Home / โรแมนติก / อามาร์ / 3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 1

Share

3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 1

last update Last Updated: 2025-01-08 02:43:55

       นานนับชั่วโมง อามาร์ถึงยอมถอดถอนเนื้อร้อนออกจากร่างงามคับแน่นที่ตอดรัดคลึงตนเองหนักหน่วงออกมาด้านนอกเพื่อให้สาวเจ้าได้พักผ่อนร่างกายหลังจากที่ตนได้ตักตวงความหวานหอมของพุฒิตามาตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า

       อามาร์มองใบหน้างามของแม่ยอดรักยอดเสน่หาของตัวเองแล้วหัวใจพันปีของตนเองก็เต้นแรงผิดจังหวะและยิ่งได้ครอบครองยิ่งทำให้หวงแหนคนที่หลับสนิทบนเตียง อยากจะเก็บร่างเล็กไว้ดูคนเดียวและคลอเคลียเย้าหยอกยามค่ำคืน

       “ข้ารอเจ้ามานานเหลือเกินพุฒิตาของข้า”

อามาร์พึมพำกับคนหลับสนิทแล้วผละลุกขึ้นลงจากเตียง จากกายเปลือยเปล่าก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้เรียบร้อย คราบเหงื่อไคล เนื้อตัวที่เหนียวเหนอะหนะก็สะอาดหมดจดราวกับอาบน้ำใหม่ ส่วนคนที่หลับก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ให้เพียงแค่มือหนาสะบัดเล็กน้อยเท่านั้น

       “มีแค่ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราสองอีกครั้ง ทูนหัวของข้า” อามาร์บอกนางในดวงใจแล้วก็หายไปจากห้องเพื่อไปพบกับบาซาที่ห้องทำงานของตนเอง

       บาซาเห็นสีหน้าอิ่มล้นเต็มไปด้วยความสุขของนายแล้วก็ยิ้มตามและดีใจที่ในที่สุดการรอคอยของอามาร์ก็สิ้นสุดลง และหวังเหลือเกินว่าหลังจากนี้นายของตนจะมีความสุขและไม่ต้องพบกับความเจ็บปวดเหมือนครั้งอดีตที่ผ่านมา

       “เรื่องครอบครัวของนางเรียบร้อยดีรึไม่บาซา”

       “เรียบร้อยอามาร์” บาซาตอบ

       “เจ้าว่าถึงเวลาที่ข้าจักมีตัวตนรึยัง” คนที่ซ่อนอยู่หลังม่านมาตลอดเอ่ย

       “ควรค่าแล้วอามาร์”

       “จัดการทุกอย่างให้ข้าด้วยบาซา พรุ่งนี้ข้าจักเปิดตัวต่อสื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าข้าคืออามาร์ เจ้าของโรงแรมแห่งนี้” เพราะรู้ดีว่าตลอดเวลาทุกสื่อต่างอยากได้รูปของตนและตอนนี้ก็ควรค่าแก่เวลาที่จะเปิดเผยแสดงตนให้เห็นกันแล้ว

       “ขอรับอามาร์” แล้วบาซาผู้ที่ออกหน้าแทนผู้เป็นนายมาตลอดก็หายตัวไปทันทีเพื่อไปจัดการเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยตามใจปรารถนาของอามาร์

       พุฒิตาขยับไล่ความปวดเมื่อยของร่างกาย ก่อนจะปรือตาตื่นขึ้นมาตอบรับกับแสงในยามกลางวัน เธอกะพริบตาให้คุ้นชินกับแสง ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องพร้อมขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แล้วก็สังเกตว่าตอนนี้ตัวเองใส่เสื้อผ้าอยู่และเป็นชุดใหม่ไม่ใช่ชุดที่ถูกชายประหลาดเปลี่ยนให้เมื่อคืน วันนี้เธอสวมชุดเดรสลายดอกไม้สีม่วงอ่อนซึ่งเป็นแบบที่เธอชอบใส่ปกติในชีวิตประจำวัน

       พุฒิตาขยับกายลุกลงจากเตียงด้วยความยากลำบากเมื่อความเจ็บร้าวกลางหว่างขาทำให้ต้องสูดปากแรงๆ และนั่นก็ตอกย้ำว่าเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมามันคือความจริงไม่ใช่ฝันละเมอเพ้อไปเอง เธอขยับลงจากเตียงก็เห็นคราบเลือดที่แห้งกรังติดบนผ้าปูเตียงนอนสีขาวก็เม้มปากแน่นแล้วน้ำตาก็อาบคลอล้นออกมานอกดวงตาไหลอาบสองแก้มนวลโดยที่เธอห้ามความรู้สึกจุกแน่นในอกครั้งนี้ไม่ได้

       อึก!

       เสียงสะอื้นไห้ดังลอดออกมาจากปากน้อยที่เม้มแน่นแล้วมือน้อยก็ยกขึ้นปาดป้ายเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบเปื้อนแก้มตนเองก่อนมันจะหยดลงพื้น เธอพยายามกลืนก้อนสะอื้นไว้ในอกแล้วก้าวลงจากเตียงพร้อมมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะเดินไปยังระเบียงห้องเพื่อมองดูด้านนอก เพราะบรรยากาศข้างในห้องค่อนข้างโบราณ เธอพาร่างกายอ่อนแอของตัวเองเดินออกมานอกระเบียงห้องแล้วมองไปยังเบื้องหน้าตัวเองก็เห็นตึกสูงระฟ้าเต็มไปหมดและมองดูข้างล่าง รถก็แล่นตามถนนและติดขัดเหมือนปกติ ทุกอย่างข้างนอกยังคงเป็นกรุงเทพฯ ปกติไม่ได้แตกต่างไปจากที่ตนรู้จักแม้แต่น้อย แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกสวมกอดจากด้านหลัง

       “เจ้ามิต้องสงสัยพุฒิตา ทุกอย่างยังคงปกติ เพียงแต่ว่าเจ้าอยู่ในโลกมายาของข้าเท่านั้นเอง เจ้าจักมองเห็นทุกอย่างตรงหน้าเหมือนปัจจุบัน เพียงแต่คนข้างนอกจักมองมามิเห็นเจ้า”

เสียงทุ้มพร่าของอามาร์ดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาสีเข้มข้างแก้มนวลเนียนจนเธอต้องหดคอถอยหนี แต่ก็ไม่อาจเดินหนีจากตรงนี้ได้เมื่อแขนแข็งแรงของชายประหลาดกอดรัดตนแน่นจากด้านหลัง พุฒิตาพยายามแกะมือหนาที่สอดประสานกันอยู่หน้าท้องแบนราบตัวเองออก แต่ให้ตายเถอะ ยิ่งพยายามเขาก็ยิ่งกอดรัดแน่นราวกับว่าติดกาวตราช้างกับมือทั้งสองก็มิปาน

“อย่าพยายามในสิ่งที่เจ้ามิอาจหนีหรือปฏิเสธได้พุฒิตา” อามาร์รู้ว่านางอยากจักหนีไปจากตรงนี้และหนีไปจากตน แต่มีหรือเขาจักปล่อยให้นางจากไป ตลอดเวลาหลายพันปี เขาทรมานมามากพอแล้ว ต่อแต่นี้ไปชีวิตของเขาที่มีนางจักมีแต่ความสุข

“คุณปล่อยฉัน!” เธอไม่สนใจคำพูดจาโบราณลิเกพวกนี้ สิ่งเดียวที่สนใจคือต้องการอิสระจากผู้ชายแปลกประหลาดคนนี้

“เจ้าขอในสิ่งที่ข้าทำมิได้” แล้วเวตาลอมตะก็กอดนางแน่นจากด้านหลังแล้วยกอุ้มจนร่างเล็กลอยขึ้นเหนือพื้นพาเดินกลับเข้าไปในห้องนอนโดยไม่สนว่านางจักดิ้นรนต่อต้านมิยินยอมให้ตนกอดอุ้ม

หึหึ

อามาร์แค่นขำในคอให้กับความดื้อพยศของนางในดวงใจ แม้นางจะจำอดีตของตนและนางไม่ได้ แต่เขาก็เชื่อว่าเขาจักทำให้นางกลับมา ‘รัก’ ตนอีกครั้งเหมือนในอดีตที่เคยผ่านมา

พุฒิตาพยายามดิ้นสุดแรงเกิด แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากวงแขนแข็งแรงของชายผู้นี้ได้ แล้วพอมาถึงในห้องเขาก็ยอมปล่อยเธอให้นั่งลงกับเตียงโดยเขานั้นยืนมองจ้องเธออยู่ข้างเตียงจนเธอรู้สึกหนาวกับสายตาที่จดจ้องมองมาราวกับว่าเปลื้องผ้าเธอทางสายตาอยู่ก็มิปาน

“อย่ามองฉันด้วยสายตาเปลื้องผ้าแบบนี้” เธอบอกสั่งเขาให้หยุดเลิกมองตัวเองด้วยสายตาแบบนี้ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกหนาวกับสายตาคู่นี้พร้อมกับหัวใจที่สั่นระรัวเร็วจนตัวเธอเองก็ควบคุมความเต้นถี่ของมันไม่ได้

“ถึงข้ามิมองจ้องแบบนี้ ข้าก็มองทะลุชุดที่เจ้าใส่ไปเห็นเนื้อหนังมังสาของเจ้าพุฒิตา เอาล่ะ ข้าว่าเรามาคุยกันดีกว่า ข้าจักแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการและจำไว้ว่าข้าคือใคร” อามาร์พูดพร้อมยกมือขึ้นกอดอกแล้วเก้าอี้ก็มาปรากฏอยู่ด้านหลังแล้วเขาก็ย่อตัวลงนั่งและนั่นทำให้พุฒิตาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใช่แล้ว ทุกอย่างมันเหมือนไม่ใช่ความจริง มันเหมือนฝันและมันไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้ในยุคสองพันยี่สิบสองเช่นนี้

“มิต้องแปลกใจและหวาดกลัวในตัวข้าพุฒิตา เจ้าจะได้เจอทุกอย่างที่เหนือความคาดหมายกว่าที่เห็นในตอนนี้อีกยอดดวงใจข้า” อามาร์เดาสีหน้าและอ่านความคิดในหัวของนางออกทุกอย่าง

Related chapters

  • อามาร์   3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

    “คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ บอกฉันมา”“ข้าก็กำลังจักบอกเจ้านี่ไงเล่าดวงใจข้า” เขาพูดพร้อมยกมือยื่นไปหมายจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่นางก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง“อย่าแตะต้องฉัน”หึหึนางกำลังสั่งเขาทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้มิมีใครกล้าออกคำสั่งกับเขาได้ แต่...เมื่ออดีตนางก็เป็นคนเดียวที่กล้าออกคำสั่งกับเขาและตอนนี้ก็กลับเป็นนางอีกครั้งที่กล้าออกคำสั่งกับตน“ข้ามีนามว่า ‘อามาร์’ ข้ามิใช่มนุษย์เหมือนเจ้า แต่ข้ามีใจที่เฝ้ารอและปรารถนาเพียงเจ้ามาตลอดพันกว่าปีที่ข้ามีลมหายใจ”“ไม่ใช่มนุษย์? แล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่”“หากข้าบอก เจ้าจักรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของข้า”“คุณก็บอกฉันมาสิว่าเป็นตัวอะไรกันแน่” แม้จะกลัว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่าเขามีตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไรกันแน่“หึหึ...ข้ามิเคยปิดบังเจ้าและจักเป็นเช่นนั้นไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาพันกว่าปี” พูดจบอามาร์ก็เปิดเผยร่างจริงของตนเองให้นางในดวงใจดูกรี๊ด!พอได้เห็นคนตัวโตที่นั่งบนเก้าอี้ข้างหน้าตัวเองมีปีกงอกออกจากด้านหลัง มองแล้วเหมือนค้างคาว และในมือก็ถือไม้เท้าหัวค้างคาว ดวงตาสีแดงมีชีวิตชีวาเสียงร้องกรี๊ดหวาดกลัว

    Last Updated : 2025-01-08
  • อามาร์   4 : อยู่กับข้า 1

    นับสิบมองดูรูปคู่ของตัวเองและว่าที่เจ้าสาว แล้วก็ขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อรู้สึกว่าตัวเองหลงลืมอะไรไปสักอย่าง แล้วเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาจำแทบไม่ได้ ตั้งแต่เช้าพยายามติดต่อหาคนรักที่อยู่ต่างประเทศ พยายามเท่าไหร่ก็ติดต่อไม่ได้จึงได้แค่นั่งมองรูปคู่ของตนและเธอ อีกอย่างทำไมเขาจำไม่ได้ว่าพุฒิตาไปต่างประเทศ“น้องตาจะเป็นอะไรรึเปล่านะ ทำไมติดต่อไม่ได้” เขาพึมพำกับตัวเองแล้ววางรูปคู่ของตนและเธอไว้ที่เดิม ก่อนที่เลขาหน้าห้องจะโทรมาแจ้งว่ามีผู้มาขอพบตัวเอง“เชิญเขาเข้ามาครับ” จบคำเขาก็กดวางพร้อมประตูห้องทำงานเปิดกว้างออก แล้วแขกที่ไม่ได้นัดหมายก็เดินลงส้นเท้าหนักๆ ตรงมาทางตน นับสิบรับรู้ได้ถึงอำนาจจากคนตรงหน้าและมันน่ากลัวจนขนลุกก็ว่าได้ตอนนี้ ดวงตาของเขาแม้จะซ่อนเร้นอยู่หลังแว่นกันแดดสีดำ แต่ก็รับรู้ได้ว่ามันดุดันและน่าเกรงขาม ยอมรับว่าเขาเกรงกลัวผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อน“เชิญนั่งครับ” นับสิบทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญอีกฝ่ายนั่งลงยังเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานของตนบาซาเลื่อนเก้าอี้ออกให้นายของตนนั่งลงอย่างสง่างาม

    Last Updated : 2025-01-12
  • อามาร์   4 : อยู่กับข้า 2

    “มะ...ไม่จริง ฉันไม่รู้สึกอะไรกับคุณทั้งนั้น มีแค่พี่นับสิบเท่านั้นที่ฉันระ...อื้อ...” แล้วปากน้อยก็ถูกปากหนาปิดกลืนกินคำพูดในช่วงท้ายประโยค อามาร์ไม่ปรารถนาให้นางได้พูดว่า ‘รัก’ หรือต้องการชายอื่นนอกจากตน แม้เพลานี้นางยังมิรู้ใจตนเอง แต่ในเร็ววันนี้พุฒิตาต้องเข้าใจความรู้สึกสับสนวุ่นวายของใจตนแน่“อ่า...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกจากปากทั้งสอง พุฒิตาไม่เข้าใจตัวเองว่าตอนนี้ตัวเองทำอะไรอยู่และทำไมถึงเผลอไผลและจูบตอบเวตาลตนนี้ เธอเกลียดตัวเอง แต่ตอนนี้ก็ห้ามความปรารถนาของร่างกายตัวเองไม่ได้ หัวใจของเธอก็ทำงานหนัก ยิ่งตอนนี้เสื้อผ้าของเธอถูกปลดเปลื้องออกด้วยเวทคาถาของอามาร์“อ่า...อื้ม” อามาร์ยกอุ้มร่างน้อยไปยังเตียงนอนนุ่มเมื่อจัดการเปลื้องอาภรณ์ของนางเรียบร้อยตามใจปรารถนา จากคิดว่าจะรอคืนนี้ แต่เพลานี้อดใจไม่ไหวเมื่อได้อยู่ใกล้และตีฝีปากกับนางก็อยากจะบดจูบหนักหน่วง เรียวลิ้นอุ่นร้อนดุนดันเข้าไปในโพรงปากพุฒิตา ไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กให้จนมุมแล้วตวัดกอดเกี่ยวฟัดหนักหน่วงดูดกลืนกินความหวาน และยิ่งนางจูบตอบก็ยิ่งทำให้เลือดในกายของเวตาลร้อนรุ่ม

    Last Updated : 2025-01-13
  • อามาร์   5 : อามาร์ชายลึกลับที่ไม่ลึกลับอีกต่อไป 1

    อามาร์สาดซัดความคิดถึง ความรักคะนึงหานับหลายพันปีของตนเองใส่ไปกับแรงเคลื่อนไหวโยกเสียวของตนเองจนร่างน้อยใต้ร่างกระเด็นกระดอนไปตามแรงรักของตนเอง แต่ก็มีแขนแข็งแรงกอดรัดโอบรั้งไว้ไม่ให้เอวสาวหลุดถอยห่างความอวบใหญ่ของตนเอง พั่บ! พั่บ! พั่บ! เสียงจังหวะกระแทกเนื้อดุดันดังตลอดการเคลื่อนไหวร่างใหญ่ของอามาร์ และร่างน้อยก็สั่นไหวสะท้านครางกระเส่าเมื่อปากหนาผละออกมาไซ้ซอกคอระหงขบเม้มหนักหน่วง ตอนนี้พุฒิตาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ หัวใจก็ทำงานหนักเหลือเกิน เหงื่อไคลซึมอาบท่วมตัวทั้งเธอและคนที่กำลังโอบกอดรัดเธอแน่น “อื้อ...คุณ…มันชั่วช้า อะ...อื้อ” “ชูว์...อย่าดูถูกความรักของข้าเช่นนี้ยอดดวงใจ อ่า...” แล้วเขาก็ขบเม้มติ่งหูของนางพร้อมเอวสอบเคลื่อนไหวซอยถี่ “ความเห็นแก่ตัวต่างหาก อะ...อื้อ”

    Last Updated : 2025-01-14
  • อามาร์   5 : อามาร์ชายลึกลับที่ไม่ลึกลับอีกต่อไป 2

    “ห้ามไปไหนทั้งนั้น ข้าต้องการคนถูหลังให้” เมื่อเห็นว่านางจักเดินไปต่อ อามาร์ก็สั่งห้ามทันทีพร้อมกับกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ตนปลดกระดุมเสร็จพอดีถอดโยนทิ้งกองรวมกับเสื้อสูทตัวนอกที่ถอดก่อนหน้า“ใยบวบก็มี คุณก็ถูเองสิ อีกอย่างคุณไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน”“มิมีสิ่งใดที่ ‘ผัว’ เจ้าต้องการแล้วมิได้ดอกหนาพุฒิตา” อามาร์ตั้งใจเอ่ยเน้นคำว่า ‘ผัว’ กับนางในดวงใจเหมือนกับที่เน้นคำว่า ‘เมีย’ ก่อนหน้า และยิ่งได้เห็นสองแก้มนวลแดงระเรื่อลามไปถึงหูแล้วมันน่ามันเขี้ยวเหลือเกิน“แต่ความต้องการของคุณใช้ไม่ได้กับฉันคุณอามาร์” เธอตอบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักและไม่กล้าแหงนเงยหน้าสบตาเขาโดยตรงทำได้แต่มองไปทางอื่นแทนหึหึ“งั้นเจ้าก็ออกไปข้างนอกสิถ้าเจ้ามิปรารถนาทำตามคำสั่งของ ‘ผัว’ เช่นข้า” อามาร์ตอบกลับเมื่อนางยังคงยืนนิ่งไม่ขยับตัวเดินจากไป และเขาก็กำลังปลดกระดุมกางเกงถอดกางเกงตัวนอกและตัวในออกพร้อมกันแล้วใช้เท้าเขี่ยเตะไปกองรวมกับเสื้อสองตัวก่อนหน้านี้ ตอนน

    Last Updated : 2025-01-15
  • อามาร์   6 : ข้าจักใช้ชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ให้เจ้าดู 1

    เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว บาซาคนสนิทของอามาร์ได้มาส่งเธอที่หน้าประตูบ้าน และตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าอามาร์ไปอยู่ไหน ตั้งแต่วันนั้นในห้องน้ำ เขาก็ออกไปจากสายตาของเธอ แต่เธอหารู้ไม่ว่าอามาร์นั้นได้เฝ้ามองเธออยู่ทุกค่ำคืน เขาชอบบินเร้นกายแฝงเร้นพรางตัวมาแอบมองเธอใช้ชีวิตในห้องส่วนตัว แม้อยากจะจับ กอด จูบ ลูบ คลำ ขยุ้มขยำแค่ไหน แต่ก็ได้แต่พยายามหักห้ามใจตัวเองไว้ ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เธอจึงวางที่ปัดแก้มลงบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายเดินไปเปิดประตู “พี่นับสิบมาแล้วเหรอคะ” เธอยิ้มให้กับสาวใช้ที่ขึ้นมาเคาะประตูตามตนเอง “ค่ะคุณตา” “งั้นไปกันเถอะค่ะ” แม้เธอจะยิ้มแย้มสดใส แต่มันก็แค่การแสดงเท่านั้น เพราะตอนนี้ในใจของเธอเต็มไปด้วยความสับสนมากมายและความรู้สึกผิดต่อคู่หมั้นหนุ่มของตนเอง

    Last Updated : 2025-01-16
  • อามาร์   6 : ข้าจักใช้ชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ให้เจ้าดู 2

    “คุณขับรถเป็น?” “ข้าอยู่มาตั้งหลายพันปี มิมีอะไรที่อมนุษย์เยี่ยงข้าทำไม่เป็น” เขาตอบกลับประชดแล้วติดเครื่องยนต์แล้วออกตัวรถยนต์อย่างรวดเร็ว บรื้น! แล้วบรรยากาศในรถก็เงียบสนิท ไม่มีใครคนใดปริปากพูด พุฒิตาเองก็ได้แต่นั่งเม้มปากแน่น ส่วนอามาร์ก็ได้แต่มองถนนตรงหน้าแล้วเร่งเครื่องยนต์ด้วยความเร็วสูงพานางอันเป็นที่รักกลับส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย พอมาถึงบ้าน อามาร์หาได้ยอมจอดหน้าประตูรั้วให้เธอเดินเข้าบ้านไม่ เขารอให้เด็กในบ้านของนางมาเปิดประตูรั้วแล้วพารถหรูของตัวเองเข้าไปในบ้านแล้วจอดสนิทดับเครื่องยนต์ตรงเชิงบันไดเดินเข้าไปในตัวบ้าน “คุณดับรถทำไม?” “ก็จะเข้าบ้านไปส่งเจ้าไงเล่าพุฒิตา มาถึงบ้านเจ้าแล้วจักมิให้น้ำข้าดื่มสักแก้วเลยรึ” เขาตอบพร้อมส่งยิ้มกรุ้มก

    Last Updated : 2025-01-17
  • อามาร์   7 : ข้าอยากสัมผัสเจ้า 1

    อามาร์ขับรถหายไปในอากาศยามค่ำคืนแล้วตัวของเขาก็บินมาเกาะที่หน้าต่างห้องของพุฒิตา โดยไม่เปิดเผยตัวตนให้นางอันเป็นที่รักได้เห็นจนนางอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จพร้อมนอนเดินมาจะปิดหน้าต่างห้อง เขาจึงแสดงตัวเองให้พุฒิตาเห็น ว้าย! เธอร้องตกใจเมื่ออยู่ๆ อามาร์ก็ปรากฏตัวตรงหน้า แถมยังอยู่ในร่างของเวตาลด้วย เธอตกใจล้มลงกับพื้นถีบเท้ายันกายตัวเองถอยไปด้านหลังเพื่อจะลุกหนี แต่อามาร์ก็กระโดดเข้ามาในห้องพร้อมกับปีกที่แข็งแรงกางกว้าง “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องตกใจกลัวตัวตนที่แท้จริงของข้า เจ้าอยากร้องหรือเรียกให้ใครมาช่วยก็เรียกไปเถอะ เรียกจนคอแตกยังไงเสียงเจ้าก็มิเล็ดลอดออกไปจากห้อง” อามาร์ย่อตัวคุกเข่าลงกับพื้นหนึ่งข้างมองร่างเล็กสั่นเทา ในมือก็ถือไม้ตะพดคู่กายหัวค้างคาวตาแดงมีชีวิตด้วย เขาใช้หัวไม้พะพดเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบตาตน “เอามันออกไปไกลๆ ฉัน” เธอปัดหัวไม้ตะ

    Last Updated : 2025-01-18

Latest chapter

  • อามาร์   ตอนพิเศษ เดรัจฉานน้อยอาชา

    “สวยมากเลยครับพ่อ” เด็กชายอาชา เวตาลน้อยทายาทคนแรกของนายอามาร์ผู้เป็นอมตะอยู่มานานนับพันกว่าเกือบหมื่นปีพาลูกชายวัยหกขวบบินขึ้นมาดูพระจันทร์และแขนอีกหนึ่งข้างของเขาก็กอดภรรยาสุดที่รักด้วย แขนทั้งสองข้างของเขาตอนนี้มีไว้เพื่อกอดแม่ของลูกและลูกเท่านั้น ตอนนี้ในท้องของพุฒิตาก็กำลังมีลูกคนที่สองและเป็นลูกสาวด้วย “ครั้งหนึ่งพ่อเคยพาแม่เจ้ามายังที่แห่งนี้” อามาร์เอ่ยบอกลูกชาย แต่ตามองภรรยาด้วยสายตากรุ้มกริ่มและพุฒิตาก็นึกย้อนไปถึงอดีตคืนพระจันทร์เต็มดวงที่เขาพาตนขึ้นมาทำลามกหื่นกามต่อหน้าพระจันทร์ “เวตาลลามก” พุฒิตาตบอกสามีเก้อเขิน หึหึ “ก็เจ้าทำให้ข้าอดใจมิไหวนี่เมียข้า อาชาลูกรักของพ่อ ถึงเวลาที่เจ้าจักต้องแสดงฝีมือให้พ่อกับแม่ดูแล้ว” อามาร์บอกลูกชายพร้อมกับปล่อยแขนข้างที่กอดอุ้มหนูน้อยแล้วเวตาลน้อยลูกครึ่งมนุษย์ก็มีป

  • อามาร์   13 : ทำไมคิดสั้นแบบนี้ลูก 2

    “มันจริงเหรอยัยตา” ปพนถามลูกสาวและพุฒิตาก็พยักหน้าตอบยืนยันคำพูดของเวตาลเจ้าเล่ห์ “ฉันจะเป็นลมคุณปพน” นางทิพย์ยกมือทาบอกเอนหัวซบไหล่สามี คนเป็นสามีก็โอบไหล่ลูบปลอบ “หนูขอโทษนะคะคุณพ่อคุณแม่ แต่หนู ‘รัก’ คุณอามาร์ค่ะ และตอนนี้หนูก็กำลังท้องกับเขา”พุฒิตายอมรับความรู้สึกตัวเองต่อหน้าท่านทั้งสองแล้วเคลื่อนตัวลงจากโซฟาไปนั่งยังพื้นพรมแล้วยกมือพนมขึ้นแนบอกก่อนจะก้มลงกราบ ส่วนอามาร์ผู้ไม่เคยก้มหัวและกราบไหว้เท้าใครก็ทำตามแม่ยอดดวงใจเพื่อขอขมาทั้งสองที่ล่วงเกินลูกสาวของทิพย์กับปพน “ผมขอรับผิดชอบพุฒิตากับลูก ยกเธอและลูกให้ผมนะครับ” น้ำเสียงหนักแน่น แววตาที่จริงจังเมื่อได้สบตาทำให้ปพนต้องหันมาสบตาภรรยาแล้วก็ถอนหายใจ “เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับความจริงนะคุณ ถึงแม้จะไม่ชอบนายอามาร์ แต่ลูกเราท้องกับเขาแล

  • อามาร์   13 : ทำไมคิดสั้นแบบนี้ลูก 1

    ปกติแล้วลูกสาวเป็นคนตื่นเช้าและไม่เคยเข้าบริษัทสาย แต่วันนี้รถยังจอดอยู่ นางกับสามีกลับมาจากทำบุญที่วัดก็ถามเด็กรับใช้ พอรู้ว่ายังอยู่บนห้อง นางและสามีก็ขึ้นมาเคาะประตูปลุกเอง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ปพนเคาะประตูห้องเมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องของลูกสาว “เป็นอะไรรึเปล่าลูก” สามีเป็นคนเคาะประตู ทิพย์เป็นคนเอ่ยถาม เงียบ! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ลูกสาวยังไม่ตอบ ปพนก็ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องอีกครั้งและก็เงียบเหมือนเดิม “เป็นอะไรรึเปล่ายัยตา ทำไมวันนี้ไม่ไปทำงานลูก ไม่สบายตรงไหนบอกแม่ได้นะ” ทิพย์เอ่ยร้องถามด้วยความเป็นห่วง ก๊

  • อามาร์   12 : ยอมรับรึยังว่ารักข้า? 2

    “ว้าย! คุณอามาร์ คุณทำไมยังอยู่ แล้วมันกี่โมงแล้ว” เธอมองเห็นเขานั่งคุกเข่าซบหน้ากับท้องตนเองก็รีบผลักไสแล้วก็ถาม “แปดโมงกว่า” เขาตอบเธอสั้นๆ “แล้วทำไมไม่ปลุกฉัน แล้วทำไมคุณไม่กลับไป อยู่ทำไมอีก” “ข้าจักมิไปไหนทั้งนั้นเมียข้า เจ้ารู้รึไม่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังมีเวตาลน้อยให้ข้าพุฒิตา ข้าดีใจเหลือเกินเมียรักของข้า” อามาร์ลุกขึ้นนั่งลงบนเตียงแล้วประคองคนตัวเล็กลุกขึ้นมานั่งพิงซบอกตนเองพร้อมกอดเอวเล็กคอดหลวมๆ คำพูดของอามาร์ทำให้เธองงไม่เข้าใจว่าเวตาลตนนี้พูดอะไรกันแน่ “คุณหมายถึงอะไรคุณอามาร์” “เจ้ามิรู้รึว่าตอนนี้เจ้ากำลังมีลูกกับข้ายอดรัก” พุฒิตานิ่งอึ้งไปชั่วขณะกับสิ่งที่ได้รู้ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอ ‘ท้อง’ ขนาดตัวเธอเองยังไม

  • อามาร์   12 : ยอมรับรึยังว่ารักข้า? 1

    บาซากลับมาหาแม่คนงามของตนเองที่คอนโดห้องพักของนางในกลางดึก ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับนักข่าวสาวได้มีความคืบหน้าขึ้นกว่าเดิมจากที่สร้างภาพฝันให้นางหลงเข้าใจผิดก่อนหน้า บาซาก็เปลี่ยนเป็นมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวแบบคนปกติทั่วไปตามคำแนะนำของนายท่านตน “มีอะไรรึเปล่าคะคุณบาซา” พิมพ์พรเอ่ยถามคนที่มาเคาะประตูห้องตนในเวลาดึก “ผมขอเข้าไปคุยในห้องได้ไหมพิมพ์พร” บาซาไม่ตอบ แต่ขอเข้าห้องสาวตรงหน้า “ฉันว่าเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่าค่ะ ในห้องฉันไม่สะดวก”ก็ห้องของเธอรกยังไม่ได้เก็บกวาด ไม่พร้อมให้ชายหนุ่มเห็นสภาพห้องตอนนี้ “แต่ผมสะดวก”แล้วบาซาก็ผลักเจ้าของห้องเข้าไปในห้องแล้วตัวเองเดินเข้าห้องตามพร้อมปิดล็อกประตูสนิท “คุณบาซา”เธอเรียกเขาพร้อมวิ่งไปขวางทางไม่ให้เขาเดินต่อ แต่ไม่ทันแล้วเขาเห็นสภาพห้องรกๆ ของเธอแล

  • อามาร์   11 : เย้ยจันทร์

    พุฒิตาสะดุ้งตื่นกลางดึกรีบใช้มือเปิดโคมไฟข้างหัวเตียงของตัวเองทันทีเมื่อได้ยินเสียงลมพัดตีหน้าต่างของตนเองจนเสียงดัง เธอว่าเธอปิดและล็อกหน้าต่างดีแล้ว แต่ทำไมหน้าต่างถึงเปิดออก พอลงจากเตียงไปจะปิดหน้าต่างก็เห็นอามาร์บินอยู่ด้านนอกหน้าต่างตรงหน้า “คุณ!” “ข้าเองพุฒิตา” บรั่นดีขวดเดียวมิสามารถทำอะไรเขาได้ อามาร์บินมาหยุดตรงหน้าคนที่อยู่ในห้องแล้วก็ยื่นแขนออกไปกอดอุ้มนางออกมานอกห้อง ว้าย! เธอตกใจเมื่อถูกกอดอุ้มลอยออกนอกหน้าต่าง สองมือน้อยรีบกอดเอวสอบ “ข้าจักพาเจ้าไปดูโลกที่ข้าอยู่” แล้วอามาร์ก็พาแม่ยอดดวงใจบินร่อนขึ้นไปยังฟ้าเบื้องบน แม้ว่าเธอจะหวาดกลัวในตอนแรก แต่พุฒิตาก็มั่นใจว่าอามาร์จักดูแลตัวเองเป็นอย่างดี “ลืมตาและมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเมียข้า” อาม

  • อามาร์   10 : ถอยเพื่อจับ 2

    เฮ้อ! ปพนถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “ขึ้นมานั่งข้างบนเถอะลูก เมื่อลูกตัดสินใจแล้วพ่อกับแม่ก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าลูกเลิกกับนับสิบแล้วไปคบกับเจ้าของโรงแรมนั่น พ่อกับแม่ไม่ยอม เป็นใครก็ได้ ไม่ต้องร่ำรวยก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ผู้ชายที่มีเมียแบบนั้น เข้าใจไหมยัยตา” “ใช่ แม่ไม่อยากให้ลูกไปเป็นเมียน้อย เมียเก็บหรือนางบำเรอของใครทั้งนั้นรู้ไหมลูก ส่วนเรื่องพ่อกับแม่ของนับสิบ พ่อกับแม่จะคุยกันเอง ไหนๆ ลูกก็ตัดสินใจแล้ว แม่กับพ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่แม่อยากบอกว่าเสียใจ ทำไมหนูถึงทิ้งผู้ชายดีๆ แบบพ่อนับสิบได้ลูก”แม้จะเสียใจและผิดหวัง แต่ยังไงพุฒิตาก็คือลูกอย่างที่สามีบอกนั่นแหละ ว่าควรปล่อยให้ลูกเลือกทางเดินของตัวเองเองและตอนนี้พุฒิตาก็เลือกแล้วที่จะทิ้งคนดีๆ อย่างนับสิบ “หนูไม่ได้ถอนหมั้นกับพี่นับสิบเพื่อเลือกเขา แต่ที่หนูถอนหมั้นเพราะหนูไม่ได้ ‘รัก’

  • อามาร์   10 : ถอยเพื่อจับ 1

    พุฒิตาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์ของตนและคู่หมั้นหนุ่มถึงจบลงแบบนี้ แต่มันก็ต้องจบเมื่อเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีพร้อมสำหรับนับสิบอีกต่อไปแล้ว แต่แปลกที่ตลอดเวลาเธอเข้าใจมาตลอดว่าตนนั้น ‘รัก’ ชายหนุ่ม แต่พอมาตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยที่เลือกถอนหมั้น กลับรู้สึกโล่งสบายใจเสียด้วยซ้ำ หรือแท้จริงแล้วเธอไม่เคย ‘รัก’ อีกฝ่ายเลยสักนิด แต่เข้าใจว่าความรู้สึกผูกพันตั้งแต่เด็กมันคือความ ‘รัก’ พอตอนนี้รู้แล้วว่าความรู้สึกของตนที่มีต่อคู่หมั้นหนุ่มนั้นเป็นแบบพี่น้องหาใช่แบบคน ‘รัก’ ไม่ สุดท้ายแล้วสิ่งที่กลัวที่สุดก็มาถึง เมื่อคนที่ตนรักและถนอมมาตลอดช่วงวัยหนุ่ม จะว่าไปตั้งแต่วัยเด็กก็ว่าได้สำหรับนับสิบ เขาไม่เคยมองผู้หญิงคนไหน เพราะในใจของเขา ‘รัก’ มั่นเพียงคนตรงหน้า แต่เมื่อวันนี้จำต้องตัดขาดสัมพันธ์ เขาก็ต้องยอมรับ เพราะมันคือการตัดสินใจของพุฒิตา เมื่อเธอ

  • อามาร์   9 : โกหก! 2

    พุฒิตาใช้ชีวิตเจอเพื่อน ทำงาน และกลับบ้าน ไปทานข้าวกับคู่หมั้นเหมือนเดิมเหมือนที่เคยเป็น แต่กลับไม่รู้สึกว่าการได้เจอเพื่อน การได้ทำงานและเจอคู่หมั้นมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมีความสุข เพราะในใจเธอมันเฝ้ารอคอยคนที่บอกจะมาหาในวันนั้น จนวันนี้ผ่านมาหนึ่งเดือน อามาร์ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เจอ แม้แต่เสียงก็ไม่มีให้ได้ยิน “ไอ้เวตาลสารเลว!” เธอฟาดกระเป๋าสะพายตัวเองไปกับเตียงนอนนุ่มแล้วก็เม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “มีอะไรคะ” เธอหายใจเข้าปอดแรงๆ แล้วตะโกนถามคนที่มาเคาะประตูห้องของตัวเอง “พี่นางเองค่ะ คุณท่านให้มาตามลงไปข้างล่างค่ะ” “ได้ค่ะ เดี๋ยวตาเปลี่ยนชุดแล้วตามลงไปนะคะ”เธอตอบกลับแล้วเสียงหน้าห้องก็เงียบไป แล้วเธอก็รีบเดินไปยังตู้เสื้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status