงแดดที่ลอดผ่านกิ่งก้านใบไหม้ลงมา ยั่วยวนชวนให้สัมผัส จนมือน้อย ๆ อดไม่ได้ที่จะลูบไล้“ทำอะไรน่ะ”เสียงห้าวตะโกนฉุนเฉียวมาจากหน้าบ้านใหญ่ เด็กหญิงตัวน้อยสะดุ้งหันมองขวับ เจ้าของเสียงก้าวยาว ๆ มายืนตรงหน้า เขารูปร่างสูงจนต้องมองคอแหงนตั้งบ่า ผิวคร้ามแดด ตาสีน้ำตาลอ่อนและที่สำคัญหน้าฝรั่ง จมูกโด่ง“เด็กที่ไหนเนี่ย อย่ามาจับจักรยานของฉัน”เขาปัดมือเธอออกไม่ต่างกับปัดแมลง แล้วย่อตัวสูงใหญ่ลงสำรวจพาหนะตน ราวกับการแตะต้องของเธอก่อให้เกิดความสึกหรอใหญ่หลวง“เห็นสวยเลยขอจับหน่อย”เกล้ากมลแก้ตัว สายตามองผมรองทรงที่ตัดอย่างประณีต เหมือนพี่นักเรียนชายมอปลายที่เคยเห็นในตลาด“ไม่ให้จับ มือสกปรกหรือเปล่าก็ไม่รู้” เจ้าของรถผินหน้ามาทางเธอด้วยความบึ้งตึง“หน้าตาดีเหมือนตุ๊กตา แต่นิสัยไม่ดีขี้เหนียว”เธอเบ้ปากด้วยยึดหลักใครดีมาก็ดีตอบ แต่หากร้ายมาเกล้ากมลก็จะร้ายไป“เธอ!” เขากัดฟันกรอด ในดวงตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ “ปากเสีย ลูกใคร บอกมาเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปจัดการพ่อแม่เธอ”หนุ่มผมรองทรงลุกขึ้นยืนเต็ม
“พลวงไปจัดห้องข้างบนให้หนูเกล้าที เอาห้องว่างปีกขวาที่ติดกับห้องฉันนะ” คุณย่าอิสรีสั่งให้ยายพลวงจัดห้องชั้นสองให้เกล้ากมล “จะได้เรียกใช้สะดวก ๆ กลางคืนก็มานอนเฝ้าหน้าเตียงฉัน”เด็กหญิงจึงอยู่ในฐานะเด็กรับใช้ของเจ้าของไร่ นอกจากนั้นเธอยังมีโอกาสได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับอิธานอีกด้วย“ไหน ๆ รับปากยายเกดมาแล้วว่าจะเลี้ยงหลานให้ ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุด”คุณย่าอิสรีเอ่ยอย่างเอ็นดู ชอบแววตาฉลาด ไม่กลัวคน นึกชอบใจที่ยายเกดเลี้ยงหลานมาได้ดี ด้วยท่านมีมดลูกที่ไม่แข็งแรง ตั้งครรภ์กี่ครั้งก็แท้งหมด จนมาถึงคราวพ่ออิธาน สามีต้องตระเวนไปบนหลวงพ่อดัง ๆ ลูกชายจึงรอดมาได้ แต่ก็เคราะห์กรรมยังไม่หมด จู่ ๆ เขาก็เกิดอุบัติเครื่องบินตกที่อังกฤษคุณปู่สมบูรณ์จึงไปพาหลานกลับมาเลี้ยง ไม่ทันไรคุณปู่ก็เสียไปอีกคน คุณย่าที่ไม่เคยทำงานไร่เลยต้องมารับช่วงต่อ ดีที่ยังมีคนงานเก่าแก่คอยช่วยเหลือ ทั้งบริหารงานในไร่และเลี้ยงดูอิธานไปด้วยหลานชายรักย่าก็จริง แต่ออกจะเป็นคนแข็ง ๆ ชอบอยู่ในไร่ มากกว่าจะอยู่ในบ้าน ทำให้ท่านเหงาบ้างเป็นบางที ได้เกล้ากมลมาก็ดีเหมือนกันจะได้มีเพื่อนเกล้ากมลตกใจกับห้องนอนใหม่ มีเตียงหลังใหญ่ ผ้าปูที
“ค่ะคุณย่า” หนูน้อยรับคำพร้อมน้ำตารื้นยายจ๋าคุณย่าอิสรีเป็นคนใจดีจริง ๆ เธอชักเข้าใจแล้วว่าทำไมยายเกดจึงอยากให้มาอยู่ที่นี่ละครเล่นไปได้ครึ่งเรื่องเกล้ากมลก็ปวดฉี่ คุณย่าอิสรีชี้ให้ไปเข้าห้องน้ำถัดจากครัวไปหน่อย หลังเสร็จธุระเธอกำลังจะออกมาจากห้องน้ำก็ได้ยินคนเปิดประตูหลังบ้าน เกล้ากมลใจตกไปอยู่ตาตุ่ม ใครกันจะมาบ้านเวลานี้และเข้าทางประตูหลังเธอแอบแง้มดูจากประตูห้องน้ำ เห็นหลังกว้างในความมืดตะคุ่ม ๆ ตายล่ะ มันกำลังไปทางห้องนั่งเล่น เธอเหลียวหาอาวุธต่อสู้กับคนร้าย ซึ่งไม่มีเลยจนตาเหลือบไปเห็นตะกร้าผลไม้ปลอมบนโต๊ะเตรียมอาหารในครัว มือเล็กจึงคว้าอาวุธจำเป็นวิ่งตามหลังไปติด ๆ แล้วขว้างผลไม้พลาสติก ทั้งมะม่วง แอปเปิล ส้ม มะละกอ โดยเฉพาะกล้วยที่โดนหัวคนร้ายดังปั๊ก“อย่าทำอะไรคุณย่านะไอ้โจรชั่ว!” เกล้ากมลตะโกนสุดเสียงพร้อมวิ่งไปจับขามันไว้“เฮ้ย! อะไรกันนี่ ยัยเด็กบ้า ปล่อยฉันนะ”มันพยายามสลัดคนเกาะให้หลุด แต่เธอยังมือเหนียวหนึบเป็นตุ๊กแก“คุณย่าหนีไปค่ะ” เธอรีบบอกผู้อาวุโสที่ตะลึงในเหตุการณ์อยู่“ปล่อยสิวะ” เจ้าโจรร้ายดันมือที่ศีรษะเล็ก หวังให้เธอไปไกล ๆ แต่เกล้ากมลร้ายกว่านั้น เธอกัดมือ
เกล้ากมลและอิธานได้ลูกสาว เด็กหญิงกาญน์เกล้า หรือน้องเอิร์ธ เป็นหนูน้อยลูกเสี้ยวที่สดใส เธอได้จมูกโด่งมาจากผู้เป็นพ่อ และตาโตใสแจ๋วมาจากผู้เป็นแม่ กินรีซื้อทองรับขวัญหลานหลายสิบบาท นางญาติดีกับอิธานหลังจากรู้ว่าให้เงินสิบล้านเป็นสินสอด“ขอโทษที่ช้าไปหน่อยครับคุณแม่”เงินทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ฝากคืนในบัญชีส่วนตัวของเกล้ากมล ผู้เป็นแม่แค่กลัวอิธานจะไม่รัก ทิ้งขว้างลูกสาวเหมือนครั้งหนึ่งที่นางเคยเจอ เมื่อได้เห็นความจริงใจของเขาเป็นเงินนางก็เบาใจลงบ้างอิธานไม่ให้เกล้ากมลทำงานเลย เขาให้เธอเลี้ยงลูกอย่างเดียว แล้วตั้งวรดาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านขายของฝาก แต่กระนั้นหากมีเวลาว่าง เกล้ากมลก็หอบหนูน้อยไปเยี่ยมทุกคนที่ร้านเสมอ ชนันธรกับกรวีคลอดลูกชายที่อเมริกาก่อนลูกสาวเธอไม่กี่สัปดาห์ และพูดเล่น ๆ ว่าอยากให้ลูก ๆ ดองกัน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนหวงลูกสาวอย่างอิธานคุณพ่อหลงหนูน้อยขนาดหนัก ยอมลงทุนโกนหนวดให้เกลี้ยงเกลาทุกวัน หลังจากเอาหน้าไปถูแล้วแก้มลูกสาวเป็นปื้นแดงเพราะรอยหนวดกาญจน์เกล้าก็ติดพ่อ ตอนเช้าส่งเสียงปลุก ให้พ่อป้อนอาหารเช้า โบกมือหย็อย ๆ ส่งจูบให้อิธานตอนไปทำงาน เย็นก็ต้
“คุณอิธออกไปเกล้าอึดอัด”ถัดจากให้ดอกไม้ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเขาก็มานอนรัดเธอเป็นงูเหลือมอยู่บนเตียง“เตียงออกจะกว้าง”อ้อมแขนมีแต่จะยิ่งแน่น หญิงสาวกำลังคิดหาวิธีไล่เขาออกไป แต่ก็ยังคิดไม่ออก“ท้องเกล้าเริ่มใหญ่ ตัวคุณก็โต นอนเบียดกันบนเตียงยิ่งอึดอัด มันไม่ดีต่อลูกนะคะ เดี๋ยวแกไม่โต”เกล้ากมลเอาคนในท้องมาอ้าง เล่นเอาอ้อมแขนที่รัดรอบอยู่ชะงัก เขาเงยศีรษะขึ้น สำรวจหน้าท้องภรรยา“ท้องเธอยังไม่โตขนาดนั้นสักหน่อย”“แต่เกล้าอึดอัดค่ะ ดิ้นไปดิ้นมาลำบาก”ยิ่งเขาขมวดคิ้วกังวลแสดงว่าข้ออ้างเธอได้ผล“พรุ่งนี้จะให้คนหาเตียงไซซ์พิเศษมาให้”“งั้นคืนนี้ คุณอิธให้เกล้านอนคนเดียวนะคะ ลูกจะได้ไม่อึดอัด”“ไม่ได้ ๆ” ดวงตาคมเปล่งแสงไม่ยอมตามที่พูด “เกิดเธอปวดท้อง หรือเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ”“เกล้าท้องแค่สามเดือนเองนะคะ” คุณแม่ท้องสาวทำแก้มป่อง บ่นในใจว่าเขาจะห่วงอะไรหนักหนา“จะกี่เดือนฉันก็ไม่ไว้ใจ”“ถ้าคุณอิธห่วง เกล้าไปนอนกับคุณย่าก็ได้”“อย่านะ!”เขาร้อง ถ้าทำเช่นนั้นต้องตอบคำถามคุณย่านานแน่ แถมด้วยมีสายตาทิ่มแทงจากยายพลวงเป็นของแถม“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงล่ะ”เกล้ากมลกอดอก รู้สึกตนกำลังเป็นต่อ“ฉันจะนอนพื้น
เกล้ากมลอาศัยจังวะที่อีกฝ่ายอึ้งระบายความในใจต่อ“คุณย่าให้เราแต่งงานกันเพราะความเข้าใจผิด”“แต่เรามีลูกด้วยกัน” เขาพยายามย้ำ“เก๊าะ...ก็คืนนั้นเกล้าปล้ำคุณ”ไม่รู้ใครปล้ำใคร แต่เธอถือว่าตัวเองเป็นคนทำ ยังสบายใจเสียกว่า“มันจะไม่สำเร็จถ้าฉันไม่ใช่ความร่วมมือ เราทำกันทั้งสองคน”ผู้สมรู้ร่วมคิดรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน“แล้วคุณอิธจะเล่าเรื่องของเราให้ลูกฟังแบบไหนล่ะ”ทำนบที่กลั้นสิ่งค้างคาใจกำลังแตกออก เกล้ากมลพรั่งพรูถ้อยคำที่อยากถาม“เพราะมันไม่มีการจีบ ไม่มีการบอกรัก ไม่มีของขวัญ ไม่มีอะไรเลย ยอมรับเถอะค่ะ คุณอิธไม่ได้รักเกล้า แล้วจะทนอยู่อย่างนี้ไปทำไม”“เธออย่ามาพูดเหมือนรู้ดีเลยเกล้า”ในดวงตาสีน้ำตาลนั้น หาได้หวั่นไหวกับคำถามเธอไม่“เกล้าพูดอย่างที่ตาเห็นค่ะ แค่นี้นะคะ วันนี้เหนื่อยแล้ว เกล้าอยากพักผ่อน”เกล้ากมลกลับเข้าห้อง ล็อกมันเสียจากเขา ทิ้งตัวลงนอน...แล้วน้ำตาก็ไหล พูดไปเสียตั้งมากมาย คำว่ารักที่ได้กลับไม่มีหลุดจากปากเขาหากให้คะแนนผู้ชายยอดแย่ ตอนนี้เธอให้กรวีกับอิธานคะแนนเท่ากัน พวกชอบทำร้ายจิตใจผู้หญิง หากคิดพินิจสักนิด หากไตร่ตรองเสียหน่อย แค่คำว่ารักสั้น ๆ คำเดียวก็ท
เป็นรุ่งเช้าที่เกล้ากมลตื่นมาเพียงลำพังในห้องนอน แต่พอเปิดตู้เสื้อผ้าตามความเคยชิน ก็พบว่าเสื้อทุกตัวของเธอจากบ้านมารดามาอยู่ที่นี่แล้ว บนโต๊ะเครื่องแป้งมีถุงยาและสมุดฝากครรภ์จากคลินิกวันดี อิธานเอามันมาได้อย่างไร!อาการโมโหของเธอยังไม่ได้คำตอบ พอดีกับชายหนุ่มในสภาพเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เดินออกมาจากห้องน้ำ“นอนต่ออีกไหม เดี๋ยวสักเจ็ดโมงฉันจะปลุก”เขาหอมหน้าผากมนของภรรยาที่กำลังตะลึงอยู่“คุณอิธไปเอาของเกล้ามาได้ยังไง”“ก็ให้คนไปเอาที่กรุงเทพ ไม่รู้เธอจะใช้ชิ้นไหนบ้าง เลยเอามาหมด”โดยมีสนานกับคนงานอีกสองคน ติดตามกึ่งขู่ คนขับรถกินรีจนไปถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ได้สำเร็จ“บ้าไปแล้วหรือยังไง”“ก็ฉันบอกแล้วว่าให้เธออยู่นี่” เขาไปเปิดอีกตู้หนึ่งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“วันนี้เรามีแขกด้วยนะ ซันมันมา”เกล้ากมลเลิกคิ้ว“พี่ซันมาทำไมคะ”อิธานไม่ชอบตงิด ๆ ที่เธอเรียกคู่แข่งตัวฉกาจของเขาแบบนั้น“มารับเมียมันกลับ”ใจเกล้ากมลหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม“พาฉันไปหาพี่ลูกน้ำทีค่ะ คุณอิธนะคุณอิธ ทำให้เรื่องยุ่งเข้าไปอีกทำไม”ภาพในหัวเธอคือชนันธรโดนกรวีทำร้าย ร้องไห้น้ำตานอง แต่ที่ไปเห็นจริง ๆ คือกรกวีโ
“มานี่เลยนะเกล้า”ไม่ยากนักที่ชายหนุ่มจะดันประตูให้เปิดกว้าง แล้วคว้าแขนกึ่งลากเธอไปยังห้องหอของทั้งสอง“เราไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว พรุ่งนี้เกล้าจะไปหย่าให้ ลูกนี่เกล้าก็จะดูแลเอง ไม่ให้ใช้นามสกุลคุณ เกล้าจะไม่เอาอะไรไปสักบาท”เกล้ากมลบอกพลางหอบ เพราะต้องต้านแรงเขาที่ลากเธอไปยังห้องหอได้สำเร็จ“คุณไปมีลูกใหม่กับคนอื่นเถอะ พี่ลูกน้ำนั่นไง”“นั่นเมียคนอื่น ฉันมีเมียเดียวคือเธอ”สมองเกล้ากมลต้องห้ามใจตัวเองอย่างหนัก ไม่ให้เต้นแรงเกินไป บอกว่าไม่ให้เชื่อคำพูดเขา“ไม่ต้องไปเฝ้าคุณย่า นอนให้ห้องนี้กับฉัน” เขากดเธอนั่งลงบนเตียง“เกล้าจะหย่า” หญิงสาวบอกเสียงหอบ หน้าแดงจัด“ฉันไม่ยอมให้หย่า”“ลูกเกิดจากความไม่ตั้งใจของเราทั้งคู่นะ”เธอเตือน หวังว่าเขาจะนึกได้บ้างว่าหลังจากคืนนั้นเขาทำตัวเย็นชากับเธอขนาดไหน“ไม่ว่าลูกจะเกิดจากอะไร ฉันยินดีต้อนรับแก”เขายิ้มกว้าง มือใหญ่หยาบกร้านลูบหน้าท้องเธอไปทั่ว“คุณอิธเป็นผู้ชายที่แย่มาก พอรู้ว่ามีลูกกับเกล้าก็จะทิ้งพี่ลูกน้ำเลยเหรอคะ”“ฉันกับเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกันแล้ว เธอนั่นแหละไปอยู่บ้านแม่ทำไม”หน้าท้องเธออุ่นและเรียบเนียน ส่วนไหนหนอที่เป็นที่อยู่ของเจ้
“คุณท่านไม่สบาย”วรดาส่งข่าวมาในเช้าวันศุกร์หลังกินรีเดินทางไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์“โรคคนแก่ ตั้งแต่เกล้าไปอยู่กรุงเทพ ท่านก็ดูซึม ๆ มาเยี่ยมท่านไหม”ยายพลวงทำปากพะงาบ ๆ บอกบทลูกสาว จนเกล้ากมลบอกว่าจะมาเยี่ยมนั่นแหละนางจึงยิ้มได้“แล้วคุณท่านจะยอมเล่นเป็นคนป่วยเหรอแม่”หลังจบสายเพื่อน วรดาก็ถามผู้เป็นแม่เสียงอ่อย“ยอมสิวะ ท่านก็คิดถึงเกล้าจะตาย”ยายพลวงกำลังวางแผนให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน เมื่อเจ้านายถือทิฐิกันนัก คนรับใช้อย่างนางนี่แหละจะจัดการทุกอย่างเอง เพื่อให้ไร่สมบูรณ์ดีกลับมาสุขสงบเหมือนเคยเกล้ากมลมาด้วยการนั่งรถยุโรปคันโต เธอผิวขาวนวลขึ้น ใบหน้าผุดผาด วรดาถึงกับห่อปากเพราะเพื่อนดูสวยแม้แต่งหน้าเพียงบางเบา“รัศมีคุณหนูจับมากเลยเกล้า สวยจริง”เธอเลือกใส่ชุดแซกทรงตรง เพื่อพรางรูปร่างที่กำลังขยาย“คุณย่าล่ะ”วรดาพาหญิงสาวไปพบผู้สูงวัยซึ่งนอนดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนอน ยายพลวงต้องรีบสะกิดให้ท่านทำตัวโศกเมื่อเกล้ากมลเข้ามา คุณย่าอิสรีดูผอมลง ผมขาวมีแซมบนศีรษะมากขึ้น หญิงก้มลงกราบที่หน้าอก ท่านเอามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะคนที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย“เกล้าสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ คุณย่าล่ะคะ”“สุ
เช้าวันต่อมามีเมฆฝนครึ้ม ลมพัดแรง ร้านของฝากเงียบเหงา ไร้ลูกค้า พนักงานจับกลุ่มกันคุยด้วยความเป็นห่วงชนันธรที่ลาป่วยติดกันสามวันยายพลวงโทรมาหาเธอบอกให้รีบกลับบ้านใหญ่โดยเร็ว คุณย่าอิสรีมีเรื่องสำคัญจะคุย เธอจึงขับรถคู่กายฝ่าอากาศอึมครึมเข้าไป มีรถยุโรปยี่ห้อดาวสามแฉกสีงาช้างจอดที่โรงรถ คุณย่าอิสรีมีแขกอีกแล้ว แต่เมื่อเธอไปยังห้องรับแขกแล้วก็ต้องตะลึง“เกล้า” ผู้หญิงที่เคยอยู่ในรูปถ่ายที่ยายเกดให้ดูเรียกชื่อเธอ “แม่คิดถึงหนูมากเลย”เกล้ากมลตัวแข็ง หายใจขัด เมื่อผู้ให้กำเนิดมายืนตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้า แม่ที่เธอเคยคิดว่าอาจจะตายไปแล้ว เพราะแม้แต่งานศพตายายก็ไม่ยอมปรากฏตัว“แม่ไปอยู่ที่ไหนมา”กว่าหญิงสาวจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นเวลานานผู้มาใหม่มีเค้าหน้าคลายเธอ ส่วนสูงเตี้ยกว่าเล็กน้อย ผมดำยาวสยายถึงกลางหลัง ทั้งการแต่งตัวและเครื่องประดับเหมือนผู้มีอันจะกินในละคร หากไม่รู้อดีตแต่หนหลัง คงไม่มีใครจะเชื่อว่ามารดาเป็นลูกสาวตายายผู้ซอมซ่อกินรีมีเรื่องเล่ามากมายในชีวิต ตั้งแต่เธอหนีออกจากบ้าน มากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ หนีชีวิตที่ยากจน กระทั่งมาเจอกับพ่อเกล้ากมล อยู่ด้วยกันไม่นาน เมื่อท้องกินรีก
คำอธิษฐานของยายพลวงไม่เป็นจริง ซ้ำยิ่งร้ายเข้าไปอีกเพราะวันหนึ่งเงินในเครื่องคิดเงินหายไปห้าพันบาท วันนั้นเป็นวันที่วุ่นวายเพราะมีทัวร์ทั้งคนไทยและคนจีนมาลง เกล้ากมลวิ่งทำงานหัวหมุนทั้งเติมของทั้งเข้ามาช่วยคิดเงิน แต่เมื่อสิ้นวันมานับเงินกับปรากฏว่าหายไปห้าพันบาท ตรวจดูกล้องวงจรปิดก็ไม่มีอะไรผิดปรกติ“ในเมื่อหาตัวคนผิดไม่ได้ เราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน”ผู้จัดการร้านให้ทุกคนที่มาทำงานในวันนี้หารเงินจำนวนที่ขาดไป ท่ามกลางเสียงบ่นของทุกคน“ฉันจะแช่งให้ขโมยมันโดนวัวในไร่ขวิด” สาวนางหนึ่งถึงกับยกมือขึ้นขอพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์“ให้ท้องเสียสามวันเจ็ดวันไปเลย”“เฮ้ย! ตายกันพอดี” กลุ่มสาวอาวุโสท้วง“คนเลว ๆ ที่ทำคนอื่นเดือดร้อน ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ พี่จะห่วงมันทำไม หรือพี่เป็นคนทำ”สาวนางนั้นจ้องเขม็ง กลายเป็นมีเสียงซุบซิบอื้ออึงไปทั่ว ผู้จัดการเห็นว่าจะมีปัญหาเลยเปลี่ยนใจให้ไม่ต้องมีใครชดใช้“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเกล้าขอเงินคุณย่ามาเติมให้ก็ได้”เกล้ากมลเสนออีกทางเลือก โดยไม่รู้เลยว่าชนันธรจะฉวยโอกาสนี้ฟื้นอดีตขึ้นมา เกล้ากมลกลับบ้านใหญ่ตามปรกติ ขณะกำลังแต่งตัวลงไปกินข้าวเย็นวรดาก็โทรเข้ามา“ฉันได
ปรกตินางร้ายในละครจะแต่งหน้าจัด ดัดขนตางอนเช้ง ทาลิปสติกแดง ชนิดมองเห็นตั้งแต่ต้นซอยก็บอกยี่ห้อ “ฉันเป็นนางร้ายนะจ๊ะ” แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเกล้ากมลกลับเป็นนางร้ายหน้าใสในคราบนางเอก ชนันธรกล้ามากที่มาขอสามีเธอคืน“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอคะที่จะมาเอาเขาคืน”เกล้ากมลแสดงการดูถูกโดยการมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“เขายังรักฉันและฉันก็ยังรักเขา ส่วนเธอไม่ใช่นะเกล้า”เจ็บเหมือนโดนมีดปักอกเป็นอย่างไรหญิงสาวเพิ่งเข้าใจวันนี้เอง“ถอยไปเสียเถอะ เธอเป็นคนที่บังเอิญเข้ามาในเรื่องระหว่างฉันกับอิธเท่านั้นแหละ”“พี่ไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ใครอยู่หรือถอย ฉันตัดสินใจเองได้”เกล้ากมลเดินเบียดชนันธรหวังจะไปสูดอากาศข้างนอกเพื่อสงบใจ“เดี๋ยวฟังก่อน ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ”ปากชนันธรว่าอย่างนั้น แต่กลับจิกเล็บแน่นที่แขนของเกล้ากมล หญิงสาวสะบัดมันออก ทำเอาอีกคนล้มไปโดนชั้นวางของกล่องที่ซ้อนกันอยู่ด้านบนจึงหล่นมาทับ“ว๊าย!”ชนันธรร้องสุดเสียง พนักงานในร้านรีบเปิดประตูห้องเก็บของทันที ภาพที่เห็นคือเกล้ากมลยืนอยู่ แล้วชนันธรโดนของทับ“คุณลูกน้ำ ใครก็ได้ช่วยที”หลังจากนั้นคือความโกลาหลในร้านขายของฝาก พนักงานกรูกันเข้ามาช่วยเ