แชร์

บทที่ 12

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
พรึ่บ!

ม่านฉีกขาดโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืน ทว่าหลังม่านกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใด!

หลี่เซวียนขมวดคิ้วเป็นปม!

หรือตนคิดผิดแล้ว?

เมื่อครู่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มีคนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน!

หรือว่า อาศัยจังหวะตอนที่ตนส่งหลี่หลงหลินเพียงครู่หนึ่ง คนๆ นั้นหนีไปแล้ว?

หลี่เซวียนหัวใจหล่นวูบ เดินไปที่โต๊ะหนังสือทันที พบว่าจดหมายมีร่องรอยถูกรื้อค้น

“แย่แล้ว!”

“ตกหลุมพรางแล้ว!”

หลี่เซวียนรู้สึกคล้ายโลกหมุน รีบคว้าโต๊ะ ไม่ได้ล้มลง

หลังจากผ่านไปนาน

ในที่สุดหลี่เซวียนก็ตั้งสติได้ รีบเรียกพบซุนกวางเสี้ยวคนสนิทของตน

ซุนกวางเสี้ยวคุกเข่าทำความเคารพ “องค์ชาย องค์ชายมีอะไรให้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”

หลี่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทหารหน่วยกล้าตายเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”

ซุนกวางเสี้ยวตอบ “ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายเตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เคลื่อนกำลังพลได้ทุกเมื่อ!”

หลี่เซวียนพยักหน้า “เยี่ยม! จางไป่เจิงนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เดินทางข้ามคืนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว เพื่อรบกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! รุ่งสางวันพรุ่งนี้ เราเคลื่อนกำลังพลก่อกบฏ เปลี่ยนราชวงศ์!”

ซุนกวางเสี้ยวได้ยินเช่นนั้น ตะลึงงัน “องค์ชาย! เคลื่อนกำลังพลรุ่งสางวันพรุ่งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ? เร่งด่วนเกินไปหรือไม่? เวลานั้น อย่างมากทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ไกลออกไปเพียงร้อยลี้เท่านั้น! หากพวกเขานำทัพกลับมา แผนการที่เราวางมาหลายปี จะสูญเปล่าพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยังมีทหารพันกว่านายของตระกูลซูอีก เรายังไม่อาจทำให้พวกเขาแปรพักตร์...”

หลี่เซวียนสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าย่อมรู้ดีว่า เร่งด่วนเกินไป! หากเตรียมการอีกสามสี่วัน ทำให้ทหารตระกูลซูแปรพักตร์มาได้ จะไม่มีข้อผิดพลาด! แต่ว่า...”

“ไม่ทันการแล้ว!”

“มีคนลักลอบเข้ามาในห้องหนังสือของข้า ขโมยจดหมายระหว่างข้ากับเผ่าหมาน!”

“พรุ่งนี้ในราชสำนัก คนๆ นี้ต้องรายงานเรื่องของข้าอย่างแน่นอน!”

“นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเคลื่อนกำลังพลของข้า!”

“ชนะเป็นราชัน แพ้เป็นโจร ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้!”

ซุนกวางเสี้ยวตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น พูด “เช่นนั้นจะรายงานใต้เท้าคนนั้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ...”

หลี่เซวียนกำหมัดแน่น ส่ายหน้า “ไม่ต้อง! ถึงอย่างไรเขาก็ดูแคลนข้ามาโดยตลอด คิดว่าข้าไม่อาจทำการใหญ่ได้! ครั้งนี้ หากข้าทำเสร็จ เขาต้องยอมศิโรราบใต้ฝ่าเท้า ก้มหัวให้ข้าแน่นอน!”

“จริงด้วย! เจ้าส่งคนไปซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวงด้วย! เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด!”

ซุนกวางเสี้ยวโค้งคำนับ “พ่ะย่ะค่ะ!”

อีกด้านหนึ่ง

ซูเฟิ่งหลิงกลับถึงตระกูลซู ด้วยสภาพน่าเวทนา

หลี่หลงหลินถึงก่อนแล้ว สีหน้าฉายความผ่อนคลาย จิบน้ำชากับฮูหยินผู้เฒ่าซู

ซูเฟิ่งหลิงโมโห พุ่งตัวไปใกล้ ชี้หน้าด่าหลี่หลงหลิน “คนสารเลว! ท่านรู้หรือไม่ ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! หากไม่ใช่เพราะข้าหนีออกมาได้ทันเวลา ข้าคงถูกองค์ชายหกจับตัวไปแล้ว!”

หลี่หลงหลินวางถ้วยน้ำชาลง พูดด้วยรอยยิ้ม “หากไม่ใช่เพราะข้าปรากฏตัวทันเวลา เจ้าอยู่ในกำมือขององค์ชายหกไปแล้ว! เจ้าควรขอบคุณข้าต่างหาก ตำหนิข้าได้อย่างไร?”

ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาล “ขอบคุณกับผีหน่ะสิ! ท่านยังบอกอีกว่าจะหย่ากับข้า ท่านๆๆ...น่าโมโหจริงๆ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูพูดไกล่เกลี่ย “หลานรัก อย่าเพิ่งทะเลาะกัน! จดหมายการติดต่อระหว่างองค์ชายหกกับเผ่าหมานล่ะ? หลานเอามาได้หรือไม่?”

พวงแก้มของซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ ก้มหน้าลง “ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าเพิ่งแอบเข้าไปในห้องหนังสือ องค์ชายหกก็ปรากฏตัวแล้ว ทั้งยังเกือบจับข้าได้ ตอนหลังข้ารีบเผ่นหนี จึงลืมเรื่องจดหมายไปเสียสนิท”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูทอดถอนหายใจ “เฮ้อ! เจ้าหนอ ฝึกวรยุทธ์จนโง่เขลา! ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องฆ่าแกง เรื่องเล็กแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ...”

พู่...

หลี่หลงหลินได้ยินซูเฟิ่งหลิงถูกด่อทอ อดไม่ได้ที่จะพ่นน้ำชาในปากออกมา

ซูเฟิ่งหลิงน้อยอกน้อยใจ เห็นหลี่หลงหลินหัวเราะเยาะตนเอง ยิ่งโมโห “หัวเราะ! ท่านยังมีหน้ามาหัวเราะอีก! ทั้งหมดเป็นเพราะท่านเป็นตัวถ่วง มิเช่นนั้น ข้าคงไม่ถูกท่านย่าดุด่า...”

หลี่หลงหลินหยิบจดหมายออกมาหนึ่งฉบับจากแขนเสื้อ วางไว้บนโต๊ะ “เจ้าอย่าโยนความผิดให้ผู้อื่น! เจ้าทำพลาด เป็นเพราะตัวเจ้าโง่เขลา! แต่ข้าทำสำเร็จ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูและซูเฟิ่งหลิงมองไปทางเดียวกัน เห็นจดหมายมีลายมือของ ‘องค์ชายหก’ มีการลงนามของแม่ทัพจาเอ๋อร์ปาแห่งเผ่าหมาน

ซูเฟิ่งหลิงเบิกตากว้าง พูดด้วยความตกตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร? ท่านเอามาเมื่อใด?”

หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “เจ้าอย่ายุ่ง! ถึงอย่างไร ก็มีหลักฐานแน่นหนาแล้ว โค่นองค์ชายหกได้แน่นอน!”

เสียงของฮูหยินผู้เฒ่าซูสั่นเทา “เปิดจดหมาย ข้าอยากดูสิว่า องค์ชายหกทำร้ายตระกูลซูอย่างไร!”

หลี่หลงหลินส่ายหน้าแล้วพูด “ไม่จำเป็น! เนื้อความในใจจดหมาย ข้าอ่านแล้ว เป็นหลักฐานการขายชาติขององค์ชายหกจริงๆ!”

“สำหรับต้าเซี่ย เป็นเรื่องอื้อฉาว ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าใดก็ยิ่งดี”

“หากตระกูลซูรู้เนื้อความในจดหมาย เกรงว่าเสด็จพ่อจะเกลียดแค้น!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูได้ยินเช่นนั้น เหงื่อท่วมตัวทันที “องค์ชายเก้าพูดถูก! เนื้อความในจดหมายฉบับนี้ พวกข้าไม่อ่านจะเป็นการดีที่สุด!”

หลี่หลงหลินกดเสียงลงต่ำ พูด “แต่ว่า! พี่หกเป็นคนร้ายกาจ! เขาต้องเห็นความผิดปกติแล้ว เกรงว่าจะเป็นสุนัขจนตรอก เช้าวันพรุ่งนี้ เคลื่อนกำลังทหารก่อกบฏก็เป็นได้!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกตะลึง “ก่อกบฏ? องค์ชายหกใจกล้ายิ่งนัก แต่ว่า ทหารรักษาพระองค์เดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว เมืองหลวงไร้กำลังทหาร ในวังหลวงเหลือทหารรักษาการณ์ไม่กี่ร้อยนายเท่านั้น!”

“หากองค์ชายหกอาศัยโอกาสนี้ก่อกบฏ แล้วจะทำอย่างไร?”

ดวงตาของหลี่หลงหลินทอประกาย “เหล่าไท่จวิน ตราพยัคฆ์ทหารตระกูลซูอยู่กับท่านหรือไม่?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกใจ “ตราพยัคฆ์อยู่กับข้า! แต่ท่านจะเอาตราพยัคฆ์ไปทำอะไร? หรือว่า...”

หลี่หลงหลินพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “ถูกต้อง! ตราพยัคฆ์นี้ เป็นกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์!”
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Wisarat Taythong
นิยายสนุกมากๆๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 13

    องค์ชายหกวางแผนมานานหลายปี ในการก่อกบฏ คล้ายทุกอย่างแยบยลทว่าแท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น!กุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์ คือทหารพันนายของตระกูลซู!หลี่เซวียนอยากจะเป็นเขยของตระกูลซู อยากใช้ทหารตระกูลซูในการก่อกบฏทว่าหลี่หลงหลินชิงลงมือก่อน ใช้ทหารตระกูลซูรักษาความสงบ!ความสำเร็จของจักรพรรดิ คือการขยายอณาเขต ความสำเร็จของข้าราชบริพาร คือการรักษาความสงบและฟังคำสั่งของจักรพรรดิ!หากตระกูลซูพลิกวิกฤตได้ สยบความโกลาหล สร้างคุณงามความดีครั้งใหญ่ เช่นนั้นก็พลิกชะตาของตระกูลได้!เมื่อฮ่องเต้หวู่โสมนัส ต้องตกรางวัลอย่างงามแน่นอน!เวลานี้ตระกูลซูไร้บุรุษ เหลือเพียงหญิงหม้าย ภายใต้การสนับสนุนของจักรพรรดิ ใช่ว่าจะไม่อาจกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!เพียงแต่องค์ชายหกก็ไม่ได้โง่เขลา ในเมื่อเขารู้แล้วว่าจดหมายหายไป ต้องเตรียมความพร้อมอย่างแน่นอน วางกำลังทหารซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวง!สีหน้าของหลี่หลงหลินเคร่งขรึม ถอนหายใจ “ทางออกเดียวของตระกูลซู คือใช้ตราพยัคฆ์มาช่วย นำทหารที่เหลืออยู่มาสยบความโกลาหลในเมืองหลวง! แต่ว่า องค์ชายหกต้องขัดขวางอย่างแน่นอน การเดินทางครั้งนี้เปี่ยมไปด้วยอันตร

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 14

    ฟ้าสลัวเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ...เสียงแส้แทรกผ่านอากาศ ดังก้องไปทั่วพระราชวังต้องห้ามขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊แบ่งเป็นสองแถว เดินเข้าไปในท้องพระโรงฮ่องเต้หวู่ในชุดเสื้อคลุมมังกร สวมมงกุฎ นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรเหนือศีรษะมีแผ่นป้ายสลักคำว่า ‘เที่ยงตรงโปร่งใส’ ทอประกายเจิดจ้า“ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!”บรรดาข้าราชบริพารคุกเข่าทำความเคารพ กล่าวคำสรรเสริญท่ามกลางขุนนาง หลี่หลงหลินคุกเข่าทำความเคารพเช่นเดียวกัน เก็บอาการวางตัวปกติ ทว่าสายตากลับกลอกไปมา พิจารณารอบๆเขาไม่ได้ตกใจในความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ทว่ากำลังสังเกตสีหน้าขององค์ชายทุกคนโดยเฉพาะองค์ชายหก คือคนที่หลี่หลงหลินสังเกตเป็นพิเศษองค์ชายหกสัมผัสได้ถึงสายตาของหลี่หลงหลิน แต่กลับแกล้งทำหน้านิ่ง สายตามองตรง ไม่มองมาที่เขาสิ่งนี้ทำให้หลี่หลงหลินหัวเราะในใจดูเหมือนกำลังร้อนตัว!“ทุกคนยืนขึ้นได้!”เสียงน่าเกรงขามของฮ่องเต้หวู่ ดังขึ้นจากด้านบนหลังจากบรรดาขุนนางลุกขึ้น ขันทีเว่ยซวินที่ยืนอยู่ข้างฮ่องเต้หวู่พูด “ผู้ใดต้องการถวายฎีกา นำขึ้นมาได้เลย!”บรรดาขุนนางนิ่งเงียบ ไม่มีใครเดินออกมาแ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 15

    ณ ท้องพระโรงเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นติดต่อกัน สีหน้าของบรรดาขุนนางด้านชาไปหมดขโมยเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงมากแล้วไม่มีใครคิดว่า องค์ชายเก้าจะก้าวออกมาด้วยตนเอง ยอมรับว่าตนคือคนร้ายคนนั้น?สมองของเขา ถูกลาเตะแล้วหรืออย่างไร?เขาคงไม่คิดว่า ฮ่องเต้หวู่ปล่อยเขาไปครั้งหนึ่งแล้ว จะยอมปล่อยเขาไปครั้งที่สองกระมังเวลานี้ ฮ่องเต้หวู่เหยียดกายลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร หัวเราะด้วยความพิโรธ “เจ้าเก้า เจ้าคิดอยากจะตาย เจตนาทำชั่ว อย่ากล่าวโทษข้าที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูก จับตัวลูกทรพีคนนี้ซะ!”“ช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้น ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูอ่อนแอ “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีเรื่องอยากจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่หัวเราะในลำคอ “ว่ามา!”ฮ่องเต้หวู่ดื้อรั้นไม่ฟังความเห็นของผู้อื่นก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นไม่ให้โอกาสลูกชายในการอธิบายยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็นึกสงสัยเช่นเดียวกันเจ้าเก้าเป็นคนขี้ขลาด ไม่เอาถ่าน ทว่าไม่ได้โง่เขลาและบ้าคลั่งถึงขั้นนี้!หลี่หลงหลินพูด “เสด็จพ่อ ตอนกระหม่อมไปขอโทษพี่หก ในห้องหนังสือของเขา กระหม่อมบัง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 16

    ฟึบฟึบฟึบ...ลูกศรพุ่งทะลุชั้นอากาศ ปลิดชีพทหารรักษาพระองค์ด้านข้างองค์ชายหกทันที!ซุนกวางเสี้ยวในชุดเกราะเดินสับเท้าเข้ามาหาหลี่เซวียนอย่างรวดเร็ว สองมือยื่นชุดเกราะและมีดยาวให้เขา : “กระหม่อมมาช้าไปหนึ่งก้าว ทำให้องค์ชายต้องตระหนก โปรดทรงอภัยด้วยพะยะค่ะ!”หลี่เซวียนสวมชุดเกราะพลางเหน็บมีด เอ่ยอย่างยิ้มเยาะ: “ไม่เป็นไร! ทุกอย่างอยู่ในแผนของเรา! ”เรา?เมื่อได้ยินหลี่เซวียนเรียกตัวเองว่าข้า ทุกคนในท้องพระโรงต่างก็แตกตื่น!ฝ่าบาทนั่งอยู่บนพระที่นั่งมังกร สีหน้ามืดมนและน่ากลัวมาก!เหล่าข้าราชการพลเรือนและทหารหลายร้อยคนพากันเอ่ยตำหนิ: “องค์ชายหก พระองค์กล้าที่จะกบฏ นี่เป็นความผิดร้ายแรง!" ”“เราคำนี้ พระองค์สามารถใช้แทนพระองค์เองได้งั้นหรือ?”“หรือว่า ท่านต้องการที่จะฆ่าบิดาแล้วก่อกบฏ? การเสียสติเช่นนี้ ฟ้าดินไม่อาจยอมรับได้! ท่านไม่กลัวถูกฟ้าผ่าหรือ? ”“ใช่! ท่านไม่กลัวจะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์หรือว่าท่านก่อกบฏ จนชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปหมื่นปี! ”หลี่เซวียนถือมีดยาวในมือ ยกขึ้นเหนือศีรษะและหัวเราะอย่างดุเดือด: “ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉาวโฉ่ไปหมื่นปี? ช่างน่าขัน! ในโลกนี้ ผู้อ่อนแอเป็

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 17

    ว่ากันว่าพ่อเป็นเสือลูกไม่เป็นหมา!แต่ลูกชายตัวเองแต่ละคน ล้วนไร้ประโยชน์!เขาจะวางใจได้แต่งตั้งองค์รัชทายาท และมอบบ้านเมืองของต้าเซี่ย และประชาชนหลายล้านคนให้ไปอยู่ในมือพวกเขาได้ยังไง?“ห๊ะ?”และในขณะนี้ จู่ๆฝ่าบาทก็พบว่ามีร่างหนึ่งยืนอยู่กับที่ ไม่เพียงแต่ไม่กระวนกระวาย แต่เขายังแสดงสีหน้าสงบนิ่งอีกด้วย!แม้ภูเขาไท่ซานจะถล่มลงมาตรงหน้าสีหน้ายังไม่เปลี่ยน แม่น้ำหวงเหอตีบตันใบหน้าก็ยังไม่ตระหนก!เขาก็คือองค์ชายเก้าหลี่หลงหลิน!ฝ่าบาทขยี้ตามองอย่างสงสัยว่าตนมองผิดไปหรือไม่เจ้าเก้าเป็นบุตรของพระชายาโหรวดังคํากล่าวที่ว่า รักบ้านก็รักอีกาที่อยู่บนหลังคาบ้านนั้นด้วยพระชายาโหรวคือนางสนมคนโปรดของฝ่าบาท ย่อมต้องรักลูกชายของนางมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าเก้าเป็นคนไร้ประโยชน์จริงๆ ทำตัวไร้สาระมากๆ ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายที่เข้มงวดกับเขาก็หวังที่จะให้เขาดีขึ้น จึงไม่ได้คาดหวังอะไรอีก!หากเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อเจ้าเก้าต้องเผชิญกับการก่อกบฏ คงต้องร้องไห้หาพ่อร้องไห้หาแม่ และถึงขั้นกลัวจนฉี่รดได้! แต่ครั้งนี้การแสดงออกของเจ้าเก้านั้นเกินความคาดหมายของฝ่าบาทมากเขาไม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 18

    “ทหารตระกูลซู!”“คุ้มกัน!”ซูเฟิ่งหลิงถือทวนไว้ในมือ ชี้ขึ้นไปบนฟ้า!ทหารตระกูลซูตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน: “ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ”ไอสังหารอันมหึมา สะเทือนโลก!ฉากนี้ทําให้ทุกคนตะลึง!เหล่าองค์ชายและเหล่านางทหารต่างไม่ต้องพูดอะไร เมื่อเห็นกองกำลังเสริมมาถึง ทุกคนต่างก็ดีใจและร้องไห้ออกมา“รอดแล้ว!”“เรารอดแล้ว!”“แม่ทัพหญิงคนนี้น่าเกรงขาม สตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษ นางเป็นใคร?”แม้ว่าชื่อเสียงของซูเฟิ่งหลิงจะโด่งดังมากอย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นซูเฟิ่งหลิงตัวจริงนอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ก็ยากมากที่จะจับคู่แม่ทัพหญิงผู้เลอโฉมสวยในชุดเกราะสีเงินและเสื้อคลุมสีแดง กับฉายาที่ร่ำลือกันว่าเป็นเสือโคร่งฝ่าบาทเองก็ตกใจเช่นกัน: “ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ทัพของใคร”หลี่หลงหลินยกยิ้มเล็กน้อย: “เสด็จพ่อนางก็คือซูเฟิ่งหลิงคู่หมั้นของกระหม่อมพะยะค่ะ!"ฝ่าบาทแสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างไม่สามารถเก็บซ่อนได้: “ซูเฟิ่งหลิงหรือ? หรือนี่คือหมากที่เจ้าวางไว้? เจ้าคาดเดาไว้นานแล้วว่าเจ้าหกจะก่อกบฏหรือ? ”หลี่หลงหลินพูดอย่างถ่อมตัว: “เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ”“บังเอิญ...”ฝ่าบาทเหลือบมองหลี่หลงหลินอย่าง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 19

    ดวงตาของหลี่เซวียนแดงก่ำ เขาจ้องหลี่หลงหลินอย่างดุเดือด เกลียดชังจนถึงแก่นกระดูกเขาคิดคำนวณทุกอย่างไว้อย่างถี่ถ้วนแล้วเว้นเพียงเจ้าเก้าที่ไร้ประโยชน์คนนี้เท่านั้น!“ยุทธ์จับโจรเอาหัวโจก!”“แม่ทัพซุน!” “เจ้าไปฆ่าซูเฟิ่งหลิง เพื่อเป็นขวัญกําลังใจให้กับกองทัพของเรา!” หลี่เซวียนสูดลมหายใจลึก ควบคุมจิตใจให้สงบนิ่ง และออกคําสั่งกับซุนกวางเสี้ยวซุนกวางเสี้ยวเป็นแม่ทัพที่ดุร้ายคนแรกภายใต้การบังคับบัญชาของเขา!ทหารที่เหลืออยู่พันนายของตระกูลซู เดิมคือจะหนีกลับจากดินแดนทางเหนือ ขวัญกําลังใจทหารของพวกเขาต่ำมาก เมื่อซูเฟิ่งหลิงแม่ทัพรบจนตัวตาย งั้นขวัญกำลังใจทหารของทหารที่เหลืออยู่ของตระกูลซูคงพังทลายลงอย่างแน่นอน พ่ายแพ้โดยที่ยังไม่ได้ต่อสู้! ดวงตาของซุนกวางเสี้ยวฉายแววตาดูถูกเหยียดหยาม เขาเอ่ยเยาะเย้ย: “ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ว่านางจะชื่อเสียงโด่งดังสักเพียงใด จะมีความสามารถสักแค่ไหนเชียว? ขวานใหญ่ของรองแม่ทัพ หิวโหยมานานแล้ว! ไม่จําเป็นต้องร่วมมือกัน ก็ตัดหัวนางลงจากหลังม้าได้อย่างแน่นอน! ” เมื่อหลี่เซวียนเห็นว่าซุนกวางเสี้ยวมั่นอกมั่นใจมากเช่นนี้ เขาเพียงพยักหน้าและพูดว่า “ไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 20

    พระราชโองการของฝ่าบาท เป็นขวัญกําลังใจให้แก่ทหารที่เหลืออยู่ของตระกูลซู พวกเขารีบรุดวิ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวความตาย พวกหน่วยทหารกล้าตายแปดร้อยนายจะเคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ได้ยังไง พวกเขาถูกจู่โจมจนเละตุ้มเปะไปหมด พ่ายแพ้ราบคาบ! ในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม กลุ่มกบฏส่วนใหญ่ถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือคุกเข่ายอมจํานน ซูเฟิ่งหลิงจับหลี่เซวียนด้วยมือตัวเอง มัดเขาไว้อย่างแน่นหนา และพาเขาไปหาฝ่าบาท “ดี!” ฝ่าบาทดีใจมาก เขามองไปที่ซูเฟิ่งหลิง: “ข้าพูดคำไหนคำนั้น! เจ้าต้องการรางวัลอะไร? เครื่องประดับทอง ชุดเกราะและดาบ เรือนหลังงามที่ดินแปลงสวย เจ้าเอ่ยปากมาได้! ” ซูเฟิ่งหลิงมีแผนอยู่ในใจแล้ว นางคุกเข่าลงบนพื้นแล้วส่ายหัว: “ฝ่าบาท! หม่อมไม่ต้องการรางวัลเหล่านี้! ” ฝ่าบาทประหลาดใจ: “ห๊า? แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด? ” ดวงตาของซูเฟิ่งหลิงแดงระเรื่อ: “แม่ทัพสิบแปดคนของตระกูลซู ได้ปกป้องชายแดนทางเหนือมาเป็นเวลาหลายปี มีความจงรักภักดี สร้างชัยชนะในการรบ! แต่พวกเขาตกเป็นเหยื่อของผู้ทรยศและเสียชีวิตในสนามรบ กองทัพตระกูลซูก็เหลือทหารเพียงพันนายเท่านั้น! ” “ทุกวันนี้ มีคนไม่น้อยใส่ร้

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 952

    ระดับเทคโนโลยีเครื่องทำความร้อนใต้พื้นนั้นไม่ได้สูงมากนักเป็นเพียงท่อทองแดง แต่มีราคาแพงมากไม่ต้องพูดถึงชาวบ้านทั่วไป เกรงว่าแม้แต่เชื้อพระวงศ์ก็ยังไม่มีปัญญาใช้มีเพียงสถานที่อย่างพระราชวังเท่านั้นที่สามารถติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นเพื่อป้องกันความหนาวเย็นได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหลี่หลงหลินไม่ได้พูดอะไรมาก เขาจ้องมองขาเรียวเล็กและตรงของกงซูหว่านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับไปด้วยความพึงพอใจ......ตำหนักฉือหนิงองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่นำของขวัญมากมายมาเข้าเฝ้าฮองไทเฮา“เด็กดี!”“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเมืองหลวงแล้ว!”“ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว!”ฮองไทเฮาโอบกอดหลี่เทียนฉี่ไว้แน่นหลี่เทียนฉี่บีบน้ำตาออกมาสองสามหยดและพูดอย่างเสแสร้งว่า “เสด็จย่า ในตงไห่ ไม่มีวันไหนเลยที่ข้าจะไม่คิดถึงท่าน...”“กลับมาก็ดีแล้ว! กลับมาก็ดีแล้ว!”ฮองไทเฮาหลั่งน้ำตา ร้องไห้สะอึกสะอื้นหลี่เทียนฉี่เป็นบุตรชายคนโตที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทเมื่ออายุได้สามขวบ และเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของต้าเซี่ยเรียกได้ว่าเขาได้รับความรักมากมายสิ่งนี้ทำให้หลี่เทียนฉ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 951

    การกำหนดเครื่องแต่งกายให้เป็นแบบเดียวกัน ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งตัวอย่างเช่น การสวมกระโปรง ไว้ผมยาว ล้วนเป็นข้อห้ามกงซูหว่าน ในฐานะบุคคลอันดับสองของสถาบันวิจัยซีซาน กลับไม่สนใจเรื่องนี้เลย สวมชุดสีดำทั้งวัน ช่างฝีมือด้านล่างอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ละคนสวมชุดคลุมยาว นี่ไม่ใช่การเอาชีวิตของตนเองมาล้อเล่นหรอกหรือ?กงซูหว่านใจเต้นแรง แววตาเป็นประกาย “กำหนดชุดทำงาน กำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวด! รัชทายาท ความคิดของเจ้าดีมาก! แต่... ชุดทำงานที่เจ้าพูด มีลักษณะอย่างไร? ไม่ใช่กระโปรงที่สั้นกว่านี้ใช่หรือไม่?”ช่างฝีมือส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ชุดทำงานของพวกเขาพูดง่าย ทำความสะอาดให้เรียบร้อยก็พอแต่ในสถาบันวิจัย ยังมีช่างฝีมือหญิงสาวอีกส่วนหนึ่งดูท่าทางเจ้าชู้ของหลี่หลงหลิน หากออกแบบเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม ให้พวกนางสวมใส่ จะต้องอับอายขายหน้าแน่!หลี่หลงหลินกล่าวอย่างชอบธรรม “สะใภ้รอง เจ้าคิดอะไร? อะไรคือกระโปรงที่สั้นกว่านี้ ข้าลามกขนาดนั้นหรือ? ใครไม่รู้บ้างว่า ข้าหลี่หลงหลินเป็นคนซื่อตรง ไม่สนใจสตรี!”กงซูหว่านเบ้ปากเสแสร้ง เจ้าเสแสร้งทั้งนั้น!เจ้าหลอกน้องสาวข้าก็พอ หากข้าเชื่อเจ้าสักคำ ก็ไม่ใ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 950

    “ซี้ดๆ...”หลี่หลงหลินมองใต้กระโปรงดำของกงซูหว่าน น่องขาขาวดุจหยก ดวงตาเบิกกว้าง ขมุบขมิบปากอย่างอดไม่ได้เพียงน่าเสียดาย กระโปรงยังยาว ถึงเพียงหัวเข่าเท่านั้น...กงซูหว่านพบว่าหลี่หลงหลินจับจ้องขาของตนอยู่ตลอด ใบหน้าแดงเรื่อ “ท่านกำลังมองอันใด?”หลี่หลงหลินเงยหน้า เผยรอยยิ้มไร้พิษสง “ข้าคิดว่ากระโปรงของพี่สะใภ้รองยังยาวอยู่บ้าง”ยังยาว?กงซูหว่านอึ้งงันอยู่กับที่ ดวงตาสองข้างจับจ้องหลี่หลงหลิน ใบหน้าร้อนผะผ่าวตนเองดีชั่วอย่างไรก็เป็นสตรีในครอบครัวมีศีลธรรม มิใช่สตรีในโลกีย์ขายยิ้มยั่วยวนคน เผยน่องขาออกมาได้นี่ก็ถึงขีดจำกัดแล้ว หลี่หลงหลินถึงขั้นได้คืบเอาศอก ยังอยากให้กระโปรงสั้นขึ้นอีกนิด?ไร้สาระ!กงซูหว่านโมโหบ้างแล้ว สบถเสียงเย็นยามหลี่หลงหลินเป็นองค์ชาย ยังมีความเคารพตนหลายส่วน ทุกวันร้องเรียกพี่สะใภ้อย่างนั้น พี่สะใภ้อย่างนี้บัดนี้เขาเป็นรัชทายาท อุปนิสัยเจ้าชู้มักมากก็เผยออกมาแล้ว“คนลามก!”กงซูหว่านเผยสีหน้าเย็นชา สบถด่าทีหนึ่ง หันหลังจากไปหลี่หลงหลินจับข้อมือขาวนวลของกงซูหว่านไว้ ใบหน้าจริงจัง “พี่สะใภ้รอง ท่านเข้าใจความนัยข้าผิดไปแล้ว!”กงซูหว่านขมวดคิ้ว “เ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 949

    อันที่จริง หลี่หลงหลินมีความเห็นแก่ตัวไม่เพียงติดตั้งเครื่องทำความร้อนให้ไทฮองไทเฮา แต่ยังทำเพื่อมารดาของตนฮองเฮาหลินอีกด้วยขอเพียงฝ่าบาทรับปากติดตั้งเครื่องทำความร้อนให้ตำหนักฉือหนิงหลี่หลงหลินจะใช้ประโยชน์จากภารกิจนี้ ติดตั้งเครื่องทำความร้อนที่ตำหนักฉางเล่อ ขอเพียงพระมารดาตอบตกลง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอันใดอย่างไรเสียบัดนี้หลินซื่อก็ไม่ใช่สนมที่ใครก็สามารถรังแกได้อีก แต่เป็นมารดาของใต้หล้าฮองเฮาแห่งต้าเซี่ย!ฮองเฮาหลินชะงักไป เอ่ยถามอยากตกตะลึง “ฤดูร้อน? ทำได้จริงหรือ?”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินอยู่เหนือความรู้ของนางเปลี่ยนแปลงฤดูกาลเป็นฤดูร้อน นี่คือวิธีการของเซียนอย่างไม่ต้องสงสัยหลี่หลงหลินอธิบายหลักการการติดตั้งเครื่องทำความร้อนหนึ่งรอบฮองเฮาหลินตกตะลึงพรึงเพริด ส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “เจ้าพูดว่าใช้ท่อทองแดง วางไว้ใต้พื้นตำหนักฉางเล่อ? ไม่ได้ ไม่ได้! นี่ต้องจ่ายเงินมากน้อยเพียงใด? ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!”“หากมีเงินเหล่านี้ มิสู้นำไปบรรเทาทุกข์ให้ราษฎรจะดีกว่า!”“หากข้ารู้สึกหนาว สวมใส่เสื้อผ้าหนาหน่อยก็พอ หากไม่ไหวจริงๆ ก็เดินให้มากหน่อย ร่างกายก็อบอุ่นแล้ว”หลี่หลงห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 948

    “เครื่องทำความร้อน?”ฮ่องเต้หวู่ได้ยินคำศัพท์แปลกใหม่นี้ ก็ชะงักไปเล็กน้อยเจ้าเก้าเจ้าเด็กคนนี้ คิดจะเล่นพิเรนทร์อันใดอีก?หลี่หลงหลินอธิบาย “ภายในวังล้วนใช้ถ่านให้ความอบอุ่น ไม่เพียงราคาสูง อีกทั้งยังเย็น ใกล้เกินไปก็สำลักควัน ลูกอายุน้อย ยังมิอาจทนต่อควันได้ นับประสาอะไรกับเสด็จย่าเล่า?”ถ้อยวาจานี้ พูดเสียจนฮ่องเต้หวู่ใจอ่อนแท้จริงแล้ว เขาเองก็คิดว่าเผาถ่านให้ความอบอุ่น ไม่สบายอย่างมากระยะนี้ไทฮองไทเฮาไออย่างรุนแรงเคยตามหมอหลวงมาตรวจอาการ นี่เกี่ยวข้องกับผิงถ่านให้ความอบอุ่นจริงๆ เสียด้วยแต่หากไม่เผาก็จะหนาวฮ่องเต้หวู่เฟ้นหาวิธีการ กลับไม่พบวิธีที่ดีอะไรเขาเป็นลูกกตัญญูคนหนึ่ง กำลังกังวลเพราะเรื่องนี้อยู่เชียวหลี่หลงหลินคิดหาวิธีการออกแล้ว?ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า พูดอย่างแปลกใจ “ใช่ ถ่านไร้ควันทำให้สำลัก เสด็จย่าของเจ้าไออยู่ตลอด ทว่าเครื่องทำความร้อนนี้ ตกลงคืออันใด ทั้งให้ความอบอุ่น ทั้งไม่สำลัก?”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “กราบทูลเสด็จพ่อ เครื่องทำความร้อนนี้ อุ่นยิงกว่าถ่านไร้ควัน! ใช้ท่อโลหะเชื่อมต่อ ภายในมีน้ำร้อนส่งผ่านต่อเนื่องไม่หยุด!”ฮ่องเต้หวู่สงสัย “น้ำร้อน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 947

    “แค่กๆ...”ฮ่องเต้หวู่ผิงไฟเพียงครู่เดียวก็ไอออกมาอย่างต่อเนื่อง โบกมือ “เอาไปๆ...”ตอนนี้เอง หลี่หลงหลินในชุดคลุมตัวใหญ่ มาหยุดหน้าประตูห้องทรงพระอักษร ค้อมตัวลงพูดว่า “ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ!”ใบหน้าฮ่องเต้หวู่ประดับรอยยิ้ม รีบโบกมือ “เจ้าเก้า ข้างนอกหนาว เจ้ารีบเข้ามาเถอะ!”เพียงหลี่หลงหลินผ่านประตูเข้ามา ก็ได้กลิ่นเผาไหม้สายหนึ่งแม้ว่าถ่านไร้ควันไม่ก่อให้เกิดควัน แต่อย่างไรเสียก็เป็นถ่าน ครั้นจุดขึ้นมาก็ย่อมมีกลิ่นแปลกอยู่บ้างอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ทำให้คนรู้สึกไม่สบายทว่า ความเป็นอยู่ภายในวังหลวงดีกว่าราษฎร์มากนักครั้นถึงฤดูหนาว ราษฎร์ทำได้เพียงก่อกองไฟรับความอบอุ่น ควันมีมาก ทำให้คนสำลักฤดูหนาวหลายปีที่ผ่านมา มักมีราษฎร์หนาวตายปีนี้มีผ้าฝ้ายที่ทอขึ้นมาเป็นปริมาณมากของหลี่หลงหลิน สถานการณ์จึงดีขึ้นเล็กน้อยหลี่หลงหลินค้อมตัวลง “เสด็จพ่อ ท่านเรียกตัวลูกเข้าวังด้วยเหตุใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่คลี่ยิ้มมีเมตตา มองหลี่หลงหลิน “เราได้ยินว่าหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับล่าสุดมียอดขายทะลุหนึ่งล้านฉบับแล้ว? เจ้าจะต้องหาเงินได้ไม่น้อยกระมัง?”หัวใจหลี่หลงหลินสั่นไหว อยากส

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 946

    แท้จริงแล้ว หลี่เทียนฉี่เองก็เกิดความกลัวภายในใจหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยเจ้าสิ่งนี้ ช่างชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริดโดยแท้!ซ่งชิงหลวนเป็นบัณฑิต สูงส่งบริสุทธิ์ พูดว่าปรักปรำก็ปรักปรำไปแล้ว ถูกขานับหมื่นข้างเหยียบไว้ ไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้อีกตนเองเล่า?ต้องรู้ว่าตนเองเป็นรัชทายาทถูกปลด ก่อกบฏจริง บุกยึดวังหลวง เกิดเงามืดภายในใจฮ่องเต้หวู่หากหลี่หลงหลินเด็กคนนี้เขียนส่งเดชในหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ย พูดว่าตนมีเจตนาชั่ว เตรียมการก่อกบฏฮ่องเต้หวู่จะทำเช่นไร?อิงตามอุปนิสัยไร้เยื่อใยของเขา ก็ไม่แน่ว่าจะฆ่าคนในครอบครัวเพื่อรักษาคุณธรรมหลี่เทียนฉียิ่งคิดก็ยิ่งกลัว สั่นสะท้านทั่วทั้งสรรพางค์กาย เสิ่นชิงโจวเงียบงันครู่หนึ่ง พูดว่า “ทีแรกข้าวางแผนลอกเลียนแบบหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ย ท้าทายหลี่หลงหลิน ตอนนี้มองดูแล้วเส้นทางสายนี้มิอาจเดินได้อีก! พวกเรากลับไปเดินบนเส้นทางแห่งอำนาจและกลอุบายนี้อีกครั้ง”ภายในสมองของเขาปรากฏฉากเผชิญหน้ากับหลี่หลงหลินทั้งๆ ที่เป็นหมากล้อม หลี่หลงหลินกลับทำลายกฎ เล่นหมากห้าแถวหนังสือพิมพ์เองก็เฉกเดียวกันตนเองวางแผนใช้สิ่งแปลกใหม่นี้ ต่อสู้กับ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 945

    “นี่...”“นี่คืออะไรกัน!”“บทความเหลวไหลไร้สาระ!”เว้นเสียแต่นวนิยายของหลิ่วหรูเยียนแล้ว เรื่องอื่นล้วนเป็นเรียงที่ความเกี่ยวข้องกับซ่งชิงหลวนพาดหัวข่าวใหญ่ที่สุด ‘สัมพันธ์ฉาบฉวยของบัณฑิตซ่งชิงหลวนและนางคณิกา’สำหรับพาดหัวข่าวอื่น ไม่มีอันใดน่าสนใจมิน่าเล่าซ่งชิงหลวนอ่านแล้ว ก็กระอักโลหิตหมดสติไปแม้แต่เสิ่นชิงโจวได้อ่านแล้ว ก็รู้สึกอึดอัดคับข้องใจนี่ต่ำช้าเกินไป เหลวไหลเกินไปแล้วดีชั่วอย่างไรซ่งชิงหลวนก็เป็นบัณฑิต ต่อให้ละโมบไปบ้าง อีกทั้งยังเลี้ยงดูอนุ แต่เรื่องนางคณิกาสำนักการสังคีตนี้ คือการถูกใส่ร้าย!“ช่างเหลวไหลสิ้นดี!”“หลี่หลงหลินอ้างฐานะรัชทายาทของตน ถึงขั้นเขียนเรื่องเหลวไหล ปรักปรำความบริสุทธิ์ของคนอื่น!”“มิอาจทนไหวอีกต่อไปแล้ว!”เสิ่นชิงโจวโมโหเกรี้ยวกราด เกือบสิ้นสติไปเหตุผลง่ายมากแม้ว่าหลี่หลงหลินปรักปรำซ่งชิงหลวน แต่แท้จริงแล้วกำลังโจมตีสำนักปราชญ์ชัดๆ!หากไม่มีหนัง ไฉนเลยจะมีขน?หากชื่อเสียงสำนักปราชญ์ถูกทำลาย เช่นนั้นเสิ่นชิงโจวอยู่ในสำนักปราชญ์ก็สูญเสียสิทธิ์ในการพูดแล้ว!นี่คือดึงฟืนใต้หม้ออย่างแท้จริง!ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้หลี่หลงหลินสามาร

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 944

    คุกเสิ่นชิงโจวอยู่เพียงลำพังคนเดียว กำลังวางหมากอย่างผ่อนคลายเสียงฝีเท้าลนลานพลันดังขึ้น องค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่โผล่พรวดพราดเข้ามา สีหน้าตกตะลึงรับมือไม่ทัน“จะกระวนกระวายอะไร?”“บัณฑิต ต้องสุขุมเยือกเย็น”เสิ่นชิงโจวเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ตะคอกใส่ “ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นผู้ที่จะเป็นฮ่องเต้ เหตุใดจึงได้ลนลานถึงเพียงนี้ ไม่มีความล้ำลึกเลยแม้แต่น้อย?”หลี่เทียนฉี่ถูกสั่งสอน ก้มหน้าลงพูดว่า “อาจารย์ ท่านสั่งสอนถูกแล้ว”เสิ่นชิงโจววางหมาก เอ่ยปากเสียงเรียบ “หนังสือพิมพ์ปรัชญาขงจื๊อต้าเซี่ยของพวกเราขายได้กี่ฉบับ?”หลี่เทียนฉี่เอ่ยตอบตามสัตย์จริง “หนี่ง...หนึ่งร้อยฉบับ”หนึ่งร้อย?ได้ยินจำนวนนี้ เสิ่นชิงโจวตกตะลึงพรึงเพริดในทันใดอิงตามที่เขารู้ หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยของหลี่หลงหลิน ฉบับแรกขายได้ถึงหนึ่งแสนฉบับแม้ว่าหนังสือพิมพ์ปรัชญาขงจื๊อต้าเซี่ยเป็นของเลียนแบบ ต่างกันเพียงคำเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังตั้งใจวางขายก่อนหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยอีกด้วยอย่างน้อยยอดขายก็ควรขายได้หนึ่งหมื่นฉบับกระมัง?ต่อให้เป็นห้าพันฉบับ ก็ถือว่ายังดี!หนึ่งร้อยฉบับคืออะไรกัน?เสิ่นชิงโจวใค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status