Share

บทที่ 254

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินเซียวสะดุ้งในตอนแรก จากนั้นก็ถามอย่างตื่นตระหนก “เสด็จพี่องค์รัชทายาท เหตุใดถึงตรัสเช่นนี้? ท่านจะโยนความผิดให้กระหม่อมหรือ?”

ฉินซูแค่นเสียงเย็น “โจวฟางเป็นเพียงผู้ดูแลในจวนของเจ้า หากมิได้รับการยินยอมจากเจ้า เขาจะกล้าทำความผิดร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างไร? อีกทั้งคนที่ลอบสังหารฉินเหยี่ยน ในตอนนั้นก็เป็นนักฆ่าหญิงผู้มีวรยุทธ์แก่กล้า สถานะอย่างโจวฟางจะส่งยอดฝีมือวรยุทธ์ไปทำงานให้ได้อย่างไร?”

ยังมิทันที่ฉินเซียวจะได้โต้แย้ง โจวฟางก็ชิงพูดก่อนว่า “องค์รัชทายาท ท่านอย่าหวังว่าจะใส่ร้ายท่านอ๋องหนิงได้เลย นั่นเป็นฝีมือของกระหม่อม กระหม่อมยอมรับผิดแล้ว ส่วนนักฆ่าหญิงผู้นั้น กระหม่อมได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อจ้างวานสังหาร ทุกอย่างมิเกี่ยวอะไรกับท่านอ๋องหนิงเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็หัวเราะทันที!

ฉินเซียวทำสีหน้ามิพอใจ แอบก่นด่าโจวฟางที่มิรู้เลยว่าตนตกหลุมพรางฉินซูเข้าแล้ว

เมื่อเห็นฉินซูหัวเราะ โจวฟางก็ถามโดยมิรู้เหตุผล “ท่านหัวเราะอะไร?”

“ก็หัวเราะให้กับความเขลาของเจ้าอย่างไรเล่า! คนที่ลอบสังหารฉินเหยี่ยนมิใช่นักฆ่าหญิง ข้าแค่แต่งเรื่องขึ้นมา แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่า เจ้าจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 255

    ก่อนที่ฉินอู๋ต้าวจะได้เอ่ยอะไร ฉินซูก็ยิ้มเยาะและพูดว่า “ฉินเซียว โจวฟางเป็นผู้ดูแลในจวนอ๋องหนิงของเจ้า ผู้ใดจะสั่งเขาได้นอกจากเจ้า เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วยังจะปฏิเสธอีกรึ?”ฉินเซียวล้มลงคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง เขาพูดปกป้องตัวเองด้วยสีหน้าขมขื่น “เสด็จพ่อ ลูกถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ ลูกมิรู้ว่าโจวฟางเป็นบ้าอะไรถึงได้แว้งกัดลูกขึ้นมา ขอเสด็จพ่อโปรดทรงไขความกระจ่างด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวเหลือบมองโจวฟาง จากนั้นก็มองฉินเซียวที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก และทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทุกสิ่งเขาเหลือบมองเหลยเจิ้นโดยมิต้องคิดเจ้าตัวลังเลเล็กน้อยในตอนแรก จากนั้นก็ยกนิ้วขึ้นและปล่อยปราณดัชนีสังหารโจวฟางแต่ฉินซูสังเกตเห็นภาพเหตุการณ์นี้!ฉินซูก้าวไปบังโจวฟางไว้โดยมิได้ตั้งใจ!เมื่อเห็นเช่นนั้น เหลยเจิ้นก็ขมวดคิ้วเบา ๆ ด้วยเพราะลงมือได้ยากฉินซูดึงเข็มเงินออกจากจุดอวิ๋นเหมินของโจวฟางแล้วพูดเสียงเรียบ “เสด็จพ่อ โจวฟางเพิ่งสารภาพออกมา แต่ลูกก็มิแน่ใจว่าคำสารภาพของเขาเป็นจริงหรือเท็จ ดังนั้นลูกจึงอยากทูลขอให้เสด็จพ่อทรงพิจารณาคดีร่วมกับสามสำนัก และเริ่มการสอบสวนโจวฟางอย่างละเอียดทันที เพื่อมิให

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 256

    ฉินเซียวคร่ำครวญให้กับความอยุติธรรมทันที “เสด็จพ่อ ลูกถูกใส่ร้าย ลูกไม่มีทางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้…”ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฉินอู๋ต้าวก็ตำหนิขึ้นมา “หุบปาก! เรื่องมาถึงขนาดนี้ก็ยังจะปฏิเสธ เจ้าอยากจะทำให้ข้าต้องออกราชโองการไต่สวนสามสำนักรึ? หากเป็นเช่นนั้นจริง เจ้าจะทนกับการถูกสอบสวนได้หรือไม่?”ฉินเซียวพูดมิออก เขากัดฟันพลางก้มหน้าลงฉินอู๋ต้าวมองไปที่ฉินซูแล้วพูดว่า “เสี่ยวซู ทุกสิ่งที่เจ้าทำต้องเห็นแก่ส่วนรวม หากฉินเซียวถูกตัดสินลงโทษ เช่นนั้นราชวงศ์ต้าเหยียนของข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด อีกอย่างฉินเซียวก็เป็นน้องชายของเจ้า เจ้าอยากเห็นข้าสั่งประหารเขาจริง ๆ หรือ?”ฉินซูยิ้มอย่างขมขื่นและถามว่า “หากเขามิต้องรับโทษ แล้วฉินเหยี่ยนจะนอนตายตาหลับได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”“คนก็ตายไปแล้ว เขาคงเข้าใจเจตนาดีของข้า”เมื่อเห็นท่าทางจนใจของฉินอู๋ต้าว ฉินซูก็พูดด้วยความตกใจ “น้องหก เจ้าก็ได้ยินเช่นกันใช่หรือไม่ มิใช่ว่าข้ามิทวงคืนความยุติธรรมให้เจ้า แต่เสด็จพ่อทรงยืนกรานที่จะทำเช่นนั้น จากนี้ไป เจ้าก็พูดกับเสด็จพ่อเอาเองก็แล้วกันนะ ข้าจะมิขอเข้าไปยุ่งแล้ว”พูดจบ เขาก็เอื้อมมือมาดึงเข็มเงินออกจา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 257

    เจ้าตัวรีบเข้ามาข้างหลังฉินเหยี่ยน พลางวางมือบนหลังของเขา และค่อย ๆ ส่งปราณบริสุทธิ์อันแข็งแกร่งไปให้ด้วยปราณบริสุทธิ์อันใสสะอาดนี้ ทำให้ลมปราณที่ปั่นป่วนอยู่ในร่างกายของฉินเหยี่ยนสงบลงอย่างช้า ๆทันใดนั้นฉินอู๋ต้าวก็ตบหน้าฉินเซียวอีกฝ่ายมิทันระวังจึงล้มลงกับพื้นก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบ ฉินอู๋ต้าวก็ยกเท้าเตะเขาอย่างแรง“กตัญญูนัก เจ้าช่างกตัญญูเสียจริง ขยันสร้างปัญหามาให้ข้า เจ้าแทงน้องชายและใส่ร้ายพี่ของตน ข้าให้กำเนิดคนวิปริตเช่นเจ้ามาได้อย่างไรกัน!”เขาทั้งตำหนิทั้งเตะฉินเซียวจนจมูกช้ำหน้าบวม เป็นสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่งเมื่อเฉาฉุนเห็นเช่นนั้นจึงรีบโน้มน้าวอีกฝ่าย “ฝ่าบาททรงเย็นพระทัย ทรงเย็นพระทัยก่อนพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องหนิงทรงยังเยาว์และมิรู้ความ ฝ่าบาทค่อยทรงลงโทษเขาในภายหลังก็ได้ อย่าทรงพระพิโรธจนส่งผลเสียต่อพระวรกายเลยพ่ะย่ะค่ะ”“เขายังเยาว์และมิรู้ความรึ? เขาอายุเกือบสามสิบแล้ว ยังเยาว์อะไร? หากมิใช่เพราะเฉาฉุนขอร้องแทนเจ้า วันนี้ข้าจะจับเจ้าหักแข้งหักขาเสียให้หมด!”ฉินอู๋ต้าวตำหนิด้วยความโกรธและหยุดการกระทำตามที่เฉาฉุนแนะนำเขามองไปที่ฉินเหยี่ยนและพูดด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 258

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็ขมวดคิ้วแสดงความมิพอใจ แต่เขาก็มิได้พูดอะไรฉินเซียวใบหน้าซีดเซียว เขาทำสีหน้าขมขื่นและมิรู้ว่าจะพูดอะไรดีฉินอู๋ต้าวตำหนิอย่างเหลืออด “ยังจะยืนเหม่ออยู่อีก ไสหัวกลับจวนอ๋องหนิงของเจ้าไปเสีย และช่วงนี้ห้ามออกไปที่ใด มิเช่นนั้นหากฉินเหยี่ยนจะสังหารเจ้าจริง ๆ ข้าก็คงห้ามเขามิได้ เช่นนั้นก็อย่าได้ไปยืนเสนอหน้าให้คนทั้งใต้หล้าต้องหัวเราะเยาะ“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ กลับไปลูกจะอยู่แต่ในจวนและสำนึกในสิ่งที่เคยทำผิด เช่นนั้นลูกขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”ฉินเซียวโค้งคำนับด้วยความเคารพ พลางเหลือบมองฉงชูโม่ด้วยสายตาที่ซับซ้อนแล้วเดินออกไปหลังจากเห็นเขาจากไป ฉินอู๋ต้าวก็เก็บสีหน้าสายตาและถามเสียงเรียบ “ชูโม่ เจ้าคิดว่าข้าลำเอียงเกินไปหรือไม่?”ฉงชูโม่ตอบว่า “ฝ่าบาททรงห่วงใยใส่พระทัยแคว้นและราษฎร ข้าน้อยมิบังอาจพูดส่งเดชเพคะ”“เฮ้อ เรื่องเช่นนี้ข้าทำผิดต่อองค์รัชทายาทจริง ๆ เจ้าช่วยปลอบใจเขาแทนข้าด้วยเถอะ”“รับพระบัญชาเพคะ ข้าน้อยขอทูลลา”ฉงชูโม่ทำความเคารพเล็กน้อยแล้วเดินออกไประหว่างทางนางก็ดึงกริชเขี้ยวมังกรที่ปักอยู่กับเสาออกมาด้วยหลังจากที่นางจากไป ฉิน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 259

    “นั่นน่ะสิ น่าเสียดายที่อ๋องหนิงมิสามารถโค่นล้มองค์รัชทายาทด้วยแผนการที่ดีเช่นนี้ได้”เซี่ยเหอเองก็ดูเสียดายเช่นกันฉินหงขมวดคิ้วและพึมพำ “มิรู้ว่าเสด็จพ่อจะทรงจัดการกับฉินเซียวอย่างไร"“ท่านอ๋องวางพระทัยได้ จากที่ข้าน้อยรู้เกี่ยวกับฝ่าบาทมา ไม่มีทางที่ฝ่าบาทจะทรงจัดการกับอ๋องหนิงมิว่าอย่างไรก็ตาม หากทรงจัดการอย่างเปิดเผย ก็จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง”“ถูกต้อง การปราบปรามอ๋องหนิงนั้นเท่ากับเป็นการเพิ่มแรงกดดันของตำหนักบูรพา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่าบาทมิทรงต้องการเห็น ดังนั้นฝ่าบาทอาจจะทรงเปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก มิเช่นนั้น พระองค์คงจะมิทรงไล่ขุนนางทั้งราชสำนักออกมา”ฉินหงพยักหน้าเบา ๆ “พวกท่านพูดถูก แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ พวกเราคงต้องประเมิณฉินซูใหม่อีกครั้งแล้ว พฤติกรรมของเขาในช่วงนี้ มิว่าจะมองอย่างไร ก็ดูมิเหมือนขยะไร้ค่าที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสุรานารี”หลินซีกล่าวอย่างเคร่งเครียด “ท่านตรัสถูก ข้าน้อยคิดอย่างไรก็มิเข้าใจเช่นกันว่า เหตุใดองค์รัชทายาทจึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันราวกับเป็นคนละคน”“ตอนนี้ทั้งในและนอกราชสำนักต่างก็ลือกันว่า มียอดฝีมือคอยชี้แนะองค์รัชทายาทอยู่เบื

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 260

    ฉินซูไพล่มือไว้ด้านหลังและพูดด้วยท่าทีน่าเกรงขราม “รอข้าจัดการฉินเซียวและคนอื่น ๆ ได้ก่อนเถอะ ฝ่าบาทจะทรงทำอะไรได้นอกจากต้องมอบความไว้วางใจให้ข้าปกครองแคว้น? มิอยากเชื่อเลยว่าองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์เช่นข้าจะต้องมามิลงรอยกับคนที่เป็นเพียงแค่อ๋องหนิง!”“องค์รัชทายาท โปรดอย่าตรัสเหลวไหลเช่นนั้นเพคะ หากรู้ไปถึงฝ่าบาท ท่านต้องเดือดร้อนแน่”หลังจากที่เซี่ยหลานพูดจบ นางก็รีบมองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกฉินซูพูดอย่างมิเห็นด้วย “จะรู้ก็รู้ไปสิ ถึงอย่างไรข้าก็ดูออกว่าก่อนถึวันชุนเฟินปีหน้า พระองค์ไม่มีทางปลดข้าก่อนแน่นอน เช่นนี้ก็ถือเป็นการให้เวลาข้าได้กลับมาเรืองอำนาจพอดี”“พูดถึงเรื่องนี้ หม่อมฉันรู้สึกแปลก ๆ เพคะ เมื่อวานท่านบีบบังคับจนฝ่าบาทระเบิดโทสะกลางราชสำนัก นั่นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอจะทำให้ฝ่าบาททรงปลดท่านล่วงหน้าได้เลยด้วยโทษฐานดูหมิ่น เพราะถึงอย่างไรคนทั่วหล้าต่างก็รู้กันหมดว่าท่านคือองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด”แต่พระองค์กลับทรงมิได้ทำเช่นนั้น หรือต้องรอวันชุนเฟินมาถึงจริง ๆ ถึงจะปลดท่านได้? แล้วมันเป็นเพราะเหตุใดกันแน่?”“ข้าเองก็มิร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 261

    ฉงชูโม่ถามด้วยความสงสัย “เซี่ยหลาน เหตุใดจู่ ๆ เจ้าถึงพูดแทนองค์รัชทายาทล่ะ? เจ้าเกลียดพระองค์มากมิใช่หรือ?”เมื่อถูกฉงชูโม่สงสัย ร่องรอยของความตื่นตระหนกก็ฉายแววไปทั่วใบหน้าของเซี่ยหลาน นางรีบพูดปกป้องตัวเอง “อะไรกัน ของข้าน่ะเรียกว่าบุญคุญกับความแค้นแยกกันชัดเจน เข้าใจหรือไม่? ส่วนสิ่งที่องค์รัชทายาททรงเคยทำเอาไว้ก่อนหน้า หลังจากนี้ข้าย่อมหาโอกาสเอาคืนแน่ แต่นี่มันคนละเรื่องกันมิใช่รึ”“ขนาดเซี่ยหลานยังมีความชอบธรรม ชูโม่ เจ้าก็อย่าใจแคบถึงเพียงนั้นเลย ไปสืบให้หน่อยเถิด”“ก็ได้ ๆ ๆ หม่อมฉันจะไปสืบให้พอพระทัยหรือไม่เพคะ ถึงอย่างไรองค์จักรพรรดิก็ยังทรงตระหนักรู้ว่า พระองค์ทำให้ท่านต้องเสียพระทัย พระองค์จึงมีรับสั่งให้พวกเรางดจับตาดูท่านไปสักสองสามวัน พอดีเลย หม่อมฉันจะได้มีเวลาไปสืบเรื่องของอ๋องหนิงให้”เมื่อเซี่ยหลานได้ยินเช่นนั้น นางก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทันทีหลังจากที่กลายเป็นสตรีของฉินซู นางก็รู้สึกเกลียดงานที่ฝ่าบาททรงมอบหมายให้มากกว่าเดิมแต่ก็มิสามารถฝ่าฝืนพระราชโองการขององค์จักรพรรดิได้ ดังนั้นนางทำได้เพียงกัดฟันจำใจบันทึกทุกการเคลื่อนไหวของฉินซูหลังจากได้ยินฉงชูโม่พูดเช่นนี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 262

    หลินชิงเหยาถามด้วยความสับสน “องค์รัชทายาท เหตุใดท่านถึงมองหม่อมฉันเช่นนี้เพคะ?”“ชิงเหยา เจ้าฉลาดมาก ทำให้ข้าตระหนักรู้ได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว!”ฉินซูจึงได้นึกถึงมู่หรงฟู่อีกฝ่ายคือองค์ชายห้าแห่งเป่ยเยี่ยน ตอนนี้เขาถูกสั่งกักบริเวณให้อยู่แต่ในเมืองหลงเฉิงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว มิรู้ว่าจักรพรรดิแห่งเป่ยเยี่ยนยังนั่งดูอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไรหากส่งยอดฝีมือเข้าไปแฝงตัวสร้างความวุ่นวายในเมืองหลงเฉิงยังจะฟังดูมีเหตุผลมากกว่าเขาเหมือนจะนึกอะไรออก จากนั้นก็พูดว่า “ชิงเหยา เจ้าไปนอนก่อน ข้าจะไปถามอะไรตงฟางไป๋สักหน่อย”“องค์รัชทายาท นี่มันก็ดึกมากแล้วเพคะ มีเรื่องอะไรก็เก็บไว้ถามในวันพรุ่งมิได้หรือเพคะ?”น้ำเสียงของหลินชิงเหยาเศร้าสร้อย และนางก็กอดคอของฉินซูไว้แน่นมิยอมปล่อยฉินซูพูดอย่างจนใจ “ตอนที่ข้ากลับมาจากทางใต้ ตงฟางไป๋เหมือนจะเคยพูดถึงบุตรแห่งนักปราชญ์จากเป่ยเยี่ยน ข้าจะไปถามเขาสักหน่อย”เมื่อเห็นว่าฉินซูมีเรื่องจริงจังที่ต้องทำ หลินชิงเหยาก็เลิกเอาแต่ใจและยอมปล่อยมืออย่างว่าง่ายฉินซูจูบที่หน้าผากของนางก่อนจะลุกจากเตียงและเดินออกจากห้องบรรทมไปเขาส่งคนไปเรียกตงฟางไป๋มาอีกฝ่ายถ

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 703

    “นึกมิถึงว่าเขาจะหนีรอดไปได้ เขาก็มีฝีมือเหมือนกันนี่ ดูท่าทางจะเตรียมการมาอย่างดีเชียว”“องค์รัชทายาท เมื่อกลับถึงหลงเฉิงแล้วเข้าเฝ้าฝ่าบาท จะทูลเรื่องที่อ๋องฉู่สมคบคิดก่อกบฏหรือไม่เพคะ?”“ทูลสิ ต้องทูลอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรามีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ยิ่งกว่านั้นการที่เขาสมคบคิดก่อกบฏก็เป็นความจริง อย่างไรก็ต้องทูล”“แต่ยามนี้อ๋องฉู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยนิสัยระแวดระวังของฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะมิทรงเชื่อพวกเราเต็มร้อยกระมังเพคะ”ฉินซูกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หลังจากเรื่องของอ๋องฉู่แดงขึ้นมา เขาก็หายตัวไป นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการหนีความผิด พวกเรากราบทูลตามความจริง บวกกับคำให้การของเหล่าคนสนิทของอ๋องฉู่และทหารห้าหมื่นนายที่ไม่มีรายชื่อในทะเบียน ก็เพียงพอที่จะตัดสินความผิดของอ๋องฉู่ได้แล้ว”“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นคนนั้น หม่อมฉันให้พวกตงฟางไป๋นำทางกลับหลงเฉิงล่วงหน้าไปแล้วเพคะ”ฉงชูโม่พูดพลางรู้สึกกระวนกระวายใจแปลก ๆจากนั้น พวกเขาก็พักค้างคืนที่เมืองหลงโย่วก่อนนอน ฉินซูสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามที่นั่นคือห้องของจีอันด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status