เว่ยซวินผายมือ “ลุกขึ้นเถอะ! เถ้าแก่ซ่ง ช่วงนี้จวี้เป่าไจมีของดีอะไรเช่นนั้นหรือ?”เถ้าแก่ซ่งรีบพูด “เรียนพระเก้าพันปี หลายวันก่อนไม่มีของอะไรน่าสนใจขอรับ แต่ว่าวันนี้ มีคนมาที่ร้าน พร้อมกับจี้หยกหนึ่งอัน บอกว่าจะขายหนึ่งแสนตำลึงขอรับ!”เมื่อเว่ยซวินได้ฟัง เขาเด้งตัวลุกขึ้นทันที “จี้หยกหนึ่งอัน ขายหนึ่งแสนตำลึงเช่นนั้นหรือ? เห็นว่าข้าเป็นคนโง่หรือ? นำออกมาเร็วเข้า ให้ข้าดูสิ ว่าเป็นจี้หยกอะไร?”เถ้าแก่ซ่งถือจี้หยกด้วยสองมือ ยื่นไปให้ พูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าน้อยก็รู้สึกแพงเหมือนกันขอรับ! ดังนั้นจึงตั้งใจจนำมาโดยเฉพาะ ให้พระเก้าพันปีดูขอรับ...”เว่ยซวินมองจี้หยก ตาโตทันทีคนอื่นไม่รู้จักจี้หยกนี้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เว่ยซวินจะไม่รู้!นี่คืออัญมณีที่ฮ่องเต้หวู่ทรงโปรดปราน ซึ่งพระราชทานให้องค์ชายสี่แล้ว!อยู่ที่นี่ได้อย่างไร?เถ้าแก่ซ่งเห็นสีหน้าของเว่ยซวินผิดปกติ จึงถามหยั่งเชิง “พระเก้าพันปี ดูเหมือนว่าจี้หยกนี้จะเป็นของราชวงศ์กระมังขอรับ?”เว่ยซวินหัวเราะในลำคอ “นี่คือจี้หยกที่ฝ่าบาทพกติดตัว เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”“ห๊ะ?”เมื่อเถ้าแก่ซ่งได้ยิน คล้ายฟ้าผ่าลงมา ตัวของเขาสั่นเทา “จี้.
“เท่า...เท่าไหร่นะ?”ซูเฟิ่งหลิงนึกสงสัยว่าตนหูฝาดทั้งที่ตนตั้งราคาหนึ่งแสนตำลึง เหตุใดอีกฝ่ายจึงจ่ายเพิ่มอีกห้าหมื่นตำลึง?ใบหน้าเถ้าแก่ซ่งเปื้อนยิ้ม “ท่านไม่ได้หูฝาดขอรับ หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง! อีกห้าหมื่นตำลึง นายท่านของข้าตั้งใจให้...”ซูเฟิ่งหลิงสมองว่างเปล่า กระทั่งได้รับตั๋วเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง ตอนเดินออกไปจากจวี้เป่าไจ นางยังคงมึนงง รู้สึกคล้ายว่าตนกำลังหลับฝันหลี่หลงหลินรอหน้าประตู รีบเดินมาหาทันที “เป็นอย่างไรบ้าง? สำเร็จหรือไม่?”ซูเฟิ่งหลิงราวกับตื่นจากฝัน ดีใจสุดขีด อ้าแขนกอดหลี่หลงหลิน “สำเร็จแล้ว! หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง! เรารวยแล้ว!”ตลาดที่ผู้คนพลุกพล่าน ชายสองคนกอดกัน กล่าวได้ว่าเป็นภาพที่น่าประหลาดผู้คนที่เดินไปมาต่างหันมามองด้วยสายตาประหลาดใจประจวบเหมาะมีคุณชายเสเพลเดินมา จำหลี่หลงหลินได้ พูดด้วยความตกตะลึง “นี่คือองค์องค์ชายเก้าไม่ใช่หรือ?”“ใช่ องค์ชายเก้า!”“ถึงว่า ช่วงนี้ไม่เจอเขาที่สำนักการสังคีต! ที่แท้ เขามีคนโปรดคนใหม่แล้วนี่เอง!”“ในที่สาธารณะ องค์ชายเก้ากอดกับบุรุษ เล่นสนุกเกินไปแล้วจริงๆ!”หลี่หลงหลินหน้าดำคล้ำเครียดซูเฟิ่งหลิง เห็นช
ภายในห้องทรงพระอักษรฮ่องเต้หวู่กำลังตำหนิขุนนางสำนักเลขาธิการ “รู้หรือยังว่าใครคือคนที่เผยแพร่ข่าวลือ บอกว่าทหารรักษาพระองค์แพ้สงคราม ทำให้ทหารของข้าจิตใจหวาดหวั่น?”เหล่าขุนนางก้มหน้าลง ไม่กล้าส่งเสียง ไม่กล้าหายใจเสียงดัง“ไม่เอาไหน!”“ไม่เอาไหนกันหมด!”“หากข่าวลือยังคงแพร่สะพัดอยู่อีก ไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมา!”ฮ่องเต้หวู่ตำหนิแท้จริงแล้ว เขาเองก็รู้ดีแก่ใจเบื้องหลังข่าวลือนี้ จารชนเผ่าหมานเป็นคนเติมเชื้อในกองเพลิงอย่างแน่นอนเวลานี้ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วแล้ว ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง อยากจะสยบข่าวลือนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้จะจับตัวคนปล่อยข่าวได้แล้ว ประหารชีวิตเขา แต่ก็เพียงระบายโทสะได้เท่านั้นถึงขั้นที่ว่าสำหรับชาวบ้านการอธิบายคือการปิดบัง การปิดบังก็คือความจริง!หากไม่ใช่เพราะทหารรักษาพระองค์แพ้สงครามจริงๆ เหตุใดราชสำนักจึงเคลื่อนไหวรุนแรง ถึงขั้นประหารคนระบายความโกรธเช่นนี้?กล่าวโดยสรุป เป็นแผนการร้ายที่ไม่อาจแก้ไขได้!เวลานี้ เว่ยซวินมาถึงห้องทระพระอักษร พูดเสียงเบา “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ทอดสายพระเนตรมองเว่ยซวิน พูด “วันนี้เป็นวันหยุดของเจ้าไม่ใช่หรือ ออ
ตึ้ง!ฮ่องเต้หวู่ตบโต๊ะอย่างแรง พระพักตร์มังกรฉายความพิโรธ “เงียบ! พวกเจ้าจะให้ข้าลงโทษผู้ที่ทำคุณงามความดีเช่นนั้นหรือ?”ทำคุณงามความดี?บรรดาขุนนางสีหน้าฉงนองค์ชายเก้าพฤติกรรมสุดโต่ง ชื่อเสียงป่นปี้ ไม่ใกล้เคียงคำว่าทำคุณงามความดีแม้แต่น้อย!ฮ่องเต้หวู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากไม่ใช่เจ้าเก้า สร้างเรื่องนี้ขึ้น! เกรงว่า ข่าวลือต้าเซี่ยแพ้สงคราม รุนแรงยิ่งกว่านี้!”“ตามคำที่กล่าวว่า สามคนกลายเป็นเสือ!”“เมือข่าวลือถูกพูดมากขึ้น เช่นนั้นก็จะกลายเป็นจริง!”“ไม่เพียงชาวบ้าน พ่อค้าได้ยินข่าวลือ ก็จะแตกตื่น ต่างหนีออกจากเมืองหลวง ลงใต้เพื่อหนีหายนะ!”“สุดท้ายแล้ว ขุนนาง รวมถึงทหาร ก็จะอยู่ในความโกลาหล ต่างพากันหลบหนี!”“ไม่ว่าเจ้าเก้าตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ”“แต่เขาสยบข่าวลือได้แล้ว ทำให้ความตึงเครียดของชาวบ้านเบาบางลง นี่ไม่ใช่เรื่องจริงหรือ?”“นี่ไม่ใช่การทำคุณงามความดีหรอกหรือ?”เหล่าขุนนางเงียบกริบ หมดคำโต้เถียงแม้จะดูเกินจริงไปเสียหน่อยแต่สิ่งที่ฮ่องเต้หวู่ตรัส ก็เป็นความจริงเทียบกับข่าวลือต้าเซี่ยแพ้สงคราม อย่างมากอง์ชายเก้าเพียงเสื่อมเสียชื่อเสีย ทำให้ราชวงศ์ขายหน้า
ลั่วอวี้จู๋คิดอ่านละเอียดรอบคอบ ครั้งนี้ตั้งใจให้หลี่หลงหลินมาแจกจ่ายเงินบำนาญข้อแรก เงินก้อนนี้หลี่หลงหลินเป็นคนหามาได้ เขาจัดการด้วยตนเองก็สมควรแล้วข้อสอง ต่อให้หลี่หลงหลินไม่ได้เรื่องเยี่ยงไร ก็คือองค์ชายเก้า ตัวแทนของฝ่าบาทหลี่หลงหลินพยักหน้า “ในเมื่อให้ข้ามาแจกจ่ายเงินบำนาญ เช่นนั้นรายละเอียดบางส่วน ข้าต้องถามให้ชัดเจน!”ลั่วอวี้จู๋รีบพูด “ย่อมเป็นเช่นนั้น”หลี่หลงหลินเอ่ยถาม “เงินบำนาญของทหารสกุลซูมากน้อยเพียงใด?”ลั่วอวี้จู๋คล่องแคล่วราวนับสมบัติในบ้านของตน เอ่ยตอบ “ยึดตามกฎหมายของต้าเซี่ย แม่ทัพคือแปดร้อยตำลึง! พลทหารหนึ่งร้อยตำลึง! ทหารม้าเจ็ดสิบตำลึง! ทหารราบห้าสิบตำลึง! หากสร้างความดีความชอบทางทหารแล้วล่ะก็ เงินบำนาญเพิ่มอีกต่างหากยี่สิบตำลึง”หลี่หลงหลินเลิกคิ้วขึ้น “ทหารสกุลซูทุกคนล้วนสร้างความดีความชอบ หากคือเจ็ดสิบตำลึงแล้วล่ะก็ นับว่าจำนวนไม่น้อย”ความยากจนมั่งคั่งในต้าเซี่ยแตกต่างกันมากนักตระกูลขุนนางสูงศักดิ์มากอำนาจ หาความสำราญในหอนางโลม ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หนึ่งคืนก็สามารถจ่ายได้ถึงหมื่นตำลึงส่วนสามัญชนในเมืองหลวง หนึ่งครอบครัวห้าคน ค่าใช้จ่ายหนึ่งเดื
สิ่งที่ลั่วอวี้จู๋พูดก็คือความจริงยุคทองของทหารสกุลซู มีทหารถึงสามหมื่นคน!นั่นก็หมายความว่า ครอบครัวของพวกเขามีมากถึงสามหมื่นครัวเรือนแม้ทุกเดือนทุกครัวเรือนใช้เพียงหนึ่งตำลึง ก็เป็นเงินถึงสามหมื่นตำลึง!แม้สกุลซูยิ่งใหญ่กิจการรุ่งเรือง ก็ไม่สามารถยับยั้งเงินไหลออกสู่ภายนอกได้!ยิ่งไปกว่านั้นหลี่หลงหลินต้องการให้เด็กกำพร้าเข้าสำนักศึกษา นี่คือค่าใช้จ่ายมหาศาลก้อนหนึ่งลั่วอวี้จู๋เคยคำนวณมาก่อน ทุกเดือนต้องแจกจ่ายมากอีกสามหมื่นตำลึง!ภายในมือหลี่หลงหลิน แม้มีเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง มากที่สุดสนับสนุนได้เพียงสามเดือนก็ใกล้หมดแล้วเมื่อนั้นจะทำเช่นไร?เงินบำนาญของราชสำนัก ไม่สามารถแจกจ่ายได้หรือปล่อยให้แม่ม่ายเด็กกำพร้าเหล่านี้ไม่มีที่ซุกหัวนอน เป็นขอทานข้างถนนอย่างนั้นรึ?หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ พูดเสียงดัง “พี่สะใภ้ใหญ่ ความนัยของข้าคือ เงินเข้าสำนักศึกษานี้ ให้พวกนางรับผิดชอบด้วยตนเอง!”ทันใดนั้น คฤหาสน์สกุลซูก็เงียบกริบสายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วน รวมอยู่ที่ตัวหลี่หลงหลิน!ถ้อยคำนี้ขององค์ชายเก้า ช่างไม่เข้าใจหัวอกคนยากไร้จริงๆ!แม่ม่ายเด็กกำพร้าเหล่านี้ หนึ่งเดือนมีเพีย
นางฉลาดมากเพียงใด บัดนี้เข้าใจแล้ว หลี่หลงหลินกำลังให้ตนเองเป็นผู้ขันอาสาหลิ่วหรูเยียนรีบก้าวออกมา “อย่างไรเสียข้าก็กำลังว่างงาน สามารถสอนพวกนางใช้เครื่องทอผ้าได้!”หลี่หลงหลินพยักหน้าแล้ว “ในเมื่อสะใภ้สี่กระตือรือร้นถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเรื่องนี้ยกให้เจ้าแล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูไม่ห้าม เห็นชัดว่าอนุญาตเงียบๆ แล้ว“ขอบพระทัยเพคะองค์ชาย...”หลิ่วหรูเยียนหน้าแดงก่ำ กล่าวขอบคุณหลี่หลงหลินเสียงแผ่วได้รับการช่วยเหลือจากหลี่หลงหลิน ความขุ่นเคืองระหว่างหลิ่วหรูเยียนและฮูหยินผู้เฒ่าซูค่อยๆ หายไป เริ่มกลมกลืนเข้ากับสกุลซูครอบครัวใหญ่นี้แล้วความกังวลของนางหมดไป ไม่ต้องหวั่นใจทั้งวี่ทั้งวัน กังวลว่าตนเองจะถูกขับไล่ออกจากบ้าน กลับไปอยู่ในหอคณิกาตกบ่อเพลิงนี้อีกครั้งไม่รู้เพราะเหตุใดหลิ่วหรูเยียนมองเห็นเงาของคุณชายสี่สกุลซูบนตัวหลี่หลงหลินครานั้นคุณชายสี่สกุลซู ช่วยตนเองออกจากบ่อเพลิง...ลั่วอวี้จู๋เริ่มแจกจ่ายเงินบำนาญของเดือนนี้ให้แม่ม่ายเด็กกำพร้าแม่ม่ายยินยอมทำงานให้สกุลซู หลังบันทึกชื่อแซ่เรียบร้อยแล้ว ก็มาพบหลิ่วหรูเยียนที่นั่น สังเกตวิธีทอผ้าของนาง เรียนวิธีใช้งานเครื่องทอผ
ระหว่างเดินทางไปพระราชวังเว่ยซวินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ภายในห้องทรงพระอักษรทั้งหมดให้หลี่หลงหลินฟังแล้วหลี่หลงหลินโมโหจนหน้าเขียว!มิใช่ขึ้งโกรธซูเฟิ่งหลิงข้อแรก ซูเฟิ่งหลิงเพียงนึกสนุก มิได้มีเจตนาร้ายข้อสอง นี่คือเรื่องเล็กน้อยของสองสามีภรรยา เกี่ยวอันใดกับขุนนางใหญ่เหล่านั้นด้วยเล่า!มากที่สุดก็แค่ส่งผลสะท้อนต่อธรรมเนียมปฏิบัติเท่านั้น!พวกขุนนางใหญ่ในสำนักเลขาธิการเหล่านั้นจับจุดอ่อนนี้ไม่ปล่อย ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องการฆ่าตนเองให้ตายกับที่กระนั้น?อันที่จริงหลี่หลงหลินเองก็เข้าใจแต่ไรมาพวกขุนนางใหญ่ไม่ปรองดองกัน ทั้งหมดล้วนวางแผนอยู่ภายในใจของตนครั้งนี้ เหตุใดพวกเขาสามัคคีกันถึงเพียงนี้ พุ่งเป้ามาที่ตนเอง?พูดตามสัตย์จริงต่อให้ตนเองปราบกบฏสร้างความดีความชอบ ได้รับคำชมเชยจากเสด็จพ่อ แต่เมื่อขัดขวางเส้นทางขององค์ชายคนอื่น นั่นก็คือขัดขวางเส้นทางของขุนนางใหญ่แล้วแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจ มักจะโหดร้ายเสมอ!ต่อให้ตนเองต้องการอยู่เพียงลำพังไม่ข้องเกี่ยวกับผู้อื่น เป็นองค์ชายเกียจคร้านเจ้าสำราญคนหนึ่ง ออกห่างจากการต่อสู้ให้ไกลนี่จะเป็นไปได้อย่างไร?ต่อ
“กางเกงยีนส์หรือ?”หลิ่วหรูเยียนจ้องมองหลี่หลงหลินอย่างลึกซึ้ง ดวงตาคู่งามฉายแววประหลาดใจนางไม่เพียงเชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งพิณ หมากกระดาน อักษรวิจิตร และกวีนิพนธ์เท่านั้น แต่ยังชำนาญในงานเย็บปัก ถือเป็นกุลสตรีมากความสามารถอย่างแท้จริงทว่าเสื้อผ้าในภาพวาดตรงหน้านี้ หลิ่วหรูเยียนกลับไม่เคยได้ยิน หรือพบเห็นที่ใดมาก่อนเลยหลี่หลงหลินแย้มยิ้ม พลางอธิบาย “กางเกงยีนส์ ที่จริงก็คือชุดทำงานชนิดหนึ่ง ทนทาน สะดวกในการทำงาน ข้าออกแบบให้สะใภ้รอง สำหรับช่างฝีมือที่เขาประจิม”หลิ่วหรูเยียนฉุกคิดขึ้นมาได้ “เช่นนั้น ข้าเข้าใจแล้ว! กางเกงยีนส์ น่าสนใจดี! ดูเหมือนจะไม่ยากนัก ข้าจะรีบออกแบบตัดเย็บให้โดยเร็ว”หลี่หลงหลินพยักหน้ารับ ก่อนหยิบแบบร่างอีกแผ่นออกมา “นี่คือกระโปรงหน้าม้า สตรีสวมใส่ยามขี่ม้า รบกวนเจ้าตัดเย็บให้ซูเฟิ่งหลิงสักชุดด้วย!”หลิ่วหรูเยียนหยิบแบบร่างขึ้นมา พินิจดูอย่างละเอียด ก่อนแย้มยิ้มงาม “ชุดนี้งดงามยิ่ง!”ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากบันได ซูเฟิ่งหลิงเดินขึ้นมา เอ่ยเสียงแง่งอน “นั่นไง! เจ้ามาหาพี่สี่อีกแล้ว!”หลี่หลงหลินยิ้มตอบ “ข้ามาขอให้พี่สี่ช่วยงานบางอย่าง เจ้ามาที่น
เว่ยซวินยืนอยู่ข้างๆ ฮ่องเต้หวู่ กางร่มบังลมหนาวและหิมะที่โปรยปราย “ฝ่าบาท กระหม่อมได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว! เพียงแต่ หากไม่สร้างเครื่องทำความร้อนใต้พื้นนี้ แล้วจะทูลรัชทายาทอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่ถอนหายใจ “เจ้าเก้ามีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ! เจ้าออกจากวังไป บอกสถานการณ์ให้เขารู้ แล้วให้เขาคิดหาวิธีเอง!”เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮองไทเฮา เป็นเรื่องใหญ่ฮ่องเต้หวู่ไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ จึงต้องให้เว่ยซวินขันทีคนสนิทไปจัดการด้วยตัวเองเว่ยซวินก้มคำนับ “กระหม่อมรับพระบัญชา!”......ตระกูลซู หอละอองฝนดอกเหมยในหอแดงเล่มแรกเสร็จสมบูรณ์แล้วหลิ่วหรูเยียนสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีขาว พิงหน้าต่าง มองทิวทัศน์หิมะบนผืนน้ำนอกหน้าต่าง ใจลอยคิดถึงเนื้อเรื่องตอนต่อไปได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นบนบันได หลิ่วหรูเยียนหันไปมอง เห็นว่าเป็นหลี่หลงหลิน ใบหน้าสวยก็ปรากฏรอยยิ้ม “รัชทายาท ท่านมาแล้ว! ข้าจะไปชงชาให้ท่าน...”ครู่ต่อมาน้ำชาร้อนๆ ถูกวางไว้ตรงหน้าหลี่หลงหลินผ่านไอน้ำที่ลอยขึ้นมา หลี่หลงหลินจ้องมองใบหน้าสวยของหลิ่วหรูเยียน ยิ้มแล้วพูดว่า “สะใภ้สี่ ต้องขอบคุณเจ้า ยอดขายหนังสือพิมพ์ต้าเซี่ย ก
เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของฮองไทเฮา ซึ่งชัดเจนว่าทรงกริ้วแล้ว หลี่เทียนฉี่ก็แอบยินดีอยู่ในใจ จึงพูดต่อว่า “ฮองเฮาหลินมีจิตใจทะเยอทะยาน ฆ่าฉินกุ้ยเฟย แล้วยังใส่ร้ายจนเสด็จแม่ของข้าถูกส่งไปยังตำหนักเย็น ต่อไปคงจะถึงคราวเสด็จย่าแล้วพะย่ะค่ะ!”ฮองไทเฮาตกพระทัยเป็นอย่างมาก “เจ้าหมายถึง ฉินกุ้ยเฟยและฮอองเฮาหลู่ ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของฮองเฮาหลินงั้นรึ? แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร! นางดูอ่อนโยนบอบบาง ไม่น่าจะใช่คนแบบนี้!”หลี่เทียนฉี่หัวเราะเยาะ “เสด็จย่า ท่านใจดีเกินไป รู้หน้าไม่รู้ใจนะพะย่ะค่ะ! ข้าได้ยินมาว่า ตอนที่ฉินกุ้ยเฟยตาย เจ้าเก้าก็อยู่ที่นั่นด้วย เห็นนางถูกเผาทั้งเป็นกับตา!”“ส่วนเสด็จแม่ของข้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถูกเจ้าเก้าใส่ร้ายป้ายสี!” “เจ้าเก้าทำเพื่อใคร?”“ก็เพื่อที่จะให้แม่แท้ๆ ของตัวเองได้เป็นฮองเฮา มีอำนาจเหนือวังหลังน่ะสิ!”“แม้แต้เว่ยซวิน ตอนนี้ก็แปรพักตร์ไปเป็นสุนัขรับใช้ของฮองเฮาหลินแล้ว!”“ในวังหลังอันกว้างใหญ่นี้ มีเพียงเสด็จย่าที่นางยังเกรงใจอยู่บ้าง!”“ดังนั้น นางถึงได้ให้เจ้าเก้าใช้อุบายสกปรก คิดจะกำจัดท่าน เพื่อที่จะได้ครองอำนาจในวังหลังแต่เพียงผู้เดียว!”เฮือ
“อีกอย่าง ข้าเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว”หลี่เทียนฉี่ดีใจในหัวใจ เจอช่องโหว่แล้ว!ทันใดนั้นเขาก็พูดอย่างมีเหตุมีผล “เสด็จย่า ท่านไม่รู้สินะ! หนังสือพิมพ์วิชาต้าเซี่ยนี้ ไม่ใช่ของดีอะไร! เจ้าเก้าเขียนเรื่องราวที่บิดเบือนใส่ร้ายบัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งชิงหลวน!”“ว่ากันว่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งโกรธจนกระอักเลือด แทบสิ้นลมหายใจ!”“บัณฑิตทั่วทั้งแผ่นดิน ต่างก็โกรธแค้น ทุกคนต่างกล่าวประณาม ต้องการให้เจ้าเก้าคืนความยุติธรรม!”ฮองไทเฮาหน้าเปลี่ยนสีด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ? บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งเป็นเจ้าสำนักของสำนักศึกษา ข้าเคยพบมาก่อน เขาเป็นผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมและปัญญา!”“เจ้าเก้าเหตุใดเขาถึง...”หลี่เทียนฉี่หัวเราะเยาะเย้ย “เสด็จย่า หากท่านไม่เชื่อ ก็ลองดูด้วยตัวเองเถอะ!”ฮองไทเฮาทรงตัวสั่นเทา มือจับแว่นสายตาเก่าแล้วสวม ก่อนหยิบหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดสีหน้าของนางเมื่ออ่านก็ดูตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จริงอยู่ บนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นเขียนเรื่องราววุ่นวายไร้สาระจนเกินเชื่อ“แต่ว่า...”“หลี่หลงหลินเป็นเด็กดีแท้ๆ!”“เมื่อเช้านี้ ฮ่
ระดับเทคโนโลยีเครื่องทำความร้อนใต้พื้นนั้นไม่ได้สูงมากนักเป็นเพียงท่อทองแดง แต่มีราคาแพงมากไม่ต้องพูดถึงชาวบ้านทั่วไป เกรงว่าแม้แต่เชื้อพระวงศ์ก็ยังไม่มีปัญญาใช้มีเพียงสถานที่อย่างพระราชวังเท่านั้นที่สามารถติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นเพื่อป้องกันความหนาวเย็นได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหลี่หลงหลินไม่ได้พูดอะไรมาก เขาจ้องมองขาเรียวเล็กและตรงของกงซูหว่านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับไปด้วยความพึงพอใจ......ตำหนักฉือหนิงองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่นำของขวัญมากมายมาเข้าเฝ้าฮองไทเฮา“เด็กดี!”“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเมืองหลวงแล้ว!”“ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว!”ฮองไทเฮาโอบกอดหลี่เทียนฉี่ไว้แน่นหลี่เทียนฉี่บีบน้ำตาออกมาสองสามหยดและพูดอย่างเสแสร้งว่า “เสด็จย่า ในตงไห่ ไม่มีวันไหนเลยที่ข้าจะไม่คิดถึงท่าน...”“กลับมาก็ดีแล้ว! กลับมาก็ดีแล้ว!”ฮองไทเฮาหลั่งน้ำตา ร้องไห้สะอึกสะอื้นหลี่เทียนฉี่เป็นบุตรชายคนโตที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทเมื่ออายุได้สามขวบ และเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของต้าเซี่ยเรียกได้ว่าเขาได้รับความรักมากมายสิ่งนี้ทำให้หลี่เทียนฉ
การกำหนดเครื่องแต่งกายให้เป็นแบบเดียวกัน ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งตัวอย่างเช่น การสวมกระโปรง ไว้ผมยาว ล้วนเป็นข้อห้ามกงซูหว่าน ในฐานะบุคคลอันดับสองของสถาบันวิจัยซีซาน กลับไม่สนใจเรื่องนี้เลย สวมชุดสีดำทั้งวัน ช่างฝีมือด้านล่างอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ละคนสวมชุดคลุมยาว นี่ไม่ใช่การเอาชีวิตของตนเองมาล้อเล่นหรอกหรือ?กงซูหว่านใจเต้นแรง แววตาเป็นประกาย “กำหนดชุดทำงาน กำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวด! รัชทายาท ความคิดของเจ้าดีมาก! แต่... ชุดทำงานที่เจ้าพูด มีลักษณะอย่างไร? ไม่ใช่กระโปรงที่สั้นกว่านี้ใช่หรือไม่?”ช่างฝีมือส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ชุดทำงานของพวกเขาพูดง่าย ทำความสะอาดให้เรียบร้อยก็พอแต่ในสถาบันวิจัย ยังมีช่างฝีมือหญิงสาวอีกส่วนหนึ่งดูท่าทางเจ้าชู้ของหลี่หลงหลิน หากออกแบบเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม ให้พวกนางสวมใส่ จะต้องอับอายขายหน้าแน่!หลี่หลงหลินกล่าวอย่างชอบธรรม “สะใภ้รอง เจ้าคิดอะไร? อะไรคือกระโปรงที่สั้นกว่านี้ ข้าลามกขนาดนั้นหรือ? ใครไม่รู้บ้างว่า ข้าหลี่หลงหลินเป็นคนซื่อตรง ไม่สนใจสตรี!”กงซูหว่านเบ้ปากเสแสร้ง เจ้าเสแสร้งทั้งนั้น!เจ้าหลอกน้องสาวข้าก็พอ หากข้าเชื่อเจ้าสักคำ ก็ไม่ใ
“ซี้ดๆ...”หลี่หลงหลินมองใต้กระโปรงดำของกงซูหว่าน น่องขาขาวดุจหยก ดวงตาเบิกกว้าง ขมุบขมิบปากอย่างอดไม่ได้เพียงน่าเสียดาย กระโปรงยังยาว ถึงเพียงหัวเข่าเท่านั้น...กงซูหว่านพบว่าหลี่หลงหลินจับจ้องขาของตนอยู่ตลอด ใบหน้าแดงเรื่อ “ท่านกำลังมองอันใด?”หลี่หลงหลินเงยหน้า เผยรอยยิ้มไร้พิษสง “ข้าคิดว่ากระโปรงของพี่สะใภ้รองยังยาวอยู่บ้าง”ยังยาว?กงซูหว่านอึ้งงันอยู่กับที่ ดวงตาสองข้างจับจ้องหลี่หลงหลิน ใบหน้าร้อนผะผ่าวตนเองดีชั่วอย่างไรก็เป็นสตรีในครอบครัวมีศีลธรรม มิใช่สตรีในโลกีย์ขายยิ้มยั่วยวนคน เผยน่องขาออกมาได้นี่ก็ถึงขีดจำกัดแล้ว หลี่หลงหลินถึงขั้นได้คืบเอาศอก ยังอยากให้กระโปรงสั้นขึ้นอีกนิด?ไร้สาระ!กงซูหว่านโมโหบ้างแล้ว สบถเสียงเย็นยามหลี่หลงหลินเป็นองค์ชาย ยังมีความเคารพตนหลายส่วน ทุกวันร้องเรียกพี่สะใภ้อย่างนั้น พี่สะใภ้อย่างนี้บัดนี้เขาเป็นรัชทายาท อุปนิสัยเจ้าชู้มักมากก็เผยออกมาแล้ว“คนลามก!”กงซูหว่านเผยสีหน้าเย็นชา สบถด่าทีหนึ่ง หันหลังจากไปหลี่หลงหลินจับข้อมือขาวนวลของกงซูหว่านไว้ ใบหน้าจริงจัง “พี่สะใภ้รอง ท่านเข้าใจความนัยข้าผิดไปแล้ว!”กงซูหว่านขมวดคิ้ว “เ
อันที่จริง หลี่หลงหลินมีความเห็นแก่ตัวไม่เพียงติดตั้งเครื่องทำความร้อนให้ไทฮองไทเฮา แต่ยังทำเพื่อมารดาของตนฮองเฮาหลินอีกด้วยขอเพียงฝ่าบาทรับปากติดตั้งเครื่องทำความร้อนให้ตำหนักฉือหนิงหลี่หลงหลินจะใช้ประโยชน์จากภารกิจนี้ ติดตั้งเครื่องทำความร้อนที่ตำหนักฉางเล่อ ขอเพียงพระมารดาตอบตกลง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอันใดอย่างไรเสียบัดนี้หลินซื่อก็ไม่ใช่สนมที่ใครก็สามารถรังแกได้อีก แต่เป็นมารดาของใต้หล้าฮองเฮาแห่งต้าเซี่ย!ฮองเฮาหลินชะงักไป เอ่ยถามอยากตกตะลึง “ฤดูร้อน? ทำได้จริงหรือ?”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินอยู่เหนือความรู้ของนางเปลี่ยนแปลงฤดูกาลเป็นฤดูร้อน นี่คือวิธีการของเซียนอย่างไม่ต้องสงสัยหลี่หลงหลินอธิบายหลักการการติดตั้งเครื่องทำความร้อนหนึ่งรอบฮองเฮาหลินตกตะลึงพรึงเพริด ส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “เจ้าพูดว่าใช้ท่อทองแดง วางไว้ใต้พื้นตำหนักฉางเล่อ? ไม่ได้ ไม่ได้! นี่ต้องจ่ายเงินมากน้อยเพียงใด? ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!”“หากมีเงินเหล่านี้ มิสู้นำไปบรรเทาทุกข์ให้ราษฎรจะดีกว่า!”“หากข้ารู้สึกหนาว สวมใส่เสื้อผ้าหนาหน่อยก็พอ หากไม่ไหวจริงๆ ก็เดินให้มากหน่อย ร่างกายก็อบอุ่นแล้ว”หลี่หลงห
“เครื่องทำความร้อน?”ฮ่องเต้หวู่ได้ยินคำศัพท์แปลกใหม่นี้ ก็ชะงักไปเล็กน้อยเจ้าเก้าเจ้าเด็กคนนี้ คิดจะเล่นพิเรนทร์อันใดอีก?หลี่หลงหลินอธิบาย “ภายในวังล้วนใช้ถ่านให้ความอบอุ่น ไม่เพียงราคาสูง อีกทั้งยังเย็น ใกล้เกินไปก็สำลักควัน ลูกอายุน้อย ยังมิอาจทนต่อควันได้ นับประสาอะไรกับเสด็จย่าเล่า?”ถ้อยวาจานี้ พูดเสียจนฮ่องเต้หวู่ใจอ่อนแท้จริงแล้ว เขาเองก็คิดว่าเผาถ่านให้ความอบอุ่น ไม่สบายอย่างมากระยะนี้ไทฮองไทเฮาไออย่างรุนแรงเคยตามหมอหลวงมาตรวจอาการ นี่เกี่ยวข้องกับผิงถ่านให้ความอบอุ่นจริงๆ เสียด้วยแต่หากไม่เผาก็จะหนาวฮ่องเต้หวู่เฟ้นหาวิธีการ กลับไม่พบวิธีที่ดีอะไรเขาเป็นลูกกตัญญูคนหนึ่ง กำลังกังวลเพราะเรื่องนี้อยู่เชียวหลี่หลงหลินคิดหาวิธีการออกแล้ว?ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า พูดอย่างแปลกใจ “ใช่ ถ่านไร้ควันทำให้สำลัก เสด็จย่าของเจ้าไออยู่ตลอด ทว่าเครื่องทำความร้อนนี้ ตกลงคืออันใด ทั้งให้ความอบอุ่น ทั้งไม่สำลัก?”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “กราบทูลเสด็จพ่อ เครื่องทำความร้อนนี้ อุ่นยิงกว่าถ่านไร้ควัน! ใช้ท่อโลหะเชื่อมต่อ ภายในมีน้ำร้อนส่งผ่านต่อเนื่องไม่หยุด!”ฮ่องเต้หวู่สงสัย “น้ำร้อน