共有

บทที่ 247

作者: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินหยางมีท่าทางมั่นใจ มิเกรงกลัวใด ๆ พูดเย็นชาออกมา “ถึงข้าไม่มีหลักฐาน แต่สำนักหอดูดาวหลวงสามารถตรวจสอบได้ ด้วยความสามารถของสำนักหอดูดาวหลวง แน่นอนว่าพวกเขาจะหาความจริงออกมาได้แน่นอน ถึงเวลานั้นก็จะรู้เองว่า สิ่งที่ข้าคาดเดานั้นจริงหรือไม่”

ฉินอู๋ต้าวหันไปมองเหลยเจิ้น ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "สืบสวนเรื่องนี้โดยด่วน มิว่ามันจะเกี่ยวข้องกับผู้ใด ข้า… ต้องการเพียงความจริง!"

"กระหม่อมรับพระบัญชา!" เหลยเจิ้นก้มหน้ารับคำสั่งด้วยความเคารพ

ท่ามกลางฝูงชน ฉินเซียวเริ่มกระวนกระวาย

หากสำนักหอดูดาวหลวงเข้ามาทำการสืบสวนจริง ๆ ในกรณีนั้นการสืบสาวมาถึงตัวเขาก็เป็รนเรื่องของเวลาเท่านั้น

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาก็หันไปส่งสัญญาณด้วยสายตาให้ขันทีน้อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ

ขันทีคนนั้นเข้าใจเจตนาในทันทีและรีบถอยออกไป

มินานหลังจากนั้น ขันทีน้อยคนนั้นก็กลับเข้ามาอีกครั้ง ก่อนคุกเข่าลงและรายงานด้วยความเคารพว่า "กราบทูลฝ่าบาท มีคนจากภายนอกเข้ามาคนหนึ่ง เขากล่าวว่าเขาต้องการมอบตัวสารภาพผิดพ่ะย่ะค่ะ"

"มอบตัวสารภาพผิดหรือ?"

"พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท คนผู้นั้นอ้างว่ารู้ความจริงเกี่ยวกับเหตุลอบสังหารเฉิน
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

関連チャプター

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 248

    ฉินหงพูดด้วยใบหน้าเศร้าใจ "เสด็จพี่รัชทายาท ถึงน้องหกจะเคยทำผิด เขามิควรส่งคนไปลอบสังหารท่านก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ถูกเนรเทศไปจากเมืองหลวงและได้รับโทษตามสมควรแล้ว เหตุใดท่านยังต้องการเอาชีวิตเขาอีก?"เหล่าองค์ชายคนอื่น ๆ ก็เริ่มกล่าวตำหนิติเตียนไปตาม ๆ กันองค์ชายแปดพูดด้วยใบหน้าที่มิเชื่อว่า "เสด็จพี่ ๆ ทั้งหลาย เรื่องราวยังมิกระจ่างชัด ท่านทั้งหลายก็กล่าวโทษเสด็จพี่ใหญ่เสียแล้ว ข้าเชื่อว่าเสด็จพี่ใหญ่ต้องถูกใส่ความแน่นอน เขาจะทำเรื่องโหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร ข้ามิเชื่อ ไม่มีทางเป็นไปได้!"ฉินหยางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "น้องแปด เจ้าอายุยังน้อย เมื่อเจ้าโตขึ้น เจ้าจะเข้าใจเองว่าคนเรายามต้องการรักษาอำนาจของตน สามารถโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงใด""แต่เสด็จพี่รัชทายาทจะลงมือกับน้องชายของตนได้อย่างไร?" องค์ชายแปดมองไปยังหลี่ซานกุ้ยและถามเสียงดัง "เจ้าคนสารเลว รีบพูดมา ผู้ใดเป็นคนสั่งเจ้าให้ใส่ร้ายเสด็จพี่รัชทายาทของข้า?"หลี่ซานกุ้ยสั่นสะท้านพลางส่ายหัว "ไม่มีใครสั่งข้าน้อยพ่ะย่ะค่ะ ที่ข้าน้อยกล่าวไปล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ"ฉินอู๋ต้าวกล่าวด้วยเสียงเย็น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 249

    ชายวัยกลางคนคนนี้คือผู้ดูแลจวนอ๋องหนิง นามว่าโจวฟาง ! ทันทีที่เขาถูกนำตัวเข้ามา เขาก็รีบคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมร้องขอชีวิต "ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตด้วยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทำเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะองค์รัชทายาทบีบบังคับ ขอฝ่าบาทโปรดเมตตาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ"จักรพรรดิฉินอู๋เต้ายังมิทันได้เอื้อนเอ่ย ฉินเซียวก็โกรธจนเตะโจวฟางล้มลงไปกับพื้นและตะโกนด่า "เจ้าเดรัจฉาน! หาเรื่องให้ข้าจริง ๆ โชคดีที่เมื่อวานเสด็จพ่อมีพระบัญชาอื่น มิเช่นนั้นหากข้าส่งทหารไปยังศาลาสิบลี้จริง ตอนนี้ข้อหาลอบสังหารฉินเหยี่ยนคงจะตกอยู่กับข้าแล้ว เจ้ามันสมควรตาย!"เขาตะโกนด่าทอพร้อมทั้งกระทืบโจวฟางซ้ำ ๆ เพียงชั่วอึดใจ โจวฟางก็ถูกเตะจนทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยเท้า ใบหน้าฟกช้ำบวมเป่งโจวฟางร่ำไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าวว่า "ท่านอ๋องหนิง กระหม่อมก็จนปัญญาจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทส่งคนไปจับตัวครอบครัวกระหม่อมไว้ บอกว่าหากกระหม่อมมิทำตามที่สั่ง องค์รัชทายาทจะฆ่าครอบครัวกระหม่อมทุกคน กระหม่อมจึงต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือกพ่ะย่ะค่ะ"ฉินหยางอดใจมิไหวกล่าวขึ้นบ้าง "เสด็จพ่อ บัดนี้ทุกอย่างกระจ่างแล้ว แถมยังมีพยานยืนยันอีกด้วย ขอเสด็จพ่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 250

    คำพูดของฉินซูทำให้ฉินหงชะงัก ทำเขาถึงกับพูดมิออก เขารู้ดีว่าฉินซูพูดถูก เรื่องสำคัญเช่นนี้ เป็นใครก็คงมิทิ้งหลักฐานชัดเจนถึงเพียงนี้ได้ฉินซูยังคงกล่าวต่อ “จดหมายฉบับนี้ยังมีตราประทับของข้าอีกต่างหาก หรือกลัวว่าคนอื่นจะมิรู้ว่านี่เป็นฝีมือข้าหรืออย่างไร? หลักฐานเช่นนี้ดูจงใจเกินไปหน่อยกระมัง?”ฉินหงแสดงอาการลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดต่อ “หึ ตอนนั้นท่านคงกังวลจนมิทันได้คิดถึงรายละเอียดพวกนี้ ตอนนี้พยานและหลักฐานมีครบแล้ว เป็นท่านแน่ ท่านสังหารน้องหก มิว่าจะแก้ตัวอย่างไร ท่านก็หนีความจริงมิพ้น! เสด็จพ่อ กระหม่อมขอให้มีการไต่สวนสามสำนัก เพื่อตรวจสอบความผิดของฉินซูด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากที่ฉินหยางกล่าวจบ หวังฉือ ตุลาการศาลต้าหลี่ก็ออกมากล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า การพิจารณาคดีองค์รัชทายาทเช่นนี้มิใช่เรื่องล้อเล่น หากไม่มีหลักฐานที่แน่นหนา การสั่งไต่สวนสามสำนักจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ขอฝ่าบาททรงตรึกตรองให้ดีด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เนี่ยหง ผู้ตรวจการจากสำนักผู้ตรวจการก็เสริมว่า “กระหม่อมเห็นด้วยกับหวังฉือ ข้อมูลที่เรามีในตอนนี้ยังมิมากพอที่จะดำเนินการตรวจสอบคดีอง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 251

    จากนั้นหลี่ซานกุ้ยก็ตัวสั่น และเลือดสีดำที่มีกลิ่นเหม็นก็ไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขามิคิดเลยว่าเขาจะกินยาพิษปลิดชีพตนในที่เกิดเหตุ!เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองไปที่เหลยเจิ้นทันทีในพริบตาเดียว เขาก็รีบรุดมาตรวจดูหลี่ซานกุ้ยจากนั้นเขาก็ถอนหายใจและส่ายหัวเบา ๆ ไปทางฉินอู๋ต้าวฉินซูกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ความจริงได้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า หลี่ซานกุ้ยจ่ายเงินติดสินบนสวีฉง และหลังจากที่ได้ตราประทับของลูกไป เขาก็นำไปประทับตราจดหมายดังกล่าวตอนนี้เมื่อเห็นว่าการกระทำของตนถูกเปิดเผย เขาจึงฆ่าตัวตาย พฤติกรรมดังกล่าวก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า ทุกสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้เป็นการเสกสรรปั้นเรื่องที่ไม่มีมูลขึ้นมา ขอเสด็จพ่อโปรดทรงให้ความเป็นธรรมแก่ลูกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวคาดมิถึงว่าหลี่ซานกุ้ยจะเลือกปลิดชีพตนเช่นนี้เขาโบกมือแล้วพูดว่า “นำร่างของหลี่ซานกุ้ยออกไป และทำการสืบสวนอย่างละเอียด หาตัวคนบงการ ข้าอยากจะเห็นนักว่า ใครที่มันคอยยุยงสร้างเรื่องอยู่เบื้องหลัง!”“รับพระราชบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ราชองครักษ์ลากร่างอันไร้วิญญาณของหลี่ซานกุ้ยออกไปฉินหยางนึกฉุนเฉียวอยู่ในใจ โอกาสอั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 252

    หนึ่งเค่อต่อมาเซี่ยหลานได้มาถึงพระตำหนักจินหลวนก่อนหน้านั้น นางได้ยินมาว่า ฉินซูเป็นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังของการสังหารเฉินหลิวอ๋อง ดังนั้นนางจึงรีบมารออยู่ด้านนอกประตูตำหนักเพราะนางเชื่อมั่นว่า ฉินซูไม่มีทางทำเช่นนั้นได้หลังจากถูกเรียกตัวไปที่พระตำหนักจินหลวน นางก็นึกสงสัยและมิเข้าใจว่า เหตุใดองค์จักรพรรดิถึงยอมให้เรียกนางเข้ามาในเวลานี้แต่หลังจากที่เห็นว่าฉินซูมิได้รับบาดเจ็บ นางที่เป็นกังวลก็รู้สึกโล่งใจพลางถอนหายใจยาวนางถวายคำนับฉินอู๋ต้าวและพูดด้วยความนอบน้อม “เซี่ยหลานขอถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”ฉินอู๋ต้าวพูดอย่างจนใจ “ขุนนางเซี่ย ตอนนี้เจ้าเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทแล้ว ต่อไปเวลามาพบข้าให้เจ้าพูดคำแทนตัวเองเป็นขุนนาง จำไว้ด้วยเข้าใจหรือไม่?”เซี่ยหลานพยักหน้าอย่างเก้อเขิน “หม่อมฉัน… ข้าน้อยจำไว้แล้วเพคะ”จากนั้น ฉินอู๋ต้าวก็พูดกับฉินซู “เซี่ยหลานมาแล้ว เจ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมาได้เลย”ฉินซูยิ้มพลางมองเซี่ยหลานแล้วถามว่า “เซี่ยหลาน เมื่อวานช่วงต้นยามซื่อเจ้าทำอะไรอยู่? และอยู่กับผู้ใด?”หลังจากได้ยินคำถาม เซี่ยหลานก็นึกย้อนถึงความทรงจำในตอนนั้นมินาน ใบหน้างามของนางก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 253

    ฉงชูโม่ยังกล่าวอีกว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสนั้นเป็นความจริงอย่างแน่นอนเพคะ ท่านอ๋องหนิง นั่นคือช่วงที่ท่านเสด็จมามิใช่หรือเพคะ?”แม้ฉินเซียวอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อมีคนมากมายที่เห็นเขามาที่หน้าประตูตำหนักบูรพา ซึ่งย่อมมิสามารถปฏิเสธได้ เขาจึงต้องพยักหน้าฉินซูพูดเสียงดัง “ข้อเท็จจริงก็เป็นที่แน่ชัดแล้ว โจวฟางโกหกมาตั้งแต่ต้น! เจ้ากล้าใส่ร้ายข้าต่อหน้าธารกำนัลได้อย่างไร โจวฟาง เจ้าควรจะมีความผิดในฐานอะไรดี?!”โจวฟางตื่นตระหนกอย่างยิ่งและรีบมองไปที่ฉินเซียวเพื่อขอความช่วยเหลือฉินเซียวโมโหอย่างอัดอั้น ในใจสบถสาปแช่งบรรพบุรุษของโจวฟางไปสิบแปดชั่วโคตร‘ให้ตายเถอะ จนป่านนี้ก็ยังจะหันมาขอความช่วยเหลือจากข้า นี่มันเป็นการบอกกลาย ๆ ว่าข้าเป็นคนสั่งการเจ้ามิใช่รึ?’เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินเซียวก็เตะโจวฟางล้มลงกับพื้นและพูดด้วยความโกรธว่า “สารเลว บังอาจใส่ร้ายองค์รัชทายาท บอกมา ผู้ใดสั่งการเจ้ากันแน่ พูดความจริงมาเดี๋ยวนี้ หากเจ้ากล้าเล่นลิ้นอีกละก็ เมื่อถึงตอนที่ข้อกล่าวหาได้รับการพิสูจน์แล้ว เจ้าก็จะได้รับโทษประหารล้างตระกูล หากเจ้ามิคิดถึงตัวเอง ก็คิดถึงญาติโกโหติกาของเจ้าเสียเถอะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 254

    ฉินเซียวสะดุ้งในตอนแรก จากนั้นก็ถามอย่างตื่นตระหนก “เสด็จพี่องค์รัชทายาท เหตุใดถึงตรัสเช่นนี้? ท่านจะโยนความผิดให้กระหม่อมหรือ?”ฉินซูแค่นเสียงเย็น “โจวฟางเป็นเพียงผู้ดูแลในจวนของเจ้า หากมิได้รับการยินยอมจากเจ้า เขาจะกล้าทำความผิดร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างไร? อีกทั้งคนที่ลอบสังหารฉินเหยี่ยน ในตอนนั้นก็เป็นนักฆ่าหญิงผู้มีวรยุทธ์แก่กล้า สถานะอย่างโจวฟางจะส่งยอดฝีมือวรยุทธ์ไปทำงานให้ได้อย่างไร?”ยังมิทันที่ฉินเซียวจะได้โต้แย้ง โจวฟางก็ชิงพูดก่อนว่า “องค์รัชทายาท ท่านอย่าหวังว่าจะใส่ร้ายท่านอ๋องหนิงได้เลย นั่นเป็นฝีมือของกระหม่อม กระหม่อมยอมรับผิดแล้ว ส่วนนักฆ่าหญิงผู้นั้น กระหม่อมได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อจ้างวานสังหาร ทุกอย่างมิเกี่ยวอะไรกับท่านอ๋องหนิงเลยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็หัวเราะทันที!ฉินเซียวทำสีหน้ามิพอใจ แอบก่นด่าโจวฟางที่มิรู้เลยว่าตนตกหลุมพรางฉินซูเข้าแล้วเมื่อเห็นฉินซูหัวเราะ โจวฟางก็ถามโดยมิรู้เหตุผล “ท่านหัวเราะอะไร?”“ก็หัวเราะให้กับความเขลาของเจ้าอย่างไรเล่า! คนที่ลอบสังหารฉินเหยี่ยนมิใช่นักฆ่าหญิง ข้าแค่แต่งเรื่องขึ้นมา แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่า เจ้าจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 255

    ก่อนที่ฉินอู๋ต้าวจะได้เอ่ยอะไร ฉินซูก็ยิ้มเยาะและพูดว่า “ฉินเซียว โจวฟางเป็นผู้ดูแลในจวนอ๋องหนิงของเจ้า ผู้ใดจะสั่งเขาได้นอกจากเจ้า เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วยังจะปฏิเสธอีกรึ?”ฉินเซียวล้มลงคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง เขาพูดปกป้องตัวเองด้วยสีหน้าขมขื่น “เสด็จพ่อ ลูกถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ ลูกมิรู้ว่าโจวฟางเป็นบ้าอะไรถึงได้แว้งกัดลูกขึ้นมา ขอเสด็จพ่อโปรดทรงไขความกระจ่างด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวเหลือบมองโจวฟาง จากนั้นก็มองฉินเซียวที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก และทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทุกสิ่งเขาเหลือบมองเหลยเจิ้นโดยมิต้องคิดเจ้าตัวลังเลเล็กน้อยในตอนแรก จากนั้นก็ยกนิ้วขึ้นและปล่อยปราณดัชนีสังหารโจวฟางแต่ฉินซูสังเกตเห็นภาพเหตุการณ์นี้!ฉินซูก้าวไปบังโจวฟางไว้โดยมิได้ตั้งใจ!เมื่อเห็นเช่นนั้น เหลยเจิ้นก็ขมวดคิ้วเบา ๆ ด้วยเพราะลงมือได้ยากฉินซูดึงเข็มเงินออกจากจุดอวิ๋นเหมินของโจวฟางแล้วพูดเสียงเรียบ “เสด็จพ่อ โจวฟางเพิ่งสารภาพออกมา แต่ลูกก็มิแน่ใจว่าคำสารภาพของเขาเป็นจริงหรือเท็จ ดังนั้นลูกจึงอยากทูลขอให้เสด็จพ่อทรงพิจารณาคดีร่วมกับสามสำนัก และเริ่มการสอบสวนโจวฟางอย่างละเอียดทันที เพื่อมิให

最新チャプター

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 703

    “นึกมิถึงว่าเขาจะหนีรอดไปได้ เขาก็มีฝีมือเหมือนกันนี่ ดูท่าทางจะเตรียมการมาอย่างดีเชียว”“องค์รัชทายาท เมื่อกลับถึงหลงเฉิงแล้วเข้าเฝ้าฝ่าบาท จะทูลเรื่องที่อ๋องฉู่สมคบคิดก่อกบฏหรือไม่เพคะ?”“ทูลสิ ต้องทูลอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรามีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ยิ่งกว่านั้นการที่เขาสมคบคิดก่อกบฏก็เป็นความจริง อย่างไรก็ต้องทูล”“แต่ยามนี้อ๋องฉู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยนิสัยระแวดระวังของฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะมิทรงเชื่อพวกเราเต็มร้อยกระมังเพคะ”ฉินซูกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หลังจากเรื่องของอ๋องฉู่แดงขึ้นมา เขาก็หายตัวไป นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการหนีความผิด พวกเรากราบทูลตามความจริง บวกกับคำให้การของเหล่าคนสนิทของอ๋องฉู่และทหารห้าหมื่นนายที่ไม่มีรายชื่อในทะเบียน ก็เพียงพอที่จะตัดสินความผิดของอ๋องฉู่ได้แล้ว”“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นคนนั้น หม่อมฉันให้พวกตงฟางไป๋นำทางกลับหลงเฉิงล่วงหน้าไปแล้วเพคะ”ฉงชูโม่พูดพลางรู้สึกกระวนกระวายใจแปลก ๆจากนั้น พวกเขาก็พักค้างคืนที่เมืองหลงโย่วก่อนนอน ฉินซูสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามที่นั่นคือห้องของจีอันด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status