Home / โรแมนติก / อามาร์ / 3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

Share

3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

last update Last Updated: 2025-01-08 02:44:14

“คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ บอกฉันมา”

“ข้าก็กำลังจักบอกเจ้านี่ไงเล่าดวงใจข้า” เขาพูดพร้อมยกมือยื่นไปหมายจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่นางก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง

“อย่าแตะต้องฉัน”

หึหึ

นางกำลังสั่งเขาทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้มิมีใครกล้าออกคำสั่งกับเขาได้ แต่...เมื่ออดีตนางก็เป็นคนเดียวที่กล้าออกคำสั่งกับเขาและตอนนี้ก็กลับเป็นนางอีกครั้งที่กล้าออกคำสั่งกับตน

“ข้ามีนามว่า ‘อามาร์’ ข้ามิใช่มนุษย์เหมือนเจ้า แต่ข้ามีใจที่เฝ้ารอและปรารถนาเพียงเจ้ามาตลอดพันกว่าปีที่ข้ามีลมหายใจ”

“ไม่ใช่มนุษย์? แล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่”

“หากข้าบอก เจ้าจักรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของข้า”

“คุณก็บอกฉันมาสิว่าเป็นตัวอะไรกันแน่” แม้จะกลัว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่าเขามีตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไรกันแน่

“หึหึ...ข้ามิเคยปิดบังเจ้าและจักเป็นเช่นนั้นไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาพันกว่าปี” พูดจบอามาร์ก็เปิดเผยร่างจริงของตนเองให้นางในดวงใจดู

กรี๊ด!

พอได้เห็นคนตัวโตที่นั่งบนเก้าอี้ข้างหน้าตัวเองมีปีกงอกออกจากด้านหลัง มองแล้วเหมือนค้างคาว และในมือก็ถือไม้เท้าหัวค้างคาว ดวงตาสีแดงมีชีวิตชีวา

เสียงร้องกรี๊ดหวาดกลัวของนางทำให้หัวใจของอามาร์เจ็บปวด แต่ก็ฝืนยกยิ้มมุมปาก เพราะรู้อยู่แล้วว่านางจักต้องตกใจเมื่อได้เห็นร่างและตัวตนที่แท้จริงของตน

“หึหึ...ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจักต้องหวาดกลัวตัวตนที่แท้จริงของข้า...พุฒิตา แต่มันคือตัวตนของข้า และข้าก็หวังเหลือเกินว่าเจ้าจักคุ้นชินกับร่างนี้ของข้า ตัวข้าเป็นเวตาลเรื่องเล่าในนิทานก่อนนอนของมนุษย์มานานนับแต่กลียุคจนถึงปัจจุบัน โดยที่มิมีผู้ใดรู้ว่าข้ามีตัวตนจริง ข้าแฝงเร้นซ่อนกายกลืนกินไปกับมนุษย์ แต่ในยามค่ำคืนข้าก็คือตัวข้าเหมือนเช่นตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเจ้า...พุฒิตา”

เธอกรีดร้องสั่นกลัวคนตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถลุกเดินหนีไปได้ ร่างของเธอมันชาและแข็งทื่อไปกับเตียงจนไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้ตามใจคิด แม้อยากหนีแต่ก็ไม่รู้จะหนีไปจากโลกมายาที่บุรุษตรงหน้าสร้างขึ้นได้ไหม และเธอก็ได้มองสำรวจใบหน้าหล่อเข้มทรงเสน่ห์และตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วก็คิดตามคำพูดของเขา ทุกอย่างมันไม่ใช่เรื่องโกหกหรือฝัน มันคือความจริง เขาคือ ‘เวตาล’ เหมือนกับนิทานและรูปที่เคยเห็นตามหนังสือ แต่ก็ไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้จะมีเวตาลจริงๆ

“บอกฉันสิว่ามันไม่จริง” เธอถามเขาเสียงสั่นหลังจากกรีดร้องเสียงดังและควบคุมสติตัวเองได้แล้ว

“เจ้าคิดว่าเช่นไรเล่า นี่คือตัวตนที่แท้จริงของข้า เจ้ารังเกียจและหวาดกลัวข้า” เขาถามทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันชัดเจนบนใบหน้างามของนางอยู่แล้ว

“ฉันไม่ปฏิเสธ คุณน่ากลัวจริงๆ และฉันไม่อยากเชื่อว่าในโลกนี้จะมี ‘เวตาล’ จริงๆ ฉันนึกว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าหลอกเด็กก่อนนอนเท่านั้น”

หึหึ

อามาร์แค่นขำแล้วเขาก็กลับคืนร่างมนุษย์เพื่อให้นางไม่หวาดกลัวตนเองไปมากกว่านี้แล้วก็เอ่ยตอบกลับ

“ใช่ว่าทุกอย่างจักมิใช่เรื่องจริง เรื่องเล่าก็มาจากเรื่องจริงทั้งนั้นพุฒิตา”

“แล้วคุณจับฉันมาทำไม?” แม้เขาจะบอกว่าเมื่อครั้งอดีตชาติ ตนเองและเขาเป็นคนรักกัน แต่ใช่ว่าชาตินี้เธอจักรักเขา และเธอก็กำลังแต่งงานกับนับสิบคู่หมั้นหนุ่มด้วย เขาไปลักพาตัวเธอมาอยู่ในโลกที่เขาสร้างขึ้น

“เจ้าเป็นของข้า มิว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันพุฒิตา จักมิมีผู้ใดได้ครอบครองเจ้านอกจากข้า ข้าที่เป็นชายคน ‘แรก’ ของเจ้าและ ‘รัก’ เดียวของเจ้าดวงใจข้า”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มทว่าหนักแน่นเต็มไปด้วยความจริงจังทำให้พุฒิตาไม่กล้าตอบกลับ แล้วเธอก็ต้องตาโตเมื่ออยู่ๆ ผู้ชายที่นั่งตรงหน้าและบอกว่าคือคน ‘รัก’ ของตนเมื่อชาติที่แล้วขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาก้มโน้มหน้าลงบดจูบปากอวบอิ่มของเธอพร้อมกับมือหนาโอบไปด้านหลังรั้งท้ายทอยให้แหงนเงยขึ้นรองรับปากหนาสีเข้มของเขา

“อะ...อื้อ” ปากหนาบดจูบหนักหน่วงดุดันเอาแต่ใจพร้อมดุนดันเรียวลิ้นสากอุ่นร้อนเข้าไปในปากน้อยของสาวเจ้าพร้อมกันนั้นก็ดันร่างเล็กให้ล้มนอนไปกับเตียงนอนนุ่มแล้วตัวเองก็เคลื่อนไหวคร่อมทับกักร่างของนางไว้ใต้ร่างไม่ให้ขยับดิ้นหนีจากใต้ร่างใหญ่ตนเอง

“อ่า...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากริมฝีปากทั้งสอง แม้ปากเล็กของพุฒิตาจะพยายามบิดเบี่ยงหลบหนี แต่ก็มิอาจหนีพ้นปากของเวตาลในนิทานได้

“อ่า...อื้อ” พุฒิตาน้ำตาคลอไหลอาบทางหางตาเมื่อพ่ายแพ้ต่อแรงของบุรุษเหนือร่าง และยิ่งไปกว่านั้นเธอเองก็รู้สึกว่าใจของเธอมันเริ่มสั่นไหว มันแปลกมากทั้งๆ ที่เพิ่งเคยเจอกับชายประหลาดพูดจาลิเกครั้งแรก แถมเขายังไม่ใช่มนุษย์แบบตนด้วย

“อ่า...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ยังคงดังลอดออกมาจากริมฝีปากทั้งสอง ตอนนี้เรียวลิ้นอุ่นร้อนของอามาร์ไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กไร้เดียงสาของคนใต้ร่างให้จนมุมแล้วตวัดดูดกลืนลิ้มรสหวานของปากน้อย

“อ่า...อื้ม” แล้วอามาร์ก็ถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เพราะถ้าขืนยังบดจูบต่อมีหวังได้เกินเลยกว่านี้เป็นแน่ เขาอยากให้นางได้พักผ่อนร่างกาย เพราะค่ำคืนที่ผ่านมาตนได้ตักตวงหาความสุขกับร่างนางแล้ว และเขากับนางยังมีชีวิตอยู่ด้วยกันอีกนานจนกว่าจะหมดลม

“เจ้าพักผ่อนเถอะ และนั่นอาหารของเจ้า” เขาผละออกมานั่งข้างคนที่นอนปากบวมเจ่อเพราะรสจูบของตนแล้วชี้มือไปทางโต๊ะทานอาหารที่อยู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นกลางห้องพร้อมกับอาหารเต็มโต๊ะ

“ทำไม...” เธอยังไม่ทันได้พูดจบ เสียงเข้มของอามาร์ก็ดังแทรกขึ้นก่อน

“ในโลกนี้มิมีสิ่งใดที่ข้าเนรมิตให้เจ้ามิได้พุฒิตา ข้ามิรู้ว่าเจ้าชอบทานสิ่งใด ข้าจึงเตรียมให้เจ้าเต็มโต๊ะ”

“ฉันจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ของฉันได้รึยัง และฉันต้องการติดต่อพวกท่านด้วย”

“ทานข้าวซะ ส่วนเรื่องพ่อแม่ของเจ้ามิต้องห่วงไป ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจักได้เจอพวกเขาและเรื่องระหว่างข้ากับเจ้าก็ต้องบอกพวกเขาเช่นกัน โดยเฉพาะไอ้มนุษย์นั่นมันควรรับรู้ว่าเจ้าคือของข้ามิใช่ของมัน” อามาร์บอกเน้นคำในประโยคแล้วก็อุ้มนางลุกขึ้นพาเดินไปนั่งยังเก้าอี้ที่โต๊ะรับประทานอาหาร

“ต้องให้ข้าป้อนรึไม่?” พอวางร่างเล็กลงกับเก้าอี้แล้ว เขาก็ถามเมื่อเห็นว่านางไม่ยอมลงมือทาน

“มะ...ไม่ต้อง” พุฒิตาปฏิเสธเสียงสั่นแล้วมองอาหารบนโต๊ะตรงหน้าตัวเองแล้วก็กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ทุกอย่างน่ากินทั้งนั้นมีทั้งอาหารไทยและอาหารต่างชาติเต็มโต๊ะไปหมด

“ข้าจริงใจกับเจ้าและหวังว่าเจ้าจักจริงใจตอบเช่นกันพุฒิตา” เมื่อเห็นว่านางเริ่มลงมือทาน เขาก็ยกยิ้มมุมปากแล้วก็หายไปจากในห้องโดยไม่บอกกล่าวลาหญิงสาวแม้แต่คำเดียว

“ให้ตายเถอะ! คิดจะไปก็ไป!” เธอยกมือขึ้นทาบอกบ่นให้กับคนที่หายไปกับอากาศ ก่อนจะสนใจอาหารตรงหน้า ตอนนี้ให้ท้องอิ่มก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธีหนีออกไปจากโลกมายาของเวตาลอามาร์

Related chapters

  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 1

    บาซายิ้มเมื่อได้เห็นนายท่านของตนมีความสุข เขารู้ดีว่าตลอดเวลาสี่พันห้าร้อยปี อามาร์นั้นทุกข์ตรมมากแค่ไหน แต่อามาร์ก็ยังคงยึดมั่นเฝ้ารอคอยจนนางได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งในชาติภพนี้ “สำหรับคนรับใช้อย่างข้าแล้ว มิมีเรื่องไหนที่ทำให้ข้าเบาใจได้เท่าที่ท่านได้เจอนางอามาร์”บาซาพึมพำกับตัวเองแล้วไปจัดการงานของตนเองที่ได้รับมอบหมายให้ทำ หน้าที่ของเขาคือไปจัดการให้ความวุ่นวายชุลมุนที่อามาร์และตนได้สร้างขึ้นให้กลับเป็นปกติ ทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยมีงานแต่งงานของพุฒิตากับนับสิบและพ่อแม่ของนางก็เข้าใจว่านางนั้นได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนคู่หมั้นหนุ่มก็ยุ่งกับการช่วยพ่อหาเสียง ในโลกนี้อะไรก็ล้วนเกิดขึ้นได้แค่พริบตาเดียวของอามาร์ อำนาจเวทมนตร์คาถาบันดาลทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา แต่มีสิ่งเดียวที่อามาร์ใช้มันมิได้คือความ ‘รัก’ เขาจะต้องใช้ใจของเขาเท่านั้น จากงานแต่งงานตรงหน้า ตอนนี้ถูกคาถาสับเปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบบริษัทของนายปพนกับนางทิพย์ โดยมีนักการเมืองชื่อดังและนักธุรกิจมากมายมาร่วมแสดงความยินดี และมีการประมูลเครื่องเพชรเพื่อนำเงินไปบริจาคให้เด็กยากไร้ในชนบทด้วย

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 2

    สี่พันห้าร้อยปีที่แขนทั้งสองไม่ได้โอบกอดหญิงใด ไม่ได้แตะต้องเฉียดใกล้แม่นางคนใด มันเป็นของนางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาเก็บมันไว้เพื่อโอบกอดปลอบประโลมมอบความรักให้พุฒิตาคนเดียวเท่านั้น แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้สั่นเครือและคำพูดขอร้องแล้วใจของเวตาลผู้เป็นอมตะอยู่นานตั้งแต่กลียุคอย่างเขาเศร้าตรม มิอยากให้พุฒิตาหวาดกลัวตัวเอง เขาจึงผละคนสะอื้นไห้ออกจากอ้อมกอดแข็งแรง สองมือที่กอดรัดผละมาจับหัวไหล่เล็กหนึ่งข้าง อีกข้างเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบดวงตาสีน้ำตาลเจือเขียวอมเศร้าของตน“ฟังข้าพุฒิตา ข้ามิทำอันใดเจ้า เจ้าคือคนที่ข้าเฝ้าปรารถนามาตั้งแต่กาลอดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวข้ามีแต่จะถนอมมิมีทำร้ายเจ้าดวงใจข้าเอ๋ย”พุฒิตาอยากจะหลบหนีสายตาเศร้าของบุรุษตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีสายตาที่จดจ้องมายังตนได้ ดวงตาของเขามันอาบล้นไปด้วยความเจ็บปวด และทำไมเธอถึงเข้าใจความหมายที่คนตรงหน้าส่งให้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของเธอมันเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างประหลาด“เจ้ามิเคยเป็นคนอื่นสำหรับข้า และข้าก็มิเคยเป็นของหญิงใดนอกจากเจ้า มิว่าจะเป็นตัวเจ้าเมื่อชาติที่แล้วหรือเจ้าในชาตินี้ที่มาเกิดใหม่อีกครั้ง”ยิ่งคนตรงหน้าพูด เ

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 1

    น่าแปลกที่ใจของเธอเต้นแรง ขนาดกับสิบทิศ ว่าที่เจ้าบ่าวที่เธอเชื่อมาตลอดว่าตัวเอง ‘รัก’ ก็ไม่เคยมีหัวใจเต้นแรงแบบนี้ยามอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่าย แต่กับคนประหลาดคนนี้ เธอกลับมีความรู้สึกใจสั่นหวั่นไหวและเจ็บแปลบลึกๆ ในอกอย่างอธิบายไม่ถูก สองมือน้อยหยุดตีอกแกร่งแล้ว ทุกอย่างในหัวของเธอก็ว่างเปล่าเมื่อถูกปากหนาบดจูบดุดัน อามาร์ประคองร่างนางในดวงใจให้นอนล้มลงไปกับเตียงด้วยความอ่อนโยน แล้วตัวเขาก็เคลื่อนไหวขึ้นคร่อมทับบดจูบใช้ลิ้นสากอุ่นร้อนตัวเองตักตวงความหวานของคนไร้เดียงสาใต้ร่าง “อะ...อื้อ” เสียงหอบหายใจและเสียงร้องครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากปากทั้งสองที่บดจูบกัน แม้ปากน้อยจะไม่ตอบสนอง แต่อามาร์ก็ไม่สนใจ ขอแค่ได้ทาบทับครอบครองแนบอิงกายนางอันเป็นที่รักก็เพียงพอแล้ว เขาไม่อาจรอเวลาได้อีกแล้ว ตลอดสี่พันห้าร้อยปี มันนานมากเกินไปสำหรับผู้เป็นอมตะอย่างเขา “อ่า...อื้อ” อามาร์จัดการเสื้อผ้าของตนและของนางออกไปให้พ้นทางเพื่อจะได้ทาบทับบดเบียดเสียดสีกายแนบเนื้อกันและกันอย่างที่เฝ้าคอยปรารถนามานานนับหลายพันปี พุฒิตาเย็นเยือกไปทั้งร่างเมื่อเสื้อผ้าที่ใส่อยู่หายไปในพริบตาเ

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 2

    ใบหน้าทั้งสองเห่อร้อนแดงด้วยไฟสวาทพร้อกกับความเขินอายที่กำลังปะทุล้นออกมานอกอก สองมือน้อยของพุฒิตาไม่รู้จะจัดวางไว้ตรงไหน อยากจะผลักไส แต่ร่างกายกลับแอ่นเด้งเร่าตอบสนองชายแปลกประหลาดที่เพิ่งพานพบกันครั้งแรก แม้แต่ชื่อเธอก็ยังไม่รู้จัก แต่เขากลับรู้จักชื่อเธอและเหมือนรู้จักเธอเป็นอย่างดีด้วย “ข้าชื่ออามาร์ จำไว้ว่าข้าชื่ออามาร์ ยอดทูนหัวของข้า อื้ม...หวานเหลือเกิน” อามาร์รู้ความคิดความสับสนวุ่นวายในใจของนางทุกอย่างจึงเงยหน้าขึ้นจากความสวยฉ่ำแฉะมาเอ่ยบอกตอบและนั่นทำให้พุฒิตาตกใจจนอามาร์ต้องยกยิ้มมุมปากแล้วพูดต่ออีกครั้ง “และข้าก็คือชายที่เจ้ารักมิว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันนับแต่นี้ เจ้าจักจดจำข้าแต่เพียงผู้เดียวพุฒิตา อื้ม...เจ้าสวยนักยอดยาใจของข้า อ่า...”แล้วเรียวลิ้นอุ่นร้อนเวตาลอามาร์ก็ลากไล้ไปตามกลีบสวาทอวบฉ่ำ ท่อนแขนแข็งแรงที่กอดรัดเอวเล็กคอดก็ผละดันเรียวขาเล็กของแม่ยอดพธูจอมใจแยกกว้าง อีกมือที่กอบกุมเต้าก็เคลื่อนมาจับเรียวขาอีกข้างยกขึ้นพาดไหล่หนาของตนเอง “อือ...ยะ...หยุดเถอะคุณ” “ชูว์...เจ้ายังมิรู้อีกรึว่าแท้จริงแล้วเจ้าต้องการสิ่งใดพุฒิตา อ่า.

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 1

    นานนับชั่วโมง อามาร์ถึงยอมถอดถอนเนื้อร้อนออกจากร่างงามคับแน่นที่ตอดรัดคลึงตนเองหนักหน่วงออกมาด้านนอกเพื่อให้สาวเจ้าได้พักผ่อนร่างกายหลังจากที่ตนได้ตักตวงความหวานหอมของพุฒิตามาตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า อามาร์มองใบหน้างามของแม่ยอดรักยอดเสน่หาของตัวเองแล้วหัวใจพันปีของตนเองก็เต้นแรงผิดจังหวะและยิ่งได้ครอบครองยิ่งทำให้หวงแหนคนที่หลับสนิทบนเตียง อยากจะเก็บร่างเล็กไว้ดูคนเดียวและคลอเคลียเย้าหยอกยามค่ำคืน “ข้ารอเจ้ามานานเหลือเกินพุฒิตาของข้า”อามาร์พึมพำกับคนหลับสนิทแล้วผละลุกขึ้นลงจากเตียง จากกายเปลือยเปล่าก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้เรียบร้อย คราบเหงื่อไคล เนื้อตัวที่เหนียวเหนอะหนะก็สะอาดหมดจดราวกับอาบน้ำใหม่ ส่วนคนที่หลับก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ให้เพียงแค่มือหนาสะบัดเล็กน้อยเท่านั้น “มีแค่ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราสองอีกครั้ง ทูนหัวของข้า” อามาร์บอกนางในดวงใจแล้วก็หายไปจากห้องเพื่อไปพบกับบาซาที่ห้องทำงานของตนเอง บาซาเห็นสีหน้าอิ่มล้นเต็มไปด้วยความสุขของนายแล้วก็ยิ้มตามและดีใจที่ในที่สุดการรอคอยของอามาร์ก็สิ้นสุดลง และหวังเหลือเกินว่าหลังจากนี้นายของตนจะม

    Last Updated : 2025-01-08

Latest chapter

  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

    “คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ บอกฉันมา”“ข้าก็กำลังจักบอกเจ้านี่ไงเล่าดวงใจข้า” เขาพูดพร้อมยกมือยื่นไปหมายจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่นางก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง“อย่าแตะต้องฉัน”หึหึนางกำลังสั่งเขาทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้มิมีใครกล้าออกคำสั่งกับเขาได้ แต่...เมื่ออดีตนางก็เป็นคนเดียวที่กล้าออกคำสั่งกับเขาและตอนนี้ก็กลับเป็นนางอีกครั้งที่กล้าออกคำสั่งกับตน“ข้ามีนามว่า ‘อามาร์’ ข้ามิใช่มนุษย์เหมือนเจ้า แต่ข้ามีใจที่เฝ้ารอและปรารถนาเพียงเจ้ามาตลอดพันกว่าปีที่ข้ามีลมหายใจ”“ไม่ใช่มนุษย์? แล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่”“หากข้าบอก เจ้าจักรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของข้า”“คุณก็บอกฉันมาสิว่าเป็นตัวอะไรกันแน่” แม้จะกลัว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่าเขามีตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไรกันแน่“หึหึ...ข้ามิเคยปิดบังเจ้าและจักเป็นเช่นนั้นไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาพันกว่าปี” พูดจบอามาร์ก็เปิดเผยร่างจริงของตนเองให้นางในดวงใจดูกรี๊ด!พอได้เห็นคนตัวโตที่นั่งบนเก้าอี้ข้างหน้าตัวเองมีปีกงอกออกจากด้านหลัง มองแล้วเหมือนค้างคาว และในมือก็ถือไม้เท้าหัวค้างคาว ดวงตาสีแดงมีชีวิตชีวาเสียงร้องกรี๊ดหวาดกลัว

  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 1

    นานนับชั่วโมง อามาร์ถึงยอมถอดถอนเนื้อร้อนออกจากร่างงามคับแน่นที่ตอดรัดคลึงตนเองหนักหน่วงออกมาด้านนอกเพื่อให้สาวเจ้าได้พักผ่อนร่างกายหลังจากที่ตนได้ตักตวงความหวานหอมของพุฒิตามาตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า อามาร์มองใบหน้างามของแม่ยอดรักยอดเสน่หาของตัวเองแล้วหัวใจพันปีของตนเองก็เต้นแรงผิดจังหวะและยิ่งได้ครอบครองยิ่งทำให้หวงแหนคนที่หลับสนิทบนเตียง อยากจะเก็บร่างเล็กไว้ดูคนเดียวและคลอเคลียเย้าหยอกยามค่ำคืน “ข้ารอเจ้ามานานเหลือเกินพุฒิตาของข้า”อามาร์พึมพำกับคนหลับสนิทแล้วผละลุกขึ้นลงจากเตียง จากกายเปลือยเปล่าก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้เรียบร้อย คราบเหงื่อไคล เนื้อตัวที่เหนียวเหนอะหนะก็สะอาดหมดจดราวกับอาบน้ำใหม่ ส่วนคนที่หลับก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ให้เพียงแค่มือหนาสะบัดเล็กน้อยเท่านั้น “มีแค่ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราสองอีกครั้ง ทูนหัวของข้า” อามาร์บอกนางในดวงใจแล้วก็หายไปจากห้องเพื่อไปพบกับบาซาที่ห้องทำงานของตนเอง บาซาเห็นสีหน้าอิ่มล้นเต็มไปด้วยความสุขของนายแล้วก็ยิ้มตามและดีใจที่ในที่สุดการรอคอยของอามาร์ก็สิ้นสุดลง และหวังเหลือเกินว่าหลังจากนี้นายของตนจะม

  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 2

    ใบหน้าทั้งสองเห่อร้อนแดงด้วยไฟสวาทพร้อกกับความเขินอายที่กำลังปะทุล้นออกมานอกอก สองมือน้อยของพุฒิตาไม่รู้จะจัดวางไว้ตรงไหน อยากจะผลักไส แต่ร่างกายกลับแอ่นเด้งเร่าตอบสนองชายแปลกประหลาดที่เพิ่งพานพบกันครั้งแรก แม้แต่ชื่อเธอก็ยังไม่รู้จัก แต่เขากลับรู้จักชื่อเธอและเหมือนรู้จักเธอเป็นอย่างดีด้วย “ข้าชื่ออามาร์ จำไว้ว่าข้าชื่ออามาร์ ยอดทูนหัวของข้า อื้ม...หวานเหลือเกิน” อามาร์รู้ความคิดความสับสนวุ่นวายในใจของนางทุกอย่างจึงเงยหน้าขึ้นจากความสวยฉ่ำแฉะมาเอ่ยบอกตอบและนั่นทำให้พุฒิตาตกใจจนอามาร์ต้องยกยิ้มมุมปากแล้วพูดต่ออีกครั้ง “และข้าก็คือชายที่เจ้ารักมิว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันนับแต่นี้ เจ้าจักจดจำข้าแต่เพียงผู้เดียวพุฒิตา อื้ม...เจ้าสวยนักยอดยาใจของข้า อ่า...”แล้วเรียวลิ้นอุ่นร้อนเวตาลอามาร์ก็ลากไล้ไปตามกลีบสวาทอวบฉ่ำ ท่อนแขนแข็งแรงที่กอดรัดเอวเล็กคอดก็ผละดันเรียวขาเล็กของแม่ยอดพธูจอมใจแยกกว้าง อีกมือที่กอบกุมเต้าก็เคลื่อนมาจับเรียวขาอีกข้างยกขึ้นพาดไหล่หนาของตนเอง “อือ...ยะ...หยุดเถอะคุณ” “ชูว์...เจ้ายังมิรู้อีกรึว่าแท้จริงแล้วเจ้าต้องการสิ่งใดพุฒิตา อ่า.

  • อามาร์   2 : ข้าปรารถนาเจ้า 1

    น่าแปลกที่ใจของเธอเต้นแรง ขนาดกับสิบทิศ ว่าที่เจ้าบ่าวที่เธอเชื่อมาตลอดว่าตัวเอง ‘รัก’ ก็ไม่เคยมีหัวใจเต้นแรงแบบนี้ยามอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่าย แต่กับคนประหลาดคนนี้ เธอกลับมีความรู้สึกใจสั่นหวั่นไหวและเจ็บแปลบลึกๆ ในอกอย่างอธิบายไม่ถูก สองมือน้อยหยุดตีอกแกร่งแล้ว ทุกอย่างในหัวของเธอก็ว่างเปล่าเมื่อถูกปากหนาบดจูบดุดัน อามาร์ประคองร่างนางในดวงใจให้นอนล้มลงไปกับเตียงด้วยความอ่อนโยน แล้วตัวเขาก็เคลื่อนไหวขึ้นคร่อมทับบดจูบใช้ลิ้นสากอุ่นร้อนตัวเองตักตวงความหวานของคนไร้เดียงสาใต้ร่าง “อะ...อื้อ” เสียงหอบหายใจและเสียงร้องครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากปากทั้งสองที่บดจูบกัน แม้ปากน้อยจะไม่ตอบสนอง แต่อามาร์ก็ไม่สนใจ ขอแค่ได้ทาบทับครอบครองแนบอิงกายนางอันเป็นที่รักก็เพียงพอแล้ว เขาไม่อาจรอเวลาได้อีกแล้ว ตลอดสี่พันห้าร้อยปี มันนานมากเกินไปสำหรับผู้เป็นอมตะอย่างเขา “อ่า...อื้อ” อามาร์จัดการเสื้อผ้าของตนและของนางออกไปให้พ้นทางเพื่อจะได้ทาบทับบดเบียดเสียดสีกายแนบเนื้อกันและกันอย่างที่เฝ้าคอยปรารถนามานานนับหลายพันปี พุฒิตาเย็นเยือกไปทั้งร่างเมื่อเสื้อผ้าที่ใส่อยู่หายไปในพริบตาเ

  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 2

    สี่พันห้าร้อยปีที่แขนทั้งสองไม่ได้โอบกอดหญิงใด ไม่ได้แตะต้องเฉียดใกล้แม่นางคนใด มันเป็นของนางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาเก็บมันไว้เพื่อโอบกอดปลอบประโลมมอบความรักให้พุฒิตาคนเดียวเท่านั้น แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้สั่นเครือและคำพูดขอร้องแล้วใจของเวตาลผู้เป็นอมตะอยู่นานตั้งแต่กลียุคอย่างเขาเศร้าตรม มิอยากให้พุฒิตาหวาดกลัวตัวเอง เขาจึงผละคนสะอื้นไห้ออกจากอ้อมกอดแข็งแรง สองมือที่กอดรัดผละมาจับหัวไหล่เล็กหนึ่งข้าง อีกข้างเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบดวงตาสีน้ำตาลเจือเขียวอมเศร้าของตน“ฟังข้าพุฒิตา ข้ามิทำอันใดเจ้า เจ้าคือคนที่ข้าเฝ้าปรารถนามาตั้งแต่กาลอดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวข้ามีแต่จะถนอมมิมีทำร้ายเจ้าดวงใจข้าเอ๋ย”พุฒิตาอยากจะหลบหนีสายตาเศร้าของบุรุษตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีสายตาที่จดจ้องมายังตนได้ ดวงตาของเขามันอาบล้นไปด้วยความเจ็บปวด และทำไมเธอถึงเข้าใจความหมายที่คนตรงหน้าส่งให้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของเธอมันเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างประหลาด“เจ้ามิเคยเป็นคนอื่นสำหรับข้า และข้าก็มิเคยเป็นของหญิงใดนอกจากเจ้า มิว่าจะเป็นตัวเจ้าเมื่อชาติที่แล้วหรือเจ้าในชาตินี้ที่มาเกิดใหม่อีกครั้ง”ยิ่งคนตรงหน้าพูด เ

  • อามาร์   1 : ข้ามิเคยลืมเจ้า 1

    บาซายิ้มเมื่อได้เห็นนายท่านของตนมีความสุข เขารู้ดีว่าตลอดเวลาสี่พันห้าร้อยปี อามาร์นั้นทุกข์ตรมมากแค่ไหน แต่อามาร์ก็ยังคงยึดมั่นเฝ้ารอคอยจนนางได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งในชาติภพนี้ “สำหรับคนรับใช้อย่างข้าแล้ว มิมีเรื่องไหนที่ทำให้ข้าเบาใจได้เท่าที่ท่านได้เจอนางอามาร์”บาซาพึมพำกับตัวเองแล้วไปจัดการงานของตนเองที่ได้รับมอบหมายให้ทำ หน้าที่ของเขาคือไปจัดการให้ความวุ่นวายชุลมุนที่อามาร์และตนได้สร้างขึ้นให้กลับเป็นปกติ ทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยมีงานแต่งงานของพุฒิตากับนับสิบและพ่อแม่ของนางก็เข้าใจว่านางนั้นได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนคู่หมั้นหนุ่มก็ยุ่งกับการช่วยพ่อหาเสียง ในโลกนี้อะไรก็ล้วนเกิดขึ้นได้แค่พริบตาเดียวของอามาร์ อำนาจเวทมนตร์คาถาบันดาลทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา แต่มีสิ่งเดียวที่อามาร์ใช้มันมิได้คือความ ‘รัก’ เขาจะต้องใช้ใจของเขาเท่านั้น จากงานแต่งงานตรงหน้า ตอนนี้ถูกคาถาสับเปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบบริษัทของนายปพนกับนางทิพย์ โดยมีนักการเมืองชื่อดังและนักธุรกิจมากมายมาร่วมแสดงความยินดี และมีการประมูลเครื่องเพชรเพื่อนำเงินไปบริจาคให้เด็กยากไร้ในชนบทด้วย

DMCA.com Protection Status