แชร์

บทที่ 273

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
องค์ชายเก้าดูจะให้ความสำคัญกับตนมากเกินไปหรือเปล่านะ?

ซูเฟิ่งหลิงเองยิ่งประหลาดใจ จึงดึงหลี่หลงหลินไปด้านข้างเพื่อคุย “ท่านให้ข้าเป็นอาจารย์หรือ?”

หลี่หลงหลินเผยยิ้มร่า “ใช่แล้ว การเป็นอาจารย์น่าเกรงขามมากนะ! ถ้าเจ้าไม่ชอบหน้าเขา เจ้าก็สามารถซ้อมเขาได้! เจ้าชอบซ้อมคนที่สุดไม่ใช่หรือ?”

ซูเฟิ่งหลิงใบหน้าแดงก่ำ “แต่ว่า แต่ว่า ข้ารู้แค่เรื่องการต่อสู้ ความรู้ทางวิชาการข้าอาจจะเทียบกับจางอี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ”

จางอี้ยังไงก็เคยเรียนที่สำนักศึกษาแห่งแคว้นมาตั้งแต่เด็ก ได้รับการสอนจากบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่!

ถึงแม้ว่าจางอี้จะมีนิสัยเกียจคร้าน ไม่ตั้งใจเรียน ทำให้เหล่าบัณฑิตโกรธจนควันออกหู แต่สุดท้ายเขาก็ยังได้เป็นกงเซิงอยู่ดี!

ซูเฟิ่งหลิงเติบโตมากับปู่ในกองทัพ ไม่เคยได้เรียนหนังสือเลย อ่านออกเขียนได้ก็เพราะมีพี่ชายและพี่สะใภ้คอยสอน

ตนเองเป็นแค่คนอ่านออกเขียนได้นิดหน่อย จะไปเป็นอาจารย์ของบัณฑิตได้อย่างไร นี่มันเรื่องเหลวไหลชัดๆนะ?

หลี่หลงหลินพูดอย่างจริงจัง “ที่นี่คือโรงเรียนทหาร ไม่ใช่สำนักศึกษา! นอกจากวิชาการแล้ว ยังต้องสอนการวางแผนยุทธวิธี และยังต้องสอนวิทยายุทธ์ด้วย อันนี้เจ้าถนัดใช่ไห
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 274

    “ปัง!” ซูเฟิ่งหลิงปิดประตูโดยไม่รู้ตัว ถึงค่อยตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางจ้องหลี่หลงหลินอย่างโกรธเคือง “ปิดประตู ปล่อยหมาหรือ? ท่านว่าใครเป็นหมา?” หลี่หลงหลินโยนไม้บรรทัดให้ซูเฟิ่งหลิง “เจ้าอย่าเพิ่งไปใส่ใจเรื่องนั้นเลย! ยังไงก็ตาม เจ้าแค่คอยดูเขาให้อ่านหนังสือ ถ้าเขากล้าขี้เกียจ เจ้าก็ตีเขาแรงๆ เลย!” ซูเฟิ่งหลิงถือไม้บรรทัดไว้ เมื่อเห็นจางอี้ตัวสั่นด้วยความกลัว สภาพน่าสงสาร น่าก็เกิดความสงสารขึ้นมาทันที “ข้า...ข้าทำไม่ลง!” หลี่หลงหลินแค่นเสียง “ดูเจ้าสิ! ตอนที่เจ้าตีข้า ลงมือไปเต็มแรงเลยไม่ใช่หรือ?” ซูเฟิ่งหลิงหน้าแดงก่ำ “ไร้สาระ! ท่านก็คือท่าน เขาเป็นเขา ข้าไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกับเขา...” หลี่หลงหลินมองซูเฟิ่งหลิง แล้วพูดกลั้วหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้ว! ตีคือรัก ด่าคือความเอ็นดู รักมากก็ต้องใช้เท้าถีบ! เจ้าตีข้า แสดงว่าเจ้ารักข้า!” ซูเฟิ่งหลิงโกรธจัด “ไปให้พ้น! เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะตีท่านให้ตาย...” หนิงชิงโหวเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกันอีกแล้ว จึงรีบห้าม “องค์ชายเก้า จางอี้ยังอยู่ตรงนี้นะ...” หลี่หลงหลินไม่สนใจซูเฟิ่งหลิง เดินไปหาจางอี้แล้วถาม “เมื่อครู่ เหตุใ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 275

    หนิงชิงโหวและกลุ่มบัณฑิต ถอดเสื้อคลุมบัณฑิตออก เปลี่ยนเป็นเครื่องแบบทหารสีดำที่ดูสง่าผ่าเผย อบรมสั่งสอนเหล่าทหารให้อ่านออกเขียนได้ ผลที่ออกมา แน่นอนว่าแย่มาก ทหารพ่ายศึกของตระกูลซูก่อนหน้านี้อย่างน้อยก็เคยผ่านสนามรบมา รู้จักเชื่อฟังคำสั่ง แม้จะไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ก็ยังพยายามเรียน แต่ผู้อพยพจากดินแดนทางเหนือที่เกณฑ์มาใหม่นั้นไม่ได้เรื่องเลย พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือ ไม่รู้ว่าทำไมต้องต่อสู้ เข้ามาเป็นทหารก็เพื่อให้มีข้าวกิน ตอนฝึกก็ทำแบบส่งๆ พอให้พวกเขาอ่านหนังสือก็ยิ่งแล้วใหญ่! ระเบียบวินัยในห้องเรียนก็แย่มาก บางคนนอนหลับ บางคนกินข้าว บางคนคุยกัน มีบางคนถึงขั้นแอบเล่นการพนันอยู่ข้างหลัง หนิงชิงโหวไม่เคยเป็นอาจารย์มาก่อน ขาดประสบการณ์ พอเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้เพียงไปขอความช่วยเหลือจากหลี่หลงหลิน หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “เรื่องนี้ง่ายมาก! ไปเปิดหน้าต่างห้องของจางอี้!” จางอี้เรียนกับซูเฟิ่งหลิงเพียงลำพัง คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามีจางอี้อยู่ รู้แต่ว่ามีห้องหนึ่งที่ปิดประตูหน้าต่างตลอดเวลา และมักจะมีเสียงแปลกๆ ดังออกมา “อ๊าๆๆๆๆๆ...” “ขงจื๊อกล่าวว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 276

    จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เพราะจางเฉวียนเป็นห่วงลูกชาย ลูกผู้ชายควรออกไปเผชิญโลกกว้าง อย่าว่าแต่หนึ่งเดือน แม้จะไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วจะยังไง? แต่ที่สำคัญก็คืออวี่ชื่อ แค่สิบวันที่ไม่ได้เจอลูกชาย นางก็ถอนหายใจทั้งวัน พอกลางคืนก็ร้องไห้ จางเฉวียนทนไม่ไหว จึงพาอวี่ชื่อมาเยี่ยมลูกชายที่โรงเรียนทหารซีซาน และอยากจะดูว่าสิบวันที่ผ่านมา เขาพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า ทหารยามที่ภูเขาทิศประจิมจำหรงกั๋วกงได้ จึงอนุญาตให้เข้าไปได้ทันที เมื่อจางเฉวียนไม่ได้ถูกขัดขวางใดๆ จึงเดินตรงเข้าไปในโรงเรียนทหารซีซานอย่างรวดเร็ว “ที่นี่ก็ไม่เลวนะ!” อวี่ชื่อมองพระราชวังอันโอ่อ่าสง่างามแล้วรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย เหล่านักเรียนชายหนุ่มที่เดินสวนกันไปมา ต่างสวมเครื่องแบบทหารสีดำ ดูสง่าผ่าเผยและกล้าหาญ ทุกคนต่างพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุข จางเฉวียนที่เคยเห็นแต่ชาวบ้านหน้าตาซีดเซียว พอมาเห็นคนหนุ่มที่มีพลัง มีชีวิตชีวา แถมหน้าตายังดูอิ่มเอิบเหล่านี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “ดูเหมือนอาหารการกินก็ไม่เลวนะ!” อวี่ชื่อรู้สึกวางใจลงในที่สุด ที่พักก็ดี อาหารก็ดี นักเรียนดูแล้วก็มีความสุข ลูกชายน่าจะใช้ช

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 277

    “ท่านพ่อ ข้ากลัวจริงๆ...” “พระชายาน่ากลัวมาก นางจะฆ่าคนจริงๆ!” ร่างกายของจางเฉวียนสั่นสะท้าน เขาก้มหน้าลงมองอย่างละเอียด มันคือสี่ตำราห้าคัมภีร์ที่จางอี้คัดลอกมาจริงๆ ลายมือค่อนข้างเรียบร้อย เพราะยังไง จางอี้ก็เคยเรียนที่สำนักศึกษาแห่งแคว้น เรียนการเขียนพู่กันกับบัณฑิต พื้นฐานจึงยังดีอยู่ ปัญหาคือเด็กคนนี้เกียจคร้านเกินไป ชอบเล่นสนุก ไม่ชอบอ่านหนังสือ และยิ่งไม่ชอบเขียนหนังสือ พอนานๆ เข้า ก็เขียนไม่คล่อง ลายมือในจดหมายที่เขียนถึงเขาก็เหมือนลายแทงผี อ่านไม่ออกสักตัว เมื่อเทียบกันแล้ว สี่ตำราห้าคัมภีร์ที่เขาคัดลอกมานั้นกลับดูดีมีหลักการ จางเฉวียนถาม “แล้วเจ้าท่องได้หรือยัง?” จางอี้ตอบด้วยความน้อยใจ “ต้องท่องได้สิ! ไม่งั้นข้าคงโดนตีตายไปแล้ว และไม่ได้เจอท่านพ่อกับท่านแม่อีก...” จางเฉวียนดีใจมาก “งั้นเจ้าลองท่องให้พ่อฟังหน่อย!” จางอี้เปิดปากท่องออกมาทันทีมาโดยไม่ต้องคิด “ขงจื๊อกล่าวว่า...” พูดตามตรง จางอี้ไม่ได้โง่ ในทางกลับกัน เขายังฉลาดแกมโกงนิดหน่อยด้วย แต่เพราะเขาฉลาดเกินไป ถึงได้ไม่ตั้งใจเรียน และชอบก่อกวนสร้างปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่จางอี้เริ่มเรียนร

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 278

    ห้องทำงานของเสี้ยวจ่างอยู่บนยอดสุดของภูเขาทิศประจิม มีทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยม และสามารถมองเห็นโรงเรียนทหารซีซานได้ทั้งหมด ในขณะนี้ หลี่หลงหลินกำลังยืนพิงระเบียงอยู่ ในมือถือถ้วยชาใส มองลงไปด้านล่างอย่างภาคภูมิใจ: “ทิวทัศน์ที่สวยงามราวภาพวาด หญิงงามที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดึงดูดเหล่าวีรบุรุษนับไม่ถ้วนให้ยอมจำนน...” ปัง! ซูเฟิ่งหลิงเตะประตูเข้ามา เหงื่อไหลท่วมกาย นางหอบหายใจขณะเอ่ย: “หนี... รีบหนีเร็ว...” หลี่หลงหลินตกใจ: “หนี? เผ่าหมานบุกมาแล้วหรือ?” ในความคิดของเขา มีเพียงการรุกรานของเผ่าหมานเท่านั้นที่ทำให้ซูเฟิ่งหลิงตื่นตระหนกได้ถึงเพียงนี้! ซูเฟิ่งหลิงส่ายหัว: “ไม่... ไม่ใช่ ผู้เสียหายบุกมาถึงประตูแล้ว!” “ผู้เสียหายหรือ?” หลี่หลงหลินสีหน้างุนงง หลังจากฟังคำอธิบายของซูเฟิ่งหลิง เขาถึงได้รู้ว่าหรงกั๋วกงพาฮูหยินมาด้วย ส่วนซูเฟิ่งหลิงก็ตกใจจนกระโดดหนีออกทางหน้าต่างและวิ่งมาส่งสารให้เขา หลี่หลงหลินรู้สึกอบอุ่นในใจ: “ถือว่าเจ้ายังมีจิตสำนึก ไม่คิดหนีไปคนเดียว! แต่หรงกั๋วกงนี่ก็กระไรกัน ยังไม่ถึงเดือนเลย ก็มาอย่างกระทันหันแล้ว ทำให้พวกเราตั้งตัวไม่ทัน!” ซูเฟิ่งหลิงบ่น: “ก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 279

    ผิวของนางเนียนละเอียดราวกับหยก บอบบางราวกับจะแตกได้เพียงแค่สัมผัส ใครจะไปรู้ว่า ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่กับการฝึกฝนเพลงกระบี่ เผชิญกับแสงแดดและสายลมทุกวัน จะมีผิวพรรณอ่อนนุ่มเช่นนี้ได้! หรือนี่อาจเป็นเพราะพลังพิเศษของผู้ฝึกวรยุทธ? ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกได้ถึงสายตาที่เร่าร้อนของหลี่หลงหลิน ใบหน้าของนางแดงระเรื่อขึ้นราวกับถูกย้อมสี ทั่วทั้งร่างกายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ยิ่งทำให้ดูสวยกว่าเดิม... นางหายใจถี่ขึ้น อย่างควบคุมไม่ได้ “เอ๊ะ?” “เสียงอะไรน่ะ?” จางเฉวียนซึ่งก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์เช่นกัน รับรู้ได้ทันทีถึงความผิดปกติหลังชั้นหนังสือ เขาขมวดคิ้วมุ่น และรีบเดินเข้าไป ซูเฟิ่งหลิงร้อนใจมาก นางพยายามดิ้นรนเพื่อผลักหลี่หลงหลินออกไป โครม! ชั้นหนังสือล้มลง! หลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงในสภาพกอดกันแน่น ปรากฏตัวต่อหน้าจางเฉวียนและอวี่ชื่อ ทั้งสี่คนต่างตกตะลึง! ช่างน่าอาย... ยังไงซูเฟิ่งหลิงก็เป็นผู้หญิง หน้าบาง นางอายจนอยากจะหาที่ซ่อนตัว น่าอายจนอยากจะตายจริงๆ! ผ่านไปสักพัก จางเฉวียนกระแอมไอเสียงหนึ่ง “องค์ชายเก้า ช่างเพลิดเพลินเสียจริงๆ...” หลี่หลงหลินยิ้มเจื่อนๆ “หรง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 280

    “แสดงความขอบคุณ?” หรงกั๋วกงชะงักไปครู่หนึ่ง และรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย องค์ชายเก้าช่างหยาบคายยิ่งนัก! จะมีใครเอ่ยปากขอเงินกันตรงๆ แบบนี้? อย่างไรเสีย ชีวิตและอนาคตของบุตรชายก็อยู่ในมือขององค์ชายเก้า หรงกั๋วกงจึงพูดอะไรได้ไม่มากนัก ได้แต่ภาวนาในใจว่าองค์ชายเก้าจะรู้จักพอประมาณ ไม่เรียกร้องมากเกินไป จางเฉวียนเอ่ยอย่างระมัดระวัง “องค์ชายเก้า ท่านต้องการเงินเท่าไหร่?” หลี่หลงหลินสีหน้ามืดมน “เงินอะไร ท่านช่างหยาบคายนัก ทำลายภาพลักษณ์ของบัณฑิต!” จางเฉวียนสบถในใจ ท่านเป็นถึงชนชั้นสูง ทำไมถึงติดนิสัยแย่ๆ ของพวกข้าราชการ มาทำวางท่าอยู่ต่อหน้าข้า ไม่ใช่ท่านหรือที่ขอให้ข้าแสดงความขอบคุณ? การแสดงความขอบคุณในแวดวงราชการ คือการให้เงินสินบนไม่ใช่หรือ? หลี่หลงหลินเอ่ยอธิบาย “หรงกั๋วกง ท่านเข้าใจผิดแล้ว! ข้าไม่ได้ต้องการเงิน! แต่ในเมื่อลูกชายของท่านประสบความสำเร็จในการศึกษาที่โรงเรียนทหารซีซานแล้ว ทำไมไม่มอบธงเกียรติยศให้ข้าสักหน่อยเล่า?” ธงเกียรติยศ? จางเฉวียนสีหน้างุนงง ธงเกียรติยศในสมัยโบราณ หมายถึงธงที่ทำจากผ้าไหม บางครอบครัวของผู้สอบผ่านระดับจวี่เหรินจะปักธงเกียรติ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 281

    ซูเฟิ่งหลิงอยู่ที่ฝั่งหนึ่ง ได้ยินถ้อยคำนี้พลันชะงักไป “ยังมีเรียงความปากู่เหวิน?”หลี่หลงหลินมั่นใจมาก “ข้าพูดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ดาราศาสตร์ภูมิศาสตร์ ไม่มีเรื่องใดที่ข้าไม่รู้! ก็แค่เรียงความปากู่เหวินมิใช่หรือ ง่ายเพียงกระดิกนิ้ว!”ภายในส่วนลึกของหัวใจ หลี่หลงหลินกลับพูดแขวะเงียบๆ “เรียงความปากู่เหวิน ข้าเป็นที่ไหนเล่า!”หากข้าสามารถเขียนเรียงความปากู่เหวินได้จริง เช่นนั้นข้าก็ไปสอบขุนนางเองแล้ว ยังต้องใช้งานพวกเจ้าอีกหรือ?องค์ชายสอบได้จอหงวน ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเจ้าได้จอหงวน ได้บัณฑิตชั้นสูง ผลลัพธ์ระเบิดนับพันนับหมื่นเท่า?เมื่อนั้น ชื่อเสียงกองทัพภูเขาทิศประจิม ก็โด่งดังเทียมฟ้า!บัณฑิตมากน้อยเพียงใดมิได้มาเพื่อชื่อเสียงกันเล่า?กระนั้นช่วยไม่ได้หลี่หลงหลินยังไม่ต้องพูดว่าไม่เป็นเรียงความปากู่เหวิน แม้แต่ตัวอักษรก็มิต่างจากไก่เขี่ยชาตินี้หลี่หลงหลินไม่มีวาสนาได้เป็นจอหงวนแล้ว เป็นได้เพียงคนลอกแบบ ลอกบทกวีโบราณสองสามบท ก็ทำให้คนทั่วหล้าตกตะลึงพรึงเพริด ได้รับความเลื่อมใสจากบัณฑิต เพียงเท่านี้!แม้หลี่หลงไม่เข้าใจเรียงความปากู่เหวิน แต่เขาในฐานะผู้ข้ามภพมาคนหนึ่ง ย่อมเข้าใจ

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status