Share

บทที่ 396

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เป็นบุรุษผู้หนึ่งที่มีอายุราว ๆ สามสิบกว่า

เขาเป็นบุรุษรูปงามมีบุคลิกที่สดใสร่าเริง แต่งกายด้วยชุดสีขาว พร้อมถือกระบี่ยาวในมือ

ฝักกระบี่ยาวนั้นฝังอัญมณีเจ็ดเม็ดเรียงกันเป็นรูปกลุ่มดาวนายพราน

คนผู้นี้ที่แท้ก็คือสวีหลาย ศิษย์พี่รองของตู๋กูโฉ่วเยวี่ย!

หลังจากที่เขาออกมาจากป่า เขาก็มองไปยังทิศทางที่ฉินซูและคนอื่น ๆ เดินทางไปด้วยความมิแน่ใจโดยมิรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ขณะนั้น ก็มีเสียงใส ๆ ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาจากด้านหลัง

“สามี เรื่องต่อจากนี้ท่านมิต้องยื่นมือเข้ามาแล้ว ให้ข้าเป็นคนจัดการก็พอ”

หลังจากสิ้นคำพูด สตรีร่างสูงที่ยังสาวก็เดินออกมาอย่างช้า ๆ

สตรีผู้นี้มีใบหน้าที่งดงาม ริมฝีปากสีแดง ฟันขาว และเมื่อดูสีหน้าแลดูองอาจน่าเกรงขาม

นั่นคือเฉิงอิง ภรรยาของสวีหลายและบุตรีของเจ้าสำนักกระบี่สักการะ

สวีหลายหันกลับมายิ้มให้นาง “ในเมื่อข้ารับปากท่านพ่อตาไว้แล้ว จะผิดคำพูดมิได้เด็ดขาด”

“แต่กู้เสวี่ยเจี้ยนเป็นอดีตศิษย์น้องหญิงของท่าน ข้าทนมิได้หรอกที่จะให้ท่าน…”

ยังมิทันที่นางจะพูดจบ สวีหลายก็ขัดจังหวะ

“มันมิสำคัญเลย ภารกิจของกู้เสวี่ยเจี้ยนคือการคุ้มกันองค์รัชทายาท แต่จุดประสงค์ในการ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 397

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามว่า “ด้านหน้าเป็นอย่างไรบ้าง?”“พวกเราสำรวจสันเขาเฮยเฟิงไปแล้วหนึ่งรอบ ทางนั้นไม่มีคนอยู่เลยขอรับ!”“ไม่มีคน?” กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความสงสัย “พวกเจ้าสำรวจละเอียดแล้วใช่หรือไม่?”ตงฟางไป๋พูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเราสำรวจทั่วแล้ว มิเพียงแค่ที่สันเขาเฮยเฟิง แม้แต่ในค่ายป้องกันขวงเฟิงก็ไม่มีใครอยู่ขอรับ”สวีเซี่ยงเฉียนพูดเสริม “ถูกต้องแล้วท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยน ประตูใหญ่ของค่ายป้องกันขวงเฟิงเปิดอยู่ พวกเราไปเดินสำรวจข้างในโดยรอบ แต่ก็มิเจอใครเลย”“แปลกจริง เมื่อวานพวกโจรป่าจากค่ายป้องกันขวงเฟิงก็พูดเอาไว้มิใช่หรือว่าพระภิกษุรูปนั้นยึดบ้านของพวกเขา? ค่ายป้องกันขวงเฟิงใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีคนอยู่ได้อย่างไร?”“พวกเราก็มิแน่ใจ”กู้เสวี่ยเจี้ยนอยากจะถามอะไรเพิ่ม แต่ฉินซูก็โบกมือแล้วพูดว่า “บางทีพระภิกษุรูปนั้นอาจเจออะไรเข้าจึงรีบจากไปก่อน ไหน ๆ เขาก็มิอยู่แล้ว เราก็อาศัยโอกาสนี้รีบผ่านสันเขาเฮยเฟิงไปจะดีกว่า เช่นนี้ก็จะได้ช่วยลดความยุ่งยากลงไปได้บ้าง”ถานเหวยพยักหน้าเห็นด้วย “สิ่งที่องค์รัชทายาทกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว หากมีปัญหาน้อยลง พวกเราก็จะสามารถไปถึงเมืองเหลีย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 398

    “เสวี่ยเจี้ยน!”เซี่ยหลานร้องอุทานและคิดจะไปรับทว่าฉินซูนั้นเร็วกว่านาง!ฉินซูพุ่งไปคว้าเอวของกู้เสวี่ยเจี้ยนเอาไว้ก่อนที่นางจะกระแทกพื้นฉินซูก้มมองและเห็นว่าดวงตาของกู้เสวี่ยเจี้ยนปิดสนิท ใบหน้าที่งดงามซีดเซียวนัก ลมปราณของนางผันผวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่เขาขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบอาการเช่นนี้เซี่ยหลานถามอย่างร้อนใจ “องค์รัชทายาท เสวี่ยเจี้ยนเป็นอะไรหรือเพคะ?”“ข้าจะไปรู้หรือ!”ฉินซูประคองกู้เสวี่ยเจี้ยนให้นั่งพิงหีบแล้วสะกิดหน้านางเบา ๆ“กู้เสวี่ยเจียน เจ้าเป็นอะไรไป? รีบฟื้นขึ้นมา”ทว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ!ขณะนั้น ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็พากันล้อมเข้ามาเมื่อสังเกตเห็นว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนหมดสติไป พวกเขาทุกคนก็เริ่มวิตกกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสวีเซี่ยงเฉียนและคนอื่น ๆ เพราะในสายตาของพวกเขา กู้เสวี่ยเจี้ยนคือผู้ที่มีวรยุทธ์แก่กล้าที่สุดในคณะเดินทางนี้หากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับนาง แล้วทางข้างหน้าต้องพบเจออันตรายใด ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากถานเหวยถามว่า “องค์รัชทายาท ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยนคงมิได้รับบาดเจ็บในตอนที่ต่อสู้กับเย่ชางสิงเมื่อคืนนี้หรอกใช่หรื

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 399

    ฉินซูหรี่ตามองลึกเข้าไปในดวงตาของกู้เสวี่ยเจี้ยนเขารู้ดีว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนกำลังโกหก แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนมีเรื่องในใจที่ยากจะพูดออกมา เขาก็มิอยากถามอะไรต่อเซี่ยหลานรู้สึกสับสนเล็กน้อย “เสวี่ยเจี้ยน อาจารย์ของเจ้าเป็นถึงเจ้าสำนักหอดูดาวหลวง เขามีวรยุทธ์ที่แก่กล้าถึงเพียงนั้น แต่กลับช่วยเจ้าแก้ปัญหานี้มิได้หรือ?”“ยาลูกกลอนนี้อาจารย์เป็นผู้กลั่นให้ข้า ขอเพียงข้ากินตรงเวลาก็จะไม่มีปัญหาร้ายแรง แต่วันนี้ข้าดันลืมกินเสียได้”“เช่นนี้นี่เอง อย่างนั้นคราวหน้าอย่าลืมกินยาให้ตรงเวลาเล่า เมื่อครู่ทำเอาพวกข้ากลัวแทบแย่”กู้เสวี่ยเจี้ยนตอบรับเสียงอืมและมิพูดอะไรอีกขณะนั้นเอง เซี่ยหลานก็อุทานออกมาว่า “เสวี่ยเจี้ยน เหตุใดที่ไหล่ของเจ้าถึงมีเลือดออก?”กู้เสวี่ยเจี้ยนมองลงไปก็เห็นว่าอาภรณ์ด้านหน้าตรงไหล่ซ้ายเปื้อนสีแดงและมีเลือดไหลออกมา“ดูเหมือนว่าแผลจะเปิด เซี่ยหลาน ช่วยทายาทำแผลให้ข้าหน่อยสิ”“หา? เจ้าได้รับบาดเจ็บจริง ๆ หรือ?!” เซี่ยหลานรู้สึกประหลาดใจ!กู้เสวี่ยเจี้ยนส่ายหัวเบา ๆ “เป็นแผลเก่าเมื่อหลายวันก่อน ไม่มีอะไรหรอก”“เช่นนั้นก็ไปตรงโน้นกัน”ขณะที่เซี่ยหลานกำลังจะพยุ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 400

    “แน่นอนว่านี่คือยารักษาแผลวิเศษ”หลังจากที่ฉินซูพูดจบ เขาก็โยนขวดกระเบื้องขนาดเล็กใส่ในมือของกู้เสวี่ยเจี้ยนกู้เสวี่ยเจี้ยนตกตะลึงไปชั่วขณะ “องค์รัชทายาท นี่ท่าน…”“ข้าให้เจ้า”“ว่ากระไรนะเพคะ?”หลังจากที่กู้เสวี่ยเจี้ยนกลับมามีปฏิกิริยา นางก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ยานี้มีค่ามาก หม่อมฉันมิสามารถรับไว้ได้ องค์รัชทายาทนำกลับไปเถิดเพคะ”“ของที่ตัวข้าให้ไปแล้วไม่มีเหตุผลที่จะนำกลับคืน นอกจากนี้ภารกิจของเจ้าในการเดินทางครั้งนี้คือการคุ้มกันข้า ถือเสียว่ายานี้เป็นรางวัลที่ข้ามอบให้เจ้า หากเจ้ามิต้องการก็โยนมันทิ้งไปเสีย”“หม่อมฉันมิได้บอกว่ามิต้องการ หม่อมฉันแค่คิดท่านควรเก็บโอสถสรรพโรคนี้ไว้ใช้เองจะดีกว่าเพคะ”“วางใจได้ ข้ามิได้มียาตัวนี้แค่ขวดเดียวหรอก”เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ประหลาดใจอีกครั้ง “องค์รัชทายาท คงมิใช่ท่านยอดฝีมือผู้นั้นที่อยู่เบื้องหลังท่านมอบยานี้มาให้หรอกใช่หรือไม่เพคะ?”ฉินซูพยักหน้าเบา ๆ เพื่อเป็นการยอมรับทันใดนั้นเขาก็พบว่า จริง ๆ แล้วการที่คนอื่นเข้าใจผิดว่าเขามียอดฝีมืออยู่เบื้องหลังมันก็สะดวกดีเหมือนกันอย่างน้อยก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มิต้องใช

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 401

    “เอ้อ ได้” ฉินซูรู้ว่าตนเองผิด จึงหันหลังเดินออกไปอย่างหงุดหงิดใจ กู้สเวี่ยเจี้ยนรีบจัดชุดของตนเองอย่างลนลาน เมื่อนึกถึงที่ถูกฉินซูมองเมื่อครู่ นางทั้งเขินอายทั้งขุ่นเคือง จิตใจก็พลุ่งพล่านขึ้น หลังจากที่นางออกจากกระโจม เซี่ยหลานก็เดินเข้ามาหานาง “เสวี่ยเจี้ยน เจ้ามิเป็นอะไรใช่หรือไม่?” กู้เสวี่ยเจี้ยนส่ายหน้าเบา ๆ แต่สายตาที่มองไปทางฉินซูเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เซี่ยหลานเห็นท่าทางนั้นก็ขมวดคิ้ว แต่มิได้ถามอะไรเพิ่มอีกเช่นกัน หลังจากที่พวกเขากินมื้อเที่ยงเสร็จแล้วก็เดินทางกันต่อ สองชั่วยามต่อมา มีหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งปรากฏขึ้นอยู่มิไกล ฉินซูมองดูท้องฟ้าแล้วสั่งว่า “พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว คืนนี้พวกเราพักที่เมืองนี้กันเถอะ” เช่นนี้แล้ว พวกเขาพากันเข้าไปในหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้มิใหญ่นัก มีถนนสายหลักแค่เส้นเดียวเท่านั้น บนถนนสายหลักนั้นมีโรงเตี๊ยมอยู่หลังเดียว นอกจากนั้นก็เป็นร้านค้าเล็ก ๆ ทั้งสิ้นเมื่อเจ้าของโรงเตี๊ยมเห็นถานเหวยในชุดขุนนาง เขารีบเข้ามาโค้งคำนับและต้อนรับ “ขุนนางท่านนี้ ให้เกียรติมาที่นี่ มิทราบว่ามีอะไรให้รับใช้หรือขอรับ?” ถานเหวยจ้องมองเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 402

    “เร็วเข้า นำเงินทั้งหมดขึ้นรถม้าเดี๋ยวนี้!” เมื่อเฉิงอิงพูดจบ กลุ่มชายร่างใหญ่ในชุดรัดกุมราวสิบกว่าคนก็กรูเข้ามาจากประตูด้านนอกโรงเตี๊ยม พวกเขาพับแขนเสื้อขึ้น แล้วเดินไปยกหีบไม้ที่บรรจุเงินเอาไว้ ตอนนี้เอง เสียงชราที่ทรงพลังส่งเสียงดังสะท้อนกึกก้องทั่วลาน! “พวกเจ้าช่างอาจหาญนัก ถึงกับกล้าปล้นเงินบรรเทาภัยพิบัติ!”เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทุกคนหยุดชะงักทันที! “ใครน่ะ?!” เฉิงอิงจับด้ามดาบแน่นมิรู้ตัว พร้อมกับส่งสายตามองไปรอบ ๆ ราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ คนอื่น ๆ ที่เหลือต่างชักอาวุธออกมา หันหลังเข้าหากันเป็นวงกลม เตรียมพร้อมรับมือ “เคยได้ยินว่าสำนักกระบี่สักการะคือสำนักใหญ่และทรงคุณธรรม ได้ชื่อว่าเป็นผู้กล้า แต่วันนี้กลับทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ เกรงว่าจะมิคู่ควรกับคำว่า ‘ผู้กล้า’ อีกต่อไปแล้วกระมัง?” เสียงของชายชรายังคงดังก้องอยู่รอบตัวทุกคน ทุกคนมองไปรอบ ๆ พยายามหาทิศทางของเสียง แต่กลับพบว่าเสียงนั้นไม่มีที่มาอย่างผิดปกติ ราวกับดังลงมาจากฟากฟ้า สิ่งนี้ทำให้พวกเขาแต่ละคนมีสีหน้าเคร่งขรึม ในใจรู้ทันทีว่าพบกับยอดฝีมือเข้าแล้ว ชายหนุ่มร่างกำยำตะโกนว่า “ฮึ แสร้งทำตัว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 403

    ทันทีที่เสียงนี้จบลง สวีหลายก็พลันหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ครั้นแล้วก็เห็นเงาร่างสูงเพรียวเดินออกมาจากห้องโถงของโรงเตี๊ยม คนผู้นี้สวมหน้ากากและเสื้อคลุมสีดำจึงมิสามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงได้ชัดเจน แต่จากเสียงก็สามารถประเมินได้ว่าเป็นผู้อาวุโส สวีหลายสำรวจมองชายชุดดำก่อนจะยกมือขึ้นคำนับแล้วกล่าวว่า “ผู้น้อยสวีหลาย ได้พบผู้อาวุโส มิทราบว่าผู้อาวุโส… เอ๊ะ?!” เขาพูดมิทันจบก็อุทานด้วยความประหลาดใจทันที จากนั้นเขาพูดด้วยความตกใจ “ท่านคือองค์รัชทายาทงั้นหรือ?” ในดวงตาของชายชราฉายประกายประหลาดใจวาบขึ้นก่อนจะหรี่ตาแล้วถามว่า “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” สวีหลายเหลือบมองด้านในโรงเตี๊ยมแล้วพูดอย่างจริงจัง “จี้หยกที่ห้อยอยู่บนเข็มขัดของท่านเหมือนกับที่องค์รัชทายาททรงสวมครั้งเมื่อตอนเสด็จลงใต้ไม่มีผิด ยิ่งไปกว่านั้นองค์รัชทายาทที่หมดสติอยู่ภายในโรงเตี๊ยมเมื่อครู่ บัดนี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย หากท่านมิใช่องค์รัชทายาทแล้วยังเป็นผู้ใดได้อีกหรือ?” ชายชุดดำก้มลงมองจี้หยกที่เข็มขัดโดยมิรู้ตัวก่อนจะยิ้มเจื่อนและส่ายหัว “คิดไม่ถึงจริง ๆ เลยว่าเจ้าจะสังเกตได้ละเอียดถึงเพียงนี้ เป็นข้าที่ประมาทเอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 404

    เมื่อฉินซูได้ยินก็เกรี้ยวกราดจนถึงกับทุบโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ แตกเป็นเสี่ยง ๆ!“มีอย่างที่ไหน ขุนนางสุนัขพวกนี้อาจหาญนัก!” สวีหลายหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะถามว่า “องค์รัชทายาททรงทราบถึงสถานการณ์ในเหลียงโจวแล้ว ขอทูลถามว่าเมื่อเสด็จถึงเหลียงโจวแล้วทรงตั้งพระทัยจะจัดการเช่นไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ฉินซูตอบด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “หากพวกขุนนางและพ่อค้าสมคบคิดกันจนสร้างความเดือดร้อนจริง ข้าจะกวาดล้างวงราชสำนักในเมืองเหลียงโจวคืนความสงบสุขให้แก่ราษฎรเมืองเหลียงโจว” พูดถึงตรงนี้เขาก็มองสวีหลายและกล่าวต่อว่า “หากเจ้าเชื่อใจตัวข้า จงนำคนของเจ้าไปยังเป่ยเหลียงด้วยกัน ส่วนเงินและอาหารบรรเทาทุกข์ภาคใต้ ข้าจะคิดหาวิธีเอง” “พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นข้าน้อยจะพาภรรยาเดินทางไปยังเป่ยเหลียงทันที เมื่อองค์รัชทายาทเสด็จถึงเหลียงโจว ข้าน้อยจะมอบของกำนัลชิ้นใหญ่ให้ท่าน!”ฉินซูประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบา ๆ และถามว่า “เจ้าเชื่อมั่นในตัวข้าจริงหรือ? ในเมื่อก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของข้ามิค่อยดีนัก” สวีหลายหัวเราะเปิดเผย “จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของท่านทรงมิค่อยดีนัก ทว่ามินานมานี้องค์รัชทายาททรงสามารถเอาชนะวรรณก

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 620

    ฉงชูโม่มองซ้ายขวาแล้วกล่าว “บางทีอาจจะกลับค่ายทหารไปแล้วกระมัง เขาเป็นคนของอ๋องฉู่ การที่เห็นท่านสร้างความดีความชอบ คงรู้สึกมิพอใจอยู่บ้าง มิใช่เรื่องแปลกเพคะ”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”ฉินซูเหลือบมองเหล่าทหารที่กำลังกินดื่มอย่างสำราญ จึงเอ่ยถาม “เจ้าคงมิได้ให้ทหารทั้งหมดเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองชัยกระมัง?”“มิได้เพคะ นี่เป็นเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือล้วนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว แต่ป่านนี้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่มีข่าวคราวมาจากทางคลังอาวุธเล่า?”ฉินซูขมวดคิ้ว รู้สึกถึงความผิดปกติฉงชูโม่จึงสั่งทหารข้างกาย “เจ้าจงไปดูลาดเลาที่คลังอาวุธทีว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่”“ขอรับ!”ทหารผู้นั้นรีบเร่งไปยังทิศทางคลังอาวุธมินานนัก เขาก็กลับมา“เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ที่คลังอาวุธเป็นปกติดีขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่จึงอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น“แปลกจริง เป็นไปได้อย่างไรที่เติ้งหม่างจะอดทนได้ถึงขั้นนี้ มิส่งคนมาขโมยธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า?”“เป็นไปมิได้ เขารู้ว่าคืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย การป้องกันเมืองจึงหย่อนยานลง หากเขามิมาในคืนนี้ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้แ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 619

    หูก่วงเซิงหัวเราะเยาะ “ลำพังพวกเจ้าเพียงหยิบมือนี้น่ะหรือ? หึ ๆ ช่างประมาณตนสูงเสียจริง!”กำแพงเมืองเจียวโจวสูงหกถึงเจ็ดจั้ง เขามิคิดว่าหม่าเวยและคนเหล่านี้จะสามารถปีนขึ้นไปได้หม่าเวยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “อย่างน้อยก่อนที่จะปะทะเข้ากับพวกเจ้า พวกเราก็ยังคงมั่นใจมากทีเดียว”“ฮ่า ๆ พวกโง่เขลาเอ๋ย เอาเถอะ ในเมื่อความดีความชอบมาประเคนให้ถึงปากประตูแล้ว มิรับไว้คงน่าเสียดายแย่ ใครก็ได้!”“ขอรับ!”“ปิดปากพวกมันทั้งหมด แล้วส่งคนสองสามคนไปเฝ้าพวกมันในป่าให้ดี!”“ท่านแม่ทัพหู ในเมื่อพวกมันเป็นสายสืบของหนานเยวี่ย ไฉนมิควบคุมตัวพวกมันกลับเมือง ไปส่งให้ท่านแม่ทัพใหญ่จัดการเล่าขอรับ?”หูก่วงเซิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “นำคนกลับไปยามนี้ แล้วพวกเราจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยต่อหรือไม่?”“จริงด้วย พวกมันถูกพวกเรามัดไว้แล้ว ไม่มีทางหลบหนีไปได้ ส่งคนไปเฝ้าพวกมันไว้ก็พอ รอจนกระทั่งพวกเราได้ชัยกลับมา ค่อยคุมตัวคนพวกนี้กลับเมือง เช่นนี้จะได้ความดีความชอบเพิ่มขึ้นอีกอย่างไรเล่า!”ดวงตาของหม่าเวยกลอกไปมา เอ่ยปากกล่าว “ท่าน… ท่านแม่ทัพหู ท่านแน่ใจหรือว่าจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยของพวกเรา?”“หากเป็นเช่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 618

    “ท่านแม่ทัพหู แผนนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือแล้วอ้อมไปอีกหน่อย ก็ลอบโจมตีทัพหนานเยวี่ยได้เหมือนเดิม!”“ไป เร่งฝีเท้า!”ดังนั้น กองทหารของพวกเขาจึงเดินทางมายังใต้ประตูเมืองฝั่งเหนือแม่ทัพรักษาการณ์ที่นี่เห็นหูก่วงเซิงและพวก จึงไต่ถาม “ท่านแม่ทัพหู นี่พวกท่านจะทำการใด?”“ในเมืองผู้คนพลุกพล่านเกินไป พวกเราจะออกไปพักผ่อนนอกเมืองสักหน่อย วันพรุ่งพวกเราจะย้ายค่ายทหารไปตั้งไว้นอกเมืองฝั่งเหนือเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการฝึกทหาร”เมื่อได้ยินดังนั้น ทหารรักษาการณ์ก็โบกมือให้คนเปิดประตูเมืองจะตำหนิว่าเขาประมาทเกินไปก็มิได้ ท้ายที่สุดแล้วนอกเมืองทางฝั่งเหนือยังมีทหารประจำการอยู่เป็นจำนวนมิน้อย ทหารที่เข้าออกประตูเมืองทางฝั่งเหนือจึงมีจำนวนมากเป็นทุนเดิมหลังจากที่ออกนอกเมืองได้อย่างราบรื่น หูก่วงเซิงจึงนำกองทัพทหารม้าพันนายมุ่งหน้าลงใต้!ขณะเดียวกันนอกประตูเมืองเจียวโจวทางฝั่งใต้ เงาร่างสิบกว่าร่างพุ่งออกมาจากป่าละเมาะห่างออกไปมิไกลนักพวกเขามีท่าทางคล่องแคล่ว เพียงชั่วพริบตาก็เข้าไปซุ่มซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เตี้ย ๆ ฝั่งหนึ่งหลังจากที่สังเกตการณ์บนกำแพงเมืองอยู่ครู่หน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 617

    “ท่านแม่ทัพหู กองทัพหนานเยวี่ยแตกพ่ายในวันนี้ บัดนี้คงอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่เป็นแน่ หากพวกเรานำทัพไปลอบโจมตี อย่างไรก็ต้องสำเร็จ! ถึงเวลานั้นหากสำเร็จ ท่านแม่ทัพใหญ่จะเอาผิดพวกเราที่ยกทัพไปโดยพลการได้อย่างไร?”ชายร่างกำยำอีกด้านกล่าวสำทับ “รองแม่ทัพหลิวกล่าวได้ถูกต้อง ท่านแม่ทัพหู พวกเราอุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมาถึงเจียวโจวก็มิใช่อื่นใด นอกเสียจากเพื่อสร้างความดีความชอบให้มากยิ่งขึ้นพวกเราสร้างความดีความชอบในเจียวโจวมากเท่าไร พระเกียรติของท่านอ๋องฉู่ในราชสำนักก็จะยิ่งสูงส่งมากขึ้นเท่านั้น ทุกสิ่งที่พวกเราทำ ล้วนเพื่อท่านอ๋องฉู่ทั้งสิ้น!”“ถูกต้อง พวกเราคือคนของท่านอ๋องฉู่ ท่านแม่ทัพใหญ่ย่อมมิอาจตำหนิพวกเราที่ออกรบโดยพลการได้ ท่านแม่ทัพหู ท่านรีบตัดสินใจเถิด โอกาสมิคอยท่า เวลามิหวนคืน!”“ท่านแม่ทัพหู คนขององค์รัชทายาทออกนอกเมืองไปครึ่งชั่วยามแล้ว หากพวกเรามิรีบเร่งติดตามไป เกรงว่าน้ำแกงก็มิได้ซด อย่าหวังจะได้กินเนื้อเลยขอรับ!”ด้วยคำยุยงของเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา ดวงตาของหูก่วงเซิงก็ค่อย ๆ แน่วแน่ขึ้น!เขาพยักหน้าหนักแน่น กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “สั่งให้เหล่าสหายทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม อีกห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 616

    หูก่วงเซิงยกไหสุราขึ้นกระดกไปหลายอึก และแค่นเสียง “หึ ศึกที่ได้ชัยชนะในวันนี้ หากมิใช่เพราะทหารม้าหุ้มเกราะของพวกข้าบุกตะลุยอยู่แนวหน้า มีหรือกองทัพหนานเยวี่ยจะถูกสังหารจนแตกพ่ายยับเยิน?ทว่าในงานเลี้ยงฉลองชัย ท่านแม่ทัพใหญ่กลับมิเอ่ยถึงความดีความชอบของพวกข้าแม้แต่คำเดียว เอาแต่ชื่นชมองค์รัชทายาทมิขาดปากข้าสงสัยนัก องค์รัชทายาทเพียงแต่นำอาวุธที่กรมโยธาธิการประดิษฐ์ขึ้นใหม่มาด้วยเท่านั้น มีสิ่งใดน่าสรรเสริญกัน?”รองแม่ทัพที่นั่งอยู่ข้างกายเขาขมวดคิ้ว กล่าว “ท่านแม่ทัพหู ท่านว่าเช่นนี้เห็นทีจะมิถูกกระมัง อาวุธเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาททรงออกแบบ ศึกครานี้ชนะได้ ก็เป็นเพราะพระองค์”“ใช่แล้ว อีกอย่างที่ทหารม้าหุ้มเกราะของพวกท่านบุกตะลุยกองทัพหนานเยวี่ยได้ไร้ผู้ใดขัดขวาง ก็มิใช่เป็นเพราะมีอาวุธที่องค์รัชทายาททรงออกแบบให้การคุ้มครองหรอกหรือ มิเช่นนั้นกองทัพหนานเยวี่ยจะปล่อยให้พวกท่านบุกตะลุยในแนวรบโดยมิอาจโต้ตอบได้เลยด้วยเหตุใดเล่า?”หูก่วงเซิงเผยสีหน้าดูแคลน หัวเราะเยาะ “องค์รัชทายาทที่เอาแต่เสพสุขไปวัน ๆ ไฉนจึงออกแบบอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้? พวกเจ้าก็ช่างหูเบากันเสียจริง ใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 615

    หลังจากที่ฟังเขาจนจบ ฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “แผนการของท่านดีก็จริง ทว่าหากพวกมันมิมาในคืนนี้เล่า?”“คืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย พวกมันต้องปักใจเชื่อว่ากำลังป้องกันเมืองของพวกเราหย่อนยาน คืนนี้หากพวกมันมิลงมือ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นคืนนี้พวกมันต้องลงมือเป็นแน่”“เช่นนั้นก็ได้ ทำตามที่ท่านว่าก็แล้วกันเพคะ!”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย แล้วกล่าวต่อ “อีกอย่าง คืนนี้เจ้าจงส่งทหารสองกองไปซุ่มอยู่หลินสุ่ยและเซี่ยอ้าว เมื่อทัพใหญ่หนานเยวี่ยปรากฏกาย จงปล่อยให้พวกมันเข้ามา รอจนกระทั่งเสียงฆ่าฟันนอกเมืองดังขึ้นค่อยตลบหลังโจมตีกองทัพหนานเยวี่ย จากนั้นจึงเข้าตีกระหนาบหน้าหลัง กวาดล้างพวกมันในคราเดียว!”ฉงชูโม่ถามอย่างตกตะลึง “ท่านคิดว่าคืนนี้พวกหนานเยวี่ยจะบุกโจมตีด้วยทัพใหญ่หรือเพคะ?”“พูดได้แต่เพียงมีความเป็นไปได้สูงนัก”“หม่อมฉันว่ามีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากเติ้งหม่างเพิ่งประสบความพ่ายแพ้ในวันนี้ ซ้ำร้ายทหารใต้บัญชาของเขายังหวาดหวั่นเกรงกลัวธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าของพวกเราจนหัวหด หากยังมิล่วงรู้ว่าพวกเรามีธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด พวกมันคงมิกล้าผล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 614

    ฉินซูหัวเราะแห้ง ๆ แล้วกล่าวติดตลก “ข้าแค่กังวลว่าเจ้าจะหึงหวงข้า”ฉงชูโม่ถ่มน้ำลาย “ถุย ใครจะหึงท่านกัน อย่าได้หลงตัวเองไปหน่อยเลย!”“อะแฮ่ม ๆ เรื่องนั้นช่างมันเถิด ที่จริงข้ามีธุระสำคัญ...”ฉงชูโม่ขัดขึ้นมาเสียก่อน “มีกระไรก็รีบว่ามา อย่ามัวอ้อมค้อม”ฉินซูปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม แล้วเอ่ยถาม “วันนี้ที่พวกเรามีชัยเหนือแคว้นหนานเยวี่ย ในความเห็นของเจ้า พวกมันจะทำอย่างไรต่อไป?”“ชัยชนะในวันนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับพลานุภาพของธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า กองทัพหนานเยวี่ยประสบความพ่ายแพ้ย่อยยับถึงเพียงนี้ หากหม่อมฉันเป็นเติ้งหม่าง คงต้องหาทางนำอาวุธทั้งสองชนิดนี้ไปให้ได้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูจึงอดมิได้ที่จะมองนางด้วยสายตาชื่นชมสมแล้วที่ฉงชูโม่เป็นแม่ทัพขั้นหนึ่งที่มากล้นด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ สามารถเดาใจศัตรูได้ล่วงหน้าเช่นนี้“เมื่อรู้ถึงเจตนาของเติ้งหม่างผู้นั้นแล้ว เราควรจะลองมาล่อเสือออกจากถ้ำดูสักครา”“ตรัสเช่นนี้ แสดงว่าท่านทรงคิดแผนการรับมือไว้แล้วหรือ?”ฉงชูโม่เอี้ยวศีรษะมองฉินซู ดวงตาคู่งามกระจ่างใสนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจหางตาฉินซูเหลือบมองอ่างอาบน้ำโดยม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 613

    “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ขอพระองค์โปรดเมตตา”ทั้งสองกล่าวพร้อมคุกเข่าลงต่อหน้าฉินซูฉินซูจนปัญญา จึงตะโกนเข้าไปในกระโจม “ชูโม่ ให้ข้าเข้าไปเถิด ข้าขออธิบายให้เจ้าฟังดี ๆ มิได้หรือ?”ทว่าข้างในกลับไร้เสียงตอบรับฉินซูยังคงมิยอมแพ้ กล่าวต่อไป “ชูโม่ เจ้าอย่าหึงหวงนักเลย อย่างน้อยก็ให้ข้าอธิบายสักหน่อยเถิด”เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ทหารยามทั้งสองก็อดมิได้ที่จะสบตากัน!ให้ตายสิ ท่านแม่ทัพใหญ่กับองค์รัชทายาทมีความสัมพันธ์ช่างลึกซึ้งเกินคาด!!สีหน้าของพวกเขาทั้งสองฉายแววตกตะลึง ราวกับได้รับข่าวเด็ดข่าวใหญ่ฉินซูเกลี้ยกล่อมอีกสองสามประโยค ทว่าในกระโจมก็ยังคงไร้เสียงตอบรับเมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูจึงหันไปถามทหารยามทั้งสอง “ชูโม่อยู่ข้างในจริง ๆ หรือ?”“พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ท่านแม่ทัพใหญ่เข้าไปแล้วก็ยังมิได้ออกมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่มีประตูด้านหลังใช่หรือไม่?”“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”“มิได้การ ชูโม่อาจจะเป็นกระไรไปแล้วก็ได้!”กล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูจึงตะโกนเข้าไปด้านใน “ชูโม่ ข้าจะเข้าไปแล้วนะ”ขณะที่ฉินซูกำลังจะก้าวเท้าเข้าไป ทหารยามทั้งสองก็รีบร้องทัดทาน “มิได้พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 612

    ขณะเดียวกันกองหนุนทัพหนานเยวี่ยภายในค่ายทหารแม่ทัพนายกองทั้งหลายต่างจับจ้องไปยังบุรุษบนที่นั่งหัวโต๊ะด้วยใจระทึกบุรุษผู้นั้นสวมชุดเกราะสีเงินยวง ร่างกายสูงใหญ่ผึ่งผาย!เขาคือแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพหนานเยวี่ย เติ้งหม่าง!สายตาเย็นเยียบของเขากวาดมองไปยังกลุ่มคนทีละคน สุดท้ายจับจ้องที่แม่ทัพน้อยหม่า“หม่าเวย เจ้าสำนึกผิดหรือไม่?”หม่าเวยรีบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ทว่าอาวุธของต้าเหยียนคราวนี้ร้ายกาจเหลือเกิน โล่เกราะหวายของพวกเราเมื่อเผชิญกับลูกธนูของพวกมันก็มิต่างกระไรจากดินเหนียว ยิงคราเดียวก็ทะลุง่ายดาย!”“ใช่แล้วท่านแม่ทัพใหญ่ โล่เกราะหวายที่พวกเราเคยภาคภูมิใจนักหนา บัดนี้มิอาจหวังพึ่งได้อีกแล้วขอรับ”“มิเพียงเท่านั้น ทางต้าเหยียนยังใช้อาวุธเพลิงร้ายกาจชนิดหนึ่ง ของสิ่งนั้นอานุภาพร้ายแรงยิ่งนัก ทหารมิใช่น้อยถูกระเบิดจนร่างแหลกมิเหลือชิ้นดีเลยขอรับ”เมื่อกล่าวถึงระเบิดเพลิง หลายคนยังคงหวาดผวาเติ้งหม่างขมวดคิ้วมุ่น และกล่าวพึมพำ “กองทหารรักษาการณ์เจียวโจวถูกพวกเราโจมตีมาเกือบเดือน บัดนี้จู่ ๆ กลับปรากฏอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status