Share

บทที่ 399

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูหรี่ตามองลึกเข้าไปในดวงตาของกู้เสวี่ยเจี้ยน

เขารู้ดีว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนกำลังโกหก แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนมีเรื่องในใจที่ยากจะพูดออกมา เขาก็มิอยากถามอะไรต่อ

เซี่ยหลานรู้สึกสับสนเล็กน้อย “เสวี่ยเจี้ยน อาจารย์ของเจ้าเป็นถึงเจ้าสำนักหอดูดาวหลวง เขามีวรยุทธ์ที่แก่กล้าถึงเพียงนั้น แต่กลับช่วยเจ้าแก้ปัญหานี้มิได้หรือ?”

“ยาลูกกลอนนี้อาจารย์เป็นผู้กลั่นให้ข้า ขอเพียงข้ากินตรงเวลาก็จะไม่มีปัญหาร้ายแรง แต่วันนี้ข้าดันลืมกินเสียได้”

“เช่นนี้นี่เอง อย่างนั้นคราวหน้าอย่าลืมกินยาให้ตรงเวลาเล่า เมื่อครู่ทำเอาพวกข้ากลัวแทบแย่”

กู้เสวี่ยเจี้ยนตอบรับเสียงอืมและมิพูดอะไรอีก

ขณะนั้นเอง เซี่ยหลานก็อุทานออกมาว่า “เสวี่ยเจี้ยน เหตุใดที่ไหล่ของเจ้าถึงมีเลือดออก?”

กู้เสวี่ยเจี้ยนมองลงไปก็เห็นว่าอาภรณ์ด้านหน้าตรงไหล่ซ้ายเปื้อนสีแดงและมีเลือดไหลออกมา

“ดูเหมือนว่าแผลจะเปิด เซี่ยหลาน ช่วยทายาทำแผลให้ข้าหน่อยสิ”

“หา? เจ้าได้รับบาดเจ็บจริง ๆ หรือ?!” เซี่ยหลานรู้สึกประหลาดใจ!

กู้เสวี่ยเจี้ยนส่ายหัวเบา ๆ “เป็นแผลเก่าเมื่อหลายวันก่อน ไม่มีอะไรหรอก”

“เช่นนั้นก็ไปตรงโน้นกัน”

ขณะที่เซี่ยหลานกำลังจะพยุ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 400

    “แน่นอนว่านี่คือยารักษาแผลวิเศษ”หลังจากที่ฉินซูพูดจบ เขาก็โยนขวดกระเบื้องขนาดเล็กใส่ในมือของกู้เสวี่ยเจี้ยนกู้เสวี่ยเจี้ยนตกตะลึงไปชั่วขณะ “องค์รัชทายาท นี่ท่าน…”“ข้าให้เจ้า”“ว่ากระไรนะเพคะ?”หลังจากที่กู้เสวี่ยเจี้ยนกลับมามีปฏิกิริยา นางก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ยานี้มีค่ามาก หม่อมฉันมิสามารถรับไว้ได้ องค์รัชทายาทนำกลับไปเถิดเพคะ”“ของที่ตัวข้าให้ไปแล้วไม่มีเหตุผลที่จะนำกลับคืน นอกจากนี้ภารกิจของเจ้าในการเดินทางครั้งนี้คือการคุ้มกันข้า ถือเสียว่ายานี้เป็นรางวัลที่ข้ามอบให้เจ้า หากเจ้ามิต้องการก็โยนมันทิ้งไปเสีย”“หม่อมฉันมิได้บอกว่ามิต้องการ หม่อมฉันแค่คิดท่านควรเก็บโอสถสรรพโรคนี้ไว้ใช้เองจะดีกว่าเพคะ”“วางใจได้ ข้ามิได้มียาตัวนี้แค่ขวดเดียวหรอก”เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ประหลาดใจอีกครั้ง “องค์รัชทายาท คงมิใช่ท่านยอดฝีมือผู้นั้นที่อยู่เบื้องหลังท่านมอบยานี้มาให้หรอกใช่หรือไม่เพคะ?”ฉินซูพยักหน้าเบา ๆ เพื่อเป็นการยอมรับทันใดนั้นเขาก็พบว่า จริง ๆ แล้วการที่คนอื่นเข้าใจผิดว่าเขามียอดฝีมืออยู่เบื้องหลังมันก็สะดวกดีเหมือนกันอย่างน้อยก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มิต้องใช

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 401

    “เอ้อ ได้” ฉินซูรู้ว่าตนเองผิด จึงหันหลังเดินออกไปอย่างหงุดหงิดใจ กู้สเวี่ยเจี้ยนรีบจัดชุดของตนเองอย่างลนลาน เมื่อนึกถึงที่ถูกฉินซูมองเมื่อครู่ นางทั้งเขินอายทั้งขุ่นเคือง จิตใจก็พลุ่งพล่านขึ้น หลังจากที่นางออกจากกระโจม เซี่ยหลานก็เดินเข้ามาหานาง “เสวี่ยเจี้ยน เจ้ามิเป็นอะไรใช่หรือไม่?” กู้เสวี่ยเจี้ยนส่ายหน้าเบา ๆ แต่สายตาที่มองไปทางฉินซูเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เซี่ยหลานเห็นท่าทางนั้นก็ขมวดคิ้ว แต่มิได้ถามอะไรเพิ่มอีกเช่นกัน หลังจากที่พวกเขากินมื้อเที่ยงเสร็จแล้วก็เดินทางกันต่อ สองชั่วยามต่อมา มีหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งปรากฏขึ้นอยู่มิไกล ฉินซูมองดูท้องฟ้าแล้วสั่งว่า “พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว คืนนี้พวกเราพักที่เมืองนี้กันเถอะ” เช่นนี้แล้ว พวกเขาพากันเข้าไปในหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้มิใหญ่นัก มีถนนสายหลักแค่เส้นเดียวเท่านั้น บนถนนสายหลักนั้นมีโรงเตี๊ยมอยู่หลังเดียว นอกจากนั้นก็เป็นร้านค้าเล็ก ๆ ทั้งสิ้นเมื่อเจ้าของโรงเตี๊ยมเห็นถานเหวยในชุดขุนนาง เขารีบเข้ามาโค้งคำนับและต้อนรับ “ขุนนางท่านนี้ ให้เกียรติมาที่นี่ มิทราบว่ามีอะไรให้รับใช้หรือขอรับ?” ถานเหวยจ้องมองเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 402

    “เร็วเข้า นำเงินทั้งหมดขึ้นรถม้าเดี๋ยวนี้!” เมื่อเฉิงอิงพูดจบ กลุ่มชายร่างใหญ่ในชุดรัดกุมราวสิบกว่าคนก็กรูเข้ามาจากประตูด้านนอกโรงเตี๊ยม พวกเขาพับแขนเสื้อขึ้น แล้วเดินไปยกหีบไม้ที่บรรจุเงินเอาไว้ ตอนนี้เอง เสียงชราที่ทรงพลังส่งเสียงดังสะท้อนกึกก้องทั่วลาน! “พวกเจ้าช่างอาจหาญนัก ถึงกับกล้าปล้นเงินบรรเทาภัยพิบัติ!”เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทุกคนหยุดชะงักทันที! “ใครน่ะ?!” เฉิงอิงจับด้ามดาบแน่นมิรู้ตัว พร้อมกับส่งสายตามองไปรอบ ๆ ราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ คนอื่น ๆ ที่เหลือต่างชักอาวุธออกมา หันหลังเข้าหากันเป็นวงกลม เตรียมพร้อมรับมือ “เคยได้ยินว่าสำนักกระบี่สักการะคือสำนักใหญ่และทรงคุณธรรม ได้ชื่อว่าเป็นผู้กล้า แต่วันนี้กลับทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ เกรงว่าจะมิคู่ควรกับคำว่า ‘ผู้กล้า’ อีกต่อไปแล้วกระมัง?” เสียงของชายชรายังคงดังก้องอยู่รอบตัวทุกคน ทุกคนมองไปรอบ ๆ พยายามหาทิศทางของเสียง แต่กลับพบว่าเสียงนั้นไม่มีที่มาอย่างผิดปกติ ราวกับดังลงมาจากฟากฟ้า สิ่งนี้ทำให้พวกเขาแต่ละคนมีสีหน้าเคร่งขรึม ในใจรู้ทันทีว่าพบกับยอดฝีมือเข้าแล้ว ชายหนุ่มร่างกำยำตะโกนว่า “ฮึ แสร้งทำตัว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 403

    ทันทีที่เสียงนี้จบลง สวีหลายก็พลันหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ครั้นแล้วก็เห็นเงาร่างสูงเพรียวเดินออกมาจากห้องโถงของโรงเตี๊ยม คนผู้นี้สวมหน้ากากและเสื้อคลุมสีดำจึงมิสามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงได้ชัดเจน แต่จากเสียงก็สามารถประเมินได้ว่าเป็นผู้อาวุโส สวีหลายสำรวจมองชายชุดดำก่อนจะยกมือขึ้นคำนับแล้วกล่าวว่า “ผู้น้อยสวีหลาย ได้พบผู้อาวุโส มิทราบว่าผู้อาวุโส… เอ๊ะ?!” เขาพูดมิทันจบก็อุทานด้วยความประหลาดใจทันที จากนั้นเขาพูดด้วยความตกใจ “ท่านคือองค์รัชทายาทงั้นหรือ?” ในดวงตาของชายชราฉายประกายประหลาดใจวาบขึ้นก่อนจะหรี่ตาแล้วถามว่า “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” สวีหลายเหลือบมองด้านในโรงเตี๊ยมแล้วพูดอย่างจริงจัง “จี้หยกที่ห้อยอยู่บนเข็มขัดของท่านเหมือนกับที่องค์รัชทายาททรงสวมครั้งเมื่อตอนเสด็จลงใต้ไม่มีผิด ยิ่งไปกว่านั้นองค์รัชทายาทที่หมดสติอยู่ภายในโรงเตี๊ยมเมื่อครู่ บัดนี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย หากท่านมิใช่องค์รัชทายาทแล้วยังเป็นผู้ใดได้อีกหรือ?” ชายชุดดำก้มลงมองจี้หยกที่เข็มขัดโดยมิรู้ตัวก่อนจะยิ้มเจื่อนและส่ายหัว “คิดไม่ถึงจริง ๆ เลยว่าเจ้าจะสังเกตได้ละเอียดถึงเพียงนี้ เป็นข้าที่ประมาทเอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 404

    เมื่อฉินซูได้ยินก็เกรี้ยวกราดจนถึงกับทุบโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ แตกเป็นเสี่ยง ๆ!“มีอย่างที่ไหน ขุนนางสุนัขพวกนี้อาจหาญนัก!” สวีหลายหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะถามว่า “องค์รัชทายาททรงทราบถึงสถานการณ์ในเหลียงโจวแล้ว ขอทูลถามว่าเมื่อเสด็จถึงเหลียงโจวแล้วทรงตั้งพระทัยจะจัดการเช่นไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ฉินซูตอบด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “หากพวกขุนนางและพ่อค้าสมคบคิดกันจนสร้างความเดือดร้อนจริง ข้าจะกวาดล้างวงราชสำนักในเมืองเหลียงโจวคืนความสงบสุขให้แก่ราษฎรเมืองเหลียงโจว” พูดถึงตรงนี้เขาก็มองสวีหลายและกล่าวต่อว่า “หากเจ้าเชื่อใจตัวข้า จงนำคนของเจ้าไปยังเป่ยเหลียงด้วยกัน ส่วนเงินและอาหารบรรเทาทุกข์ภาคใต้ ข้าจะคิดหาวิธีเอง” “พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นข้าน้อยจะพาภรรยาเดินทางไปยังเป่ยเหลียงทันที เมื่อองค์รัชทายาทเสด็จถึงเหลียงโจว ข้าน้อยจะมอบของกำนัลชิ้นใหญ่ให้ท่าน!”ฉินซูประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบา ๆ และถามว่า “เจ้าเชื่อมั่นในตัวข้าจริงหรือ? ในเมื่อก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของข้ามิค่อยดีนัก” สวีหลายหัวเราะเปิดเผย “จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของท่านทรงมิค่อยดีนัก ทว่ามินานมานี้องค์รัชทายาททรงสามารถเอาชนะวรรณก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 405

    “องค์รัชทายาท องค์รัชทายาท ตื่นเร็วเพคะ” นางร้องเรียกไปพลางยื่นมือไปเขย่าตัวฉินซูไปพลาง จากนั้นครู่หนึ่ง ฉินซูค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาช้า ๆ ฉินซูมองซ้ายมองขวาก่อนจะแสดงสีหน้าสับสนออกมา “เสวี่ยเจี้ยน นี่พวกเราเป็นอะไรไป?” “เมื่อครู่พวกเราถูกวางยาพิษและสลบไป!” “ว่ากระไรนะ?! แล้วเงินบรรเทาภัยพิบัติเล่า?!” ฉินซูทำหน้าร้อนใจอย่างยิ่งแล้ววิ่งออกไปข้างนอกลานทันที แต่กู้เสวี่ยเจี้ยนดึงเขาไว้แล้วเอ่ยว่า “องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย เงินยังอยู่ ปลุกพวกเขาก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิดเพคะ” ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก้มลงไปเรียกเซี่ยหลานเบา ๆ ที่ข้างหู หลังจากนั้นมินานเซี่ยหลานและคนอื่น ๆ ก็ตื่นขึ้นมา เมื่อรู้ว่าพวกตนเพิ่งจะถูกยาสลบจนหมดสติ ตงฟางไป๋ก็โกรธจัด รีบพาลูกน้องไปคิดบัญชีกับเจ้าของโรงเตี๊ยมและพ่อครัวในครัวทันที แต่เขากลับพบว่ามิว่าจะเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยม เด็กรับใช้และพ่อครัวก็ยังคงหลับใหลอยู่ในเวลานี้จากนั้นตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็ต่างตรวจสอบหีบทุกใบจนทั่วหลังจากตรวจสอบเสร็จก็พบว่าเงินห้าแสนตำลึงยังอยู่ครบ สิ่งนี้ทำให้พวกเขางุนงงยิ่งกว่าเดิม สวีเซี่ยงเฉียนถามด้วยท่าทางสับ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 406

    ฉินซูพูดอย่างมิสบอารมณ์ว่า “เจ้าหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะกำลังกังวลว่าจะกราบทูลเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ต่อเสด็จพ่อดีหรือไม่ ใช่หรือไม่เล่า?” เซี่ยหลานพยักหน้าอย่างห่อเหี่ยว “ท่านเองทรงทราบถึงพระราชโองการที่ฝ่าบาทประทานให้หม่อมฉัน แต่ว่าหม่อมฉันมิอยากทรยศท่าน…” “เฮ้อ นี่เรียกว่าทรยศที่ไหนกันเล่า พระราชโองการย่อมมิอาจฝ่าฝืน เจ้าเพียงแค่รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้กลับไปก็พอ” “แต่ถ้าทำเช่นนี้ มันก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่ามียอดฝีมือช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังท่านจริง ๆ มิใช่หรือเพคะ?” “ยืนยันก็ยืนยันสิ ถึงอย่างไรตอนนี้ทุกคนก็สงสัยเช่นนี้อยู่แล้ว” “ทว่าหลังจากที่พวกเขายืนยันเรื่องนี้แล้ว ขั้นต่อไปพวกเขาอาจคิดหาวิธีจัดการยอดฝีมือที่อยู่เบื้องหลังท่าน หม่อมฉันมิปรารถนาเช่นนี้เลย” เซี่ยหลานยังคงมีสีหน้าพะว้าพะวัง ฉินซูยิ้มบาง ๆ และเอ่ยว่า “หากเจ้ามิรายงานตามจริง ก็เท่ากับเป็นการหลอกลวงองค์จักรพรรดิ อีกทั้งแม้เจ้าจะมิปริปาก แล้วเจ้าคิดว่าพวกถานเหวยจะปิดปากเงียบได้หรือ?” เซี่ยหลานเพื่งจะรู้ตัวก็พูดขึ้นว่า “ก็จริงเพคะ ในฐานะที่ถานเหวยเป็นเสนาบดีกรมพระคลัง องค์จักรพรรดิเองก็อาจทรงมีพระ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 407

    จากนั้นเขาก็ยิ้มตาหยีพร้อมกับกล่าวว่า “องค์รัชทายาททรงเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย อย่างไรก็ขอท่านโปรดเสด็จไปยังที่ว่าการมณฑลเพื่อพักผ่อนเสียหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” “ได้ นำทางเถิด” “เชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ!” หนึ่งเค่อต่อมา ฉินซูและคนอื่น ๆ ก็มาถึงที่ว่าการมณฑล หลังจากเข้าไปในที่ว่าการมณฑล เฉินจางก็ยุ่งอยู่กับการเทชาและส่งน้ำอย่างเพลิดเพลินฉินซูยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วเหลือบมองจากนั้นก็จิบไปหนึ่งอึกแล้วกล่าวด้วยความสนใจว่า “กลิ่นหอมอบอวล รสชาติชุ่มคอ ชานี้มิเลวเลย ใต้เท้าเฉิน” เฉินจางยิ้มแย้มอย่างปลื้มปีติ “องค์รัชทายาท นี่คือชาเซียนหาวจากฮั่นจงชั้นยอด เก็บจากยอดแรกและยังสดใหม่ แค่มิกี่ชั่ง[footnoteRef:0]กว่าข้าน้อยจะหาซื้อมาได้ก็ยากเย็นนัก หากองค์รัชทายาททรงโปรด เมื่อเสด็จกลับก็โปรดนำกลับไปด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ถือว่าเป็นการแสดงความเคารพจากข้าน้อย” [0: ชั่ง เป็นหน่วยวัดของจีน 1 ชั่ง = 0.5 กิโลกรัม] “ชาเซียนหาวจากฮั่นจงชั้นยอด ราคาคงมิถูกเลยกระมัง?” “มิถูกเลยพ่ะย่ะค่ะ ข้างนอกขายกันห้าสิบหกสิบตำลึงต่อชั่งเลยทีเดียว!” ทันทีที่เฉินจางพูดจบ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ตะคอกอย่างเย็นชา “หึ ใต้เท้าเฉิ

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 620

    ฉงชูโม่มองซ้ายขวาแล้วกล่าว “บางทีอาจจะกลับค่ายทหารไปแล้วกระมัง เขาเป็นคนของอ๋องฉู่ การที่เห็นท่านสร้างความดีความชอบ คงรู้สึกมิพอใจอยู่บ้าง มิใช่เรื่องแปลกเพคะ”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”ฉินซูเหลือบมองเหล่าทหารที่กำลังกินดื่มอย่างสำราญ จึงเอ่ยถาม “เจ้าคงมิได้ให้ทหารทั้งหมดเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองชัยกระมัง?”“มิได้เพคะ นี่เป็นเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือล้วนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว แต่ป่านนี้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่มีข่าวคราวมาจากทางคลังอาวุธเล่า?”ฉินซูขมวดคิ้ว รู้สึกถึงความผิดปกติฉงชูโม่จึงสั่งทหารข้างกาย “เจ้าจงไปดูลาดเลาที่คลังอาวุธทีว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่”“ขอรับ!”ทหารผู้นั้นรีบเร่งไปยังทิศทางคลังอาวุธมินานนัก เขาก็กลับมา“เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ที่คลังอาวุธเป็นปกติดีขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่จึงอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น“แปลกจริง เป็นไปได้อย่างไรที่เติ้งหม่างจะอดทนได้ถึงขั้นนี้ มิส่งคนมาขโมยธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า?”“เป็นไปมิได้ เขารู้ว่าคืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย การป้องกันเมืองจึงหย่อนยานลง หากเขามิมาในคืนนี้ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้แ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 619

    หูก่วงเซิงหัวเราะเยาะ “ลำพังพวกเจ้าเพียงหยิบมือนี้น่ะหรือ? หึ ๆ ช่างประมาณตนสูงเสียจริง!”กำแพงเมืองเจียวโจวสูงหกถึงเจ็ดจั้ง เขามิคิดว่าหม่าเวยและคนเหล่านี้จะสามารถปีนขึ้นไปได้หม่าเวยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “อย่างน้อยก่อนที่จะปะทะเข้ากับพวกเจ้า พวกเราก็ยังคงมั่นใจมากทีเดียว”“ฮ่า ๆ พวกโง่เขลาเอ๋ย เอาเถอะ ในเมื่อความดีความชอบมาประเคนให้ถึงปากประตูแล้ว มิรับไว้คงน่าเสียดายแย่ ใครก็ได้!”“ขอรับ!”“ปิดปากพวกมันทั้งหมด แล้วส่งคนสองสามคนไปเฝ้าพวกมันในป่าให้ดี!”“ท่านแม่ทัพหู ในเมื่อพวกมันเป็นสายสืบของหนานเยวี่ย ไฉนมิควบคุมตัวพวกมันกลับเมือง ไปส่งให้ท่านแม่ทัพใหญ่จัดการเล่าขอรับ?”หูก่วงเซิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “นำคนกลับไปยามนี้ แล้วพวกเราจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยต่อหรือไม่?”“จริงด้วย พวกมันถูกพวกเรามัดไว้แล้ว ไม่มีทางหลบหนีไปได้ ส่งคนไปเฝ้าพวกมันไว้ก็พอ รอจนกระทั่งพวกเราได้ชัยกลับมา ค่อยคุมตัวคนพวกนี้กลับเมือง เช่นนี้จะได้ความดีความชอบเพิ่มขึ้นอีกอย่างไรเล่า!”ดวงตาของหม่าเวยกลอกไปมา เอ่ยปากกล่าว “ท่าน… ท่านแม่ทัพหู ท่านแน่ใจหรือว่าจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยของพวกเรา?”“หากเป็นเช่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 618

    “ท่านแม่ทัพหู แผนนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือแล้วอ้อมไปอีกหน่อย ก็ลอบโจมตีทัพหนานเยวี่ยได้เหมือนเดิม!”“ไป เร่งฝีเท้า!”ดังนั้น กองทหารของพวกเขาจึงเดินทางมายังใต้ประตูเมืองฝั่งเหนือแม่ทัพรักษาการณ์ที่นี่เห็นหูก่วงเซิงและพวก จึงไต่ถาม “ท่านแม่ทัพหู นี่พวกท่านจะทำการใด?”“ในเมืองผู้คนพลุกพล่านเกินไป พวกเราจะออกไปพักผ่อนนอกเมืองสักหน่อย วันพรุ่งพวกเราจะย้ายค่ายทหารไปตั้งไว้นอกเมืองฝั่งเหนือเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการฝึกทหาร”เมื่อได้ยินดังนั้น ทหารรักษาการณ์ก็โบกมือให้คนเปิดประตูเมืองจะตำหนิว่าเขาประมาทเกินไปก็มิได้ ท้ายที่สุดแล้วนอกเมืองทางฝั่งเหนือยังมีทหารประจำการอยู่เป็นจำนวนมิน้อย ทหารที่เข้าออกประตูเมืองทางฝั่งเหนือจึงมีจำนวนมากเป็นทุนเดิมหลังจากที่ออกนอกเมืองได้อย่างราบรื่น หูก่วงเซิงจึงนำกองทัพทหารม้าพันนายมุ่งหน้าลงใต้!ขณะเดียวกันนอกประตูเมืองเจียวโจวทางฝั่งใต้ เงาร่างสิบกว่าร่างพุ่งออกมาจากป่าละเมาะห่างออกไปมิไกลนักพวกเขามีท่าทางคล่องแคล่ว เพียงชั่วพริบตาก็เข้าไปซุ่มซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เตี้ย ๆ ฝั่งหนึ่งหลังจากที่สังเกตการณ์บนกำแพงเมืองอยู่ครู่หน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 617

    “ท่านแม่ทัพหู กองทัพหนานเยวี่ยแตกพ่ายในวันนี้ บัดนี้คงอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่เป็นแน่ หากพวกเรานำทัพไปลอบโจมตี อย่างไรก็ต้องสำเร็จ! ถึงเวลานั้นหากสำเร็จ ท่านแม่ทัพใหญ่จะเอาผิดพวกเราที่ยกทัพไปโดยพลการได้อย่างไร?”ชายร่างกำยำอีกด้านกล่าวสำทับ “รองแม่ทัพหลิวกล่าวได้ถูกต้อง ท่านแม่ทัพหู พวกเราอุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมาถึงเจียวโจวก็มิใช่อื่นใด นอกเสียจากเพื่อสร้างความดีความชอบให้มากยิ่งขึ้นพวกเราสร้างความดีความชอบในเจียวโจวมากเท่าไร พระเกียรติของท่านอ๋องฉู่ในราชสำนักก็จะยิ่งสูงส่งมากขึ้นเท่านั้น ทุกสิ่งที่พวกเราทำ ล้วนเพื่อท่านอ๋องฉู่ทั้งสิ้น!”“ถูกต้อง พวกเราคือคนของท่านอ๋องฉู่ ท่านแม่ทัพใหญ่ย่อมมิอาจตำหนิพวกเราที่ออกรบโดยพลการได้ ท่านแม่ทัพหู ท่านรีบตัดสินใจเถิด โอกาสมิคอยท่า เวลามิหวนคืน!”“ท่านแม่ทัพหู คนขององค์รัชทายาทออกนอกเมืองไปครึ่งชั่วยามแล้ว หากพวกเรามิรีบเร่งติดตามไป เกรงว่าน้ำแกงก็มิได้ซด อย่าหวังจะได้กินเนื้อเลยขอรับ!”ด้วยคำยุยงของเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา ดวงตาของหูก่วงเซิงก็ค่อย ๆ แน่วแน่ขึ้น!เขาพยักหน้าหนักแน่น กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “สั่งให้เหล่าสหายทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม อีกห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 616

    หูก่วงเซิงยกไหสุราขึ้นกระดกไปหลายอึก และแค่นเสียง “หึ ศึกที่ได้ชัยชนะในวันนี้ หากมิใช่เพราะทหารม้าหุ้มเกราะของพวกข้าบุกตะลุยอยู่แนวหน้า มีหรือกองทัพหนานเยวี่ยจะถูกสังหารจนแตกพ่ายยับเยิน?ทว่าในงานเลี้ยงฉลองชัย ท่านแม่ทัพใหญ่กลับมิเอ่ยถึงความดีความชอบของพวกข้าแม้แต่คำเดียว เอาแต่ชื่นชมองค์รัชทายาทมิขาดปากข้าสงสัยนัก องค์รัชทายาทเพียงแต่นำอาวุธที่กรมโยธาธิการประดิษฐ์ขึ้นใหม่มาด้วยเท่านั้น มีสิ่งใดน่าสรรเสริญกัน?”รองแม่ทัพที่นั่งอยู่ข้างกายเขาขมวดคิ้ว กล่าว “ท่านแม่ทัพหู ท่านว่าเช่นนี้เห็นทีจะมิถูกกระมัง อาวุธเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาททรงออกแบบ ศึกครานี้ชนะได้ ก็เป็นเพราะพระองค์”“ใช่แล้ว อีกอย่างที่ทหารม้าหุ้มเกราะของพวกท่านบุกตะลุยกองทัพหนานเยวี่ยได้ไร้ผู้ใดขัดขวาง ก็มิใช่เป็นเพราะมีอาวุธที่องค์รัชทายาททรงออกแบบให้การคุ้มครองหรอกหรือ มิเช่นนั้นกองทัพหนานเยวี่ยจะปล่อยให้พวกท่านบุกตะลุยในแนวรบโดยมิอาจโต้ตอบได้เลยด้วยเหตุใดเล่า?”หูก่วงเซิงเผยสีหน้าดูแคลน หัวเราะเยาะ “องค์รัชทายาทที่เอาแต่เสพสุขไปวัน ๆ ไฉนจึงออกแบบอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้? พวกเจ้าก็ช่างหูเบากันเสียจริง ใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 615

    หลังจากที่ฟังเขาจนจบ ฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “แผนการของท่านดีก็จริง ทว่าหากพวกมันมิมาในคืนนี้เล่า?”“คืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย พวกมันต้องปักใจเชื่อว่ากำลังป้องกันเมืองของพวกเราหย่อนยาน คืนนี้หากพวกมันมิลงมือ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นคืนนี้พวกมันต้องลงมือเป็นแน่”“เช่นนั้นก็ได้ ทำตามที่ท่านว่าก็แล้วกันเพคะ!”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย แล้วกล่าวต่อ “อีกอย่าง คืนนี้เจ้าจงส่งทหารสองกองไปซุ่มอยู่หลินสุ่ยและเซี่ยอ้าว เมื่อทัพใหญ่หนานเยวี่ยปรากฏกาย จงปล่อยให้พวกมันเข้ามา รอจนกระทั่งเสียงฆ่าฟันนอกเมืองดังขึ้นค่อยตลบหลังโจมตีกองทัพหนานเยวี่ย จากนั้นจึงเข้าตีกระหนาบหน้าหลัง กวาดล้างพวกมันในคราเดียว!”ฉงชูโม่ถามอย่างตกตะลึง “ท่านคิดว่าคืนนี้พวกหนานเยวี่ยจะบุกโจมตีด้วยทัพใหญ่หรือเพคะ?”“พูดได้แต่เพียงมีความเป็นไปได้สูงนัก”“หม่อมฉันว่ามีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากเติ้งหม่างเพิ่งประสบความพ่ายแพ้ในวันนี้ ซ้ำร้ายทหารใต้บัญชาของเขายังหวาดหวั่นเกรงกลัวธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าของพวกเราจนหัวหด หากยังมิล่วงรู้ว่าพวกเรามีธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด พวกมันคงมิกล้าผล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 614

    ฉินซูหัวเราะแห้ง ๆ แล้วกล่าวติดตลก “ข้าแค่กังวลว่าเจ้าจะหึงหวงข้า”ฉงชูโม่ถ่มน้ำลาย “ถุย ใครจะหึงท่านกัน อย่าได้หลงตัวเองไปหน่อยเลย!”“อะแฮ่ม ๆ เรื่องนั้นช่างมันเถิด ที่จริงข้ามีธุระสำคัญ...”ฉงชูโม่ขัดขึ้นมาเสียก่อน “มีกระไรก็รีบว่ามา อย่ามัวอ้อมค้อม”ฉินซูปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม แล้วเอ่ยถาม “วันนี้ที่พวกเรามีชัยเหนือแคว้นหนานเยวี่ย ในความเห็นของเจ้า พวกมันจะทำอย่างไรต่อไป?”“ชัยชนะในวันนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับพลานุภาพของธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า กองทัพหนานเยวี่ยประสบความพ่ายแพ้ย่อยยับถึงเพียงนี้ หากหม่อมฉันเป็นเติ้งหม่าง คงต้องหาทางนำอาวุธทั้งสองชนิดนี้ไปให้ได้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูจึงอดมิได้ที่จะมองนางด้วยสายตาชื่นชมสมแล้วที่ฉงชูโม่เป็นแม่ทัพขั้นหนึ่งที่มากล้นด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ สามารถเดาใจศัตรูได้ล่วงหน้าเช่นนี้“เมื่อรู้ถึงเจตนาของเติ้งหม่างผู้นั้นแล้ว เราควรจะลองมาล่อเสือออกจากถ้ำดูสักครา”“ตรัสเช่นนี้ แสดงว่าท่านทรงคิดแผนการรับมือไว้แล้วหรือ?”ฉงชูโม่เอี้ยวศีรษะมองฉินซู ดวงตาคู่งามกระจ่างใสนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจหางตาฉินซูเหลือบมองอ่างอาบน้ำโดยม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 613

    “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ขอพระองค์โปรดเมตตา”ทั้งสองกล่าวพร้อมคุกเข่าลงต่อหน้าฉินซูฉินซูจนปัญญา จึงตะโกนเข้าไปในกระโจม “ชูโม่ ให้ข้าเข้าไปเถิด ข้าขออธิบายให้เจ้าฟังดี ๆ มิได้หรือ?”ทว่าข้างในกลับไร้เสียงตอบรับฉินซูยังคงมิยอมแพ้ กล่าวต่อไป “ชูโม่ เจ้าอย่าหึงหวงนักเลย อย่างน้อยก็ให้ข้าอธิบายสักหน่อยเถิด”เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ทหารยามทั้งสองก็อดมิได้ที่จะสบตากัน!ให้ตายสิ ท่านแม่ทัพใหญ่กับองค์รัชทายาทมีความสัมพันธ์ช่างลึกซึ้งเกินคาด!!สีหน้าของพวกเขาทั้งสองฉายแววตกตะลึง ราวกับได้รับข่าวเด็ดข่าวใหญ่ฉินซูเกลี้ยกล่อมอีกสองสามประโยค ทว่าในกระโจมก็ยังคงไร้เสียงตอบรับเมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูจึงหันไปถามทหารยามทั้งสอง “ชูโม่อยู่ข้างในจริง ๆ หรือ?”“พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ท่านแม่ทัพใหญ่เข้าไปแล้วก็ยังมิได้ออกมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่มีประตูด้านหลังใช่หรือไม่?”“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”“มิได้การ ชูโม่อาจจะเป็นกระไรไปแล้วก็ได้!”กล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูจึงตะโกนเข้าไปด้านใน “ชูโม่ ข้าจะเข้าไปแล้วนะ”ขณะที่ฉินซูกำลังจะก้าวเท้าเข้าไป ทหารยามทั้งสองก็รีบร้องทัดทาน “มิได้พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 612

    ขณะเดียวกันกองหนุนทัพหนานเยวี่ยภายในค่ายทหารแม่ทัพนายกองทั้งหลายต่างจับจ้องไปยังบุรุษบนที่นั่งหัวโต๊ะด้วยใจระทึกบุรุษผู้นั้นสวมชุดเกราะสีเงินยวง ร่างกายสูงใหญ่ผึ่งผาย!เขาคือแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพหนานเยวี่ย เติ้งหม่าง!สายตาเย็นเยียบของเขากวาดมองไปยังกลุ่มคนทีละคน สุดท้ายจับจ้องที่แม่ทัพน้อยหม่า“หม่าเวย เจ้าสำนึกผิดหรือไม่?”หม่าเวยรีบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ทว่าอาวุธของต้าเหยียนคราวนี้ร้ายกาจเหลือเกิน โล่เกราะหวายของพวกเราเมื่อเผชิญกับลูกธนูของพวกมันก็มิต่างกระไรจากดินเหนียว ยิงคราเดียวก็ทะลุง่ายดาย!”“ใช่แล้วท่านแม่ทัพใหญ่ โล่เกราะหวายที่พวกเราเคยภาคภูมิใจนักหนา บัดนี้มิอาจหวังพึ่งได้อีกแล้วขอรับ”“มิเพียงเท่านั้น ทางต้าเหยียนยังใช้อาวุธเพลิงร้ายกาจชนิดหนึ่ง ของสิ่งนั้นอานุภาพร้ายแรงยิ่งนัก ทหารมิใช่น้อยถูกระเบิดจนร่างแหลกมิเหลือชิ้นดีเลยขอรับ”เมื่อกล่าวถึงระเบิดเพลิง หลายคนยังคงหวาดผวาเติ้งหม่างขมวดคิ้วมุ่น และกล่าวพึมพำ “กองทหารรักษาการณ์เจียวโจวถูกพวกเราโจมตีมาเกือบเดือน บัดนี้จู่ ๆ กลับปรากฏอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status