หลี่หลงหลินกลับไปที่เรือน เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำขณะที่แช่น้ำร้อน เขานึกย้อนความทรงจำอย่างละเอียด องค์ชายเก้าจะถูกหลอกให้ไปเป็นกุนซือของกองทัพที่ดินแดนทางเหนือ โดยมีหลี่เซวียนเป็นผู้ยุแยงบวกกับปฏิกิริยาของหลี่เซวียนในวันนี้ผู้บงการเบื้องหลังฉากนี้ มีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นเจ้าหกหลี่เซวียน!ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ!ต้องรีบหาหลักฐานการก่อกบฏของหลี่เซวียนให้พบเมื่อหลี่เซวียนไหวตัวได้และทําให้ตําแหน่งของเขามั่นคง มันจะยิ่งลําบาก!หลี่หลงหลินอาบน้ำเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าขององค์ชาย จากนั้นก็รีบไปที่บ้านตระกูลซูทันทีในการจัดการกับหลี่เซวียน หลี่หลงหลินทําคนเดียวไม่ได้ เขาต้องใช้พลังของตระกูลซู!ทันทีที่หลี่หลงหลินมาถึงหน้าบ้านตระกูลซู เขาก็ได้ยินเสียงดังเอะอะมาจากข้างในซูเฟิ่งหลิงที่ถือทวนเงินใส่ชุดเกราะเงิน สวมเสื้อคลุมสีแดงด้านหลัง มีไอสังหาร คํารามด้วยความโกรธ: “ท่านต้องการให้ข้าแต่งงานกับหลี่หลงหลินคนทรยศ!" ฝันไปเถอะ! ข้าจะฆ่าหลี่หลงหลินตอนนี้! เพื่อล้างแค้นให้ความภักดีของตระกูลซู! ”ซูเฟิ่งหลิงเมื่อรู้ว่าหลี่หลงหลินไม่เพียงแต่ยังไม่ตาย แต่ฝ่าบาทยังพระราชทานสมรสให้เขาแต
ฮูหยินผู้เฒ่าซูพยักหน้า “มีเหตุผล! แต่ว่า จะตามหาผู้อยู่เบื้องหลังอย่างไร?”หลี่หลงหลินยิ้ม “ง่ายมาก! เจ้าหกร่วมมือกับโม่เป่ยเผ่าหมาน ต้องมีการส่งจดหมายหากันอย่างแน่นอน! จดหมายเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะซ่อนในห้องหนังสือ! ขอเพียงลอบเข้าไปในห้องหนังสือ ขโมยจดหมายออกมา ก็จะได้หลักฐาน!”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเป็นปม “ง่ายดายเช่นนี้เชียวหรือ?”หลี่หลงหลินยักไหล่ “มิเช่นนั้นเล่า? เมียจ๋า หรือเจ้ามีความคิดอื่นที่ดีกว่านี้?”ดวงหน้างดงามของซูเฟิ่งหลิงฉายความโมโห “ขืนท่านเรียกข้าว่าเมียจ๋าอีก ข้าจะฆ่าท่านทิ้ง!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ย “พอแล้วๆ! พวกเจ้าสองสามีภรรยาหยุดทะเลาะกันได้แล้ว! ข้าคิดว่า ความคิดเห็นหลงหลิน ก็ใช้ได้! แต่ว่า ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด!”“เฟิ่งหลิง ด้วยความสามารถของเจ้า ลอบเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก ขโมยจดหมาย ไม่ใช่เรื่องยากกระมัง?”ซูเฟิ่งหลิงลังเลเล็กน้อย “ไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่รู้ว่าผังจวนขององค์ชายหกเป็นเช่นไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าห้องหนังสืออยู่ที่ใด”หลี่หลงหลินตบแผงอกแล้วพูด “เรื่องนี้ง่าย! เมื่อก่อนข
พรึ่บ!ม่านฉีกขาดโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืน ทว่าหลังม่านกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใด!หลี่เซวียนขมวดคิ้วเป็นปม!หรือตนคิดผิดแล้ว?เมื่อครู่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มีคนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน!หรือว่า อาศัยจังหวะตอนที่ตนส่งหลี่หลงหลินเพียงครู่หนึ่ง คนๆ นั้นหนีไปแล้ว?หลี่เซวียนหัวใจหล่นวูบ เดินไปที่โต๊ะหนังสือทันที พบว่าจดหมายมีร่องรอยถูกรื้อค้น“แย่แล้ว!”“ตกหลุมพรางแล้ว!”หลี่เซวียนรู้สึกคล้ายโลกหมุน รีบคว้าโต๊ะ ไม่ได้ล้มลงหลังจากผ่านไปนานในที่สุดหลี่เซวียนก็ตั้งสติได้ รีบเรียกพบซุนกวางเสี้ยวคนสนิทของตนซุนกวางเสี้ยวคุกเข่าทำความเคารพ “องค์ชาย องค์ชายมีอะไรให้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”หลี่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทหารหน่วยกล้าตายเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”ซุนกวางเสี้ยวตอบ “ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายเตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เคลื่อนกำลังพลได้ทุกเมื่อ!”หลี่เซวียนพยักหน้า “เยี่ยม! จางไป่เจิงนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เดินทางข้ามคืนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว เพื่อรบกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! รุ่งสางวันพรุ่งนี้ เราเคลื่อนกำลังพลก่อกบฏ เปลี่ยนราชวงศ์!”ซุนกวางเสี้ยวได้ยินเช่นนั้น ตะลึงงัน
องค์ชายหกวางแผนมานานหลายปี ในการก่อกบฏ คล้ายทุกอย่างแยบยลทว่าแท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น!กุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์ คือทหารพันนายของตระกูลซู!หลี่เซวียนอยากจะเป็นเขยของตระกูลซู อยากใช้ทหารตระกูลซูในการก่อกบฏทว่าหลี่หลงหลินชิงลงมือก่อน ใช้ทหารตระกูลซูรักษาความสงบ!ความสำเร็จของจักรพรรดิ คือการขยายอณาเขต ความสำเร็จของข้าราชบริพาร คือการรักษาความสงบและฟังคำสั่งของจักรพรรดิ!หากตระกูลซูพลิกวิกฤตได้ สยบความโกลาหล สร้างคุณงามความดีครั้งใหญ่ เช่นนั้นก็พลิกชะตาของตระกูลได้!เมื่อฮ่องเต้หวู่โสมนัส ต้องตกรางวัลอย่างงามแน่นอน!เวลานี้ตระกูลซูไร้บุรุษ เหลือเพียงหญิงหม้าย ภายใต้การสนับสนุนของจักรพรรดิ ใช่ว่าจะไม่อาจกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!เพียงแต่องค์ชายหกก็ไม่ได้โง่เขลา ในเมื่อเขารู้แล้วว่าจดหมายหายไป ต้องเตรียมความพร้อมอย่างแน่นอน วางกำลังทหารซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวง!สีหน้าของหลี่หลงหลินเคร่งขรึม ถอนหายใจ “ทางออกเดียวของตระกูลซู คือใช้ตราพยัคฆ์มาช่วย นำทหารที่เหลืออยู่มาสยบความโกลาหลในเมืองหลวง! แต่ว่า องค์ชายหกต้องขัดขวางอย่างแน่นอน การเดินทางครั้งนี้เปี่ยมไปด้วยอันตร
ฟ้าสลัวเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ...เสียงแส้แทรกผ่านอากาศ ดังก้องไปทั่วพระราชวังต้องห้ามขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊แบ่งเป็นสองแถว เดินเข้าไปในท้องพระโรงฮ่องเต้หวู่ในชุดเสื้อคลุมมังกร สวมมงกุฎ นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรเหนือศีรษะมีแผ่นป้ายสลักคำว่า ‘เที่ยงตรงโปร่งใส’ ทอประกายเจิดจ้า“ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!”บรรดาข้าราชบริพารคุกเข่าทำความเคารพ กล่าวคำสรรเสริญท่ามกลางขุนนาง หลี่หลงหลินคุกเข่าทำความเคารพเช่นเดียวกัน เก็บอาการวางตัวปกติ ทว่าสายตากลับกลอกไปมา พิจารณารอบๆเขาไม่ได้ตกใจในความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ทว่ากำลังสังเกตสีหน้าขององค์ชายทุกคนโดยเฉพาะองค์ชายหก คือคนที่หลี่หลงหลินสังเกตเป็นพิเศษองค์ชายหกสัมผัสได้ถึงสายตาของหลี่หลงหลิน แต่กลับแกล้งทำหน้านิ่ง สายตามองตรง ไม่มองมาที่เขาสิ่งนี้ทำให้หลี่หลงหลินหัวเราะในใจดูเหมือนกำลังร้อนตัว!“ทุกคนยืนขึ้นได้!”เสียงน่าเกรงขามของฮ่องเต้หวู่ ดังขึ้นจากด้านบนหลังจากบรรดาขุนนางลุกขึ้น ขันทีเว่ยซวินที่ยืนอยู่ข้างฮ่องเต้หวู่พูด “ผู้ใดต้องการถวายฎีกา นำขึ้นมาได้เลย!”บรรดาขุนนางนิ่งเงียบ ไม่มีใครเดินออกมาแ
ณ ท้องพระโรงเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นติดต่อกัน สีหน้าของบรรดาขุนนางด้านชาไปหมดขโมยเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงมากแล้วไม่มีใครคิดว่า องค์ชายเก้าจะก้าวออกมาด้วยตนเอง ยอมรับว่าตนคือคนร้ายคนนั้น?สมองของเขา ถูกลาเตะแล้วหรืออย่างไร?เขาคงไม่คิดว่า ฮ่องเต้หวู่ปล่อยเขาไปครั้งหนึ่งแล้ว จะยอมปล่อยเขาไปครั้งที่สองกระมังเวลานี้ ฮ่องเต้หวู่เหยียดกายลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร หัวเราะด้วยความพิโรธ “เจ้าเก้า เจ้าคิดอยากจะตาย เจตนาทำชั่ว อย่ากล่าวโทษข้าที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูก จับตัวลูกทรพีคนนี้ซะ!”“ช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้น ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูอ่อนแอ “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีเรื่องอยากจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่หัวเราะในลำคอ “ว่ามา!”ฮ่องเต้หวู่ดื้อรั้นไม่ฟังความเห็นของผู้อื่นก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นไม่ให้โอกาสลูกชายในการอธิบายยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็นึกสงสัยเช่นเดียวกันเจ้าเก้าเป็นคนขี้ขลาด ไม่เอาถ่าน ทว่าไม่ได้โง่เขลาและบ้าคลั่งถึงขั้นนี้!หลี่หลงหลินพูด “เสด็จพ่อ ตอนกระหม่อมไปขอโทษพี่หก ในห้องหนังสือของเขา กระหม่อมบัง
ฟึบฟึบฟึบ...ลูกศรพุ่งทะลุชั้นอากาศ ปลิดชีพทหารรักษาพระองค์ด้านข้างองค์ชายหกทันที!ซุนกวางเสี้ยวในชุดเกราะเดินสับเท้าเข้ามาหาหลี่เซวียนอย่างรวดเร็ว สองมือยื่นชุดเกราะและมีดยาวให้เขา : “กระหม่อมมาช้าไปหนึ่งก้าว ทำให้องค์ชายต้องตระหนก โปรดทรงอภัยด้วยพะยะค่ะ!”หลี่เซวียนสวมชุดเกราะพลางเหน็บมีด เอ่ยอย่างยิ้มเยาะ: “ไม่เป็นไร! ทุกอย่างอยู่ในแผนของเรา! ”เรา?เมื่อได้ยินหลี่เซวียนเรียกตัวเองว่าข้า ทุกคนในท้องพระโรงต่างก็แตกตื่น!ฝ่าบาทนั่งอยู่บนพระที่นั่งมังกร สีหน้ามืดมนและน่ากลัวมาก!เหล่าข้าราชการพลเรือนและทหารหลายร้อยคนพากันเอ่ยตำหนิ: “องค์ชายหก พระองค์กล้าที่จะกบฏ นี่เป็นความผิดร้ายแรง!" ”“เราคำนี้ พระองค์สามารถใช้แทนพระองค์เองได้งั้นหรือ?”“หรือว่า ท่านต้องการที่จะฆ่าบิดาแล้วก่อกบฏ? การเสียสติเช่นนี้ ฟ้าดินไม่อาจยอมรับได้! ท่านไม่กลัวถูกฟ้าผ่าหรือ? ”“ใช่! ท่านไม่กลัวจะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์หรือว่าท่านก่อกบฏ จนชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปหมื่นปี! ”หลี่เซวียนถือมีดยาวในมือ ยกขึ้นเหนือศีรษะและหัวเราะอย่างดุเดือด: “ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉาวโฉ่ไปหมื่นปี? ช่างน่าขัน! ในโลกนี้ ผู้อ่อนแอเป็
ว่ากันว่าพ่อเป็นเสือลูกไม่เป็นหมา!แต่ลูกชายตัวเองแต่ละคน ล้วนไร้ประโยชน์!เขาจะวางใจได้แต่งตั้งองค์รัชทายาท และมอบบ้านเมืองของต้าเซี่ย และประชาชนหลายล้านคนให้ไปอยู่ในมือพวกเขาได้ยังไง?“ห๊ะ?”และในขณะนี้ จู่ๆฝ่าบาทก็พบว่ามีร่างหนึ่งยืนอยู่กับที่ ไม่เพียงแต่ไม่กระวนกระวาย แต่เขายังแสดงสีหน้าสงบนิ่งอีกด้วย!แม้ภูเขาไท่ซานจะถล่มลงมาตรงหน้าสีหน้ายังไม่เปลี่ยน แม่น้ำหวงเหอตีบตันใบหน้าก็ยังไม่ตระหนก!เขาก็คือองค์ชายเก้าหลี่หลงหลิน!ฝ่าบาทขยี้ตามองอย่างสงสัยว่าตนมองผิดไปหรือไม่เจ้าเก้าเป็นบุตรของพระชายาโหรวดังคํากล่าวที่ว่า รักบ้านก็รักอีกาที่อยู่บนหลังคาบ้านนั้นด้วยพระชายาโหรวคือนางสนมคนโปรดของฝ่าบาท ย่อมต้องรักลูกชายของนางมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าเก้าเป็นคนไร้ประโยชน์จริงๆ ทำตัวไร้สาระมากๆ ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายที่เข้มงวดกับเขาก็หวังที่จะให้เขาดีขึ้น จึงไม่ได้คาดหวังอะไรอีก!หากเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อเจ้าเก้าต้องเผชิญกับการก่อกบฏ คงต้องร้องไห้หาพ่อร้องไห้หาแม่ และถึงขั้นกลัวจนฉี่รดได้! แต่ครั้งนี้การแสดงออกของเจ้าเก้านั้นเกินความคาดหมายของฝ่าบาทมากเขาไม
หลู่จงหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย จมอยู่ในภวังค์ความคิดเมื่อครั้งที่ที่ดินศักดินาตงไห่อยู่ภายใต้การดูแลของหลี่เทียนฉี่ด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือด อาศัยฐานะพี่เขยของฝ่าบาทของตนเอง ก็สามารถทำตามอำเภอใจในตงไห่ได้หากเปลี่ยนเป็นหลี่หลงหลิน แน่นอนว่าจะไม่ปล่อยปละละเลยตนเองเหมือนเช่นเคยองค์หญิงใหญ่กล่าวเสียงขรึม “ท่านลุง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะลังเล ข้าเสี่ยงภัยมาพึ่งพาท่าน ก็เพื่อต้องการให้ท่านชิงลงมือก่อน”“ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ ลงมือทีหลังย่อมเสียเปรียบ”“ชิงลงมือก่อน?”หัวใจของหลู่จงหมิงสั่นสะท้าน“ผิงเอ๋อร์ เจ้าหมายความว่า...?”หลู่จงหมิงเหลือบมองไปนอกห้องหนังสือโดยไม่รู้ตัว เกรงว่ากำแพงจะมีหู ประตูจะมีช่องหากแผนการลับเช่นนี้รั่วไหลออกไป นั่นคือโทษประหารชีวิตสถานเดียว!องค์หญิงใหญ่กดเสียงให้ต่ำลง “ตอนนี้เสด็จแม่สิ้นพระชนม์แล้ว ท่านพี่ใหญ่ถูกกักบริเวณในวังหลวง หากมิใช่เพราะข้าสละส่วนน้อยเพื่อรักษาชีวิตรอด หาทางหนีออกมาได้ เกรงว่าป่านนี้ข้าคงถูกหน่วยองครักษ์เสื้อแพรควบคุมตัวไปแล้ว ผลที่ตามมาย่อมคาดเดาไม่ได้!”“ตงไห่อุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยทรัพยากร ท่านลุงปกครองที่นี่มานานปี เกรงว่
นี่มันบ้านของตัวเองชัดๆ แต่คนชุดเทากลับทำท่าทีเหมือนเป็นเจ้าของ อีกทั้งนางยังรู้เรื่องสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดีคนที่เหลือในชุดเทาเข้าแถวเป็นสองแถว รับผิดชอบเฝ้าอยู่ทางซ้ายและขวาของห้องหนังสือหลู่จงหมิงไม่ลังเลเลย ก้าวไปข้างหน้า ทิ้งนายทหารไว้ด้านนอกห้องหนังสือภายในห้องหนังสือมืดสลัวไร้แสงขาดการซ่อมแซมมานาน เต็มไปด้วยฝุ่นหนาเตอะหลู่จงหมิงมองไปยังร่างของคนชุดเทา เอ่ยถามว่า “เจ้าเป็นใคร? เหตุใดจึงรู้จักบ้านตระกูลหลู่อย่างละเอียดเช่นนี้! ห้องหนังสือแห่งนี้มีเพียงท่านพ่อผู้ล่วงลับเท่านั้นที่มักจะกลับมาเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ คนทั่วไปไม่มีทางรู้ตำแหน่งนี้ได้”พรึ่บ!คนชุดเทาถอดผ้าคลุมผืนใหญ่ออก เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามน่าตะลึงชั่วขณะหนึ่ง หลู่จงหมิงนิ่งตะลึงอยู่กับที่เขาไม่เคยเห็นสตรีใดในโลกที่งดงามล่มบ้านล่มเมือง งามเลิศล้ำถึงเพียงนี้มาก่อนแต่เพียงไม่นาน สีหน้ายินดีของหลู่จงหมิงก็แปรเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก“องค์หญิงใหญ่?”หลู่จงหมิงเพิ่งจำได้ว่าคนตรงหน้าคือองค์หญิงใหญ่ตัวจริงเสียงจริง!องค์หญิงใหญ่ยิ้มแย้ม “ท่านลุง ด้านนอกมีสายอยู่มากมาย เพื่อความปลอดภัย ข้าจึงต้องทำเช่น
ตงไห่ภายในจวนตระกูลหลู่ ทุกอย่างยังคงสงบราบรื่นดุจผืนน้ำไร้คลื่นลมไม่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในราชสำนักแม้แต่น้อยมีคำกล่าวว่า ฟ้าย่อมสูง ฮ่องเต้ย่อมไกลตราบใดที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางอำนาจมากพอผลกระทบที่ได้รับก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้นแม้พี่เขยของฝ่าบาท หลู่จงหมิง จะไม่ใช่ขุนนางใหญ่ในราชสำนักแต่ที่ตงไห่แห่งนี้ เขากลับมีอำนาจล้นฟ้า คำพูดถือเป็นประกาศิตยิ่งไปกว่านั้น เขตศักดินาทั้งหมดของตงไห่ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นของหลานชายของเขา หลี่เทียนฉี่หลู่จงหมิงจึงยิ่งเหิมเกริมบ้าอำนาจในตงไห่ ทำทุกอย่างตามใจปรารถนาหลู่จงหมิงสวมชุดคลุมมังกรทับร่างกำยำ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง รูปร่างสูงใหญ่ดุจขุนเขา เอนกายนั่งบนเก้าอี้เท้าแขนตัวใหญ่ มือข้างหนึ่งหมุนถ้วยชาในมือเล่น“ได้ยินมาว่าช่วงนี้ สถานการณ์ในราชสำนักมีการเปลี่ยนแปลง?”ผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลู่จงหมิงคือเสนาธิการใต้บังคับบัญชาของหลี่เทียนฉี่ปกติแล้วหลี่เทียนฉี่มัวแต่ยุ่งกับการต่อสู้แย่งชิงในราชสำนัก ไม่มีเวลามาดูแลเขตศักดินาตงไห่ดังนั้น เรื่องน้อยใหญ่ทั้งหลายในตงไห่จึงล้วนผ่านการกลั่นกรองโดยเสนาธิการก่อนจะส่งมอบให้ห
แผนการที่เดิมทีนางเห็นว่าไร้ช่องโหว่โดยสิ้นเชิง กลับไร้ผลต่อหลี่หลงหลินไม่เพียงแต่แผนจะล้มเหลวไม่เป็นท่า ซ้ำร้ายยังย้อนกลับมาทำร้ายตนเององค์หญิงใหญ่ขมวดคิ้ว นางถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง “หรือว่าชั่วชีวิตนี้ข้าถูกลิขิตให้ต้องพ่ายแพ้แก่หลี่หลงหลินผู้นี้หรือ? ข้าไม่ยอม!”“องค์หญิง! มีสาส์นลับจากในวังส่งมาเพคะ”แม้ว่าองค์หญิงใหญ่จะเพิ่งเสด็จกลับจากตงอิ๋ง แต่ในราชสำนักก็มีสายสืบของนางแทรกซึมอยู่ก่อนแล้ว หากไม่เป็นเช่นนั้น นางคงไม่กล้าพอที่จะงัดข้อกับหลี่หลงหลิน ถึงกระนั้น นางก็ยังคงพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เคยได้เปรียบจากเงื้อมมือของหลี่หลงหลินเลยแม้แต่น้อยองค์หญิงใหญ่ใช้มือกุมหน้าผาก เอ่ยเสียงเข้ม “มีข่าวร้ายอันใดมาให้ข้าอีกแล้ว”คนสนิทส่งสาส์นลับขึ้นมา “องค์หญิง โปรดทอดพระเนตรด้วยพระองค์เองเพคะ”องค์หญิงใหญ่เปิดสาส์นลับตรงหน้า ข้อความปรากฏสู่สายตาอย่างรวดเร็ว แต่นางกลับนิ่งค้างราวกับกลายเป็นหิน อ้าปากค้าง ไม่อาจเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาได้เป็นนานในสาส์นลับมีเพียงตัวอักษรไม่กี่คำ ฮองเฮาหลู่...หายสาบสูญ“นี่...นี่มันเป็นไปไม่ได้”องค์หญิงใหญ่มิได้แปลกใจกับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย อั
วันต่อมาเว่ยซวินจัดการงานเรียบร้อยอย่างมากแต่เรื่องฮองเฮาหลู่หายตัวไปกลับแพร่สะพรัดไปทั่วโดยที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยถึง ทันใดนั้นกลายเป็นเรื่องที่เหล่าขุนนางในราชสำนักซุบซิบนินทากันอย่างสนุกปากย่อมมีคนไม่น้อยปะติดปะต่อเรื่องนี้เข้ากับงานแต่งของหลี่หลงหลินเมื่อวานราชสำนักกำลังเอะอะอึกทึกครึกโครมภายในตำหนักข้างแห่งหนึ่งของพระราชวังต้องห้ามหลี่เทียนฉี่เดินเล่นภายในสวนไม่นับว่าใหญ่เหมือนที่ผ่านมาหากไม่เกิดเหตุไม่คาดฝัน สวนเล็กนี้ไปจนถึงตำหนักข้างจะกลายเป็นที่พำนักของหลี่เทียนฉี่ในช่วงบั้นปลายชีวิตตอนนี้เขาถูกริบอำนาจทั้งหมดไปแล้ว เว้นเสียแต่อำนาจในการมีชีวิตอยู่ที่ไม่ถูกลิดรอนไปนี่คือวิธีโหดเหี้ยมอย่างที่สุดฆ่าคนยังไม่โหดร้ายเท่าทำลายจิตใจหลี่เทียนฉี่ขมวดคิ้วแน่น อิงตามจดหมายลับที่ส่งมาจากวังเมื่อหลายวันก่อนเป็นไปตามคาดหลังงานแต่งของหลี่หลงหลิน องค์หญิงใหญ่จะขยายอำนาจสู่จุดสูงสุดจะตัดรากถอนโคนหลี่หลงหลินถึงตอนนั้นความผิดโทษฐานกบฏของหลี่เทียนฉี่จะถูกลบล้างเขาจะได้รับสิ่งที่สมควรเป็นของเขาทั้งหมดใหม่อีกครั้งหลี่เทียนฉี่กำลังรอรอข่าวดีที่ไม่มีวันมาถึงตึกตึกตึก!
พูดพลาง ฮองเฮาหลู่เดินออกไปภายนอกด้วยตนเองชั่วขณะนั้น นางรู้สึกราวกับได้อำนาจกลับคืนมา!ชิ้ง!แสงเงินสายหนึ่งวูบไหวองครักษ์เสื้อแพรสองคนชักดาบออกจากฝัก คมดาบขวางหน้าฮองเฮาหลู่เอาไว้สีหน้าฮองเฮาหลู่ตกตะลึงพรึงเพริด “เว่ยกงกง นี่หมายความอะไร?”เว่ยซวินยิ้มจางๆ “ฮองเฮาหลู่ น่ากลัวว่าท่านเข้าใจความนัยของกระหม่อมผิดไปแล้ว”เสียงฮองเฮาหลูสั่นเครือ “เจ้าไม่ได้มารับข้ากลับตำหนักเฟิ่งซีหรือ?”เว่ยซวินส่ายหน้า “เปล่าพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมาส่งท่านออกเดินทาง”“เดิน...เดินทาง?”ฮองเฮาหลู่เซถลาไปหนึ่งก้าว ล้มลงบนพื้นแสงเทียนสลัวตัดกับแสงเย็นของดวงจันทร์สะท้อนลงบนใบหน้าเผือดซีดของฮองเฮาหลู่“นี่เป็นไปไม่ได้!”“ใครส่งเจ้ามา!”“บังอาจ! เจ้าเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งข้างกายข้าเท่านั้น เจ้าก็กล้าคิดเอาชีวิตฆ่า! หรือเจ้าไม่กลัวฮ่องเต้หวู่ลงโทษเจ้า?”เว่ยซวินผลิยิ้มขมปร่า โยนผ้าแพรขาวยาวสามฉื่อลงบนตัวฮองเฮาหลู่“ฮองเฮาหลู่ เป็นท่านลงมือด้วยตนเอง หรือจะให้กระหม่อมช่วยท่าน?”ยามได้เห็นผ้าแพรขาวพระราชทานนั้นสมองของฮองเฮาหลู่ขาวโพลนในทันใดนางไม่เข้าใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจตกลงเกิดเรื่องใดข
หลังสะใภ้ทั้งสี่จากไปภายนอกห้องหอก็กลับมาเงียบลงดังเดิมหลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ “เห็นทีพวกพี่สะใภ้ล้วนไปทั้งหมดแล้ว”ภายใต้แสงเทียนพลิ้วไหว ใบหน้ารูปไข่ของซูเฟิ่งหลิงมองดูแล้วอ่อนโยนงดงามมากยิ่งขึ้นหลี่หลงหลินเป่าเทียน โอบซูเฟิ่งหลิงไว้ในอ้อมกอดซูเฟิ่งหลิงอิงแอบอยู่ภายในอ้อมกอดของหลี่หลงหลิน พูดพึมพำ “พวกพี่สะใภ้นี่จริงๆ เลย...ทำให้ข้าอายแทบแย่”หลี่หลงหลินหัวเราะ “พวกพี่สะใภ้ก็แค่กังวล หวังว่าพวกเราจะมีทายาทสืบสกุลให้สกุลหลี่โดยเร็วก็เท่านั้น”มีทายาทสืบสกุลคือเรื่องใหญ่ของการแต่งงานก่อนแต่งงานซูเฟิ่งหลิงเคยได้ยินพี่สะใภ้สี่กำชับมาก่อนซูเฟิ่งหลิงช้อนดวงตาใสซื่อไร้พิษสงขึ้นและถามว่า “จะทำเช่นไร จูบปากตอนนี้หรือ?”หลี่หลงหลินมีเหงื่อผุด รู้สึกระอาภายในใจ “หรือว่าพี่สะใภ้สี่สอนเพียงแค่นี้? ดูท่าแล้วยังต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างข้าสอนด้วยตนเอง”คืนนั้นทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงกันตลอดคืน เสียงเตียงสั่นไหวไม่หยุดตำหนักเย็นตำหนักเย็นที่เคยถูกไฟไหม้มาก่อนมีซากปรักหักพังทั่วทุกหนแห่งฮ่องเต้หวู่ตัดสินใจลืมที่แห่งนี้ไปจนสิ้นไม่มีวันส่งคนมาซ่อมแซมนอกจากตำหนักเย็นแล้ว พระร
กงซูหว่านสำรวจลั่วอวี้จู๋และหลิ่วหรูเยียน “เหตุใดทั้งสองท่านถึงมาอยู่ที่นี่...”หลิ่วหรูเยียนพูดว่า “ข้ามาเก็บผลการเรียนของนักเรียน...”ใบหน้าลั่วอวี้จู๋แดงเรื่อ “ข้าเพียงตื่นกลางดึก บังเอิญผ่านมา เจ้าอย่าเข้าใจผิดเล่า”หลิ่วหรูเยียนพูดยิ้มๆ “ตอนนี้ก็เหลือเพียงพี่สะใภ้สามแล้ว...”กงซูหว่านส่ายหน้าและพูดว่า “ชิงไต้ไม่มีวันทำเรื่องเช่นนี้อย่างแน่นอน น่ากลัวว่านางคงนอนหลับฝันไปตั้งนานแล้ว...”“ชู่ว์!”“อย่าดัง!”“ข้าได้ยินไม่ชัดว่าพวกเขาสองคนกำลังพูดอะไร!”เสียงคุ้นหูสายหนึ่งดังขึ้นทางด้านบนแต่กลับได้ยินเพียงเสียง มองไม่เห็นคนหลิ่วหรูเยียนพูดเสียงเครียด “ข้าได้ยินไม่ผิดไปกระมัง เมื่อครู่คล้ายเสียงของพี่สะใภ้สาม”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าลง ชี้ไปด้านหลังต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น “เจ้าได้ยินไม่ผิดจริงนั่นล่ะ คนก็อยู่บนนั้นอย่างไรเล่า...”หันมองตามนิ้วมือของลั่วอวี้จู๋ไม่รู้ซุนชิงไต้ปรากฏตัวบนต้นไม้ตั้งแต่ยามใด บัดนี้อยู่เหนือศีรษะตนหลิ่วหรูเยียนพูดเบาๆ “เลื่อมใส เลื่อมใสจริงๆ ยังเป็นพี่สะใภ้สามฝีมือเหนือชั้น”ซุนชิงไต้กระโดดลงจากต้นไม้ มาหยุดข้างกายทั้งสามคนสบสายตากัน ทำเพียงยิ้มรับ
ใบหน้าลั่วอวี้จู๋แดงเรื่อ ไม่อาจรับมือในทันทีเลยได้ยามตนเองเพิ่งมาถึง ยังไม่ได้เริ่มแอบดูก็ถูกหลิ่วหรูเยียนจับได้แล้วหลิ่วหรูเยียนจับจ้องลั่วอวี้จู๋อย่างสงสัย ลดเสียงให้เบาลง “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านคงไม่ใช่อยากมาแอบดูหรอกกระมัง?”ใบหน้าลั่วอวี้จู๋แดงยิ่งขึ้น พูดอ้ำอึ้ง “ข้าเพียงดื่มชาตอนกลางคืนมากไปจึงตื่นขึ้นมากลางดึกก็เท่านั้น! บังเอิญผ่านมา!”หลิ่วหรูเยียนเผยรอยยิ้มมีเลศนัย “พี่สะใภ้ใหญ่ หากข้าจำไม่ผิด ห้องที่ท่านอยู่คล้ายไม่ได้มาทางนี้กระมัง?”ลั่วอวี้จู๋ทำเป็นไม่รับรู้ แสร้งไม่ได้ยิน ย่อตัวลงข้างหลิ่วหรูเยียน “ในเมื่อมาแล้ว แอบฟังสักหน่อยจะเป็นไรไป”หลิ่วหรูเยียนยิ้มน้อยๆ หลีกทางให้ลั่วอวี้จู๋อย่างรู้ความสองคนได้ยินเสียงหยอกเย้าภายในห้องหอ เพลิดเพลินอย่างมาก“หรูเยียน ยังเป็นเจ้ารู้จักเลือกที่ คิดไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะได้ยินชัดถึงเพียงนี้”ฟังเพียงเสียงที่ดังออกมาจากห้องหอ ทั้งสองคนก็สามารถนึกภาพออกได้ว่าเกิดอันใดขึ้นภายในห้องหอแล้วเพียะ!เสียงอิฐบนกำแพงด้านหนึ่งหล่นลงมา“มีคน!”เสียงร้องเตือนของซูเฟิ่งหลิงภายในห้องหอดังขึ้นหลิ่วหรูเยียนและลั่วอวี้จู๋ต่างตึงเครียดขึ้นม