ในปีที่อายุย่างเข้าสิบเก้า วรดาและเกล้ากมลสอบเข้าติดมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัด ทั้งสองเลือกเรียนคณะบัญชี เมื่อคุณย่าอิสรีทราบเรื่องก็ดีใจเป็นอย่างมาก เล่าในวงอาหารเย็นไม่หยุดว่าจะจัดโต๊ะจีนมาฉลอง แต่เกล้ากมลทัดทานไว้ก่อน“ไม่เอาหรอกค่ะ เปลืองเงิน แค่กินข้าวด้วยกันเล็ก ๆ ในครอบครัวก็พอแล้ว”“หลานย่าเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งที ไม่เปลืองหรอกใช่ไหมอิธ”“ครับ ถ้ากลัวเปลืองก็ฆ่าวัว ฆ่าไก่ในไร่เลี้ยงก็ได้” เขาแกล้งประชด เธอนึกทดเอาไว้ในใจกะจะเอาคืน“นาน ๆ ไร่ เราจะมีงานรื่นเริงบ้าง”ท่านทำเสียงเศร้า เล่นเอาคนได้ยินต้องคิดแผนสอง“เอาอย่างนี้ไหมคะ ทำขนมจีนเลี้ยงกัน ให้พระมาสวดทำบุญอัฐิธาตุประจำปีของทุกคน เกล้าจะทำของหวานเลี้ยง”“จะเหนื่อยไปไหมล่ะ”“ไม่เลยค่ะ เกล้าไหว ถือเป็นการเลี้ยงส่งก่อนเกล้าจะไปอยู่หอ”ผู้ใหญ่ตกลงกันแล้วว่าให้สองสาวไปเช่าหออยู่ด้วยกัน โดยจะให้อิธานกับสนานไปหาหอพักใกล้มหาวิทยาลัยให้...คิดแล้วก็ใจโหวง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องไปจากบ้านหลังนี้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม“งั้นตกลงเอาตามนี้นะ”อิธานตัดบท กินข้าวต่อ แต่แล้วก็ต้องมาปวดหัวเมื่อสนานมาคุยในห้องทำงาน“เลือกหอพักที่มีแต่
เกล้ากมลซึ่งตอนนี้อายุยี่สิบปี กำลังมองผู้ชายตัวโต ๆ อายุสามสิบปีอกหัก กลางวันเขาไปทำงานก็จริง แต่พอค่ำกลับมาก็ยกเหล้ามาดื่มที่ริมระเบียงบ้านทุกวัน สิ่งที่เรียกว่าอาหารเย็นคือจำพวกกับแกล้มที่พร่องไปเพียงนิด ฝีมือการทำอาหารโดยยายพลวง“ย่าไม่รู้จะทำยังไงแล้วเกล้า บอกไปก็มีแต่นิ่ง เหมือนคุยกับกำแพง” คุณย่าอิสรีใบหน้าเศร้าหมอง ยายพลวงที่คอยพยุงก็มีสีหน้าคล้าย ๆ กัน“ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ผมเผ้ารุงรัง มีหนวดเคราเหมือนมหาโจร” มารดาวรดาฟ้อง“แล้วเขามีติดต่อมาหรือเปล่าคะ พี่ลูกน้ำน่ะ”“โอ้ย! ไม่มีหรอก มีแต่ส่งของคืน กล่องใหญ่เชียว ได้ยินเสียงคุณอิธขว้างทิ้งเสียงดังลั่น”ชนันธรช่างร้ายกาจ ตัดบัวไม่ให้เหลือใยเลย มิน่าเล่า คนอกหักถึงได้อาการหนักขนาดนี้“เกล้าดูคุณอิธหน่อย ฉันจะพาคุณท่านไปพักผ่อน ไม่ไหว ๆ สงสารใจคนแก่”เกล้ากมลมองตามหลังผู้สูงอายุที่ขึ้นบันไดไป เธอต้องทำอะไรสักอย่าง!อิธานเกลียดเวลากลางคืน เพราะทั้งมืดและเหงา เกลียดแสงดาวระยิบระยับน่ารำคาญ เกลียดอากาศหนาว ที่แผ่ซ่านเข้ามาถึงกระดูกเขาชอบกลางวัน แดดจัดจ้า ที่ทำให้มีแรงออกไปทำงาน เพื่อให้ลืมเรื่องเจ็บใจ แต่ก็ลืมได้ไม่หมด จนต้องทำเขามา
เรื่องที่ยายพลวงเสนอมาไม่เคยอยู่ในความคิดของคุณย่าอิสรีเลย ท่านรักเกล้ากมลเสมือนลูกหลานแท้ ๆ ไม่ได้เลี้ยงเพื่อจุดประสงค์อื่นแอบแฝง“จะเป็นไปได้ยังไง สองคนนั้นเขาโตกันมาแบบพี่น้อง”ยายพลวงบึนปาก“ถ้าพี่น้องต้องแบบลูกอิฉันสิคะ ดูยังไงสองคนนั้นก็ไม่ได้สมัครสมานสามัคคีกันขนาดนั้น”“ก็เขาไม่ได้รักชอบพอกัน ฉันจะไปบังคับได้ยังไง”“คุณท่านตามใจคุณอิธแล้วดูผลลัพธ์สิคะ ไปเลือกคนที่ทำให้เจ็บใจอยู่นั่นไง”ท่านอึ้งเถียงไม่ออก“คุณอิธหล่อ มีเสน่ห์ ทำให้เกล้าหลงรักได้ไม่ยากหรอกค่ะ ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวว่าจะยอมทำไหม”ยายพลวงอธิบายอย่างคนรู้นิสัยจริงของหลานเจ้านาย เพราะเห็นมาแต่เล็กแต่น้อย“งั้นก็รอดูกันต่อไปอีกสักพักเถอะ”คืนนั้นคุณย่าอิสรีกลับไปคิดเรื่องหลานชายกับเกล้ากมล ไตร่ตรองข้อดีข้อเสียแล้วพบว่า เกล้ากมลเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก หากจะหาใครสักคนมาเป็นคู่ของอิธาน แม้อายุห่างกันเป็นสิบปี แต่เธอก็เพียบพร้อมทั้งกิริยามารยาท ความรู้ งานบ้านงานเรือน เพราะท่านฝึกมาเองกับมือเหลือแต่อิธานนั่นแหละจะยอมตกลงไหม ท่านไม่อยากให้เขาไปได้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นเมีย เพียงเพราะอารมณ์เปลี่ยวเหงาจากการอกหัก ก่อนนอ
อาการอิธานดีวันดีคืน เขาแฮงค์เพราะเหล้าไปหนึ่งคืนกับหนึ่งวันที่พอทรงตัวได้ จากนั้นก็ไม่ดื่มเหล้าอีกเลย แต่เกล้ากมลยังไม่ไว้ใจ จึงยังไม่เอาเหล้าสมบัติคุณปู่ออกมาจากห้องเก็บของยามเย็นเมื่อไม่ได้ดื่ม กลับมาจากทำงานชายหนุ่มมักจะมานั่งทอดขาเหยียดยาวดูพระอาทิตย์ตกดินที่ระเบียง กระทั่งวันหนึ่งหญิงสาวก็มานั่งข้าง ๆ“ออกไปเลยนะ ฉันไม่กินเหล้าแล้ว ขอเวลาอยู่คนเดียวบ้าง” เขาไล่แบบไม่มองหน้า เกล้ากมลยักไหล่“เกล้าอุตส่าห์มานั่งเป็นเพื่อน กลัวคุณอิธเหงา”“มีเธอมาอยู่ด้วย ฉันหนวกหูมากกว่า”“เกล้าจะพยายามหายใจเบา ๆ แต่ถ้ากลั้นนานแล้วตาย จะเป็นผีมาเอาคุณอิธไปอยู่ด้วย” เธอบอกเสียงทะเล้น ทำคนฟังหันมามองขวับ“พระอาทิตย์ตกดินต่อให้ดูคนเดียวก็ยังสวยอยู่ดีเนอะ”แสงสุดท้ายอาบไล้ใบหน้าขาวนวล ให้ออกสีส้มเหลือง เส้นผมยุ่ง ต้องแสงแล้วฟุ้งเบาราวขนมสายไหม เขาไม่เคยมองเต็ม ๆ ตาเลยสักครั้ง ตั้งแต่เกล้ากมลเริ่มโต เริ่มเป็นผู้หญิงเต็มตัว“เธอยังเด็กจะไปรู้อะไร”เกล้ากมลอายุห่างจากเขาสิบปี นับว่ายังเด็กนัก“รู้สิ เกล้าก็ชอบดูเพราะอาทิตย์ตกดินที่มหาลัย มันสวยดี”“ที่ว่าสวยน่ะ เธอดูกับใคร”“ดูกับเป็ดบ้าง ดูคนเดียวบ้าง
เกล้ากมลขับรถไปส่งสนานกับวรดาที่เรือนคนงาน จึงขับกลับบ้านใหญ่ เธอพยุงคนตัวโตพาเดินไปให้เงียบที่สุด ด้วยเกรงคุณย่าอิสรีจะตื่นมาเห็นแล้วจะถูกดุเรื่องไปดื่มเหล้าเสียเมามายหลังจากพากันขึ้นบันไดอย่างทุลักทุเลก็มาถึงห้องอิธาน เป็นครั้งแรกที่เกล้ากมลได้มาห้องเขา ภายในห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย ไม่มีโปสเตอร์หรือรูปอะไรทั้งนั้น โต๊ะเครื่องแป้งก็มีเพียงแป้งเด็กขวดเล็กกับกล่องพลาสติกใส่ของจิปาถะ เธอจับเขาถอดสูทออก พาไปนอนลงบนเตียง“จะโดนผู้หญิงปล้ำอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก”เกล้ากมลย่นจมูกใส่คนเมา มือขาวแกะกระดุมเสื้อออก เมื่อเขาขยับคออย่างอึดอัด เผยให้เห็นไรขนรำไร ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นร่างกายผู้ชายมาก่อน...เอ่อ ยอมรับก็ได้ ว่าเธอไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัสของจริง ที่รู้มามีแต่ผ่านสื่อทั้งนั้น ผู้ชายกล้ามไม่เหมือนผู้หญิง เพราะแน่นหนั่นแข็งแรงกว่าผิวสีคร้ามของเขาตัดกับผิวขาวของเธอ เกิดมีลูกด้วยกัน สีผิวหนูน้อยจะเป็นสีอะไรหนอ แต่ต้องรีบส่ายศีรษะไล่ความคิดเพ้อเจ้อออกจากสมอง เมื่อคิดถึงสิ่งไม่ควร ริมฝีปากหยักหนาขยับครางอือออ ก่อนจะเบาลงเหลือเพียงเสียงลมหายใจยาวนิ้วเรียวลองแตะจมูกโด่งเป็นสัน แบบไม่ต้องศัลยกร
เมื่อเกล้ากมลเปิดประตูเข้าไป ก็พบคุณย่าอิสรีนอนตาปรืออยู่บนเตียง ยายพลวงใช้พัดจีนพัดวีอยู่ อิธานนั่งพับเพียบบนพื้น ยายพลวงรับยาจากเธอไปให้ท่านจิบ ท่านพยักหน้าให้คนงานคนสนิทขยับเข้ามาใกล้ ๆ ซุบซิบอะไรบางอย่าง แล้วยายพลวงก็กวาดตามองทั้งเขาและเธอ“คุณอิธกับเกล้าออกไปก่อนค่ะ เดี๋ยวท่านจะเรียก”“แต่...” อิธานค้านเพราะยังไม่ได้อธิบายความเข้าใจผิด“กลับไปห้องของตัวเองเถอะค่ะ ถือว่าอิฉันขอ ไม่งั้นคุณท่านอาจจะเป็นหนักกว่านี้”เกล้ากมลกับเขาจึงจำต้องออกมานอกห้อง สายตาสองคู่สบกัน เพราะต่างยังมีเรื่องต้องเคลียร์“กลับห้องใครห้องมันค่ะ”ยายพลวงถึงกับออกมาไล่ซ้ำ เหมือนรู้ว่าทั้งสองต่างมีเรื่องค้างคาใจ อิธานขบฟันกรอด ยอมกลับเข้าห้องตน หญิงสาวจึงยอมเข้าห้องตามเธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียง คิดสถานการณ์เลวร้ายไปร้อยแปด ก่นด่าตัวเองว่าไม่น่าเลย ไม่น่าทำตามใจ ไม่น่าทำตามความปรารถนาส่วนลึก ดูสิ...ผลเป็นอย่างไร วุ่นวายไปหมด เธอจะมองหน้าทุกคนติดได้อย่างไรนึกถึงใบหน้าซีดเซียวของคุณย่าอิสรีแล้วยิ่งรู้สึกผิด เธอช่างเป็นคนเลว อย่างร้ายกาจ กินบนเรือนขี้บนหลังคา เขาชุบเลี้ยงให้ที่คุ้มกะลาหัว แต่ไม่เจียมตัว กลับไปฝันใฝ
โต๊ะอาหารเช้านี้ไร้เงาบรรดาบุคคลสำคัญในไร่ ยายพลวงเล่าว่าคุณย่าอิสรียังเพลียไม่อยากคุยกับใคร ส่วนอิธานก็ออกจากบ้านไปแต่เช้า เพราะไม่เห็นรถกระบะคู่ใจเขาเกล้ากมลจึงนั่งดื่มโอวัลตินเหงา ๆ อยู่ในครัว คิดแผนต่อไปว่าจะทำอย่างไรดี เมื่อสถานการณ์มาถึงขนาดนี้คำนวณเงินเก็บในบัญชีธนาคารก็มีอยู่หลายหมื่น เก็บเล็กผสมน้อยจากที่คุณย่าท่านให้ กับรับจ้างสอนพิเศษยามเป็นนักศึกษาบวกกับเงินเดือนที่ได้รับ คงพอยาไส้ในช่วงตกงาน เธอตั้งใจไปจากที่นี่ ตั้งใจสารภาพความจริงกับทุกคน ยอมรับว่าตนเป็นเสือร้ายที่จ้องจะขย้ำสมันตัวโตอวบอิ่มอย่างอิธานคนตัวเล็กหัวเราะขื่นกับตัวเอง ที่เธอจะชดใช้ได้ดีที่สุดให้ทุกคนคือเท่านี้หญิงสาวกลับเข้าห้องเริ่มค้นหาเบอร์ติดต่อของเพื่อนนักศึกษา เลือกคนที่อยู่จังหวัดไกลออกไป จนได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดชายแดนทางเหนือ“แถวนี้เห็นป้ายรับสมัครงานอยู่นะ ฝ่ายบัญชี แต่อาจต้องไป ๆ มา ๆ กับฝั่งจีน”เรื่องการเดินทางไม่มีปัญหา เกล้ากมลรีบจดรายละเอียดและเบอร์ติดต่อที่รับสมัครงาน พอวางสายลงก็มีอีกสายหนึ่งมาต่อเลย พนักงานร้านขายของฝากในไร่โทรบอกว่าลูกไม่สบาย จะพาไปให้หมอไปดูในเมือง ขอลาห
“เธอทำบ้าอะไรน่ะหึ คิดจะลักหลับฉันเหรอ” อิธานเปิดฉากทันที เมื่ออยู่กันตามลำพัง“เกล้าไม่คิดจะลักหลับนะ แต่จูบ” เกล้ากมลยืนตัวลีบติดประตู พยายามบังคับใบหน้าให้มองเขา“นั่นแหละ ฉันเป็นฝ่ายเสียหาย”เขาอยากตะโกน อยากจับตัวเธอมาเขย่า แต่หากทำตอนนี้ไม่ดีแน่ เหตุการณ์มีแต่จะแย่ลง“เกล้าขอโทษ”“ขอโทษแล้วอะไรดีขึ้นไหม” มือใหญ่ยกขึ้นเท้าสะเอว“อย่างน้อยคนมีอารยธรรมเขาก็รู้จักให้อภัยกัน”อิธานเข่นเขี้ยว เกล้ากมลทำตัวกวนประสาทได้ทุกเมื่อ ทุกสถานการณ์“เรื่องเมื่อคืนช่างมันเถอะ ฉันถือว่าให้ทาน”เกล้ากมลกัดริมฝีปาก คำว่าให้ทาน มันใช้กับขอทานหรือสุนัขมิใช่หรือ เขาตีค่าเธอต่ำจนปวดหนึบในใจ“ที่สำคัญคือตอนนี้จะทำยังไงให้คุณย่าเปลี่ยนพินัยกรรมมากกว่า”“เกล้าจะไม่อยู่ที่นี่ จะไปให้ไกล”“คุณย่ายกทุกอย่างให้เธอนะ อย่าหนีไปสบายคนเดียว”“แล้วคุณอิธจะยอมได้ไหมล่ะ เกิดวันหนึ่งเกล้าคลั่งปล้ำคุณขึ้นมา”ปรกติหากมีผู้หญิงมาพูดเช่นนี้เขาคงหัวเราะใส่ แต่เพราะเหตุการณ์ลักจูบเมื่อคืนนี้ทำเอาหวั่นใจ ผู้หญิงช่างน่ากลัว...โดยเฉพาะคนที่ยืนเถียงกับเขาอยู่“หรือคุณจะยอมแต่งงานกับเกล้าเพื่อเอาสมบัติครึ่งหนึ่ง”“ทำไมฉันถึงจะต
เกล้ากมลและอิธานได้ลูกสาว เด็กหญิงกาญน์เกล้า หรือน้องเอิร์ธ เป็นหนูน้อยลูกเสี้ยวที่สดใส เธอได้จมูกโด่งมาจากผู้เป็นพ่อ และตาโตใสแจ๋วมาจากผู้เป็นแม่ กินรีซื้อทองรับขวัญหลานหลายสิบบาท นางญาติดีกับอิธานหลังจากรู้ว่าให้เงินสิบล้านเป็นสินสอด“ขอโทษที่ช้าไปหน่อยครับคุณแม่”เงินทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ฝากคืนในบัญชีส่วนตัวของเกล้ากมล ผู้เป็นแม่แค่กลัวอิธานจะไม่รัก ทิ้งขว้างลูกสาวเหมือนครั้งหนึ่งที่นางเคยเจอ เมื่อได้เห็นความจริงใจของเขาเป็นเงินนางก็เบาใจลงบ้างอิธานไม่ให้เกล้ากมลทำงานเลย เขาให้เธอเลี้ยงลูกอย่างเดียว แล้วตั้งวรดาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านขายของฝาก แต่กระนั้นหากมีเวลาว่าง เกล้ากมลก็หอบหนูน้อยไปเยี่ยมทุกคนที่ร้านเสมอ ชนันธรกับกรวีคลอดลูกชายที่อเมริกาก่อนลูกสาวเธอไม่กี่สัปดาห์ และพูดเล่น ๆ ว่าอยากให้ลูก ๆ ดองกัน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนหวงลูกสาวอย่างอิธานคุณพ่อหลงหนูน้อยขนาดหนัก ยอมลงทุนโกนหนวดให้เกลี้ยงเกลาทุกวัน หลังจากเอาหน้าไปถูแล้วแก้มลูกสาวเป็นปื้นแดงเพราะรอยหนวดกาญจน์เกล้าก็ติดพ่อ ตอนเช้าส่งเสียงปลุก ให้พ่อป้อนอาหารเช้า โบกมือหย็อย ๆ ส่งจูบให้อิธานตอนไปทำงาน เย็นก็ต้
“คุณอิธออกไปเกล้าอึดอัด”ถัดจากให้ดอกไม้ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเขาก็มานอนรัดเธอเป็นงูเหลือมอยู่บนเตียง“เตียงออกจะกว้าง”อ้อมแขนมีแต่จะยิ่งแน่น หญิงสาวกำลังคิดหาวิธีไล่เขาออกไป แต่ก็ยังคิดไม่ออก“ท้องเกล้าเริ่มใหญ่ ตัวคุณก็โต นอนเบียดกันบนเตียงยิ่งอึดอัด มันไม่ดีต่อลูกนะคะ เดี๋ยวแกไม่โต”เกล้ากมลเอาคนในท้องมาอ้าง เล่นเอาอ้อมแขนที่รัดรอบอยู่ชะงัก เขาเงยศีรษะขึ้น สำรวจหน้าท้องภรรยา“ท้องเธอยังไม่โตขนาดนั้นสักหน่อย”“แต่เกล้าอึดอัดค่ะ ดิ้นไปดิ้นมาลำบาก”ยิ่งเขาขมวดคิ้วกังวลแสดงว่าข้ออ้างเธอได้ผล“พรุ่งนี้จะให้คนหาเตียงไซซ์พิเศษมาให้”“งั้นคืนนี้ คุณอิธให้เกล้านอนคนเดียวนะคะ ลูกจะได้ไม่อึดอัด”“ไม่ได้ ๆ” ดวงตาคมเปล่งแสงไม่ยอมตามที่พูด “เกิดเธอปวดท้อง หรือเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ”“เกล้าท้องแค่สามเดือนเองนะคะ” คุณแม่ท้องสาวทำแก้มป่อง บ่นในใจว่าเขาจะห่วงอะไรหนักหนา“จะกี่เดือนฉันก็ไม่ไว้ใจ”“ถ้าคุณอิธห่วง เกล้าไปนอนกับคุณย่าก็ได้”“อย่านะ!”เขาร้อง ถ้าทำเช่นนั้นต้องตอบคำถามคุณย่านานแน่ แถมด้วยมีสายตาทิ่มแทงจากยายพลวงเป็นของแถม“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงล่ะ”เกล้ากมลกอดอก รู้สึกตนกำลังเป็นต่อ“ฉันจะนอนพื้น
เกล้ากมลอาศัยจังวะที่อีกฝ่ายอึ้งระบายความในใจต่อ“คุณย่าให้เราแต่งงานกันเพราะความเข้าใจผิด”“แต่เรามีลูกด้วยกัน” เขาพยายามย้ำ“เก๊าะ...ก็คืนนั้นเกล้าปล้ำคุณ”ไม่รู้ใครปล้ำใคร แต่เธอถือว่าตัวเองเป็นคนทำ ยังสบายใจเสียกว่า“มันจะไม่สำเร็จถ้าฉันไม่ใช่ความร่วมมือ เราทำกันทั้งสองคน”ผู้สมรู้ร่วมคิดรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน“แล้วคุณอิธจะเล่าเรื่องของเราให้ลูกฟังแบบไหนล่ะ”ทำนบที่กลั้นสิ่งค้างคาใจกำลังแตกออก เกล้ากมลพรั่งพรูถ้อยคำที่อยากถาม“เพราะมันไม่มีการจีบ ไม่มีการบอกรัก ไม่มีของขวัญ ไม่มีอะไรเลย ยอมรับเถอะค่ะ คุณอิธไม่ได้รักเกล้า แล้วจะทนอยู่อย่างนี้ไปทำไม”“เธออย่ามาพูดเหมือนรู้ดีเลยเกล้า”ในดวงตาสีน้ำตาลนั้น หาได้หวั่นไหวกับคำถามเธอไม่“เกล้าพูดอย่างที่ตาเห็นค่ะ แค่นี้นะคะ วันนี้เหนื่อยแล้ว เกล้าอยากพักผ่อน”เกล้ากมลกลับเข้าห้อง ล็อกมันเสียจากเขา ทิ้งตัวลงนอน...แล้วน้ำตาก็ไหล พูดไปเสียตั้งมากมาย คำว่ารักที่ได้กลับไม่มีหลุดจากปากเขาหากให้คะแนนผู้ชายยอดแย่ ตอนนี้เธอให้กรวีกับอิธานคะแนนเท่ากัน พวกชอบทำร้ายจิตใจผู้หญิง หากคิดพินิจสักนิด หากไตร่ตรองเสียหน่อย แค่คำว่ารักสั้น ๆ คำเดียวก็ท
เป็นรุ่งเช้าที่เกล้ากมลตื่นมาเพียงลำพังในห้องนอน แต่พอเปิดตู้เสื้อผ้าตามความเคยชิน ก็พบว่าเสื้อทุกตัวของเธอจากบ้านมารดามาอยู่ที่นี่แล้ว บนโต๊ะเครื่องแป้งมีถุงยาและสมุดฝากครรภ์จากคลินิกวันดี อิธานเอามันมาได้อย่างไร!อาการโมโหของเธอยังไม่ได้คำตอบ พอดีกับชายหนุ่มในสภาพเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เดินออกมาจากห้องน้ำ“นอนต่ออีกไหม เดี๋ยวสักเจ็ดโมงฉันจะปลุก”เขาหอมหน้าผากมนของภรรยาที่กำลังตะลึงอยู่“คุณอิธไปเอาของเกล้ามาได้ยังไง”“ก็ให้คนไปเอาที่กรุงเทพ ไม่รู้เธอจะใช้ชิ้นไหนบ้าง เลยเอามาหมด”โดยมีสนานกับคนงานอีกสองคน ติดตามกึ่งขู่ คนขับรถกินรีจนไปถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ได้สำเร็จ“บ้าไปแล้วหรือยังไง”“ก็ฉันบอกแล้วว่าให้เธออยู่นี่” เขาไปเปิดอีกตู้หนึ่งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“วันนี้เรามีแขกด้วยนะ ซันมันมา”เกล้ากมลเลิกคิ้ว“พี่ซันมาทำไมคะ”อิธานไม่ชอบตงิด ๆ ที่เธอเรียกคู่แข่งตัวฉกาจของเขาแบบนั้น“มารับเมียมันกลับ”ใจเกล้ากมลหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม“พาฉันไปหาพี่ลูกน้ำทีค่ะ คุณอิธนะคุณอิธ ทำให้เรื่องยุ่งเข้าไปอีกทำไม”ภาพในหัวเธอคือชนันธรโดนกรวีทำร้าย ร้องไห้น้ำตานอง แต่ที่ไปเห็นจริง ๆ คือกรกวีโ
“มานี่เลยนะเกล้า”ไม่ยากนักที่ชายหนุ่มจะดันประตูให้เปิดกว้าง แล้วคว้าแขนกึ่งลากเธอไปยังห้องหอของทั้งสอง“เราไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว พรุ่งนี้เกล้าจะไปหย่าให้ ลูกนี่เกล้าก็จะดูแลเอง ไม่ให้ใช้นามสกุลคุณ เกล้าจะไม่เอาอะไรไปสักบาท”เกล้ากมลบอกพลางหอบ เพราะต้องต้านแรงเขาที่ลากเธอไปยังห้องหอได้สำเร็จ“คุณไปมีลูกใหม่กับคนอื่นเถอะ พี่ลูกน้ำนั่นไง”“นั่นเมียคนอื่น ฉันมีเมียเดียวคือเธอ”สมองเกล้ากมลต้องห้ามใจตัวเองอย่างหนัก ไม่ให้เต้นแรงเกินไป บอกว่าไม่ให้เชื่อคำพูดเขา“ไม่ต้องไปเฝ้าคุณย่า นอนให้ห้องนี้กับฉัน” เขากดเธอนั่งลงบนเตียง“เกล้าจะหย่า” หญิงสาวบอกเสียงหอบ หน้าแดงจัด“ฉันไม่ยอมให้หย่า”“ลูกเกิดจากความไม่ตั้งใจของเราทั้งคู่นะ”เธอเตือน หวังว่าเขาจะนึกได้บ้างว่าหลังจากคืนนั้นเขาทำตัวเย็นชากับเธอขนาดไหน“ไม่ว่าลูกจะเกิดจากอะไร ฉันยินดีต้อนรับแก”เขายิ้มกว้าง มือใหญ่หยาบกร้านลูบหน้าท้องเธอไปทั่ว“คุณอิธเป็นผู้ชายที่แย่มาก พอรู้ว่ามีลูกกับเกล้าก็จะทิ้งพี่ลูกน้ำเลยเหรอคะ”“ฉันกับเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกันแล้ว เธอนั่นแหละไปอยู่บ้านแม่ทำไม”หน้าท้องเธออุ่นและเรียบเนียน ส่วนไหนหนอที่เป็นที่อยู่ของเจ้
“คุณท่านไม่สบาย”วรดาส่งข่าวมาในเช้าวันศุกร์หลังกินรีเดินทางไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์“โรคคนแก่ ตั้งแต่เกล้าไปอยู่กรุงเทพ ท่านก็ดูซึม ๆ มาเยี่ยมท่านไหม”ยายพลวงทำปากพะงาบ ๆ บอกบทลูกสาว จนเกล้ากมลบอกว่าจะมาเยี่ยมนั่นแหละนางจึงยิ้มได้“แล้วคุณท่านจะยอมเล่นเป็นคนป่วยเหรอแม่”หลังจบสายเพื่อน วรดาก็ถามผู้เป็นแม่เสียงอ่อย“ยอมสิวะ ท่านก็คิดถึงเกล้าจะตาย”ยายพลวงกำลังวางแผนให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน เมื่อเจ้านายถือทิฐิกันนัก คนรับใช้อย่างนางนี่แหละจะจัดการทุกอย่างเอง เพื่อให้ไร่สมบูรณ์ดีกลับมาสุขสงบเหมือนเคยเกล้ากมลมาด้วยการนั่งรถยุโรปคันโต เธอผิวขาวนวลขึ้น ใบหน้าผุดผาด วรดาถึงกับห่อปากเพราะเพื่อนดูสวยแม้แต่งหน้าเพียงบางเบา“รัศมีคุณหนูจับมากเลยเกล้า สวยจริง”เธอเลือกใส่ชุดแซกทรงตรง เพื่อพรางรูปร่างที่กำลังขยาย“คุณย่าล่ะ”วรดาพาหญิงสาวไปพบผู้สูงวัยซึ่งนอนดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนอน ยายพลวงต้องรีบสะกิดให้ท่านทำตัวโศกเมื่อเกล้ากมลเข้ามา คุณย่าอิสรีดูผอมลง ผมขาวมีแซมบนศีรษะมากขึ้น หญิงก้มลงกราบที่หน้าอก ท่านเอามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะคนที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย“เกล้าสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ คุณย่าล่ะคะ”“สุ
เช้าวันต่อมามีเมฆฝนครึ้ม ลมพัดแรง ร้านของฝากเงียบเหงา ไร้ลูกค้า พนักงานจับกลุ่มกันคุยด้วยความเป็นห่วงชนันธรที่ลาป่วยติดกันสามวันยายพลวงโทรมาหาเธอบอกให้รีบกลับบ้านใหญ่โดยเร็ว คุณย่าอิสรีมีเรื่องสำคัญจะคุย เธอจึงขับรถคู่กายฝ่าอากาศอึมครึมเข้าไป มีรถยุโรปยี่ห้อดาวสามแฉกสีงาช้างจอดที่โรงรถ คุณย่าอิสรีมีแขกอีกแล้ว แต่เมื่อเธอไปยังห้องรับแขกแล้วก็ต้องตะลึง“เกล้า” ผู้หญิงที่เคยอยู่ในรูปถ่ายที่ยายเกดให้ดูเรียกชื่อเธอ “แม่คิดถึงหนูมากเลย”เกล้ากมลตัวแข็ง หายใจขัด เมื่อผู้ให้กำเนิดมายืนตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้า แม่ที่เธอเคยคิดว่าอาจจะตายไปแล้ว เพราะแม้แต่งานศพตายายก็ไม่ยอมปรากฏตัว“แม่ไปอยู่ที่ไหนมา”กว่าหญิงสาวจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นเวลานานผู้มาใหม่มีเค้าหน้าคลายเธอ ส่วนสูงเตี้ยกว่าเล็กน้อย ผมดำยาวสยายถึงกลางหลัง ทั้งการแต่งตัวและเครื่องประดับเหมือนผู้มีอันจะกินในละคร หากไม่รู้อดีตแต่หนหลัง คงไม่มีใครจะเชื่อว่ามารดาเป็นลูกสาวตายายผู้ซอมซ่อกินรีมีเรื่องเล่ามากมายในชีวิต ตั้งแต่เธอหนีออกจากบ้าน มากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ หนีชีวิตที่ยากจน กระทั่งมาเจอกับพ่อเกล้ากมล อยู่ด้วยกันไม่นาน เมื่อท้องกินรีก
คำอธิษฐานของยายพลวงไม่เป็นจริง ซ้ำยิ่งร้ายเข้าไปอีกเพราะวันหนึ่งเงินในเครื่องคิดเงินหายไปห้าพันบาท วันนั้นเป็นวันที่วุ่นวายเพราะมีทัวร์ทั้งคนไทยและคนจีนมาลง เกล้ากมลวิ่งทำงานหัวหมุนทั้งเติมของทั้งเข้ามาช่วยคิดเงิน แต่เมื่อสิ้นวันมานับเงินกับปรากฏว่าหายไปห้าพันบาท ตรวจดูกล้องวงจรปิดก็ไม่มีอะไรผิดปรกติ“ในเมื่อหาตัวคนผิดไม่ได้ เราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน”ผู้จัดการร้านให้ทุกคนที่มาทำงานในวันนี้หารเงินจำนวนที่ขาดไป ท่ามกลางเสียงบ่นของทุกคน“ฉันจะแช่งให้ขโมยมันโดนวัวในไร่ขวิด” สาวนางหนึ่งถึงกับยกมือขึ้นขอพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์“ให้ท้องเสียสามวันเจ็ดวันไปเลย”“เฮ้ย! ตายกันพอดี” กลุ่มสาวอาวุโสท้วง“คนเลว ๆ ที่ทำคนอื่นเดือดร้อน ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ พี่จะห่วงมันทำไม หรือพี่เป็นคนทำ”สาวนางนั้นจ้องเขม็ง กลายเป็นมีเสียงซุบซิบอื้ออึงไปทั่ว ผู้จัดการเห็นว่าจะมีปัญหาเลยเปลี่ยนใจให้ไม่ต้องมีใครชดใช้“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเกล้าขอเงินคุณย่ามาเติมให้ก็ได้”เกล้ากมลเสนออีกทางเลือก โดยไม่รู้เลยว่าชนันธรจะฉวยโอกาสนี้ฟื้นอดีตขึ้นมา เกล้ากมลกลับบ้านใหญ่ตามปรกติ ขณะกำลังแต่งตัวลงไปกินข้าวเย็นวรดาก็โทรเข้ามา“ฉันได
ปรกตินางร้ายในละครจะแต่งหน้าจัด ดัดขนตางอนเช้ง ทาลิปสติกแดง ชนิดมองเห็นตั้งแต่ต้นซอยก็บอกยี่ห้อ “ฉันเป็นนางร้ายนะจ๊ะ” แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเกล้ากมลกลับเป็นนางร้ายหน้าใสในคราบนางเอก ชนันธรกล้ามากที่มาขอสามีเธอคืน“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอคะที่จะมาเอาเขาคืน”เกล้ากมลแสดงการดูถูกโดยการมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“เขายังรักฉันและฉันก็ยังรักเขา ส่วนเธอไม่ใช่นะเกล้า”เจ็บเหมือนโดนมีดปักอกเป็นอย่างไรหญิงสาวเพิ่งเข้าใจวันนี้เอง“ถอยไปเสียเถอะ เธอเป็นคนที่บังเอิญเข้ามาในเรื่องระหว่างฉันกับอิธเท่านั้นแหละ”“พี่ไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ใครอยู่หรือถอย ฉันตัดสินใจเองได้”เกล้ากมลเดินเบียดชนันธรหวังจะไปสูดอากาศข้างนอกเพื่อสงบใจ“เดี๋ยวฟังก่อน ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ”ปากชนันธรว่าอย่างนั้น แต่กลับจิกเล็บแน่นที่แขนของเกล้ากมล หญิงสาวสะบัดมันออก ทำเอาอีกคนล้มไปโดนชั้นวางของกล่องที่ซ้อนกันอยู่ด้านบนจึงหล่นมาทับ“ว๊าย!”ชนันธรร้องสุดเสียง พนักงานในร้านรีบเปิดประตูห้องเก็บของทันที ภาพที่เห็นคือเกล้ากมลยืนอยู่ แล้วชนันธรโดนของทับ“คุณลูกน้ำ ใครก็ได้ช่วยที”หลังจากนั้นคือความโกลาหลในร้านขายของฝาก พนักงานกรูกันเข้ามาช่วยเ