“จุ๊ จุ๊ จุ๊ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ท่านถึงกับใช้สตรีที่ตนโปรด ฉินเซียว ตาแก่คนนี้มิได้มองคนผิดไปเลยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากที่ชายชราลึกลับพูดจบ เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นเสียงหัวเราะค่อนข้างบาดหู ทำให้ใครก็ตามที่ได้ยินรู้สึกหวาดกลัวและขนลุกฉินเซียวขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เขามิได้พูดอะไรจู่ ๆ ชายชราผู้ลึกลับก็เปลี่ยนเรื่องและพูดด้วยความเสียใจ "น่าเสียดายที่ท่านมิสามารถโน้มน้าวให้องค์รัชทายาทเป็นผู้นำคนเหล่านี้ได้ มิเช่นนั้นท่านก็คงสังหารเขาที่ศาลาสิบลี้ได้"“เขาเป็นองค์รัชทายาทผู้มีเกียรติ และฉินเหยี่ยนก็เคยส่งคนไปลอบสังหารเขาครั้งหนึ่งแล้ว เขายอมส่งทหารในตำหนักออกไปก็นับว่าดีมากแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะนำทัพไปด้วยตัวเอง?”“สิ่งที่ท่านตรัสนั้นก็สมเหตุสมผล เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างลงตัว กระหม่อมจะออกเดินทางยังศาลาสิบลี้ทันที ท่านคอยรอฟังข่าวดีเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่คำพูดจบลง ร่างของชายชราก็โผล่ออกมาจากเงามืดจะเห็นได้ว่าเขาแต่งกายด้วยชุดคลุมสีดำ มีรูปร่างแปลกประหลาดอย่างยิ่ง ใบหน้าข้างหนึ่งซีดและอ่อนนุ่มราวกับผิวเด็ก แต่อีกข้างมีรอยย่นและเหี่ยวแ
เมื่อพวกเขาเดินผ่านป่าทึบ!"ฟี้ววว!!"ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมดังขึ้นในอากาศ!ศรหลายดอกยิงออกมาจากทางป่าทึบทีละลูก!"อัก!!"ก่อนที่องครักษ์ของฉินเหยี่ยนจะทันได้ตอบสนอง หลายคนก็ถูกยิงล้มลงไปแล้ว“มีมือสังหาร! มีมือสังหาร!”มิรู้ว่าเป็นผู้ใดตะโกนเสียงดัง องครักษ์มากกว่าสิบนายพลันชักดาบออกมาทันทีและคุ้มกันรถม้าที่อยู่ตรงกลางอย่างแน่นหนาในรถม้า ฉินเหยี่ยนและชายารองของเขาต่างก็หวาดกลัว“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงมีมือสังหารได้หรือพ่ะย่ะค่ะ ผู้ใดหมายชีวิตพวกเรากัน?”“ยังจะถามอีกรึ ต้องเป็นเจ้าสารเลวฉินซูแน่ ๆ ให้ตายเถอะ ข้าทั้งถูกลดตำแหน่งเป็นเฉินหลิวอ๋อง ทั้งถูกเนรเทศออกจากหลงเถิง แต่เขายังมิรามืออีก”“นี่มิถูกต้องเพคะ ท่านอ๋อง หากองค์รัชทายาททรงต้องการลอบปลงพระชนม์ท่าน แล้วเหตุไฉนเมื่อวานนี้ในท้องพระโรงองค์รัชทายาทถึงต้องขอร้องให้เสด็จพ่อไว้ชีวิตท่านด้วยเพคะ? นั่นจะมิเป็นการทำอะไรเสียเปล่าหรอกหรือ”ฉินเหยี่ยนเริ่มโกรธและพูดว่า "เขาทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน ทำให้ตัวเองดูดี พอใช้ประโยชน์เสร็จแล้วก็กำจัดเพื่อแก้แค้นอย่างไรเล่า!"เมื่อชายารองของเขาได้ยินสิ่งนี้ นางก็ขมวดคิ้วทันที รู้สึกว่าม
ชายชุดขาวพลิกตัวกลางอากาศสองตลบ หลังจากปลดปล่อยพลังออกไป ก็ค่อย ๆ ลงสู่พื้นดินอย่างยากลำบากขณะนั้น ชายถือดาบนับสิบคนได้เข้ามาป้องกันรถม้าของฉินเหยี่ยนเอาไว้ร่างผอมบางร่างหนึ่งตกลงมาจากฟ้า ลงมายืนอยู่เบื้องหน้ารถม้า!เมื่อเห็นใบหน้าของคนผู้นั้น ฉินเหยี่ยนก็ราวกับพบทางรอด รีบลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น"แม่ทัพใหญ่ฉง เจ้าช่างมาได้ทันเวลาเหลือเกิน! องค์รัชทายาทส่งเจ้าโจรชั่วนี่มาสังหารข้า เร็วเข้า รีบจับเจ้าโจรชั่วนี่ไว้!"ฉงชูโม่มิแม้แต่จะหันหลังกลับ และพูดเสียงเย็นว่า "ฉินเหยี่ยน สมองนั้นเป็นของดี ท่านมีกับเขาบ้างหรือไม่? หากองค์รัชทายาทต้องการชีวิตท่าน หม่อมฉันจะพาทหารจากตำหนักบูรพามาช่วยท่านด้วยเหตุใด?""ว่ากระไรนะ? องค์รัชทายาทส่งเจ้ามารึ? แล้ว… คนผู้นี้เป็นใครกัน?!"ฉินเหยี่ยนงุนงง มิเข้าใจว่านอกจากฉินซูแล้ว จะมีใครอีกที่ต้องการจะสังหารเขาฉงชูโม่พูดเสียงเย็น "เขาเป็นใคร เดี๋ยวหม่อมฉันจับเขาได้ท่านก็จะรู้เองเพคะ!"สิ้นเสียง ฉงชูโม่ชักกริชเขี้ยวมังกรออกจากฝัก ร่างของนางพุ่งตรงเข้าหาชายชุดขาวผู้สวมหน้ากากด้วยความเร็วราวลูกธนูที่พุ่งออกจากคันศรนางเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงชั่วพริบตาก
เพียงเห็นปลายกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแทงทะลุออกมาจากหน้าอก เลือดสด ๆ ค่อย ๆ หยดลงจากปลายกระบี่เมื่อครู่เขาคิดแต่จะสังหารฉินเหยี่ยนเพียงอย่างเดียว จนลืมไปว่าตงฟางไป๋ที่อยู่ข้าง ๆกว่าเขาจะรู้สึกตัว ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้วภายใต้สายตาเย็นชาของตงฟางไป๋ เฉินอันล้มลงไปบนพื้นด้วยความมิเชื่อเต็มใบหน้าตงฟางไป๋เหลือบมองกลุ่มคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ กระบี่ในมือสั่นไหวเล็กน้อยแล้วกระโจนเข้าร่วมการต่อสู้ทันทีเมื่อมีเขาเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย บรรดาลูกน้องของเฉินอันก็มิอาจต้านทานได้ไหว ถูกสังหารจนล้มลงไปในเวลามินานแต่ก่อนที่ตงฟางไป๋จะทันได้หายใจหายคอ เงาร่างสีดำก็พุ่งออกมาจากป่าหนาทึบอีกด้านหนึ่งเมื่อเห็นศัตรูพุ่งมาอย่างอาฆาตมาดร้าย ตงฟางไป๋ก็มีสีหน้าเคร่งขรึม ใช้เท้าขวากระแทกพื้นอย่างแรงแล้วกระโจนตัวออกไปเพื่อเผชิญหน้า“แค่มดแมลงอย่างเจ้า กล้ามาขวางทางข้ารึ? ตายซะ!”เสียงชราดังขึ้น เย็นเยียบราวกับน้ำแข็งที่เสียดแทงกระดูก!ทันทีที่สิ้นเสียง เงาร่างในชุดคลุมสีดำก็ผลักฝ่ามือที่แห้งเหี่ยวราวกับกิ่งไม้ออกไปอย่างรวดเร็วตงฟางไป๋สะบัดข้อมือเล็กน้อย กระบี่ในมือพุ่งตรงเข้าหาฝ่ามือของชายชุดดำเมื่อเห
นิ้วของฉินซูสะบัดเบา ๆ ปราณแห่งกระบี่แหลมคมกรีดอาภรณ์บริเวณหน้าอกของฉินเหยี่ยนให้ขาดออกในทันทีจากนั้นเขาหยิบเข็มเงินหลายเล่มขึ้นมาปิดจุดรอบ ๆ บาดแผลของฉินเหยี่ยน ก่อนจะค่อย ๆ ดึงกระบี่ยาวครึ่งฉื่อออกจากร่างของเขาฉินซูใช้เข็มเงินดันแผลของฉินเหยี่ยนออก และส่องดูภายใน จากนั้นคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย“บาดเจ็บถึงอวัยวะภายใน แบบนี้ยุ่งยากแล้วสิ”เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหยิบเม็ดยาจากอกเสื้อออกมาสองเม็ดหนึ่งเม็ดถูกป้อนเข้าปากของฉินเหยี่ยน และบีบอีกเม็ดหนึ่งจนแตก แล้วดีดใส่เข้าไปในบาดแผล ตัวยาเข้าไปเกาะติดกับอวัยวะที่ได้รับความเสียหายอวัยวะภายในที่ยังคงมีเลือดไหลอยู่ เลือดก็หยุดไหลลงในทันทีฉินซูหยิบเข็มเงินอีกเล่มขึ้นมา ดึงด้ายออกจากอาภรณ์ของฉินเหยี่ยน พันด้ายรอบปลายเข็ม และเริ่มเย็บปิดแผลให้เขาทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นใกล้ ๆเขาหันไปมอง เห็นว่าฉงชูโม่กำลังเดินเข้ามาด้วยสภาพผมกระเซอะกระเซิงเล็กน้อยกริชเขี้ยวมังกรในมือของนางยังมีเลือดหยดลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อฉงชูโม่เห็นฉินซู นางก็ถามขึ้นด้วยความตกใจว่า “องค์รัชทายาท เหตุใดท่านถึงมาที่นี่ได้?”“หากข้ามิมา ฉินเหยี่
ฉินเหยี่ยนคิดอย่างไรก็คิดมิตก จู่ ๆ เขาก็หันไปมองตงฟางไป๋และถามว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อครู่เจ้าว่าพวกเขาคือคนของอ๋องหนิง ใช่หรือไม่?”“ตอนที่พวกเราออกนอกเมืองมาพร้อมแม่ทัพใหญ่ฉง คนพวกนั้นก็โผล่มาพอดี ตอนนั้นพวกเขากล่าวอ้างว่าตนเป็นทหารในสังกัดของจวนอ๋องหนิง”“ถ้าเช่นนั้น รีบตรวจดูว่าบนร่างพวกเขามีป้ายของจวนอ๋องหนิงหรือไม่!”ตงฟางไป๋โบกมือให้เหล่าทหาร พวกเขาจึงเริ่มค้นหาบนร่างของผู้เสียชีวิตเหล่านั้นแต่เพียงครู่เดียว พวกเขาก็มิพบอะไรเลยฉงชูโม่โกรธจัดและกล่าวว่า “ตงฟางไป๋ เจ้าคุ้มกันองค์รัชทายาทกลับไป ข้าจะไปถามอ๋องหนิงให้รู้เรื่อง!”เมื่อนางพูดจบก็ทำท่าจะจากไป แต่ฉินซูกลับเรียกนางเอาไว้ก่อน“ชูโม่ ช้าก่อน!”“องค์รัชทายาทมีรับสั่งอะไรอีกหรือเพคะ?”“เจ้าบุกไปถามตรง ๆ เช่นนั้น หากอ๋องหนิงยอมรับ ก็นับว่าแปลกแล้ว”ฉงชูโม่ครุ่นคิดเล็กน้อย นางเห็นด้วยจึงถามว่า “เช่นนั้นในความเห็นของท่าน เราควรทำอย่างไรต่อไป?”ฉินซูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “เมื่อครู่คนร้ายโจมตีแล้วรีบหนีไปโดยมิลังเล เพราะมันคิดว่าฉินเหยี่ยนตายแล้ว ดังนั้นเราจะใช้แผนลวง รอจนข่าวการตายของฉินเหยี่ยนล่วงไปถึงหลงเฉิง แ
ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย “ก็อาจจะใช่ ข้ามิค่อยสบายใจนัก จึงแอบตามมาด้วย เจ้าลองเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นให้ข้าฟังหน่อยเถอะ ข้าจะได้ดูว่ามีจุดอ่อนใดที่พวกเขาเผยไต๋ออกมาบ้างหรือไม่”ฉงชูโม่จึงเล่าถึงการลอบโจมตีของชายชุดขาวให้ฟังอย่างละเอียดเมื่อนางพูดจบ ตงฟางไป๋ก็เสริมว่า “หลังจากที่แม่ทัพฉงไล่ตามชายชุดขาวไปแล้ว เฉินอันและพรรคพวกก็เข้าโจมตีพวกเราทันที หม่อมฉันคิดว่าพวกเขาต้องเป็นพวกเดียวกันแน่!”แต่ฉินซูปฏิเสธ “ไม่หรอก หากพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน วิธีที่ดีที่สุดคือต้องให้เฉินอันและพรรคพวกโจมตีเราก่อน เพื่อให้พวกเจ้าติดพันอยู่กับการต่อสู้ เมื่อมัวต่อสู้จนชุลมุน แล้วชายชุดขาวค่อยออกมาจากป่ามาโจมตีทีหลัง เช่นนั้นจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าและสมเหตุสมผลกว่าด้วย”ตงฟางไป๋ประหลาดใจ “ถ้าเช่นนั้น พวกเขาเป็นคนละพวกกัน ไม่สิ ดูแล้วน่าจะมีถึงสามกลุ่ม!”“สามกลุ่ม? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ฉงชูโม่ถามด้วยความงุนงง“อ้อ เดิมทีกระหม่อมก็ยังมิรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่หลังจากที่ได้ฟังคำวิเคราะห์ขององค์รัชทายาทแล้ว คนที่ออกมาโจมตีกระหม่อมคือชายชุดดำ เขามิใช่พวกเดียวกับเฉินอัน แต่เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง”“เจ้าว่ากระไ
“หลิวเว่ย รองหัวหน้าศาลต้าหลี่ ถวายบังคมองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ” “ขอถวายบังคมองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูเลิกคิ้วเล็กน้อย ถามขึ้นว่า "ใต้เท้าหลิว เหตุใดพวกท่านจึงมาที่นี่ได้?"หลิวเว่ยตอบกลับอย่างนอบน้อม "กระหม่อมได้รับรายงานว่ามีผู้วางแผนลอบสังหารเฉินหลิวอ๋องที่ศาลาสิบลี้แห่งนี้ กระหม่อมจึงนำคนเร่งรุดมาทันที มิทราบว่าองค์รัชทายาทได้พบเจอพวกโจรบ้างหรือมิพ่ะย่ะค่ะ?""พวกเจ้ามาช้าไปแล้ว ฉินเหยี่ยนถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้ว พวกโจรชั่วส่วนใหญ่หลบหนีไปได้ ที่เหลือก็ถูกสังหารทั้งหมด"เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของหลิวเว่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาเดินไปสำรวจที่รถม้าที่เสียหายและพินิจอย่างละเอียดเมื่อเห็นศพของฉินเหยี่ยนและชายารองข้างกาย เขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจว่า "องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ การลอบสังหารเฉินหลิวอ๋องเป็นเรื่องใหญ่หลวงนัก กระหม่อมต้องรีบนำความกลับไปรายงานต่อศาลต้าหลี่ เพื่อให้ตุลาการศาลต้าหลี่ทูลเรื่องที่เกิดขึ้นต่อองค์จักรพรรดิ องค์รัชทายาท กระหม่อมของทูลลา""ได้ พวกท่านไปเถอะ" ฉินซูตอบอย่างมิใส่ใจ“ขอองค์รัชทายาททรงพระเจริญ”หลิวเว่ยคำนับแล้วขึ้นม้ากลับไปทางเดิมพร้อมกับเหล่