เซียวเซวียนเช่อขมวดคิ้วแน่น มือสองข้างสั่นเทิ้ม หยิบถุงขึ้นมา เปิดออกเบาๆอาศัยแสงจันทร์บนฟ้า ยังมีแสงโคมไฟในสวนหลวง เซียวเซวียนเช่อมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในถุงได้อย่างชัดเจน รูม่านตาหดลงเหลือเท่าหัวเข็มหมุด“นี่...ก็คือน้ำตาลทรายขาวรึ?”“น้ำตาลมีสีขาวจริงรึ?”เซียวเซวียนเช่อใช้นิ้วจิ้มน้ำตาลทรายขาวเล็กน้อย แตะเข้าปากเบาๆหวาน!หวานมาก!ไม่มีสิ่งใดเจือปน ไม่มีรสชาติอื่นแต่ เซียวเซวียนเช่อกลับอยากร้องไห้แพ้อีกแล้ว!ครั้งนี้ ไม่เพียงเสียหน้าจนหมดสิ้นยังเสียม้าศึกอีกหนึ่งร้อยตัว!แม้พูดว่า ม้าศึกหนึ่งร้อยตัวเดิมทีก็ไม่เพียงพอให้พลิกสถานการณ์ของสงครามได้แต่ทั้งสองแคว้นยังอยู่ในสภาวะสงคราม ม้าศึกเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดในการวางกลยุทธ์ ราคาสูงยิ่งนัก มีเงินก็ซื้อไม่ได้!เซียวเม่ยเอ๋อร์เห็นสีหน้าผิดปกติของเซียวเซวียนเช่อ รีบหยิบขนมไหว้พระจันทร์มากัดหนึ่งคำ“.....”ทันใดนั้นเซียวเม่ยเอ๋อร์เข้าใจแล้วสนมองค์ชายเหล่านั้น มิได้แสดงละคร!รสชาติของขนมไหว้พระจันทร์นี้ แตกต่างออกไปจริงๆนั่นก็หมายความว่าองค์ชายเก้าสามารถทำน้ำตาลทรายขาวออกมาได้จริง?“น่ารังเกียจนัก!”เซียวเม่ยเ
งานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ จบลงอย่างมีความสุขหลี่หลงหลินโดดเด่น ภายในงานเลี้ยงฮองไทเฮาและฮองเฮาหลู่ พึงพอใจซูเฟิ่งหลิงมากหลังจบงานเลี้ยงหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงไปส่งหลินกุ้ยเฟยที่ตำหนักฉางเล่อ“เฟิ่งหลิง เจ้าไปสนทนากับเสด็จแม่อีกครู่หนึ่งเถอะ!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “ข้าอยากเดินเล่นภายในตำหนักฉางเล่อ เมื่อครู่กินมากไป ย่อยอาหารสักหน่อย...”เขายังไม่ลืมเรื่องหาผักกาดแดงในตำหนักฉางเล่อแม้โอกาสหาพบไม่มากแต่หากหาพบเล่า?ซูเฟิ่งหลิงอยู่ในงานเลี้ยง สนใจเพียงพูดคุยกับฮองไทเฮาและฮองเฮา มิได้สนทนากับหลินกุ้ยเฟยแม่สามีจริงนางรีบพยักหน้าพูดว่า “ได้!”ใบหน้าหลินกุ้ยเฟยประดับยิ้มเกลื่อนหน้า รีบจับมือซูเฟิ่งหลิง นั่งภายในลานบ้าน ทางหนึ่งชมจันทร์ ทางหนึ่งพูดคุยเรื่องสัพเพเหระหลี่หลงหลินถือโคมไฟ คล้ายกระรอกก็มิปาน เดินวนไปมาภายในสวนดอกไม้ของตำหนักฉางเล่อ“ไม่มีผักกาดแดง”“ดูท่าแล้วข้าคิดมากเกินไป!”หลี่หลงหลินหาอยู่นาน กลับไม่ได้รับอะไร โมโหมากภายในใจตนเองมิใช่บุตรแห่งโชคชะตาคิดสิ่งใดก็สำเร็จจริงเสียด้วย!ดูท่าแล้วครั้งก่อนสามารถหาต้นจินจี้น่าพบ ก็คือวาสนาระเบิดออกแล้ว!มน
หลี่หลงหลินเห็นหลินกุ้ยเฟยและซูเฟิ่งหลิงตกใจจนใบหน้าเผือดซีด รู้ตัวว่าตนเองเสียสติไป รีบอธิบาย “เสด็จแม่ ท่านชอบปลูกดอกไม้ที่สุด รู้จักสิ่งนี้หรือไม่?”หลินกุ้ยเฟยเดินเข้ามาเพ่งพิศอยู่นาน ตอบตามสัตย์จริง “ไม่รู้จัก!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “นี่คือของเทพจากโพ้นทะเล ชื่อว่ามันเทศ!”หลินกุ้ยเฟยขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจ “ของเทพ? หรือหลังกินเข้าไปแล้ว สามารถทำให้คนเป็นอมตะได้?”หลี่หลงหลินส่ายหน้า พูดยิ้มๆ “กลับไม่เป็นเช่นนั้น! แต่ มันสามารถทำให้บ้านเมืองกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง!”หลินกุ้ยเฟยและซูเฟิ่งหลิงได้ยิน ทันใดนั้นหันหน้ามองกันยาอายุวัฒนะทำให้คนเป็นอมตะ พวกนางเคยได้ยินมาก่อนแต่ ยาอายุวัฒนะทำให้บ้านเมืองกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง กลับไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆหลินกุ้ยเฟยถอนหายใจ หันหน้าพูดกับซูเฟิ่งหลิง “เขาเมาแล้ว! พูดเหลวไหล! ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว เจ้าส่งสามีเจ้ากลับไปเถอะ!”สามี?ซูเฟิ่งหลิงได้ยินคำเรียกขานนี้ ตกตะลึงเหม่อไปหลินกุ้ยเฟยถามอย่างแปลกใจ “มีอะไรไม่ถูกหรือ?”ฝ่าบาทพระราชทานงานสมรส วันแต่งงานก็ถูกกำหนดแล้วแม้ซูเฟิ่งหลิงยังไม่แต่งเข้าบ้าน แต่นางกำนัลขันทีล้วนเรียกนางว่าพระ
“ลูกรัก”“ดื่มเหล้าพิษจอกนี้!”“แม่ร่วมเดินสู่ยมโลกพร้อมกับเจ้า!”หลี่หลงหลินลืมตาขึ้น พบว่าตนอยู่ในชุดนักโทษ ถูกขังอยู่ในคุกที่มืดมิดหญิงงามในชุดชาววังแสนสง่า ร่ำไห้ดั่งสาลี่ต้องหยาดพิรุณ น้ำตานองหน้า มือถือจอกทอง ดวงหน้างามสะพรั่งเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวังชั่วพริบตา ความทรงจำมากมายพรั่งพรูเข้ามาในความคิด!ราชวงศ์ต้าเซี่ย ราชวงศ์หนึ่งที่ไม่มีในหน้าประวัติศาสตร์!ข้าทะลุมิติกลายมาเป็นองค์ชายเก้า!หญิงงามในชุดชาววังตรงหน้า คือมารดาของข้า พระชายาโหรวสตรีที่ฮ่องเต้หวู่ทรงโปรดปรานมากที่สุด!ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์ สมาชิกราชสกุล ร่ำรวยสมบัติวิบูลย์ทรัพย์ สระสุราเมรัยพงไพรเนื้อ หญิงงามละลานตา ช่างเป็นสิ่งที่ผู้คนเสาะแสวงเสียเนี่ยกระไร!ทว่าหลี่หลงหลินกลับไม่ดีใจแม้แต่น้อยชื่อเสียงเรียงนามขององค์ชายเก้าแย่มาก เป็นเศษสวะที่ทุกคนทราบกัน!ไม่เพียงแค่นี้เขายังทำความผิดร้ายแรง ทำให้ฮ่องเต้หวู่พิโรธ สังหารสายเลือดเพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม!เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง!ต้องเป็นความผิดบาปใดกัน ทำให้ฮ่องเต้หวู่ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อเป็นลูก จำต้องสังหารตนให้ได้?ความทรงจำของหลี่
หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปมคิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเลราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่องดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุดก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรงเหตุผลนั
เมืองหลวงจวนตระกูลซูพรึ่บ!ณ ลานกลางจวน ลำแสงสีเงินเคลื่อนผ่าน!นั่นไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นลำแสงสะท้อนจากหอกยาว!เงาตามติดการเคลื่อนไหวของหอก หอกพุ่งตัวดุจดั่งมังกร!นางสวมเสื้อเกราะ ด้านหลังมีผ้าคลุมสีแดงโบกสะบัด ไม่ได้สวมหมวกเกราะ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังมัดรวบเป็นหางม้า พริ้วไหวขึ้นลงวีรชนผู้กล้าหาญ สตรีไม่แพ้บุรุษ!สตรีผู้นั้นคือซูเฟิ่งหลิงหลานสาวแม่ทัพผู้เฒ่าซู!ตึ้ง!หอกยาวในมือซูเฟิ่งหลิงทิ่มแทงด้วยความรุนแรง เจาะทะลุหุ่นไม้ แตกเป็นเสี่ยงๆ!บนศีรษะของหุ่นไม้มีแผ่นกระดาษติดไว้ สามตัวอักษร...หลี่หลงหลิน!หญิงสาวข้างกายปรบมือ “คุณหนู วิชาหอกของคุณหนูพัฒนาขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงกำหมัดแน่น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ดวงตาหงส์น้ำตารื้น พูดด้วยความโมโห “วิชาหอกเก่งกาจ มีประโยชน์อะไร? ข้าเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารไอ้คนสารเลวหลี่หลงหลินด้วยตนเอง ไม่อาจแก้แค้นให้ตระกูลซูที่จงรักภักดีได้!”พวกสตรีได้ยินเช่นนั้น ต่างก้มหน้าลง สีหน้าฉายความโกรธเคืองตระกูลซูจงรักภักดีทุกชั่วอายุคน ภักดีต่อต้าเซี่ย!เพราะคนสารเลวหลี่หลงหลิน ทำให้ผู้ชายของตระกูลซูตายอย่างอนาถ เหลือเพียงห
“ฮูหยินผู้เฒ่า!”คนทั้งตระกูลซูพากันทำความเคารพหญิงชราแม้ซูเฟิ่งหลิงจะหยุดการกระทำของตน ทว่ายังเจ็บใจยิ่งนัก “ท่านย่า! แทงครั้งเดียว ข้าก็สังหารเจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลินได้แล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะในลำคอ “โชคดีที่ข้ามาทันเวลา หากเจ้าทำให้เว่ยกงกงบาดเจ็บ เช่นนั้นเจ้าก็เท่ากับว่าเจ้าทำความผิดร้ายแรง! ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแค่เพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูเวลาโมโหเท่านั้น แม้จะเจ็บใจ แต่นางก็ถอยไปยืนข้างๆ อย่างเชื่อฟังทว่าดวงตาหงส์คู่นั้น ยังคงจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น!เว่ยซวินดึงสติกลับมา ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วทำเคารพ “คารวะฮูหยินผู้เฒ่าซู! ไม่พบเจอกันนาน ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นเช่นไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่?”เว่ยกงกงเป็นขันทีคนโปรดของฮ่องเต้หวู่ ถูกขนานนามว่าเก้าพันปีแต่กระทั่งเก้าพันปีท่านนี้ ยังต้องทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างว่าง่าย!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้ไม่เพียงมีอำนาจในตระกูลซู แม้แต่ในราชสำนัก ก็น่าเกรงขามยิ่งนัก!ถึงอย่างไร ทหารรักษาแคว้นสิบแปดนายของตระกูลซู นางเป็นคนสอนมากับมือ!เมื่อครั้นฮ
ฮูหยินผู้เฒ่าซูอ่านจดหมายเลือดวนซ้ำหลายรอบ พูดด้วยความไม่เข้าใจ “หลี่หลงหลิน! เหตุใดท่านไม่เอาจดหมายเลือด ให้ฝ่าบาท เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง “ไม่มีใครรู้จักลูกชายดีเท่ากับบิดา! นิสัยของเสด็จพ่อ ข้ารู้จักเป็นอย่างดี! ด้วยความหวาดระแวงและดื้อรั้นของเสด็จพ่อ จะเชื่อข้าหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเงียบนางเองก็รู้ดีว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนอย่างไรตระกูลซู จงรักภักดีต่อต้าเซี่ย ปกป้องดินแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน ไม่รู้ว่ามีวิญญาณจงรักภักดีมากมายเพียงใดที่ถูกฝังในต่างแดน แต่ฮ่องเต้หวู่กลับยังคงหวาดระแวงและคอยกดตระกูลซูสถานการณ์ในราชสำนัก ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็พอได้ยินมาบ้างขุนนางฝ่ายบุ๋นรักเงินทอง ขุนนางฝ่ายบู๊รักชีวิตบวกกับฮ่องเต้หวู่ไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทนอกจากองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินที่เสเพลเกินไป ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุนขุนนางคนอื่นล้วนลอบสนับสนุนองค์ชายพระองค์ เสมือนองค์ชายทั้งเก้าในสมัยราชวงศ์ชิงช่วงชิงบัลลังก์!หลายฝ่ายในราชสำนักแก่งแย่งชิงดี โจมตีซึ่งกันและกัน จนโกลาหลเสียงร้องทุกข์ของไพร่ฟ้าท่วมท้องถนน ชีวิตลำบากข้นแค้น!เวลานี้