แชร์

บทที่ 216

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
"ฉึก"

กริชในมือของฉินซูแทงเข้าไปที่อกของโอวหยางขุยอย่างแน่นหนา!

โอวหยางขุยเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความมิเชื่อ

ร่างของเขาเริ่มโอนเอนสองสามครั้ง แล้วล้มลงไปกับพื้นในทันที!

เมื่อเห็นฉินซูลงมือสังหารโอวหยางขุยตรงนั้น ฉินอู๋ต้าวแม้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่มิได้พูดอะไร

ส่วนคนอื่น ๆ ยิ่งมิกล้าเอ่ยอะไรออกมา

มีเพียงสายตาของเหลยเจิ้นที่มองร่างไร้วิญญาณของโอวหยางขุยด้วยด้วยสายตาครุ่นคิด

ฉินซูดึงกริชออกมา และโยนคืนให้กับฉงชูโม่อย่างสบาย ๆ

ในบรรดาขุนนางทั้งหลาย นอกจากทหารองครักษ์ที่มีสิทธิ์พกดาบเข้าเฝ้าแล้ว ก็มีเพียงฉงชูโม่ แม่ทัพขั้นหนึ่งที่ได้รับสิทธิ์พกดาบเข้าเฝ้าได้

ดังนั้นฉินซูจึงเตรียมให้นางอยู่ข้างกายตน เพื่อรอช่วงเวลานี้

ฉินอู๋ต้าวชำเลืองมองร่างของโอวหยางขุย แล้วกล่าวอย่างเรียบว่า "โอวหยางขุยถูกสังหารแล้ว ให้เขาได้ศพครบสมบูรณ์ ส่วนเรื่องสำนักอาทิตย์อัสดง เหลยเจิ้น เจ้าจงส่งคนไปกวาดล้างให้หมด ทั้งฆ่าล้างตระกูลโอวหยางเก้าชั่วโคตร อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!"

เหลยเจิ้นก้มหน้ารับคำสั่งอย่างนอบน้อม "กระหม่อมรับพระบัญชา!"

ฉินอู๋ต้าวหันไปมองฉินซูอย่างลึกซึ้ง แล้วหมุนตัวออกไปจา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Lerd Seema
อัฟเยอะๆหน่อย ตอนเดียวนี่นะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 217

    "องค์รัชทายาท รอหม่อมฉันด้วย!"เสียงของฉงชูโม่ดังขึ้นขณะที่วิ่งไล่ตามมาฉินซูถามโดยมิหันกลับไปว่า "ตามข้ามาด้วยเหตุใด ยามนี้เจ้าควรไปเฝ้าฝ่าบาทมิใช่หรือ? อย่างไรพระองค์ก็เป็นนายของเจ้า!""ฉินซู ท่านมิพูดจาทิ่มแทงกันบ้างจะได้หรือไม่ ฝ่าบาทเป็นกษัตริย์ของแผ่นดิน หม่อมฉันในฐานะข้าราชบริพารก็ต้องรับฟังคำสั่ง แต่ตอนนี้หม่อมฉันคืออาจารย์ขององค์รัชทายาท หน้าที่ของหม่อมฉันคืออยู่เคียงข้างท่าน""ตามใจเจ้าแล้วกัน"ฉินซูเดินต่อไปโดยมิหยุดเมื่อเดินไปสักพัก ฉงชูโม่เห็นว่ารอบตัวไร้ผู้คน จึงเอ่ยขึ้นว่า "องค์รัชทายาท ท่านมิทรงคิดหรือว่าวันนี้ท่านทำเกินไป?""เกินไปตรงไหน?" "ยังจะถามอีกหรือ? ท่านมิทรงทราบจริง ๆ หรือแกล้งมิทราบ ท่านกดดันองค์จักรพรรดิจนกริ้วเป็นฟืนเป็นไฟ แม้ว่าท่านจะล้มอ๋องจิ้นสำเร็จ แต่ผลลัพธ์นี้จะเป็นประโยชน์อันใดต่อท่านในภายภาคหน้าเล่า องค์จักรพรรดิคงมิอยากพบหน้าท่านอีกแล้ว ทำเช่นนี้ท่านว่าคุ้มค่าแล้วหรือ?"ฉินซูหยุดเดิน หันกลับมามองฉงชูโม่แล้วถามกลับ "หากวันนี้ข้ามิกดดันพระองค์ ปล่อยให้พระองค์ปกป้องฉินเหยี่ยน เจ้าคิดหรือว่าพระองค์จะกลับมาโปรดปรานข้า? หรือหลังวันชุนเฟินปีหน้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 218

    เหลยเจิ้นกล่าวช้า ๆ ว่า "ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้ทั่วทั้งในและนอกวังต่างกล่าวว่าองค์รัชทายาทเป็นคนเสเพล ฟุ่มเฟือยเกินไป เอาแต่หมกมุ่นในสุรานารี จนกระทั่งบรรดาแคว้นเพื่อนบ้านเกิดความทะเยอทะยานและคิดจะรุกรานเรา""แต่ในตอนนี้ เมื่อองค์รัชทายาทก่อเหตุวุ่นวายเช่นนี้ ก็ทำให้บรรดาคนที่คิดร้ายได้เห็นว่า ราชวงศ์ต้าเหยียนมิได้มีแต่คนขลาดเขลา องค์รัชทายาทหาได้เป็นอย่างที่ลือกันไม่""เช่นนั้นแล้ว หากพวกเขาคิดจะรุกรานต้าเหยียน ก็ต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน"ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วแล้วถามว่า "เจ้าหมายความว่าองค์รัชทายาทที่กดดันข้า ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแผ่นดินหรือ? ถุย! เหลวไหลสิ้นดี!"แม้จะบ่นอย่างหงุดหงิด แต่ความรู้สึกของฉินอู๋ต้าวก็ดูจะผ่อนคลายลงกว่าก่อนหน้านี้มากเมื่อคิดอย่างละเอียด สิ่งที่เหลยเจิ้นพูดก็มิใช่เรื่องเหลวไหลเสียทีเดียวหากราชสำนักต้าเหยียนเต็มไปด้วยการทุจริต และราชวงศ์อ่อนแอไร้ซึ่งความสามารถ แผ่นดินข้างเคียงก็จะหาจังหวะเข้ามาโจมตีได้โดยง่ายทว่ายามนี้กลับตรงกันข้าม องค์จักรพรรดิเองก็เด็ดขาดถึงขั้นลงโทษลูกชายตัวเองด้วยการเนรเทศออกจากเมืองหลวง การตัดสินอย่างยุติธรรมเช่นนี้ย่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 219

    เหลยเจิ้นยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าจะมีความคิดเห็นอะไรได้เล่า ขุนนางอาวุโสเว่ย หน้าที่ของพวกเราคือช่วยแบ่งเบาภาระให้ฝ่าบาท ส่วนเรื่องอื่น ๆ พวกเราก็ควรดูสถานการณ์ต่อไปก็พอ”เมื่อพูดอย่างมีนัยจบ เขาก็เดินจากไปโดยมิหันกลับมาเว่ยเจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางพึมพำกับตัวเองว่า “เจ้าลอยตัวเหนือปัญหา หากในราชสำนักเกิดการเปลี่ยนแปลง ข้ากับสำนักขุนนางใหญ่นี่แหละที่จะต้องรับศึกหนัก เห็นทีว่าข้าคงต้องหาวิธีเองเสียแล้ว...”…… “ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เมื่อฉงชูโม่มาถึงห้องทรงพระอักษร นางก็ถวายความเคารพอย่างนอบน้อมฉินอู๋ต้าวมองตรงไปที่นาง ถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “ชูโม่ องค์รัชทายาทมีใครอยู่เบื้องหลังคอยให้คำชี้แนะเขาหรือไม่?”“ฝ่าบาท จากที่หม่อมฉันทราบ ไม่มีผู้ใดอยู่เบื้องหลังองค์รัชทายาทเลยเพคะ”“เจ้ามั่นใจหรือ?”ฉงชูโม่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “มั่นใจเพคะ หากมีผู้ใดคอยชี้แนะองค์รัชทายาท หม่อมฉันย่อมสังเกตเห็นเป็นแน่ เว้นเสียแต่องค์รัชทายาทเลือกที่จะติดต่อกับบุคคลนั้นเฉพาะเวลาที่หม่อมฉันมิอยู่”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เช่นนั้น เจ้ามิได้เฝ้าดูองค์รัชทายาทตลอดเวลาอย่างนั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 220

    เซี่ยหลานนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีลังเลว่า “ฝ่าบาท องค์รัชทายาทนั้นมีสถานะสูงส่ง หม่อมฉันเกรงว่า...”ฉินอู๋ต้าวขัดจังหวะทันทีว่า “มิต้องกังวล! เมื่อข้าจะส่งเจ้าไปที่ตำหนักบูรพา ข้าย่อมมิให้เจ้าไปในฐานะคนธรรมดา ฟังให้ดี ข้าจะตั้งเจ้าเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องร่วมมือกับชูโม่ เฝ้าดูการเคลื่อนไหวขององค์รัชทายาท แล้วรายงานทุกอย่างให้ข้าทราบ เจ้าตกลงหรือไม่?”เซี่ยหลานพยักหน้าอย่างหนักแน่นโดยมิต้องคิดนาน “ตกลงเพคะ หม่อมฉันยินดีอย่างยิ่ง!”“ดีมาก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็จะเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท ข้าต้องการให้พวกเจ้าสืบหาว่าผู้ใดคอยให้คำชี้แนะแก่เขาอยู่เบื้องหลัง!”เมื่อฉินอู๋ต้าวพูดจบ ดวงตาก็แสดงออกถึงความเย็นชาอย่างชัดเจนเซี่ยหลานรู้สึกตกใจและหวาดกลัว พลางหันไปมองฉงชูโม่ฉงชูโม่มีสีหน้าอับจนหนทาง แต่ทั้งสองก็น้อมรับคำสั่งด้วยความเคารพหลังออกจากวัง ฉงชูโม่ก็กล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิดว่า “เซี่ยหลาน ข้าขอโทษเจ้าด้วย ข้ามิคิดว่าฝ่าบาทจะดึงเจ้ามาเกี่ยวข้อง”“ชูโม่ เจ้าอย่าได้โทษตัวเอง เรื่องนี้มิใช่ความผิดของเจ้า อีกทั้งการที่ฝ่าบา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 221

    เซี่ยหลานเดินมาทางด้านนี้พร้อมรอยยิ้มฉินซูทำหน้านิ่งและพูดเสียงเย็น “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดแผนอะไรอยู่ จากนี้ไป นอกเหนือจากห้องรับรองของตำหนักบูรพา ห้องโถงด้านข้าง และหอฉงเหวิน เจ้ามิได้รับอนุญาตให้เข้าออกที่อื่น!”“แม้สิ่งที่ท่านพูดจะมีเหตุผล แต่หม่อมฉันก็คงต้องฟังรับสั่งของฝ่าบาทใช่หรือไม่? ฝ่าบาทตรัสว่า หม่อมฉันสามารถไปที่ใดก็ได้ในตำหนักบูรพาตามที่ใจต้องการ รวมถึงห้องบรรทมของท่านด้วย! หากท่านมีข้อโต้แย้ง ก็เชิญเข้าวังไปทูลฝ่าบาทได้เลย แต่ก่อนหน้านั้นท่านไม่มีสิทธิ์ห้ามหม่อมฉันเพคะ”“โอ้โห แม้แต่เจ้าก็ยังกล้ายกฝ่าบาทมากดดันข้ารึ?”เซี่ยหลานเชิดหน้าเล็กน้อยและพูดอย่างเย่อหยิ่ง “นี่คืออำนาจขององค์จักรพรรดิที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษต่างหากเพคะ ฝ่าบาทยังตรัสด้วยว่า หากท่านกระทำความผิดใด ๆ หม่อมฉันก็สามารถลงมือตีท่านได้เลย จากนี้ไปองค์รัชทายาทต้องระวังตัวให้ดีด้วยเพคะ อย่าปล่อยให้หม่อมฉันคว้าโอกาสได้เชียว!”ฉินซูกัดฟันด้วยความเกลียดชัง เขากระทืบเท้าด้วยความโกรธและพูดว่า “หึ เก่งนักนะ บุรุษผู้สง่างามเขามิต่อสู้กับสตรีหรอก ข้าขี้คร้านจะเถียงกับเจ้า ชิงเหยา ไปแช่น้ำกันเถอะ!”ใบหน้าของหลิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 222

    ที่โรงอาบน้ำ มีไอน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศอุ่นทำให้เหงื่อหอม ๆ ของเซี่ยหลานไหลออกมาจนทำให้อาภรณ์ของนางเปียกโชกนางเช็ดเหงื่อพลางพึมพำในใจในบ่อน้ำที่ร้อนอบอ้าวเช่นนี้ การทำเรื่องน่าอายเยี่ยงนั้นจะมิทำให้หายใจติดขัดหรอกหรือ?นางย่อตัวหลบตามอ่างอาบน้ำและสิ่งกำบังอื่น ๆ และค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังไปทางบ่อน้ำมินานนางก็เห็นร่างร่างหนึ่งในอ่างอาบน้ำเมื่อเห็นเงาร่างขมุกขมัว เซี่ยหลานก็ใจเต้นแรงขึ้นมาเป็นทวีคูณ นางแค่เห็นราง ๆ ก็ดูออกว่าคนที่แช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำคือฉินซู!แต่ที่บ่อน้ำแห่งนี้มีฉินซูอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น และมิเห็นร่องรอยของหลินชิงเหยา “หรือว่าหลินชิงเหยาไปช่วยฉินซูส่งข่าว?”เมื่อคิดได้เช่นนั้น เซี่ยหลานก็คิดที่จะออกไปจับหลินชิงเหยาให้ได้คาหนังคาเขาทว่าขณะนั้นเอง นางก็เหยียบขันน้ำโดยมิทันระวังจากนั้นนางก็ลื่นล้มลงไปในบ่อน้ำ“ว้าย!!”นางกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่ก็มิอาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องตกน้ำได้!น้ำในบ่อมิได้ลึกมาก แต่ด้วยความตื่นตระหนกนางจึงลุกขึ้นยืนมิได้ไปชั่วขณะ จนเผลอกลืนน้ำไปหลายอึกในขณะที่พยายามดิ้นรนนางสำลักซ้ำแล้วซ้ำเล่า และใช้มือปัดป่ายน้ำในบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 223

    เซี่ยหลานกลัวมาก ตอนนี้นางมิอยากสนอะไรแล้ว นางจึงทำปากจู๋และจูบเบา ๆ ที่ข้างแก้มของฉินซูเมื่อเป็นเช่นนั้น ใบหน้าที่งดงามของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีแต่ฉินซูกลับพูดอย่างคนได้คืบจะเอาศอก “เจ้าทำเร็วเกิน ข้ามิรู้สึกอะไรเลย”“หม่อมฉัน... ฮือ ฮือ องค์รัชทายาท หม่อมฉันกลัวแล้ว ต่อไปหม่อมฉันจะมิจับตาดูท่านแล้ว พอพระทัยแล้วหรือไม่เพคะ? ท่านรีบอุ้มหม่อมฉันขึ้นไปเถิด หม่อมฉันกลัวมากจริง ๆ…”“มิได้ ในเมื่อเจ้ามิจูบข้าอีกรอบ เช่นนั้นก็ปีนขึ้นไปเองแล้วกัน ข้าเองก็มิได้เป็นคนดีอะไร”“ท่าน!!”เซี่ยหลานโกรธจนเหลือจะทน แต่นางก็มิกล้าปล่อยฉินซูและทำให้ตัวเองตกน้ำ ดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกัดฟันจำใจจูบข้างแก้มของฉินซูอีกครั้งฉินซูยิ้มร้ายและหันหน้าไป!และริมฝีปากสีแดงนวลเนียนของเซี่ยหลานก็จูบที่ปากของอีกฝ่ายพอดิบพอดี!หลังจากที่สัมผัสได้ถึงริมฝีปากสีแดงอันอ่อนนุ่มของนาง ฉินซูก็อดมิได้ที่จะยื่นมือไปโอบเอวบางของนางร่างกายอันบอบบางของเซี่ยหลานสั่นเเทา และหัวใจของนางก็เต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆนางรีบอ้าปากพูดด้วยความโกรธ “หม่อมฉันทำตามที่ท่านบอกแล้ว ตอนนี้จะอุ้มหม่อมฉันออกไปจากตรงนี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 224

    ชั่วขณะนั้น เซี่ยหลานตกตะลึง เหม่อลอยและมิตอบสนองตอนนี้ฉินซูลืมความเจ็บปวดที่ท้ายทอยไปแล้ว เขาตกใจและมิรู้ว่าควรตอบสนองอย่างไร“อึก!”เซี่ยหลานกลืนน้ำลายโดยมิรู้ตัวเดิมทีนางคิดจะลุกขึ้น ทว่าเมื่อนึกถึงครั้งก่อนที่ฉินซูถอดอาภรณ์ของนางแต่กลับมิแตะต้องนาง นางก็โกรธขึ้นมาวันนี้ได้โอกาสดี นางจึงตัดสินใจแก้แค้นฉินซูให้สาสม ดังนั้นในฉากเร่าร้อนนี้ แทนที่นางจะถอนริมฝีปากสีแดงออกไป แต่กลับจูบเขาเข้าไปอีก!ทันใดนั้นดวงตาของฉินซูก็เบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ!เซี่ยหลานจะทำอะไร?ขณะที่เขากำลังงุนงง แขนเรียวทั้งสองข้างของเซี่ยหลานโอบรอบคอของเขาแล้ว และนางก็เบียดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างแนบแน่นหลังจากที่สัมผัสถึงความอ่อนโยนและความอบอุ่นจากร่างกายอันบอบบางของเซี่ยหลาน ฉินซูก็มิสนใจสิ่งใจอีกต่อไป เขาตอบรับด้วยการเอามือทั้งสองข้างโอบรอบเอวของเซี่ยหลานจากนั้นทั้งสองก็จูบกันอย่างเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมิอาจหยุดยั้งได้เวลาผ่านไป อาภรณ์ของทั้งคู่ก็กระจัดกระจายไปคนละทางทันใดนั้นจู่ ๆ จิตใจของเซี่ยหลานก็สั่นไหว เดิมทีนางแค่ต้องการปลุกเร้าฉินซูแล้วหนีไป และปล่อยให้เขาอารมณ์ค้างมิใช่หร

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 703

    “นึกมิถึงว่าเขาจะหนีรอดไปได้ เขาก็มีฝีมือเหมือนกันนี่ ดูท่าทางจะเตรียมการมาอย่างดีเชียว”“องค์รัชทายาท เมื่อกลับถึงหลงเฉิงแล้วเข้าเฝ้าฝ่าบาท จะทูลเรื่องที่อ๋องฉู่สมคบคิดก่อกบฏหรือไม่เพคะ?”“ทูลสิ ต้องทูลอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรามีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ยิ่งกว่านั้นการที่เขาสมคบคิดก่อกบฏก็เป็นความจริง อย่างไรก็ต้องทูล”“แต่ยามนี้อ๋องฉู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยนิสัยระแวดระวังของฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะมิทรงเชื่อพวกเราเต็มร้อยกระมังเพคะ”ฉินซูกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หลังจากเรื่องของอ๋องฉู่แดงขึ้นมา เขาก็หายตัวไป นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการหนีความผิด พวกเรากราบทูลตามความจริง บวกกับคำให้การของเหล่าคนสนิทของอ๋องฉู่และทหารห้าหมื่นนายที่ไม่มีรายชื่อในทะเบียน ก็เพียงพอที่จะตัดสินความผิดของอ๋องฉู่ได้แล้ว”“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นคนนั้น หม่อมฉันให้พวกตงฟางไป๋นำทางกลับหลงเฉิงล่วงหน้าไปแล้วเพคะ”ฉงชูโม่พูดพลางรู้สึกกระวนกระวายใจแปลก ๆจากนั้น พวกเขาก็พักค้างคืนที่เมืองหลงโย่วก่อนนอน ฉินซูสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามที่นั่นคือห้องของจีอันด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status