แชร์

บทที่ 261

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-01 19:01:58
ฉงชูโม่ถามด้วยความสงสัย “เซี่ยหลาน เหตุใดจู่ ๆ เจ้าถึงพูดแทนองค์รัชทายาทล่ะ? เจ้าเกลียดพระองค์มากมิใช่หรือ?”

เมื่อถูกฉงชูโม่สงสัย ร่องรอยของความตื่นตระหนกก็ฉายแววไปทั่วใบหน้าของเซี่ยหลาน นางรีบพูดปกป้องตัวเอง “อะไรกัน ของข้าน่ะเรียกว่าบุญคุญกับความแค้นแยกกันชัดเจน เข้าใจหรือไม่? ส่วนสิ่งที่องค์รัชทายาททรงเคยทำเอาไว้ก่อนหน้า หลังจากนี้ข้าย่อมหาโอกาสเอาคืนแน่ แต่นี่มันคนละเรื่องกันมิใช่รึ”

“ขนาดเซี่ยหลานยังมีความชอบธรรม ชูโม่ เจ้าก็อย่าใจแคบถึงเพียงนั้นเลย ไปสืบให้หน่อยเถิด”

“ก็ได้ ๆ ๆ หม่อมฉันจะไปสืบให้พอพระทัยหรือไม่เพคะ ถึงอย่างไรองค์จักรพรรดิก็ยังทรงตระหนักรู้ว่า พระองค์ทำให้ท่านต้องเสียพระทัย พระองค์จึงมีรับสั่งให้พวกเรางดจับตาดูท่านไปสักสองสามวัน พอดีเลย หม่อมฉันจะได้มีเวลาไปสืบเรื่องของอ๋องหนิงให้”

เมื่อเซี่ยหลานได้ยินเช่นนั้น นางก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทันที

หลังจากที่กลายเป็นสตรีของฉินซู นางก็รู้สึกเกลียดงานที่ฝ่าบาททรงมอบหมายให้มากกว่าเดิม

แต่ก็มิสามารถฝ่าฝืนพระราชโองการขององค์จักรพรรดิได้ ดังนั้นนางทำได้เพียงกัดฟันจำใจบันทึกทุกการเคลื่อนไหวของฉินซู

หลังจากได้ยินฉงชูโม่พูดเช่นนี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 262

    หลินชิงเหยาถามด้วยความสับสน “องค์รัชทายาท เหตุใดท่านถึงมองหม่อมฉันเช่นนี้เพคะ?”“ชิงเหยา เจ้าฉลาดมาก ทำให้ข้าตระหนักรู้ได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว!”ฉินซูจึงได้นึกถึงมู่หรงฟู่อีกฝ่ายคือองค์ชายห้าแห่งเป่ยเยี่ยน ตอนนี้เขาถูกสั่งกักบริเวณให้อยู่แต่ในเมืองหลงเฉิงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว มิรู้ว่าจักรพรรดิแห่งเป่ยเยี่ยนยังนั่งดูอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไรหากส่งยอดฝีมือเข้าไปแฝงตัวสร้างความวุ่นวายในเมืองหลงเฉิงยังจะฟังดูมีเหตุผลมากกว่าเขาเหมือนจะนึกอะไรออก จากนั้นก็พูดว่า “ชิงเหยา เจ้าไปนอนก่อน ข้าจะไปถามอะไรตงฟางไป๋สักหน่อย”“องค์รัชทายาท นี่มันก็ดึกมากแล้วเพคะ มีเรื่องอะไรก็เก็บไว้ถามในวันพรุ่งมิได้หรือเพคะ?”น้ำเสียงของหลินชิงเหยาเศร้าสร้อย และนางก็กอดคอของฉินซูไว้แน่นมิยอมปล่อยฉินซูพูดอย่างจนใจ “ตอนที่ข้ากลับมาจากทางใต้ ตงฟางไป๋เหมือนจะเคยพูดถึงบุตรแห่งนักปราชญ์จากเป่ยเยี่ยน ข้าจะไปถามเขาสักหน่อย”เมื่อเห็นว่าฉินซูมีเรื่องจริงจังที่ต้องทำ หลินชิงเหยาก็เลิกเอาแต่ใจและยอมปล่อยมืออย่างว่าง่ายฉินซูจูบที่หน้าผากของนางก่อนจะลุกจากเตียงและเดินออกจากห้องบรรทมไปเขาส่งคนไปเรียกตงฟางไป๋มาอีกฝ่ายถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 263

    แต่ผ่านไปเพียงแค่ครึ่งวันก็มีข่าวจากพระราชวังว่าการกระทำของฉินเซียวถูกเปิยเผยแล้วนั่นทำให้พวกเขาโกรธมาก!มู่หรงฟู่ทำลายความเงียบด้วยการพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “อ๋องหนิงผู้นี้ช่างไร้ความสามารถยิ่งนัก มิเพียงโค่นฉินซูมิได้ แต่ยังทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกด้วย ข้าก็อุตส่าห์หลงคิดว่าเขาเป็นคนมากความสามารถ”“แม้ว่าจักรพรรดิแห่งต้าเหยียนจะมิได้จัดการกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ต่อไปฉินเซียวก็คงจะมิกล้าทำตัวหยิ่งผยองอีกอย่างแน่นอน องค์ชาย ดูท่าว่าแผนของพวกเราจะล้มเหลวอีกแล้วเพคะ”ในคำพูดของมู่หรงจื่อเยียนแฝงไว้ซึ่งความมิพอใจตอนนั้นนางไปเอ่ยชักชวนด้วยตัวเองถึงที่จวนอ๋องหนิง โดยคิดว่าทุกอย่างจะไร้กังวลหลังจากที่ฉินเซียวตกลงแต่คาดมิถึงว่า สุดท้ายจะคว้าน้ำเหลว“แม้จะโค่นล้มฉินซูมิสำเร็จ แต่ใจเขาคงนึกเกลียดฉินเซียวเป็นแน่ จะทำการแก้แค้นเมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลา ฉะนั้นพูดกันอย่างจริงจังก็คือ แผนของพวกเรายังมิถือว่าล้มเหลว”“แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ตอนนี้พวกเขาคงมิได้สู้กันไปอีกสักระยะ พวกเราควรคิดแผนอื่นเพิ่มหรือไม่เพคะ?”มู่หรงฟู่ลูบคางของเขาแล้วถามหนานกงจื่อชิน “จื่อชิน เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”หน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 264

    วันรุ่งขึ้นฉินซูกำลังกินข้าวเย็นอยู่ที่ห้องโถงด้านข้างขณะนั้น ตงฟางไป๋ก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว“องค์รัชทายาท หาเจอแล้วพ่ะย่ะค่ะ หนานกงจื่อชินอยู่ที่โรงเตี๊ยมเทียนเวย!”“ดีมาก ถึงเวลาที่ข้าจะได้พบกับบุตรแห่งนักปราชญ์จากหอดารารักษ์ในเป่ยเยี่ยนผู้นี้เสียที!”เขาวางชามโจ๊กในมือลงแล้วตะโกนเรียกฉงชูโม่เมื่อรู้ว่าฉินซูกำลังจะไปที่โรงเตี๊ยมเทียนเวยเพื่อตามหาหนานกงจื่อชิน ฉงชูโม่ก็ถามด้วยความสับสน “องค์รัชทายาท เหตุใดจู่ ๆ ท่านถึงทรงอยากไปพบหนานกงจื่อชิน ทรงว่างมากหรือ?”“เจ้าต่างหากที่ว่าง หนานกงจื่อชินผู้นี้ว่ากันว่ามีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ วรยุทธ์แข็งแกร่ง ข้าสงสัยว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารฉินเหยี่ยนด้วย!”“องค์รัชทายาท เหตุใดจู่ ๆ ท่านถึงทรงสงสัยเขาเพคะ?”“คิดเสียว่ามันเป็นลางสังหรณ์ก็แล้วกัน เจ้าไปกับข้าแล้วหาโอกาสทดสอบอีกฝ่ายดู”ฉงชูโม่พยักหน้าช้า ๆ และตามฉินซูออกไป……โรงเตี๊ยมเทียนเวยมู่หรงฟู่และคนอื่น ๆ กำลังนั่งทานอาหารด้วยกันขณะนั้นก็มีผู้ติดตามคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ท่านอ๋อง องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียนมาที่นี่ และกำลังจะลงจากเกี้ยวที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 265

    ฉงชูโม่ประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?”“หากมิเคยได้ยินแม้แต่ชื่อเสียงอันเกรียงไกรในการทำศึกของท่านแม่ทัพใหญ่ฉง นั่นจะมิทำให้ข้าน้อยดูขาดความรู้น้อยประสบการณ์หรือขอรับ”“ชื่อเสียงเกรียงไกรอะไรกัน ข้าได้ยินมาว่าวิชากระบี่ดารารักษ์แห่งหอดารารักษ์ของเจ้านั้นอัศจรรย์ไร้เทียมทาน ข้าอยากเรียนรู้วิชากระบี่นี้จากพวกเจ้ามานานแล้ว มาเริ่มกันเลย”ฉงชูโม่ชักกระบี่ออกมาโดยมิฟังคำอธิบายใด ๆเพื่อทดสอบหนานกงจื่อชิน นางตั้งใจนำกระบี่มาเป็นพิเศษเมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าของหนานกงจื่อชินก็มิสู้ดีขึ้นมาทันทีมู่หรงฟู่กล่าวว่า “แม่ทัพฉง เจ้าทำให้เขาลำบากใจอยู่นะ เมื่อสองวันเขาเอวเคล็ด จึงมิสามารถต่อสู้ได้”หนานกงจื่อชินตามน้ำไปด้วย “ใช่ขอรับ ข้าน้อยมิทันระวังจนเอวเคล็ด มิว่าอย่างไรวันนี้ข้าน้อยก็มิสามารถประลองกับท่านแม่ทัพฉงได้ โปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยขอรับ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ยิ้มเยาะ เห็นได้ชัดว่านางมิเชื่อฉินซูถามด้วยสีหน้าท่าทางซุบซิบ “หนานกงจื่อชิน สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบุรุษอย่างเรา ๆ ก็คือเอว เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้เอวเคล็ดเล่า? ไปทำอีท่าไหนมา?”ดวงตาของหนานกงจื่อชินกะพริบเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 266

    หนานกงจื่อชินรีบปฏิเสธทันที “มือกระบี่ชุดขาวอะไรกัน ข้ามิรู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร”ขณะที่พูด เขาก็ปัดกระบี่ของฉงชูโม่ออกและถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตนกับอีกฝ่ายฉงชูโม่มิได้มีท่าทีจะโจมตีต่อ นางเพียงยิ้มเยาะและกล่าวว่า “ยังมิยอมรับอีกหรือ? เช่นนั้นบอกข้าหน่อยสิว่า บาดแผลที่แขนของเจ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?”มู่หรงจื่อเยียนรีบอธิบาย “เรื่องนั้น เจ้าเข้าใจผิดแล้ว บาดแผลของท่านพี่จื่อชินเป็นเพราะข้าเอง เมื่อวานเขาสอนข้าฝึกกระบี่ ข้าพลั้งมือทำให้แขนเขามีบาดแผล”“ฮึ คำพูดนี้เจ้าเอาไว้หลอกเด็กสามขวบเถอะ แผลที่แขนเขาชัดเจนว่าเกิดจากกริช อีกทั้งรอยแผลที่ข้าเป็นคนสร้าง ข้าดูออกได้ในทันที!”เมื่อฉงชูโม่พูดจบ นางก็มองหนานกงจื่อชินและหัวเราะเยาะ “หนานกงจื่อชิน ในฐานะจอมบุทธ์ที่มีฝีมือเช่นพวกเรา เจ้าควรจะรู้ดีว่าบาดแผลมิอาจโกหกได้!”สีหน้าของหนานกงจื่อชินเคร่งเครียดทันที เพราะสิ่งที่ฉงชูโกล่าวนั้นถูกต้อง ด้วยความสามารถระดับพวกเขา แม้จะเป็นกระบวนท่าเดียวกัน แต่เมื่อคนที่ใช้ต่างกัน ผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง แผลที่ถูกอีกฝ่ายสร้างขึ้น อีกฝ่ายย่อมสามารถจดจำได้อย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 267

    หนานกงจื่อชินกล่าวอย่างมั่นใจ “กระหม่อมคือบุตรแห่งนักปราชญ์จากหอดารารักษ์แห่งเป่ยเยียน ท่านคงรู้ดีว่าหอดารารักษ์มีความหมายต่อเป่ยเยียนอย่างไร อีกทั้งฉินเหยี่ยนก็มิได้ตายด้วยน้ำมือข้า แม้เรื่องนี้จะถึงพระกรรณของเสด็จพ่อของท่าน ฝ่าบาทก็คงมิทำอะไรมากไปกว่าตักเตือนกระหม่อมเพียงมิกี่คำเท่านั้น”“ใช่ เจ้าคำนวณได้มิผิด ฉินเหยี่ยนมิได้ตายด้วยน้ำมือเจ้า เสด็จพ่อของข้าคงมิอาจลงโทษเจ้าได้มากนัก แต่ในเมื่อเจ้าคิดได้ถึงขนาดนี้ แล้วเหตุใดเมื่อครู่จึงมิกล้ายอมรับเล่า?”หนานกงจื่อชินยกมือขึ้นเล็กน้อย “หากหลีกเลี่ยงปัญหาได้ก็ควรทำ แม้สุดท้ายจะหลีกเลี่ยงมิได้แล้ว ปฏิเสธไปก็มิได้อะไรอยู่ดี”ฉงชูโม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนหันไปถามฉินซู “องค์รัชทายาท จะมิจับเขาไปส่งให้ศาลต้าหลี่จัดการจริงหรือ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น มู่หรงจื่อเยียนก็ตกใจ รีบเข้าไปยืนบังร่างหนานกงจื่อชินทันที “พวกเจ้าจะจับท่านพี่จื่อชินไปมิได้นะ เขาเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์ มีสถานะต่ำกว่าเชื้อพระวงศ์สายตรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากพวกเจ้ากล้าทำอะไรเขา เป่ยเยียนของเรามิยอมอยู่เฉยแน่!”“เฮ้อ เหตุใดเจ้าต้องร้อนใจปานนั้นด้วย ข้าย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 268

    หนานกงจื่อชินคิดว่าตนเองฟังผิดไป จึงถามย้ำว่า “ท่านว่ากระไรนะ? แค่กระหม่อมประลองกับฉงชูโม่ก็จบเรื่องแล้วหรือ?”“ถูกต้อง อย่างนั้นแหละ!”“ท่าน... ท่านอย่าบอกนะว่า จะใช้ข้ออ้างการประลองเพื่อให้ฉงชูโม่จัดการกระหม่อม?”ก็มิน่าแปลกที่หนานกงจื่อชินจะสงสัยเช่นนี้ เพราะเมื่อครู่สายตาเย็นชาของฉินซูนั้นน่ากลัวเกินไปแต่ตอนนี้ฉินซูกลับบอกว่า แค่ประลองกันก็ถือว่าจบเรื่องแล้วหากเป็นใครก็คงต้องสงสัยว่าฉินซูคิดจะใช้โอกาสนี้สังหารตนฉินซูกลับหัวเราะเล็กน้อยและกล่าวว่า “หากข้าต้องการฆ่าเจ้า ข้าก็แค่ให้ชูโม่ลงมือตรง ๆ ก็ได้ จะต้องอ้อมค้อมให้ยุ่งยากหาปะไร”เมื่อหนานกงจื่อชินคิดทบทวนดูก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงพยักหน้า“ตกลง เราประลองกันแค่ให้รู้ฝีมือ เป็นอย่างไร?”“ในเมื่อเป็นการประลอง ก็ย่อมต้องเอาแต่พอประมาณอยู่แล้ว”ฉงชูโม่รับคำต่อทันที “ที่นี่คับแคบเกินไป ไปที่ลานหลังโรงเตี๊ยมกันเถอะ”หนานกงจื่อชินพยักหน้ารับ จากนั้นทุกคนจึงเดินไปยังลานหลังของโรงเตี๊ยมระหว่างทาง มู่หรงจื่อเยียนแสดงความกังวลเต็มหน้า พูดเสียงเบา ๆ ว่า “ท่านพี่จื่อชิน จะไม่มีปัญหาแน่หรือ? ข้ารู้สึกมิสบายใจเลย”“มิเป็นไร อย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 269

    ฉากเบื้องหน้าภายใต้การโจมตีอันรุนแรงและทรงพลังของหนานกงจื่อชิน ใบหน้าของฉงชูโม่ยังคงไร้ความรู้สึกนางใช้ปลายเท้าสัมผัสพื้นเบา ๆ ร่างของนางก็พลันพุ่งขึ้นกลางอากาศทันทีพร้อมกับที่นางสะบัดกระบี่สร้างลายกระบี่หลายลายเข้าสกัดลำแสงกระบี่ที่เหมือนดาวตกของหนานกงจื่อชินเกร๊ง แกร๊ง แกร๊งหลังจากเสียงดังต่อเนื่อง หลังจากนั้นมินานกระบวนท่า “ดาวตกสู่ใต้หล้า!” ก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น เหลือเพียงคลื่นพลังที่พุ่งกระจายออกไปในทุกทิศทางเมื่อเห็นดังนั้น มู่หรงฟู่และมู่หรงจื่อเยียนต่างก็แสดงความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด!พวกเขามิคาดคิดเลยว่า กระบวนท่าที่หนานกงจื่อชินภาคภูมิใจ จะถูกฉงชูโม่ทำลายลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ในเวลานั้น หนานกงจื่อชินเองก็ดูตกตะลึงอยู่เช่นกัน จากนั้นเขาก็เริ่มใช้เพลงกระบี่ดารารักษ์อย่างต่อเนื่องด้วยวิชากระบี่ที่แปรปรวนคาดเดามิได้ ทำให้เขาสามารถต่อสู้กับฉงชูโม่ได้อย่างสูสีเมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าของมู่หรงฟู่และมู่หรงจื่อเยียนที่เคยเคร่งเครียดก็กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งมู่หรงจื่อเยียนกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “ฉินซู ท่านเห็นหรือไม่ นี่แหละคือความมหัศจรรย์ของเพลงกระบี่ดารารักษ์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 490

    ฉินอู๋ต้าวยังมิทันได้แสดงท่าที หวังฉือก็โต้แย้งขึ้นมาทันควัน “ข้าน้อยมิเข้าใจคำพูดของอ๋องซิ่น ยามนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเลย แล้วเหตุใดท่านจึงต้องให้องค์จักรพรรดิทรงพิจารณาให้รอบคอบด้วยหรือ?”“นั่นสิ เป่ยเยี่ยนเดิมทีก็มีความตั้งใจจะล่วงล้ำพรมแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนมาตลอด ยามนี้ยังมิได้มีการระดมทัพเลย แต่ท่านอ๋องซิ่นกลับกลัวแล้ว หากวันหนึ่งเป่นเยี่ยนระดมทัพขึ้นมาจริง ๆ ท่านจะมิสนับสนุนให้องค์จักรพรรดิแบ่งดินแดนให้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินหยางถูกหวังฉือและเนี่ยหงโต้กลับจนหน้าซีดในที่สุดบัดนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า หวังฉือและเนี่ยหง ทั้งสองเป็นขุนนางระดับสองที่กลายเป็นคนของฉินซูไปแล้วเขาเกิดความสงสัย ฉินซูเป็นองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด เขามีดีอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนนั้นยอมรับเขาเป็นผู้นำ?แต่เมื่อเผชิญกับคำซักถามอย่างเข้มงวดของหวังฉือและเนี่ยหง เขาก็มิอาจอุบเงียบเอาไว้ได้ จึงแค่นเสียงเย็นชา"หึ! ข้าในฐานะจวิ้นอ๋องแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน ต่อให้วันข้างหน้าสงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง ก็ย่อมไม่มีทางให้เสด็จพ่อยอมสละดินแดนเพื่อขอสันติภาพ เพียงแต่ยามนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 489

    ข่าวที่ว่าฉินซูได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์นั้นแพร่กระจายราวกับไฟป่า ก่อให้เกิดความปั่นป่วนทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงผู้คนต่างพูดถึงเรื่องนี้ทุกมื้อหลังอาหารบางคนยกย่องฉินซูว่าเขาทำให้ต้าเหยียนมีเกียรติบางคนถึงกับแอบส่ายหัว แม้ว่าฉินซูจะเป็นรัชทายาท ทว่าการสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์โดยไร้เหตุผลนั้นคงมิเป็นที่ยอมรับของราชสำนักเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ จากนี้ไปฉินซูองค์รัชทายาทผู้นี้อาจไม่มีวันมีชีวิตที่สงบสุขอีกต่อไปคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดคงเป็นมู่หรงจื่อเยียนหลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ ใจนางก็เกิดความสงสัยว่า คนที่ฆ่าหนานกงจื่อชินคือฉินซูจริง ๆ หรือ?แต่ฉินซูเก่งแค่วิชาตัวเบาเท่านั้น แล้วเขาจะสังหารหนานกงจื่อชินได้อย่างไร?ทว่าเมื่อนึกถึงเมื่อยามหลังจากที่ออกมาจากดินแดนแห่งความฝันนั้น ฉินซูเอาชนะอันธพาลเหล่านั้นได้ในพริบตา นางก็ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฉินซูนั้นมิธรรมดาเมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็รีบสงบสติอารมณ์ และบังคับให้ตัวเองใจเย็นลงหากมู่หรงฟู่รู้ว่าฉินซูมีฝีมือที่เหนือชั้นเช่นนี้ สถานการณ์ของฉินซูคงจะอันตรายอย่างมากต่อมา มู่หรงจื่อเยียนเลือกที่จะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 488

    ฉินหงมองเนื้อหาในจดหมายเพียงครู่เดียว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป!เขากล่าวเสียงทุ้มหนัก "เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปจวนอ๋องซิ่น แล้วก็แจ้งให้ใต้เท้าหลินและใต้เท้าเซี่ยมาประชุมที่จวนอ๋องซิ่นด้วย!""พ่ะย่ะค่ะ!"สองเค่อต่อมาฉินหงพร้อมด้วยหลินซีและคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกันที่จวนอ๋องซิ่นฉินหยางถามอย่างสงสัย "น้องสี่ ดึกป่านนี้พวกเจ้ายังมากัน มีข่าวดีอะไรจากทางคูมู่หรือ?""ยังติดต่อคูมู่มิได้ แต่เสด็จพี่สาม พวกท่านลองดูนี่ก่อน"ฉินหงพูดพลางวางจดหมายฉบับนั้นลงบนโต๊ะฉินหยาง หลินซีและคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านข้อความบนจดหมายโดยพร้อมเพรียงหลังจากได้อ่านแล้ว เซี่ยเหอก็เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ "ว่ากระไรนะ? ฉินซูสังหารศิษย์เอกของหอดารารักษ์?!"ฉินหยางถามด้วยสีหน้าฉงน "น้องสี่ แน่ใจหรือว่าข่าวนี้เป็นความจริง?""น่าจะมิใช่เรื่องเท็จ ศิษย์เอกของหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่งในแคว้นเป่ยเยี่ยน ผู้ใดจะกล้าพูดเล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้""แต่ศิษย์เอกอย่างหนานกงจื่อชินมีพลังแข็งแกร่งนัก องค์รัชทายาทจะสังหารเขาได้อย่างไร?"หลินซีเองก็กล่าวเสริมขึ้นเช่นกัน "ใช่แล้ว แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนแห่งสำนักหอดูดาวหลวงจะติดตามองค์รัชทายาทไปทางเหนือด้วยแต่ด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 487

    นางพูดด้วยเสียงสะอื้นพร้อมถามกลับว่า "เสด็จพี่หมายความว่าอย่างไร? หรือท่านคิดว่าหม่อมฉันเป็นคนฆ่าพี่จื่อชินเช่นนั้นหรือ?"ซือคงเหยียนรีบพูดขึ้น "องค์ชาย ท่านหญิงจื่อเยียนมีใจรักใคร่กับจื่อชิน นางจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? การตายของจื่อชินถือเป็นการกระทบกระเทือนใจอย่างใหญ่หลวงต่อนาง โปรดอย่าได้สงสัยในตัวนางเลยพ่ะย่ะค่ะ"มู่หรงฟู่ครุ่นคิดแล้วเห็นด้วย จากนั้นก็สงบอารมณ์ลงเขาพูดอย่างจริงจัง "จื่อเยียน ข้าหาได้มีเจตนาสงสัยเจ้าไม่ แต่เจ้าต้องบอกความจริงเกี่ยวกับการตายของจื่อชิน มิเช่นนั้นพวกเราจะล้างแค้นให้เขาได้อย่างไร?"“หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ เดิมทีพี่จื่อชินได้ขวางเส้นทางของฉินซูไว้ในป่า หม่อมฉันกังวลว่า คนของฉินซูจะรู้เรื่องนี้เข้า จึงขอร้องพี่จื่อชินว่าอย่าทำอะไรวู่วาม สุดท้ายเขาก็ฟาดข้าจนหมดสติไปพอฟื้นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ใต้หน้าผา หม่อมฉันปีนขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วหาม้าตัวหนึ่งขี่กลับมา ส่วนเรื่องอื่นหม่อมฉันมิรู้จริง ๆ”หลังจากฟังคำพูดของมู่หรงจื่อเยียนแล้ว สีหน้าของมู่หรงฟู่และซือคงเหยียนก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นผ่านไปครู่หนึ่ง มู่หรงฟู่ก็เอ่ยขึ้นเสียงหนักอึ้ง "

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 486

    มู่หรงจื่อเยียนตกตะลึง ก่อนถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "เสด็จพี่ พี่จื่อชินเขายังมิได้กลับมาหรอกหรือ?"“ไม่ เกิดเรื่องอันใดขึ้น? พวกเจ้ามิได้กลับมาด้วยกันหรอกหรือ?”“เป็นไปมิได้ หากพูดตามเหตุผล เขาควรจะกลับมาเร็วกว่าหม่อมฉันสิ หรือว่าระหว่างจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงทำให้เขากลับมาล่าช้า?”มู่หรงจื่อเยียนครุ่นคิดในใจ ตนและฉินซูติดอยู่ในดินแดนแห่งความฝันนานขนาดนั้น หนานกงจื่อชินก็น่าจะกลับมาตั้งนานแล้วถึงจะถูกหรือว่า เขาจะยังตามหาตนอยู่ที่บริเวณขอบผานั่น?มู่หรงฟู่มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า "ที่นี่เต็มไปด้วยสายลับ เข้าไปคุยข้างในดีกว่า"มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าเห็นด้วย และเดินตามมู่หรงฟู่เข้าไปข้างในทันทีที่นางนั่งลง มู่หรงฟู่ก็ถามขึ้นด้วยความร้อนใจ "เป็นอย่างไรบ้าง? ทำสำเร็จหรือไม่? ฉินซูถูกกำจัดเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?"มู่หรงจื่อเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า "มิสำเร็จ ตอนที่พี่จื่อชินกำลังจะลงมือก็มีกลุ่มปีศาจภูเขาเข้ามาก่อกวน ต่อมา… หม่อมฉันก็พลัดหลงกับเขา ส่วนเรื่องหลังจากนั้น หม่อมฉันก็มิรู้แล้ว”มู่หรงฟู่ขมวดคิ้วรู้สึกว่า คำพูดของมู่หรงจื่อเยียนดูมิค่อยสมเหตุสมผลกันเขาขมวดคิ้วแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 485

    ส่วนครอบครัวและคนสนิทของทั่วป๋าชื่อทั้งหมดถูกตวนมู่สั่งคนไปจัดการประหารจนหมดสิ้นแล้วอีกทั้งตวนมู่ยังได้แต่งตั้งคนสนิทของตนขึ้นมาควบคุมกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ภายในชนเผ่าฉินซูพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ตวนมู่ทำงานอย่างเฉียบขาด รวดเร็ว สามารถรวบรวมกำลังอำนาจของตนได้ภายในเวลาอันสั้นเพียงนี้ อีกทั้งยังกล้าหาญ นับว่าเป็นบุคคลที่ทำการใหญ่ได้ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงถามอย่างสงสัย "ตวนมู่ ชนเผ่าโครยอของเจ้ามีทหารเพียงสองหมื่นนายเท่านั้น แต่ทั่วป๋าชื่อเอาความกล้าจากที่ใดมาคิดสังหารข้ากัน"“องค์รัชทายาท ก่อนที่ท่านจะเสด็จมา ทั่วป๋าชื่อได้รับจดหมายจากผู้สูงศักดิ์ท่านหนึ่ง ในนั้นมีการสัญญาว่า ขอเพียงทั่วป๋าชื่อสามารถกำจัดองค์รัชทายาทได้ วันหน้าเมื่อผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นได้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาจะมอบเมืองให้ชนเผ่าโครยอของเราสองสามเมืองเพื่อฟื้นฟูชนเผ่าพ่ะย่ะค่ะ”“ผู้สูงศักดิ์? คือผู้ใด?”“เรื่องนี้ ทั่วป๋าชื่อมิได้บอกอย่างชัดเจน เขาบอกเพียงว่าเป็นหนึ่งในพระโอรสขององค์จักรพรรดิ อ้อ ใช่แล้ว จดหมายฉบับนั้นน่าจะอยู่ในห้องตำราของทั่วป๋าชื่อ ข้าน้อยจะไปค้นหามาให้พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่ตวนมู่พูดจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 484

    ฉินซูโบกมือแล้วตะโกนสั่งกับทหารผู้นั้น "ไป นำตัวตวนมู่หาให้ข้า!"“รับพระบัญชา!”ทหารผู้นั้นรับคำอย่างนอบน้อมแล้วนำคนอีกสองคนเดินอย่างรวดเร็วไปยังคุกเพียงชั่วครู่ ตวนมู่ก็ถูกนำตัวมาในตอนนี้ เขาถูกใส่โซ่ตรวนที่มือและเท้า ดูคล้ายกับนักโทษอย่างไรอย่างนั้นฉินซูเลิกคิ้ว พลันถามว่า "ตวนมู่ ข้าได้ยินมาว่า ทั่วป๋าชื่อสั่งให้เจ้าฆ่าข้า มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ?"ตวนมู่กวาดสายตามองสถานการณ์ภายในลาน เมื่อเห็นเศษแขนขาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ม่านตาของเขาก็หดตัวในฉับพลันความคิดในหัวของเขาแล่นอย่างรวดเร็ว มินานก็วิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าได้เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงรีบเอ่ยตอบ "องค์รัชทายาท เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้น เหตุใดเจ้าจึงมิทำตามคำสั่งของเขา?”“องค์รัชทายาท ท่านคือรัชทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์แห่งแผ่นดิน หากลงมือกับท่านก็เท่ากับการก่อกบฏ เป็นที่สาปแช่งทั้งฟ้าดิน ข้าน้อยยอมตายเสียดีกว่าทำเรื่องที่ไร้ความจงรักภักดีและอกตัญญูเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของตวนมู่แฝงความมิจริงใจอยู่บ้าง แต่เขารู้ดีว่าบัดนี้ฉินซูได้กุมอำนาจในสถานการณ์นี้ไว้แล้วดังนั้นหากมิแสดงความจงรักภักดีเสียตอนนี้แล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 483

    ฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่พูดมิกี่คำก็สามารถทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนหันดาบมาทำร้ายตนได้ นี่ถือเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวง!อูมู่โกรธจนตัวสั่น เขาตะโกนสั่งกลุ่มพลธนูของเขาว่า "ยิงธนู ฆ่าพวกทรยศพวกนี้ให้หมด!"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!ลูกธนูนับสิบพุ่งทะลวงกลางอากาศไปอย่างรวดเร็วทหารที่ทรยศเหล่านั้นส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่ถูกยิงจนเต็มไปด้วยลูกธนูล้มลงไปนอนในแอ่งเลือดอูมู่ตวาดลั่น "เห็นหรือยัง นี่คือจุดจบของคนทรยศ ใครกล้าชี้ดาบใส่คนในเผ่าตนอีก ข้าจะฆ่ามันมิปรานี!"เมื่อเห็นดังนั้น เหล่าทหารก็พากันหวาดกลัวจนมิกล้าขยับตัว“นี่ ข้ามอบของดีให้พวกเจ้า!”เสียงหัวเราะเย้ยหยันของฉินซูดังขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นก็โยนบางสิ่งไปยังตำแหน่งของกลุ่มพลธนูเหล่านั้นอูมู่ซึ่งมีปฏิกิริยารวดเร็ว คว้ามันไว้ในมือทันที!เมื่อมองดูชัด ๆ จึงพบว่ามันคือลูกเหล็กกลม ๆ ลูกหนึ่ง!ปลายด้านบนของลูกกลมยังคงพ่นควันโชยออกมาเขามองดูสิ่งของแปลกประหลาดในมือ และกำลังจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าฉงนสงสัยแต่ยังมิทันที่จะได้ถาม ก็ได้ยินเสียง…ตูม เสียงครึกโครมดังสนั่น ลูกกลมในมือของอูมู่ระเบิดอย่างรุนแรง!ร่างของอูมู่ถูกระเบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 482

    ถานเหวยโกรธจนกัดฟันกรอด พลันตะโกนด่าด้วยความโมโห "ทั่วป๋าชื่อ เจ้านี่ช่างบ้าบิ่น การลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทคือโทษประหารล้างชั่วโคตร! หากพวกเจ้ากล้าก่อเรื่องในวันนี้ ก็จงรอรับมือกองทัพจากราชสำนักที่จะมากวาดล้างพวกเจ้าทั้งเผ่าโครยอให้สิ้นซากได้เลย!”“หึ ในเมื่อข้ากล้าลงมือ ข้าก็เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เจ้าคิดว่ามีใครในพวกเจ้าในวันนี้จะหนีรอดไปได้หรือ?”อูมู่ยังหัวเราะเยาะหยัน "เพียงแค่พวกเราฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด องค์จักรพรรดิจะมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นฝีมือพวกเรา?"“ใช่แล้ว แถบพื้นที่ฉงซานมีสัตว์ร้ายอาละวาดหนัก ถึงตอนนั้นทุกคนคงคิดว่ารัชทายาทผู้ตกอับถูกสัตว์ร้ายฆ่าตาย ใครเล่าจะสงสัยมาถึงพวกเราชนเผ่าโครยอ?”กานรุ่ยสีหน้าเคร่งขรึม และเอ่ยเสียงเบา "องค์รัชทายาท พวกเขาพูดถูกพ่ะย่ะค่ะ เมื่อพวกเขากล้าลงมือ แสดงว่าต้องวางแผนไว้อย่างรัดกุมแล้ว อีกเดี๋ยวท่านโปรดหาโอกาสหลบหนี พวกเราจะยอมสละชีวิตเพื่อเปิดทางให้เองพ่ะย่ะค่ะ"หลังจากพูดจบ เขาก็ชักดาบออกจากฝักเหล่าทหารที่ติดตามต่างก็ชักกระบี่ออกมาเช่นกันด้วยท่าทีพร้อมสละชีวิตทั่วป๋าชื่อตะโกนเสียงดัง "ฉินซู ยังมิรีบปลิดชีพตนอีกรึ จ

DMCA.com Protection Status