แชร์

บทที่ 75

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-09 16:00:00
ไม่ต้องคิดอะไรอีกต่อไป เขาโบยบินสะบัดกระบี่ สกัดกั้นการโจมตีอันหนักหน่วงแทนฉู่เนี่ยนซี

เซวียเล่อและอวี๋ซีปกป้องนางทั้งทางซ้ายและขวา นางจึงรู้สึกสบายใจไปได้เปราะหนึ่ง

เมื่อมองดูผู้คนที่ผลัดกันเข้ามาโจมตี นางก็คิ้วขมวด

นี่ไม่ใช่วิธีที่ดี

“กินสิ่งนี้เสีย” ขณะที่พูด ยาสองเม็ดที่อยู่ในมือของฉู่เนี่ยนซีก็ถูกโยนไปให้ทั้งสองคน

พวกเขาสองคนเชื่อฉู่เนี่ยนซีอย่างสนิทใจ นำมันเข้าปากโดยไม่ลังเล

ฉู่เนี่ยนซีหรี่ตาลง ทันใดนั้นก็มีถุงใส่ของอยู่ในมือของนาง จากนั้นนางก็หายใจเข้าลึก ๆ “อวี๋ซี ข้าอยากบิน”

อวี๋ซีรู้สึกงง แต่ก็ยังทำตามที่นางบอก เขาจับแขนของนาง เท้าเบาขึ้น ในพริบตานางก็บินขึ้นไปบนอากาศ

ฉู่เนี่ยนซีเปิดถุง พยายามกลั้นหายใจอย่างเต็มที่ และโบกแขนอีกข้างแรง ๆ ของในถุงก็ขยับไปตามการเคลื่อนไหวของนาง สุดท้ายก็ลอยละล่องไปตามลม

ทุกคนมองดูพวกเขาทั้งสองด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายเริ่มอ่อนแรงลง พวกเขาล้มลงกับพื้นโดยไม่มีโอกาสได้พูดอะไรสักคำ

ขณะนี้ฉู่เนี่ยนซีและอวี๋ซีก็ลงสู่พื้นดินโดยสวัสดิภาพ

อวี๋ซีกับเซวียเล่อกินยาแก้พิษล่วงหน้าไว้แล้ว พวกเขาจึงไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 76

    “หากเติบโตที่นี่ เจ้าก็มีตำแหน่งที่สูงมากเลยสิ?” “ไม่หรอก จริง ๆ แล้ว หุบเขาสมุนไพรก็เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ผู้คนมากมายอยู่อาศัยกันมาตั้งแต่เล็ก รวมไปถึงเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยผู้คนที่นี่ ดังนั้นจึงมีคนที่เหมือนข้าอยู่มากมายที่เติบโตในหุบเขาสมุนไพรแห่งนี้” ฉู่เนี่ยนซีได้ฟังคำอธิบายของเขาก็พอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างออกและหันกลับมามองเขาอีกครั้ง “เจ้าจำข้าได้อย่างไร” “กลิ่นไง!” เซวียหนานคงพูดด้วยรอยยิ้ม ฉู่เนี่ยนซียิ้มมุมปากเล็กน้อย นางก็จำเขาได้ด้วยกลิ่นของเขาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นคนประเภทเดียวกัน... โดยปกติแล้วเซวียหนานคงมักตามความคิดนางไม่ทัน จึงพูดต่อว่า "ผู้มีพระคุณของข้ามีกลิ่นหอมของยาเป็นพิเศษ ปกติแล้วคนที่มีกลิ่นหอมของยาติดตัวเช่นนี้ ข้าเคยเห็นเฉพาะในที่ที่ปลูกสมุนไพรตลอดทั้งปีดังเช่นหุบเขาแห่งนี้ ดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะมีกลิ่นติดตัวมาบ้าง ผู้มีพระคุณก็มีกลิ่นนั้นเช่นกัน แต่พิเศษกว่าคนอื่นเลยเป็นที่จดจำได้ง่ายกว่า” “เอาล่ะ เจ้าช่วยแนะนำข้าให้นายท่านของหุบเขาสมุนไพรนี้หน่อยสิ” เมื่อพูดถึงนายท่านของหุบเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-10
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 77

    เมื่อฉู่เนี่ยนซีกลับเข้ามาในเมืองแห่งรัตติกาล ท้องฟ้าก็มืดลง ทั้งสองเลยไปส่งหมอเทวดาเฮ่อหลานที่บ้านก่อน ระหว่างทางเข้าไปในเมือง ฉู่เนี่ยนซีมองไปยังแสงไฟสว่างจ้าตามบ้านเรือน แต่ไม่รู้เหตุใด กลับรู้สึกไม่สบายใจอยู่หน่อย ๆ ทำได้แค่บอกอวี๋ซีให้เร่งความเร็วขึ้น หลังจากผ่านโรงเต้นรำและเข้าสู่เขตโรงพนันหุยหุนแล้ว เสี่ยวเถาก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้ากังวล “พระชายา ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว” เสี่ยวเถาจูงฉู่เนี่ยนซี ดวงตาของนางแดงเล็กน้อย “พี่อวี๋ตงให้คนมาส่งสารบอกว่าท่านอ๋องกำลังตามหาท่าน และขอให้ท่านกลับไปโดยเร็วที่สุด” “ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เสี่ยวเถาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ประมาณยามเซินสองเค่อ*เจ้าค่ะ” ‘ยามเซินสองเค่อ? ถ้าเทียบกับการนับเวลาของปัจจุบันก็เป็นเวลาเกือบ ๆ สี่โมงเย็น ตอนนี้ก็น่าจะประมาณเกือบสองทุ่มไปแล้ว ก่อนจะออกไปนางบอกอวี๋ตง หากมีคนมาถามหาให้บอกว่านางกลับไปที่จวนมหาเสนาบดีฉู่ แต่โดยปกติแล้ว เย่เฟยหลีจะไม่ตามหานาง คิด ๆ ไป ฉู่เนี่ยนซีก็รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบเปลี่ยนชุดแล้วกลับจวน เมื่อไปในจวนอ๋อง นางก็พบว่าคนรับใช้ที่มักจะเดินตรวจตราลดลงไปไม่น้อย นางขมวดคิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-10
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 78

    เมื่อพูดจบ ก่อนที่นางจะได้โต้ตอบ เขาก็พานางนำเข้าไปในพระตำหนักหย่างซิน องค์จักรพรรดิสวมเพียงอาภรณ์ชั้นในเอนหลังอยู่บนบัลลังก์มังกร โดยมีฮองเฮาและฉู่กุ้ยเฟยก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ประกอบไปด้วยหมอหลวงที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านข้างอีกหลายคน และมีอีกคนหนึ่งที่นางไม่คาดคิดว่าจะอยู่ด้วย นั่นคือมหาเสนาบดีฉู่ “ลูกขอถวายบังคมเสด็จพ่อ เสด็จแม่ และฉู่กุ้ยเฟย” เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีต่างคุกเข่าลง “โอ้ อ๋องหลีและพระชายาช่างประเสริฐเสียจริงที่ให้องค์จักรพรรดิรอนานกว่าสองชั่วยาม” ฮองเฮาเหลือบมองพวกเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม องค์จักรพรรดิขมวดคิ้ว หลับตาปี๋ เหงื่อไหลบนหน้าผากของเขา ทั้งสองคนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น เย่เฟยหลีกำลังจะพูด แต่กลับรู้สึกว่าถูกสะกิด จึงรีบยั้งปากทันที ฉู่เนี่ยนซียืดตัวตรงในท่าคุกเข่า “ทูลฮองเฮา เป็นหม่อมฉันเองที่ออกจากจวนไปปรึกษาปัญหากับท่านหมอเทวดาเฮ่อหลานจนดึกดื่น ด้วยเหตุนี้หม่อมฉันจึงไม่ได้รับข่าวการเรียกตัวเข้าวังเพคะ” ความกังวลตอนก่อนเข้าวังของฉู่เนี่ยนซีได้หายไปแล้ว บนใบหน้านั้นมีแต่รอยยิ้มอันใสซื่อ ในเมื่อวันนี้เรียกนางเข้ามา ทางพระราชวังก็คงรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-10
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 79

    เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่เฟยหลีก็ขมวดคิ้วและมองฮองเฮาอย่างเย็นชา ฉู่เนี่ยนซีดึงเขาจากด้านข้างอย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร” ฉู่เนี่ยนซีพูดจบ มหาเสนาบดีฉู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างมาเป็นเวลานาน จู่ ๆ ก็คุกเข่าลงและพูดว่า “องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา ลองตรองดูอีกครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะกระหม่อมตามใจนางมากเกินไปจนกลายเป็นคนไร้มารยาทไม่รู้กาลเทศะเช่นนี้ กระหม่อมเลี้ยงลูกแต่ตัวทว่ากลับไม่อบรมบ่มนิสัยให้ดี ฉะนั้นโทษเฆี่ยนห้าสิบทีกระหม่อมจะรับไว้เอง ส่วนอ๋องหลีก็เป็นเขยที่กระหม่อมเลือกเอง เช่นนั้นโทษเฆี่ยนก็เพิ่มโทษเฆี่ยนตีไปอีกห้าสิบที เป็นหนึ่งร้อยที กระหม่อมจะรับโทษแทนเองพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เนี่ยนซีที่ได้ยินดังนั้น ก็เผลอส่งเสียง “พรื่ด” ออกมาจนต้องรีบปิดปาก ฉู่กุ้ยเฟยที่อยู่ข้าง ๆ เป็นกังวลอย่างมาก เมื่อเห็นว่าฉู่เนี่ยนซียังคงหัวเราะได้ จึงตบนางด้วยความโกรธทันที “เจ้าเด็กนี่ยังมีหน้ามาหัวเราะอีกรึ!” ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้พูดอธิบายอะไร สีหน้าของนางกลับมาจริงจังอย่างรวดเร็ว “มหาเสนาบดีฉู่กำลังวางแผนที่จะใช้ความชราเป็นข้อได้เปรียบ! องค์จักรพรรดิและพระราชวังแห่งนี้จะยอมให้ท่านข่มขู่พวกเขาได้เช่นไร!” ทัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-10
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 80

    “หลี่...” หมอหลวงหลี่เกือบจะโพล่งคำตอบทั้งหมดออกมา เขาพูดได้เท่านั้นแล้วก็ไม่ได้โต้ตอบอีก เขารู้สึกรำคาญเล็กน้อย เขาจะโต้ตอบได้อย่างไร “อ้อ!” ฉู่เนี่ยนซีเม้มปากเบา ๆ แล้วพูดต่อ “ท่านเปลี่ยนนามสกุลเป็นฉู่ดีกว่า ถ้าใช้คำว่าฉู่จะดูฉลาดกว่านี้ขึ้นมาหน่อย” “ทะ...ท่านหมายความว่าอย่างไร!” เคราของหมอหลวงหลี่แทบจะหลุดออกมา เขาถลึงตา แต่คนที่รายล้อมเต็มไปด้วยเชื้อพระวงศ์และขุนนาง เป็นเรื่องยากหากจะพูดอะไร เขาจึงทำได้เพียงรีบ ๆ จัดการให้เสร็จเท่านั้น แต่ความประทับใจที่มีต่อฉู่เนี่ยนซีก็ลดลงเช่นกัน! “ถ้าข้าสามารถรักษาองค์จักรพรรดิได้ นับจากนี้ไปหมอหลวงหลี่คงต้องเปลี่ยนเป็นหมอหลวงฉู่แล้วล่ะ ข้าจะบอกให้ว่าสิ่งที่ท่านรักษาไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นเขาจะทำไม่ได้” แม้เสียงของฉู่เนี่ยนซีจะเบามาก แต่ก็ไม่อาจทำให้ผู้คนที่อยู่ในรัศมีรอบตัวเพิกเฉยได้ ฉู่เนี่ยนซีรำคาญที่สุดเวลาที่คนอื่นพูดกับนางด้วยความคิดที่ว่านางทำไม่ได้ ในเมื่อเขาพูดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องสอนบทเรียนให้เสียหน่อย เมื่อเห็นดังนั้น องค์จักรพรรดิที่กำลังทนกับความเจ็บปวด ได้มองไปยังฉู่เนี่ยนซี อารมณ์ที่อธิบายไม่ได้แวบผ่านดวงตาราวกับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-11
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 81

    ฉู่เนี่ยนซีมาจากศตวรรษที่ 21 จึงไม่ได้มีความคิดอนุรักษ์นิยมมากนัก แต่นี่เป็นสมัยโบราณ อย่าว่าแต่นางกำลังเผชิญหน้ากับองค์จักรพรรดิ การที่นางดึงขากางเกงขององค์จักรพรรดิลงเพียงเล็กน้อย จึงเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก “นี่เป็นการรักษา! หมอหลวงหลี่ก็เป็นหมอนาน ไฉนไม่รู้ว่าการรักษาโรคต้องทำโดยไม่ลังเลหรือสนวิธีการ ในสายตาของหมอที่ประสบความสำเร็จ มีเพียงผู้ป่วยเท่านั้น ไม่แบ่งแยกบุรุษหรือสตรี” ฉู่เนี่ยนซีไม่หันกลับมามอง นางใช้นิ้วกดขาของจักรพรรดิแล้วพูดเบา ๆ คำพูดเหล่านี้ทำให้หมอหลวงหลี่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากคิดได้ ก็มีร่องรอยของความอับอายปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา แน่นอนว่าเขาเข้าใจดีว่าการเป็นหมอควรรักษาโดยไม่ลังเลหรือสนใจวิธีการ แต่ตัวเขาที่อายุปูนนี้แล้วก็ยังไม่เคยเห็นเรือนร่างของสตรีที่ไหนเปิดเผยเช่นนี้เลย! ขณะนี้ หมอหลวงหลี่เงียบ แต่ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่การรักษาของนางอย่างไม่มีเหตุผล หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีตรวจดูแล้ว นางก็เข้าใจ “ให้คนมาทำความสะอาดบริเวณที่มีใส่ยาให้องค์จักรพรรดิที” นางยืดตัวขึ้นสูดลมหายใจ เห็นได้ชัดว่ารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ขันทีที่อยู่ด้านข้างได้รับสัญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-11
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 82

    “เพราะกล้ามเนื้อตึงเป็นอาการที่ไม่รุนแรง และในระดับนี้ สามารถรักษาให้หายขาดได้ภายในไม่กี่อึดใจ แต่อาการป่วยหลักขององค์จักรพรรดิอยู่ที่...ไต!” ไต? ทุกคนหายใจพร้อมกัน สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพวกเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์จักรพรรดิค้างเติ่ง และเปลี่ยนเป็นมืดมนอย่างน่าสะพรึงกลัว ฉู่เนี่ยนซีนึกแล้วก็ปวดหัว นางลังเลที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากนี้ต้องมีการให้ยา นางไม่อาจพูดไร้สาระเกี่ยวกับอาการของโรคได้ หากมีใครรู้เข้า ก็จะมีความผิดฐานหลอกลวงราชวงศ์ แต่ทว่าการเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์สมัยใหม่ให้คนในยุดนี้ฟังก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน “โรคไตมีได้หลายสาเหตุ โรคของเสด็จพ่อเรียกว่า โรคไตอักเสบ โรคนี้มีหลายสาเหตุ เช่น แผลติดเชื้อ หรือติดเชื้อโรคบางชนิดจากผลข้างเคียงของยาบางตัวที่เสวย หรืออาจเกี่ยวกับประวัติครอบครัว และอีกหลายสาเหตุ หากเสด็จพ่อให้ความร่วมมือในการรักษาก็จะหายขาดในไม่ช้าเพคะ” ฉู่เนี่ยนซีพยายามอธิบายด้วยคำพูดที่พวกเขาเข้าใจได้ดีที่สุด แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าโล่งใจขององค์จักรพรรดิ เธอก็ถอนหายใจเงียบ ๆ สีหน้าเช่นนี้คงจะเข้าใจสินะ ถ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-11
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 83

    พูดมาได้ประมาณหนึ่ง เขาก็หยุดคิดไปสักพัก แล้วพูดต่อ “เพื่อเป็นการลงโทษ พรุ่งนี้ให้เจ้าเข้าวังมาช่วยสอนพวกหมอแก่ ๆ ทั้งหลายในสำนักหมอหลวงเสีย" เมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยินดังนั้น ก็คิ้วขมวดทันที พร้อมทำสีหน้าลำบากใจ “ฝ่าบาท เช่นนั้นพระองค์ทรงเอารางวัลของหม่อมฉันคืนไปได้หรือไม่เพคะ?” ‘น่าขำนัก พวกหมอที่อยู่ในสำนักหมอหลวงอาศัยว่าตนเองเป็นขุนนาง ทะนงตัวและดูถูกหมอคนอื่นนั่นน่ะรึM’ ‘นางเหนื่อยมาทั้งวัน หากยังต้องเจอพวกเขาอีก ฆ่านางเลยเสียจะดีกว่า’ “เจ้าจะเอารางวัลที่ได้ไปมาคืนข้าได้อย่างไร?” องค์จักรพรรดิโกรธมาก! “ฝ่าบาท พระองค์ทรงทำโทษหรือกำลังให้รางวัลนางกันแน่พ่ะย่ะค่ะ พระองค์จะทรงตามใจนางไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาของมหาเสนาบดีฉู่มองอยู่ด้วยความลึกลับ และในที่สุดเขาก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง องค์จักรพรรดิไม่ได้ใส่ใจ เหลือบมองเขาและพูดอย่างเย็นชา "แม้ข้าจะไม่ได้สนิทสนมกับนางมากนัก แต่ก็รู้ว่าเด็กคนนี้มีนิสัยเย็นชาและความอดทนต่ำ ปล่อยให้นางได้ช่วยเหลือและสื่อสารกับผู้อาวุโสเหล่านั้นให้มากหน่อย มันเป็นดเพียงการลงโทษ อีกอย่าง ข้าก็เห็นว่าเจ้าตามใจนางมาสิบแปดปีแล้ว ข้าคงไม่ตามใจนางไปด้วยหรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-11

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status