แชร์

บทที่ 568

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
ใช่

ถ่านกัมมันต์ ไม่ใช่ของที่จะทำออกมาได้ง่ายๆ

ประเด็นสำคัญมีอยู่สองข้อ หนึ่งคือสารกัมมันต์

สารกัมมันต์ที่พบบ่อยที่สุดก็คือโพแทสเซียมคลอไรด์

วิธีนี้ง่ายมาก เพียงเติมน้ำลงในขี้เถ้าไม้ที่มีโพแทสเซียมคลอไรด์อยู่ในนั้น

จากนั้น เพียงแค่บดถ่าน ผสมกับขี้เถ้าไม้ จากนั้นก็นำไปรมควัน

แต่ภาชนะที่รมควัน จะต้องไม่ให้มีอากาศ นี่คือประเด็นที่สอง

สำหรับคนโบราณ นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด!

แม้แต่เผาอิฐหรือเผาเครื่องปั้นดินเผา ก็ยังไม่สามารถแยกอากาศออกไปได้จริงๆ!

หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้นมองปล่องไฟสูงภายในสถาบันวิจัยเขาประจิมด้วยรอยยิ้ม!

เตาถลุงเหล็กที่ใช้สำหรับการผลิตเหล็กเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการรมควันถ่านกัมมันต์ไม่ใช่หรือ?

หลี่หลงหลินคิดในใจหลายครั้ง เมื่อตัดสินใจว่าไม่มีปัญหาใด ก็บอกวิธีการทำถ่านกัมมันต์ให้กับกงซูหว่าน

กงซูหว่านขมวดคิ้ว “องค์ชายเก้า ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้านะ! เดิมทีเจ้าบอกว่าเจ้าอยากจะประดิษฐ์อาวุธปืน! แต่สุดท้ายก็อยากจะทำน้ำตาล! ตอนนี้เจ้าอยากจะทำถ่านกัมมันต์อีกแล้ว!”

“เหตุใดข้าถึงได้รู้สึกว่าสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่นี่มันตรงกันข้าม...”

หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สะใภ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Prajuob Chaiprom
อ่านจบแล้วถึงจะเล่มต่อ!
goodnovel comment avatar
โอภาศ จันปา
อีกละทำไมต้องมีเรื่องอื่นมาซ้อนวะ
goodnovel comment avatar
ปิยะวัฒน์ ทันศรี
รอครับบบบบ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 569

    “วิเศษมาก!”“นี่มันคือเวทมนตร์ชัดๆ!”เมื่อเหล่าช่างฝีมือเห็นน้ำตาลทรายขาวในภาชนะก็ตกใจ แล้วร้องเฮโลขึ้นมาแววตาที่เป็นประกายลุกโชนจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างจับจ้องไปที่ตัวของหลี่หลงหลิน และมันก็เปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใส!พูดตามตรงแม้ว่าเหล่าช่างฝีมือจะได้ยินกงซูหว่านพูดว่าหลี่หลงหลินเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ เป็นผู้คิดค้นวิธีทำถลุงเหล็กกล้าด้วยเตาหลอมแต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อจนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตนเองสิ่งที่หูได้ยินอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง สิ่งที่ตาเห็นต่างหากจึงจะเป็นเรื่องจริงในขณะนี้ พวกเขาก็ได้เห็นกับตาแล้วว่าหลี่หลงหลินผลิตน้ำตาลทรายขาวได้จริงๆ และวิธีการทำก็น่าเหลือเชื่อมากสิ่งนี้ล้มล้างความรู้ความเข้าใจของช่างฝีมือทุกคนไปโดยสิ้นเชิง!กงซูหว่านกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วกลายเป็นสีขาวเล็กน้อยความตื่นเต้นภายในใจของนาง มันรุนแรงกว่าที่แสดงออกมา!“นี่คือน้ำตาลจริงๆ หรือ?”กงซูหว่านก้าวไปข้างหน้า ปลายนิ้วเรียวยาวของนางจิ้มลงบนน้ำตาลทรายขาว แล้วแลบลิ้นออกมาแล้วเลียเบาๆ“หวานมาก!”ทันใดนั้นดวงตาของกงซูหว่านก็เป็นประกาย รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงามที่เย็นชาของนางไม่มีสตรีนางไห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 570

    ซุนชิงไต้เท้าสะเอว แล้วพูดด้วยความโกรธ “ขนมไหว้พระจันทร์ไม่อร่อย! ข้าอยากไปกินของอร่อยๆ ที่หอเทียนเซียง!”หลี่หลงหลินยิ้ม “ไม่ใช่ว่าขนมไหว้พระจันทร์น้ำเชื่อมไม่อร่อย! แต่ขนมไหว้พระจันทร์ใส่น้ำตาลทรายขาวอร่อยมาก!”ซุนชิงไต้มีสีหน้าสงสัย “น้ำตาลทรายขาว? ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน!”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สะใภ้สาม เอาอย่างนี้เถอะ! เจ้าช่วยข้าทำขนมไหว้พระจันทร์ ข้าจะเลี้ยงน้ำตาลทรายขาวเจ้า!”ขณะที่พูด หลี่หลงหลินก็หยิบถุงน้ำตาลทรายขาวออกมาด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ แล้วให้ซุนชิงไต้ดู“นี่คือน้ำตาลหรือ?”เห็นได้ชัดว่าซุนชิงไต้ไม่เชื่อ นางบุ้ยปากกล่าวว่า “น้ำตาลเป็นสีแดง สีเหลือง และสีดำ! จะมีสีขาวได้อย่างไร? เจ้าต้องโกหกข้าแน่ๆ!”หลี่หลงหลินพูดอย่างจนใจ “พี่สะใภ้ นี่เป็นน้ำตาลทรายขาวจริงๆ! ถ้าไม่เชื่อก็ชิมดู!”นี่คือคำที่ซุนชิงไต้รอคอย เอื้อมมือออกไปกำน้ำตาลทรายขาวมากำใหญ่ แล้วยัดใส่ปาก“หวานมาก...”ซุนชิงไต้ไม่เคยกินอะไรที่หวานขนาดนี้ หวานกว่าน้ำผึ้งเสียอีก ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายราวกับดวงดาวเล็กๆ!“อร่อยมาก!”“ข้าอยากกินอีก!”ซุนชิงไต้แลบลิ้นเล็กๆ ของนางออกมา เลียน้ำตา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 571

    ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวที่หวานจนฟันแทบหลุด แม้ตาคนในราชวงศ์ก็ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน! เมื่อเปรียบเทียบกับผงปรุงรสไก่แล้ว น้ำตาลในสมัยโบราณคืออาวุธลับที่มีพลังการทำลายล้างสูง สามารถพิชิตใจคนทุกคนได้! ในเวลานั้นเป็นช่วงพลบค่ำแล้ว ซูเฟิ่งหลิงขี่ม้าคู่ใจกลับจากการฝึกทหารที่ภูเขาทิศประจิม มาถึงจวนตระกูลซู ทันทีที่นางผูกม้าเสร็จ ก็ได้กลิ่นหอมหวานลอยมาจากในครัว เมื่อตามกลิ่นไปก็ได้เจอกับ “อะไรเนี่ย ทำไมหอมหวานจัง?” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์! ข้าให้พี่สะใภ้สามช่วยทำขนมไหว้พระจันทร์ เจ้าลองชิมดูสักชิ้นสิ!” ซูเฟิ่งหลิงท่าทางหยิ่งยโส “ขนมไหว้พระจันทร์จะอร่อยขนาดไหนกัน! ทั้งแพงทั้งเปรี้ยว...” “เปรี้ยว?” หลี่หลงหลินประหลาดใจ “เจ้าไปกินขนมไหว้พระจันทร์ที่ไหนมา?” ซูเฟิ่งหลิงตอบ “ก็ขนมไหว้พระจันทร์ผลไม้ไง! หอซิ่งฮวาก็มีขายอยู่ ขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นหนึ่งตั้งครึ่งพวงเงินเชียวนะ!” หลี่หลงหลินตกใจ แพงขนาดนั้นเลยหรือ? หนึ่งตำลึงเงินมีค่าเท่าหนึ่งพวงเงิน ขนมไหว้พระจันทร์หนึ่งชิ้นถึงกับต้องใช้ครึ่งตำลึงเงิน นี่แค่ขนมไหว้พระจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 572

    เมื่อซุนชิงไต้ได้ยินว่าพรุ่งนี้จะมีขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวให้กินอีก ก็ยิ้มจนหน้าบานทันที “ตกลง!” นางยอมแบ่งขนมไหว้พระจันทร์ที่เหลือออกมา มอบให้กับฮูหยินผู้เฒ่าซู รวมถึงลั่วอวี้จู๋และหลิ่วหรูเยียน ส่วนกงซูหว่านกำลังยุ่งอยู่ที่สถาบันวิจัยภูเขาทิศประจิม ถึงแม้ในวันไหว้พระจันทร์นางก็ยังต้องทำงานล่วงเวลา จึงไม่ได้ลิ้มรสขนมไว้พระจันทร์นี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะที่สถาบันมีน้ำตาลทรายขาวอยู่ กงซูหว่านจึงไม่ค่อยตื่นเต้นนัก หลังจากลั่วอวี้จู๋และหลิ่วหรูเยียนได้ลิ้มรสขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวแล้ว พวกนางต่างก็ทึ่ง หลิ่วหรูเยียนพูดด้วยความตกใจ “ข้าเคยคิดว่าขนมของสำนักการสังคีตนั้นประณีตมากแล้ว! แต่เมื่อเทียบกับขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวนี่ มันยังห่างชั้นนัก!” ลั่วอวี้จู๋ก็พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ใช่เลย! ตอนที่ข้าอยู่เจียงหนานก็ไม่เคยได้กินขนมรสเลิศเช่นนี้! ถ้านำออกไปขาย ต้องทำเงินได้มหาศาลแน่!” หลี่หลงหลินยิ้ม พร้อมเอ่ยชมเชย “พี่สะใภ้ใหญ่นี่ช่างมีหัวการค้าจริง ๆ! แต่ว่านะ แม้สุราจะหอมแค่ไหนก็ยังกลัวซอยลึก ยังต้องทำการตลาดให้ดีถึงจะได้!” ลั่วอวี้จู๋อึ้งไป “ทำการตลาด?”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 573

    หลี่หลงหลินพยายามหาคำพูดอยู่นาน จู่ ๆ ดวงตาก็เปล่งประกาย “เพราะพรุ่งนี้ในวังจะมีงานเลี้ยงครอบครัว! เจ้าคือพระชายา ย่อมต้องไปเข้าร่วม!” ซูเฟิ่งหลิงมุ่ยปาก “อย่ามาโกหกข้า! งานเลี้ยงครอบครัวน่ะจัดตอนกลางคืน ที่ชมจันทร์ไปพลาง รวมญาติไปพลาง การทำขนมไหว้พระจันทร์ทำตอนกลางวันได้ ไม่ต้องรอถึงเวลานั้นเลย!” หลี่หลงหลินถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เด็กโง่คนนี้ ทำไมถึงเริ่มฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ถึงขั้นจับได้ว่าข้าโกหก! หลี่หลงหลินสูดลมหายใจลึก และตัดสินใจใช้ไม้ตาย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “งานเลี้ยงครอบครัวจัดตอนกลางคืนก็จริง! แต่ถ้าข้าคาดไม่ผิด องค์หญิงของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือกับราชครูเกรงว่าจะมาร่วมงานด้วย!” เมื่อซูเฟิ่งหลิงได้ยินก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที และหายใจเร็วขึ้น “จริงหรือ? แต่งานเลี้ยงครอบครัวในวันไหว้พระจันทร์ พวกเขาเป็นคนนอก จะมาทำไม?” หลี่หลงหลินยิ้มเจื่อนๆ “ก็เพราะชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือต้องการสานสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานไงเล่า! และเซียวเม่ยเอ๋อร์เองก็วางแผนที่จะเลือกคู่ครองหลังจากเหล่าองค์ชายได้เลือกไปแล้ว หรือก็คือว่า แม้จะยังไม่ได้ตกลงกันจริงจัง แต่เซียวเม่ยเอ๋อร์ก็ไม่ถ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 574

    ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า "ได้! พรุ่งนี้ข้าจะไปหาพี่สะใภ้สี่..." แต่หลี่หลงหลินส่ายหัว ก่อนจะกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของซูเฟิ่งหลิงว่า ซูเฟิ่งหลิงฟังแล้วก็ยิ่งตกตะลึง "องค์ชายเก้า ท่านคิดจะทำเช่นนั้นจริง ๆ หรือ? จะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ? ถ้าฝ่าบาททรงกริ้วขึ้นมา..." หลี่หลงหลินหัวเราะเบา ๆ "วางใจเถอะ! ข้ารู้ใจเสด็จพ่อดี เจ้าทำตามที่ข้าบอก ไม่เพียงแต่จะไม่มีใครตำหนิเจ้า แต่เจ้ายังโดดเด่นจนทุกคนต้องตะลึงด้วย!" ประกายแห่งความมั่นใจฉายวาบในแววตาของซูเฟิ่งหลิง "ตกลง!" รุ่งเช้า ในวันไหว้พระจันทร์ ทั่วทั้งพระราชวังถูกประดับประดาโคมไฟผ้าสีไว้อย่างงดงาม บรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริง เมื่อยามราตรีมาถึง พระจันทร์ดวงกลมโตเปล่งแสงกระจ่าง ทอประกายอยู่บนฟากฟ้าสีคราม ในสวนหลวง งานเลี้ยงครอบครัวของราชวงศ์กำลังดำเนินไป โดยมีไทฮองไทเฮาประทับนั่งอยู่ตรงกลาง และมีฮ่องเต้หวู่และฮองเฮาหลู่นั่งอยู่ทั้งสองข้าง เหล่าบรรดาองค์ชายและสนมต่างประทับเรียงรายกันไป ชมจันทร์ไปพลาง พูดคุยกันไปพลาง ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นใจจริงๆ แต่แล้ว เสียงแปลกแยกก็ดังขึ้น องค์ชายสี่หลี่จือกวาดสายตามองรอบ ๆ ก่อนจะ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 575

    โดยเฉพาะเซียวเม่ยเอ๋อร์ ที่สวมใส่เครื่องประดับทั้งทองเงิน พร้อมชุดกระโปรงอันหรูหรา สวยงามราวกับเทพธิดา ใบหน้างดงามราวกับจะล่มเมือง เมื่อปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนก็ดึงดูดสายตาของทุกคนไปได้ทันที! เหล่าองค์ชายต่างตะลึงจนตาแทบถลนออกมา! หลี่จือกลืนน้ำลายไม่หยุด และเอ่ยขึ้นด้วยความอยากได้ว่า “องค์หญิงเผ่าชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนี่ช่างงดงามราวกับเทพธิดา! หากได้ใช้คืนแห่งความสุขร่วมกับนางสักคืน ข้าคงตายตาหลับ!” เซียวเม่ยเอ๋อร์จับชายกระโปรงที่ประดับประดาอย่างวิจิตรบรรจง ย่างเท้าอย่างอ่อนช้อย แผ่วเบา เดินมาเบื้องหน้าไทฮองไทเฮา เอ่ยเรียกเสียงหวาน “เสด็จย่าเพคะ!” เสียงนั้นหวานจับใจจนกระดูกแทบจะละลาย! แต่ไทฮองไทเฮากลับมีสีหน้าไม่พอใจ เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ฝ่าบาท! งานเลี้ยงในครอบครัวเช่นนี้ ไฉนมีพวกชาวหมานมาอยู่ที่นี่ได้?” แม้ไทฮองไทเฮาจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังแยกแยะถูกผิดได้อย่างชัดเจน เผ่าชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้เข้ายึดครองดินแดน ฆ่าประชาชนของเรา ความเกลียดชังนองเลือดนี้ ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันได้! แม้ผู้อื่นจะต้องเสแสร้งทำเป็นสนิทสนมกับเซียวเม่ยเอ๋อร์ด้วยสถานะทูต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 576

    “มาแล้ว!” แววตาของเซียวเม่ยเอ๋อร์ฉายแสงแหลมคม งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ครั้งนี้ ทำไมตอนเซียวเม่ยเอ๋อร์มาถึงต้องแสดงตัวอย่างโอ่อ่า สวยสง่าเหนือคนทั้งปวง ไม่หวั่นเกรงที่จะทำให้บรรดาสาวงามสามพันนางในวังโกรธเคือง? เหตุผลนั้นง่ายมาก! ข้าเลือกเจ้าหลี่หลงหลินให้เป็นราชบุตรเขยของข้า แต่เจ้ากลับไม่ยินยอม อีกทั้งยังพูดคำพูดที่ไม่สมควร! เรื่องนี้เล่าลือกันไปทั่วเมืองหลวง ทุกตรอกซอกซอย ไม่มีใครไม่รู้! ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าชาวเผ่าชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนืออย่างแรง! ความโกรธนี้เซียวเม่ยเอ๋อร์จะยอมกล้ำกลืนได้อย่างไร? วันนี้ เซียวเม่ยเอ๋อร์ตั้งใจจะมาป่วนงาน! นางต้องการให้ทั้งใต้หล้ารู้ว่าองค์หญิงเช่นนางหมายตาเจ้าหลี่หลงหลิน เจ้าทำบุญแปดชาติก็ไม่โชคดีเช่นนี้! ผู้หญิงทั้งต้าเซี่ยล้วนไม่สามารถเทียบเทียมองค์หญิงเช่นนางได้! โดยเฉพาะนางซูเฟิ่งหลิง! นางเป็นใครกัน! แค่แม่เสือโคร่งคนหนึ่ง เป็นเพียงสิงโตเหอตงเท่านั้น! เจ้ายอมปฏิเสธตำแหน่งราชบุตรเขยของข้าเพราะผู้หญิงคนหนึ่งเช่นนั้นเนี่ยนะ! เจ้าตาบอดหรืออย่างไร! “หลี่หลงหลิน!” “ศักดิ์ศรีที่ชาวชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเสีย

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1060

    คนคำนวณ มิอาจสู้ฟ้าลิขิต องค์รัชทายาทก่อกบฏ เป็นเรื่องร้ายแรง ด้วยเหตุบังเอิญหลายประการ แผนการกบฏของหลี่เทียนฉี่ล้มเหลว เสิ่นชิงโจวในฐานะราชครู เป็นอาจารย์ของหลี่เทียนฉี่ ย่อมได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เสิ่นชิงโจวเตรียมการไว้ ใช้ทรัพยากรมหาศาล ไม่เพียงแต่รักษาชีวิตตนเอง ยังรักษาชีวิตหลี่เทียนฉี่ และฮองเฮาหลู่พระมารดาเอาไว้ได้ และจากเหตุการณ์นี้เอง... ความผิดหวังของเสิ่นชิงโจวที่มีต่อฮ่องเต้หวู่ ก็ถึงขีดสุด มีข่าวลือว่า ฮ่องเต้หวู่ทรงเย็นชา ไร้หัวใจ เหลวไหล! ผู้เป็นจักรพรรดิ ต้องเด็ดขาด ฮ่องเต้หวู่ทรงมีพระทัยอ่อนโยน เป็นคนดี แต่ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่ดี! ทว่า... เสิ่นชิงโจวไม่คาดคิดว่า ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในคุกหลวง นิสัยของฮ่องเต้หวู่ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป เป็นแข็งกร้าวขึ้นกว่าเดิม? ต้องรู้ว่า... ก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้หวู่มีความเคารพตนอย่างมาก ไม่มีทางตะโกนใส่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตำหนิต่อหน้าธารกำนัล ให้ตนเองหุบปากด้วย สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก ฮ่องเต้หวู่อายุมากแล้ว นิสัยไม่อาจเปลี่ยนได้ในทันที นี่มันตะวันขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ? “กระหม่อม ขอถวายบังคมฝ่าบาท!”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1059

    เสิ่นชิงโจวสองมือไพล่หลัง ท่าทางหยิ่งผยอง พยักหน้าเล็กน้อย ถือว่าเป็นการตอบรับ สมกับเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้! สง่าผ่าเผย! ประชาชนนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกทึ่งในใจ หลี่เทียนฉี่และกลุ่มข้าราชการ ก็มีสีหน้าฮึกเหิม ข้าราชการหลายคนยังคงกังวล เสิ่นชิงโจวถูกขังอยู่ในคุกหลวงเป็นเวลานาน ไม่มีข่าวคราว ถึงจะไม่ตาย ก็อาจจะถูกทรมานจนปางตาย ไร้ซึ่งความเฉียบคม ไม่อาจใช้งานได้ วันนี้ได้เห็น เสิ่นชิงโจวที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เพียงแต่มีอารมณ์แจ่มใส แต่ยังคงไว้ซึ่งความหยิ่งทระนง องค์รัชทายาท คราวนี้ ท่านเดินหมากพลาดแล้ว! ท่านจัดการฉินฮั่นหยางและคนอื่นๆ ก็ยังพอมีหวังอยู่บ้าง แต่ท่านกลับให้อาจารย์ของฮ่องเต้ออกจากคุกมาด้วย? ศึกนี้ ท่านแพ้แน่นอน! “หึหึ...” หลี่หลงหลินเผชิญหน้ากับข้อสงสัย ก็หัวเราะเยาะในใจ เสิ่นชิงโจว เจ้าแสร้งทำตัวเป็นผู้สูงส่งเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีน่าเกรงขาม ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจได้จริงๆ! ทุกสิ่งมีราคา เจ้าโอหัง ไม่เห็นใครในสายตา ราคาของมันคืออะไร? หลี่หลงหลินเงยหน้า มองฮ่องเต้หวู่ เป็นไปตามคาด สีหน้าของฮ่องเต้หวู่ มืดครึ้มราวกับฝน ในดวงต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1058

    บนลานหยกขาว เกิดความโกลาหล ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึง มองหลี่หลงหลินอย่างประหลาดใจ เจ้าเก้าจะไต่สวนบัณฑิตสิบคนที่นำโดยฉินฮั่นหยางนั้น ยังอยู่ในการคาดการณ์ของฮ่องเต้หวู่ แต่คาดไม่ถึงว่า... บัณฑิตสิบคนยังไม่พอ หลี่หลงหลินยังจะเพิ่มเสิ่นชิงโจว อาจารย์ของฮ่องเต้เข้ามาอีกคน? เขาละโมบเกินไปแล้ว! ต้องรู้ว่า... อาจารย์ของฮ่องเต้ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ แม้ว่าเสิ่นชิงโจวจะถูกจับเข้าคุกหลวงเพราะข้อหากบฏ แต่เพราะไม่มีหลักฐาน จะไต่สวนก็ไม่ได้ จะปล่อยก็ไม่ได้ ทำได้เพียงขังไว้! ฮ่องเต้หวู่สีหน้าลังเล มองหลี่หลงหลิน: “เจ้าเก้า เจ้าต้องการไต่สวนเสิ่นชิงโจวจริงๆ หรือ?” บัณฑิตทรงคุณวุฒิสิบคน ก็ยุ่งยากพอแล้ว ยังเพิ่มเสิ่นชิงโจว อาจารย์ของฮ่องเต้เข้ามา เขาคืออดีตราชครูผู้มีอำนาจล้นฟ้า ฮ่องเต้หวู่กลัวว่าหลี่หลงหลินจะรับมือไม่ไหว จึงให้ทางลงแก่เขา หลี่หลงหลินไม่สนใจความหวังดีของฮ่องเต้หวู่ เพียงพยักหน้าอย่างหนักแน่น: “เสด็จพ่อ ครั้งนี้หากไม่กำจัดเสิ่นชิงโจว เกรงว่าจะมีภัยตามมา...” เขาไม่หลีกเลี่ยง สายตาจับจ้องไปที่หลี่เทียนฉี่ หลี่เ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1057

    “แต่ไม่ใช่ตอนนี้...” หลี่หลงหลินส่ายหน้า ยิ้มอย่างขมขื่น: “เสด็จพ่อ ลูกยังเยาว์วัย รอได้! แต่ต้าเซี่ยรอได้หรือ? ชาวบ้านที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก รอได้หรือ?” ฮือ! ประชาชนแตกตื่น! ดังที่ฮ่องเต้หวู่เอ่ย หลี่หลงหลินเป็นองค์รัชทายาท ถูกกำหนดให้สืบทอดราชบัลลังก์ ขึ้นครองราชย์ เขาจะรีบร้อนไปไย? เหตุใดเขาจึงต้องกำจัดสำนักปราชญ์? เหตุใดต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งใต้หล้า? หลี่หลงหลินไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่เพื่อพวกเรา ประชาชนทุกคน! ใบหน้าแต่ละคนต่างตกตะลึง ดวงตาแต่ละคู่ เต็มไปด้วยความซาบซึ้งและตื้นตัน ผู้มีอำนาจมักเห็นแก่ตัว ผู้สูงศักดิ์ ล้วนมีนิสัยเหมือนกัน มักจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองก่อน ใครจะมาเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน แม้แต่ขุนนางที่เรียกตัวเองว่าขุนนางตงฉิน อ้างตนว่าเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์สุจริต มักจะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ประชาชน แท้จริงแล้ว พวกเขาก็ทำเพื่อตนเอง คนเราเกิดมา ก็หนีไม่พ้นชื่อเสียงและลาภยศ ขุนนางตงฉินเหล่านี้ ไม่ได้ต้องการลาภยศ แต่ต้องการชื่อเสียง กล่าวโดยสรุป... ประชาชนสำหรับพวกเขา เป็นเพียงเครื่องมือในการแสวงหาชื่อเสียงและลาภยศ เมื่อผลประ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1056

    “เสด็จพ่อ!” หลี่หลงหลินถอนหายใจ: “ลูก ตีกลองร้องทุกข์ เป็นเรื่องที่จำใจต้องทำ! เพราะผู้ที่ลูกจะร้องฎีกานั้น แม้แต่เสด็จพ่อก็ไม่อาจทำอะไรได้ ยากจะรับมือ” คำพูดนี้ ทำให้ทั่วทั้งลานหยกขาวเกิดความโกลาหล สีหน้าของฮ่องเต้หวู่มืดครึ้ม อัปลักษณ์ถึงขีดสุด เป็นผู้ใด? ที่ทำให้ข้าไม่อาจทำอะไรได้? เจ้าเก้า เจ้ากำลังทำให้ข้าเสียหน้าต่อหน้าประชาชน และเหล่าขุนนาง!ฮ่องเต้หวู่สูดลมหายใจลึก: “องค์รัชทายาท! เจ้าพูดให้ชัดเจน ว่าจะร้องฎีกาผู้ใด และข้าจะรับมือไม่ได้อย่างไร!” หลี่หลงหลินพูดอย่างหนักแน่น: “ผู้ที่ลูกจะร้องฎีกา คือสำนักปราชญ์!” สำนักปราชญ์? ทุกคนมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองหลี่หลงหลินพูดชัดเจน เขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คนหนึ่งหรือสองคน ไม่ใช่เสิ่นชิงโจว ไม่ใช่บัณฑิตทรงคุณวุฒิที่นำโดยฉินฮั่นหยาง แต่เป็นทั้งสำนักปราชญ์ กล่าวคือ... หลี่หลงหลินต้องการสั่นคลอนรากฐานของสำนักปราชญ์! นี่คือการเป็นศัตรูกับบัณฑิตทั้งใต้ทั่วหล้า เป็นศัตรูกับวิถีแห่งปราชญ์! เขาเสียสติไปแล้วหรือ? ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว: “องค์รัชทายาท เจ้า...เจ้าพูดให้ชัดเจน! เจ้าจะร้องฎีกาบั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1055

    เหตุใดเขาจึงตีกลองร้องทุกข์ และเหตุใดจึงพาประชาชนมากมายขนาดนี้เข้ามา หรือว่า... ในสมองของหลายคน ปรากฏภาพที่คุ้นเคย ภาพและบรรยากาศตรงหน้า เหมือนกับตอนที่องค์ชายหกหลี่เซวียนนำทหารก่อกบฏ บุกเข้าวังหลวง ต่างกันตรงที่... ตอนที่หลี่เซวียนก่อกบฏ ยังมีหลี่หลงหลิน ซูเฟิ่งหลิง นำทหารพ่ายศึกของตระกูลซูมาพลิกสถานการณ์! แต่ตอนนี้... หลี่หลงหลินกลับพาชาวบ้านบุกเข้าวังหลวง หมายจะก่อกบฏ! ผู้พิชิตมังกร ในที่สุดก็กลายเป็นมังกรเสียเอง! หลี่เทียนฉี่เป็นคนแรกที่ตอบสนอง จึงตะโกนด่า: “องค์รัชทายาท นี่จะก่อกบฏ! เสด็จพ่อ นี่เป็นการกบฏ ถือเป็นความผิดร้ายแรง ไม่อาจให้อภัยได้! ขอเสด็จพ่อทรงมีราชโองการ ปลดหลี่หลงหลินจากตำแหน่งองค์รัชทายาท!” ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างเห็นพ้อง: “ฝ่าบาท การกระทำขององค์รัชทายาท เกินไปแล้ว!” “ที่องค์รัชทายาทเหิมเกริมเช่นนี้ เป็นเพราะฝ่าบาททรงโปรดปรานและตามใจ จนเกิดเรื่องในวันนี้!” “ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ครั้งนี้ ต้องลงโทษองค์รัชทายาทอย่างหนัก!” ฮ่องเต้หวู่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยด้วยเสียงดังกึกก้อง: “พวกเจ้าทุกคนจงเงียบ! พวกเจ้านี่ช่างด่วนส

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1054

    ประตูอู่เหมิน ข้างกลองร้องทุกข์ ภายใต้สายตาของชาวบ้านนับพันนับหมื่น หลี่หลงหลินส่งไม้ตีกลองให้ซูเฟิ่งหลิงที่อยู่ข้างๆ สองมือไพล่หลัง เอ่ยด้วยท่าทางหยิ่งผยอง: “เว่ยกงกง พูดอะไรเช่นนี้ ชาวบ้านตีกลองร้องทุกข์ได้ เหตุใดองค์รัชทายาทจะตีไม่ได้?” เว่ยซวินพูดไม่ออก ยืนงงในสายลม จู่ๆ เขาก็คิดถึงองค์ชายเก้าในอดีต กินดื่มเที่ยวเล่น ฟังดนตรีในหอนางโลม ซ่อนคมอย่างสงบ เป็นขยะที่รอวันตาย แล้วตอนนี้ล่ะ? เรื่องที่หลี่หลงหลินทำ ช่างถี่กระชั้น! จากงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผาในคืนส่งท้ายปีเก่า ถึงพิธีสักการะฟ้าดินในวันขึ้นปีใหม่ ช่วงปียังไม่ทันผ่านพ้น หลี่หลงหลินก็มาตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา! นี่จะไม่ให้ใครได้พักผ่อนกันสักวันเลยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น... จุดประสงค์แรกเริ่มของการตั้งกลองร้องทุกข์นี้ ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยทรงตั้งไว้ให้ชาวบ้านที่สิ้นไร้หนทาง ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท จะมีเรื่องอยุติธรรมใด? พระองค์จะมาสร้างเรื่องวุ่นวายอะไร! แม้ในใจเว่ยซวินจะบ่นพึมพำ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “องค์รัชทายาท บ่าวพูดผิดไป! กลองร้องทุกข์นี้ ชาวบ้านตีได้ พระองค์ก็ย่อมตีได้ บ่าวจะกลับ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1053

    เจิ้งถูฮู่ดวงตาเป็นประกาย หัวเราะเสียงดัง: “ไม่มีประโยชน์หรือ? เจ้าจะไปรู้อะไร! พิธีสักการะฟ้าดิน ไม่มีประโยชน์อะไรจริงๆ แต่ตอนนี้มีคนตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา!” “เจ้ารู้กฎของกลองร้องทุกข์หรือไม่?” เจิ้งเทียนฉินส่ายหน้า สีหน้ามึนงง พูดตามตรง เขาไม่รู้จริงๆ ในสำนักศึกษา สอนแต่สี่ตำราห้าคัมภีร์ เรียงความของนักปราชญ์ ไม่สอนเรื่องพวกนี้เลย ที่จริง ตอนเด็กเจิ้งเทียนฉินก็เคยถามอาจารย์ว่า กลองร้องทุกข์มีไว้ทำอะไร ผลก็คือ อาจารย์สีหน้ามืดมน แล้วเอาไม้เรียวมาตีมือเขา การตีกลองร้องทุกข์ ในสายตาของสำนักปราชญ์ คือการที่ไพร่ก่อเรื่อง ในสำนักศึกษา สอนวิถีแห่งปราชญ์ ไม่ใช่สอนให้คนเป็นไพร่ เจิ้งถูฮู่ยิ้มพลางอธิบาย: “ตามกฎที่ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยตั้งไว้! ไม่ว่าผู้ใด หากตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา ฮ่องเต้จะต้องเสด็จมาไต่สวนคดีนี้ด้วยพระองค์เอง!” “ยิ่งไปกว่านั้น ชาวบ้านมีสิทธิ์เข้าไปในพระราชวังต้องห้าม เพื่อชมการไต่สวน เป็นการแสดงถึงความยุติธรรม!” เจิ้งเทียนฉินตกตะลึง พระราชวังต้องห้าม สำหรับชาวบ้านทุกคนแล้ว เป็นสถานที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ เขาก็เช่นกัน ตอนเด็ก เจิ้งเทียนฉ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1052

    กลองร้องทุกข์ กลองนี้คือกลองที่ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยทรงประดิษฐานไว้หน้าประตูอู่เหมิน หากชาวบ้านได้รับความอยุติธรรม ก็สามารถมาตีกลองร้องทุกข์นี้ เพื่อเป็นการยื่นฎีกา ให้เรื่องราวไปถึงเบื้องพระยุคลบาทได้ ทว่า... นับตั้งแต่ก่อตั้งต้าเซี่ยมา จำนวนครั้งที่กลองร้องทุกข์ถูกตีนั้น แทบนับครั้งได้ และล้วนเกิดขึ้นในช่วงต้นของการก่อตั้งอาณาจักร ร้อยปีให้หลังมานี้ กลองร้องทุกข์ไม่เคยถูกตีแม้แต่ครั้งเดียว กลายเป็นเพียงของประดับ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? สาเหตุก็แสนง่ายดาย ทุกครั้งที่กลองร้องทุกข์ดังขึ้น หมายความว่ามีคดีใหญ่สะเทือนฟ้าดินอุบัติขึ้น ฮ่องเต้จะต้องเสด็จมาไต่สวนคดีนี้ด้วยพระองค์เอง ทั้งยังมีชาวบ้านและขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแสดงถึงความยุติธรรม นั่นก็หมายความว่า... เมื่อใดก็ตามที่กลองร้องทุกข์ถูกตี ไม่รู้ว่าจะมีขุนนางกี่คนที่ต้องหัวหลุดจากบ่า เลือดนองแผ่นดิน ดังนั้น... เหล่าขุนนางจึงคิดหาวิธี โดยอ้างว่ากลองร้องทุกข์จะรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ไม่เพียงแต่ส่งคนไปเฝ้ากลอง ยังซ่อนไม้ตีกลองเอาไว้ นอกเหนือจากนี้ ไม่ว่าผู้ใด หากตีกลองร้องทุกข

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status