Share

บทที่ 4

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
“ฮูหยินผู้เฒ่า!”

คนทั้งตระกูลซูพากันทำความเคารพหญิงชรา

แม้ซูเฟิ่งหลิงจะหยุดการกระทำของตน ทว่ายังเจ็บใจยิ่งนัก “ท่านย่า! แทงครั้งเดียว ข้าก็สังหารเจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลินได้แล้ว!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะในลำคอ “โชคดีที่ข้ามาทันเวลา หากเจ้าทำให้เว่ยกงกงบาดเจ็บ เช่นนั้นเจ้าก็เท่ากับว่าเจ้าทำความผิดร้ายแรง! ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”

ซูเฟิ่งหลิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแค่เพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูเวลาโมโหเท่านั้น แม้จะเจ็บใจ แต่นางก็ถอยไปยืนข้างๆ อย่างเชื่อฟัง

ทว่าดวงตาหงส์คู่นั้น ยังคงจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น!

เว่ยซวินดึงสติกลับมา ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วทำเคารพ “คารวะฮูหยินผู้เฒ่าซู! ไม่พบเจอกันนาน ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นเช่นไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่?”

เว่ยกงกงเป็นขันทีคนโปรดของฮ่องเต้หวู่ ถูกขนานนามว่าเก้าพันปี

แต่กระทั่งเก้าพันปีท่านนี้ ยังต้องทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างว่าง่าย!

เห็นได้ชัดว่า

ฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้ไม่เพียงมีอำนาจในตระกูลซู แม้แต่ในราชสำนัก ก็น่าเกรงขามยิ่งนัก!

ถึงอย่างไร ทหารรักษาแคว้นสิบแปดนายของตระกูลซู นางเป็นคนสอนมากับมือ!

เมื่อครั้นฮูหยินผู้เฒ่าซูยังสาวนางเคยออกรบกับสามี ต่อสู้เพื่อต้าเซี่ย เป็นตำนานที่มีชีวิต

ฮูหยินผู้เฒ่าซูปรายตามองหลี่หลงหลิน ไม่ซ่อนเร้นความเกลียดชังในแววตาแม้แต่น้อย แล้วเบนสายตามองไปที่เว่ยซวิน “เว่ยกงกง ไม่ต้องถามไถ่ตามมารยาทแล้ว ท่านพาคนสารเลวคนนี้มาตระกูลซู เจตนาหาเรื่อง รังแกตระกูลซูที่มีเพียงหญิงหม้ายใช่หรือไม่?”

เว่ยซวินอธิบาย “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านพูดเกินไปแล้ว! ข้าน้อยน้อมรับพระบัญชาของฝ่าบาท พาตัวองค์ชายเก้ามาตระกูลซู เพื่อขอโทษ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูโมโหเป็นฟืนเป็นไฟทันที “ขอโทษเช่นนั้นหรือ? บุรุษทั้งตระกูลซู ตายเพราะคนสารเลวคนนี้! ฝ่าบาทคงไม่คิดว่า เพียงขอโทษ ก็จะดับความโกรธของตระกูลซู รวมถึงเปลวไฟแห่งความโกรธแค้นของไพร่ฟ้าได้กระมัง?”

เว่ยซวินรีบพูด “องค์ชายเก้าเป็นฝ่ายร้องขอที่จะขอโทษเอง อีกทั้งฝ่าบาทยังตรัสแล้วว่า จะฆ่าหรือจะแกง ล้วนเชิญตามสบาย!”

รูม่านตาของฮูหยินผู้เฒ่าซูหดเล็ก จับจ้องหลี่หลงหลินพูดด้วยความเย็นชา “ร้องขอที่จะขอโทษเอง? ถือว่าท่านยังมีหัวใจ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านก็คุกเข่า คำนับหนึ่งหมื่นครั้ง!”

นี่เป็นการหยามเกียรติ!

เว่ยซวินขมวดคิ้วเป็นปม ไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

ถึงอย่างไรหลี่หลงหลินก็เป็นองค์ชาย ฮูหยินผู้เฒ่าซูทำเช่นนี้ เป็นการหยามเกียรติเชื้อพระวงศ์ ชัดเจนเกินไปแล้ว

แต่ฝ่าบาททรงตรัสแล้วว่า ยกหลี่หลงหลินให้ตระกูลซู ลงโทษได้ตามต้องการ

แม้ตระกูลซูทำเกินกว่านี้ แล่เนื้อหลี่หลงหลินทั้งเป็น เว่ยซวินก็ทำได้เพียงยืนมองเท่านั้น!

หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “แค่คำนับเท่านั้น เรื่องเล็ก! แต่ว่า ข้าอยากกจุดธูปให้แม่ทัพผู้เฒ่าซูก่อน!”

ซูเฟิ่งหลิงโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ “เจ้าอย่าคิดที่จะเล่นไม่ซื่อ...”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูปรามซูเฟิ่งหลิง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จุดธูปถือเป็นมารยาท! เจ้าวางใจ! ข้าจะทำให้คนสารเลวคนนี้ ตายทั้งเป็น!”

หลี่หลงหลินตามหลังฮูหยินผู้เฒ่าซู มาถึงโถงไว้อาลัย

ป้ายชื่อแม่ทัพผู้เฒ่าซู เขาจุดธูปหนึ่งดอกด้วยความเคารพ สายตาจับจ้องไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าซู

ภายในโถงไว้อาลัย มีเพียงหลี่หลงหลินและฮูหยินผู้เฒ่าซูสองคน คนอื่นๆ รอด้านนอก

ฮูหยินผู้เฒ่าซูจับไม้เท้าเศียรมังกร พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลี่หลงหลิน ท่านคงไม่ได้คิดสั้น ประสงค์ร้ายกับข้ากระมัง? ขอบอกตามตรง แม้ข้าจะเป็นสตรี ทั้งยังแก่ชรา แต่คนไม่เอาถ่านเช่นท่านแม้จะมีสิบคน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”

ตึ้ง!

ไม้เท้าเศียรมังกรในมือฮูหยินผู้เฒ่าซู กระแทกพื้นอย่างแรง พื้นหินแตกเป็นเสี่ยงๆ ทันที

หลี่หลงหลินอุทานในใจ

คนตระกูลซูล้วนเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดกระมัง!

ซูเฟิ่งหลิงก็ช่างเถอะ!

แต่หญิงชราอย่างฮูหยินผู้เฒ่าซู นึกไม่ถึงว่าแม้จะแก่ชราทว่ายังเก่งกาจ ไม่อาจคาเดาความสามารถ ช่างน่าตกใจจริงๆ!

หลี่หลงหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านรู้หรือไม่! ตระกูลซูของท่าน กำลังเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้าอย่าพูดให้ข้าตกใจ ใช้คำโกหกหลอกลวงข้า! ขอเพียงมีข้าอยู่ ตระกูลซูไม่มีวันล่มสลาย! คนที่กำลังเผชิญหน้ากับหายนะคือเจ้า! เจ้าคือคนไม่เอาถ่าน ทำให้ตระกูลซูตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้! ข้าจะสังหารเจ้า!”

หลี่หลงหลินส่ายมือ “ข้ายอมรับ ข้าไม่เอาถ่าน! แต่ว่า ท่านเคยคิดหรือไม่ คนไม่เอาถ่านเช่นข้าจะโค่นล้มทหารตระกูลซูทั้งหมดได้หรือ?”

“ใช่! โลกภายนอกเล่าลือกันว่า ข้ากอบโกยผลประโยชน์เข้าหาตน ร่วมมือกับพวกคนเถื่อน ปล่อยข่าวสถานการณ์ทางทหาร เป็นคนทรยศ เป็นจารชน!”

“ข้าทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ เลวทรามอำมหิต แม้ข้าจะหลอกทั้งใต้หล้าได้ แต่ข้าจะหลอกแม่ทัพผู้เฒ่าซูได้หรือ?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกตะลึง “เอ่อ...”

คำพูดของหลี่หลงหลิน มีเหตุผล

ความจริง ฮูหยินผู้เฒ่าซูรู้สึกถึงเงื่อนงำบางอย่างตั้งแต่แรกแล้ว

เศษสวะอย่างหลี่หลงหลินเนี่ยนะ โค่นทำลายทหารตระกูลซูทั้งหมดได้ ทำให้ทางเหนือตกหลุมพราง?

แม่ทัพผู้เฒ่าซูทำสงครามมาทั้งชีวิต ฉลาดปราดเปรื่องเพียงใด มีหรือจะถูกคนอย่างหลี่หลงหลินหลอก ตกอยู่ในกำมือของเขา?

หลี่หลงหลินเห็นฮูหยินผู้เฒ่าซูหวั่นไหว ตีเหล็กตอนร้อน รีบบอกความจริง “นี่เป็นแผนการชั่ว! ที่พุ่งเป้าไปหาตระกูลซู! กบฏต่อต้าเซี่ย! ส่วนข้าก็เป็นเพียงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ที่ถูกดึงไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”

“หากท่านสังหารข้า ไม่เพียงไม่ช่วยแก้ไขให้อะไรดีขึ้น ทั้งยังฆ่าคนบริสุทธิ์! หลังจากข้าตาย ภายในหนึ่งเดือน ตระกูลซูต้องจบเห่แน่นอน!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูส่ายหน้า “หลี่หลงหลิน ท่านอย่าพูดจาเหลวไหล ดึงดันต่อไปอีกเลย! วาจาที่ไร้หลักฐาน ทุกถ้อยคำของท่าน ข้าไม่เชื่อ!”

หลี่หลงหลินไม่พูดพร่ำอีก หยิบจดหมายเขียนด้วยเลือดออกมา ยื่นไปตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่าซู “นี่คือจดหมายเลือดที่แม่ทัพผู้เฒ่าซูเขียนด้วยตนเองก่อนตาย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า! ลายมือของเขา ท่านต้องจำได้แน่นอน!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูรับจดหมายเลือดมาอ่าน หน้าถอดสีทันที “ลาย...ลายมือนี้! ข้าไม่มีทางจำผิด! หรือว่า ทุกอย่างที่ท่านพูด ล้วนเป็นเรื่องจริงหรือ? นี่เป็นแผนชั่ว ที่หวังจะทำลายตระกูลซูจริงๆ หรือ?”

ด้วยเวลาที่มีจำกัด เนื้อความในจดหมายเลือดไม่ได้มีมากมายนัก เขียนเพียงสิ่งที่แม่ทัพผู้เฒ่าซูคาดเดา

การถูกทำลายของทหารตระกูลซู ไม่เกี่ยวข้องกับหลี่หลงหลิน มีขุนนางชั้นสูงในราชสำนักทรยศหักหลังตระกูลซูอย่างแน่นอน!

สำหรับเรื่องที่ว่าใครคือคนทรยศ

แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ไม่รู้

เขาเพียงคาดหวังให้หลี่หลงหลินนำจดหมายเขียนด้วยเลือดนี้ถวายแด่ฮ่องเต้หวู่ ให้ฮ่องเต้หวู่สืบหาความจริง ตามหาคนทรยศ แก้แค้นให้กับตระกูลซู!

Related chapters

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 5

    ฮูหยินผู้เฒ่าซูอ่านจดหมายเลือดวนซ้ำหลายรอบ พูดด้วยความไม่เข้าใจ “หลี่หลงหลิน! เหตุใดท่านไม่เอาจดหมายเลือด ให้ฝ่าบาท เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง “ไม่มีใครรู้จักลูกชายดีเท่ากับบิดา! นิสัยของเสด็จพ่อ ข้ารู้จักเป็นอย่างดี! ด้วยความหวาดระแวงและดื้อรั้นของเสด็จพ่อ จะเชื่อข้าหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเงียบนางเองก็รู้ดีว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนอย่างไรตระกูลซู จงรักภักดีต่อต้าเซี่ย ปกป้องดินแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน ไม่รู้ว่ามีวิญญาณจงรักภักดีมากมายเพียงใดที่ถูกฝังในต่างแดน แต่ฮ่องเต้หวู่กลับยังคงหวาดระแวงและคอยกดตระกูลซูสถานการณ์ในราชสำนัก ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็พอได้ยินมาบ้างขุนนางฝ่ายบุ๋นรักเงินทอง ขุนนางฝ่ายบู๊รักชีวิตบวกกับฮ่องเต้หวู่ไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทนอกจากองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินที่เสเพลเกินไป ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุนขุนนางคนอื่นล้วนลอบสนับสนุนองค์ชายพระองค์ เสมือนองค์ชายทั้งเก้าในสมัยราชวงศ์ชิงช่วงชิงบัลลังก์!หลายฝ่ายในราชสำนักแก่งแย่งชิงดี โจมตีซึ่งกันและกัน จนโกลาหลเสียงร้องทุกข์ของไพร่ฟ้าท่วมท้องถนน ชีวิตลำบากข้นแค้น!เวลานี้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 6

    หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ทหารที่เหลืออยู่หนึ่งพันนายของตระกูลซู บุกเข้าวัง ปรับราชวงศ์เปลี่ยนรัชสมัย! เขายืมมือของตระกูลซูกำจัดผู้เห็นต่าง ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ เพื่อให้ตระกูลซูถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ ให้อาชญากรรมทั้งหมดตกอยู่กับตระกูลซู! ” “หากเขาสังหารตระกูลซู ล้างมลทินให้ตนเอง ยกดินแดนให้คนป่าเถื่อนเป็นการชดเชย เขาก็จะนั่งอยู่บนบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง!” “นี่คือภาพรวมแผนการของเขา!” “ยอดแม่ทัพยืนหยัดบนหมื่นกระดูก!” “ไม่ว่าจะเป็นข้า หรือตระกูลซู ล้วนเป็นบันไดของคนผู้นี้!” “คนไร้ประโยชน์อย่างข้า ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย!”“แต่ตระกูลซูมีแต่ด้วยความภักดี กลับต้องกลายเป็นกบฏ ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ ทิ้งชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปชั่วลูกชั่วหลาน!” คําพูดนี้ ทําลายกำแพงในใจของฮูหยินผู้เฒ่าซูไปโดยสิ้นเชิง!ตุ้บ!ฮูหยินผู้เฒ่าซูนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนพื้น ดวงตาของนางว่างเปล่า ร้องไห้คร่ำครวญ: “ไม่กลัวหากร่างกายจะแหลกเป็นชิ้นๆ เหลือเพียงใจภักดิ์ไว้ในประวัติศาสตร์! ตระกูลซูของเราไม่กลัวความตาย! เพียงแต่หากตระกูลซูกลายเป็นกบฏจริงๆ แล้วข้าจะมีหน้าไปเจอบรรพบุรุษของตระกูลซูได้ยังไง...

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 7

    ในท้องพระโรงฝ่าบาทกําลังมีประชุมฉุกเฉินเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ต่างยืนสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศภายในจริงจังเป็นอย่างมากเส้นเลือดบนหน้าผากฝ่าบาทปูดขึ้น พักตรมังกรโกรธจัด: “มีกองทหารหลายแสนนายทางตอนเหนือ กลับไม่สามารถหยุดการย่ำยีประชาชนอย่างทารุณของเผ่าหมานนับหมื่นได้! ตอนนี้กองทัพเผ่าหมานได้เข้าใกล้เมืองหลวงแล้ว! ”“ต้าเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ กลับไม่มีแม่ทัพและทหารที่สามารถสู้รบได้เลย!”“หรือต้องให้ข้านำทัพไปทำสงครามเอง?”เหล่าขุนนางทุกคนต่างก้มหน้าและไม่มีใครกล้าพูดฝ่าบาทเอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของผู้ที่ตนหวังไว้: “ไร้ประโยชน์! ล้วนเป็นพวกไร้ประโยชน์ ขุนนางเข้าใจข้าผิด! ศัตรูอยู่ตรงหน้า คุณธรรมอยู่ที่ใด? ”ในเวลานี้หลี่เซวียนองค์ชายหกยืนขึ้น: “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีวิธีแก้ไขวิกฤตในเมืองหลวงพะยะค่ะ!”ดวงตาของฝ่าบาทเป็นประกายขึ้น: “เจ้าหก เจ้าฉลาดและมีไหวพริบมาตั้งแต่เด็ก! วิธีที่ว่าคืออะไร ไหนลองพูดมาสิ! ”หลี่เซวียนเอ่ยขึ้น: “ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน!การต่อต้านทหารม้าเผ่าหมาน จำเป็นต้องมีผู้นำทัพชั้นยอด! ภายใต้การบัญชาทัพของเสด็จพ่อ แล้วยังมีราชองครักษ์อ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 8

    ฝ่าบาทตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่าซูจะขอพระราชทานสมรสจริงๆอีกทั้งยังขอพระราชทานสมรสกับองค์ชาย!การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ จะทำเหมือนเป็นเรื่องเล่นขายของของเด็กๆได้ยังไง?ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือการพระราชทานสมรส ต้องให้ความสำคัญกับคู่ที่เหมาะสมพูดตรงๆ ก็คือการแต่งงานทางการเมืองสนมขององค์ชาย ถ้าไม่เป็นองค์หญิงของต่างแคว้น ก็เป็นบุตรสาวของขุนนางที่มีอํานาจหากผู้ชายในตระกูลซูยังอยู่ ในฐานะหัวเรือใหญ่ที่เฝ้าชายแดนทางเหนือ ตระกูลซูก็มีคุณสมบัติที่จะแต่งงานกับราชวงศ์แต่ตอนนี้ตระกูลซูเหลือเพียงเด็กกำพร้าและแม่ม่าย ไร้ค่าที่จะกล่าวถึงแม้ว่าตนเองตกลงที่จะพระราชทานสมรส แต่องค์ชายก็อาจไม่เห็นด้วย!เมื่อเห็นความลังเลของฝ่าบาท เว่ยซวินจึงเอ่ยด้วยเสียงต่ำ:" ฝ่าบาทสิ่งสําคัญที่สุดในตอนนี้คือระงับความโกรธของประชาชน หากพระองค์พระราชทานสมรสให้กับตระกูลซู และประหารองค์ชายเก้าได้ ความโกรธของประชาชนก็จะหายไป! ”ฝ่าบาทพยักหน้าใช่!ตอนนี้ต้าเซี่ยคลอนแคลน สถานการณ์ของราชวงค์ไม่แน่ชัดตนเองจะคิดไกลขนาดนั้นไปทำไม?สำหรับประชาชนตระกูลซูมีบารมีสูงมาก หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทํ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 9

    ฝ่าบาทส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า: “ไร้เหตุผล! ไร้เหตุผลสิ้นดี! ฮูหยินผู้เฒ่าซู เว้นแต่เจ้าจะมีเหตุผล สามารถโน้มน้าวใจข้าได้! ไม่อย่างนั้น ข้าจะไม่มีวันประทานสมรสที่ไร้เหตุผลเช่นนี้! ”ฮูหยินผู้เฒ่าซูกัดฟันเอ่ย: “ฝ่าบาท! หม่อมฉันเกลียดหลี่หลงหลินจริงๆ และเขาต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง! แต่แค่ฆ่าเขาด้วยมีดมันจะง่ายเกินไป! ”“หม่อมฉันต้องการให้หลี่หลงหลินเป็นลูกเขยของตระกูลซู เป็นวัวและม้าให้กับตระกูลซู และทรมานเขาอย่างสาสม!”“ทำให้เขาขอมีชีวิตรอดก็ไม่ได้ ขอตายก็ไม่ได้!”“ฝ่าบาท เมื่อครู่พระองค์เพิ่งตรัสว่า ให้หม่อมฉันจัดการกับหลี่หลงหลิงได้ตามใจชอบ! คำพูดพระองค์หนักแน่นดั่งภูผา จะกลับคำไม่ได้เพคะ! ”ทั้งราชสำนักตกอยู่ในความเงียบพูดตามตรง เหตุผลของฮูหยินผู้เฒ่าซู แม้จะดูขัดๆไม่สมเหตุสมผลไปหน่อย แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ตอนนี้ตระกูลซูไม่มีผู้ชาย มีเพียงกลุ่มแม่ม่าย ซึ่งทุกคนอยู่ในวัยที่อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงบวกกับซูเฟิ่งหลิงที่มุทะลุดุดันหลี่หลงหลินเข้าสู่ตระกูลซู และกลายเป็นผู้ชายคนเดียว เขาจะต้องถูกกินทั้งเป็นอย่างแน่นอน!แค่คิดก็ทําให้คนขนลุกซู่แล้ว!ดวงตาของฝ่าบาทเป็นประกาย สีหน้าเผยค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 10

    หลี่หลงหลินกลับไปที่เรือน เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำขณะที่แช่น้ำร้อน เขานึกย้อนความทรงจำอย่างละเอียด องค์ชายเก้าจะถูกหลอกให้ไปเป็นกุนซือของกองทัพที่ดินแดนทางเหนือ โดยมีหลี่เซวียนเป็นผู้ยุแยงบวกกับปฏิกิริยาของหลี่เซวียนในวันนี้ผู้บงการเบื้องหลังฉากนี้ มีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นเจ้าหกหลี่เซวียน!ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ!ต้องรีบหาหลักฐานการก่อกบฏของหลี่เซวียนให้พบเมื่อหลี่เซวียนไหวตัวได้และทําให้ตําแหน่งของเขามั่นคง มันจะยิ่งลําบาก!หลี่หลงหลินอาบน้ำเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าขององค์ชาย จากนั้นก็รีบไปที่บ้านตระกูลซูทันทีในการจัดการกับหลี่เซวียน หลี่หลงหลินทําคนเดียวไม่ได้ เขาต้องใช้พลังของตระกูลซู!ทันทีที่หลี่หลงหลินมาถึงหน้าบ้านตระกูลซู เขาก็ได้ยินเสียงดังเอะอะมาจากข้างในซูเฟิ่งหลิงที่ถือทวนเงินใส่ชุดเกราะเงิน สวมเสื้อคลุมสีแดงด้านหลัง มีไอสังหาร คํารามด้วยความโกรธ: “ท่านต้องการให้ข้าแต่งงานกับหลี่หลงหลินคนทรยศ!" ฝันไปเถอะ! ข้าจะฆ่าหลี่หลงหลินตอนนี้! เพื่อล้างแค้นให้ความภักดีของตระกูลซู! ”ซูเฟิ่งหลิงเมื่อรู้ว่าหลี่หลงหลินไม่เพียงแต่ยังไม่ตาย แต่ฝ่าบาทยังพระราชทานสมรสให้เขาแต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 11

    ฮูหยินผู้เฒ่าซูพยักหน้า “มีเหตุผล! แต่ว่า จะตามหาผู้อยู่เบื้องหลังอย่างไร?”หลี่หลงหลินยิ้ม “ง่ายมาก! เจ้าหกร่วมมือกับโม่เป่ยเผ่าหมาน ต้องมีการส่งจดหมายหากันอย่างแน่นอน! จดหมายเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะซ่อนในห้องหนังสือ! ขอเพียงลอบเข้าไปในห้องหนังสือ ขโมยจดหมายออกมา ก็จะได้หลักฐาน!”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเป็นปม “ง่ายดายเช่นนี้เชียวหรือ?”หลี่หลงหลินยักไหล่ “มิเช่นนั้นเล่า? เมียจ๋า หรือเจ้ามีความคิดอื่นที่ดีกว่านี้?”ดวงหน้างดงามของซูเฟิ่งหลิงฉายความโมโห “ขืนท่านเรียกข้าว่าเมียจ๋าอีก ข้าจะฆ่าท่านทิ้ง!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ย “พอแล้วๆ! พวกเจ้าสองสามีภรรยาหยุดทะเลาะกันได้แล้ว! ข้าคิดว่า ความคิดเห็นหลงหลิน ก็ใช้ได้! แต่ว่า ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด!”“เฟิ่งหลิง ด้วยความสามารถของเจ้า ลอบเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก ขโมยจดหมาย ไม่ใช่เรื่องยากกระมัง?”ซูเฟิ่งหลิงลังเลเล็กน้อย “ไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่รู้ว่าผังจวนขององค์ชายหกเป็นเช่นไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าห้องหนังสืออยู่ที่ใด”หลี่หลงหลินตบแผงอกแล้วพูด “เรื่องนี้ง่าย! เมื่อก่อนข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 12

    พรึ่บ!ม่านฉีกขาดโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืน ทว่าหลังม่านกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใด!หลี่เซวียนขมวดคิ้วเป็นปม!หรือตนคิดผิดแล้ว?เมื่อครู่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มีคนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน!หรือว่า อาศัยจังหวะตอนที่ตนส่งหลี่หลงหลินเพียงครู่หนึ่ง คนๆ นั้นหนีไปแล้ว?หลี่เซวียนหัวใจหล่นวูบ เดินไปที่โต๊ะหนังสือทันที พบว่าจดหมายมีร่องรอยถูกรื้อค้น“แย่แล้ว!”“ตกหลุมพรางแล้ว!”หลี่เซวียนรู้สึกคล้ายโลกหมุน รีบคว้าโต๊ะ ไม่ได้ล้มลงหลังจากผ่านไปนานในที่สุดหลี่เซวียนก็ตั้งสติได้ รีบเรียกพบซุนกวางเสี้ยวคนสนิทของตนซุนกวางเสี้ยวคุกเข่าทำความเคารพ “องค์ชาย องค์ชายมีอะไรให้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”หลี่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทหารหน่วยกล้าตายเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”ซุนกวางเสี้ยวตอบ “ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายเตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เคลื่อนกำลังพลได้ทุกเมื่อ!”หลี่เซวียนพยักหน้า “เยี่ยม! จางไป่เจิงนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เดินทางข้ามคืนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว เพื่อรบกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! รุ่งสางวันพรุ่งนี้ เราเคลื่อนกำลังพลก่อกบฏ เปลี่ยนราชวงศ์!”ซุนกวางเสี้ยวได้ยินเช่นนั้น ตะลึงงัน

Latest chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1072

    นักปราชญ์ใหม่แห่งสำนักปราชญ์?คำคำนี้ดังราวกับสายฟ้าฟาด ก้องกังวานในหูของทุกคนอะไรกัน?ข้าคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม!เมื่อครู่รัชทายาทเพิ่งบอกว่าตนเองเป็นนักปราชญ์ใหม่แห่งสำนักปราชญ์?นักปราชญ์ใหม่ก็คือนักปราชญ์คนใหม่!รัชทายาทหมายความว่า ตนเองสามารถเทียบได้กับนักปราชญ์อันดับสอง ซึ่งก็หมายความว่า เขาเป็นนักปราชญ์อันดับสามของสำนักปราชญ์ในรอบพันปีหรือ?นี่ นี่ นี่...นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!เหลือเชื่อยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกเสียอีก!“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เสิ่นชิงโจวชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นกุมท้องหัวเราะจนตัวงอเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและบัณฑิตทั้งหลาย ต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง“รัชทายาท ท่านเสียสติไปแล้วหรือ?”“นักปราชญ์คนใหม่แห่งสำนักปราชญ์? ท่านหมายความว่า ท่านคือปราชญ์ของสำนักปราชญ์อย่างนั้นหรือ?”“ฮ่าฮ่าฮ่า! องค์ชายเสเพลผู้ไร้ความรู้ความสามารถเช่นท่าน กล้าประกาศตนเป็นนักปราชญ์ ช่างน่าขันเสียจริง!”“ถ้าท่านเป็นนักปราชญ์ เช่นนั้นคนทั้งโลกก็คงเป็นปราชญ์กันหมดแล้ว!”ซูเฟิ่งหลิงถึงกับอึ้ง ใบหน้างดงามแฝงความตกตะลึง ดวงตาหงส์จับจ้องไปที่หลี่หลงหลิน ริมฝ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1071

    เสิ่นชิงโจวต้องมีแผนการที่ใหญ่กว่านั้น จึงกล้าลงมือเสี่ยงอันตรายคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ฮ่องเต้หวู่ตาสว่าง พลันเข้าใจทุกอย่างทันทีเสิ่นชิงโจวไม่เพียงไม่พอใจที่จะเป็นขุนนาง แม้แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ก็ยังไม่อาจทำให้เขาพึงพอใจเขาต้องการเป็นเจ้าลัทธิ!เขาต้องการเลียนแบบศาสนากางเขนของชาวตะวันตก เปลี่ยนขงจื๊อจากเพียงแนวคิดให้กลายเป็นศาสนา แล้วขึ้นครองอำนาจเหนืออำนาจฮ่องเต้แม้แต่ฮ่องเต้ ก็ยังต้องรับการสถาปนาจากเจ้าลัทธิ!ความทะเยอทะยานเช่นนี้ ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้แต่ฮ่องเต้หวู่เอง ยังรู้สึกราวกับสายเลือดทั่วร่างถูกแช่แข็งอีกด้านหนึ่งเสิ่นชิงโจวรู้สึกเหมือนถูกชกเข้ากลางอกอย่างแรง สีหน้าหม่นหมองถึงขีดสุดชัดเจนแล้วว่าหลี่หลงหลินเดาถูกต้อง!ทำไมเสิ่นชิงโจวจึงปลุกปั่นความวุ่นวาย แท้จริงแล้วเป้าหมายของเขาคืออะไรกันแน่?หากมนุษย์ไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินย่อมลงทัณฑ์เขาไม่ได้ทำเพื่อองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ แต่ทำเพื่อตัวเอง!ความสำเร็จของฮ่องเต้ ก็คือการขยายแผ่นดินและอาณาเขตความสำเร็จของขุนนางมาจากการสนับสนุนและปกป้องผู้นำของตนหากหลี่เทียนฉี่ไม่ก่อกบฏ แต่ขึ้นครองบัลลังก์อย่างสงบเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1070

    “ฮึๆ”หลี่หลงหลินหัวเราะเสียงเยียบเย็น หันมองเสิ่นชิงโจวแวบหนึ่ง สบถด่าออกมาโดยตรง “อาจารย์ฮ่องเต้บ้าบออะไร! ถึงรู้จักแต่วิธีการต่ำช้าเช่นนี้! ตัดรากถอนโคนหลักขงจื๊อ ล้มเลิกการสอบขุนนาง? นี่ข้าเคยพูดตั้งแต่ยามใด?”สีหน้าเสิ่นชิงโจวงุนงงไปคิดดูให้ดี หลี่หลงหลินคล้ายไม่เคยพูดมาก่อนจริงสุภาพชนมองผ่านการกระทำมิใช่จิตใจต่อให้ปากเจ้าไม่พูด แต่การกระทำทุกอย่าง กลับตั้งตนเป็นศัตรูกับสำนักปราชญ์ ตัดรากถอนโคนสำนักปราชญ์!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “รัชทายาท ตกลงเจ้าหมายความเยี่ยงไร? เรางงไปหมดแล้ว”หลี่หลงหลินเงยหน้า พูดยิ้มๆ “เสด็จพ่อ นักปราชญ์นั้นดี หลักขงจื๊อนั้นก็ดี การสอบขุนนางเองก็ดี! หากไม่ใช่นักปราชญ์ ไม่ใช่หลักขงจื๊อ ต้าเซี่ยของข้าจะเจริญรุ่งเรืองได้เยี่ยงไร?”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนตกตะลึงรัชทายาทกำลังทำอันใด?เสิ่นชิงโจวเป็นบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ยอมรับว่าสำนักปราชญ์มีความผิด ทำให้สำนักปราชญ์มีชื่อเสียงฉาวโฉ่หลี่หลงหลินกลับดี ถึงขั้นทำตรงข้ามกัน ล้างมลทินให้สำนักปราชญ์กระนั้น?ต่อให้ปากเขาพูดว่าหลักขงจื๊อ ไม่ใช่สำนักปราชญ์ ผิดไปหนึ่งคำแต่ในสายตาคนส่วนใหญ่ สำนักปราชญ์และหลักข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1069

    สำนักปราชญ์มีมาอย่างยาวนานนับพันปี เสิ่นชิงโจวก็เป็นเพียงหนึ่งเมล็ดข้าวในมหาสมุทรก็เท่านั้น!หรือว่า เราจะทำอย่างที่เจ้าเก้าพูด ใช้อำนาจล้มเลิกการสอบขุนนาง ทำลายสำนักปราชญ์ให้สิ้นซาก?ทว่าหากล้มเลิกการสอบขุนนาง แล้วจะใช้อะไรมาแทนที่เล่า?หรือว่าจะฟื้นฟูการสอบขุนนางในอดีต คัดเลือกขุนนางโดยยึดหลักความกตัญญูและคุณธรรม อาศัยการแนะนำจากชนชั้นสูง เลือกเฟ้นผู้มีความสามารถกระนั้น?นี่คือถอยหลังลงคลองกลับสู่ประวัติศาสตร์!ระบบในอดีตมีเล่ห์เหลี่ยมและทุจริตมากเสียยิ่งกว่า อำนาจตกอยู่ในมือของตระกูลขุนนาง!หลี่เทียนฉี่เห็นฮ่องเต้หวู่ลังเล ฉวยโอกาสนี้ลุกออกมา “เสด็จพ่อ สำนักปราชญ์เป็นรากฐานของต้าเซี่ย! สำนักปราชญ์จะล่มสลายไม่ได้! จะล้มเลิกการสอบขุนนางไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! หากท่านคิดล้มเลิกการสอบขุนนาง นี่ไม่เพียงแค่ลูก ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนัก ยังมีบัณฑิตทั่วหล้าล้วนไม่มีวันยอมรับ!”เหล่าขุนนางต่างพากันคุกเข่า พูดประสานเสียง “จะล้มเลิกการสอบขุนนางไม่ได้ สำนักปราชญ์จะล่มสลายไม่ได้! ฝ่าบาทโปรดวินิจฉัยด้วย ถอนรับสั่งเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ภายในกลุ่มราษฎรเองก็มีคนลังเลไม่น้อยพวกเขามารับชมความครึกครื้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1068

    “ยอมรับผิดอีกแล้ว?”หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “เสิ่นชิงโจว หรือว่าท่านตั้งใจยื้อเวลา? นี่น่าเบื่อเกินไปแล้ว”เขากลับอยากให้เสิ่นชิงโจวต่อต้านอย่างดื้อรั้น กัดฟันแน่น เป็นตายร้ายดีเยี่ยงไรก็ไม่ยอมแพ้เช่นนี้แล้วล่ะก็เขาสามารถตบหน้าเสิ่นชิงโจวแรงๆ อย่างถูกต้องตามครรลองครองธรรมได้สรุปคือเสิ่นชิงโจวไม่มีเจตนาต่อสู้ทำให้หลี่หลงหลินรู้สึกเบื่อหน่ายอาจารย์ของฮ่องเต้! ราชครู!แค่นี้เองหรือ?หลี่หลงหลินพูดเสียงเย็น “ความผิดครั้งนี้ของท่าน คงไม่คิดโยนความผิดให้เหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิเพื่อเอาตัวรอดอีกหรอกกระมัง?”เสิ่นชิงโจวส่ายหน้า “ไม่! ครั้งนี้ข้ายอมรับผิดอย่างแท้จริง! ทุจริตการสอบขุนนาง ฆ่าคนปิดปาก รับสินบนทำผิดกฎหมาย ข้าขอยอมรับความผิดทั้งหมดเหล่านี้! ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแค่ข้า ยังมีบัณฑิตทรงคุณวุฒิคนอื่นอีกด้วย!”“สำนักศึกษาทั้งหมดล้วนมีส่วนร่วม”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนเงียบงันลานไป๋อวี้ขนาดใหญ่ แม้แต่เข็มตกก็สามารถได้ยินไม่ว่าขุนนางหรือราษฎร สีหน้าล้วนแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะเหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิ อ้าปากค้าง ลืมตากว้าง คล้ายเห็นผีก็มิปาน จับจ้องเสิ่นชิงโจวตาเขม็งอาจารย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1067

    เสิ่นชิงโจวเป็นคนล้ำลึก ยิ่งไปกว่านั้นยังรักษาความสุขุมเอาไว้ได้ฉินฮั่นหยางและบัณฑิตทรงคุณวุฒิคนอื่นกลับทนไม่ไหวแล้ว สีหน้ากระวนกระวายหวาดกลัวสุดขีด คล้ายหายนะกำลังมาเยือนครู่ต่อมาพวกเขาสบตากัน ทำเรื่องที่ทุกคนคาดไม่ถึงและเหลือเชื่อเห็นบัณฑิตทรงคุณวุฒิทั้งหมดถลันขึ้นไป ฉีกจดหมายนิรนามเหล่านั้น ยัดเข้าปากและพยายามกลืนลงไป“หา?”“ตาเฒ่ากลุ่มนี้คิดทำลายหลักฐานความผิด!”“ไม่ต้องการหน้าตาแล้วกระมัง?”“คิดว่าฝ่าบาทตาบอดหรือ?”เหล่าราษฎรตกตะลึงหน้าถอดสี สบถด่าเสียงดังเดิมทีซูเฟิ่งหลิงอยากเข้าไปห้ามหลี่หลงหลินกลับยื่นมือออกไปขวางซูเฟิ่งหลิงไว้ ยิ้มเย็นพลางพูด “เข้ามา เอาจดหมายนิรนามที่เหลือทั้งหมดเข้ามา!”ครู่ต่อมาองครักษ์เสื้อแพรทั้งหมดก็แบกตะกร้าขนาดใหญ่มากมายเข้ามายังลานไป๋อวี้ซ่า...เทของในตะกร้าออกมา ทั้งหมดล้วนคือจดหมายนิรนามกองโตเท่าภูเขาลูกเล็กหลี่หลงหลินเดินขึ้นไปหยุดต่อหน้าฉินฮั่นหยาง บีบปลายคางของเขา ยิ้มเย็นพูดว่า “บัณฑิตฉิน จดหมายนิรนามเหล่านี้อร่อยหรือไม่? ในเมื่อเจ้าชอบกินถึงเพียงนี้ เช่นนั้นข้าขอเลี้ยงเจ้าจนพอใจเลยแล้วกัน!”พวกฉินฮั่นหยางตกตะลึงพรึงเพร

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1066

    กระดูกภายในหีบ ทั้งหมดล้วนขุดออกจากหน้ารูปปั้นนักปราชญ์ที่หลังเขาสำนักศึกษา?บนลานไป๋อวี้ เงียบสงัดไปทั้งผืนไม่ว่าขุนนางหรือราษฎร ทั้งหมดล้วนลืมตาอ้าปากค้าง สีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดภายในจดหมายนิรนามล้วนเป็นความจริงทุกประโยคเดิมทีสำนักศึกษาคือแดนสวรรค์สั่งสอนให้ความรู้คนบัดนี้กลับกลายเป็นสถานที่ปกปิดความชั่วสกปรกโสมมกระดูกขาวเหล่านี้ คล้ายกำลังพูดออกมาสองคำ...กินคน!ฮ่องเต้หวู่ปวดใจอย่างมาก เดินโงนเงนมาที่หน้าหีบ มองซากศพภายใน“ฝ่าบาท ระวังพิษจากศพพ่ะย่ะค่ะ...”เว่ยซวินยื่นผ้าเช็ดหน้าปักลายให้ เอ่ยปากร้องเตือนฮ่องเต้หวู่กลับโบกมือ ไม่ได้รับไว้ สายตาจับจ้องกระดูกขาวภายในหีบ ไม่พูดจาอยู่นานก็เหมือนที่หลี่หลงหลินพูดกระดูกส่วนใหญ่เป็นของเด็กหนุ่ม ร่างกายกำลังเจริญเติบโต แต่กลับไม่อาจเติบโตจนสำเร็จได้ไม่แปลกใจเพราะบัณฑิตที่มาขอเรียนที่สำนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่มอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีส่วนอดีตซิ่วไฉที่สอบไม่ผ่านครั้งแล้วครั้งเล่า หัวใจแหลกสลายจนเย็นชา ไม่อยู่ศึกษาที่สำนักศึกษาต่อ แต่เลือกกลับไปเรียนหนักที่บ้านเกิดทว่า ภายในกระดูกเหล่านี้ยังมีกระดูกของเด็กอายุราวเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1065

    หลี่หลงหลินยิ้มเย็นทีหนึ่ง เหลือบมองเสิ่นชิงโจว “ใครพูดว่ามีเพียงพยานวัตถุ ไม่มีพยานบุคคล ก็ไม่สามารถลงโทษท่านได้เล่า! ท่านพูดว่าจดหมายนิรนามนี้ล้วนเป็นคำพูดส่งเดช ถูกสร้างขึ้นมา?”“ข้าลอบให้องครักษ์เสื้อแพรสืบตามเนื้อหาในจดหมายแล้ว”“อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดส่วนก็คือเรื่องจริง!”ซี้ด...เสียงหายใจเย็นดังขึ้นระลอกหนึ่งหลี่หลงหลินเตรียมการไว้รอบด้านไม่ผิดไปดังคาด!เขาถึงขั้นส่งองครักษ์เสื้อแพรออกไปลอบสืบจดหมายนิรนาม ยิ่งไปกว่านั้นยังได้หลักฐานที่แท้จริงคดีทุจริตการสอบขุนนางมีมานานมากแล้วช่วงล่าสุดก็คือหนึ่งถึงสองปีก่อนช่วงเวลายาวนานยิ่งกว่านี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึง สิบปีไปจนถึงสามสิบสี่สิบปีก็ล้วนมีทั้งสิ้นจดหมายนิรนามไร้สาระที่สุดหนึ่งฉบับพูดว่าคือเมื่อห้าสิบปีก่อน อดีตฮ่องเต้ยังครองบัลลังก์ ฮ่องเต้หวู่ยังไม่ได้รับสืบทอดบัลลังก์จากเรื่องนี้สามารถมองออกว่าสำนักปราชญ์ผูกขาดการสอบขุนนาง ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ แต่มีมานานมากแล้วน่ากลัวว่ายามต้าเซี่ยเพิ่งสถาปนาแคว้น รากหายนะก็หยั่งลงลึกแล้วคนเขียนจดหมายนิรนามมีความโกรธแค้นอย่างลึกซึ้งต่อสำนักปราชญ์ กอปรกับมุมม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1064

    กลยุทธ์ถ่วงเวลา ที่ใช้หมื่นครั้งได้ผลหมื่นครั้งครั้งนี้กลับพ่ายแพ้ยามอยู่ต่อหน้าหลี่หลงหลินเสิ่นชิงโจวขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่สบอารมณ์อีกฝ่ายมิได้ต่อสู้ส่งเดช แต่เตรียมการมาก่อน...รับมือยากยิ่ง!หน้าท้องพระโรง ฮ่องเต้หวู่โบกมือสั่งคนไปยกเก้าอี้มังกรสีทองเข้ามา หลังนั่งลงไปแล้ว มุมปากก็ยกขึ้นเผยรอยยิ้มน่าสนใจ!กลยุทธ์ถ่วงเวลานี้ แม้แต่เราก็ปวดหัวมาก ไม่มีหนทางรับมือเจ้าเก้ากลับจัดการได้อย่างผ่อนคลาย ทำให้เสิ่นชิงโจวรับมือไม่ทันจากนี้ไปเขายังมีอุบายอันใดอีก?ฮ่องเต้หวู่นั่งบนเก้าอี้มังกร สนใจอย่างมาก นั่งดูเสือต่อสู้กันหลี่หลงหลินหันหน้า สายตาตกลงที่ราษฎรทั้งหมด “ข้ารู้พวกเจ้ารู้สึกโกรธเคืองภายในใจ! ข้ายังรู้อีกว่าพวกเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด มีความกล้าลุกออกมา ต่อสู้กับสำนักปราชญ์เน่าเฟะอย่างสุดชีวิต!”“แต่ ไม่จำเป็น!”“มีตัวอักษรอันเป็นหยาดโลหิตและน้ำตาของพวกเจ้าในจดหมายนิรนาม นี่ก็เพียงพอแล้ว!”“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องลุกออกมาเปิดเผยฐานะเพื่อเสี่ยงอันตราย!”“ข้าจะรับประกันความปลอดภัยของพวกเจ้าเอง!”เหล่าราษฎรอึ้งงันรัชทายาทถึงขั้นห้ามมิให้บุคคลนิรนามลุกออกมา?หรือว่า

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status