Home / โรแมนติก / อามาร์ / 2 : ข้าปรารถนาเจ้า 1

Share

2 : ข้าปรารถนาเจ้า 1

last update Last Updated: 2025-01-08 02:42:37

       น่าแปลกที่ใจของเธอเต้นแรง ขนาดกับสิบทิศ ว่าที่เจ้าบ่าวที่เธอเชื่อมาตลอดว่าตัวเอง ‘รัก’ ก็ไม่เคยมีหัวใจเต้นแรงแบบนี้ยามอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่าย แต่กับคนประหลาดคนนี้ เธอกลับมีความรู้สึกใจสั่นหวั่นไหวและเจ็บแปลบลึกๆ ในอกอย่างอธิบายไม่ถูก สองมือน้อยหยุดตีอกแกร่งแล้ว ทุกอย่างในหัวของเธอก็ว่างเปล่าเมื่อถูกปากหนาบดจูบดุดัน

       อามาร์ประคองร่างนางในดวงใจให้นอนล้มลงไปกับเตียงด้วยความอ่อนโยน แล้วตัวเขาก็เคลื่อนไหวขึ้นคร่อมทับบดจูบใช้ลิ้นสากอุ่นร้อนตัวเองตักตวงความหวานของคนไร้เดียงสาใต้ร่าง

       “อะ...อื้อ” เสียงหอบหายใจและเสียงร้องครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากปากทั้งสองที่บดจูบกัน แม้ปากน้อยจะไม่ตอบสนอง แต่อามาร์ก็ไม่สนใจ ขอแค่ได้ทาบทับครอบครองแนบอิงกายนางอันเป็นที่รักก็เพียงพอแล้ว เขาไม่อาจรอเวลาได้อีกแล้ว ตลอดสี่พันห้าร้อยปี มันนานมากเกินไปสำหรับผู้เป็นอมตะอย่างเขา

       “อ่า...อื้อ” อามาร์จัดการเสื้อผ้าของตนและของนางออกไปให้พ้นทางเพื่อจะได้ทาบทับบดเบียดเสียดสีกายแนบเนื้อกันและกันอย่างที่เฝ้าคอยปรารถนามานานนับหลายพันปี

       พุฒิตาเย็นเยือกไปทั้งร่างเมื่อเสื้อผ้าที่ใส่อยู่หายไปในพริบตาเดียว ตอนนี้ความรู้สึกและทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันกึ่งตื่นกึ่งฝัน แต่แล้วก็แน่ใจว่ามันคือความจริงเมื่อสัมผัสที่เกิดขึ้นเธอรับรู้ได้ทุกอณูผิวกาย

       “อ่า...อื้อ” เธอแทบขาดอากาศหายใจ แต่เขาก็แบ่งอากาศให้ก่อนผละปากหนาออกห่างแล้วก็ก้มลงซุกไซ้หน้าอกอวบเปลือยของเธอ

       “ยะ...อย่าทำแบบนี้กับฉันได้โปรด...และปล่อยฉันกลับไปเถอะ ฉันมีคู่หมั้นแล้ว”

       “มันมิคู่ควรกับเจ้าพุฒิตา จำไว้มีแค่ข้าคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควร ไม่ว่าจะภพที่แล้วหรือภพนี้ของเจ้ายอดดวงใจข้า อ่า...”

อามาร์น้อยใจนักเมื่อนางพูดเช่นนี้ แต่เพลานี้บนเตียงใหญ่นุ่มนี้มีแค่เขาและนางเท่านั้น จักมิมีผู้ใดเข้ามาแทรกกลางระหว่างตนและนางได้ และยิ่งไปกว่านั้นในโลกมายาที่ถูกสร้างขึ้นนี้มีเพียงเขากับบาซาเท่านั้นที่เข้ามาได้ หากมิได้ถูกพาเข้ามา มีหรือจักมองเห็นอีกมิติที่เขาสร้างขึ้นเพื่อนางอันเป็นที่รักใต้ร่าง

“อ่า...อื้อ” เรียวลิ้นอุ่นร้อนของบุรุษแปลกหน้ากำลังดูดคลึงรัดเรียวลิ้นเล็กของเธอและมันทำให้ใจของเธอเต้นแรงตื่นเต้นไปกับความแปลกใหม่ที่เพิ่งได้พานพบในครั้งนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตจนเข้าพิธีแต่งงาน สิบทิศก็ยังไม่เคยได้สัมผัสเธอแม้แต่น้อย เขาทำได้แค่เพียงกอดและจับมือด้วยอยากถนอมเธอไว้ในคืนเข้าหอและเธอก็คิดเช่นเดียวกับเขาจึงเก็บความบริสุทธิ์นี้มาจนถึงอายุยี่สิบสี่ปี

เวตาลผู้เป็นอมตะผละปากหนาของตัวเองจูบไซ้ซอกคอระหงของยอดดวงใจมายังเนินอกอวบอูมแล้วมือใหญ่ก็กอบกุมเต้าอวบนุ่มนิ่มเคล้นคลึงหนักหน่วง อีกมือที่ว่างก็กอดเอวเล็กคอดรัดรั้งขึ้นหาตัวเอง ปากหนาก็เคลื่อนไหวกับยอดอกแข็งตึงของสตรีอันเป็นดวงจิตดวงใจของตนเอง

       “อะ...ได้โปรด...ปล่อยฉันไปเถอะ อื้อ...” แม้จะมีสติและเรี่ยวแรงน้อยนิดเธอไม่สน ขอแค่ให้ได้พูด แต่ร่างกายของพุฒิตาตอนนี้มันกลับทรยศคำพูดตัวเอง ร่างน้อยเปลือยเปล่ากำลังแอ่นเด้งยกเร่าตอบสนองคนเหนือร่างแม้จะไม่ประสีประสาไร้ประสบการณ์ แต่ความเงอะงะไร้เดียงสาของเธอนี่แหละที่ทำให้อามาร์คึกคะนองในตอนนี้

       “อ่า...เจ้ามิปรารถนาให้ข้าหยุดหรอกพุฒิตา ใจของเจ้ากับร่างกายของเจ้าตอนนี้มันกำลังเรียกร้องให้ข้าสัมผัส อื้ม...สวยเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือตอนนี้ เจ้าก็งดงามมิเคยเปลี่ยนยอดรัก อ่า...อื้ม” เขาลากลิ้นหนาไปกับร่องอกอวบอูมที่มือใหญ่ตนเองกำลังเคล้นคลึงสวาท

       “ฉะ...ฉันบอกให้คุณหยุดไงเล่า อะ...อุ๊ย!” แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งแอ่นเด้งยกตัวขึ้นเมื่อปากหนากัดงับดึงยอดอกสีชมพูหวานของตนหนักหน่วง

       หึหึ

       อามาร์มิได้ตอบกลับ เขาแค่ผละเงยหน้าขึ้นจากอกอวบอูมของแม่ยอดดวงใจแล้วก็ก้มหน้าลงไปซุกกลางหว่างอกของคนงามของตนอีกครั้งแล้วเคลื่อนไล้ไซ้ปลายจมูกโด่งไล้เลื้อยผ่านร่องอกอวบพร้อมมือกอบกุมเคล้นคลึงเต้าของนางไปด้วย ปากหนาเคลื่อนไล้มาหยุดหน้าท้องแบนราบแล้วก็หอบหายใจแรงเมื่อมองไล้ต่ำเลยผ่านสะดือคนงามไปเห็นความอวบนูนสวยงามที่มีเส้นขนขึ้นปกคลุมเป็นระเบียบสวยงามน่าคลอเคลีย

       “หากข้าหยุด คนที่จะทรมานคือเจ้าพุฒิตา อื้ม...เจ้างามนัก งามมิเปลี่ยนแปลงยอดทูนหัวของข้า อ่า” แล้วอามาร์ก็เคลื่อนหน้าจากหน้าท้องแบนราบไปซุกซบสูดดมกลิ่นสาบสาวที่คละคลุ้งออกมาจากร่างเล็กระหงและยิ่งตอนนี้นางมีน้ำสวาทไหลอาบล้นออกมาด้านนอกด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้อยากลึกล้ำเสียดสีในกายของสาวเจ้า

       เธอคิดว่าชีวิตนี้จะแต่งงานครั้งเดียวและตกเป็นของคนคนเดียว และคนคนนั้นก็คือคู่หมั้นหนุ่มอย่างสิบทิศที่คบกันมานานตั้งแต่เด็กตามคำชักชวนของผู้ใหญ่ แต่วันนี้เธอกำลังนอนทอดกายและบิดเร่าครวญครางใต้ร่างบุรุษอื่นที่แทบไม่รู้จัก แต่เขาบอกว่าเธอและเขารู้จักกันเมื่อครั้งอดีต ส่วนเขานั้นอยู่เฝ้ารอเธอ เรื่องแบบนี้มันมีแต่ในละครและนิยาย แล้วมันจะมีในชีวิตจริงได้ยังไงเล่า และยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของพุฒิตากลับมีความรู้สึกมากมายระเบิดออกมาจากอกอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อถูกคนประหลาดสัมผัสตนเองอย่างสนิทเสน่หา

Related chapters

  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 2

    ใบหน้าทั้งสองเห่อร้อนแดงด้วยไฟสวาทพร้อกกับความเขินอายที่กำลังปะทุล้นออกมานอกอก สองมือน้อยของพุฒิตาไม่รู้จะจัดวางไว้ตรงไหน อยากจะผลักไส แต่ร่างกายกลับแอ่นเด้งเร่าตอบสนองชายแปลกประหลาดที่เพิ่งพานพบกันครั้งแรก แม้แต่ชื่อเธอก็ยังไม่รู้จัก แต่เขากลับรู้จักชื่อเธอและเหมือนรู้จักเธอเป็นอย่างดีด้วย “ข้าชื่ออามาร์ จำไว้ว่าข้าชื่ออามาร์ ยอดทูนหัวของข้า อื้ม...หวานเหลือเกิน” อามาร์รู้ความคิดความสับสนวุ่นวายในใจของนางทุกอย่างจึงเงยหน้าขึ้นจากความสวยฉ่ำแฉะมาเอ่ยบอกตอบและนั่นทำให้พุฒิตาตกใจจนอามาร์ต้องยกยิ้มมุมปากแล้วพูดต่ออีกครั้ง “และข้าก็คือชายที่เจ้ารักมิว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันนับแต่นี้ เจ้าจักจดจำข้าแต่เพียงผู้เดียวพุฒิตา อื้ม...เจ้าสวยนักยอดยาใจของข้า อ่า...”แล้วเรียวลิ้นอุ่นร้อนเวตาลอามาร์ก็ลากไล้ไปตามกลีบสวาทอวบฉ่ำ ท่อนแขนแข็งแรงที่กอดรัดเอวเล็กคอดก็ผละดันเรียวขาเล็กของแม่ยอดพธูจอมใจแยกกว้าง อีกมือที่กอบกุมเต้าก็เคลื่อนมาจับเรียวขาอีกข้างยกขึ้นพาดไหล่หนาของตนเอง “อือ...ยะ...หยุดเถอะคุณ” “ชูว์...เจ้ายังมิรู้อีกรึว่าแท้จริงแล้วเจ้าต้องการสิ่งใดพุฒิตา อ่า.

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 1

    นานนับชั่วโมง อามาร์ถึงยอมถอดถอนเนื้อร้อนออกจากร่างงามคับแน่นที่ตอดรัดคลึงตนเองหนักหน่วงออกมาด้านนอกเพื่อให้สาวเจ้าได้พักผ่อนร่างกายหลังจากที่ตนได้ตักตวงความหวานหอมของพุฒิตามาตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า อามาร์มองใบหน้างามของแม่ยอดรักยอดเสน่หาของตัวเองแล้วหัวใจพันปีของตนเองก็เต้นแรงผิดจังหวะและยิ่งได้ครอบครองยิ่งทำให้หวงแหนคนที่หลับสนิทบนเตียง อยากจะเก็บร่างเล็กไว้ดูคนเดียวและคลอเคลียเย้าหยอกยามค่ำคืน “ข้ารอเจ้ามานานเหลือเกินพุฒิตาของข้า”อามาร์พึมพำกับคนหลับสนิทแล้วผละลุกขึ้นลงจากเตียง จากกายเปลือยเปล่าก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้เรียบร้อย คราบเหงื่อไคล เนื้อตัวที่เหนียวเหนอะหนะก็สะอาดหมดจดราวกับอาบน้ำใหม่ ส่วนคนที่หลับก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ให้เพียงแค่มือหนาสะบัดเล็กน้อยเท่านั้น “มีแค่ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราสองอีกครั้ง ทูนหัวของข้า” อามาร์บอกนางในดวงใจแล้วก็หายไปจากห้องเพื่อไปพบกับบาซาที่ห้องทำงานของตนเอง บาซาเห็นสีหน้าอิ่มล้นเต็มไปด้วยความสุขของนายแล้วก็ยิ้มตามและดีใจที่ในที่สุดการรอคอยของอามาร์ก็สิ้นสุดลง และหวังเหลือเกินว่าหลังจากนี้นายของตนจะม

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

    “คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ บอกฉันมา”“ข้าก็กำลังจักบอกเจ้านี่ไงเล่าดวงใจข้า” เขาพูดพร้อมยกมือยื่นไปหมายจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่นางก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง“อย่าแตะต้องฉัน”หึหึนางกำลังสั่งเขาทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้มิมีใครกล้าออกคำสั่งกับเขาได้ แต่...เมื่ออดีตนางก็เป็นคนเดียวที่กล้าออกคำสั่งกับเขาและตอนนี้ก็กลับเป็นนางอีกครั้งที่กล้าออกคำสั่งกับตน“ข้ามีนามว่า ‘อามาร์’ ข้ามิใช่มนุษย์เหมือนเจ้า แต่ข้ามีใจที่เฝ้ารอและปรารถนาเพียงเจ้ามาตลอดพันกว่าปีที่ข้ามีลมหายใจ”“ไม่ใช่มนุษย์? แล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่”“หากข้าบอก เจ้าจักรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของข้า”“คุณก็บอกฉันมาสิว่าเป็นตัวอะไรกันแน่” แม้จะกลัว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่าเขามีตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไรกันแน่“หึหึ...ข้ามิเคยปิดบังเจ้าและจักเป็นเช่นนั้นไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาพันกว่าปี” พูดจบอามาร์ก็เปิดเผยร่างจริงของตนเองให้นางในดวงใจดูกรี๊ด!พอได้เห็นคนตัวโตที่นั่งบนเก้าอี้ข้างหน้าตัวเองมีปีกงอกออกจากด้านหลัง มองแล้วเหมือนค้างคาว และในมือก็ถือไม้เท้าหัวค้างคาว ดวงตาสีแดงมีชีวิตชีวาเสียงร้องกรี๊ดหวาดกลัว

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 1

    บาซายิ้มเมื่อได้เห็นนายท่านของตนมีความสุข เขารู้ดีว่าตลอดเวลาสี่พันห้าร้อยปี อามาร์นั้นทุกข์ตรมมากแค่ไหน แต่อามาร์ก็ยังคงยึดมั่นเฝ้ารอคอยจนนางได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งในชาติภพนี้ “สำหรับคนรับใช้อย่างข้าแล้ว มิมีเรื่องไหนที่ทำให้ข้าเบาใจได้เท่าที่ท่านได้เจอนางอามาร์”บาซาพึมพำกับตัวเองแล้วไปจัดการงานของตนเองที่ได้รับมอบหมายให้ทำ หน้าที่ของเขาคือไปจัดการให้ความวุ่นวายชุลมุนที่อามาร์และตนได้สร้างขึ้นให้กลับเป็นปกติ ทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยมีงานแต่งงานของพุฒิตากับนับสิบและพ่อแม่ของนางก็เข้าใจว่านางนั้นได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนคู่หมั้นหนุ่มก็ยุ่งกับการช่วยพ่อหาเสียง ในโลกนี้อะไรก็ล้วนเกิดขึ้นได้แค่พริบตาเดียวของอามาร์ อำนาจเวทมนตร์คาถาบันดาลทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา แต่มีสิ่งเดียวที่อามาร์ใช้มันมิได้คือความ ‘รัก’ เขาจะต้องใช้ใจของเขาเท่านั้น จากงานแต่งงานตรงหน้า ตอนนี้ถูกคาถาสับเปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบบริษัทของนายปพนกับนางทิพย์ โดยมีนักการเมืองชื่อดังและนักธุรกิจมากมายมาร่วมแสดงความยินดี และมีการประมูลเครื่องเพชรเพื่อนำเงินไปบริจาคให้เด็กยากไร้ในชนบทด้วย

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 2

    สี่พันห้าร้อยปีที่แขนทั้งสองไม่ได้โอบกอดหญิงใด ไม่ได้แตะต้องเฉียดใกล้แม่นางคนใด มันเป็นของนางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาเก็บมันไว้เพื่อโอบกอดปลอบประโลมมอบความรักให้พุฒิตาคนเดียวเท่านั้น แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้สั่นเครือและคำพูดขอร้องแล้วใจของเวตาลผู้เป็นอมตะอยู่นานตั้งแต่กลียุคอย่างเขาเศร้าตรม มิอยากให้พุฒิตาหวาดกลัวตัวเอง เขาจึงผละคนสะอื้นไห้ออกจากอ้อมกอดแข็งแรง สองมือที่กอดรัดผละมาจับหัวไหล่เล็กหนึ่งข้าง อีกข้างเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบดวงตาสีน้ำตาลเจือเขียวอมเศร้าของตน“ฟังข้าพุฒิตา ข้ามิทำอันใดเจ้า เจ้าคือคนที่ข้าเฝ้าปรารถนามาตั้งแต่กาลอดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวข้ามีแต่จะถนอมมิมีทำร้ายเจ้าดวงใจข้าเอ๋ย”พุฒิตาอยากจะหลบหนีสายตาเศร้าของบุรุษตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีสายตาที่จดจ้องมายังตนได้ ดวงตาของเขามันอาบล้นไปด้วยความเจ็บปวด และทำไมเธอถึงเข้าใจความหมายที่คนตรงหน้าส่งให้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของเธอมันเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างประหลาด“เจ้ามิเคยเป็นคนอื่นสำหรับข้า และข้าก็มิเคยเป็นของหญิงใดนอกจากเจ้า มิว่าจะเป็นตัวเจ้าเมื่อชาติที่แล้วหรือเจ้าในชาตินี้ที่มาเกิดใหม่อีกครั้ง”ยิ่งคนตรงหน้าพูด เ

    Last Updated : 2025-01-08

Latest chapter

  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

    “คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ บอกฉันมา”“ข้าก็กำลังจักบอกเจ้านี่ไงเล่าดวงใจข้า” เขาพูดพร้อมยกมือยื่นไปหมายจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่นางก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง“อย่าแตะต้องฉัน”หึหึนางกำลังสั่งเขาทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้มิมีใครกล้าออกคำสั่งกับเขาได้ แต่...เมื่ออดีตนางก็เป็นคนเดียวที่กล้าออกคำสั่งกับเขาและตอนนี้ก็กลับเป็นนางอีกครั้งที่กล้าออกคำสั่งกับตน“ข้ามีนามว่า ‘อามาร์’ ข้ามิใช่มนุษย์เหมือนเจ้า แต่ข้ามีใจที่เฝ้ารอและปรารถนาเพียงเจ้ามาตลอดพันกว่าปีที่ข้ามีลมหายใจ”“ไม่ใช่มนุษย์? แล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่”“หากข้าบอก เจ้าจักรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของข้า”“คุณก็บอกฉันมาสิว่าเป็นตัวอะไรกันแน่” แม้จะกลัว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่าเขามีตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไรกันแน่“หึหึ...ข้ามิเคยปิดบังเจ้าและจักเป็นเช่นนั้นไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาพันกว่าปี” พูดจบอามาร์ก็เปิดเผยร่างจริงของตนเองให้นางในดวงใจดูกรี๊ด!พอได้เห็นคนตัวโตที่นั่งบนเก้าอี้ข้างหน้าตัวเองมีปีกงอกออกจากด้านหลัง มองแล้วเหมือนค้างคาว และในมือก็ถือไม้เท้าหัวค้างคาว ดวงตาสีแดงมีชีวิตชีวาเสียงร้องกรี๊ดหวาดกลัว

  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 1

    นานนับชั่วโมง อามาร์ถึงยอมถอดถอนเนื้อร้อนออกจากร่างงามคับแน่นที่ตอดรัดคลึงตนเองหนักหน่วงออกมาด้านนอกเพื่อให้สาวเจ้าได้พักผ่อนร่างกายหลังจากที่ตนได้ตักตวงความหวานหอมของพุฒิตามาตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า อามาร์มองใบหน้างามของแม่ยอดรักยอดเสน่หาของตัวเองแล้วหัวใจพันปีของตนเองก็เต้นแรงผิดจังหวะและยิ่งได้ครอบครองยิ่งทำให้หวงแหนคนที่หลับสนิทบนเตียง อยากจะเก็บร่างเล็กไว้ดูคนเดียวและคลอเคลียเย้าหยอกยามค่ำคืน “ข้ารอเจ้ามานานเหลือเกินพุฒิตาของข้า”อามาร์พึมพำกับคนหลับสนิทแล้วผละลุกขึ้นลงจากเตียง จากกายเปลือยเปล่าก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้เรียบร้อย คราบเหงื่อไคล เนื้อตัวที่เหนียวเหนอะหนะก็สะอาดหมดจดราวกับอาบน้ำใหม่ ส่วนคนที่หลับก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ให้เพียงแค่มือหนาสะบัดเล็กน้อยเท่านั้น “มีแค่ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราสองอีกครั้ง ทูนหัวของข้า” อามาร์บอกนางในดวงใจแล้วก็หายไปจากห้องเพื่อไปพบกับบาซาที่ห้องทำงานของตนเอง บาซาเห็นสีหน้าอิ่มล้นเต็มไปด้วยความสุขของนายแล้วก็ยิ้มตามและดีใจที่ในที่สุดการรอคอยของอามาร์ก็สิ้นสุดลง และหวังเหลือเกินว่าหลังจากนี้นายของตนจะม

  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 2

    ใบหน้าทั้งสองเห่อร้อนแดงด้วยไฟสวาทพร้อกกับความเขินอายที่กำลังปะทุล้นออกมานอกอก สองมือน้อยของพุฒิตาไม่รู้จะจัดวางไว้ตรงไหน อยากจะผลักไส แต่ร่างกายกลับแอ่นเด้งเร่าตอบสนองชายแปลกประหลาดที่เพิ่งพานพบกันครั้งแรก แม้แต่ชื่อเธอก็ยังไม่รู้จัก แต่เขากลับรู้จักชื่อเธอและเหมือนรู้จักเธอเป็นอย่างดีด้วย “ข้าชื่ออามาร์ จำไว้ว่าข้าชื่ออามาร์ ยอดทูนหัวของข้า อื้ม...หวานเหลือเกิน” อามาร์รู้ความคิดความสับสนวุ่นวายในใจของนางทุกอย่างจึงเงยหน้าขึ้นจากความสวยฉ่ำแฉะมาเอ่ยบอกตอบและนั่นทำให้พุฒิตาตกใจจนอามาร์ต้องยกยิ้มมุมปากแล้วพูดต่ออีกครั้ง “และข้าก็คือชายที่เจ้ารักมิว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันนับแต่นี้ เจ้าจักจดจำข้าแต่เพียงผู้เดียวพุฒิตา อื้ม...เจ้าสวยนักยอดยาใจของข้า อ่า...”แล้วเรียวลิ้นอุ่นร้อนเวตาลอามาร์ก็ลากไล้ไปตามกลีบสวาทอวบฉ่ำ ท่อนแขนแข็งแรงที่กอดรัดเอวเล็กคอดก็ผละดันเรียวขาเล็กของแม่ยอดพธูจอมใจแยกกว้าง อีกมือที่กอบกุมเต้าก็เคลื่อนมาจับเรียวขาอีกข้างยกขึ้นพาดไหล่หนาของตนเอง “อือ...ยะ...หยุดเถอะคุณ” “ชูว์...เจ้ายังมิรู้อีกรึว่าแท้จริงแล้วเจ้าต้องการสิ่งใดพุฒิตา อ่า.

  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 1

    น่าแปลกที่ใจของเธอเต้นแรง ขนาดกับสิบทิศ ว่าที่เจ้าบ่าวที่เธอเชื่อมาตลอดว่าตัวเอง ‘รัก’ ก็ไม่เคยมีหัวใจเต้นแรงแบบนี้ยามอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่าย แต่กับคนประหลาดคนนี้ เธอกลับมีความรู้สึกใจสั่นหวั่นไหวและเจ็บแปลบลึกๆ ในอกอย่างอธิบายไม่ถูก สองมือน้อยหยุดตีอกแกร่งแล้ว ทุกอย่างในหัวของเธอก็ว่างเปล่าเมื่อถูกปากหนาบดจูบดุดัน อามาร์ประคองร่างนางในดวงใจให้นอนล้มลงไปกับเตียงด้วยความอ่อนโยน แล้วตัวเขาก็เคลื่อนไหวขึ้นคร่อมทับบดจูบใช้ลิ้นสากอุ่นร้อนตัวเองตักตวงความหวานของคนไร้เดียงสาใต้ร่าง “อะ...อื้อ” เสียงหอบหายใจและเสียงร้องครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากปากทั้งสองที่บดจูบกัน แม้ปากน้อยจะไม่ตอบสนอง แต่อามาร์ก็ไม่สนใจ ขอแค่ได้ทาบทับครอบครองแนบอิงกายนางอันเป็นที่รักก็เพียงพอแล้ว เขาไม่อาจรอเวลาได้อีกแล้ว ตลอดสี่พันห้าร้อยปี มันนานมากเกินไปสำหรับผู้เป็นอมตะอย่างเขา “อ่า...อื้อ” อามาร์จัดการเสื้อผ้าของตนและของนางออกไปให้พ้นทางเพื่อจะได้ทาบทับบดเบียดเสียดสีกายแนบเนื้อกันและกันอย่างที่เฝ้าคอยปรารถนามานานนับหลายพันปี พุฒิตาเย็นเยือกไปทั้งร่างเมื่อเสื้อผ้าที่ใส่อยู่หายไปในพริบตาเ

  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 2

    สี่พันห้าร้อยปีที่แขนทั้งสองไม่ได้โอบกอดหญิงใด ไม่ได้แตะต้องเฉียดใกล้แม่นางคนใด มันเป็นของนางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาเก็บมันไว้เพื่อโอบกอดปลอบประโลมมอบความรักให้พุฒิตาคนเดียวเท่านั้น แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้สั่นเครือและคำพูดขอร้องแล้วใจของเวตาลผู้เป็นอมตะอยู่นานตั้งแต่กลียุคอย่างเขาเศร้าตรม มิอยากให้พุฒิตาหวาดกลัวตัวเอง เขาจึงผละคนสะอื้นไห้ออกจากอ้อมกอดแข็งแรง สองมือที่กอดรัดผละมาจับหัวไหล่เล็กหนึ่งข้าง อีกข้างเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบดวงตาสีน้ำตาลเจือเขียวอมเศร้าของตน“ฟังข้าพุฒิตา ข้ามิทำอันใดเจ้า เจ้าคือคนที่ข้าเฝ้าปรารถนามาตั้งแต่กาลอดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวข้ามีแต่จะถนอมมิมีทำร้ายเจ้าดวงใจข้าเอ๋ย”พุฒิตาอยากจะหลบหนีสายตาเศร้าของบุรุษตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีสายตาที่จดจ้องมายังตนได้ ดวงตาของเขามันอาบล้นไปด้วยความเจ็บปวด และทำไมเธอถึงเข้าใจความหมายที่คนตรงหน้าส่งให้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของเธอมันเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างประหลาด“เจ้ามิเคยเป็นคนอื่นสำหรับข้า และข้าก็มิเคยเป็นของหญิงใดนอกจากเจ้า มิว่าจะเป็นตัวเจ้าเมื่อชาติที่แล้วหรือเจ้าในชาตินี้ที่มาเกิดใหม่อีกครั้ง”ยิ่งคนตรงหน้าพูด เ

  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 1

    บาซายิ้มเมื่อได้เห็นนายท่านของตนมีความสุข เขารู้ดีว่าตลอดเวลาสี่พันห้าร้อยปี อามาร์นั้นทุกข์ตรมมากแค่ไหน แต่อามาร์ก็ยังคงยึดมั่นเฝ้ารอคอยจนนางได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งในชาติภพนี้ “สำหรับคนรับใช้อย่างข้าแล้ว มิมีเรื่องไหนที่ทำให้ข้าเบาใจได้เท่าที่ท่านได้เจอนางอามาร์”บาซาพึมพำกับตัวเองแล้วไปจัดการงานของตนเองที่ได้รับมอบหมายให้ทำ หน้าที่ของเขาคือไปจัดการให้ความวุ่นวายชุลมุนที่อามาร์และตนได้สร้างขึ้นให้กลับเป็นปกติ ทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยมีงานแต่งงานของพุฒิตากับนับสิบและพ่อแม่ของนางก็เข้าใจว่านางนั้นได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนคู่หมั้นหนุ่มก็ยุ่งกับการช่วยพ่อหาเสียง ในโลกนี้อะไรก็ล้วนเกิดขึ้นได้แค่พริบตาเดียวของอามาร์ อำนาจเวทมนตร์คาถาบันดาลทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา แต่มีสิ่งเดียวที่อามาร์ใช้มันมิได้คือความ ‘รัก’ เขาจะต้องใช้ใจของเขาเท่านั้น จากงานแต่งงานตรงหน้า ตอนนี้ถูกคาถาสับเปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบบริษัทของนายปพนกับนางทิพย์ โดยมีนักการเมืองชื่อดังและนักธุรกิจมากมายมาร่วมแสดงความยินดี และมีการประมูลเครื่องเพชรเพื่อนำเงินไปบริจาคให้เด็กยากไร้ในชนบทด้วย

DMCA.com Protection Status