ฮองไทเฮาเข้าใจในทันใด ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา “ที่แท้ก็เป็นขนมไหว้พระจันทร์ที่หลานสะใภ้ทำด้วยตนเอง! ถึงขั้น...ถึงขั้น....”เซียวเม่ยเอ๋อร์ยิ้มเย็น พูดประชด “พูดหนึ่งพันชมหนึ่งหมื่น ก็แค่ขนมไหว้พระจันทร์มิใช่หรือ? ราคาแพงที่สุดก็แค่ยี่สิบสามสิบตำลึง มีอะไรให้เสียดายกัน!”ฮองไทเฮาไม่สบอารมณ์ ถลึงตาใส่เซียวเม่ยเอ๋อร์หนึ่งปราด “เผ่าป่าเถื่อนก็คือเผ่าป่าเถื่อน! แม้ของขวัญเบาแต่น้ำใจหนักหลักการนี้ ก็ไม่เข้าใจหรือ?”เซียวเม่ยเอ๋อร์สำลักจนพูดไม่ออกหลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ พูดว่า “เสด็จย่า ขนมไหว้พระจันทร์นี้ไม่เพียงเป็นน้ำใจของหลานและคนสกุลซู! ยิ่งไปกว่านั้น ราคาก็ไม่ธรรมดา! ขนมไหว้พระจันทร์ทุกอันอย่างน้อยก็ต้องจ่ายหนึ่งร้อยตำลึงพ่ะย่ะค่ะ!”หนึ่งร้อยตำลึง?ทุกคนล้วนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง ใบหน้าเผยแววเหลือจะเชื่อนี่คือขนมไหว้พระจันทร์อะไร?หนึ่งอันต้องจ่ายหนึ่งร้อยตำลึง?ภายนอกมองไม่ออก หรือว่าไส้ภายในมีของดีอยู่ ซ่อนรังนกหูฉลาม ตับมังกรไขกระดูกหงส์กระนั้น?แต่ ขนมไว้พระจันทร์นี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ ต่อให้เป็นรังนกหูฉลาม ก็จ่ายเพียงสามถึงห้าตำลึงเท่านั้น!ภายในขนมไหว้พระจันทร์มิได้ห่อทองเอ
ก็เหมือนอย่างที่ฮองไทเฮาพูด ความหวานพรรค์นี้ ต่อให้เป็นฮ่องเต้หวู่ ก็เพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก!ฮองเฮาหลู่ถือขนมไหว้พระจันทร์ไว้ในมือ อุทานอย่างตกตะลึง “ขนมไหว้พระจันทร์หวานยิ่งนัก! เทียบกับขนมไหว้พระจันทร์ที่ข้าเคยกินมาก่อนเหล่านั้น อร่อยยิ่งกว่า!”คนยุคสมัยโบราณ ทั้งหมดล้วนชอบกินของหวานยิ่งหวานยิ่งดี ไม่มีวันพูดว่าเลี่ยนหลังเหล่าสนมได้กินขนมไหว้พระจันทร์แล้ว ก็ประเมินออกมาเหมือนกันทั้งหมดองค์ชายสี่หลี่จือไม่ยอมรับ เกิดความคิดอคติอยู่ภายในใจ ชิมขนมไหว้พระจันทร์หนึ่งคำสรุปว่า เขาตกตะลึงพรึงเพริดพูดไม่ออกอยู่นานมีเพียงเซียวเม่ยเอ๋อร์และเซียวเซวียนเช่อสองคน แม้แปลกใจต่อขนมไหว้พระจันทร์นี้ ตกลงรสชาติเป็นเช่นไรแต่เพื่อรักษาหน้าตา พวกเขาทั้งสองทำเพียงแสร้งหมิ่นแคลน!โดยเฉพาะเซียวเม่ยเอ๋อร์ สีหน้าหยิ่งทะนง “ขนมไหว้พระจันทร์ห่วยๆ อะไร? ข้าไม่เสียดายหรอกนะ!”ทีแรกฮองไทเฮาอยากชิมเพียงคำเดียว สรุปคือมิอาจทนไหว กินขนมไหว้พระจันทร์เข้าไปทั้งหมด นี่ถึงพูดว่า “เจ้าเก้า เหตุใดขนมไหว้พระจันทร์หวานเพียงนี้?”“ตกลงเจ้าใส่อะไรลงไปกันแน่?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ พูดว่า “เสด็จย่า อันที่จ
เซียวเซวียนเช่อขมวดคิ้วแน่น มือสองข้างสั่นเทิ้ม หยิบถุงขึ้นมา เปิดออกเบาๆอาศัยแสงจันทร์บนฟ้า ยังมีแสงโคมไฟในสวนหลวง เซียวเซวียนเช่อมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในถุงได้อย่างชัดเจน รูม่านตาหดลงเหลือเท่าหัวเข็มหมุด“นี่...ก็คือน้ำตาลทรายขาวรึ?”“น้ำตาลมีสีขาวจริงรึ?”เซียวเซวียนเช่อใช้นิ้วจิ้มน้ำตาลทรายขาวเล็กน้อย แตะเข้าปากเบาๆหวาน!หวานมาก!ไม่มีสิ่งใดเจือปน ไม่มีรสชาติอื่นแต่ เซียวเซวียนเช่อกลับอยากร้องไห้แพ้อีกแล้ว!ครั้งนี้ ไม่เพียงเสียหน้าจนหมดสิ้นยังเสียม้าศึกอีกหนึ่งร้อยตัว!แม้พูดว่า ม้าศึกหนึ่งร้อยตัวเดิมทีก็ไม่เพียงพอให้พลิกสถานการณ์ของสงครามได้แต่ทั้งสองแคว้นยังอยู่ในสภาวะสงคราม ม้าศึกเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดในการวางกลยุทธ์ ราคาสูงยิ่งนัก มีเงินก็ซื้อไม่ได้!เซียวเม่ยเอ๋อร์เห็นสีหน้าผิดปกติของเซียวเซวียนเช่อ รีบหยิบขนมไหว้พระจันทร์มากัดหนึ่งคำ“.....”ทันใดนั้นเซียวเม่ยเอ๋อร์เข้าใจแล้วสนมองค์ชายเหล่านั้น มิได้แสดงละคร!รสชาติของขนมไหว้พระจันทร์นี้ แตกต่างออกไปจริงๆนั่นก็หมายความว่าองค์ชายเก้าสามารถทำน้ำตาลทรายขาวออกมาได้จริง?“น่ารังเกียจนัก!”เซียวเม่ยเ
งานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ จบลงอย่างมีความสุขหลี่หลงหลินโดดเด่น ภายในงานเลี้ยงฮองไทเฮาและฮองเฮาหลู่ พึงพอใจซูเฟิ่งหลิงมากหลังจบงานเลี้ยงหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงไปส่งหลินกุ้ยเฟยที่ตำหนักฉางเล่อ“เฟิ่งหลิง เจ้าไปสนทนากับเสด็จแม่อีกครู่หนึ่งเถอะ!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “ข้าอยากเดินเล่นภายในตำหนักฉางเล่อ เมื่อครู่กินมากไป ย่อยอาหารสักหน่อย...”เขายังไม่ลืมเรื่องหาผักกาดแดงในตำหนักฉางเล่อแม้โอกาสหาพบไม่มากแต่หากหาพบเล่า?ซูเฟิ่งหลิงอยู่ในงานเลี้ยง สนใจเพียงพูดคุยกับฮองไทเฮาและฮองเฮา มิได้สนทนากับหลินกุ้ยเฟยแม่สามีจริงนางรีบพยักหน้าพูดว่า “ได้!”ใบหน้าหลินกุ้ยเฟยประดับยิ้มเกลื่อนหน้า รีบจับมือซูเฟิ่งหลิง นั่งภายในลานบ้าน ทางหนึ่งชมจันทร์ ทางหนึ่งพูดคุยเรื่องสัพเพเหระหลี่หลงหลินถือโคมไฟ คล้ายกระรอกก็มิปาน เดินวนไปมาภายในสวนดอกไม้ของตำหนักฉางเล่อ“ไม่มีผักกาดแดง”“ดูท่าแล้วข้าคิดมากเกินไป!”หลี่หลงหลินหาอยู่นาน กลับไม่ได้รับอะไร โมโหมากภายในใจตนเองมิใช่บุตรแห่งโชคชะตาคิดสิ่งใดก็สำเร็จจริงเสียด้วย!ดูท่าแล้วครั้งก่อนสามารถหาต้นจินจี้น่าพบ ก็คือวาสนาระเบิดออกแล้ว!มน
หลี่หลงหลินเห็นหลินกุ้ยเฟยและซูเฟิ่งหลิงตกใจจนใบหน้าเผือดซีด รู้ตัวว่าตนเองเสียสติไป รีบอธิบาย “เสด็จแม่ ท่านชอบปลูกดอกไม้ที่สุด รู้จักสิ่งนี้หรือไม่?”หลินกุ้ยเฟยเดินเข้ามาเพ่งพิศอยู่นาน ตอบตามสัตย์จริง “ไม่รู้จัก!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “นี่คือของเทพจากโพ้นทะเล ชื่อว่ามันเทศ!”หลินกุ้ยเฟยขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจ “ของเทพ? หรือหลังกินเข้าไปแล้ว สามารถทำให้คนเป็นอมตะได้?”หลี่หลงหลินส่ายหน้า พูดยิ้มๆ “กลับไม่เป็นเช่นนั้น! แต่ มันสามารถทำให้บ้านเมืองกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง!”หลินกุ้ยเฟยและซูเฟิ่งหลิงได้ยิน ทันใดนั้นหันหน้ามองกันยาอายุวัฒนะทำให้คนเป็นอมตะ พวกนางเคยได้ยินมาก่อนแต่ ยาอายุวัฒนะทำให้บ้านเมืองกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง กลับไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆหลินกุ้ยเฟยถอนหายใจ หันหน้าพูดกับซูเฟิ่งหลิง “เขาเมาแล้ว! พูดเหลวไหล! ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว เจ้าส่งสามีเจ้ากลับไปเถอะ!”สามี?ซูเฟิ่งหลิงได้ยินคำเรียกขานนี้ ตกตะลึงเหม่อไปหลินกุ้ยเฟยถามอย่างแปลกใจ “มีอะไรไม่ถูกหรือ?”ฝ่าบาทพระราชทานงานสมรส วันแต่งงานก็ถูกกำหนดแล้วแม้ซูเฟิ่งหลิงยังไม่แต่งเข้าบ้าน แต่นางกำนัลขันทีล้วนเรียกนางว่าพระ
สายตาหลี่หลงหลินจับจ้องโจ๊กในมือซูเฟิ่งหลิง พูดเสียงสั่น “เจ้าคงมิได้...เอามันเทศไปต้มโจ๊กกระมัง?”วันปกติ ล้วนเป็นหลี่หลงหลินแกล้งซูเฟิ่งหลิง นั่นนางก็หาทางทำให้อารมณ์ดีพบแล้วซูเฟิ่งหลิงเห็นท่าทางตกตะลึงพรึงเพริดของหลี่หลงหลิน ทันใดนั้นนึกสนุกขึ้นมา “ใช่แล้ว! ท่านมิใช่พูดว่า มันเทศนั้นคือยาอายุวัฒนะอะไรหรอกหรือ? ข้าช่วยท่านต้มโจ๊ก ดูๆ ท่าน ตกลงจะมีชีวิตอมตะจริงหรือไม่!”เพียะ!หลี่หลงหลินโมโหมาก ปัดโจ๊กในมือซูเฟิ่งหลิงจนตกลงพื้น ตะคอกออกมา “หญิงฟุ่มเฟือย! นั่นคือมันเทศเชียวนะ ของเทพที่สามารถช่วยราษฎร์ต้าเซี่ยได้หลายร้อยล้านคน!”“เจ้ากลับทำลายลงเช่นนี้...”ซูเฟิ่งหลิงอึ้งงันอยู่กับที่ สีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดเดิมทีนางคิดว่า เมื่อวานหลี่หลงหลินเมาสุรา พูดเหลวไหลก็เท่านั้นคิดไม่ถึงจะโกรธมากเพียงนี้!หรือว่ามันเทศนั้น จะเป็นของเทพจริง?หากเป็นก่อนหน้านี้ ซูเฟิ่งหลิงไม่มีวันเชื่อพืชที่ไม่รู้จักหนึ่งอัน สามารถช่วยชีวิตคนนับร้อยล้านได้กระนั้นรึ?นี่ไร้สาระเกินไปแล้ว!แต่ หลังผ่านหลายเรื่องไป ซูเฟิ่งหลิงก็เกิดความเชื่อใจบางอย่างต่อหลี่หลงหลิน!ต่อให้คำพูดของเขาเหลือจะเชื่อเยี่
นี่คือมันเทศเพียงหนึ่งเดียว ล้ำค่าอย่างแท้จริง!หลี่หลงหลินมิได้ไปยังภูเขาทิศประจิม แต่ตรงไปยังพื้นที่แห่งหนึ่งบริเวณลานป่าไผ่ของพี่สะใภ้รองกงซูหว่านตอนนี้กงซูหว่านอยู่ที่สถาบันวิจัยภูเขาทิศประจิม กลับมาเป็นครั้งคราวลานป่าไผ่รกร้างอยู่บ้างฝนตกหลายครั้ง ภายในลานเต็มไปด้วยวัชพืชกงซูหว่านมีอุปนิสัยเย็นชา ชอบธรรมชาติ น่าจะไม่ต่อต้านเรื่องการใช้พื้นที่รกร้างนี้“พี่สะใภ้สาม”“นี่คือมันเทศ!”“ท่านอย่ากลืนน้ำลาย ตอนนี้ยังกินไม่ได้...”“พืชชนิดนี้ชอบความแห้งแล้งไม่ชอบน้ำ ท่านอย่ารดน้ำบ่อยไปเล่า!”“ส่วนวิธีเพาะกล้า ง่ายมาก...”หลี่หลงหลินเล่าลักษณะของมันเทศ ไปจนถึงวิธีเพาะกล้า รวมถึงเรื่องสำคัญ บอกซุนชิงไต้ทั้งหมดสำหรับเรื่องกิน แต่ไหนแต่ไรมาซุนชิงไต้จริงจังเสมอนางทำเหมือนที่ผ่านมา หยิบสมุดเล็กๆ บันทึกคำพูดของหลี่หลงหลินลงไปโดยไม่พร่องแม้คำเดียวครั้นมีเวลาว่าง ก็จะหยิบขึ้นมาท่องมิน่าเล่าซุนชิงไต้จึงเป็นหมอเทวดา!หลี่หลงหลินคิดว่าตนเองอยู่ต่อหน้านาง ก็คือนักเรียนเกียจคร้านคนหนึ่ง!มีซุนชิงไต้ช่วยเหลือ หลี่หลงหลินปลูกมันเทศได้อย่างราบรื่นช่วงกลางวัน ซุนชิงไต้ยังไปสอนที่
ซูเฟิ่งหลิงยิ้มอย่างเย็นชา “มันสำคัญกว่าการนัดหมายของเจ้ากับเซียวเซวียนเช่อในเขาทิศประจิมหรือ?”หลี่หลงหลินตะลึงงันเวรเอ๊ย!ในหัวมีแต่มันเทศจนลืมเรื่องเดิมพันของเซียวเซวียนเช่อไปแล้ว!หลี่หลงหลินถามอย่างเร่งรีบ “ยังมีเวลาอีกกี่วัน?”เสียงของซูเฟิ่งหลิงเย็นชา “พรุ่งนี้ก็เป็นวันนัดหมายที่เขาทิศประจิมแล้ว!”หลี่หลงหลินตกใจมาก “วันเดียว? ข้าลืมไปเสียสนิทเลย ไม่รู้ว่าพี่สะใภ้รองพัฒนาดินปืนเป็นอย่างไรบ้าง?”ซูเฟิ่งหลิงหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “พี่สะใภ้รองถามข้าหลายครั้งแล้ว บอกว่าหากเห็นเจ้า ก็ให้เจ้าไปที่สถาบันวิจัยในทันที! น่าเสียดายที่เจ้ามันสารเลว ทำเป็นแกล้งตาย ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไม่พบเจอผู้ใด!”หลี่หลงหลินร้อนใจแล้ว เขาลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปข้างนอกในทันที “ข้าจะไปพบพี่สะใภ้รองที่เขาทิศประจิมเดี๋ยวนี้! เจ้าอยู่ที่นี่ดูแลไร่มันเทศ อย่าได้ทำอะไรให้เกิดความเสียหายล่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาลจนกระทืบเท้านี่มันเวลาไหนแล้ว!ยังไม่ลืมเรื่องมันเทศพวกนี้อีก!เจ้าสิ่งนี้ มันมีพลังวิเศษอะไรกันแน่?ยั่วโมโหข้าให้ร้อนใจ ข้าจะทำลายไร่มันเทศของเจ้าให้หมด!ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาลอยู่ครู่หนึ่ง คว้
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ