ลมหายใจร้อนผะผ่าวเลื่อนไล้ลงมาตรงหน้าอก แล้วก้มหน้าลงอ้าปากลิ้มชิมความอวบอิ่มของทรวงอกเต่งตูม คลอเคล้าครอบครองส่วนปลายยอดสีชมพูจางด้วยริมฝีปากและลิ้น ดูดเม้ม ขบเบาๆ ด้วยเรียวฟันครั้งแล้วครั้งเล่า
“อื๊อ~..อ๊าาา!~” เธอไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เสียงครางแหลมเล็กดังสะท้อนก้องอยู่ในห้อง ไฟร้อนรุ่มในกายของหญิงสาว ร้อนแรงขึ้นตามเรียวลิ้นที่เขาใช้สัมผัสลูบไล้
ในขณะที่ชายหนุ่ม ยังก้มหน้าใช้ปากและลิ้นร้อนระอุพรมจูบไปทั่วเนินอกสล้าง ฝ่ามืออีกข้างก็เลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ แทรกเข้าไปในใจกลางลำตัวที่หุบแน่นของหญิงสาว นวดคลึงกลีบอ่อนบางตรงใจกลางเนื้อนุ่มไปมาอย่างยั่วเย้า
“อาาาา~”
ปลายนิ้วร้ายสำรวจตรวจตราอย่างคล่องแคล่ว กระทั่งเห็นว่ากลีบนุ่มที่หุบแน่นนั้น ค่อยๆ เผยความชุ่มชื้นออกมา เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมาย สอดปลายนิ้วร้อนเข้าไปในร่องหนีบแน่นค้นหาความชุ่มฉ่ำที่ยังคงซุกซ่อนอยู่ แล้วเคลื่อนขยับนิ้วเข้าออก บางครั้งก็เร่งร้อน บางครั้งก็เชื่องช้า สลับกับการนวดคลึงโลมไล้ไปโดยรอบ จากนั้นเพิ่มความทรมานด้วยการสอดนิ้วที่สองเพิ่มเข้าไป
“อ๊าาา!~…ซี้ดด~” เสียงหวานเปล่งเสียงครางออกมาอย่างสุขสม แล้วสูดปากด้วยความเสียวซ่าน
เขาเลื่อนหน้าไปชิดใบหู เป่าลมหายใจร้อนผ่าวกระทบผิว แล้วกระซิบชวญเชิญช้าๆ
“ที่รัก~..เป็นของผมนะ..ได้ไหม~” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าเต็มไปด้วยความปรารถนาที่อัดแน่น ปลายลิ้นไล้เลียเข้าไปในซอกใบหูเล็ก พร้อมๆ กับขยับนิ้วร้อนทั้งสองนิ้ว หมุนวนในโพรงเนื้อนุ่มช้าๆ สลับกับการดึงเข้าดึงออก
“อ๊าาา~…อ๊า~…อ๊า~”
นิ้วมือที่เชื่องช้าก่อนหน้านั้น เริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้น จนกระทบกระแทกกับจุดอ่อนไหว ทำให้หญิงสาวหอบหายใจสะท้าน เอวบางหยัดแอ่นขึ้นอย่างไร้การควบคุม
“อ๊าาา!~…ซี้ดด!~…อ๊าาา!~”
“อนุญาตสิ” เขากระซิบด้วยเสียงทุ้มต่ำ ออกคำสั่งอย่างมีเจตนาแอบแฝง แล้วแลบลิ้นเลาะเล็มหลังใบหูของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
นิ้วร้ายขยับเคลื่อนไปตรงกลางระหว่างสองกลีบที่นุ่มชื้น บดคลึงเม็ดน้อยกลางกลีบบุปผาอย่างรวดเร็วและไม่ยั้งมือ นวดคลึงแล้วไล้วนเป็นวงกลม เสียดสีถูไถส่วนที่ไวต่อความรู้สึกซ้ำๆ จนร่างกายของเธอสั่นระริก บิดเร่าดิ้นรน ร่อนเอวส่ายสะโพกไปมาไม่อยู่นิ่ง
“อื๊อออ!~”
“อนุญาตนะ~..นะ~”
“อื้อ..ค่ะๆ~..เยส~..พลีส!” หญิงสาวหายใจหอบ พร่ำพูดเสียงระรัว ความรู้สึกเสียววูบวาบนี้ทรมานเกินไป จนเธอแทบจะขาดใจเจียนตายอยู่แล้ว ครวญครางออกมาด้วยเสียงที่แผ่วหวิว
เขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังหลงลืมตัว อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หัวใจของเขาสั่นสะท้าน จนแทบไม่อาจควบคุมตัวไปด้วยเช่นกัน
แรงปรารถนาที่เต็มไปด้วยไฟราคะของเธอ กระตุ้นให้ความต้องการที่อัดแน่นของเขา ยิ่งลุกโชนจนอกแทบจะระเบิด จึงยันกายแกร่งขึ้นทันที
เมื่อการรุกรานอย่างต่อเนื่องของเขาหยุดชะงัก หญิงสาวลืมตาที่หรี่ปรือขึ้นมองอย่างงุนงง ท่ามกลางความเลือนรางนั้น เธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว ที่กำลังรินรดแถวหน้าผาก ผิวสัมผัสและร่างกายหนักอึ้งของเขาที่ทาบทับช่วงล่าง ใบหน้าหล่อเหลาคมคายอยู่ในระยะประชิด
วินาทีถัดมา เขาจับเรียวขาให้แยกออก เบียดท่อนกายอันใหญ่โตถูไถไปกับเนินเนื้อที่หุบแน่น พยายามดุนดันความแข็งขมึงที่ร้อนผ่าวราวกับเหล็กเผาสอดใส่เข้ามากลางกลีบนุ่มชุ่มชื้น ถึงแม้จะฉ่ำเยิ้มเต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่น แต่กลับไม่สามารถรุกรานเข้าไปได้สะดวก เขาสอดใส่ได้แค่ส่วนปลายเท่านั้น
“อื้อ!~..อื้อ!~” การดุนดันของเขาทำให้กายสาวเริ่มเจ็บ มือเรียวแข็งเกร็งยันอกเขาไว้ไม่ให้รุกคืบ ต่อต้านการรุกรานที่แทบจะทำให้กลีบเนื้อนุ่มฉีกแยกออกจากกันนั้นอย่างเต็มที่
เขาจ้องมองเธอนิ่ง พร้อมกับสังเกตปฏิกิริยา พยายามออกแรงกดความเป็นบุรุษเพศเข้าไปอีกอย่างตั้งอกตั้งใจ ใบหน้านวลเนียนเหยเกคล้ายจะร้องไห้ ผมสลวยปัดป่ายไปมา ความเจ็บปวดทำให้เรือนร่างไหวสะท้าน ทรวงอกเต่งตึงกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจที่หอบถี่
“อาาา~” ชายหนุ่มครางออกมาอย่างกระสัน หลังจากพยายามบังคับให้โพรงเนื้ออ่อนนุ่ม กลืนกินแก่นกายอวบใหญ่ที่ร้อนระอุของเขาเข้าไปได้แล้วประมาณหนึ่ง
“อ๊าาาา!~” หญิงสาวไม่สามารถทนความทรมานนี้ได้ อ้าปากเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่ไหว หน้าตาบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดที่สุดจะทน
“ซี้ดดด!..อาา..เด็กดี..อดทนอีกนิดนะ..เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว!” เขาพยายามปลอบโยนด้วยเสียงที่แหบพร่า แล้วออกแรงกดเข้าไปอีกจนมิดอย่างเชื่องช้า โพรงเนื้อนุ่มรัดรึงแนบแน่นเสียจนเขาขยับเข้าออกแทบไม่ได้
“อ๊าาาา!~..ฮึกๆ..เจ็บ!..ฉันเจ็บ!..ฮือๆ” กำปั้นน้อยๆ ทุบรัวบนแผ่นอกกว้าง เขาจับข้อมือเล็กข้างหนึ่งกดไว้กับอก พยายามดึงช่วงล่างออกมาเกือบสุด แล้วกระแทกสวนเข้าไปอีกอย่างหนักหน่วง
“อ๊าาาา!~..ฮึกๆ..ฮือๆ!”
เรือนร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขนของเขาในขณะนี้ มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึกมากกว่าผู้หญิงทั่วไปเพราะฤทธิ์ยา ทุกการตอบสนองที่ไร้เดียงสา แฝงไว้ด้วยท่าทีต่อต้าน แต่มันกลับยิ่งปลุกเร้าสัญชาตญาณนักล่าของเขา ให้โลดแรงขึ้นราวกับสัตว์ป่า
“อ้าาา!..ซี้ดดด!..เดี๋ยวพอหายเจ็บก็เสียวแล้ว!”
ถ้อยคำจาบจ้วงร้อนผ่าว มาพร้อมกับการบังคับขับขี่อาชาที่พยศ เขากำลังโจนทะยานครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อสยบความปราดเปรียวที่เย้ายวนนั้นอย่างป่าเถื่อน เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองไว้ได้อีกต่อไป
ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตลำคอหอมกรุ่น รู้สึกถึงแรงหายใจที่หอบสะท้าน มือเล็กๆ ที่ยันอยู่ตรงแผงอก สักพักก็เลื่อนหล่นลงมาอย่างไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถต้านทานการสวนกระแทกในแต่ละครั้งของเขาได้อีก
ฝ่ามือใหญ่จับแขนเรียวทั้งสองข้างที่ไร้กำลัง ให้โอบรัดลำคอแข็งแกร่งของเขาไว้ ดวงหน้าเล็กชื้นเหงื่อซุกซบกับซอกคอ เค้นเสียงครางคล้ายลมหายใจที่ขาดเป็นห้วงออกมา ฟังไม่ออกว่ากำลังสะอื้นหรือกำลังสุขสม
นาทีต่อมาเขาก็จับขาเรียวข้างหนึ่งพาดบ่า หันกายคร่อมขาเรียวอีกข้างหนึ่งไว้ ทำให้ใจกลางความอ่อนนุ่มผลิแยกออก เม็ดน้อยสีสวยเผยอแย้ม เต็มใจรับการสอดแทรกความแข็งขึงที่พองโตของเขาได้ง่ายขึ้น นิ้วมือร้ายนวดคลึงเม็ดน้อยเบาๆ พร้อมกับกระแทกสวนทั้งเข้าและออกแบบเน้นๆ
แต่แล้วความซาบซ่านรัญจวนอันเข้มข้น ก็แล่นปราดไปทั่วเรือนร่าง หญิงสาวสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง ความกระสันผสานไปกับความเสียวแปลบปลาบอันลึกลับ ที่กำลังไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ร่างกายเพรียวบางเริ่มขยับพลิ้วไหว ตอบสนองไปตามจังหวะในการควบคุมของเขา
แก่นกายที่กระชั้นเข้ามาอย่างเป็นจังหวะ บดเบียดเข้ามาอย่างหนักหน่วงในแต่ละครั้ง ทำให้ความปรารถนาของหญิงสาวพุ่งสูงขึ้นไปอีก เธอรู้สึกว่ายังแนบชิดไม่พอ จึงขยับเรียวขาขาวลงมาโอบรัดไปรอบเอวแข็งแรงที่โยกคลอนไม่หยุดนั้นไว้ บดเบียดเรือนร่างนวลเนียน ให้แนบสนิทเข้าไปอีกอย่างลืมตัวลืมอาย
เขาโน้มตัวลงจุมพิตซอกคอและลาดไหล่ สอดสองแขนโอบเข้าไปทางด้านหลังแล้วกระชับไว้แน่น เพิ่มแรงกระแทกสวนเข้าไปรัวถี่ เร่งจังหวะให้บินขึ้นไปยังที่สูงได้เร็วขึ้น
ความรู้สึกเสียวกระสัน กำลังพุ่งทะยานดุจดอกไม้ไฟที่กำลังปริแตก ความซาบซ่านที่อัดแน่นเริ่มระเบิดออกมาอย่างไร้การควบคุม จนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป เปล่งเสียงกรีดร้องครางกระเส่า พร้อมบิดตัวส่ายร่อนไปมาด้วยแรงราคะที่เร่าร้อน
ขณะที่อารมณ์ของเธอพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เสียงคำรามราวกับสัตว์ป่าของเขาก็ดังขึ้น ผสานกับเสียงครวญครางไม่เป็นภาษาปานจะขาดใจของเธอ ความร้อนระอุสายหนึ่งฉีดพุ่งเข้ามายังส่วนที่ลึกที่สุดในโพรงเนื้อนุ่มจนฉ่ำเยิ้ม พร้อมๆ กับที่เขาขบฟันลงบนไหล่ขาวนวลย้ำๆ อย่างควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ ราวกับต้องการจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
“โอ๊ยยย!!” หญิงสาวเจ็บจนต้องร้องออกมา ทุบไปที่หลังและไหล่ของเขาหลายครั้งถึงได้สติ แล้วพร่ำพลอดคำขอโทษอย่างออดอ้อน ริมฝีปากร้อนลูบไล้ปลอบประโลมไปทั่วผิวนวลนุ่ม คล้ายพยายามลบรอยฟันจางๆ นั้นออกไปอย่างหวงแหน
ในขณะที่กำลังถอนออกมาได้เพียงครึ่ง แก่นกายรู้สึกเสียวแปลบขึ้นมาอีกอย่างรุนแรง เพราะสองกลีบที่ผลิแยกยังคงกอดรัดความแข็งขึงเอาไว้แน่นจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน น้ำรักที่ฉ่ำเยิ้มลื่นไหลตามออกมาเพียงบางส่วน แต่ความคับแน่นก็ไม่ได้คลายลงเลยแม้แต่น้อย กลับยังคงกระตุกตอดรัดเป็นระยะๆ จนเขาอดกลั้นไว้ไม่ไหวต้องดุนดันเข้าไปแช่ค้างไว้อีกครั้ง แรงเสียดสีทำให้ต้องสูดปากออกมาด้วยความเสียวสะท้าน
ชายหนุ่มก้มลงซุกไซ้ที่ซอกคอชื้นเหงื่อ แล้วเลื่อนไปงับเม้มที่ติ่งหูบอบบาง อ้าปากเตรียมจะอ้อนขอเธออีกสักครั้ง แต่ยังไม่ทันที่จะกระซิบ เสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
“อื้อ~..ขออีก..ขออีกนะคะ~..นะ~”
“โรส!~..โรส!..ฮันนี่!..”
ไม่เพียงแต่ความเป็นบุรุษเพศที่เพิ่มความพองโตขึ้น หัวใจของเขายังพองออกตามไปด้วย เขาเคยคิดไว้อยู่แล้วว่า ภายใต้ความงามที่เยือกเย็นนี้ ได้ซุกซ่อนเปลวไฟที่เร่าร้อนเอาไว้ภายใน และถูกตีกรอบเอาไว้ด้วยคำว่ากุลสตรีอย่างมิดชิด
ในคืนที่ไฟราคะลุกโหมรุนแรง ชายหนุ่มก็ได้กลายร่างเป็นสัตว์ป่าที่กินเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่ม ปลดปล่อยพลังกายอันแข็งแกร่งออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หญิงสาวก็กลับกลายเป็นกระต่ายป่าที่กำลังร้อนรัก ออดอ้อนวอนขอให้เขาข่มเหงอย่างไร้เดียงสา ไม่ว่าเขาจะทำเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ จนเมื่อยระบม และอ่อนแรงไปทั้งตัวด้วยความลุ่มหลง
…
ผู้พันอิฟราอิมกระชับสองแขน โอบหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยกิริยาที่นุ่มนวลแผ่วเบาทะนุถนอม กระทั่งร่างเล็กบางของเธอแนบชิดไปกับเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา
ชายหนุ่มมองหญิงสาว ที่หลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองอย่างเงียบๆ นิ้วเรียวลูบไล้เบาๆ ไปที่รอยช้ำจางๆ ที่หัวไหล่ แล้วถอนใจ น้อยครั้งที่เขาจะสูญเสียการควบคุมแบบนี้ เขาไม่เคยควบคุมตัวเองไม่ได้มาก่อนโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง เขาเคยคิดอยากเอาชนะร่างกายและหัวใจของเธอ แต่ตอนนี้เขากลับพบว่า เป็นตัวเขาต่างหาก ที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
คามิลล่านั่งจิบไวน์อยู่ที่ระเบียงหน้าห้องพัก ด้วยสีหน้าและแววตาที่เรียบเฉย เบื้องหน้าคือสวนไม้ดอกร่มรื่น สายลมที่พัดเอื่อยเฉื่อย สามารถทำให้ผู้คนจิตใจปลอดโปร่งและคลายความตึงเครียดได้โดยไม่รู้ตัวเธอดึงขาขาวนวลเนียน ขึ้นมาวางไว้บนเบาะที่เป็นโซฟาหวายเทียมทรงกลม สำหรับวางกลางแจ้ง ทอดแขนเรียวยาวไว้บนพนักด้านหลัง แล้ววางแก้มนุ่มไว้บนต้นแขนกลมกลึง ทอดถอนใจออกมาอย่างผ่อนคลายและมีความสุข หนทางข้างหน้าราบรื่นมากกว่าที่เธอคิด และคงจะดีไม่น้อยถ้าเธออยู่ในฐานะสตรีอันดับหนึ่งของประเทศนี้ เธอปราถนาที่จะได้รับความรักความสนใจจากชายที่สูงส่งและสง่างามผู้นั้น เพียงได้อยู่ร่วมกับเขาสักคืนหนึ่ง ชีวิตนี้ของเธอก็เปี่ยมสุขแล้วหญิงสาวหมุนแก้วไวน์ในมือ น้ำสีแดงไหลวนจนเกิดเป็นประกายสะท้อนรับกับแสงแดด พลันนึกสาสมใจในผลสำเร็จบางอย่าง ทำให้ทอดถอนใจออกมาอย่างมีจริตมารยา ตามความเคยชิน แต่ในขณะที่มุมปากหยักโค้งขึ้น แววตาชิงชังก็ฉายชัดอยู่บนใบหน้า การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้ ทำให้ความงดงามที่ดูเย้ายวน เปลี่ยนเป็นชั่วร้ายไปได้ในพริบตาอย่าโทษฉัน! ต้องโทษที่เธอมันขัดหูขัดตา ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของเขาไป!!“หึๆ เป็
ชายหนุ่มยิ้มทั้งปากและตา มองใบหน้าคมหวานพวงแก้มนวลอย่างรู้ทัน ดวงตาพราวระยับของเขาบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน แต่กลับพยายามรักษาความสงบนิ่งที่ภายนอกอย่างสุดชีวิต“ผมยังพูดไม่จบ ผมจะบอกว่า..ถึงผมจะรู้ว่ามันผิด แต่ก็ไม่ได้เสียใจเลย ถ้าให้กลับไปเลือกอีกครั้งผมก็จะทำมันอยู่ดี และไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร รู้ตัวอีกทีผมก็ตกเป็นของคุณไปแล้ว คุณจะรับผิดชอบการกระทำที่แสนเร่าร้อนของคุณยังไง!” หญิงสาวคิ้วกระตุก หันขวับมาถลึงตาใส่เขาตั้งแต่ยังพูดไม่จบยัง..ยังจะกล้าพูด! เอาเปรียบผู้อื่นแล้วยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ แล้วก็เอามาป่าวร้องขยี้ย้ำให้คนอื่นยิ่งรู้สึกแย่! ช่างน่าโมโห!!พริมโรสใบหน้าแดงเข้มขึ้น นัยน์ตาลุกวาวราวกับไฟ มีความรู้สึกทั้งโกรธ ทั้งอับอายขายหน้า เมื่อได้ยินเขาพูดไหลลื่นได้อย่างไม่กระดากปาก ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีกับการกระทำของตัวเองเข้าไปใหญ่ คำพูดล้อเล่นของเขา ยั่วยุจนเพลิงโทสะพุ่งขึ้นสูง โมโหจนแทบจะเต้นเร่าๆ นึกอยากกระโดดเข้าไปบีบคอเขาให้สมกับความคั่งแค้น“คนไร้ยางอาย!! ดูสิว่าวันนี้ฉันจะตีคุณให้ตายได้ไหม!!”พอพูดจบ หญิงสาวก็ใช้แรงทั้งหมดพุ่งหมัดไปที่ใบหน้าหล่อเหลาไร้รอยตำหนิอย
“แต่ฉัน..ฉันทำไม่เป็น!”“ผมสอนเอง เกร็งขาไว้แบบนี้ แล้วยกสะโพกขึ้นลงช้าๆ..อาา~..ซี้ดด~..แบบนั้นแหละเด็กดี..สอนง่ายจริง!” ความเสียวซ่านพุ่งทะลุทะลวงทุกประสาทสัมผัส เสียงครางหวิวเล็ดลอดจากริมฝีปากอวบอิ่ม ร่างบางแอ่นหยัดโค้งเงยแหงนไปด้านหลังเหนือร่างของเขา ทรวงอกอวบชี้พุ่งท้าทายสายตา กระเพื่อมไปตามแรงเคลื่อนไหวอย่างน่าดูเขาสูดปากครางเสียงต่ำพร่า มึนเมาเคลิบเคลิ้มไปกับปฏิกิริยาของหญิงสาวทำให้อดใจไว้ไม่ไหว หยัดร่างขึ้นจูบลำคอระหง ลิ้นร้อนระอุลดเลี้ยวไล้วนบริเวณลาดไหล่ แล้วค่อยๆ ตวัดเลียอย่างช้าๆ เมื่อร่างบางสั่นสะท้านก็ขบเม้มไปเบาๆ อย่างไม่ให้ตั้งตัว“อาาาา~” เสียงครางสุดจะกลั้นเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม ผมหลายปอยชื้นเหงื่อจนแนบติดข้างแก้ม เผยความงามหยาดเยิ้มปรากฏออกมาเนื่องจากขาดประสบการณ์ พอเกร็งไปนานๆ ก็เริ่มรู้สึกล้า จึงขยับควงสะโพกเป็นวงกลม หมุนเอวอ่อนปวกเปียกไปมาราวกับไร้กระดูก บิดส่ายเป็นจังหวะเพื่อพักการเกร็งขาเอาไว้ก่อน แต่กลับกลายเป็นเพิ่มความกระสันให้เขาไปโดยไม่รู้ตัว“ซี้ดดดด!~..อาา~..สุดยอด!~ เรียนรู้เร็วแบบนี้ อีกหน่อยผมคงตายคาอกแน่ๆ”“ชอบแบบนี้หรือคะ?” เสียงหวานเอ่ยถามอย
หลังจากถูกเขาเคี่ยวกรำเรื่องบนเตียง มาอย่างหนักหน่วง ทำให้เธอมีความกล้าที่จะมองเรือนร่างของชายหนุ่มมากขึ้น เขาเดินนำเข้าห้องน้ำโดยที่เนื้อตัวเปล่าเปลือย เผยให้เห็นแผ่นอกหนาอัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ผิวละเอียดสีแทนอย่างคนที่ออกแดดเป็นประจำ เส้นผมสีดำสนิท จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าอย่างลงตัว เธอเคยเห็นผู้ชายเปลือยท่อนบนในอินเทอร์เน็ตมาบ้าง แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหน มีกระดูกไหปลาร้าที่น่ามองแบบนี้มาก่อน และขณะที่เขาหันหน้ากลับมา สายตาของหญิงสาวก็เพิ่งจะเลื่อนมาจับจ้องอยู่ที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง เห็นซิกซ์แพ็กของเขาเหมือนมีเส้นเอ็นนูนออกมา ทั้งดูแข็งแรงทั้งดูเซ็กซี่เขายกยิ้มมุมปากข้างหนึ่ง รู้ว่าหญิงสาวพอใจในรูปร่างของเขา แต่กลับไม่รู้ว่าเรือนร่างของตัวเองมีความน่าหลงไหลมากมายเพียงใด เขาอดใจไม่ไหวจึงดึงมือให้เข้ามาอยู่ใต้ฝักบัวด้วยกัน แล้วกดจุมพิตหนักๆ บดเบียดริมฝีปากอวบอิ่มหลายครั้ง มือไม้เริ่มลูบไล้เปะปะ จับนั่นลูบนี่อย่างซุกซน“ไม่เอานะ! ฉันหิวแล้วจริงๆ!” หญิงสาวประท้วงเสียงแผ่ว ผลักอกเขาเบาๆ เมื่อรู้ว่าเลือดลมกำลังแล่นพล่านเพราะการปลุกเร้าของเขา “แทนตัวเองว่าโรส!” หัวใจของชายหนุ่มเ
“ความจริงผมก็ไม่ได้ลาพักผ่อนมานานแล้ว ปีนี้เลยคิดว่าจะพักยาวๆ สักหลายวัน รอให้คุณว่างก่อนก็ได้ค่อยไป ดีไหมย่าร่า?”“เพคะ ลูกรอได้ ขอแค่มีพี่สาวไปด้วย”“ตามหมายกำหนดการ วันมะรืนฝ่าบาทต้องไปร่วมประชุมอเมริโกย-อาเซียนสมัยพิเศษนะพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ใช่ว่า..เปเรซยังมีผู้แทนพระองค์ อย่างมกุฏราชกุมารอยู่หรอกหรือ ก่อนหน้านี้เขาก็ทำหน้าที่แทนฉันบ่อยไป” “เย้! ท่านอาจะไม่อยู่หลายวัน!”ผู้พันอิฟราอิมหรี่ตาลงเล็กน้อย นัยน์ตาดุดันเยียบเย็นสบประสานเข้ากับดวงตายั่วยุท้าทายของพี่ชาย เขากัดฟันกรอด ในใจรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมขึ้นมา เกิดอารมณ์พาลไปยังหลานสาวด้วยเย้กับผีสิ! ทำไมต้องดีใจจนออกนอกหน้าขนาดนั้นด้วย!!ปิ๊ด!! ปิ๊ด!! ปี๊ดดดด!!ท่ามกลางบรรยากาศภายในห้องอาหารที่กำลังอึมครึม พลันมีเสียงปริศนาคล้ายเสียงนกหวีดดังขึ้นมาเบาๆ ยังมีสั่นที่ปลายเสียงเล็กน้อย เนื่องจากภายในห้องกำลังตกอยู่ในความเงียบ เสียงประหลาดนั้น จึงได้ยินกันถนัดชัดเจนคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ คามิลล่าจะลุกพรวดขึ้น ทุกคนหันไปมองด้วยความตระหนกตกใจ ต่างก็จ้องมองความผิดปกติของใบหน้านวลหวานที่กำลังเขียวคล้ำ ตัวแข็งเกร็ง สองขาก็บีบกระชับเข้าหากันแน
เขาโอบร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดเพื่อปลอบประโลม ซึ่งหญิงสาวก็ยินยอมแต่โดยดี ไม่มีอาการขัดขืนแต่อย่างใด ทำให้เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อย เธอมีบุคลิกที่ขัดแย้งในตัวเองอยู่หลายอย่าง ทั้งอ่อนหวานทั้งขี้โมโห บอบบางแต่ก็กล้าหาญ ภายนอกดูเยือกเย็นแต่ทว่าภายในกลับเร่าร้อน“เด็กโง่! เขาชอบตัวอยากคบหาจริงจัง แล้วยังไม่รู้ตัวเองอีก เด็กไอทีเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่า?”“ฝ่าบาทจะทำอย่างนี้กับหม่อมฉันไม่ได้นะ!” หญิงสาวสูดจมูกเข้าไปฟืดใหญ่ก่อนจะเอ่ยปากประท้วงออกมา“ทำอะไรไม่ได้? กอดคุณแบบนี้น่ะ?”“ไม่ใช่!”“แล้วอะไร? หรือที่บอกว่าชอบคุณ?”“นั่นล่ะ! บอกชอบเขาแต่มาว่าเขาโง่ มีใครเขาทำกันแบบนี้บ้าง!!”“ก็แล้วไม่ใช่หรือไง? ถ้าฉลาดจริงป่านนี้คงรู้ใจกันไปตั้งนานแล้ว”“แล้วเด็กไอทีมาเกี่ยวอะไรด้วย?”“เด็กไอทีส่วนใหญ่ไอคิวสูงแต่อีคิวต่ำ โดยเฉพาะคุณ! อาการออกชัดมาก!” พริมโรสตวัดสายตาค้อนเขาแวบหนึ่ง ส่งเสียงเฮอะเบาๆ อย่างไม่พอใจ“หม่อมฉันไม่ได้ราคะขึ้นตา ตัณหาแล่นไปตามเส้นเลือดอย่างฝ่าบาทนี่ ใครเขาอยากจะไปฉลาดในเรื่องแบบนั้นกัน!”“ตลกและ ราคะไม่ใช่โรคเบาหวาน ที่จะแทรกซ้อนเข้าไปในตาได้ง่ายๆ ผมไม่ได้หื่นกับทุกคนที่เจอหรอ
เขาทาบริมฝีปากร้อนผ่าว ลงมาบนริมฝีปากของเธอทันทีโดยไม่รอฟังเสียงประท้วง ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย ปล่อยให้อีกฝ่ายดูดดื่มความหอมหวาน อย่างตะกรุมตะกรามตามอำเภอใจ ให้เรียวลิ้นที่อบอุ่นซอกซอนไปทั่วตามใจชอบเนิ่นนานกว่าเขาจะถอนริมฝีปากออกเพื่อให้พักหายใจ ชั่วขณะนั้นหญิงสาวกลับยื่นมือทั้งสองมาโอบรั้ง ราวกับไม่ยินยอมให้ความรู้สึกที่กำลังเคลิบเคลิ้มน่าหลงไหลนี้ต้องขาดช่วง เมื่อรู้สึกว่าจะต้องอยู่ห่างจากเขา ทำให้เธอใจหายอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังกังวลกับข่าวที่เพิ่งจะได้รับ ตอนนี้เลยต้องละวางความเขินอายเอาไว้ก่อน ปล่อยตัวปล่อยใจให้คล้อยไปตามอารมณ์ที่เรียกร้องตามสัญชาตญาณเท่านั้น ถึงแม้บางครั้งเขาจะทำตัวน่าโมโห แต่ก็แอบมีมุมน่ารักบ้างในบางที เธอมองเข้าไปในหัวใจตัวเองและยอมรับว่า ดูเหมือนเขาจะไม่ได้น่ารังเกียจเหมือนตอนนั้นแล้วพริมโรสซุกตัวเข้าหาเขาอย่างออดอ้อน ไล้ปลายลิ้นนุ่มนิ่มเลียมุมปากเขา แล้วสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปให้เขาดูดดื่มอย่างหิวกระหาย กระทั่งเป็นฝ่ายรุกเร้าพัวพันดูดดึงลิ้นอบอุ่นของเขาเสียเอง ชายหนุ่มทำเสียงคำรามต่ำในลำคอ เมื่อถูกเร้าอารมณ์อย่างไม่คาดคิดมาก่อน จนถึงกับสั่นสะท้า
คามิลล่าเดินนวยนาดไปลงสระน้ำ แก้มก้นบดเบียดยามโยกย้ายอย่างน่าดู ขณะที่ลงมาในน้ำก็แอบคลายปมเชือกที่ผูกเอวไว้ออก แล้วว่ายกางแขนกางขาไปกลางสระ ชายหนุ่มสูงศักดิ์เดินมาหยุดยืนมอง เห็นขอบขากางเกงบิกินี่ของคนในน้ำแง้มออกตามแรงกระเพื่อมไหว เผยให้เห็นร่องเนื้อกลางเนินสวาทแย้มเข้าแย้มออก ยามที่กางขาว่ายชิดติดผิวน้ำสุลต่านโอมาร์เดินไปนั่งลงที่บันได แช่ส่วนล่างนั่งอยู่ในน้ำ พลันได้ยินเสียงเดินมาจากทางข้างหลังจึงหันไปดู"หมอมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ส่วนพระองค์วางแก้วไวน์และเครื่องดื่มของเจ้านายไว้ที่ขอบสระ "อืม บอกเขาให้รอสักครู่ ส่วนนายสองคนรออยู่แถวนี้""พ่ะย่ะค่ะ" เขารับคำแล้วหันหลังเดินออกไปยืนรอหลังแผงกั้นรั้วไม้ระแนง ที่ล้อมสระด้านหนึ่งไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวคามิลล่ารู้สึกขัดใจที่อีกฝ่ายไม่เล่นตามเกมของเธอ ยังคงนั่งเล่นตัวอยู่อย่างนั้นไม่ตามมาไล่จับกันในน้ำตามแผน เธอลอบถอนหายใจออกมา แล้วว่ายเข้ามาหาเขาที่ริมสระเสียเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เขาคว้าข้อมือเธอไว้แล้วลากเข้าหา ทำให้สองขาเรียวกางอ้าออกคร่อมตัวบนหน้าตักของเขาพอดี ฝ่ามือใหญ่จับเอวไว้แน่นแล้วกดลง ในขณะที่เขาก็ยกตัวแอ่นสะโพกเข้
“ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ
“ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง
ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา
“ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ
ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ
กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท
รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ
“อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั
"ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้