Share

บทที่ 391

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update Last Updated: 2024-12-09 18:00:00
เลือดสีแดงสดพุ่งออกมา!

เขาตกใจสิ้นสติจนมิสนใจที่จะห้ามเลือด และทำได้เพียงใช้วิชาตัวเบารีบเผ่นหนีไป

……

“องค์รัชทายาท มิเป็นอะไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ตงฟางไป๋รีบไปช่วยประคองฉินซูขึ้นมา

ฉินซูโบกมือ “ข้ามิเป็นไร”

เขาเดินมาหาเซี่ยหลาน และกดจุดเหรินจง[footnoteRef:0]ของนางเพื่อให้นางสงบจิตใจ [0: จุดเหรินจง อยู่เหนือปาก ใต้จมูก บรรเทาอาการคัดจมูก และทำให้สงบจิตใจได้]

อีกฝ่ายที่ส่งเสียงอุทานเบาก่อนจะตื่นขึ้นมา

“องค์รัชทายาท หม่อมฉัน...”

ตอนแรกเซี่ยหลานรู้สึกสับสนงุนงง แต่ในมิช้านางก็นึกถึงเรื่องที่มีผีหลอก และใบหน้าที่งดงามของนางก็ซีดลงอีกครั้ง

ฉินซูรีบปลอบ “ไม่มีอะไรแล้ว ผีและปีศาจพวกนั้นล้วนเป็นฝีมือมนุษย์ที่ปลอมตัวมา และอีกฝ่ายก็ถูกกู้เสวี่ยเจี้ยนทำร้ายจนหนีไปแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ตงฟางไป๋พูดด้วยสีหน้าชื่นชม “ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยน คาดมิถึงเลยจริง ๆ ว่าวรยุทธ์ของท่านจะแข็งแกร่งมากจนสามารถทำร้ายปีศาจเฒ่าเย่ชางสิงได้!”

“นั่นสิ ตอนที่เผชิญหน้ากับปีศาจเฒ่านั่น ข้าก็คิดว่าคืนนี้พวกเราคงต้องแย่แน่ ๆ ขอบคุณพี่หญิงมาก!”

สวีเซี่ยงเฉียนก็ดีอกดีใจ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 392

    เย่ชางสิงพูดเสียงขรึม “ข้าประมาทเกินไป ข้างกายองค์รัชทายาทไร้ค่านั่นมียอดฝีมือคอยช่วยเหลืออยู่!”“ยอดฝีมือแบบใดกัน? แม้แต่เจ้าก็ยังประมือด้วยมิได้น่ะรึ?”คูมู่ขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย“เฮ้อ อย่าพูดถึงเลย ข้ามิเห็นแม้แต่เงาของมันด้วยซ้ำ ว่าแล้วก็แปลก เห็น ๆ กันอยู่ว่าแม่นางจากเจ้าสำนักหอดูดาวหลวงนั่นมีวรยุทธ์ที่ด้อยกว่าข้าหนึ่งระดับ แต่นางกลับสามารถทำลายวิชาพรางตัวของข้าได้หลายครั้ง แล้วยังต่อสู้กับข้าได้อย่างสูสี วันนี้ช่างโชคร้ายเสียจริง”ยิ่งเย่ชางสิงพูดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจมากเท่านั้นเขาเป็นถึงนักเล่นแร่แปรธาตุที่ภาคภูมิใจในวิชาเคลื่อนไหวแปลก ๆ ของตนนั้นกลับไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้เสวี่ยเจี้ยน เช่นนี้จะทำให้เขามิหงุดหงิดได้อย่างไรสีหน้าของคูมู่เปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมกับพูดพึมพำ “สามารถสู้กับเจ้าได้อย่างสูสีเช่นนี้ก็มิแปลกที่จะเป็นศิษย์ของเจ้าสำนักหอดูดาวหลวง หากเป็นเช่นนั้น พวกเราก็คงจะมิสามารถปะทะกับพวกเขาตรง ๆ ได้”“แน่นอนว่าทำมิได้ มิต้องพูดถึงว่าแม่นางนั่นจะมีหนทางอื่นอีกหรือไม่ เพราะเพียงแค่คนที่ลงมือลอบทำร้ายข้าในเงามืดก็ต่อกรได้ยากมากแล

    Last Updated : 2024-12-09
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 393

    ฉินซูไพล่มือไว้ด้านหลังแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”คูมู่หัวเราะและพูดว่า “เย่ชางสิง พวกเราสองคนเป็นถึงยอดฝีมือ ข้างนอกมีคนหรือไม่ไยต้องถามอีกเล่า แต่คงต้องบอกว่าองค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้ใจเด็ดใช้ได้ ถึงได้กล้าโยนตัวเองเข้ามาในกับดัก เป็นเช่นนี้ก็ดี มิเป็นไร ช่วยให้พวกเราเหนื่อยน้อยลงได้มากทีเดียว ฮ่า ๆ ๆ !”เย่ชางสิงพูดเสียงทุ้ม “คูมู่ องค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดผู้นี้มิใช่คนโง่ หากเขาไม่มีที่พึ่งพา เขาจะกล้ามาที่ค่ายป้องกันขวงเฟิงเพียงลำพังเช่นนี้หาปะไรเล่า?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสียงหัวเราะของคูมู่ก็หยุดลงทันที!เขาทำสีหน้าเคร่งขรึมพลางมองไปรอบ ๆ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้างหลังจากยืนยันจนแน่ใจว่าไม่มีใครอื่นนอกจากฉินซู เขาก็สับสนงุนงงอีกครั้งองค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้กล้าบุกมาหาเรื่องถึงที่นี่เพียงลำพังได้อย่างไร?ขณะนั้นเองฉินซูก็เอ่ยปาก!“เจ้าสองคนมาที่นี่ตามคำสั่งของใคร?”เมื่อเห็นฉินซูมีท่าทีสงบและผ่อนคลาย คูมู่ก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดแผกไปมากขึ้นเรื่อย ๆเขามิตอบฉินซู เพียงแต่พูดกับเย่ชางสิง “เพื่อความปลอดภัย พวกเรามาร่วมมือกันเพื่อหลีกเลี่ยงค่ำคืนที่ยาวนาน

    Last Updated : 2024-12-10
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 394

    หลังจากที่คูมู่ได้สติ เขาก็คว้ามือของฉินซูด้วยมือทั้งสองข้าง และพยายามดึงมือของอีกฝ่ายที่จับคอของเขาออกแต่ในมิช้า เขาก็ตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อพบว่า มิว่าจะพยายามเพียงใด เขาก็มิสามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของฉินซูได้ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลานี้ กำลังภายในของเขายังหมุนเวียนมิราบรื่น!เมื่อรับรู้ได้ถึงเหตุการณ์แปลก ๆ เขาก็ทำสีหน้าหวาดกลัวกว่าเดิม“ปล่อย ปล่อยพวกข้าเดี๋ยวนี้!”“ปล่อยพวกเจ้ารึ? หึ ๆ ได้สิ แต่ต้องตอบคำถามของข้าก่อน!”คูมู่ถามอย่างใจเย็น “เจ้าอยากถามอะไร?”ฉินซูถามเสียงเย็น “ผู้ใดส่งพวกเจ้ามาลอบสังหารข้า?”“อ๋องหนิง!”คูมู่ตอบอย่างมิลังเลเย่ชางสิงพยักหน้ารัว ๆ “ถูกต้อง เป็นอ๋องหนิง”“หึ มิยอมพูดความจริงสินะ ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะยังมิเข้าใจสถานการณ์!”ดวงตาของฉินซูค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาค่อย ๆ ออกแรงที่มือและนิ้วทั้งสองข้าง ๆ!“กร๊อบ!”คอของคูมู่และเย่ชางสิงส่งเสียงลั่นชั่วขณะนั้น ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีแดง มีเส้นเลือดโผล่ขึ้นมาบนหน้าผาก และดวงตาของพวกเขาก็เริ่มแดงก่ำความรู้สึกหายใจมิออกอย่างรุนแรงทำให้พวกเขาแทบจะหมดสติขณะนั้น คูมู่ก็เอ่ยปากพูดอย่างยากลำบาก

    Last Updated : 2024-12-10
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 395

    ทั้งสองรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวตรงจุดตันเถียน จากนั้นพวกเขาก็ตกใจเมื่อพบว่ามีลมปราณที่อันตรายอยู่ในจุดตันเถียนของตน!หลังจากรู้สึกถึงพลังลมปราณอันน่าตกตะลึงนี้ พวกเขาทั้งคู่ก็กลัวจนวิญญาณแทบหลุดไปจากร่าง!หากลมปราณนี้ระเบิดขึ้นมา ทั้งสองได้ตายอย่างมิเหลือซากแน่นอน!เย่ชางสิงถามด้วยตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง “องค์รัชทายาท นี่ท่าน…”ฉินซูพูดสั้น ๆ ได้ใจความ “หากเชื่อฟังก็จะมิตาย มิเช่นนั้นก็ต้องตาย!”“องค์รัชทายาท พวกเราสัญญาว่าจะเชื่อฟัง ขอท่านโปรดทรงเมตตาให้อภัย…”ยังมิทันที่คูมู่จะพูดจบ ฉินซูก็โบกมือ “แค่มิกำจัดพวกเจ้าในทันทีก็ถือว่าข้าเมตตามากแล้ว หากต้องการมีชีวิตรอด ก็จงทำตามที่ข้าบอกเสีย!”มาถึงจุดนี้ คูมู่และเย่ชางสิงก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับเท่านั้น“องค์รัชทายาทรับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ พวกเราสัญญาว่าจะทำทุกอย่างที่ท่านพูด”“จงกลับไปพำนักที่โรงสุราบัณฑิตในเมืองหลงเฉิง รอข้ากลับไปก่อน หลังจากนั้นย่อมมีเรื่องให้จัดการแน่!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น คูมู่ก็ถามอย่างกังวลใจ​ “องค์รัชทายาท ท่านจะกลับเมืองหลงเฉิงเมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ก่อนที่ท่านจะกลับไปถึง ลมปราณในร่างกายของพวกเราคงจะมิร

    Last Updated : 2024-12-10
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 396

    เป็นบุรุษผู้หนึ่งที่มีอายุราว ๆ สามสิบกว่าเขาเป็นบุรุษรูปงามมีบุคลิกที่สดใสร่าเริง แต่งกายด้วยชุดสีขาว พร้อมถือกระบี่ยาวในมือฝักกระบี่ยาวนั้นฝังอัญมณีเจ็ดเม็ดเรียงกันเป็นรูปกลุ่มดาวนายพรานคนผู้นี้ที่แท้ก็คือสวีหลาย ศิษย์พี่รองของตู๋กูโฉ่วเยวี่ย!หลังจากที่เขาออกมาจากป่า เขาก็มองไปยังทิศทางที่ฉินซูและคนอื่น ๆ เดินทางไปด้วยความมิแน่ใจโดยมิรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ขณะนั้น ก็มีเสียงใส ๆ ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาจากด้านหลัง“สามี เรื่องต่อจากนี้ท่านมิต้องยื่นมือเข้ามาแล้ว ให้ข้าเป็นคนจัดการก็พอ”หลังจากสิ้นคำพูด สตรีร่างสูงที่ยังสาวก็เดินออกมาอย่างช้า ๆสตรีผู้นี้มีใบหน้าที่งดงาม ริมฝีปากสีแดง ฟันขาว และเมื่อดูสีหน้าแลดูองอาจน่าเกรงขามนั่นคือเฉิงอิง ภรรยาของสวีหลายและบุตรีของเจ้าสำนักกระบี่สักการะสวีหลายหันกลับมายิ้มให้นาง “ในเมื่อข้ารับปากท่านพ่อตาไว้แล้ว จะผิดคำพูดมิได้เด็ดขาด”“แต่กู้เสวี่ยเจี้ยนเป็นอดีตศิษย์น้องหญิงของท่าน ข้าทนมิได้หรอกที่จะให้ท่าน…”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ สวีหลายก็ขัดจังหวะ“มันมิสำคัญเลย ภารกิจของกู้เสวี่ยเจี้ยนคือการคุ้มกันองค์รัชทายาท แต่จุดประสงค์ในการ

    Last Updated : 2024-12-10
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 397

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามว่า “ด้านหน้าเป็นอย่างไรบ้าง?”“พวกเราสำรวจสันเขาเฮยเฟิงไปแล้วหนึ่งรอบ ทางนั้นไม่มีคนอยู่เลยขอรับ!”“ไม่มีคน?” กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความสงสัย “พวกเจ้าสำรวจละเอียดแล้วใช่หรือไม่?”ตงฟางไป๋พูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเราสำรวจทั่วแล้ว มิเพียงแค่ที่สันเขาเฮยเฟิง แม้แต่ในค่ายป้องกันขวงเฟิงก็ไม่มีใครอยู่ขอรับ”สวีเซี่ยงเฉียนพูดเสริม “ถูกต้องแล้วท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยน ประตูใหญ่ของค่ายป้องกันขวงเฟิงเปิดอยู่ พวกเราไปเดินสำรวจข้างในโดยรอบ แต่ก็มิเจอใครเลย”“แปลกจริง เมื่อวานพวกโจรป่าจากค่ายป้องกันขวงเฟิงก็พูดเอาไว้มิใช่หรือว่าพระภิกษุรูปนั้นยึดบ้านของพวกเขา? ค่ายป้องกันขวงเฟิงใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีคนอยู่ได้อย่างไร?”“พวกเราก็มิแน่ใจ”กู้เสวี่ยเจี้ยนอยากจะถามอะไรเพิ่ม แต่ฉินซูก็โบกมือแล้วพูดว่า “บางทีพระภิกษุรูปนั้นอาจเจออะไรเข้าจึงรีบจากไปก่อน ไหน ๆ เขาก็มิอยู่แล้ว เราก็อาศัยโอกาสนี้รีบผ่านสันเขาเฮยเฟิงไปจะดีกว่า เช่นนี้ก็จะได้ช่วยลดความยุ่งยากลงไปได้บ้าง”ถานเหวยพยักหน้าเห็นด้วย “สิ่งที่องค์รัชทายาทกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว หากมีปัญหาน้อยลง พวกเราก็จะสามารถไปถึงเมืองเหลีย

    Last Updated : 2024-12-11
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 398

    “เสวี่ยเจี้ยน!”เซี่ยหลานร้องอุทานและคิดจะไปรับทว่าฉินซูนั้นเร็วกว่านาง!ฉินซูพุ่งไปคว้าเอวของกู้เสวี่ยเจี้ยนเอาไว้ก่อนที่นางจะกระแทกพื้นฉินซูก้มมองและเห็นว่าดวงตาของกู้เสวี่ยเจี้ยนปิดสนิท ใบหน้าที่งดงามซีดเซียวนัก ลมปราณของนางผันผวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่เขาขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบอาการเช่นนี้เซี่ยหลานถามอย่างร้อนใจ “องค์รัชทายาท เสวี่ยเจี้ยนเป็นอะไรหรือเพคะ?”“ข้าจะไปรู้หรือ!”ฉินซูประคองกู้เสวี่ยเจี้ยนให้นั่งพิงหีบแล้วสะกิดหน้านางเบา ๆ“กู้เสวี่ยเจียน เจ้าเป็นอะไรไป? รีบฟื้นขึ้นมา”ทว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ!ขณะนั้น ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็พากันล้อมเข้ามาเมื่อสังเกตเห็นว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนหมดสติไป พวกเขาทุกคนก็เริ่มวิตกกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสวีเซี่ยงเฉียนและคนอื่น ๆ เพราะในสายตาของพวกเขา กู้เสวี่ยเจี้ยนคือผู้ที่มีวรยุทธ์แก่กล้าที่สุดในคณะเดินทางนี้หากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับนาง แล้วทางข้างหน้าต้องพบเจออันตรายใด ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากถานเหวยถามว่า “องค์รัชทายาท ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยนคงมิได้รับบาดเจ็บในตอนที่ต่อสู้กับเย่ชางสิงเมื่อคืนนี้หรอกใช่หรื

    Last Updated : 2024-12-11
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 399

    ฉินซูหรี่ตามองลึกเข้าไปในดวงตาของกู้เสวี่ยเจี้ยนเขารู้ดีว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนกำลังโกหก แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนมีเรื่องในใจที่ยากจะพูดออกมา เขาก็มิอยากถามอะไรต่อเซี่ยหลานรู้สึกสับสนเล็กน้อย “เสวี่ยเจี้ยน อาจารย์ของเจ้าเป็นถึงเจ้าสำนักหอดูดาวหลวง เขามีวรยุทธ์ที่แก่กล้าถึงเพียงนั้น แต่กลับช่วยเจ้าแก้ปัญหานี้มิได้หรือ?”“ยาลูกกลอนนี้อาจารย์เป็นผู้กลั่นให้ข้า ขอเพียงข้ากินตรงเวลาก็จะไม่มีปัญหาร้ายแรง แต่วันนี้ข้าดันลืมกินเสียได้”“เช่นนี้นี่เอง อย่างนั้นคราวหน้าอย่าลืมกินยาให้ตรงเวลาเล่า เมื่อครู่ทำเอาพวกข้ากลัวแทบแย่”กู้เสวี่ยเจี้ยนตอบรับเสียงอืมและมิพูดอะไรอีกขณะนั้นเอง เซี่ยหลานก็อุทานออกมาว่า “เสวี่ยเจี้ยน เหตุใดที่ไหล่ของเจ้าถึงมีเลือดออก?”กู้เสวี่ยเจี้ยนมองลงไปก็เห็นว่าอาภรณ์ด้านหน้าตรงไหล่ซ้ายเปื้อนสีแดงและมีเลือดไหลออกมา“ดูเหมือนว่าแผลจะเปิด เซี่ยหลาน ช่วยทายาทำแผลให้ข้าหน่อยสิ”“หา? เจ้าได้รับบาดเจ็บจริง ๆ หรือ?!” เซี่ยหลานรู้สึกประหลาดใจ!กู้เสวี่ยเจี้ยนส่ายหัวเบา ๆ “เป็นแผลเก่าเมื่อหลายวันก่อน ไม่มีอะไรหรอก”“เช่นนั้นก็ไปตรงโน้นกัน”ขณะที่เซี่ยหลานกำลังจะพยุ

    Last Updated : 2024-12-11

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 494

    หนึ่งชั่วยามต่อมาฉินซูและคนอื่น ๆ กลับมาถึงที่ว่าการอำเภอเหรากู่ พบว่ามีเหล่าเจ้าหน้าที่จำนวนมากมุงล้อมรอบอยู่หน้าประตูที่ว่าการอำเภอ ถานเหวยจึงเอ่ยถาม "ใต้เท้าเว่ย เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"ผู้ว่าการเว่ยเห็นฉินซูและคนอื่น ๆ กลับมาก็รีบรุดหน้าเข้ามาพบเขาดูตื่นตระหนกอย่างมากและกล่าวขึ้น "องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ผู้ตรวจการของเราถูกสังหารไปหลายคน ส่วนใต้เท้าเซี่ยเองก็ถูกคนชั่วนั่นจับตัวไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ!"“ว่ากระไรนะ?!”ฉินซูเปลี่ยนสีหน้า ถามเสียงเข้มว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”“ข้าน้อยเองก็มิทราบรายละเอียดนัก แต่คนร้ายได้เขียนข้อความทิ้งไว้ตรงหน้าประตูที่ว่าการอำเภอ หากพระองค์...”มิทันพูดจบ ฉินซูก็ก้าวยาว ๆ ผ่านฝูงชนตรงไปตรงหน้าประตูที่ว่าการอำเภอบนประตูมีข้อความถูกจารึกไว้อย่างแข็งแกร่งและทรงพลัง "ฉินซู หากอยากช่วยสตรีของเจ้าก็จงมาที่ลานหินแตกนอกเมือง หากเจ้ามิมาถึงก่อนอาทิตย์ตกดินก็รอรับศพสตรีของเจ้าซะ!"เมื่อเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของฉินซูก็ดุดันน่าสะพรึงกลัวกู้เสวี่ยเจี้ยนเหลือบมองฉินซูอย่างสงสัยเล็กน้อย จากนั้นก็จึงดึงปิ่นปักผมที่ปักไว้บนประตูออกมาหลังจากพินิจปิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 493

    ผู้ตรวจการที่ประจำอยู่หน้าประตูมองเห็นชายผู้นั้น ก็เอ่ยถามขึ้น “ท่านลุง มีเรื่องอะไรจะมาแจ้งความหรือ?”ชายชราผู้มีผมขาวแต่ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สวมเสื้อคลุมสีเทา มิใช่ใครอื่นนอกจากซือคงเหยียน!เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "องค์รัชทายาทอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอของพวกเจ้าหรือไม่?"ผู้ตรวจการหลายคนสบตากัน ก่อนที่หัวหน้ากลุ่มจะถามกลับด้วยความระมัดระวัง "ท่านเป็นใคร เหตุใดจึงสอบถามเรื่องนี้?"แววอำมหิตฉายไปทั่วใบหน้าของซือคงเหยียน มือใหญ่ของเขาพลันยื่นออกมา!เพียงชั่วพริบตา เขาก็คว้าคอผู้ตรวจการคนนั้นเอาไว้!ทันใดนั้นสีหน้าของคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไป ทุกคนต่างชักดาบออกมา!“ปล่อยหัวหน้าของเราเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นพวกเราจะมิเกรงใจแล้ว!”ซือคงเหยียนเหลือบมองพวกเขาและพูดอย่างหยามหยัน "แมลงตัวกระจ้อย ยังกล้าตะโกนใส่หน้าข้า ช่างมิรู้จักความตายเสียแล้ว!"สิ้นเสียงพูด เขายกมืออีกข้างออกมาตบผู้ตรวจการคนนั้นผ่านอากาศ!ลมปราณที่รวดเร็วสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของเขา!ผู้ตรวจการหลายคนยังมิทันได้ขยับตัวก็ถูกแรงฝ่ามือนั้นซัดปลิวไปไกลถึงสี่หรือห้าจั้ง ก่อนจะตกกระแทกพื้นอย่างแรงหลังจากที่พวกเขาล้มลงกับ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 492

    ดวงตาของซือคงเหยียนฉายแววสังหาร จากนั้นเขาก็เริ่มค้นหาภายในป่าแต่หลังจากค้นหาอยู่นานก็มิพบอะไรเลยสีหน้าของเขาหม่นมืดลึกลับ และพึมพำกับตัวเอง“ทั่วทั้งป่ามีเพียงตรงนี้ที่มีเลือดของจื่อชิน แต่ว่าศพของเขาไปอยู่ที่ใดกัน? ต่อให้ถูกพวกปีศาจภูเขากิน ก็เป็นไปมิได้ที่จะหายไปมิเหลือร่องรอย!”ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องน่าประหลาดเกินไปแต่ตอนนี้ที่ยังหาศพของหนานกงจื่อชินมิพบ ซือคงเหยียนจึงทำได้เพียงเก็บความคับแค้นไว้ในใจและเดินออกจากป่าไปในตอนนั้นเอง ที่ถนนหลวงด้านนอก มีพ่อค้าเร่กลุ่มหนึ่งเดินผ่านพอดีชายคนหนึ่งพูดด้วยความดีใจอย่างยิ่ง "พี่เจียง เจ้าได้ยินแล้วหรือยังว่า องค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าเหยียนของเราได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์หออะไรนั่นของเป่ยเยี่ยนแล้ว!"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของซือคงเหยียนพลันมืดหม่นลง ร่างของเขาวูบไหวชั่วขณะก่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าชายผู้นั้นราวกับภูติผีชายคนนั้นตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซือคงเหยียนจนขาอ่อนและเซล้มลงกับพื้นเมื่อเห็นกลิ่นอายอำมหิตบนใบหน้าของซือคงเหยียน ชายคนนั้นก็ตื่นตกใจจนพูดอะไรแทบมิออก“เจ้า… เจ้าเป็นใคร คิดจะทำ… ทำอะไร?”ซือคงเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 491

    “หวังฉือกับเนี่ยหงไอ้สุนัขสองตัวนั่น กล้าโจมตีพวกเราต่อหน้าเหล่าขุนนางเลยรึ น่าโมโหนัก!”ฉินหงปลอบใจเขา "เสด็จพี่สามใจเย็นก่อน ทั้งตุลาการศาลต้าหลี่และผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายไม่มีทางก่อปัญหาใหญ่ได้หรอก เมื่อไหร่ที่รัชทายาทล้มลง พวกเขาก็จะกลายเป็นสุนัขไร้เจ้าของ ไยต้องไปถือสาหาความกับพวกเขาเล่า”“ข้าแค่หงุดหงิดเท่านั้นเอง อีกอย่าง เสด็จพ่อยังสั่งให้หัวหน้าสำนักจับตาดูหอดารารักษ์ แล้วคนจากหอดารารักษ์จะมีโอกาสไปแก้แค้นฉินซูได้อย่างไร?”“ความแข็งแกร่งของหอดารารักษ์มิได้ด้อยไปกว่าสำนักหอดูดาวหลวงเลย เจ้าสำนักคงมิสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จ มิว่าจะอย่างไร เรื่องนี้ต้องทำให้องค์รัชทายาทยุ่งยากแน่นอน พวกเราแค่รอดูผลลัพธ์ก็พอ”ฉินหยางพยักหน้าเล็กน้อยและถามอีกครั้ง "ว่าแต่ มีข่าวคราวจากเรือสินค้าที่มุ่งใต้ไปยังหลิ่งหนานบ้างหรือไม่?"ฉินหงถอนหายใจ “ยังไม่มีเลย แต่ถ้าคำนวณเวลา ตอนนี้เรือลำนั้นน่าจะผ่านเขตเหยี่ยนโจวแล้ว”“หึ พวกโจรสลัดในเหยี่ยนโจวนั่นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง ข้าวแปดพันต้านกับเงินหกแสนตำลึง ทั้งหมดนี้เป็นทรัพย์สินมหาศาล แต่พวกมันกลับมิกล้าลงมือ!”“คงมิแน่เสมอไปว่าจะมิกล้าลง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 490

    ฉินอู๋ต้าวยังมิทันได้แสดงท่าที หวังฉือก็โต้แย้งขึ้นมาทันควัน “ข้าน้อยมิเข้าใจคำพูดของอ๋องซิ่น ยามนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเลย แล้วเหตุใดท่านจึงต้องให้องค์จักรพรรดิทรงพิจารณาให้รอบคอบด้วยหรือ?”“นั่นสิ เป่ยเยี่ยนเดิมทีก็มีความตั้งใจจะล่วงล้ำพรมแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนมาตลอด ยามนี้ยังมิได้มีการระดมทัพเลย แต่ท่านอ๋องซิ่นกลับกลัวแล้ว หากวันหนึ่งเป่นเยี่ยนระดมทัพขึ้นมาจริง ๆ ท่านจะมิสนับสนุนให้องค์จักรพรรดิแบ่งดินแดนให้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินหยางถูกหวังฉือและเนี่ยหงโต้กลับจนหน้าซีดในที่สุดบัดนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า หวังฉือและเนี่ยหง ทั้งสองเป็นขุนนางระดับสองที่กลายเป็นคนของฉินซูไปแล้วเขาเกิดความสงสัย ฉินซูเป็นองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด เขามีดีอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนนั้นยอมรับเขาเป็นผู้นำ?แต่เมื่อเผชิญกับคำซักถามอย่างเข้มงวดของหวังฉือและเนี่ยหง เขาก็มิอาจอุบเงียบเอาไว้ได้ จึงแค่นเสียงเย็นชา"หึ! ข้าในฐานะจวิ้นอ๋องแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน ต่อให้วันข้างหน้าสงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง ก็ย่อมไม่มีทางให้เสด็จพ่อยอมสละดินแดนเพื่อขอสันติภาพ เพียงแต่ยามนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 489

    ข่าวที่ว่าฉินซูได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์นั้นแพร่กระจายราวกับไฟป่า ก่อให้เกิดความปั่นป่วนทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงผู้คนต่างพูดถึงเรื่องนี้ทุกมื้อหลังอาหารบางคนยกย่องฉินซูว่าเขาทำให้ต้าเหยียนมีเกียรติบางคนถึงกับแอบส่ายหัว แม้ว่าฉินซูจะเป็นรัชทายาท ทว่าการสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์โดยไร้เหตุผลนั้นคงมิเป็นที่ยอมรับของราชสำนักเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ จากนี้ไปฉินซูองค์รัชทายาทผู้นี้อาจไม่มีวันมีชีวิตที่สงบสุขอีกต่อไปคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดคงเป็นมู่หรงจื่อเยียนหลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ ใจนางก็เกิดความสงสัยว่า คนที่ฆ่าหนานกงจื่อชินคือฉินซูจริง ๆ หรือ?แต่ฉินซูเก่งแค่วิชาตัวเบาเท่านั้น แล้วเขาจะสังหารหนานกงจื่อชินได้อย่างไร?ทว่าเมื่อนึกถึงเมื่อยามหลังจากที่ออกมาจากดินแดนแห่งความฝันนั้น ฉินซูเอาชนะอันธพาลเหล่านั้นได้ในพริบตา นางก็ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฉินซูนั้นมิธรรมดาเมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็รีบสงบสติอารมณ์ และบังคับให้ตัวเองใจเย็นลงหากมู่หรงฟู่รู้ว่าฉินซูมีฝีมือที่เหนือชั้นเช่นนี้ สถานการณ์ของฉินซูคงจะอันตรายอย่างมากต่อมา มู่หรงจื่อเยียนเลือกที่จะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 488

    ฉินหงมองเนื้อหาในจดหมายเพียงครู่เดียว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป!เขากล่าวเสียงทุ้มหนัก "เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปจวนอ๋องซิ่น แล้วก็แจ้งให้ใต้เท้าหลินและใต้เท้าเซี่ยมาประชุมที่จวนอ๋องซิ่นด้วย!""พ่ะย่ะค่ะ!"สองเค่อต่อมาฉินหงพร้อมด้วยหลินซีและคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกันที่จวนอ๋องซิ่นฉินหยางถามอย่างสงสัย "น้องสี่ ดึกป่านนี้พวกเจ้ายังมากัน มีข่าวดีอะไรจากทางคูมู่หรือ?""ยังติดต่อคูมู่มิได้ แต่เสด็จพี่สาม พวกท่านลองดูนี่ก่อน"ฉินหงพูดพลางวางจดหมายฉบับนั้นลงบนโต๊ะฉินหยาง หลินซีและคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านข้อความบนจดหมายโดยพร้อมเพรียงหลังจากได้อ่านแล้ว เซี่ยเหอก็เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ "ว่ากระไรนะ? ฉินซูสังหารศิษย์เอกของหอดารารักษ์?!"ฉินหยางถามด้วยสีหน้าฉงน "น้องสี่ แน่ใจหรือว่าข่าวนี้เป็นความจริง?""น่าจะมิใช่เรื่องเท็จ ศิษย์เอกของหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่งในแคว้นเป่ยเยี่ยน ผู้ใดจะกล้าพูดเล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้""แต่ศิษย์เอกอย่างหนานกงจื่อชินมีพลังแข็งแกร่งนัก องค์รัชทายาทจะสังหารเขาได้อย่างไร?"หลินซีเองก็กล่าวเสริมขึ้นเช่นกัน "ใช่แล้ว แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนแห่งสำนักหอดูดาวหลวงจะติดตามองค์รัชทายาทไปทางเหนือด้วยแต่ด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 487

    นางพูดด้วยเสียงสะอื้นพร้อมถามกลับว่า "เสด็จพี่หมายความว่าอย่างไร? หรือท่านคิดว่าหม่อมฉันเป็นคนฆ่าพี่จื่อชินเช่นนั้นหรือ?"ซือคงเหยียนรีบพูดขึ้น "องค์ชาย ท่านหญิงจื่อเยียนมีใจรักใคร่กับจื่อชิน นางจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? การตายของจื่อชินถือเป็นการกระทบกระเทือนใจอย่างใหญ่หลวงต่อนาง โปรดอย่าได้สงสัยในตัวนางเลยพ่ะย่ะค่ะ"มู่หรงฟู่ครุ่นคิดแล้วเห็นด้วย จากนั้นก็สงบอารมณ์ลงเขาพูดอย่างจริงจัง "จื่อเยียน ข้าหาได้มีเจตนาสงสัยเจ้าไม่ แต่เจ้าต้องบอกความจริงเกี่ยวกับการตายของจื่อชิน มิเช่นนั้นพวกเราจะล้างแค้นให้เขาได้อย่างไร?"“หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ เดิมทีพี่จื่อชินได้ขวางเส้นทางของฉินซูไว้ในป่า หม่อมฉันกังวลว่า คนของฉินซูจะรู้เรื่องนี้เข้า จึงขอร้องพี่จื่อชินว่าอย่าทำอะไรวู่วาม สุดท้ายเขาก็ฟาดข้าจนหมดสติไปพอฟื้นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ใต้หน้าผา หม่อมฉันปีนขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วหาม้าตัวหนึ่งขี่กลับมา ส่วนเรื่องอื่นหม่อมฉันมิรู้จริง ๆ”หลังจากฟังคำพูดของมู่หรงจื่อเยียนแล้ว สีหน้าของมู่หรงฟู่และซือคงเหยียนก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นผ่านไปครู่หนึ่ง มู่หรงฟู่ก็เอ่ยขึ้นเสียงหนักอึ้ง "

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 486

    มู่หรงจื่อเยียนตกตะลึง ก่อนถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "เสด็จพี่ พี่จื่อชินเขายังมิได้กลับมาหรอกหรือ?"“ไม่ เกิดเรื่องอันใดขึ้น? พวกเจ้ามิได้กลับมาด้วยกันหรอกหรือ?”“เป็นไปมิได้ หากพูดตามเหตุผล เขาควรจะกลับมาเร็วกว่าหม่อมฉันสิ หรือว่าระหว่างจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงทำให้เขากลับมาล่าช้า?”มู่หรงจื่อเยียนครุ่นคิดในใจ ตนและฉินซูติดอยู่ในดินแดนแห่งความฝันนานขนาดนั้น หนานกงจื่อชินก็น่าจะกลับมาตั้งนานแล้วถึงจะถูกหรือว่า เขาจะยังตามหาตนอยู่ที่บริเวณขอบผานั่น?มู่หรงฟู่มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า "ที่นี่เต็มไปด้วยสายลับ เข้าไปคุยข้างในดีกว่า"มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าเห็นด้วย และเดินตามมู่หรงฟู่เข้าไปข้างในทันทีที่นางนั่งลง มู่หรงฟู่ก็ถามขึ้นด้วยความร้อนใจ "เป็นอย่างไรบ้าง? ทำสำเร็จหรือไม่? ฉินซูถูกกำจัดเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?"มู่หรงจื่อเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า "มิสำเร็จ ตอนที่พี่จื่อชินกำลังจะลงมือก็มีกลุ่มปีศาจภูเขาเข้ามาก่อกวน ต่อมา… หม่อมฉันก็พลัดหลงกับเขา ส่วนเรื่องหลังจากนั้น หม่อมฉันก็มิรู้แล้ว”มู่หรงฟู่ขมวดคิ้วรู้สึกว่า คำพูดของมู่หรงจื่อเยียนดูมิค่อยสมเหตุสมผลกันเขาขมวดคิ้วแ

DMCA.com Protection Status