Share

Chapter 10

“ไม่ใช่งูเขียว งูสีอะไรก็ไม่รู้ มันมืด คุณอิธเห็นเหรอ”

มือที่ลูบอยู่ชะงัก เกล้ากมลช้อนตาบวมแดงมองเขา

“จะงูอะไรก็ช่าง เดี๋ยวหมอรักษาได้เองแหละ”

นี่คือข้อแตกต่างระหว่างวรดากับเกล้ากมล น้องสาวเพื่อนนุ่มนิ่ม เชื่อพี่ชายทุกอย่าง แต่เกล้ากมลเต็มไปด้วยคำถาม แสดงความเป็นคนไม่ยอมคน

“อย่าหลับล่ะ แล้วก็เลิกร้องไห้ด้วย”

รถแล่นออกจากอาณาเขตไร่แล้ว ตาไสวขับบนทางหลวงสายเปลี่ยวอย่างรวดเร็ว โรงพยาบาลห่างออกไปประมาณสิบกิโลเมตร คุยกันแป๊บเดียวก็ถึง

เมื่อรถจอดหน้าห้องฉุกเฉิน อิธานอุ้มร่างน้อยออกจากรถ ระหว่างนั่งรถเข็นพยาบาลก็ซักถามอาการ เขาเป็นคนตอบแทนทั้งหมด เพราะเกล้ากมลทั้งตื่นกลัวทั้งร้องไห้ เธอจับมือเขาไว้แน่นตลอดเวลา

“คุณอิธอย่าทิ้งเกล้านะคะ”

ณ สถานที่แห่งนี้ มีเพียงเขาคนเดียวที่เธอพึ่งได้ เขาคนเดียวที่เธอจะเชื่อใจ

“ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก...เกล้า”

เพราะด้วยสงสารหรืออะไรก็ไม่รู้ ทำให้หนุ่มน้อยรับปากด้วยสายตาที่มุ่งมั่น แพทย์ให้ฉีดเซรุ่ม แล้วนอนดูอาการสักคืน เขาบอกให้ตาไสวโทรไปบอกคุณย่าอิสรี

“เดี๋ยวผมไปซื้อเสื้อในเซเว่นให้นะครับ”

ตอนนั้นเองอิธานถึงเพิ่งรู้ตัวว่าเขาเปลือยท่อนบนอยู่ กว่าจะจัดการพาเกล้ากมลเข้าห้องพักได้ก็ปาไปตีสองของวันใหม่ อิธานนั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียง โดยมีพยาบาลเวียนกันเข้าออกดูอาการทุกชั่วโมง

กระทั่งเช้าประมาณแปดโมงคุณย่าอิสรีและยายพลวงจึงมาเยี่ยม อิธานห้ามไม่ให้ตาไสวบอกความจริงที่เกล้ากมลขโมยเงินไปซื้อขนมเค้ก เขาคิดว่าเธอได้รับการลงโทษที่พอแล้ว

อีกอย่างก็ไม่อยากให้ผู้เป็นย่าไม่สบายใจ เมื่อท่านถามสาเหตุที่เธอออกมาในสวนตอนดึก อิธานจึงเล่าแทน

“คุณครูของเกล้าให้หาดอกไม้เป็นแบบวาดรูป เกล้ากลัวลืมเลยออกมาเอาตอนดึก”

เขาขยิบตากับสาวน้อยที่อ้าปากพะงาบ ๆ เตรียมสารภาพ

“ทำไมไม่บอกย่าก่อน จะได้ให้คนไปตัดให้”

คนป่วยหลุบตาลง ด้วยจนปัญญาจะตอบคำถาม

“เกล้าบอกแล้วแต่ผมลืม เขาเลยลงไปเอาเอง”

สาวน้อยเงยหน้ามาอีกครั้ง มองอิธานตาโต ไม่อยากเชื่อหูว่าเขารับผิดแทนเธอ

“อิธไม่ดูน้อง เห็นไหมเลยเกิดเรื่อง”

เป็นอันสิ้นข้อสงสัยของผู้ใหญ่ ขณะคนสมอ้างว่าตนผิดได้แต่ยิ้มให้ย่าเจื่อน ๆ

“ผมขอโทษครับ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว”

ปลายประโยคเป็นคำสัญญาแน่แน่วที่เกล้ากมลจำได้ไปจนตลอดชีวิต

“ไหน ๆ คุณย่าก็มาโรงพยาบาลแล้ว ไม่ไปคุยกับหมอ...เหรอครับ”

เขาเอ่ยชื่อแพทย์อาวุโสที่เป็นตาของเพื่อน ท่านทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้และเชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจ

“ไม่ได้นัด ไม่รู้คิวจะว่างหรือเปล่า”

อิธานจึงโทรจากในห้องถามพยาบาลให้ แล้วพบว่าแพทย์คนดังกล่าวมีเวลาว่างตอนสิบนาฬิกาอยู่ครึ่งชั่วโมง ลับหลังคุณย่าและคนสนิทออกไปแล้ว เกล้ากมลก็เอ่ยขึ้น

“คุณอิธโกหกช่วยเกล้าทำไม”

ตากลมแป๋วมองตรงมาที่เขา อิธานกอดอก เชิดหน้าขึ้น

“ถ้าเธอบอกความจริงล่ะก็ คิดดูสิว่าคุณย่าจะเสียใจขนาดไหน”

ริมฝีปากน้อยเม้มแน่น มือกำผ้าห่ม

“ยายบอกว่าใครโกหกคนนั้นนิสัยไม่ดี”

เออนะ เมื่อคืนยังร้องไห้ตาบวม วันนี้กลับมาเถียงฉอด ๆ ยัยเด็กคนนี้คาดเดาไม่ได้จริง ๆ

“ถ้าโกหกแล้วทำให้คนอื่นสบายใจ ไม่มีใครตาย ก็ทำไปเถอะ เธอยังเด็ก อยู่นิ่ง ๆ นั่งเฉย ๆ ให้ฉันจัดการ”

เขาแจงแล้วตบท้ายด้วยการสั่งหน่อย ๆ เกล้ากมลทำหน้าคิด ก่อนจะเอ่ย

“ก็ได้...ขอบคุณที่ช่วยนะคะคุณอิธ” เธอกระพุ่มมือไหว้

“ไม่เป็นไร ทีหลังอยากกินอะไรก็บอกคุณย่าหรือยายพลวง บ้านฉันไม่ได้เลี้ยงคนให้อดอยากเสียหน่อย” อิธานหลบตาเธอ ยกมือขึ้นเกาต้นคอ “ฉันไปห้องน้ำนะ อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”

คนบนเตียงพยักหน้า ร่างสูงใหญ่จึงเดินออกไป และในวันนั้นเอง ความคลางแคลงใจต่าง ๆ ที่มีกับเขามลายหายไปเหมือนหมอกยามสาย

พิษงูถูกรักษาด้วยเซรุ่ม แต่บางอย่างในใจดวงน้อยกลับถูกปลุกเร้า เกล้ากมลยังเด็กนัก เธอยังไม่เข้าใจความรู้สึกที่อยากอยู่ใกล้ อยากตามติด อยากให้เขาสนใจ

ด้วยคิดว่านั่นคือความรู้สึกที่มีต่อพี่ชาย เหมือนวรดารู้สึกกับสนาน อิธานมักทำหน้าดุเหมือนเคยยามเห็นเธอ แต่เกล้ากมลไม่สน เธอคุยเจื้อยแจ้ว เรียกเขาด้วยเสียงเล็ก ๆ ว่า

“คุณอิธ...”

กระทั่งกลายเป็นเสียงที่คุ้นหู ภาพที่ชินตากับคนในไร่สมบูรณ์ดีไปในที่สุด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status