หน้าหลัก / โรแมนติก / อามาร์ / ตอนพิเศษ เดรัจฉานน้อยอาชา

แชร์

ตอนพิเศษ เดรัจฉานน้อยอาชา

ผู้เขียน: ณิการ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-31 20:27:12

       “สวยมากเลยครับพ่อ” เด็กชายอาชา เวตาลน้อยทายาทคนแรกของนายอามาร์ผู้เป็นอมตะอยู่มานานนับพันกว่าเกือบหมื่นปีพาลูกชายวัยหกขวบบินขึ้นมาดูพระจันทร์และแขนอีกหนึ่งข้างของเขาก็กอดภรรยาสุดที่รักด้วย แขนทั้งสองข้างของเขาตอนนี้มีไว้เพื่อกอดแม่ของลูกและลูกเท่านั้น ตอนนี้ในท้องของพุฒิตาก็กำลังมีลูกคนที่สองและเป็นลูกสาวด้วย

       “ครั้งหนึ่งพ่อเคยพาแม่เจ้ามายังที่แห่งนี้” อามาร์เอ่ยบอกลูกชาย แต่ตามองภรรยาด้วยสายตากรุ้มกริ่มและพุฒิตาก็นึกย้อนไปถึงอดีตคืนพระจันทร์เต็มดวงที่เขาพาตนขึ้นมาทำลามกหื่นกามต่อหน้าพระจันทร์

       “เวตาลลามก” พุฒิตาตบอกสามีเก้อเขิน

       หึหึ

       “ก็เจ้าทำให้ข้าอดใจมิไหวนี่เมียข้า อาชาลูกรักของพ่อ ถึงเวลาที่เจ้าจักต้องแสดงฝีมือให้พ่อกับแม่ดูแล้ว” อามาร์บอกลูกชายพร้อมกับปล่อยแขนข้างที่กอดอุ้มหนูน้อยแล้วเวตาลน้อยลูกครึ่งมนุษย์ก็มีป

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 1

    บาซายิ้มเมื่อได้เห็นนายท่านของตนมีความสุข เขารู้ดีว่าตลอดเวลาสี่พันห้าร้อยปี อามาร์นั้นทุกข์ตรมมากแค่ไหน แต่อามาร์ก็ยังคงยึดมั่นเฝ้ารอคอยจนนางได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งในชาติภพนี้ “สำหรับคนรับใช้อย่างข้าแล้ว มิมีเรื่องไหนที่ทำให้ข้าเบาใจได้เท่าที่ท่านได้เจอนางอามาร์”บาซาพึมพำกับตัวเองแล้วไปจัดการงานของตนเองที่ได้รับมอบหมายให้ทำ หน้าที่ของเขาคือไปจัดการให้ความวุ่นวายชุลมุนที่อามาร์และตนได้สร้างขึ้นให้กลับเป็นปกติ ทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยมีงานแต่งงานของพุฒิตากับนับสิบและพ่อแม่ของนางก็เข้าใจว่านางนั้นได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนคู่หมั้นหนุ่มก็ยุ่งกับการช่วยพ่อหาเสียง ในโลกนี้อะไรก็ล้วนเกิดขึ้นได้แค่พริบตาเดียวของอามาร์ อำนาจเวทมนตร์คาถาบันดาลทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา แต่มีสิ่งเดียวที่อามาร์ใช้มันมิได้คือความ ‘รัก’ เขาจะต้องใช้ใจของเขาเท่านั้น จากงานแต่งงานตรงหน้า ตอนนี้ถูกคาถาสับเปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบบริษัทของนายปพนกับนางทิพย์ โดยมีนักการเมืองชื่อดังและนักธุรกิจมากมายมาร่วมแสดงความยินดี และมีการประมูลเครื่องเพชรเพื่อนำเงินไปบริจาคให้เด็กยากไร้ในชนบทด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 2

    สี่พันห้าร้อยปีที่แขนทั้งสองไม่ได้โอบกอดหญิงใด ไม่ได้แตะต้องเฉียดใกล้แม่นางคนใด มันเป็นของนางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาเก็บมันไว้เพื่อโอบกอดปลอบประโลมมอบความรักให้พุฒิตาคนเดียวเท่านั้น แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้สั่นเครือและคำพูดขอร้องแล้วใจของเวตาลผู้เป็นอมตะอยู่นานตั้งแต่กลียุคอย่างเขาเศร้าตรม มิอยากให้พุฒิตาหวาดกลัวตัวเอง เขาจึงผละคนสะอื้นไห้ออกจากอ้อมกอดแข็งแรง สองมือที่กอดรัดผละมาจับหัวไหล่เล็กหนึ่งข้าง อีกข้างเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบดวงตาสีน้ำตาลเจือเขียวอมเศร้าของตน“ฟังข้าพุฒิตา ข้ามิทำอันใดเจ้า เจ้าคือคนที่ข้าเฝ้าปรารถนามาตั้งแต่กาลอดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวข้ามีแต่จะถนอมมิมีทำร้ายเจ้าดวงใจข้าเอ๋ย”พุฒิตาอยากจะหลบหนีสายตาเศร้าของบุรุษตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีสายตาที่จดจ้องมายังตนได้ ดวงตาของเขามันอาบล้นไปด้วยความเจ็บปวด และทำไมเธอถึงเข้าใจความหมายที่คนตรงหน้าส่งให้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของเธอมันเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างประหลาด“เจ้ามิเคยเป็นคนอื่นสำหรับข้า และข้าก็มิเคยเป็นของหญิงใดนอกจากเจ้า มิว่าจะเป็นตัวเจ้าเมื่อชาติที่แล้วหรือเจ้าในชาตินี้ที่มาเกิดใหม่อีกครั้ง”ยิ่งคนตรงหน้าพูด เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 1

    น่าแปลกที่ใจของเธอเต้นแรง ขนาดกับสิบทิศ ว่าที่เจ้าบ่าวที่เธอเชื่อมาตลอดว่าตัวเอง ‘รัก’ ก็ไม่เคยมีหัวใจเต้นแรงแบบนี้ยามอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่าย แต่กับคนประหลาดคนนี้ เธอกลับมีความรู้สึกใจสั่นหวั่นไหวและเจ็บแปลบลึกๆ ในอกอย่างอธิบายไม่ถูก สองมือน้อยหยุดตีอกแกร่งแล้ว ทุกอย่างในหัวของเธอก็ว่างเปล่าเมื่อถูกปากหนาบดจูบดุดัน อามาร์ประคองร่างนางในดวงใจให้นอนล้มลงไปกับเตียงด้วยความอ่อนโยน แล้วตัวเขาก็เคลื่อนไหวขึ้นคร่อมทับบดจูบใช้ลิ้นสากอุ่นร้อนตัวเองตักตวงความหวานของคนไร้เดียงสาใต้ร่าง “อะ...อื้อ” เสียงหอบหายใจและเสียงร้องครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากปากทั้งสองที่บดจูบกัน แม้ปากน้อยจะไม่ตอบสนอง แต่อามาร์ก็ไม่สนใจ ขอแค่ได้ทาบทับครอบครองแนบอิงกายนางอันเป็นที่รักก็เพียงพอแล้ว เขาไม่อาจรอเวลาได้อีกแล้ว ตลอดสี่พันห้าร้อยปี มันนานมากเกินไปสำหรับผู้เป็นอมตะอย่างเขา “อ่า...อื้อ” อามาร์จัดการเสื้อผ้าของตนและของนางออกไปให้พ้นทางเพื่อจะได้ทาบทับบดเบียดเสียดสีกายแนบเนื้อกันและกันอย่างที่เฝ้าคอยปรารถนามานานนับหลายพันปี พุฒิตาเย็นเยือกไปทั้งร่างเมื่อเสื้อผ้าที่ใส่อยู่หายไปในพริบตาเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 2

    ใบหน้าทั้งสองเห่อร้อนแดงด้วยไฟสวาทพร้อกกับความเขินอายที่กำลังปะทุล้นออกมานอกอก สองมือน้อยของพุฒิตาไม่รู้จะจัดวางไว้ตรงไหน อยากจะผลักไส แต่ร่างกายกลับแอ่นเด้งเร่าตอบสนองชายแปลกประหลาดที่เพิ่งพานพบกันครั้งแรก แม้แต่ชื่อเธอก็ยังไม่รู้จัก แต่เขากลับรู้จักชื่อเธอและเหมือนรู้จักเธอเป็นอย่างดีด้วย “ข้าชื่ออามาร์ จำไว้ว่าข้าชื่ออามาร์ ยอดทูนหัวของข้า อื้ม...หวานเหลือเกิน” อามาร์รู้ความคิดความสับสนวุ่นวายในใจของนางทุกอย่างจึงเงยหน้าขึ้นจากความสวยฉ่ำแฉะมาเอ่ยบอกตอบและนั่นทำให้พุฒิตาตกใจจนอามาร์ต้องยกยิ้มมุมปากแล้วพูดต่ออีกครั้ง “และข้าก็คือชายที่เจ้ารักมิว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันนับแต่นี้ เจ้าจักจดจำข้าแต่เพียงผู้เดียวพุฒิตา อื้ม...เจ้าสวยนักยอดยาใจของข้า อ่า...”แล้วเรียวลิ้นอุ่นร้อนเวตาลอามาร์ก็ลากไล้ไปตามกลีบสวาทอวบฉ่ำ ท่อนแขนแข็งแรงที่กอดรัดเอวเล็กคอดก็ผละดันเรียวขาเล็กของแม่ยอดพธูจอมใจแยกกว้าง อีกมือที่กอบกุมเต้าก็เคลื่อนมาจับเรียวขาอีกข้างยกขึ้นพาดไหล่หนาของตนเอง “อือ...ยะ...หยุดเถอะคุณ” “ชูว์...เจ้ายังมิรู้อีกรึว่าแท้จริงแล้วเจ้าต้องการสิ่งใดพุฒิตา อ่า.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 1

    นานนับชั่วโมง อามาร์ถึงยอมถอดถอนเนื้อร้อนออกจากร่างงามคับแน่นที่ตอดรัดคลึงตนเองหนักหน่วงออกมาด้านนอกเพื่อให้สาวเจ้าได้พักผ่อนร่างกายหลังจากที่ตนได้ตักตวงความหวานหอมของพุฒิตามาตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า อามาร์มองใบหน้างามของแม่ยอดรักยอดเสน่หาของตัวเองแล้วหัวใจพันปีของตนเองก็เต้นแรงผิดจังหวะและยิ่งได้ครอบครองยิ่งทำให้หวงแหนคนที่หลับสนิทบนเตียง อยากจะเก็บร่างเล็กไว้ดูคนเดียวและคลอเคลียเย้าหยอกยามค่ำคืน “ข้ารอเจ้ามานานเหลือเกินพุฒิตาของข้า”อามาร์พึมพำกับคนหลับสนิทแล้วผละลุกขึ้นลงจากเตียง จากกายเปลือยเปล่าก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้เรียบร้อย คราบเหงื่อไคล เนื้อตัวที่เหนียวเหนอะหนะก็สะอาดหมดจดราวกับอาบน้ำใหม่ ส่วนคนที่หลับก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ให้เพียงแค่มือหนาสะบัดเล็กน้อยเท่านั้น “มีแค่ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราสองอีกครั้ง ทูนหัวของข้า” อามาร์บอกนางในดวงใจแล้วก็หายไปจากห้องเพื่อไปพบกับบาซาที่ห้องทำงานของตนเอง บาซาเห็นสีหน้าอิ่มล้นเต็มไปด้วยความสุขของนายแล้วก็ยิ้มตามและดีใจที่ในที่สุดการรอคอยของอามาร์ก็สิ้นสุดลง และหวังเหลือเกินว่าหลังจากนี้นายของตนจะม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

    “คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ บอกฉันมา”“ข้าก็กำลังจักบอกเจ้านี่ไงเล่าดวงใจข้า” เขาพูดพร้อมยกมือยื่นไปหมายจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่นางก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง“อย่าแตะต้องฉัน”หึหึนางกำลังสั่งเขาทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้มิมีใครกล้าออกคำสั่งกับเขาได้ แต่...เมื่ออดีตนางก็เป็นคนเดียวที่กล้าออกคำสั่งกับเขาและตอนนี้ก็กลับเป็นนางอีกครั้งที่กล้าออกคำสั่งกับตน“ข้ามีนามว่า ‘อามาร์’ ข้ามิใช่มนุษย์เหมือนเจ้า แต่ข้ามีใจที่เฝ้ารอและปรารถนาเพียงเจ้ามาตลอดพันกว่าปีที่ข้ามีลมหายใจ”“ไม่ใช่มนุษย์? แล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่”“หากข้าบอก เจ้าจักรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของข้า”“คุณก็บอกฉันมาสิว่าเป็นตัวอะไรกันแน่” แม้จะกลัว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่าเขามีตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไรกันแน่“หึหึ...ข้ามิเคยปิดบังเจ้าและจักเป็นเช่นนั้นไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาพันกว่าปี” พูดจบอามาร์ก็เปิดเผยร่างจริงของตนเองให้นางในดวงใจดูกรี๊ด!พอได้เห็นคนตัวโตที่นั่งบนเก้าอี้ข้างหน้าตัวเองมีปีกงอกออกจากด้านหลัง มองแล้วเหมือนค้างคาว และในมือก็ถือไม้เท้าหัวค้างคาว ดวงตาสีแดงมีชีวิตชีวาเสียงร้องกรี๊ดหวาดกลัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • อามาร์   4 : อยู่กับข้า 1

    นับสิบมองดูรูปคู่ของตัวเองและว่าที่เจ้าสาว แล้วก็ขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อรู้สึกว่าตัวเองหลงลืมอะไรไปสักอย่าง แล้วเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาจำแทบไม่ได้ ตั้งแต่เช้าพยายามติดต่อหาคนรักที่อยู่ต่างประเทศ พยายามเท่าไหร่ก็ติดต่อไม่ได้จึงได้แค่นั่งมองรูปคู่ของตนและเธอ อีกอย่างทำไมเขาจำไม่ได้ว่าพุฒิตาไปต่างประเทศ“น้องตาจะเป็นอะไรรึเปล่านะ ทำไมติดต่อไม่ได้” เขาพึมพำกับตัวเองแล้ววางรูปคู่ของตนและเธอไว้ที่เดิม ก่อนที่เลขาหน้าห้องจะโทรมาแจ้งว่ามีผู้มาขอพบตัวเอง“เชิญเขาเข้ามาครับ” จบคำเขาก็กดวางพร้อมประตูห้องทำงานเปิดกว้างออก แล้วแขกที่ไม่ได้นัดหมายก็เดินลงส้นเท้าหนักๆ ตรงมาทางตน นับสิบรับรู้ได้ถึงอำนาจจากคนตรงหน้าและมันน่ากลัวจนขนลุกก็ว่าได้ตอนนี้ ดวงตาของเขาแม้จะซ่อนเร้นอยู่หลังแว่นกันแดดสีดำ แต่ก็รับรู้ได้ว่ามันดุดันและน่าเกรงขาม ยอมรับว่าเขาเกรงกลัวผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อน“เชิญนั่งครับ” นับสิบทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญอีกฝ่ายนั่งลงยังเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานของตนบาซาเลื่อนเก้าอี้ออกให้นายของตนนั่งลงอย่างสง่างาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • อามาร์   4 : อยู่กับข้า 2

    “มะ...ไม่จริง ฉันไม่รู้สึกอะไรกับคุณทั้งนั้น มีแค่พี่นับสิบเท่านั้นที่ฉันระ...อื้อ...” แล้วปากน้อยก็ถูกปากหนาปิดกลืนกินคำพูดในช่วงท้ายประโยค อามาร์ไม่ปรารถนาให้นางได้พูดว่า ‘รัก’ หรือต้องการชายอื่นนอกจากตน แม้เพลานี้นางยังมิรู้ใจตนเอง แต่ในเร็ววันนี้พุฒิตาต้องเข้าใจความรู้สึกสับสนวุ่นวายของใจตนแน่“อ่า...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกจากปากทั้งสอง พุฒิตาไม่เข้าใจตัวเองว่าตอนนี้ตัวเองทำอะไรอยู่และทำไมถึงเผลอไผลและจูบตอบเวตาลตนนี้ เธอเกลียดตัวเอง แต่ตอนนี้ก็ห้ามความปรารถนาของร่างกายตัวเองไม่ได้ หัวใจของเธอก็ทำงานหนัก ยิ่งตอนนี้เสื้อผ้าของเธอถูกปลดเปลื้องออกด้วยเวทคาถาของอามาร์“อ่า...อื้ม” อามาร์ยกอุ้มร่างน้อยไปยังเตียงนอนนุ่มเมื่อจัดการเปลื้องอาภรณ์ของนางเรียบร้อยตามใจปรารถนา จากคิดว่าจะรอคืนนี้ แต่เพลานี้อดใจไม่ไหวเมื่อได้อยู่ใกล้และตีฝีปากกับนางก็อยากจะบดจูบหนักหน่วง เรียวลิ้นอุ่นร้อนดุนดันเข้าไปในโพรงปากพุฒิตา ไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กให้จนมุมแล้วตวัดกอดเกี่ยวฟัดหนักหน่วงดูดกลืนกินความหวาน และยิ่งนางจูบตอบก็ยิ่งทำให้เลือดในกายของเวตาลร้อนรุ่ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13

บทล่าสุด

  • อามาร์   ตอนพิเศษ เดรัจฉานน้อยอาชา

    “สวยมากเลยครับพ่อ” เด็กชายอาชา เวตาลน้อยทายาทคนแรกของนายอามาร์ผู้เป็นอมตะอยู่มานานนับพันกว่าเกือบหมื่นปีพาลูกชายวัยหกขวบบินขึ้นมาดูพระจันทร์และแขนอีกหนึ่งข้างของเขาก็กอดภรรยาสุดที่รักด้วย แขนทั้งสองข้างของเขาตอนนี้มีไว้เพื่อกอดแม่ของลูกและลูกเท่านั้น ตอนนี้ในท้องของพุฒิตาก็กำลังมีลูกคนที่สองและเป็นลูกสาวด้วย “ครั้งหนึ่งพ่อเคยพาแม่เจ้ามายังที่แห่งนี้” อามาร์เอ่ยบอกลูกชาย แต่ตามองภรรยาด้วยสายตากรุ้มกริ่มและพุฒิตาก็นึกย้อนไปถึงอดีตคืนพระจันทร์เต็มดวงที่เขาพาตนขึ้นมาทำลามกหื่นกามต่อหน้าพระจันทร์ “เวตาลลามก” พุฒิตาตบอกสามีเก้อเขิน หึหึ “ก็เจ้าทำให้ข้าอดใจมิไหวนี่เมียข้า อาชาลูกรักของพ่อ ถึงเวลาที่เจ้าจักต้องแสดงฝีมือให้พ่อกับแม่ดูแล้ว” อามาร์บอกลูกชายพร้อมกับปล่อยแขนข้างที่กอดอุ้มหนูน้อยแล้วเวตาลน้อยลูกครึ่งมนุษย์ก็มีป

  • อามาร์   13 : ทำไมคิดสั้นแบบนี้ลูก 2

    “มันจริงเหรอยัยตา” ปพนถามลูกสาวและพุฒิตาก็พยักหน้าตอบยืนยันคำพูดของเวตาลเจ้าเล่ห์ “ฉันจะเป็นลมคุณปพน” นางทิพย์ยกมือทาบอกเอนหัวซบไหล่สามี คนเป็นสามีก็โอบไหล่ลูบปลอบ “หนูขอโทษนะคะคุณพ่อคุณแม่ แต่หนู ‘รัก’ คุณอามาร์ค่ะ และตอนนี้หนูก็กำลังท้องกับเขา”พุฒิตายอมรับความรู้สึกตัวเองต่อหน้าท่านทั้งสองแล้วเคลื่อนตัวลงจากโซฟาไปนั่งยังพื้นพรมแล้วยกมือพนมขึ้นแนบอกก่อนจะก้มลงกราบ ส่วนอามาร์ผู้ไม่เคยก้มหัวและกราบไหว้เท้าใครก็ทำตามแม่ยอดดวงใจเพื่อขอขมาทั้งสองที่ล่วงเกินลูกสาวของทิพย์กับปพน “ผมขอรับผิดชอบพุฒิตากับลูก ยกเธอและลูกให้ผมนะครับ” น้ำเสียงหนักแน่น แววตาที่จริงจังเมื่อได้สบตาทำให้ปพนต้องหันมาสบตาภรรยาแล้วก็ถอนหายใจ “เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับความจริงนะคุณ ถึงแม้จะไม่ชอบนายอามาร์ แต่ลูกเราท้องกับเขาแล

  • อามาร์   13 : ทำไมคิดสั้นแบบนี้ลูก 1

    ปกติแล้วลูกสาวเป็นคนตื่นเช้าและไม่เคยเข้าบริษัทสาย แต่วันนี้รถยังจอดอยู่ นางกับสามีกลับมาจากทำบุญที่วัดก็ถามเด็กรับใช้ พอรู้ว่ายังอยู่บนห้อง นางและสามีก็ขึ้นมาเคาะประตูปลุกเอง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ปพนเคาะประตูห้องเมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องของลูกสาว “เป็นอะไรรึเปล่าลูก” สามีเป็นคนเคาะประตู ทิพย์เป็นคนเอ่ยถาม เงียบ! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ลูกสาวยังไม่ตอบ ปพนก็ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องอีกครั้งและก็เงียบเหมือนเดิม “เป็นอะไรรึเปล่ายัยตา ทำไมวันนี้ไม่ไปทำงานลูก ไม่สบายตรงไหนบอกแม่ได้นะ” ทิพย์เอ่ยร้องถามด้วยความเป็นห่วง ก๊

  • อามาร์   12 : ยอมรับรึยังว่ารักข้า? 2

    “ว้าย! คุณอามาร์ คุณทำไมยังอยู่ แล้วมันกี่โมงแล้ว” เธอมองเห็นเขานั่งคุกเข่าซบหน้ากับท้องตนเองก็รีบผลักไสแล้วก็ถาม “แปดโมงกว่า” เขาตอบเธอสั้นๆ “แล้วทำไมไม่ปลุกฉัน แล้วทำไมคุณไม่กลับไป อยู่ทำไมอีก” “ข้าจักมิไปไหนทั้งนั้นเมียข้า เจ้ารู้รึไม่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังมีเวตาลน้อยให้ข้าพุฒิตา ข้าดีใจเหลือเกินเมียรักของข้า” อามาร์ลุกขึ้นนั่งลงบนเตียงแล้วประคองคนตัวเล็กลุกขึ้นมานั่งพิงซบอกตนเองพร้อมกอดเอวเล็กคอดหลวมๆ คำพูดของอามาร์ทำให้เธองงไม่เข้าใจว่าเวตาลตนนี้พูดอะไรกันแน่ “คุณหมายถึงอะไรคุณอามาร์” “เจ้ามิรู้รึว่าตอนนี้เจ้ากำลังมีลูกกับข้ายอดรัก” พุฒิตานิ่งอึ้งไปชั่วขณะกับสิ่งที่ได้รู้ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอ ‘ท้อง’ ขนาดตัวเธอเองยังไม

  • อามาร์   12 : ยอมรับรึยังว่ารักข้า? 1

    บาซากลับมาหาแม่คนงามของตนเองที่คอนโดห้องพักของนางในกลางดึก ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับนักข่าวสาวได้มีความคืบหน้าขึ้นกว่าเดิมจากที่สร้างภาพฝันให้นางหลงเข้าใจผิดก่อนหน้า บาซาก็เปลี่ยนเป็นมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวแบบคนปกติทั่วไปตามคำแนะนำของนายท่านตน “มีอะไรรึเปล่าคะคุณบาซา” พิมพ์พรเอ่ยถามคนที่มาเคาะประตูห้องตนในเวลาดึก “ผมขอเข้าไปคุยในห้องได้ไหมพิมพ์พร” บาซาไม่ตอบ แต่ขอเข้าห้องสาวตรงหน้า “ฉันว่าเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่าค่ะ ในห้องฉันไม่สะดวก”ก็ห้องของเธอรกยังไม่ได้เก็บกวาด ไม่พร้อมให้ชายหนุ่มเห็นสภาพห้องตอนนี้ “แต่ผมสะดวก”แล้วบาซาก็ผลักเจ้าของห้องเข้าไปในห้องแล้วตัวเองเดินเข้าห้องตามพร้อมปิดล็อกประตูสนิท “คุณบาซา”เธอเรียกเขาพร้อมวิ่งไปขวางทางไม่ให้เขาเดินต่อ แต่ไม่ทันแล้วเขาเห็นสภาพห้องรกๆ ของเธอแล

  • อามาร์   11 : เย้ยจันทร์

    พุฒิตาสะดุ้งตื่นกลางดึกรีบใช้มือเปิดโคมไฟข้างหัวเตียงของตัวเองทันทีเมื่อได้ยินเสียงลมพัดตีหน้าต่างของตนเองจนเสียงดัง เธอว่าเธอปิดและล็อกหน้าต่างดีแล้ว แต่ทำไมหน้าต่างถึงเปิดออก พอลงจากเตียงไปจะปิดหน้าต่างก็เห็นอามาร์บินอยู่ด้านนอกหน้าต่างตรงหน้า “คุณ!” “ข้าเองพุฒิตา” บรั่นดีขวดเดียวมิสามารถทำอะไรเขาได้ อามาร์บินมาหยุดตรงหน้าคนที่อยู่ในห้องแล้วก็ยื่นแขนออกไปกอดอุ้มนางออกมานอกห้อง ว้าย! เธอตกใจเมื่อถูกกอดอุ้มลอยออกนอกหน้าต่าง สองมือน้อยรีบกอดเอวสอบ “ข้าจักพาเจ้าไปดูโลกที่ข้าอยู่” แล้วอามาร์ก็พาแม่ยอดดวงใจบินร่อนขึ้นไปยังฟ้าเบื้องบน แม้ว่าเธอจะหวาดกลัวในตอนแรก แต่พุฒิตาก็มั่นใจว่าอามาร์จักดูแลตัวเองเป็นอย่างดี “ลืมตาและมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเมียข้า” อาม

  • อามาร์   10 : ถอยเพื่อจับ 2

    เฮ้อ! ปพนถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “ขึ้นมานั่งข้างบนเถอะลูก เมื่อลูกตัดสินใจแล้วพ่อกับแม่ก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าลูกเลิกกับนับสิบแล้วไปคบกับเจ้าของโรงแรมนั่น พ่อกับแม่ไม่ยอม เป็นใครก็ได้ ไม่ต้องร่ำรวยก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ผู้ชายที่มีเมียแบบนั้น เข้าใจไหมยัยตา” “ใช่ แม่ไม่อยากให้ลูกไปเป็นเมียน้อย เมียเก็บหรือนางบำเรอของใครทั้งนั้นรู้ไหมลูก ส่วนเรื่องพ่อกับแม่ของนับสิบ พ่อกับแม่จะคุยกันเอง ไหนๆ ลูกก็ตัดสินใจแล้ว แม่กับพ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่แม่อยากบอกว่าเสียใจ ทำไมหนูถึงทิ้งผู้ชายดีๆ แบบพ่อนับสิบได้ลูก”แม้จะเสียใจและผิดหวัง แต่ยังไงพุฒิตาก็คือลูกอย่างที่สามีบอกนั่นแหละ ว่าควรปล่อยให้ลูกเลือกทางเดินของตัวเองเองและตอนนี้พุฒิตาก็เลือกแล้วที่จะทิ้งคนดีๆ อย่างนับสิบ “หนูไม่ได้ถอนหมั้นกับพี่นับสิบเพื่อเลือกเขา แต่ที่หนูถอนหมั้นเพราะหนูไม่ได้ ‘รัก’

  • อามาร์   10 : ถอยเพื่อจับ 1

    พุฒิตาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์ของตนและคู่หมั้นหนุ่มถึงจบลงแบบนี้ แต่มันก็ต้องจบเมื่อเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีพร้อมสำหรับนับสิบอีกต่อไปแล้ว แต่แปลกที่ตลอดเวลาเธอเข้าใจมาตลอดว่าตนนั้น ‘รัก’ ชายหนุ่ม แต่พอมาตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยที่เลือกถอนหมั้น กลับรู้สึกโล่งสบายใจเสียด้วยซ้ำ หรือแท้จริงแล้วเธอไม่เคย ‘รัก’ อีกฝ่ายเลยสักนิด แต่เข้าใจว่าความรู้สึกผูกพันตั้งแต่เด็กมันคือความ ‘รัก’ พอตอนนี้รู้แล้วว่าความรู้สึกของตนที่มีต่อคู่หมั้นหนุ่มนั้นเป็นแบบพี่น้องหาใช่แบบคน ‘รัก’ ไม่ สุดท้ายแล้วสิ่งที่กลัวที่สุดก็มาถึง เมื่อคนที่ตนรักและถนอมมาตลอดช่วงวัยหนุ่ม จะว่าไปตั้งแต่วัยเด็กก็ว่าได้สำหรับนับสิบ เขาไม่เคยมองผู้หญิงคนไหน เพราะในใจของเขา ‘รัก’ มั่นเพียงคนตรงหน้า แต่เมื่อวันนี้จำต้องตัดขาดสัมพันธ์ เขาก็ต้องยอมรับ เพราะมันคือการตัดสินใจของพุฒิตา เมื่อเธอ

  • อามาร์   9 : โกหก! 2

    พุฒิตาใช้ชีวิตเจอเพื่อน ทำงาน และกลับบ้าน ไปทานข้าวกับคู่หมั้นเหมือนเดิมเหมือนที่เคยเป็น แต่กลับไม่รู้สึกว่าการได้เจอเพื่อน การได้ทำงานและเจอคู่หมั้นมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมีความสุข เพราะในใจเธอมันเฝ้ารอคอยคนที่บอกจะมาหาในวันนั้น จนวันนี้ผ่านมาหนึ่งเดือน อามาร์ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เจอ แม้แต่เสียงก็ไม่มีให้ได้ยิน “ไอ้เวตาลสารเลว!” เธอฟาดกระเป๋าสะพายตัวเองไปกับเตียงนอนนุ่มแล้วก็เม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “มีอะไรคะ” เธอหายใจเข้าปอดแรงๆ แล้วตะโกนถามคนที่มาเคาะประตูห้องของตัวเอง “พี่นางเองค่ะ คุณท่านให้มาตามลงไปข้างล่างค่ะ” “ได้ค่ะ เดี๋ยวตาเปลี่ยนชุดแล้วตามลงไปนะคะ”เธอตอบกลับแล้วเสียงหน้าห้องก็เงียบไป แล้วเธอก็รีบเดินไปยังตู้เสื้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status