นี่คือมันเทศเพียงหนึ่งเดียว ล้ำค่าอย่างแท้จริง!หลี่หลงหลินมิได้ไปยังภูเขาทิศประจิม แต่ตรงไปยังพื้นที่แห่งหนึ่งบริเวณลานป่าไผ่ของพี่สะใภ้รองกงซูหว่านตอนนี้กงซูหว่านอยู่ที่สถาบันวิจัยภูเขาทิศประจิม กลับมาเป็นครั้งคราวลานป่าไผ่รกร้างอยู่บ้างฝนตกหลายครั้ง ภายในลานเต็มไปด้วยวัชพืชกงซูหว่านมีอุปนิสัยเย็นชา ชอบธรรมชาติ น่าจะไม่ต่อต้านเรื่องการใช้พื้นที่รกร้างนี้“พี่สะใภ้สาม”“นี่คือมันเทศ!”“ท่านอย่ากลืนน้ำลาย ตอนนี้ยังกินไม่ได้...”“พืชชนิดนี้ชอบความแห้งแล้งไม่ชอบน้ำ ท่านอย่ารดน้ำบ่อยไปเล่า!”“ส่วนวิธีเพาะกล้า ง่ายมาก...”หลี่หลงหลินเล่าลักษณะของมันเทศ ไปจนถึงวิธีเพาะกล้า รวมถึงเรื่องสำคัญ บอกซุนชิงไต้ทั้งหมดสำหรับเรื่องกิน แต่ไหนแต่ไรมาซุนชิงไต้จริงจังเสมอนางทำเหมือนที่ผ่านมา หยิบสมุดเล็กๆ บันทึกคำพูดของหลี่หลงหลินลงไปโดยไม่พร่องแม้คำเดียวครั้นมีเวลาว่าง ก็จะหยิบขึ้นมาท่องมิน่าเล่าซุนชิงไต้จึงเป็นหมอเทวดา!หลี่หลงหลินคิดว่าตนเองอยู่ต่อหน้านาง ก็คือนักเรียนเกียจคร้านคนหนึ่ง!มีซุนชิงไต้ช่วยเหลือ หลี่หลงหลินปลูกมันเทศได้อย่างราบรื่นช่วงกลางวัน ซุนชิงไต้ยังไปสอนที่
ซูเฟิ่งหลิงยิ้มอย่างเย็นชา “มันสำคัญกว่าการนัดหมายของเจ้ากับเซียวเซวียนเช่อในเขาทิศประจิมหรือ?”หลี่หลงหลินตะลึงงันเวรเอ๊ย!ในหัวมีแต่มันเทศจนลืมเรื่องเดิมพันของเซียวเซวียนเช่อไปแล้ว!หลี่หลงหลินถามอย่างเร่งรีบ “ยังมีเวลาอีกกี่วัน?”เสียงของซูเฟิ่งหลิงเย็นชา “พรุ่งนี้ก็เป็นวันนัดหมายที่เขาทิศประจิมแล้ว!”หลี่หลงหลินตกใจมาก “วันเดียว? ข้าลืมไปเสียสนิทเลย ไม่รู้ว่าพี่สะใภ้รองพัฒนาดินปืนเป็นอย่างไรบ้าง?”ซูเฟิ่งหลิงหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “พี่สะใภ้รองถามข้าหลายครั้งแล้ว บอกว่าหากเห็นเจ้า ก็ให้เจ้าไปที่สถาบันวิจัยในทันที! น่าเสียดายที่เจ้ามันสารเลว ทำเป็นแกล้งตาย ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไม่พบเจอผู้ใด!”หลี่หลงหลินร้อนใจแล้ว เขาลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปข้างนอกในทันที “ข้าจะไปพบพี่สะใภ้รองที่เขาทิศประจิมเดี๋ยวนี้! เจ้าอยู่ที่นี่ดูแลไร่มันเทศ อย่าได้ทำอะไรให้เกิดความเสียหายล่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาลจนกระทืบเท้านี่มันเวลาไหนแล้ว!ยังไม่ลืมเรื่องมันเทศพวกนี้อีก!เจ้าสิ่งนี้ มันมีพลังวิเศษอะไรกันแน่?ยั่วโมโหข้าให้ร้อนใจ ข้าจะทำลายไร่มันเทศของเจ้าให้หมด!ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาลอยู่ครู่หนึ่ง คว้
หลี่หลงหลินเขย่าดินโคลนและหินกรวดบนตัวเขาออกไป แล้วยื่นหัวออกจากกำแพงเตี้ยนั้นก้อนหินในที่โล่งถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ!เหลือเพียงหลุมขนาดใหญ่บนพื้น ด้านในนั้นดำมืดและมีรอยไหม้เกรียม“ดินปืนสีดำมีพลังขนาดนั้นเลยหรือ?”หลี่หลงหลินรู้สึกประหลาดใจและมีความสุขอานุภาพมันรุนแรงเช่นนี้ ก็เพียงพอใช้ประโยชน์ได้แล้วไม่ต้องเสียเวลาคิดค้นดินปืนสีเหลืองอีกต่อไป!กงซูหว่านมองไปที่หลี่หลงหลินด้วยสายตาล้ำลึก “ยังไงก็ต้องขอบคุณองค์ชายเก้าที่ให้แรงบันดาลใจกับข้า ไม่เช่นนั้น ข้าก็ไม่มีทางรู้ ดินปืนสีดำที่บรรพบุรุษคิดค้นขึ้นมานั้นน่ากลัวเพียงใด!”หลี่หลงหลินพูดด้วยความประหลาดใจ “แรงบันดาลใจหรือ?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่! น้ำตาลแดงสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลทรายขาวได้หลังผ่านการกลั่นให้มันบริสุทธิ์ ดังนั้น ข้าจึงคิดว่าดินประสิว กำมะถัน และถ่านที่ใช้ในดินปืนสีดำสามารถนำมากลั่นให้บริสุทธิ์ และเพิ่มอานุภาพได้เหมือนกันหรือไม่”“การทดสอบนี้มันสุดยอดมากๆ พลังเพิ่มขึ้นอย่างมากจริงๆ!”หลี่หลงหลินเข้าใจในทันทีคนโบราณไม่มีแนวคิดเรื่องกลั่นให้บริสุทธิ์หลังจากขุดดินประสิวและกำมะถันออกมาแล้ว ก็นำไปผสมกับถ่านตามส
กงซูหว่านมีสีหน้าสับสนล้อเล่นอะไร!เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบที่อยากจะโกหกก็โกหกได้งั้นหรือ?แม้แต่ปืนไฟที่ง่ายที่สุดก็อาจจะไม่สามารถทำได้ในคืนเดียวแต่หลี่หลงหลินกลับต้องการสร้างอาวุธปืนที่ดีกว่าปืนใหญ่หงอีในคืนเดียวอย่างนั้นหรือ?เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร?กงซูหว่านส่ายหัว “องค์ชายเก้า เจ้าอย่าล้อเล่น! นี่เป็นงานที่ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน! วิธีเดียวคือหาวิธีการปรับปรุงพื้นฐานของอาวุธปืนเดิมให้ดีขึ้น!”“แต่อานุภาพของดินปืนสีดำชนิดใหม่นี้น่าทึ่งมาก”“อาวุธปืนในอดีต เหล็กที่ใช้แย่เกินไป ไม่มีทางทนได้ ระเบิดได้ง่ายๆ!”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้รอง เจ้าวางใจเถอะ! ใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวจริงๆ ข้าสามารถสร้างอาวุธสังหารได้ร้อยชิ้นเลยล่ะ!”“...”กงซูหว่านพูดไม่ออกเลยคำพูดของหลี่หลงหลิน ยิ่งดูไร้สาระ และยิ่งเกินจริง!จะทำอาวุธสังหารหนึ่งชิ้นภายในหนึ่งคืน ช่างไร้สาระจริงๆ!อาวุธสังหารหนึ่งร้อยชิ้นหรือ? นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือ?ในฐานะลูกหลานของหลู่ปัน กงซูหว่านไม่ได้รู้สึกแปลกหน้ากับอาวุธปืนจริงๆ แล้วหลังจากที่ดินปืนสีดำตัวใหม่ทำออกมา กงซูหว่านก็เอาแต่คิดห
กงซูหว่านจ้องมองไปที่หลี่หลงหลิน แทบจะทรมานจากความโง่เขลาแล้วนางชอบคนฉลาดยอมทะเลาะกับคนฉลาด ดีกว่าพูดคุยกับคนโง่เขลาเดิมทีตามความเห็นของกงซูหว่าน หลี่หลงหลินเป็นคนที่ฉลาดมากไม่ใช่เพราะหลี่หลงหลินเป็นนักกวีแห่งต้าเซี่ยที่มีความรู้และความสามารถมากมายพูดตามตรงในใต้หล้านี้มีคนมากมายที่เขียนบทความได้!ปราชญ์มหาสำนักคนใดในสำนักฮั่นหลินที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนบ้าง?พวกเขาล้วนเป็นคนฉลาดหรือ?ไม่แน่นอน!ในความคิดของกงซูหว่าน ไม่ว่าบทความของพวกเขาจะดีแค่ไหน ไม่ว่าตำแหน่งขุนนางจะสูงแค่ไหน พวกเขาก็เป็นเพียงบัณฑิตอวดรู้!มีเพียงผู้ที่คิดค้นสร้างสรรค์ ผลักดันสังคมให้ก้าวหน้าเท่านั้น ถึงจะคู่ควรกับคำว่าฉลาดตัวอย่างเช่นหลี่หลงหลิน!กงซูหว่านชื่นชมหลี่หลงหลินมาโดยตลอด หรือกระทั่งพูดได้ว่าเลื่อมใสจนกระทั่งหลี่หลงหลินได้ก้าวเข้ามาในอาณาเขตที่นางเชี่ยวชาญที่สุด!นั่นก็คืออาวุธปืน!โดยเฉพาะปืนไร้มโนธรรมนี้ ได้ล้มล้างทัศนคติต่อโลกของกงซูหว่านไปโดยสิ้นเชิงกงซูหว่านไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าถังเหล็กธรรมดาๆ นี้จะเป็นอาวุธทรงพลังที่สามารถเอาชนะปืนใหญ่หงอีได้!กระทั่งกงซูหว่
ฮ่องเต้หวู่เพิ่งจะตื่นบรรทม เสวยพระกายหารเช้าแล้ว ก็โบกมือเรียกเว่ยซวิน “สหาย หากข้าจำไม่ผิด วันนี้เป็นวันนัดหมายระหว่างเจ้าเก้ากับเซียวเซวียนเช่อที่เขาทิศประจิมใช่หรือไม่?”เว่ยซวินยิ้มแป้น “ฝ่าบาท พระองค์ทรงมีความทรงจำที่ดีจริงๆ เช้าตรู่วันนี้ คณะทูตจากชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือกำลังมุ่งหน้าไปที่เขาทิศประจิม! นอกจากนี้ยังมีขุนนางใหญ่และผู้สูงศักดิ์จำนวนไม่น้อยก็ไปที่เขาทิศประจิมเพื่อชมความตื่นเต้นเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”“ไม่ทราบว่าฝ่าบาทอยากเสด็จหรือไม่...”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “ถ้าเจ้าเก้าชนะ! ข้าก็ต้องไปแน่! กลัวก็แต่ว่าเจ้าเก้าจะแพ้ ข้าคงจะอับอายขายหน้าไม่น้อย...”เขาอยากไปเขาทิศประจิมจริงๆ เพื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่าอาวุธปืนที่หลี่หลงหลินทำออกมานั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อคืนฮ่องเต้หวู่นอนไม่หลับ รู้สึกเหมือนมีมดไต่ไปทั่วร่างกายแต่ฮ่องเต้หวู่กลัวว่าหลี่หลงหลินจะพ่ายแพ้ให้กับ เซียวเซวียนเช่อชั่วขณะนั้นก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกฮ่องเต้หวู่มองไปที่เว่ยซวิน“จางอี้ รองผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรมาจากเขาทิศประจิม! เขาไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลยหรือ? อาวุธนี้ของเจ้าเก้าจะทำออกมาอย
ท่ามกลางฝูงชนเสนาบดีตู้เหวินยวนและเหล่าขุนนางระดับสูงก็อยู่ด้วย!พูดตามตรงนัดหมายของเขาทิศประจิมเมื่อเทพกับพลังอำนาจของต้าเซี่ยและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือขุนนางชั้นสูง พูดจาไร้สาระ เชี่ยวชาญการวิพากษ์วิจารณ์ในราชสำนักเก่ง ไม่เข้าใจเรื่องทหารเลย ไม่น่าสนใจเลยสักนิด!แต่พวกเขาก็มากันทุกคนโดยไม่ได้นัดหมายเหตุผลง่ายๆในช่วงเวลานี้ องค์ชายเก้าหลี่หลงหลินกำลังโดดเด่น จนไม่มีผู้ใดขัดขวางการก้าวหน้าของเขาได้แล้ว!กลุ่มขุนนางมากันพร้อมหน้า ไม่เพียงแต่อัครมหาเสนาบดีเท่านั้น แต่ยังมีเสนาบดีกรมต่างๆ ที่มีชื่อเสียงและปราชญ์มหาสำนักอีกหลายคน เป็นขุนนางสำคัญในสำนักเลขาธิการ เป็นผู้อยู่ใต้บัญชาของฮ่องเต้!แต่กลับถูกหลี่หลงหลินคนเดียวกดขี่อย่างรุนแรง จนแทบหายใจไม่ออก!พวกเขามาที่เขาทิศประจิมครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อให้กำลังใจหลี่หลงหลิน แต่มาเพื่อดูหลี่หลงหลินอับอายขายหน้าโดยเฉพาะ!“ฮ่องเต้เสด็จ!”เสียงแหลมคมของเว่ยซวินดังก้องไปทั่วเขาทิศประจิมทุกคนรีบคุกเข่าลงและทำความเคารพ “ฮ่องเต้ทรงพระเจริญ!”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนลุกขึ้นเถอะ! หืม? ใต้เท้าตู้ก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ? ท
เซียวเม่ยเอ๋อร์ก็คงสงสัยว่าหลี่หลงหลินใช่บุรุษหรือไม่แล้ว!เซียวเซวียนเช่อยืนขึ้น ยกมือคำนับหลี่หลงหลิน “องค์ชายเก้า! คนก็มากันเยอะพอสมควรแล้ว! เอาอาวุธปืนของเจ้าออกมาให้ทุกคนได้ดูเถอะ!”หลี่หลงหลินมองไปที่เซียวเซวียนเช่อ แล้วยิ้มบาง “ท่านราชครู เจ้าจะร้อนรนไปทำไม?”เซียวเซวียนเช่อขมวดคิ้ว “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่ายังไง?”แววตาของหลี่หลงหลินเป็นประกาย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “โรงเรียนทหารซีซาน เป็นพื้นที่หวงห้ามทางทหาร ปกติแล้ว พวกเจ้าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ แม้ว่าอยากเข้ามา ก็ยังเข้ามาไม่ได้! กว่าเจ้าจะเข้ามาได้สักครั้งหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่าข้าก็ต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับแขกผู้มาเยือน!”“อาวุธปืนเป็นอาหารจานหลัก!”“ก่อนที่อาหารจานหลักจะมา ก็ควรกินอาหารเรียกน้ำย่อยก่อน!”เซียวเซวียนเช่อตกใจ “อาหารเรียกน้ำย่อย? ทางที่ดีเจ้าควรพูดออกมาให้ชัดเจน!”หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สัญญาเขาทิศประจิม พูดตามตรง มันคือการต่อสู้ทางทหารของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! แต่มีเพียงอาวุธปืนเท่านั้นที่ด้อยกว่า! ข้าได้ยินมาว่าทหารม้าของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ใต้หล้าไม่
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ