แชร์

บทที่ 69

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-08 16:00:00
ฉู่เนี่ยนซีมาถึงโรงพนันหุยหุนอย่างรวดเร็วเพื่อตามหาอวี๋ซีและเอาเสื้อผ้าที่ฝากไว้ล่วงหน้า ข้างในห่อผ้านั้นเป็นอาภรณ์บุรุษและของบางสิ่งที่คล้ายทำจากหนังซึ่งนางก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

“ออกไปก่อน ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”

เสี่ยวเถาและอวี๋ซีรับคำสั่งและออกจากห้องไป

ไม่รู้ว่ารออยู่นานเท่าไหร่ ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง ทั้งสองมองไปเห็นบุรุในชุดผ้าฝ้ายสีขาวไข่กาเดินออกมาจากห้อง ผิวของเขาขาวราวกับหยก ใบหน้างดงามมีมิติ แม้แต่กรอบหน้าและแต่ละมุมของใบหน้าก็วิจิตรงดงามราวกับรูปสลัก

เซียวเถาชี้ไปที่คนผู้นี้ด้วยความประหลาดใจและแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ตะโกนออกมาอย่างไม่แน่ใจ “พระชายาหรือเพคะ?”

“อืม” ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าเบา ๆ พร้อมเผยรอยยิ้มบนใบหน้า

“เป็นท่านจริง ๆ โอ้สวรรค์ พระชายาดูเหมือนบุรุษมากเพคะ” เสี่ยวเถาวิ่งไปหาฉู่เนี่ยนซีอย่างมีความสุขและเดินดูวนไปมารอบ ๆ ตัวนาง

อวี๋ซีมองจากด้านข้าง มีความประหลาดใจแวบขึ้นมาในดวงตาที่เย็นชาของเขา นายหญิงเลียนแบบลักษณะเด่น ๆ ของผู้ชายได้เกือบทั้งหมด แม้แต่ลูกกระเดือกก็สมจริง อีกทั้งใบหน้าก็ไร้ซึ่งความกลมมนและไม่มีเค้าความอ่อนโยนของส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 70

    ฉู่เนี่ยนซียิ้มมุมปากเบา ๆ พุ่งไปหาชายเหล่านั้นและทำท่าทางเหมือนคุณชายโดยเอากำปั้นมาทาบไว้ตรงหน้าอกเพื่อแสดงความเคารพ “ข้าแซ่ซี อยากจะขอพบนายใหญ่ของศาลาโอสถแห่งนี้” “ที่ศาลาโอสถไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้าเข้าไป คุณชายมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นจะดีกว่า” แม้จะเห็นท่าทางที่มีมารยาทอย่างมากของฉู่เนี่ยนซี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาลำบากใจเท่าไหร่ “ข้าได้ยินมาว่าที่ศาลาโอสถมีกฎ หากใครก็ตามที่ผ่านทั้งศิลปะการต่อสู้และการทดสอบพิษจะสามารถเข้าไปในศาลาโอสถได้ ข้าสงสัยว่านั่นเป็นความจริงหรือไม่?” หลังจากได้ยินคำถามของฉู่เนี่ยนซี หลายคนก็มองหน้ากัน จากนั้นชายที่เป็นผู้นำก็พูดขึ้น “มีคำกล่าวเช่นนั้นจริง ๆ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครผ่าน และหากไม่ผ่านก็ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ ท่านแน่ใจหรือว่าต้องการจะลอง” “แน่ใจสิ” ฉู่เนี่ยนซีมีท่าทีสงบและพยักหน้าเบา ๆ ชายทั้งกลุ่มเห็นว่าทั้งสองคนแน่ใจและไม่พูดอะไรต่อ ในรอบแรกของการแข่งขันคือการทดสอบศิลปะการต่อสู้ มีเพียงหนึ่งในสองคนเท่านั้นที่สามารถลงสนามและต่อสู้กับคนสิบคนได้ ขอแค่สามารถล้มพวกเขาสามคนได้ภายในเวลาหนึ่งก้านธูป*ก็จะถือว่าผ่าน ผู้เข้าแข่งขันในรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-08
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 71

    ได้ยินดังนั้น ผู้คนที่ตื่นตระหนกเล็กน้อยจากการโจมตีสองครั้งของอวี๋ซี ในตอนนี้ก็ตื่นตระหนกมากขึ้นกว่าเดิม ค่ายกลกระบี่สูญเสียคนไปสองคน และตอนนี้อารมณ์ของทุกคนทำให้ค่ายกลกระบี่ดั้งเดิมมีจุดบอด ไม่สามารถรักษาค่ายกลกระบี่ไว้ได้อย่างสมบูรณ์เหมือนเก่า เป็นเรื่องยากที่จะเห็นร่องรอยแห่งความสุขในดวงตาที่เย็นชาของอวี๋ซี ดวงตาที่แหลมคมของเขาราวกับนกอินทรีมองไปที่ตำแหน่งการป้องกันที่อ่อนแอที่สุดและโจมตีเข้าไปอย่างรุนแรง กระบี่ที่อยู่ในมือของหลาย ๆ คนถูกกระแทกออกไปทันที จากนั้นพวกเขาก็ทรงตัวไม่อยู่ หลังถูกชนก็ลอยถอยหลังล้มลงกับพื้น “ทำได้ดีมากอวี๋ซี!” ฉู่เนี่ยนซีอดไม่ได้ที่จะตะโกน จากนั้นนางก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วกว่าความคิด น้ำยาล้างแผลและผ้าพันแผลก็โผล่ออกมาจากแขนเสื้อ “แขน” อวี๋ซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยื่นแขนออกอย่างว่าง่าย ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองบาดแผลที่แขนของเขา จากนั้นเปิดขวดน้ำยาล้างแผลแล้วเม้มริมฝีปาก “เจ็บหน่อยนะ อดทนไว้” ขณะที่พูด นางก็ฉีกรูเสื้อผ้าให้กว้างขึ้นจนเห็นบาดแผลทั้งหมด แล้วฆ่าเชื้ออย่างระมัดระวัง ทายาที่แผล จากนั้นจึงพันผ้าพันแผล วันนี้เขาสวมชุดสีดำ หา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-08
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 72

    “นี่คือยาพิษ ใครจะเป็นคนดื่ม?” “ข้าเอง” อวี๋ซีก้าวไปข้างหน้าและรับยาพิษมา ฉู่เนี่ยนซีที่เห็นก็ไม่ได้คิดจะเข้าไปห้าม เพราะพวกเขากินยาบรรเทาพิษไว้ตั้งแต่ตอนที่มาถึงแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาพิษทั้งหมดได้ แต่ก็ยังพอควบคุมพิษที่เป็นอันตรายได้ เหมือนกับพิษที่รุนแรงชนิดนี้ ซึ่งก็สามารถลดความเจ็บปวดได้เช่นกัน แต่จู่ ๆ ในหัวของนางก็มีภาพขวดยาขนาดใหญ่ปรากฎขึ้น โดยมีข้อความสองสามบรรทัดอยู่เหนือขวดยา “ชื่อ: โอสถกลืนวิญญาณ พิษระดับหก อาการ: เจ็บปวดทุรนทุราย ต้องชะล้างพิษภายในเวลาหนึ่งก้านธูป ไม่เช่นนั้นจะอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ และท้ายที่สุดเส้นลมปราณจะถูกทำลายและตายไป ต่อไปคือส่วนผสมของตัวยา…” ฉู่เนี่ยนซีสะดุ้งและรีบเบนสายตาให้พ้นจากขวดยา แต่เสียงที่ดังขึ้นในหัวยังคงไม่หายไป ทำให้นางทั้งตกใจและกลัวอย่างมาก แม้อาการคนไข้ที่ได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีจะไม่มีอาการร้ายแรง แต่ก็ค่อนข้างทรมาณ ทำให้นางได้เปิดใช้งานทักษะการค้นคว้าและวิเคราะห์ข้อมูล เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เกรงว่าหากอวี๋ซีดื่มยาพิษนั่นแล้วจะ… คิดได้ดังนั้น นางก็รู้สึกเย็นวาบไปถึงขั้วหัวใจ ดวงตาเรียวดุจหงษ์มองคนที่ยื่นขวดยาให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-09
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 73

    ชายคนนั้นก็สับสนเช่นกัน เขาจึงเดินตรงไปที่ขวด หยิบมันขึ้นมาแล้วเปิดฝา มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยออกมา แม้ว่ากลิ่นจะเบามาก แต่ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้มาย่อมได้กลิ่นอยู่แล้ว “มันคือโอสถกลืนวิญญาณจริง ๆ !” ชายคนนั้นดูเหลือเชื่อ จากนั้นชี้ไปยังชายที่นอนเจ็บปวดจนเหงื่อตกอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า “เจ้าทำเรื่องโง่ ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร!” “เซวียเล่อ นอกจากแขนเจ้าจะบาดเจ็บแล้วจมูกก็ยังเพี้ยนอีกรึ? เห็น ๆ กันอยู่ว่าขวดในมือเจ้าเป็นขวดโอสถวิญญาณ!” หนึ่งในนั้นถือดาบพลางหรี่ตาลงเป็นการเตือนแล้วชี้ไปที่พวกของฉู่เนี่ยนซี "พี่น้องทั้งหลาย สองคนนี้ฝ่าฝืนกฎและวางยาคนของเรา ต้องฆ่าพวกมันเพื่อเป็นการตักเตือนผู้อื่นไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง!" "ฆ่าพวกมัน!" "ฆ่าพวกมัน!" ... ฉู่เนี่ยนซีมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา นอกจากผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขัน เมื่อได้ยินเสียงตะโกน ยามหน้าประตูและคนที่ลาดตระเวนรอบนอกของป่าพิษก็พากันทยอยเข้ามาหลายสิบคน “พวกเจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้” เซวียเล่อยืนบังพวกฉู่เนี่ยนซีไว้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “นั่นคือโอสถกลืนวิญญาณ ข้าได้กลิ่นไม่ผิดจริง ๆ คนที่ทำผิดพลาดก่อนคือพวกเรา อย่าโทษคุณช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-09
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 74

    “เหตุใดพวกเจ้าถึงยังยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ? ไอ้หนุ่มหน้าขาวนี่มาจากนอกหุบเขาและเก่งเรื่องการหลอกลวงผู้คน มาช่วยกันจัดการพวกมัน แล้วโยนเข้าไปในป่าพิษกันเถอะ” คน ๆ นี้จงใจบอกว่าพวกเขาเป็นคนนอก อีกทั้งไม่รู้จะมีใครมาเจอหรือไม่หากพวกเขาถูกโยนเข้าไปในป่าพิษ จู่ ๆ คนที่ดูลังเลก็เหมือนจะได้รับความมั่นใจ ทำการโจมตีพวกของฉู่เนี่ยนในทันใดนั้นเอง “อวี๋ซี ปกป้องเด็กคนนี้ด้วย” ฉู่เนี่ยนซีเอ่ยเสียงเรียบ สะบัดนิ้วทั้งสิบเล็กน้อยก็มีเข็มเงินออกมา ทำการจู่โจมคนแถวหน้า เมื่อคนเหล่านั้นถูกเข็มเงินโจมตี พวกเขาก็รู้สึกอ่อนแรงและล้มลงกับพื้นทันที ฉู่เนี่ยนซียิ้มเยาะ เข็มเงินเหล่านี้แตกต่างจากเข็มที่นางใช้รักษาอาการป่วย มันเป็นเข็มเงินที่แช่ในพิษชนิดพิเศษเป็นเวลาเจ็ดวัน แม้แต่พิษเพียงเล็กน้อยที่นางกลั่นออกมาก็สามารถทำให้เสือสลบได้ ไม่ต้องพูดถึงเข็มเงินที่แช่ในพิษมาเป็นเวลานานเช่นนี้เลย นอกจากนี้ แม้ว่าจะไม่มีทักษะด้านวิทยายุทธ์ของโลกนี้ แต่ทักษะที่นางพัฒนาในชีวิตก่อนติดตัวมาด้วย นางอาศัยอยู่ในสนามรบ การต่อสู้ระยะประชิด คันธนูและลูกธนู มีด ปืนและกระสุนที่ไม่มีในโลกนี้ นับเป็นสิ่งที่นางเชี่ยวชาญเสียยิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-09
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 75

    ไม่ต้องคิดอะไรอีกต่อไป เขาโบยบินสะบัดกระบี่ สกัดกั้นการโจมตีอันหนักหน่วงแทนฉู่เนี่ยนซี เซวียเล่อและอวี๋ซีปกป้องนางทั้งทางซ้ายและขวา นางจึงรู้สึกสบายใจไปได้เปราะหนึ่ง เมื่อมองดูผู้คนที่ผลัดกันเข้ามาโจมตี นางก็คิ้วขมวด นี่ไม่ใช่วิธีที่ดี “กินสิ่งนี้เสีย” ขณะที่พูด ยาสองเม็ดที่อยู่ในมือของฉู่เนี่ยนซีก็ถูกโยนไปให้ทั้งสองคน พวกเขาสองคนเชื่อฉู่เนี่ยนซีอย่างสนิทใจ นำมันเข้าปากโดยไม่ลังเล ฉู่เนี่ยนซีหรี่ตาลง ทันใดนั้นก็มีถุงใส่ของอยู่ในมือของนาง จากนั้นนางก็หายใจเข้าลึก ๆ “อวี๋ซี ข้าอยากบิน” อวี๋ซีรู้สึกงง แต่ก็ยังทำตามที่นางบอก เขาจับแขนของนาง เท้าเบาขึ้น ในพริบตานางก็บินขึ้นไปบนอากาศ ฉู่เนี่ยนซีเปิดถุง พยายามกลั้นหายใจอย่างเต็มที่ และโบกแขนอีกข้างแรง ๆ ของในถุงก็ขยับไปตามการเคลื่อนไหวของนาง สุดท้ายก็ลอยละล่องไปตามลม ทุกคนมองดูพวกเขาทั้งสองด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายเริ่มอ่อนแรงลง พวกเขาล้มลงกับพื้นโดยไม่มีโอกาสได้พูดอะไรสักคำ ขณะนี้ฉู่เนี่ยนซีและอวี๋ซีก็ลงสู่พื้นดินโดยสวัสดิภาพ อวี๋ซีกับเซวียเล่อกินยาแก้พิษล่วงหน้าไว้แล้ว พวกเขาจึงไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-09
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 76

    “หากเติบโตที่นี่ เจ้าก็มีตำแหน่งที่สูงมากเลยสิ?” “ไม่หรอก จริง ๆ แล้ว หุบเขาสมุนไพรก็เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ผู้คนมากมายอยู่อาศัยกันมาตั้งแต่เล็ก รวมไปถึงเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยผู้คนที่นี่ ดังนั้นจึงมีคนที่เหมือนข้าอยู่มากมายที่เติบโตในหุบเขาสมุนไพรแห่งนี้” ฉู่เนี่ยนซีได้ฟังคำอธิบายของเขาก็พอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างออกและหันกลับมามองเขาอีกครั้ง “เจ้าจำข้าได้อย่างไร” “กลิ่นไง!” เซวียหนานคงพูดด้วยรอยยิ้ม ฉู่เนี่ยนซียิ้มมุมปากเล็กน้อย นางก็จำเขาได้ด้วยกลิ่นของเขาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นคนประเภทเดียวกัน... โดยปกติแล้วเซวียหนานคงมักตามความคิดนางไม่ทัน จึงพูดต่อว่า "ผู้มีพระคุณของข้ามีกลิ่นหอมของยาเป็นพิเศษ ปกติแล้วคนที่มีกลิ่นหอมของยาติดตัวเช่นนี้ ข้าเคยเห็นเฉพาะในที่ที่ปลูกสมุนไพรตลอดทั้งปีดังเช่นหุบเขาแห่งนี้ ดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะมีกลิ่นติดตัวมาบ้าง ผู้มีพระคุณก็มีกลิ่นนั้นเช่นกัน แต่พิเศษกว่าคนอื่นเลยเป็นที่จดจำได้ง่ายกว่า” “เอาล่ะ เจ้าช่วยแนะนำข้าให้นายท่านของหุบเขาสมุนไพรนี้หน่อยสิ” เมื่อพูดถึงนายท่านของหุบเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-10
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 77

    เมื่อฉู่เนี่ยนซีกลับเข้ามาในเมืองแห่งรัตติกาล ท้องฟ้าก็มืดลง ทั้งสองเลยไปส่งหมอเทวดาเฮ่อหลานที่บ้านก่อน ระหว่างทางเข้าไปในเมือง ฉู่เนี่ยนซีมองไปยังแสงไฟสว่างจ้าตามบ้านเรือน แต่ไม่รู้เหตุใด กลับรู้สึกไม่สบายใจอยู่หน่อย ๆ ทำได้แค่บอกอวี๋ซีให้เร่งความเร็วขึ้น หลังจากผ่านโรงเต้นรำและเข้าสู่เขตโรงพนันหุยหุนแล้ว เสี่ยวเถาก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้ากังวล “พระชายา ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว” เสี่ยวเถาจูงฉู่เนี่ยนซี ดวงตาของนางแดงเล็กน้อย “พี่อวี๋ตงให้คนมาส่งสารบอกว่าท่านอ๋องกำลังตามหาท่าน และขอให้ท่านกลับไปโดยเร็วที่สุด” “ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เสี่ยวเถาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ประมาณยามเซินสองเค่อ*เจ้าค่ะ” ‘ยามเซินสองเค่อ? ถ้าเทียบกับการนับเวลาของปัจจุบันก็เป็นเวลาเกือบ ๆ สี่โมงเย็น ตอนนี้ก็น่าจะประมาณเกือบสองทุ่มไปแล้ว ก่อนจะออกไปนางบอกอวี๋ตง หากมีคนมาถามหาให้บอกว่านางกลับไปที่จวนมหาเสนาบดีฉู่ แต่โดยปกติแล้ว เย่เฟยหลีจะไม่ตามหานาง คิด ๆ ไป ฉู่เนี่ยนซีก็รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบเปลี่ยนชุดแล้วกลับจวน เมื่อไปในจวนอ๋อง นางก็พบว่าคนรับใช้ที่มักจะเดินตรวจตราลดลงไปไม่น้อย นางขมวดคิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-10

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status