Share

ตอนที่ 10

last update Last Updated: 2025-03-16 14:49:37

"โอ๊ย!!" แล้วหญิงสาวก็ร้องออกมาอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจงใจกัดที่ริมฝีปากล่างอย่างแรง ทำให้เธอได้สติรีบผลักเขาออกห่าง

ผู้ชายจิตใจคับแคบ!! นี่กำลังคิดจะเอาคืนใช่ไหม แต่ฉันไม่ได้กัดนายรุนแรงแบบนี้นี่!!

หญิงสาวตวัดสายตาคมกริบมองเขม็งอย่างโมโห สีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด เม้มริมฝีปากล่างที่กำลังเจ็บ แล้วไล้ลิ้นเลียด้านในเบาๆ 

“เจ็บไหม? ถือซะว่า..หายกัน!” เขาถามคล้ายไม่สำนึก เธอเลยกำหมัดทุบไปที่อกและไหล่ของเขาเสียหลายที แต่เขากลับเอาแต่หัวเราะ แล้วจับข้อมือเธอไว้

ชายหนุ่มมองใบหน้าหวาน ที่ถึงแม้จะโกรธแต่ก็ยังคงดูน่ารัก กำลังส่งประกายตาคมกริบราวกับมีดมองเขม็งมาที่เขา เพียงแค่มองก็ทำให้รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทงไปแล้วเป็นร้อยๆ แผล เขายกยิ้มมุมปากข้างหนึ่งอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตาพราวระยับเต็มไปด้วยรอยหัวเราะ เห็นเป็นเรื่องสนุกไปเสียอย่างนั้น

พริมโรสรู้สึกว่า เธอประเมินระดับความชั่วร้ายของเขาต่ำเกินไปเสียแล้ว

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะสบถความในใจออกมา ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบเสียก่อน

ก๊อกๆ!!  ก๊อกๆ!!

“คุณพริมโรสคะ! คุณพริม!” หญิงสาวสะดุ้ง หันขวับไปยังทิศทางของเสียง

ชายหนุ่มมองใบหน้าระเรื่อสีกุหลาบ ที่แดงซ่านไปทั้งหน้านวลเนียน เรื่อยไปจนถึงตลอดช่วงบนลำตัวเหนือผิวน้ำ ที่ไม่รู้ว่าเกิดจากความโกรธหรือว่าอายกันแน่อย่างอาลัยอาวรณ์ โชคดีว่าเขาได้ยินเสียงคนคุยกันที่หน้าห้องเสียก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะระงับใจตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วก็ได้

“คุณพริมโรสคะ! คุณพริม! หลับในห้องน้ำหรือเปล่าคะ?” 

หญิงสาวกำลังลังเลว่าจะตอบดีหรือไม่ ทันใดนั้นก็เห็นเขาลุกขึ้น เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอว ถอดเสื้อกับกางเกงที่เปียกชุ่มออก แล้วหันไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนมาวางไว้ข้างอ่างอาบน้ำ 

แล้วหญิงสาวตกใจจนลืมอาย ลุกพรวดขึ้นจากน้ำทันทีเมื่อเห็นเขาเดินออกไปด้านนอก เธอกลัวว่าเขาจะไปเปิดประตูด้านหน้า จึงรีบเอาผ้าขนหนูพันตัวไว้ลวกๆ แล้ววิ่งตามออกมา แต่เขาก็หายไปเสียแล้ว ภายในห้องว่างเปล่าราวกับว่าเขาหายตัวไปในอากาศได้อย่างนั้น

“คุณพริมโรสคะ! คุณพริม!”

“ได้ยินแล้วค่ะ!” หญิงสาวรีบมาเปิดประตู “ขอโทษค่ะ ฉันเผลอหลับไปน่ะ”

“ตายจริง! อันตรายนะคะคุณ คราวหน้าให้ดิฉันอยู่เป็นเพื่อนดีไหม คุณจะได้ไม่เผลอหลับไปอีก!”

“ไม่เป็นไรค่ะ! ฉันคงไม่ได้แช่น้ำในอ่างบ่อยๆ วันนี้เผลอไปจริงๆ คงจะเพลียมาก”

“งั้นเดี๋ยวดิฉันไปอุ่นนมมาให้นะคะ ร่างกายจะได้อบอุ่นก่อนนอน”

“ได้ค่ะ ขอบคุณมากๆ เอ่อ..ถามหน่อยค่ะ เมื่อสักครู่ฮาน่าเห็นใครเข้าออกห้องฉันหรือเปล่าคะ?”

“หืม? ไม่มีนี่คะ แล้วก็ยืนยันด้วยว่าสิ่งลี้ลับอะไรก็ไม่มีทั้งนั้น สบายใจได้ค่ะ คุณอาจจะตกใจเสียงเรียกของดิฉันตอนเคลิ้มหลับหรือเปล่าคะ?” ฮาน่ายิ้มอย่างปลอบใจ คิดว่าคงเพราะกำลังเคลิ้มมากกว่า “แต่ถ้าคุณยังกลัว ดิฉันจะให้เด็กมานอนเป็นเพื่อนนะคะ?”

“โอ๊ะ! ไม่ต้องค่ะ! ไม่ต้อง! ฉันคงเพ้อไป!” หญิงสาวยกฝ่ามือตบหน้าผากตัวเอง แล้วยิ้มให้ฮาน่าอย่างจืดเจื่อน “เหลวไหลจริงๆ เลย! แหะๆ”  

ฮาน่ายิ้มขันหันหลังเดินไป เธอจึงรีบปิดประตู แล้วเดินสำรวจไปทั่วทุกมุมในห้อง หาซอกหลืบของห้องลับที่อาจจะถุกพรางตาไว้ แต่หายังไงก็หาไม่เจอ

พริมโรสไปค้นประเป๋าเดินทาง หยิบเครื่องมือตรวจจับสัญญาณออกมา แล้วปิดไฟในห้อง มองผ่านเลนส์สำรวจไปรอบๆ ค้นหากล้องวงจรปิดแต่ก็ไม่เจออะไร จึงเปิดไฟแล้วเดินมานั่งที่เตียงด้วยความสงสัย หมายมั่นในใจว่าต้องจับคาหนังคาเขาให้ได้

…………………….

เมื่อความมืดคลายตัวเพื่อเริ่มเข้าสู่เช้าวันใหม่ รอบข้างยังคงเงียบสงัด ภาพเขียนแนวตั้งขนาดผืนผ้าที่ติดอยู่ที่ผนังด้านหนึ่งในห้องนอนของหญิงสาวแง้มเปิดออกมาช้าๆ เงาสูงใหญ่ก้าวออกมาจากช่องมืดทึบ แล้วปิดไว้ให้แนบสนิทดังเดิม

เงานั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ หยิบผ้าเปียก และหนวดเคราที่พื้นขึ้นมากำไว้ในมือ เดินตรงมาที่ภาพเขียนที่ผนัง แต่แล้วก็ชะงักยืนนิ่งคล้ายกับลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็เดินตรงไปแง้มภาพเขียนออก แล้วเดินหายเข้าไปในนั้นตามความตั้งใจเดิม

…………………….

“เชิญครับมิส” บอดี้การ์ดร่างกายกำยำเปิดประตูรถด้านหลังให้ทันทีเมื่อเห็นพริมโรสเดินเข้ามาใกล้

หญิงสาวก้าวเข้าไปนั่งอย่างเรียบร้อย เปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ส่งข้อความหาเตวิชทันที เพราะตอนเธอออกจากบ้านมาเหลียวซ้ายแลขวาแล้ว ก็มองไม่เห็นใครที่พอจะสั่งฝากข้อความไว้ได้เลยสักคน 

“วันนี้ขอแว่บไปทำธุระให้พ่อก่อน จะกลับมาช่วงบ่ายหรืออาจจะถึงเย็น ไม่ต้องเป็นห่วง ..พริม” 

พ่อโทรมาหาเธอตั้งแต่เมื่อคืน ให้รีบไปที่พิพิธภัณฑ์ของชนเผ่าอารเบียในวันรุ่งขึ้น เพราะนักสะสมของเก่าระดับเอลิสต์ของเมืองเปเรซ ได้ยินยอมปล่อยเครื่องลายครามและวัตถุโบราณล้ำค่าจากไพรเวทคอลเลกชั่นที่นำออกมาจัดแสดงให้กับพ่อแล้ว ซึ่งพ่อเล่าว่า ได้เคยติดต่อสอบถามกันมานานเกือบปี และก็ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด จนยอมปล่อยในที่สุดครั้งนี้

เธอเพียงแต่ไปรับของมา แล้วไปฝากไว้ที่สถานทูตทีแลนด์ ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งต่อให้เอง

ซึ่งคนที่จะมารับได้โทรติดต่อเข้ามานัดหมายเวลาในตอนเช้าตรู่นี้ เธอจึงให้พวกเขาจอดรถรอที่ริมถนน ใกล้ๆ ป้ายรถประจำทาง ซึ่งบ้านของผู้พันมีอาณาเขตกว้างขวางมากๆ ทำให้กว่าจะเดินไปถึงจุดนัดหมายก็เกือบกิโล เธอจำเป็นต้องเดินออกมาเอง เพราะตำแหน่งที่ตั้งคฤหาสน์ทางฝั่งทิศตะวันตกนี้เป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ 

“ทำไมเราต้องออกเดินทางแต่เช้าคะ?” เธอรู้สึกสงสัยจึงถามคนที่มารับ ซึ่งแม้จะดูสูงใหญ่ทั้งคู่ แต่คนที่นั่งข้างคนขับน่าจะเป็นคนเอเชีย เพียงแต่ดูไม่ออกว่าเชื้อชาติใดกันแน่ เพราะเขาสวมแว่นตาดำและใส่แมสปิดบังใบหน้าไว้ตลอด

“ในตรอกแอนทีคที่เรากำลังจะไป จะเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินในเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาและห้ามรถวิ่งผ่าน กว่าเราจะไปถึงก็คงประมาณสิบนาฬิกาครับ”

“อ๋อ เข้าใจล่ะ” เธอพยักหน้ารับรู้ จากนั้นก็หยิบกล้องโกโปรพร้อมไม้นิ่มออกมา เพื่อจะถ่ายเก็บบรรยากาศขณะเดินทาง สำหรับใช้เป็นอินเสิร์ท-ช็อตสอดแทรกในวีดีโอ

พอพูดถึงไม้นิ่ม เธอก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ เพราะไม้นิ่มตัวนี้ที่จริงแล้วมันก็คือ..กิมบอล ที่ช่วยป้องกันการสั่นของกล้องในขณะที่ถ่ายวิดีโอ ที่มักจะเรียกกันติดปากว่า..ไม้นิ่ม เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยทำให้การถือกล้องนิ่งขึ้นและสมูทมากขึ้น ถึงแม้จะมีการเคลื่อนไหวนั่นเอง

หญิงสาวใส่เสียงพูดสอดแทรกเข้าไปในวีดีโอ อธิบายถึงสถานที่ที่กำลังจะไป พูดถึงที่มาและความสำคัญ คนที่นั่งด้านหน้าทางขวาหันมามองว่าเธอกำลังพูดอยู่กับใคร ส่วนคนขับรถทางด้านซ้ายก็เหลือบมองจากกระจกมองหลัง 

และก่อนที่พวกเขาจะหันกลับไป เธอก็ฉีกยิ้มหวานแจกให้พวกเขาไปรอบหนึ่ง แล้วก็ทำทีพูดกับกล้องแนะนำถึงบรรยากาศทั้งสองข้างทาง และแอบแพนกล้องผ่านคนสองคนที่นั่งอยู่ด้านหน้า ทำเนียนย้ายกล้องมาเก็บบรรยากาศอีกฝั่งหนึ่งของฟากถนน

ในสถานการณ์ขณะนี้เธอไม่สามารถไว้ใจใครได้ จำเป็นต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ในกิมบอลจะทำหน้าที่สร้างทามไลน์บันทึกได้ว่าเธอกำลังจะไปที่ไหน ทำอะไร เผื่อเกิดเหตุที่เหนือความคาดหมายขึ้นมา อย่างน้อยคนที่ติดตามหาก็จะได้รู้ตำแหน่งปัจจุบันของเธอได้ 

 “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” พริมโรสเอ่ยปากถาม หลังจากหนุ่มเอเชียคนที่นั่งข้างคนขับออกไปสำรวจหาสาเหตุที่รถติด บริเวณทางเข้าตรอกแอนทีคนานแล้ว และเพิ่งจะกลับมา

“มีรถชนกันตรงปากทางเข้าครับ เราคงต้องเดินเท้าเข้าไป”

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา” หญิงสาวคว้ากระเป๋าผ้า แล้วเปิดประตูรถ

“คุณเดินตรงกลาง เราสองคนจะคอยระวังความปลอดภัยให้เอง”

“โอเค” ของที่จะมารับนี้คงจะมีมูลค่าสูงมาก ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่ระแวดระวังถึงเพียงนี้ 

พอเลี้ยวเข้ามาในตรอก ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในกลุ่มคน ที่กำลังแออัดมุงดูเหตุการณ์จนเต็มพื้นที่ พอดีกับเสียงโทรศัพท์มือถือดัง เธอเลยล้วงมือเข้าไปหยิบในกระเป๋าขึ้นมา แล้วกดสไลด์เพื่อรับสาย

ตูม!! เพล้ง!!

อยู่ๆ ก็มีเสียงคล้ายระเบิดขนาดย่อมดังมาจากในรถคันหนึ่ง เสียงกระจกแตกกระจาย แสงไฟพวยพุ่ง พร้อมๆ กับกลุ่มควันดำทะมึนลอยขึ้นไปบนฟ้า แรงอัดของระเบิดปะทะเข้ากับฝูงชนจนกระจัดกระจาย

“ว้าย!!” พริมโรสร้องออกมาอย่างตกใจ สะดุ้งสุดตัว ยกสองมือปิดบังไว้ข้างศีรษะ ทำให้โทรศัพท์หลุดร่วงออกจากมือ

“โรส!!”

บอดี้การ์ดคนหนึ่งคว้าเอวเธอไว้ โอบรั้งเข้าหาตัวแล้วกดลงพื้น  ฝ่ามือใหญ่ประคองหลังศีรษะให้หน้าแนบไปกับอกแข็งแรง เอาตัวเองเป็นเกราะป้องกันเธอจากเหตุระเบิด 

เมื่อเสียงอึกทึกสงบลง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาก็เริ่มมองหาโทรศัพท์มือถือ และเห็นว่ากระเด็นไปไม่ไกล เลยจะลุกขึ้นไปเก็บ แต่บอดี้การ์ดยังโอบเอวเอาไว้ เธอเลยร้องบอกเขาและชี้มือไปที่พื้น บอดี้การ์ดอีกคนจึงพยายามฝ่าฝูงชนที่หนีตายกันอลหม่านเพื่อเข้าไปเก็บให้ แต่จู่ๆ โทรศัพท์ก็หายไปอย่างลึกลับต่อหน้าต่อตา บอดี้การ์ดสองคนมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย  แล้วพาเธอออกไปจากตรงนั้นทันที

“เอารถมารอที่ถนนใหญ่ตรงซอยถัดไป ด่วน!” บอดี้การ์ดหนุ่มชาวเอเชียกดโทรศัพท์ออกคำสั่ง แล้วรีบวาง หันมาคว้าแขนเธอแล้วดึงให้เดินตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

“เราไม่ไปที่พิพิธภัณฑ์ของชนเผ่าอารเบียแล้วหรือคะ?

“เกรงว่าจะไม่สะดวกแล้วครับ เราคิดว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”

…………………….

เอลิสต์ - A-list - ผู้มีชื่อเสียงอีกประเภทหนึ่งที่เป็นเป้าสายตาของสาธารณชน จัดอยู่ในกลุ่มคนระดับเกรดเอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 11

    บอดี้การ์ดทั้งสองคนจับต้นแขนพริมโรสไว้คนละข้าง พาเดินไปอย่างเร่งรีบจนตัวเธอแทบจะลอยได้ ก้าวเท้าเร็วคล้ายกำลังจะก้าวกระโดด สักพักก็ฝ่าฝูงชนออกมาถึงริมถนนใหญ่ มีรถลีมูซีนกำลังจอดรออยู่ คนหนึ่งรีบเดินไปขึ้นข้างหน้า อีกคนเปิดประตูให้เธอขึ้นไปนั่งด้านหลัง ขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไป เธอก็ถูกดึงแขนให้ถอยห่างรถออกมาอย่างแรง จนเซไปปะทะร่างแข็งแรงของใครคนหนึ่ง เธอแหงนมองหน้าร่างนั้นอย่างตระหนก“แก!!” ผู้พันอิฟราอิมเค้นเสียงออกมาอย่างเกรี้ยวกราด แล้วโถมหมัดเข้าใส่บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงนั้นทันที“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” เตวิชกับจอมทัพวิ่งมาขนาบข้างตัว พริมโรสมองอย่างงุนงง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วพวกเขามาที่นี่กันได้อย่างไรยังไม่ทันที่เธอจะไต่ถาม สองหนุ่มข้างตัวก็ถลาไปหาบอดี้การ์ดอีกสองคนที่กำลังงงงันอยู่ข้างรถทันที หญิงสาวยืนมองพวกเขาตะลุมบอนกันอย่างนัวเนีย ทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วครู่ “โรส! หลีกไป!!” ผู้พันอิฟราอิมตะโกนสั่งเสียงดังลั่น ทำให้เธอได้สติ ถอยไปยืนอยู่มุมหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเข้าไปห้ามยังไง“เดี๋ยวก่อนค่ะ! หยุดก่อน! พวกคุณกำลังเข้าใจผิด!!” เธอพยายามจะอธิบาย แต่ดูเหมือนไม่มีใครอยากจะฟังสักพ

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 12 : Sweet

    แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้า ข้อมือก็ถูกอีกฝ่ายดึงไว้เสียก่อน จนเธอเสียหลัก เซล้มลงไปนั่งบนตักเขา“งอนแฮะ!”“ไม่ได้งอน! ปล่อย!” เขาจับข้อมือเธอไว้ข้างหนึ่งยึดไว้แน่น มืออีกข้างรวบเอวคอดกิ่วเข้ามาชิดลำตัว เนื่องจากเขารัดไว้แน่น เธอจึงต้องโยกตัวไปข้างเพื่อยืมแรงโน้มถ่วง แล้วหมุนข้อศอกเหวี่ยงโค้งไปที่บริเวณขากรรไกร เธอคิดไว้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องเบี่ยงตัวหลบ ในช่วงที่ลำตัวเด้งกลับจึงกระทุ้งศอกไปทางด้านหลังเต็มแรง“โอ๊ยย! ทำไมดุร้ายนัก!” ชายหนุ่มโดนศอกกระแทกที่ชายโครงอย่างจัง รู้สึกจุกแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ“ใครใช้ให้คุณมาฉวยโอกาสกับฉันล่ะ!” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมจำนน เขาจึงปล่อยมือที่รัดเอวมากำข้อมือเล็กที่วนเวียนแต่จะทำร้ายเขาเอาไว้แน่น จับสองแขนของหญิงสาวไขว้กันที่ด้านหน้า แล้วพันธนาการรัดไว้ด้วยแขนที่แข็งดั่งปลอกเหล็กของเขา ยุติการเคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง“อยู่นิ่งๆ! เดี๋ยวเครื่องไม้เครื่องมือพังหมด!”“ก็ปล่อยฉันสิ!” พริมโรสตวาดลั่นพยายามขยับตัวแรงๆ เพื่อให้วงแขนคลายออก แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นเข้าไปอีก ตอนนี้เหลือเพียงปากเท่านั้นที่ว่างพอจะใช้เป็นอาวุธได้ “คุณนี่อะไรก็ดี เสียตรงที่

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 13

    ก๊อกๆ!! ก๊อกๆ!!หญิงสาวพลิกตัวนอนคว่ำ ศอกยันพื้นที่นอนนุ่ม มองไปทางทิศของเสียง“คุณ! นอนหรือยัง?”พอรู้ว่าเป็นเสียงใคร ปากอิ่มสวยก็เม้มเข้าหากัน แก้มพองออกสองข้างในลักษณะไม่สบอารมณ์นิดๆ ลุกขึ้นเดินไปแง้มประตูให้เปิดออกนิดหนึ่งผู้ชายน่าตาย! ช่างยุ่งวุ่นวายเสียจริงๆ!“มีอะไรคะ?”“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย ขอเข้าไปได้ไหม?”“ยามวิกาล ชายหญิงไม่ควรอยู่ใกล้ในที่ลับตา เป็นกฎการใช้ชีวิตแบบเบสิคของสาวโสด หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ”ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากนิดหนึ่งคล้ายจะยิ้ม ฟังกฏการใช้ชีวิตแบบลื่นไหลของเธออย่างชอบใจ“แล้วถ้าผมคุยเรื่องลับๆ ระหว่างเราสองคนที่หน้าประตูแบบนี้ ใครผ่านไปผ่านมาแล้วได้ยินเข้า กฏการใช้ชีวิตแบบสาวโสดของคุณจะสั่นคลอนไหม?”“นี่! ฉันกับคุณไปมีเรื่องลับๆ กันตั้งแต่เมื่อไหร่!” เสียงความไม่พอใจดังขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางความเงียบสงัดของราตรี“ชู่ว! เบาหน่อยสิ! เดี๋ยวก็ได้ตื่นมาฟังกันหน้าสลอน ไม่อายรึ? แต่ก็ไม่แน่นะ..บางทีตอนนี้อาจจะมีใครบางคนเอาหูแนบประตู แอบฟังอยู่ก็ได้”“คุณ!” หญิงสาวหงุดหงิดเขาจนเกือบจะหลุดปากพูดคำแรงๆ ออกไปตามอารมณ์ แต่พอนึกได้ว่าผู้คนคงจะได้ยินกันทั้งบ้าน จึงได้แต่กัดปา

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 14

    หลังวางสายจากอัลวานี เธอใช้โทรศัพท์หลักของหน่วยโทรสอบถามทันที“ว่าไง? กำลังจะโทรหาพอดีเลย”“หัวหน้าคะ! นอกจากเราสามคน ได้ส่งใครมาอีกหรือเปล่า?”“มี เป็นคนของเอ็นเอสเอที่เพิ่งจะติดต่อมา เขากำลังสงสัยและตามสืบที่มาที่ไปของเงินโอนจำนวนมหาศาลจากสำนักงานใหญ่ในสหรัฐ เข้าบัญชีบริษัทยาอาร์เอดี ผู้ผลิตและวิจัยยาชีวเภสัชภัณฑ์สาขาย่อยในทีแลนด์ เขาสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ จึงได้ส่งคนขอมาร่วมทีมกับเราเพื่อตามสืบเรื่องนี้ด้วย”“แล้วทำไมพ่อไม่แจ้งพวกเราก่อนหน้านี้ล่ะ?”“ฉันเพิ่งจะได้รับเรื่องเมื่อวานนี้เอง กำลังจะติดต่อไปวันนี้ ก็พอดีแกโทรมาเสียก่อน เออ!..ได้ข่าวว่ามีการวางระเบิดแถวพิพิธภัณฑ์ แกอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือเปล่า?”“ใช่ค่ะ หนูว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ของที่พ่อให้ไปรับคืออะไรกันแน่?”“เอ่อ..เอาเป็นว่าฉันยังบอกอะไรตอนนี้ไม่ได้ ทุกอย่างเป็นความลับระดับท็อปเอส ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จก็พอ”พ่อวางสายไปแล้ว แต่เธอก็ยังนั่งครุ่นคิดอยู่ เธอไม่ชอบใจนักที่จะทำงานแบบถูกปิดหูปิดตา มันลับสุดยอดขนาดไหนกันถึงให้คนที่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทำงานนี้โดยไม่ให้รับรู้อะไร หญิงสาวส่ายหน้า

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 15 

    “มิส! เอ่อ..ผมขอทราบชื่อคุณได้ไหม?” พริมโรสมองบุรุษหน้าตาหล่อเหลาคมคาย ซึ่งเป็นบิดาของเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บ รูปลักษณ์ของเขาดูสูงส่งสง่างาม บนร่างมีรัศมีแห่งอำนาจผิดแผกไปจากคนธรรมดา อีกทั้งยังดูสุขุมเยือกเย็น ไม่บ่งบอกอารมณ์ใด บนริมฝีปากประดับรอยยิ้มเพียงเล็กน้อย กำลังนั่งลงที่เก้าอี้ข้างตัวเธอ พอได้เห็นชัดๆ แบบนี้ เธอรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใครหรือเคยเห็นที่ไหน บางทีอาจจะคล้ายคนรู้จักที่เป็นเพื่อนของเพื่อน หรืออาจจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการใดวงการหนึ่งก็เป็นได้ ซึ่งเธอก็เคยเห็นแบบนี้หลายครั้งในจอทีวี บางทีอยู่กันคนละประเทศ แต่รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงราวกับเป็นญาติพี่น้อง หรือฝาแฝดกันก็มี แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ก็มีผลวิจัยทางสถิติที่ระบุว่า ‘มนุษย์ทุกคนจะมีคนที่หน้าเหมือนเราอีกเจ็ดคนอยู่ทั่วโลก’ โดยที่คนเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กันด้วยซ้ำ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ดอพเพลแกงเกอร์(doppelgänger)“นรากรค่ะ พริมโรส นรากร”“มิสนรากร พริมโรสคงเป็นชื่อจริงของคุณ.. เอ่อ..ผมขออนุญาตเรียกคุณว่า พริมโรสได้ไหม?”“ได้ค่ะ” หญิงสาวออกปากอนุญาต

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 16 

    กว่าพริมโรสจะมาถึงที่พักก็เย็นแล้ว เตวิชส่งข้อความมาบอกเกี่ยวกับเรื่องที่เธอให้เขาไปสืบเมื่อวันก่อน ว่ามีความคืบหน้าแล้ว เธอเลยบอกเจ้าของบ้านว่าเพลียของดอาหารเย็น แล้วรีบหนีเข้าห้องมาก่อน จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์โทรกลับไปอย่างไว“แหม! เลือกเวลาโทรได้ดีจริงๆ! ช้าอีกวินาทีเดียวฉันจะหยิ่งไม่รับสายเธอแล้วนะ!” เตวิชโวยวายทันทีที่รับสาย“ทำไมล่ะ? นายปีกกล้าขาแข็งพอที่จะต่อต้านฉันแล้วหรือไง!”“มิกล้า! ฉันกำลังจะเอาโดรนขึ้นบินสำรวจ ไม่ช่วยออกแรงแล้วยังมาก่อกวน ยัยจิ้งจอกเหม็น!”“อ้อ! งั้นก็บอกมาคร่าวๆ ที่สำคัญๆ ก็พอ”“ฉันให้คนสืบในหน่วยอื่นๆ กลับไม่มีข้อมูล พอดีมีเพื่อนที่ไว้ใจได้แฝงตัวอยู่ในองค์กรลับใต้ดิน เลยขอให้เขาช่วยสืบให้ ได้ข้อมูลมาว่าเป็นคนขององค์กรภราดรภาพต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ ชื่อที่เธอบอกมาเป็นตัวตนปลอม สำหรับเข้าทำงานที่สถานทูตโดยเฉพาะ เริ่มแฝงตัวเข้าไปเมื่อปีที่แล้ว แล้วก็…”“แล้วก็อะไร?”“มีข่าวลือที่ยังไม่ได้กรองมาว่า เป็นอดีตแฟนเก่าของคู่หมั้นเธอ นัยว่าสนิทสนมกันมากเกินเพื่อนร่วมงาน และเลิกกันไปเกือบปี ก่อนที่เขาจะมาคบกับเธอ”“เดี๋ยว! พวกเขาไปรู้จักกันได้ยังไง? แสดงว่าณัทธร

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 17 : ღ(≧ ◡ ≦)ღ

    พอนึกได้ว่าตัวเองกำลังแอบนินทาเขาอยู่ในใจ ระยะเผาขน มิหนำซ้ำยังเป็นคำชมมากกว่าตำหนิ พลันทำให้พวงแก้มนวลเนียนแดงก่ำขึ้นมา หัวใจเต้นระรัว ความกดดันอย่างหนึ่งแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณหน้าอกจนรู้สึกวาบหวิว กดทับเสียจนทำให้หายใจลำบาก จำต้องหลบสายตาเขา จึงไม่ทันได้เห็นประกายลึกล้ำที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ที่ซ่อนเร้นอยู่ในแววตาของอีกฝ่ายชายหนุ่มมองขนตางอนยาวทาบไปบนผิวเนียนกระจ่าง คนตรงหน้าในยามที่เขินอาย ช่างงามจนแทบไม่อยากจะละสายตา เขาเลื่อนสายตาลง มองริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อแวววาวท่ามกลางแสงสลัว ที่กำลังเผยอออกเล็กน้อยคล้ายเผลอตัว แต่กลับดูยั่วยวนท้าทายให้รุกประชิดในความรู้สึกของเขา พริมโรสช้อนตามองเขานิดหนึ่ง เห็นเขาจ้องมองอย่างไม่วางตา ทำให้เธอรู้สึกประหม่าวางตัวไม่ถูก มีความรู้สึกว่าทั้งหน้ากำลังร้อนผ่าวไปจนถึงใบหู เผลอใช้ปลายลิ้นสีชมพูเลียริมฝีปากที่จู่ๆ ก็แห้งผากขึ้นมากระทันหันให้ชุ่มชื้น พริบตานั้นในใจเขาพลันสั่นไหว ความเย้ายวนอย่างเป็นธรรมชาตินั้น ทำให้เขาควบคุมตัวเองต่อไปไม่ได้อีก การยั่วยวนในระดับนี้ ไม่ว่าชายใดก็ยากที่จะต้านทานไหว “เอ่อ..” เธอพยายามจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อกลบ

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 18

    ในชั่วขณะที่ไม่มีใครมองเห็น คามิลล่ากวาดสายตามองผ่านไปหยุดนิ่งอยู่ที่ชายหนุ่มตรงหน้า มุมปากสีแดงเข้มได้ยกยิ้มขึ้นข้างหนึ่งอย่างรู้สึกพึงพอใจ แล้วเลือนหายไป เธอรู้สึกถูกตาต้องใจ ชายหนุ่มเจ้าของคหฤหาสน์หรูผู้นี้ไม่น้อย รูปลักษณ์เขาดูสง่างาม คล้ายจะมีรัศมีความสูงศักดิ์ และหยิ่งทะนงปกคลุมอยู่ทั่วเรือนร่าง ร่างกายกำยำล่ำสันไม่มีไขมันส่วนเกินแม้แต่น้อย คาดว่าคงจะออกกำลังกายเป็นประจำ ผิวของเขาดูคล้ำ ออกไปทางผิวสองสีหรือผิวสีน้ำผึ้ง ซึ่งค่อนข้างดูเป็นธรรมชาติ และเซ็กซี่ในแบบชายชาตรี นัยน์ตาคมกริบสีดำสนิท เวลายิ้มมีประกายหวานนิดๆ ดูดีมีเสน่ห์เป็นที่สุด หากโกนหนวดเคราที่รกรุงรังพวกนั้นทิ้งไปให้หมด คงจะดูหล่อเหลาคมคายมากกว่าที่เห็นตอนนี้เป็นแน่นอกจากรูปร่างหน้าตาเป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว อาชีพการงาน สถานะทางการเงิน ล้วนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ ไม่เสียแรงเสียเวลาในการสืบสานความสัมพันธ์ที่ดีต่อไปในอนาคต ไม่ว่าด้านไหนก็สมบูรณ์แบบไปหมด เสียอย่างเดียวตรงที่มีคู่หมั้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเธอ ไม่ว่าบุรุษใดจะใจแข็งสักแค่ไหน ก็ไม่เคยมีใครต้านทานเสน่ห์ที่เย้ายวนของเธอได้เลยสักคนถึงแม

    Last Updated : 2025-03-16

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (3) : อิดรีส / ไลลา

    ค่ำคืนแห่งพระเกียรติ ถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ณ พระราชวังขององค์สุลต่าน งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพถูกเนรมิตขึ้น อย่างวิจิตรตระการตา ทุกซอกทุกมุมของพระราชวังส่องประกายด้วยโคมไฟแก้วเจียระไนระยิบระยับ พรมแดงทอดยาวจากบันไดสู่โถงต้อนรับ โต๊ะอาหารเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ พร้อมเครื่องเงินแท้ที่ขัดเงาจนแวววาว เมนูรสเลิศจากเชฟมิชลิน ถูกเสิร์ฟแบบคอร์ส เคียงคู่กับเครื่องดื่มชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลก ขับกล่อมด้วยเสียงดนตรีออร์เคสตร้า ที่บรรเลงอย่างไพเราะ ทำให้ค่ำคืนนี้ สมพระเกียรติขององค์สุลต่านอย่างถึงที่สุด บรรดาผู้นำจากนานาประเทศ และทูตานุทูต ต่างตบเท้าเข้าร่วมงาน แขกเหรื่อล้วนเอ่ยปากชื่นชม ถึงบรรยากาศที่ได้รับการจัดเตรียมมาอย่างไร้ที่ติ และผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงานนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เจ้าหญิงไลลา สตรีหมายเลขหนึ่ง พระชายาของเจ้าชายอิดรีส ผู้ลงมาดูแลทุกอย่างด้วยตนเอง อย่างละเอียดถี่ถ้วน บางคนถึงกับกล่าวชมต่อหน้าเจ้าชายอิดรีส ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้เขาจะยังคงยืนสงบนิ่งในท่าทีสุขุมเช่นเคย แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ตนเลือกคู่ครองไม่ผิด สายตาของอิดรีส

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (2) : หินพ่อมดลาบราดอไลต์

    แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่รินรดา พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้ และไกลในเวลาเดียวกัน“ถึงเวลาแล้ว...จงทำตามสัญญา!”รินรดารู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังล่องลอย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ตกลงไปในความเวิ้งว้างอันไร้จุดสิ้นสุด เธอพยายามมองหาเจ้าของเสียงแต่ไม่พบใครเธอหลับตาลงแล้วทันใดนั้น ภาพอดีตของเธอเมื่ออายุสิบห้าปีก็ย้อนกลับมา เธอเห็นตัวเองยืนอยู่หน้าหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในห้องลับใต้พระราชวัง ความศักดิ์สิทธิ์ของมันทำให้เธอรู้สึกได้ ถึงพลังลี้ลับที่ซ่อนอยู่ภายใน เธอท่องบทสวดที่แอบจดจำไว้ พร้อมกับอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิต นั่นคือ..การตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็เริ่มฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งถึงปัจจุบันเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองยืนอยู่ในอุโมงค์ที่ทอดยาวไปสู่แสงสว่างที่อยู่เบื้องหน้า เธอรู้ว่านี่คือจุดที่ผู้ตายต้องเดินผ่านไปยังภพหน้า แต่แล้วเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง“รินรดา เธอยังมีสิทธิ์เลือกเส้นทางของตนเองอยู่นะ”เบื้องหน้าของเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (1) : พิธีนิกะฮ์

    ค่ำคืนแห่งความสุขมาถึง... ท้องฟ้ายามราตรีของอาณาจักรเปเรซประดับไปด้วยแสงจันทร์และดวงดาวระยิบระยับ ขณะที่ปราสาทหลวง ถูกประดับด้วยผ้าม่านสีขาว และทอง ลวดลายอาหรับอันวิจิตร เจิดจรัสด้วยแสงไฟนวลอบอุ่น ของไฟระย้าคริสตัลสะท้อนแสง จนดูงดงามราวสรวงสวรรค์ ดอกไม้หายากจากทั่วทั้งอาณาจักร ถูกจัดวางประดับประดาไปทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่งดงาม ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย ภายในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง พรมเนื้อละเอียดทอดยาวตั้งแต่ประตูไปจนถึงแท่นพิธี โต๊ะเลี้ยงอาหารค่ำประดับด้วยผ้าปักทอง ดอกกุหลาบและลิลลี่ขาวบริสุทธิ์ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ตัดกับแสงเทียนที่กระพริบไหว ม่านบางเบาปลิวไสวไปตามสายลมเย็นของค่ำคืน พระราชพิธีอภิเษกสมรส ถูกจัดขึ้นตามขนบธรรมเนียม เป็นพิธีนิกะห์อันศักดิ์สิทธิ์ของโมเสลม ภายใต้กฎหมายชารีอะห์ และธรรมเนียมของราชวงศ์ ซึ่งแสดงถึงความงดงาม และเปี่ยมไปด้วยความหมาย นักวิชาการศาสนา(อุละมาอ์) ผู้ประกอบพิธี นั่งอยู่บนแท่นหินอ่อน ด้านข้างมีพยานฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พร้อมด้วยบุคคลสำคัญจากราชวงศ์และข้าราชบริพาร เจ้าชายอิสราร์ ประทับยืนในชุดทางการขององค์มกุฏราชกุมาร เสด็จเข้ามายังแท่นพิธี พระอ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 100 : การมา..ที่คาดไม่ถึง

    บรรยากาศภายในพระราชวังเปเรซวันนี้ เต็มไปด้วยความสงบและเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง ครบหนึ่งร้อยวันแห่งการจากไปของเจ้าหญิงรินรดา องค์สุลต่านทรงมีพระราชดำริให้จัด ‘โรงทานขนาดใหญ่’ เพื่อแจกจ่ายอาหาร และสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ถือเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ ภายในโรงทานถูกจัดขึ้นอย่างเป็นระเบียบ เต็นท์ขนาดใหญ่ถูกกางเรียงรายภายในลานกว้างของลานพิธีหน้าพระราชวัง โต๊ะยาวหลายตัวถูกตั้งไว้ สำหรับแจกจ่ายอาหารร้อนที่ปรุงสำเร็จ และขนมหวานอาหรับ เช่น บาสบูซาและกุนาฟา รวมถึงน้ำดื่มเย็นๆ สำหรับประชาชนที่มาร่วมรับแจกอาหาร บรรดาข้าราชบริพาร และอาสาสมัครจากประชาชน ต่างช่วยกันแจกจ่ายด้วยรอยยิ้ม แม้จะเป็นวันแห่งความอาลัย แต่ทุกคนก็เต็มใจทำความดี เพื่อเป็นบุญกุศล ให้แก่เจ้าหญิงผู้ล่วงลับ นอกจากอาหารแล้ว ยังมีจุดแจกอาหารแห้ง และของใช้จำเป็น เช่น อินทผลัม ข้าวสาร น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส สบู่ และยาสามัญ เพื่อให้ผู้ยากไร้สามารถนำกลับไปใช้ที่บ้านได้ ภายในงานยังมีแพทย์อาสา คอยตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้กับประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการช่วยเหลือสังคม ที่เจ้าหญิงรินรดาเคยผลักดั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 99 : เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อันฟูลัน

    เสียงไซเรนรถพยาบาลแผดก้องไปทั่วท้องถนน แต่รามิลไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น หูของเขาอื้อไปหมด มีเพียงเสียงลมหายใจบางเบาของรินรดา ที่กำลังแผ่วลงทุกขณะ เป็นสิ่งเดียวที่เขากำลังโฟกัส เลือดของเธอเปรอะเปื้อนเต็มมือเขา ลามไปตามแขนเสื้อ แผ่นอก และหยดลงเป็นทางบนเปลพยาบาล ร่างเล็กที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับนอนแน่นิ่ง แต่ถึงอย่างนั้น เธอยังคงยิ้มให้เขา “คุณ..รามิล…” เสียงของเธอเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน “รดา! เดี๋ยวเราก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว… แค่ทนไว้ก่อนนะรดา อย่าหลับนะ ได้ยินผมไหม!?” รามิลกุมมือหญิงสาวแน่น น้ำเสียงสั่นเครือ ความกลัวถาโถมเข้าใส่จนเขาหายใจแทบไม่ออก รินรดาไอออกมาเป็นเลือด ก่อนจะระบายลมหายใจบางเบา “ท่านพี่… ปลอดภัยไหม?” หัวใจของรามิลเหมือนถูกบีบจนแหลกสลาย เธอกำลังอาการสาหัส แต่ยังเป็นห่วงพี่ชายมากกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก “ปลอดภัย! เขาปลอดภัย..” รามิลเม้มริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นสะอื้น “ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องเสี่ยงขนาดนี้ด้วยฮึ!?” “เพราะเขาคือ… พี่ชายของฉัน” รินรดายิ้มจางๆ เสียงเธอขาดหายเป็นช่วงๆ เปลือกตาของเธอหนักอึ้งลงทุกที “รดา! อย่าหลับนะ! มองผมสิ มองผม!” มือของเธอใน

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 98 : มือสังหาร

    เสียงโกลาหลของฝูงชนยังคงดังก้องทั่วลานพิธี แต่แล้วจู่ๆ ผู้คนก็เริ่มแหวกออกเป็นสองทาง ราวกับคลื่นน้ำที่ถูกแบ่งออกโดยพลังที่มองไม่เห็น ท่ามกลางช่องว่างที่เปิดออก ปรากฏร่างของชายคนหนึ่ง เขายืนอยู่ในเงามืด แฝงตัวอยู่ในกลุ่มประชาชนที่กำลังแตกตื่น ในมือของเขากำปืนไรเฟิล ที่บรรจุกระสุนเจาะเกราะแน่น สายตาคมกริบกวาดไปรอบบริเวณอย่างระแวดระวัง ก่อนจะกลับมาตรึงอยู่ที่เป้าหมาย บุรุษผู้ตายยากที่สุดเท่าที่เขาเคยสังหารมา ร่างสูงสง่าของเจ้าชายอิสราร์ ยืนเด่นอยู่บนลานพิธียกพื้น ราวกับถูกจัดวางให้อยู่ในระยะยิงอย่างเหมาะเจาะ โอกาสมีเพียงครั้งเดียว ทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด และต้องสร้างผลกระทบที่รุนแรงที่สุด ถ้าจะต้องถูกจับหลังจากเหนี่ยวไก อย่างน้อยก็ขอให้มันได้ตาย..เพื่อสังเวยผู้ที่ข้ารักและเคารพเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ที่สมควรได้รับทุกสิ่งที่ปรารถนาบนโลกใบนี้!! “ตอนนี้แหละ!!” อาซีฟพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบยกปืนขึ้น ปึ่ก! แรงกระชากอย่างรุนแรง ทำให้ปืนในมือของอาซีฟหายไปในพริบตา เขาตวัดสายตาไปด้านข้าง แววตาเปลี่ยนเป็นโทสะสีเข้มจัด แต่แล้วเขาก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่ชิงอาวุธไปจากมือเขา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 97 : ถูกเปิดโปง

    ท้องฟ้าเหนือลานพิธี ถูกย้อมด้วยแสงสีทองของอาทิตย์ยามสายัณห์ แต่ภายใต้ความสว่างนั้น กลับอบอวลไปด้วยบรรยากาศอันหนักอึ้ง เสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบา ของประชาชนเริ่มดังขึ้นเป็นระลอก เมื่อหญิงสูงศักดิ์ผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในบริเวณลานพิธีอย่างสง่างาม พระชนนีแห่งเปเรซ ทรงฉลองพระองค์อย่างวิจิตร แต่ละย่างก้าวของพระนางแผ่รัศมีแห่งอำนาจ ทรงเชิดพระพักตร์เล็กน้อย ดวงเนตรเจิดจ้า เต็มไปด้วยความแน่วแน่และภาคภูมิ เสียงกระซิบเริ่มดังขึ้นทีละน้อย จากวงนอก ค่อยๆ แพร่กระจายออกไป “พระชนนีเสด็จ!” “พระนางมาเพื่อกอบกู้เปเรซ!” “พระมารดาของพวกเรา!” เสียงเรียกขานพระนามดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ มีเสียงโห่ร้องต้อนรับทุกที่ที่พระนางก้าวย่างผ่านไป ราวกับคลื่นมหาชนที่กำลังโหมกระหน่ำ พระชนนีทอดพระเนตรภาพตรงหน้าแล้ว ไม่อาจห้ามรอยแย้มสรวลที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ พระนางประสบความสำเร็จแล้ว ประชาชนกำลังเทิดทูนพระองค์ และนี่คือโอกาส ที่พระองค์จะประกาศตน ในฐานะผู้นำที่จะกอบกู้เอกราชของชาวเปเรซ จากเงื้อมมือแห่งความอยุติธรรม ขององค์สุลต่าน แต่แล้ว... เสียงอื้ออึงของฝูงชนก็เปลี่ยนไป จากเสียงเชียร์เป็น

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 96 : แย่งชิงข้อมูล(2)

    “ดูเหมือนพวกเราจะมาผิดงานแล้วล่ะ?” พริมโรสพูดพลางกวาดตามองรอบตัว พวกนักโทษที่ตามมาหยุดเดินทันที มองหน้ากันเลิ่กลั่ก เห็นได้ชัดว่าการกระโจนเข้ากลางวงล้อม ของมือสังหารกับตำรวจที่ติดอาวุธครบมือไม่ใช่แผนที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา “เอ่อ..พวกเรา… ฉันว่าเราควรจะให้พวกเขาจัดการกันเองไหม?” นักโทษคนหนึ่งกระซิบกับพรรคพวก “ใช่ๆ เรามันแค่คนผ่านทางมา อย่าไปขวางมือขวางเท้าพวกเขาเลย” อีกคนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่คนอื่นๆ จะค่อยๆ ถอยออกห่างกลุ่มลูกพี่ ไปรอดูอยู่รอบนอก พริมโรสเดินนำเตวิชกับจักรินข้ามถนนมา แล้วเดินทะลุเข้าไปกลางวงล้อมที่กำลังตึงเครียดอย่างไม่รู้สึกรู้สา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มอยู่บนริมฝีปาก ก่อนจะปรายตามองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรินรดา “โอ๊ะ!” พริมโรสยกมือเท้าสะเอว “นี่รุ่นพี่กลายเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปแล้วหรอ?” รามิลเลิกคิ้ว หัวเราะเบาๆ“แล้วทำไมสภาพเธอ ถึงเหมือนคนหลงทางอย่างนี้ล่ะ?” พริมโรสหัวเราะออกมา “ฉันเดินมาไกลมากเลยนะ จากพระราชวังมาถึงโรงพยาบาลนู่นน่ะ” “นี่!..เอาไว้ค่อยทักทายกันทีหลังได้ไหม พวกเรายังติดอยู่ในวงล้อมอยู่นะ!” เตวิชพูดเสียงเครียด สายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มคนร

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 95 : แย่งชิงข้อมูล(1)

    “ยังมีเรื่องด่วนอีกเรื่องนึงค่ะ หน่วยข่าวกรองแจ้งมาว่ามีสายลับคนหนึ่ง ต้องการพบบอสเป็นการส่วนตัวด่วน เขาอ้างว่ามีรายงานลับจากองค์สุลต่าน ส่งถึงบอสโดยตรงค่ะ”“องค์สุลต่าน?” รินรดาค่อนข้างแปลกใจ ร้อยวันพันปีไม่เคยมีเรื่องมีราวให้ต้องติดต่อกัน แต่ครั้งนี้กลับส่งสารมาถึงเธอโดยตรง “นี่ค่ะ สถานที่นัดพบ” เลขาปัดแท็บเล็ตบนมือนายสาว เพื่อให้ดูพิกัดของจุดนัดพบ รามิลเดินมาหยุดยืนข้างหลัง สายตาเหลือบมองในแท็บเล็ต ก่อนเอ่ยเสียงเครียด“คุณจะไปหรือไง?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย“คงต้องไปค่ะ เขาอาจจะติดต่อท่านพี่ไม่ได้ จึงต้องส่งผ่านมาทางฉัน” “แน่ใจได้ยังไงว่าไม่มีอะไรที่ซับซ้อน? รามิลจ้องหญิงสาวเขม็ง จนเธอถอนหายใจเบาๆ “บอกตามตรงว่าไม่แน่ใจเลย เขาเป็นมนุษย์ที่เซ้นส์ผู้หญิงอย่างฉัน ไม่เคยตรวจจับอะไรได้เลย”“งั้นผมจะไปด้วย ผมเป็นห่วงคุณ”“ฉันก็เป็นห่วงคุณเหมือนกันนะคะ คุณเป็นชาวต่างชาติ ฉันไม่อยากให้มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับคุณ ฉันเติบโตที่นี่ รู้ทางหนีทีไล่ดีกว่า ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลหรอกค่ะ คุณรอท่านพี่อิดรีสอยู่ที่นี่เถอะนะคะ”“ไม่กังวลได้ยังไง เครือข่ายในเมืองถูกทำลาย แล้วผมจะติดต่อกับคุณยั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status