Share

Chapter 8

เด็กหญิงอ้อยอิ่งอยู่บนรถสองแถวนาน พยายามเดินให้ช้าที่สุด อิธานเลิกสนใจเธอแล้ว เพราะยายพลวงที่รออยู่หน้าประตูบ้านบอกว่า วันนี้คุณย่าอิสรีลงครัวเอง ท่านตำน้ำพริกปลาทูของโปรดหลาน เด็กหนุ่มจึงรีบไปอาบน้ำเพื่อเตรียมมากินข้าวเย็น

เกล้ากมลยังไม่กล้าเข้าบ้าน ซึ่งตอนนี้เธอรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นยักษ์ตัวใหญ่ รอตะปบเด็กที่ทำความผิดอย่างเธอ กระเป๋านักเรียนที่ถืออยู่รู้สึกหนักอึ้ง ด้วยไม่รู้จากน้ำหนักเค้กหรือบาปในจิตใจ

อิธานต้องรู้แล้วแน่ ๆ ว่าเธอแอบเอาเงินในครัวมาซื้อเค้ก แถมเขาไม่ชอบเธอ คงไม่พลาดที่จะเล่าให้คุณย่าฟัง แล้วเธอจะโดนทำโทษ

เกล้ากมลตัวสั่นเมื่อคิดว่าคุณย่าอิสรีต้องเรียกยายเกดมา ปรกติยายรักเธอ แต่เวลาแกลงโทษจะตีด้วยไม้ขัดหม้อข้าว มันทั้งเจ็บทั้งทิ้งรอยใหญ่บนขา เธอเคยเจอมาแล้วตอนแอบไปเที่ยวงานวัดกับครอบครัวเพื่อนบ้าน

เธอไม่อยากโดนตี แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ ในเมื่อหลักฐานก็ทนโท่อยู่ในกระเป๋านักเรียน...หลักฐาน ทันใดนั้นสมองเด็กอายุเจ็ดขวบก็สว่างวาบ ถ้าไม่มีหลักฐานก็จะไม่มีใครรู้ว่าเธอทำผิด

ตากลมเหลียวซ้ายแลขวา เวลานี้ตะวันโพล้เพล้ คนงานไปกินข้าวกันที่โรงอาหาร มีเหลือคอยรับใช้ในบ้านใหญ่ไม่กี่คนและอยู่ในบ้านกันหมด

เกล้ากมลเปิดกระเป๋านักเรียน หยิบกล่องเค้กยัดใส่พุ่มดอกเข็มที่ตัดเป็นทรงสี่เหลี่ยมยาวในสวน ยัดมันลงไปให้ลึกที่สุดเท่าที่แรงจะมี ...ต้องไม่มีใครเห็น ต้องไม่มีใครรู้

“เกล้า”

ร่างในชุดนักเรียนสะดุ้งโหยง เงยหน้าขึ้นดูบนชาน ยายพลวงยืนอยู่ตรงนั้น

“รีบได้แล้ว มาอาบน้ำกินข้าว อย่าปล่อยให้คุณท่านรอ”

ผู้สูงวัยบอกเสียงเรียบ แล้วรีบกลับเข้าบ้าน เธอถอนหายใจยาว ท่าทางอย่างนี้แสดงว่าไม่เห็นของที่ยัดในพุ่มดอกเข็ม เกล้ากมลตรวจดูอีกครั้งว่ามันเร้นจากสายตาผู้คนแล้ว เธอจึงค่อยขึ้นเรือนไป

แต่พิรุธในเด็กเจ็ดขวบเป็นเรื่องไม่ยากเลยที่อิธานจะสังเกตเห็น ด้วยสาวน้อยเงียบจนเกินไปบนโต๊ะกินข้าว ปรกติเธอจะเล่าเจื้อยแจ้วเรื่องโรงเรียน ห้องสมุด หมาแมว ในไร่ ล้วนแต่เรียกรอยยิ้มจากคุณย่าบ่อยนัก

“กินทิ้งกินขว้าง ไม่ดีนะรู้ไหม”

เขาเอ็ดเมื่อเห็นเธอเขี่ยผักไว้ขอบจาน มื้อเย็นวันนี้มีแกงเทโพหมูสามชั้น น้ำพริกปลาทู ไข่เจียว ผัดกุ๊ยช่ายขาว

“กับข้าวเผ็ดไปเหรอเกล้า”

แกงเทโพสีส้มน่ากิน ยายพลวงมีรสมือในการทำอาหารหนักเครื่อง คงเผ็ดร้อนเกินไปกับปากเด็ก

“เปล่าค่ะ ที่เกล้าไม่กินเพราะมันขมผิวมะกรูด”

ตาโตไม่มองอิธาน แต่ตอบผู้สูงวัยแทน

“ถึงยายเกดจะสอนว่าหวานเป็นลมขมเป็นยา แต่เกล้าไม่ชอบของขม ๆ”

“เรื่องมากจริงเธอ”

“อิธอย่าว่าน้องสิ” หลานชายตัวจริงยิ่งหน้าบึ้ง “งั้นก็กินไข่เจียวไปนะ”

เขาไม่พอใจ แต่อิธานไม่ใช่พวกหนีตะบึงตะบอน จะนั่งคอยกัด เป็นก้างขวางคออยู่อย่างนี้แหละ

คุณย่าอิสรีส่ายศีรษะกับหลานชายและหลานสาว ท่านอยากให้ทั้งสองสนิทกัน เหมือนคู่สนานกับวรดา บ้านใหญ่หลังนี้ที่แห้งแล้งเสียงหัวเราะจะได้แจ่มใสขึ้นบ้าง

แต่เปล่าเลย ผลที่ได้กลับตรงข้าม ทว่าท่านต้องไปปรึกษาเรื่องการเลี้ยงเด็กกับยายพลวงและนายไสวสามีเสียแล้ว

เสร็จจากมื้อค่ำ เกล้ากมลก็เอาการบ้านมาทำในห้องนั่งเล่น พร้อมดูโทรทัศน์เป็นเพื่อนคุณย่าอิสรีไปด้วย เธอค่อยโล่งใจหน่อยที่ไม่มีสายตาจ้องจับผิดจากอิธาน

พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า รีบเอาขนมในพุ่มไม้ไปทิ้งในถังขยะโรงอาหาร แค่นี้ก็จะไม่มีใครรู้ว่าเธอแอบซื้อมันมา

เด็กหญิงตัวน้อยวางแผนที่คิดว่าฉลาดที่สุดเท่าที่เด็กอายุเจ็ดขวบจะมีได้ คืนนั้นเธอหลับไปพร้อมรอยยิ้มกริ่ม จนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้าย เกล้ากมลฝันเห็นยายเกดถือไม้ขัดหม้อชี้หน้าเธอ

“เอ็งริจะเป็นขโมยเรอะ”

ผู้เป็นยายเสียงเกรี้ยวกราด หน้าถมึงทึง ข้างกันเป็นคุณย่าอิสรีที่คิ้วตก มองเธอด้วยสายตาตำหนิ

“เกล้า...”

ในฝันเธออึกอัก ทันใดนั้น ก็มีก้อนขนมเค้กตกเผละมากลางวง มันขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเบียดกลืนร่างเธอ ครีมสีขาวไหลเข้าปากและมีรสขม เหมือนยาสมุนไพรที่ยายเกดเคยต้มให้กินยามป่วยไข้

ในฝันเด็กน้อยดิ้นหนีสุดแรง แต่เจ้าเค้กยักษ์มีแต่จะยิ่งกลืนเธอเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับมัน ทั้งยังได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะ ๆ น่าจะเป็นกระดูกที่แตกหัก ในฝันเธอไม่รู้สึกเจ็บ แต่ใจเต้นแรง เหงื่อท่วม จนต้องทะลึ่งกายขึ้นกลางดึก

เกล้ากมลกำลังจะโดนเจ้าเค้กร้ายนั้นลงโทษ ความหวานน่ากินกลับเป็นอสุรกายเสียแล้ว สองเท้าเล็กลงจากเตียงไปเปิดม่านดูพุ่มดอกเข็ม เธอต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้ความฝันเป็นความจริง ไม่อาจรอจนถึงเช้าได้

สาวน้อยวัยเจ็ดขวบข่มความกลัว แอบย่องลงมาจากห้องตน เปิดประตูหน้าบ้าน มองซ้ายมองขวาดูว่าไม่มีคน รีบวิ่งไปยังพุ่มไม้ สอดมือไขว่คว้าหากล่องเค้ก ต้องทำลายมันเสียในคืนนี้!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status