Share

บทที่ 101

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update Last Updated: 2024-09-23 18:00:01
ในเวลานั้นเอง สัตว์ประหลาดขนแดงได้งัดกุญแจร้านค้าออก และเดินเข้าไปอย่างอุกอาจ

มินานนัก สัตว์ประหลาดขนแดงนั้นก็ออกมาพร้อมกับกระสอบผ้าสีดำ

เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็หัวเราะเยาะ “เห็นหรือไม่ นี่มันตั้งใจมาปล้นชัด ๆ หากเป็นสัตว์ประหลาดกินเนื้อคนจริง ๆ ตอนนี้คงกินคนไปแล้ว”

ฉงชูโม่พยักหน้าช้า ๆ แววตาของนางเปลี่ยนเป็นคมกริบ!

นางจับกริชไว้แน่น แล้วพุ่งเข้าใส่สัตว์ประหลาดขนแดงอย่างรวดเร็ว

สัตว์ประหลาดขนแดงได้ยินเสียงแหวกอากาศ มันจึงหันกลับไปมองโดยมิรู้ตัว

เมื่อเห็นฉงชูโม่พุ่งเข้ามา เขาก็อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว!

ฉงชูโม่สังเกตเห็นสายตาตื่นตระหนกของอีกฝ่าย ทำให้นางเชื่อมั่นในคำพูดของฉินซูมากขึ้น

นางแค่นเสียงเย็นชา “หึ แสร้งทำเป็นผี นอนลงซะ!”

เมื่อสิ้นเสียง กริชเขี้ยวมังกรในมือของนางฟาดฟันอย่างรุนแรง!

ปราณแห่งกระบี่ที่รวดเร็วพุ่งออกมา!

“ฟึบ!”

ลูกธนูเลือดพุ่งออกมาจากน่องของสัตว์ประหลาดขนแดง และร่างของมันก็เตี้ยลงโดยมิรู้ตัว

ในเวลานี้ฉงชูโม่ได้เข้ามาใกล้แล้ว และเตะไปที่หน้าอกของมัน!

สัตว์ประหลาดขนแดงถูกเตะกระเด็นไปหลายจั้งในทันที และสุดท้ายก็ล้มลงกับพื้นหินสีเขี
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 102

    ฉินซูมือไขว้หลังเดินมาช้า ๆ เขาเหลือบมองชายวัยกลางคนและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ถ้าข้าเดามิผิด เจ้าน่าจะเป็นคนจากที่ว่าการอำเภอ ใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉงชูโม่ก็มองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยสีหน้าตกใจชายวัยกลางคนก็ตกใจมิแพ้กัน ความตื่นตระหนกวาบผ่านแววตาของเขา!เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็ยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูก!”“เจ้าเป็นคนจากที่ว่าการอำเภอจริงหรือ?!”ฉงชูโม่ใช้กริชในมือจ่อที่คอของอีกฝ่ายอีกครั้งชายวัยกลางคนตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบพยักหน้าและพูดว่า “ใช่… ใช่แล้ว”“หากเป็นเจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอ ไฉนต้องปลอมตัวเป็นสัตว์ประหลาดเพื่อทำชั่วด้วย?” เสียงของฉงชูโม่เย็นชาขึ้นอีกเล็กน้อยชายวัยกลางคนมีสีหน้าขมขื่นและพูดว่า “นี่เป็นคำสั่งของท่านผู้ว่าการอำเภอ ข้ามิกล้าขัดขืน”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ฉงชูโม่ขมวดคิ้วราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างนางหันหลังกลับและเปิดกระเป๋าผ้าสีดำที่ชายวัยกลางคนนำออกมาจากร้านค้าเมื่อเห็นว่าข้างในบรรจุผ้าไหมชั้นดี นางก็พูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าหน้าที่ชั่วคนนี้ กล้าละเมิดกฎหมาย ลุกขึ้น นำทางไป!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายวัยกลางคนถามด้ว

    Last Updated : 2024-09-23
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 103

    ในห้องโถงใหญ่ชายวัยกลางคนชื่อเหล่าไฉเห็นจูเจิ้งเสียนก็ร้องขอความช่วยเหลือทันที“ท่านผู้ว่าการอำเภอ ช่วยด้วย ช่วยข้าน้อยด้วย...”ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฉงชูโม่ก็เตะเข้าที่เข่าของเขา พร้อมกับสั่งอย่างเฉียบขาดว่า “คุกเข่าลง!”ร่างของเหล่าไฉทรุดลงและคุกเข่าลงกับพื้นจูเจิ้งเสียนมองไปที่ฉงชูโม่และฉินซู แล้วดุว่า “พวกเจ้าช่างกล้าจริง ๆ กล้าที่จะแตะต้องคนของที่ว่าการอำเภอของเรา นี่มันมิเคารพกฎหมายเลย จับพวกเขาทั้งสองคนเข้าคุกแล้วรอการพิจารณาคดีเสีย!”“ขอรับ!”พวกเจ้าหน้าที่ตอบรับ และกำลังจะลงมือใบหน้าสวยของฉงชูโม่พลันเย็นชา และตะโกนอย่างดุเดือดว่า “องค์รัชทายาทอยู่ที่นี่ ดูสิว่าใครกล้าบังอาจ!”เมื่อคำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงและแข็งค้างอยู่กับที่!มุมปากของฉินซูก็กระตุกสองสามครั้ง รู้สึกพูดมิออกจากนั้นเขาก็เริ่มบ่นในใจ‘เจ้าเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ แค่เปิดเผยตัวตนของเจ้า ผู้ว่าการอำเภอตัวเล็ก ๆ ผู้นี้ก็มิกล้าสร้างปัญหาให้เจ้าแล้ว ไยต้องเอาชื่อข้ามาอ้างด้วยเล่า?’จูเจิ้งเสียนมองฉินซูด้วยความประหลาดใจสองสามครั้ง รู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายมิได้ จากนั้นเขาก็ถามฉงชูโม่ว่า “เจ้า… เจ้าพู

    Last Updated : 2024-09-23
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 104

    จูเจิ้งเสียนอธิบายว่า “ที่สำนักขุนนางใหญ่รวบรวมเงินจำนวนมากจากทั่วทุกแห่ง ก็เพื่อเติมเต็มคลังหลวง และก็มิใช่ว่าทุกเมืองจะต้องส่งเงินมา ในปีนี้ดินแดนทางใต้ของเราประสบภัยน้ำท่วม ทางเหนือประสบภัยแล้ง มีเพียงเมืองสุยโจว เฉินหลิว และอีกมิกี่เมืองที่รอดพ้น ดังนั้น เงินที่จำเป็นสำหรับการบรรเทาทุกข์ส่วนใหญ่จึงตกอยู่กับพวกเรา”“หากพูดเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าสำนักขุนนางใหญ่ปล้นคนรวยช่วยคนจนงั้นรึ?”“องค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้ก็มิผิดพ่ะย่ะค่ะ หากมิได้รับพระบัญชาจากองค์จักรพรรดิ สำนักขุนนางใหญ่ก็คงมิกล้าเดินหมากเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูขมวดคิ้วมิพูดอะไรเขามิคิดเลยว่า การบรรเทาทุกข์จะทำให้เมืองหล่งเซียงนี้หวาดกลัวกันขนาดนี้ฉงชูโม่ถามขึ้นทันทีว่า “สำนักขุนนางใหญ่และทางจังหวัดอนุญาตให้พวกเจ้าปล้นสะดม แต่มิได้อนุญาตให้ฆ่าคนใช่หรือไม่?”“นี่… นี่…”จูเจิ้งเสียนพูดตะกุกตะกัก มิรู้จะตอบว่าอย่างไรฉินซูแค่นเสียงเย็นชา แล้วตวาดว่า “พวกเจ้าฆ่าคนไปเท่าไรแล้ว รีบสารภาพมาตามความจริงเสีย!”จูเจิ้งเสียนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “องค์รัชทายาท เรื่องนี้กระหม่อมมิทราบแน่ชัดพ่ะย่ะค่ะ บางครั้งลูกน้องลงมืออาจจะมิรู้จักป

    Last Updated : 2024-09-23
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 105

    เมื่อที่ปรึกษาหวังทราบว่าองค์รัชทายาทเสด็จมาถึงอำเภอหล่งเซียง ก็ตกใจจนตัวสั่นเขาถามด้วยความร้อนใจว่า “ใต้เท้าจู แล้วเราจะทำอย่างไรดี?”“ใคร ๆ ก็บอกว่าองค์รัชทายาทนั้นสุรุ่ยสุร่าย แต่เมื่อครู่นี้ก็ดูมิออกเลย ตอนนี้เราคงทำได้แต่ส่งคนไปแจ้งทางจังหวัดดูว่าจะมีแผนรับมืออย่างไร”เมื่อกล่าวจบ จูเจิ้งเสียนก็สั่งทันทีว่า “เจ้าจงรีบเขียนหนังสือราชการแล้วส่งคนไปให้ถึงทางจังหวัดในคืนนี้ ห้ามมีข้อผิดพลาด!”“ขอรับ ใต้เท้าจู ข้าน้อยจะจัดการเดี๋ยวนี้!”……ยามค่ำคืนภายในจวนผู้ว่าการมณฑลสุยโจวผู้ว่าการมณฑลหานไท่กำลังหลับใหลอย่างสบายทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบดังมาจากข้างนอก พร้อมกับเสียงเรียกเบา ๆ ว่า “ใต้เท้าหาน ใต้เท้าหาน…”หานไท่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นทันที เขาตะโกนออกไปอย่างโมโหว่า “ดึกดื่นป่านนี้ ใครมาส่งเสียงดังโวยวายอยู่ข้างนอก? ถ้ายังกล้าส่งเสียงอีก ข้าจะสั่งประหารเจ้าซะ!”“ใต้เท้าหาน ข้าเอง มีเรื่องเกิดขึ้นที่อำเภอหล่งเซียงขอรับ”“นายทะเบียนเฉิน? เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”“ข้าน้อยเพิ่งได้รับเอกสารจากอำเภอหล่งเซียง บอกว่าองค์รัชทายาทเสด็จไปที่นั่นโดยกะทันหัน และยังจับพวกเขาได

    Last Updated : 2024-09-24
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 106

    หานไท่ไขว้มือไว้ข้างหลัง ยิ้มอย่างดูถูกและพูดอย่างมิแยแสว่า “ถึงจะเป็นองค์รัชทายาท แต่เขาก็เป็นแค่คนไร้ค่าที่รู้จักแต่จะสนุกสนาน อีกมิกี่เดือนเขาก็จะถูกปลดแล้ว ข้าจะไปกลัวเขาหาปะไร! ยิ่งไปกว่านั้น คนที่อยู่เบื้องหลังข้าคือเสนาบดีกรมพระคลัง เสนาบดีหลินเป็นคนของท่านอ๋องฉี เมื่อมีท่านอ๋องฉีหนุนหลัง ข้าจะไปกลัวองค์รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลดด้วยเหตุใดเล่า?”จูเจิ้งเสียนตั้งใจจะเตือนอีกสักหน่อย แต่เฉินควนที่อยู่ข้าง ๆ หานไท่พูดอย่างหงุดหงิดว่า “ใต้เท้าจู เลิกโอ้เอ้ได้แล้ว ไปกันเถิด ไปที่ว่าการอำเภอของท่านก่อนค่อยว่ากัน”“ขอรับ เชิญท่านทั้งสอง!”จูเจิ้งเสียนโค้งคำนับและเดินนำไปข้างหน้าอย่างนอบน้อมเมื่อผ่านร้านสุราที่ตกแต่งอย่างหรูหรา หานไท่เงยหน้าขึ้นมองป้ายโดยมิตั้งใจ จากนั้นก็พูดอย่างครุ่นคิดว่า “ใต้เท้าจู ข้าจำได้ว่าสาวงามในหอนางโลมลี่ชุนดูเหมือนจะมิเลว ท่านไปเลือกสองสามคนมาด้วยกัน อ้อ ใช่แล้ว อย่าลืมนำสุราลืมโศกมาด้วย”“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”ประมาณสองเค่อต่อมาจูเจิ้งเสียนก็พาสตรีแต่งหน้าจัดจ้านหลายคนและไหเหล้ากลับไปที่ห้องโถงใหญ่ของที่ว่าการอำเภอ“ใต้เท้าหาน สตรีเหล่านี้เป็นสาวงามที่

    Last Updated : 2024-09-24
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 107

    “เอ่อ นี่…”จูเจิ้งเสียนมิรู้จะตอบอย่างไร จึงหันไปมองหานไท่เพื่อขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายหัวเราะแห้งแล้วกล่าวขอโทษว่า “องค์รัชทายาททรงเดินทางมาไกล คงจะเหนื่อยมาก กระหม่อมจึงถือวิสาสะหาสาวงามมาปรนนิบัติพัดวี พร้อมกับนำสุราลืมโศกมาด้วยหลายไห นี่เป็นสุราขึ้นชื่อของอำเภอหล่งเซียงของเรา องค์รัชทายาท…”เขายังพูดมิทันจบ ฉินซูก็โบกมือแล้วถามอย่างมิใส่ใจว่า “หานไท่ เจ้าคิดจะเอาสุรานารีมาเอาใจข้ารึ?”เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉินซู หานไท่ก็มิรู้จะตอบอย่างไรในทันทีเฉินควนที่อยู่ข้าง ๆ รีบอธิบายว่า “องค์รัชทายาทโปรดอย่าเข้าใจผิดำพ่ะย่ะค่ะ ใต้เท้าหานเพียงเป็นห่วงว่า องค์ชายจะทรงเหน็ดเหนื่อย จึงหาคนมาปรนนิบัติ หาได้มีเจตนาอื่นใดไม่พ่ะย่ะค่ะ”“พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท สตรีเหล่านี้มีความสามารถร้องรำทำเพลง กระหม่อมจะให้พวกนางร่ายรำให้องค์รัชทายาทได้ชมสักหน่อย”หลังจากที่หานไท่พูดจบ เขาก็ส่งสายตาไปยังหญิงงามเหล่านั้นหญิงสาวเหล่านั้นมองหน้ากัน และกำลังจะทำอะไรบางอย่างในตอนนั้น ฉงชูโม่ผู้ที่มิพูดอะไรเลย พลันได้พูดขึ้นมา!เสียงของนางเย็นชาและเยาะเย้ยว่า “ใต้เท้าหาน เหตุผลที่องค์รัชทายาทหยุดพักที่หล่งเซี

    Last Updated : 2024-09-24
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 108

    หานไท่กล่าวอย่างจริงจังว่า “องค์รัชทายาททรงรับสั่งรุนแรงเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ในเขตแดนของแคว้นต้าเหยีนของเรากำลังประสบปัญหาน้ำท่วมทางใต้และภัยแล้งทางเหนือ ราชสำนักกำลังรอเงินจากพ่อค้าข้าวและชาวบ้านเพื่อซื้อข้าวไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่พ่ะย่ะค่ะ”“เนื่องจากเวลาเร่งด่วน เราจึงต้องใช้มาตรการพิเศษบางอย่าง”“กล่าวโดยสรุป นี่ก็เพื่อราชสำนัก ชาวบ้านในอำเภอหล่งเซียงในฐานะราษฎรของแคว้นต้าเหยียน การช่วยเหลือราชสำนักก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล และเป็นเกียรติของพวกเขาด้วย”ฉินซูเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “ดีจริง ๆ เพื่อราชสำนัก ใต้เท้าหานช่างเก่งเรื่องเสียสละเพื่อคนอื่นจริง ๆ!”แววตาของหานไท่มีอาการลังเลเล็กน้อย ในใจก็คิดแผนการได้อย่างรวดเร็ว จึงกล่าวอย่างมิยอมอ่อนข้อว่า “องค์รัชทายาท สิ่งที่เกิดขึ้นในอำเภอหล่งเซียงช่วงนี้ ที่จริงแล้วสำนักขุนนางใหญ่ก็ทราบพ่ะย่ะค่ะ หากท่านต้องการสอบสวนเรื่องนี้ ก็สามารถกราบทูลองค์จักรพรรดิ ให้พระองค์ทรงตัดสินได้พ่ะย่ะค่ะ”แววตาของฉินซูเย็นชาขึ้น ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หานไท่ เจ้ากำลังจะใช้องค์จักรพรรดิมากดดันข้ารึ?”เมื่อสัมผัสกับสายตาเย็นชาของฉินซู หานไท่ก็รู

    Last Updated : 2024-09-24
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 109

    ฉงชูโม่เหลือบมองด้วยความสงสัย คิ้วเรียวของนางยิ่งขมวดแน่นขึ้นนางมิเคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า จูเจิ้งเสียน ผู้ว่าการอำเภอผู้นี้ จะมิเคารพต่อกฎหมายเช่นนี้ เขามิเพียงแต่ส่งคนไปขโมยปศุสัตว์และสัตว์ปีกของชาวบ้านในอำเภอไปขายเท่านั้น แต่ยังหลอกลวงที่ดินทำกินของชาวบ้านไปขายให้ผู้เช่าในราคาสูงอีกด้วยเงินที่ได้มา เขาแบ่งเป็นหกส่วนกับสี่ส่วน โดยสี่ส่วนจะถูกส่งไปเป็นเครื่องบรรณาการให้กับราชสำนัก ส่วนอีกหกส่วนจะถูกแบ่งระหว่างที่ว่าการอำเภอและที่ว่าการมณฑลกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ อำเภอหล่งเซียงส่งเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงให้กับราชสำนัก เมื่อรวมกับส่วนที่พวกเขาแบ่งกันแล้ว เท่ากับว่าพวกเขาขูดรีดเงินไปทั้งหมดกว่าสามแสนตำลึงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะกำกริชเขี้ยวมังกรให้แน่นยิ่งขึ้นเดิมทีชีวิตของชาวบ้านก็ลำบากมากอยู่แล้ว เหล่าขุนนางชั่วช้าเหล่านี้อ้างว่าทำเพื่อราชสำนัก แต่กลับยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง!ฉินซูตบมือนางเบา ๆ เป็นสัญญาณให้นางใจเย็นลงจากนั้นฉินซูก็โยนสมุดบัญชีลงบนโต๊ะ แล้วพูดเยาะเย้ยว่า “ใต้เท้าหาน พวกเจ้าช่างกล้าจริง ๆ เงินที่ได้มา ราชสำนักกลับได้เพียงสี่ส่วน พวกเจ้ากลับแ

    Last Updated : 2024-09-25

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 456

    ฉินซูดีดนิ้วปล่อยพลังใส่ค้างคาวเหล่านั้นร่วงลงไปที่พื้นเขาพูดอย่างมิสบอารมณ์ “แค่ค้างคาวเท่านั้นเอง กลัวปานนั้นเลยรึ?”มู่หรงจื่อเยียนมองเขาอย่างขุ่นเคือง “เป็นสตรีก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แถมที่นี่ก็ยังมืดและน่ากลัว หม่อมฉันขนลุกไปหมดแล้ว”“เจ้าขี้กลัวเช่นนี้แต่ก็ยังมากับหนานกงจื่อชินเพื่อสกัดกั้นและสังหารข้าน่ะรึ?”“ท่านเข้าใจผิดแล้ว จริง ๆ แล้วข้า… ข้าคิดจะเกลี้ยกล่อมเขามิให้ลงมือทำร้ายท่านต่างหากเล่า”ฉินซูยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจและถามหยอกเย้า “ที่หนานกงจื่อชินบอกว่าเจ้าชอบข้านั่นคงมิใช่เรื่องจริงหรอกกระมัง?”ใบหน้าที่งดงามของมู่หรงจื่อเยียนเปลี่ยนเป็นสีแดง พลางหลบเลี่ยงมิกล้าจ้องตาของฉินซูตรง ๆนางก้มหน้าขยำชายเสื้อแน่นและมิพูดอะไรเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ฉินซูก็มองความคิดของนางออกแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีอารมณ์จะมาพูดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ จึงเปลี่ยนเรื่อง “ไปเถิด หาทางออกก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง”จากนั้นเขาก็หยิบพับไฟพกพามาจากอ้อมอกพลางจุดไฟแล้วมองไปรอบ ๆ“ท่านรอหม่อมฉันด้วย!”มู่หรงจื่อเยียนตามไปด้วยสีหน้าเขินอาย จากนั้นก็กอดแขนของฉินซูอย่างแน่นหนาโดยมิเอ่ยคำอธิบา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 455

    “ยังน่ะสิ เขาสั่งให้พวกข้ามากันก่อน ทั้งยังบอกอีกว่ามียอดฝีมือคอยคุ้มกันเขาอยู่ จะมิเป็นอะไรแน่นอน...”“แย่แล้ว!!”ใบหน้าที่งดงามของกู้เสวี่ยเจี้ยนซีดลง นางทะยานขึ้นหลังม้าและควบไปทางหน้าผาที่พังทลายเมื่อเห็นสถานการณ์ เซี่ยหลานก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และคิดจะควบม้าตามไปถายเหวยที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นจึงรีบห้าม “ท่านใต้เท้าเซี่ยอย่าเพิ่งวู่วาม ยอดฝีมือท่านนั้นที่อยู่เบื้องหลังองค์รัชทายาทมีวรยุทธ์แก่กล้า มีเขาคอยคุ้มกันอยู่ องค์รัชทายาทจะมิทรงเป็นอะไรแน่นอนขอรับ”“แต่ดูกู้เสวี่ยเจี้ยนมีท่าทางรีบร้อนเช่นนั้น ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับองค์รัชทายาทแน่ ข้ามิอาจวางใจได้”“คนดีเช่นองค์รัชทายาทสวรรค์ย่อมคุ้มครอง กว่าพวกเราจะหนีพ้นมาได้นั้นมิใช่เรื่องง่าย หากท่านกลับไปอย่างเร่งรีบในตอนนี้ แล้วตกไปอยู่ในมือของปีศาจภูเขาเหล่านั้นอีกครั้ง จะมิเป็นการสร้างปัญหาให้องค์รัชทายาทหรอกหรือขอรับ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ล้มเลิกความคิดที่จะไล่ตามไป นางสวดภาวนาในใจอย่างเงียบ ๆ และหวังว่าฉินซูจะกลับมาอย่างปลอดภัยเมื่อกู้เสวี่ยเจี้ยนกลับมาที่หน้าผา นางก็ตะโกนเสียงดัง“องค์รัชทายา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 454

    หนี!ฉินซูตัดสินใจในใจทันที เขารีบทะยานออกจากป่าโดยอุ้มมู่หรงจื่อเยียนไว้ในอ้อมแขนจนเงาร่างของเขาได้กลายเป็นภาพค้างอยู่กับที่พลังยุทธ์ของสัตว์ร่างใหญ่นี้ยังมิเป็นที่ชัดเจน เขาจึงมิแน่ใจว่าจะสามารถโค่นคู่ต่อสู้ได้ในเวลาอันสั้นหากต่อสู้อย่างหุนหันพลันแล่น ยังมิต้องพูดถึงว่าตนจะเสียเปรียบหรือไม่แต่กู้เสวี่ยเจี้ยนจะต้องสังเกตเห็นพลังวรยุทธ์ของเขาแน่นอนใครจะไปรู้ว่า กู้เสวี่ยเจี้ยนจะนำเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้าโหรหลวงหรือไม่ และเขาก็มิสามารถฆ่ากู้เสวี่ยเจี้ยนได้เช่นกัน เพราะถึงอย่างไรการเป็นสามีภรรยาเพียงแค่คืนเดียว แต่ก็มีความสัมพันธ์และความรักที่ยาวนานเหมือนร้อยคืนคิดไปคิดมา การหนีถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทันทีที่ออกมาจากป่า เขาก็ตะโกนเสียงดัง “กู้เสวี่ยเจี้ยน หากสลัดพ้นแล้วจงไปเจอกันที่เชิงเขาลั่วเยี่ยน ถานเหวยและคนอื่น ๆ กำลังรออยู่ที่นั่น”เขาตะโกนเสียงดังเพื่อมิให้ปีศาจภูเขายักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขาโจมตีกู้เสวี่ยเจี้ยน จากนั้นเขาก็หันหลังกลับมาปล่อยกระแสพลังฝ่ามือสองสายใส่คู่ต่อสู้“โฮก โฮก!!”ปีศาจภูเขายักษ์คำรามสองครั้งและทำให้กระแสพลังฝ่ามือของฉินซูสลายไปได้อย่างง่ายดาย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 453

    “บุตรแห่งนักปราชญ์หนานกง เจ้ารู้หรือไม่ว่าในใต้หล้าใบนี้ใครสามารถเก็บความลับได้นานที่สุด?” ฉินซูถามกลับด้วยท่างสบาย ๆหนานกงจื่อชินโพล่งถามออกมา “ใครกัน?”คำพูดของฉินซูสั้นแต่ได้ใจความ “คนตาย!”ม่านตาของหนานกงจื่อชินหดตัวลงอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาสั่นสะท้านขึ้นมากะทันหัน และบนใบหน้าฉายแววตื่นตระหนกเขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพลางถอยหลังไปหลายก้าวโดยมิรู้ตัว“อย่า อย่าฆ่าข้านะ”ฉินซูค่อย ๆ เหยียดฝ่ามือออกพลางพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ต้องขออภัยด้วย เจ้ารู้มากเกินไปแล้ว!”สิ้นคำพูด ลมรุนแรงที่แสนบ้าคลั่งก็พัดออกมาจากฝ่ามือของเขา!หนานกงจื่อชินหวาดกลัวมากจนหันหลังวิ่งหนีไปอย่างมิลังเลเขาได้เปิดใช้งานปราณบริสุทธิ์ในร่างกายจนถึงขีดสุด และยังใช้วิชาตัวเบาขั้นสูงสุดอีกด้วย!แต่เขายังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ากระแสพลังฝ่ามืออันบ้าคลั่งที่อยู่ข้างหลังเขานั้นเหมือนกับเคียวของยมทูตที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ“ไม่!!”เสียงที่สิ้นหวังของหนานกงจื่อชินที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังหยุดลงทันที ‘พรึ่บ’ ร่างกายของเขาถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใด บุตรแห่งนักปราชญ์จากหอดารารักษ์รุ่นหนึ่งได้สลายหา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 452

    ขณะที่หนานกงจื่อชินกำลังพูด เขาก็ทะยานตามอีกฝ่ายเข้าไปในป่ามู่หรงจื่อเยียนกระทืบเท้าด้วยความร้อนใจและไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันนางก็รีบพูดโน้มน้าว “พี่จื่อชิน อย่าเลย!”หนานกงจื่อชินหันไปจ้องนางแล้วถามว่า “จื่อเยียน ท่านหมายความว่าอย่างไร?”“ข้า… ข้าก็แค่…”มู่หรงจื่อเยียนอึกอักและอธิบายเหตุผลมิได้เมื่อเห็นเช่นนั้น หนานกงจื่อชินก็โกรธและพูดพาลใส่ “ดูเหมือนว่าข้าจะเดามิผิด ท่านชอบเจ้าสวะฉินซูนั่น หนานกงจื่อชินด้อยกว่าเขาตรงไหน ท่านถึงได้เลือกเขาแทนที่จะเป็นข้า?”“ข้า… ข้ามิรู้”คำพูดของมู่หรงจื่อเยียนได้ยืนยันสิ่งที่หนานกงจื่อชินคาดเดาไว้อย่างมิต้องสงสัยเขาโกรธมากจนกำหมัดแน่นและกัดฟันดังกรอดฉินซูสับสนงุนงง เขามองไปที่มู่หรงจื่อเยียนด้วยสีหน้าตกตะลึง และในใจของเขาก็มีความประหลาดใจขึ้นมาตัวเขามีเสน่ห์ถึงเพียงนี้เลยหรือ? แม้แต่มู่หรงจื่อเยียนที่เป็นท่านหญิงจากต่างแคว้นผู้นี้ก็ยังหลงใหลในตัวเขาอย่างนั้นหรือ?ขณะนั้น หนานกงจื่อชินระงับความโกรธและพูดว่า “จื่อเยียน ท่านไปรอข้าที่ด้านนอก ขอเพียงท่านออกไปตอนนี้ ข้าก็จะทำเหมือนว่าเรื่องเมื่อครู่มิเคยเกิดขึ้น มิเช่นนั้นเมื่อก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 451

    บนหน้าผากของมันมีรูแผลขนาดเท่านิ้วมือที่มิรู้ว่าปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อไรและเลือดสีแดงในหัวของมันก็พุ่งออกมาจากรูแผลนั้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ถานเหวยก็ตกตะลึงและมิรู้ว่าใครช่วยชีวิตเขาเอาไว้ในช่วงเวลาวิกฤตินี้“ถานเหวย จะยืนตะลึงอะไรอยู่อีก รีบบังคับรถม้าพาเซี่ยหลานไปที่เนินเขาลั่วเยี่ยนทางนั้นสิ!”เมื่อได้ยินเสียงเร่งเร้าของฉินซู ถานเหวยก็ได้สติเขาพยักหน้ารัว ๆ “องค์รัชทายาทรีบขึ้นรถม้าเถิดพ่ะย่ะค่ะ เร็วเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“เจ้าพาเซี่ยหลานไปก่อน ข้ามียอดฝีมือคอยคุ้มกันอยู่ มิเป็นอะไรหรอก เจ้ารีบไปเร็วเข้า”“ข้าน้อย… เอ่อ..."ถานเหวยลังเลเมื่อฉินซูเห็นสถานการณ์ เขาก็สบถในใจ พลางเตะถานเหวยลอยเข้าไปในรถม้าแล้วฟาดแส้ที่ก้นม้า!ม้าควบออกไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเซี่ยหลานที่อยู่บนรถม้าเห็นเช่นนั้นก็เป็นกังวลมากจนเกือบจะร้องไห้ “องค์รัชทายาท ท่านรีบหนีเถิดเพคะ”“ไปรอข้าอยู่ในที่ปลอดภัย เดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้า”หลังจากที่ฉินซูพูดจบ เขาก็คว้าหอกยาวจากมือทหารแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้าเป็นครึ่งวงกลม ปราณวายุที่รุนแรงดุดันบีบบังคับให้ปีศาจภูเขาหลายตัวเหล่านั้นถอยหลังทหารเหล่านั้นถึงกับอึ้ง!องค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 450

    ก้อนหินไหลลงมาตามเชิงเขาเงาดำสูงใหญ่เดินขวักไขว่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ในป่าเนื่องจากเงาดำเหล่านี้สูงใหญ่มาก ต้นไม้จำนวนมากจึงถูกทับและล้มลงส่งผลให้ในป่าเต็มไปด้วยความสับสนอลเวง“ปีศาจภูเขา! นั่นมันปีศาจภูเขา!!”เจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอฉงซานคนหนึ่งที่อยู่ในกองกำลังขนส่งเสบียงอุทานขึ้นเมื่อเงาร่างสูงใหญ่สีดำเหล่านั้นเข้ามาใกล้ ฉินซูก็สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของพวกมันได้อย่างชัดเจน!ปีศาจภูเขาเหล่านี้มีเบ้าตาสีเข้ม คิ้วสีดำสลับขาว สันจมูกสีแดง และมีหนวดยาวที่บริเวณจมูกทั้งสองข้าง!แก้มทั้งสองข้างขาวราวหิมะ มองแวบแรกดูเหมือนใบหน้าของผีร้ายทั้งตัวของพวกมันยังถูกปกคลุมไปด้วยขนสีดำยาว แขนสองข้างหนากว่าถังน้ำ และยาวกว่าหัวเข่า รูปร่างของมันสูงใหญ่และแข็งแกร่งกว่าชิมแปนซีมากโดยเฉพาะเขี้ยวทั้งสองคู่ที่มุมปากนั้นแลดูน่าหวาดกลัวเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดขนยาวที่สูงกว่าคนสองคนยืนต่อตัวกัน ทันใดนั้น ฉินซูก็มีสีหน้ามิพอใจ!นี่พวกเจ้าเรียกเจ้ายักษ์ใหญ่พวกนี้ว่าปีศาจภูเขารึ?!เขาไม่มีเวลาพอที่จะพูดบ่น และตะโกนใส่ทหารที่กำลังหวาดกลัวเสียงดัง “ยังจะยืนตะลึงกันอยู่อีก รีบหนีไปสิ!”“คุ้ม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 449

    “แล้วหากเขามิพอใจเล่า?”“เช่นนั้นก็ต้องลงมืออย่างเด็ดขาดแล้ว อย่างไรก็ต้องพูดคำเดิม พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนก็เงียบไปพวกเขามิใช่โจรชั่วและพวกเขาก็มิเคยทำเรื่องที่ทำลายจิตสำนึกของตัวเองแต่วันนี้กลับมีคนหน้ามิอายบางคนใช้สตรี เด็กและคนชราในค่ายป้องกันมาบีบบังคับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนแต่โดยดีเมื่อหยางอวิ๋นโบกมือเป็นสัญญาณ ทุกคนก็รีบซุ่มอยู่บนเนินเขาทันทีขณะเดียวกันในป่าที่อยู่มิไกล มู่หรงจื่อเยียนกำลังรออย่างกระวนกระวายทันใดนั้น เงาร่างสีขาวก็ตกลงมาจากท้องฟ้า!นางรีบไปรับเขาแล้วถามว่า “ท่านพี่จื่อชิน เป็นอย่างไรบ้าง?”หนานกงจื่อชินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “มิต้องกังวล ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม จากนี้ไป พวกเราแค่ต้อง.ใช้กลยุทธ์ดูไฟชายฝั่งและรอโอกาสลงมือ”มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าเบา ๆ พลางมองออกไปนอกป่าด้วยความมิสบายใจไกลออกไปฉินซูที่นำอยู่ด้านหน้าขบวนก็หยุดม้ากะทันหันเมื่อเห็นสถานการณ์ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็เลิกคิ้วแล้วถามว่า “หยุดด้วยเหตุใดหรือเพคะ?”ฉินซูจ้องมองทางข้างหน้าและพูดเสียงเรียบ “ทางข้างหน้าด้านหนึ่งเป็นป่าและอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 448

    เมื่อเห็นชายหนุ่มชุดขาวขู่ว่าจะล้างบางค่ายป้องกันไป๋หยาง ชายอารมณ์ร้อนคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นทันที“ลูกพี่ พวกเราสู้กับเขาเถอะ!”“นั่นสิ พวกเรามีกันตั้งหลายร้อยคน ยังจะต้องกลัวเขาอีกรึ!”“มาช่วยกันสับมันให้สิ้นเสีย!”ทุกคนต่างออกความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้นชายหนุ่มชุดขาวมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา ขณะนั้นก็มีจิตสังหารพุ่งออกมาจากตัวเขา!เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า หยางอวิ๋นก็รีบตะโกน “พวกเจ้าทุกคนหุบปากเดี๋ยวนี้!”เขาแอบวิตกกังวลอยู่ในใจ ชายหนุ่มชุดขาวผู้นี้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับปฐพีอย่างแท้จริง หากเขาทำให้อีกฝ่ายโมโหขึ้นมา ค่ายป้องกันไป๋หยางคงจะถูกล้างบางจนนองเลือดจริง ๆคนที่ถูกเขาตวาดใส่ก็รีบปิดปากอย่างเชื่อฟังหยางอวิ๋นยกมือคำนับไปทางชายหนุ่มและถามอย่างระมัดระวัง “ท่านจอมยุทธ ข้าขอบังอาจถามว่าในเมื่อท่านมิได้คิดจะปล้นเสบียง เหตุใดท่านจึงประสงค์ให้พวกเราทำการสังหารหมู่กองกำลังขนส่งเสบียง ท่านมีความแค้นกับพวกเขาหรือ?”“เจ้านี่พูดมากนัก!”ชายหนุ่มชุดขาวชักกระบี่ออกมาอย่างเหลืออดปราณแห่งกระบี่อันเฉียบคมรุนแรงพุ่งผ่านอากาศช่วงเวลาต่อมา ก็มีเสียงกรีดร้องดังก้องในหูของหยางอวิ๋นเมื่อทุ

DMCA.com Protection Status