แชร์

บทที่ 508

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-25 16:00:01
ขณะนั้นรถม้าที่วิ่งมาได้ครึ่งทางก็หยุดลง ฉู่เนี่ยนซีเปิดหน้าต่างเล็ก ๆ มองออกไปด้วยความสับสน ทว่ากลับไม่เห็นอะไรผิดปกติ จึงถามคนขับรถม้าเสียงเบาว่าเกิดอะไรขึ้น คนขับรถม้าจึงตอบว่าท่านอ๋องทรงสั่งให้หยุด

ทันใดนั้นเมื่อมองตามแสงประกายนอกรถม้าไป ฉู่เนี่ยนซีก็เห็นเย่เฟยหลีเข้ามาพร้อมกับกล่องไม้ในมือ เขานั่งข้าง ๆ และยื่นกล่องไม้นั้นใส่มือนาง

“นี่คือขนมซูอวี้ของหอจุ้ยเยว่ เจ้าเล่นสนุกอยู่ตั้งนานแต่ยังไม่ได้กินอะไร กินสักหน่อยให้พออิ่มท้อง พอถึงจวนแล้วค่อยให้คนครัวทำอาหารให้”

ซุนจื่อซีตื่นแล้วตั้งแต่ตอนที่รถม้าหยุด และนางก็ฟังการสนทนาระหว่างฉู่เนี่ยนซีและเย่เฟยหลีมาตลอดโดยที่ไม่ได้ลืมตา

ฉู่เนี่ยนซีดมกลิ่นหอมของขนมซูอวี้ พลางปลุกซุนจื่อซีแล้วยื่นกล่องไม้มาให้นางดมกลิ่นด้วยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “หอมมากเลยว่าไหม ลองชิมสักชิ้นสิ”

ซุนจื่อซีขยี้ตาที่ขุ่นมัวแล้วพูดอย่างสับสน “กลิ่นหอมมากเลยเพคะ หอมยิ่งกว่าของที่ทำในวังด้วยซ้ำ”

นางหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งพลางครุ่นคิด จากนั้นก็ยื่นมันให้เย่เฟยหลีก่อน

“ท่านอ๋องชิมก่อนสิเพคะ”

เย่เฟยหลีเหลือบมองฉู่เนี่ยนซีจากหางตา เมื่อเห็นว่านางไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 509

    มุมปากของเย่เฟยหลียิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นเมฆดำที่ลอยอยู่เต็มในหัวใจของเขาก็สลายไปในทันทีทำให้ท้องฟ้าแจ่มใส เขาวางพู่กันในมือลงแล้วเดินไปหาฉู่เนี่ยนซีพลางพูดเบา ๆ “ขอบใจซีเอ๋อร์มาก”ฉู่เนี่ยนซียิ้มเจื่อนและแอบเสียใจ หากนางรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้นางคงไม่ทำอาหารมาให้ อีกทั้งก็คงไม่ต้องมายืนนิ่งพูดไม่ออกต่อหน้าเย่เฟยหลีเช่นในตอนนี้“ข้านึกว่าซีเอ๋อร์จะไม่สนใจแล้วจริง ๆ เสียอีก”ดวงตาของเย่เฟยหลีเต็มไปด้วยความสุข เขาเช็ดมือและนั่งข้าง ๆ พลางเชิญฉู่เนี่ยนซีให้นั่งด้วยกันฉู่เนี่ยนซีไม่ได้สนใจจริง ๆ แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว นางก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร นางเพียงยิ้มต่อไปพลางคิดว่าหลังจากกลับไปจะลงโทษเสี่ยวเถาเสียหน่อยในจวนอ๋องเหลียนไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันและความรื่นเริงเช่นนี้ อีกทั้งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด เย่เหลียนได้ยินข่าวจากพระราชวังว่าฉู่กุ้ยเฟยและพระชายาฉิงถูกวางยา เขาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหลุบตาลงในขณะที่จมอยู่ในห้วงความคิด พลางใช้มือขวาหมุนแหวนที่นิ้วโป้งมือซ้ายโดยไม่รู้ตัวเสด็จแม่ของเขาก็ประชวรด้วยโรคเช่นนี้ก่อนที่จะสวรรคตเช่นกัน หมอหลวงหลายคนต่างพากันมาวินิจฉัย อีกทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-26
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 510

    ในขณะที่ควันสีเทาเหนือกระถางธูปค่อย ๆ เบาบางลง ความตึงเครียดในหัวใจของซุนจื่อซีกลับค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ปลายนิ้วของนางสัมผัสได้ถึงความเย็นของถ้วยชา ทำให้แทบจะไม่สามารถรักษาความสงบไว้ได้เมื่อได้ยินเสียงของสี่เชว่ที่กำลังต้อนรับให้เย่เฟยหลีเข้ามาจากด้านนอก ซุนจื่อซีก็ลูบผมของตัวเองและตรวจดูความเรียบร้อย จากนั้นจึงยืนขึ้นทำความเคารพเย่เฟยหลีที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง “ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ”นางสวมชุดกระโปรงสีแดงบาง ๆ ใบหน้าของนางเหมือนดอกท้อ และแววตาที่เต็มไปด้วยสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ริมฝีปากสีชาด ขนตายาวหนาเป็นแพ ประกอบกับกระดูกไหปลาร้าที่เผยให้เห็นรูปร่างที่เพรียวบางของนาง“มีอะไร?” เย่เฟยหลีรีบนั่งโดยไม่หยุดสอดส่ายสายตา“จื่อซีกำลังคิดว่าวันส่งท้ายปีเก่าที่กำลังใกล้เข้ามานี้อยากจะร่ายรำให้เสด็จย่าได้รับชมอย่างเพลิดเพลิน แต่หม่อมฉันร่ายรำไม่เป็น อีกทั้งท่านอ๋องก็ทรงอยู่กับเสด็จย่ามานาน ท่านคงจะทราบว่าเสด็จย่าชอบการร่ายรำเช่นไร หม่อมฉันจึงมาขอคำแนะนำจากท่านอ๋องเพคะ”“เช่นนั้นข้าจะเชิญอาจารย์ผู้สอนมาให้ เขามีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่ข้ามีเรื่องที่ต้องจัดการที่ค่ายทหาร คงจะไม่ได้อยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-27
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 511

    ฉู่เนี่ยนซีแสร้งทำเป็นโกรธพลางเหลือบมองเหยียนจือซิน ตัวนางได้พูดสิ่งที่ไม่สมควรพูดไปเสียแล้วหลังจากพูดคุยกันสักพัก ฉู่เนี่ยนซียังคงไม่สามารถหาคำตอบจากเหยียนจือซินว่าความรักคืออะไร นางจึงหยุดพูดถึง“ไปกันเพคะ หม่อมฉันจะพาไปดูดอกไม้ที่หม่อมฉันเพิ่งปลูก แต่ตอนนี้มันยังไม่บาน เอาไว้ดอกไม้บานเมื่อไหร่หม่อมฉันจะเชิญพระนางมาดื่มชานะเพคะ”พูดจบ เหยียนจือซินก็ลากฉู่เนี่ยนซีเดินออกจากห้องด้วยความกระตือรือร้นที่จะแสดงสิ่งที่อยากอวด“ถึงตอนนั้นข้าคงไม่ได้มาที่บ้านตระกูลเหยียนหรอก คงจะไปที่บ้านสามีของเจ้านู่น” ฉู่เนี่ยนซีล้อเลียนเหยียนจือซิน ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะระหว่างที่ออกนอกห้องไปด้วยกันหมากบนกระดานในพระตำหนักหย่างซินอัดกันแน่น คนสองคนที่นั่งขัดสมาธิกันอยู่คนละฝั่งของกระดานหมากรุกก็มีรัศมีเปล่งประกายออกมาที่แตกต่างกันองค์จักรพรรดิขัดเกลาความทะเยอทะยานของตัวเองจนเฉิดฉายมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่พระองค์ก็ทรงเก็บมันไว้ในส่วนลึกของจิตใจ และห่อหุ้มไว้ด้วยความเคลือบแคลงอันบางเบาท่าทางของเย่เฟยหลีที่สง่างามและมั่นคง ผสานกับความเย่อหยิ่งของบุรุษ ทำให้เขาดูหยิ่งผยองราวกับน้ำค้างแข็งและหิมะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-28
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 512

    เมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยินคำรายงาน นางก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินทางไปยังจวนมหาเสนาบดี นางอยู่ในวังมาหลายวันแล้ว และท่านพ่อท่านแม่ก็คงจะรู้สึกเป็นห่วงนาง หลังจากทานอาหารเย็นที่จวนมหาเสนาบดีแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็ตรวจดูครรภ์ของจ้าวม่อเหยียน ทุกอย่างเรียบร้อยดี จากนั้นนางจึงอยู่พูดคุยกับฮูหยินฉู่สักพักหนึ่ง หลังจากตื่นจากการงีบหลับกลางวันแล้วจึงกลับจวนของอ๋องหลีจนกระทั่งช่วงเย็น เย่เฟยหลีก็ขี่ม้ากลับมา หลังจากทานอาหารกับฉู่เนี่ยนซีเรียบร้อยแล้วเขาจึงไปอาบน้ำ ซุนจื่อซีสั่งให้สี่เชว่ไม่ต้องเตรียมสำรับอาหารเย็น นางหันหลังเดินไปหยิบดินสอเขียนคิ้วแล้วบรรจงแต่งหน้าที่หน้ากระจก “คุณหนู วันนี้คุณหนูไม่ได้ทานอะไรมาทั้งวัน หากป่วยขึ้นมาจะทำอย่างไรเพคะ?” สี่เชว่เอ่ยอย่างเป็นกังวล“ข้ามีแผน เจ้าไปนำชุดที่ข้าเตรียมไว้ออกมาเสีย”“เพคะ”เย่เฟยหลีเข้ามาในห้องนอนของฉู่เนี่ยนซีพร้อมกับผมที่ยังเปียกชื้น เขาเห็นนางนั่งขัดสมาธิอย่างงดงามกำลังถือตำราแพทย์และอ่านมันอย่างตั้งอกตั้งใจ เขายกมุมปากขึ้นก่อนจะเดินไปตรงหน้าแล้วยื่นผ้าเช็ดตัวให้กับนาง“อะไรหรือเจ้าคะ?” ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้ามองเขาอย่างงุนงง“ผม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 513

    สี่เชว่ช่วยซุนจื่อซีถอดเสื้อคลุมออก ด้านในนางสวมเพียงชุดสีแดงบาง ๆ เท่านั้น ใบหน้าของนางดูเหมือนดอกท้อ และนัยน์ตาก็เหมือนน้ำค้างในฤดูใบไม้ร่วง ริมฝีปากสีแดง ขนตายาวหนา และกระดูกไหปลาร้าที่เผยให้เห็นรูปร่างที่เพรียวบางเย่เฟยหลีมองไปที่ดวงตาที่ชื่นชมของฉู่เนี่ยนซี และรู้สึกว่านางไม่ระวังตัวเลยมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ นี่ก็ดึกมากแล้ว และทางกลับอากาศหนาวเย็น อย่าทำให้ตัวเองหนาวจนป่วยขึ้นมาอีก สี่เชว่ส่งคุณหนูกลับเรือน”ฉู่เนี่ยนซีตบเย่เฟยหลีเบา ๆ พลางลุกขึ้นแล้วกล่าวขึ้นว่า “ไม่ต้องสนใจเขา แต่สิ่งที่เขาพูดก็เป็นเรื่องจริง ที่โรงเต้นรำมีอาจารย์ที่มีทักษะการร่ายรำที่ยอดเยี่ยม พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปเชิญมาให้”ซุนจื่อซีพยายามระงับความเย็นชาในใจอย่างดีที่สุด นางกะพริบตาซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อรักษารอยยิ้มอันอ่อนโยนบนริมฝีปาก “เช่นนั้นก็ดีเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่กลัวว่าจะเป็นการลำบากพระชายามากเกินไป”“ไม่ลำบากหรอก แต่ท่านร่างกายอ่อนแอ ดังนั้นจงอย่าฝืนมากเกินไป วันนี้สีหน้าของท่านก็ดูไม่ค่อยดีนัก ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”ฉู่เนี่ยน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 514

    “ไม่ใช่เลยเจ้าค่ะ ข้าแค่คิดว่าท่านควรไปส่งนางก็เท่านั้น”“เจ้าคิดว่าข้าควรไปส่งนาง ข้าก็ต้องทำอย่างนั้นอย่างงั้นรึ? เช่นนั้นหากข้าคิดว่าเราไม่ควรนอนแยกเตียงกัน เจ้าก็จะไม่นอนแยกเตียงใช่หรือไม่?”ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วและมองเขา “เหตุใดท่านถึงได้วกกลับมาเรื่องนี้อีกแล้วเล่า?”“เจ้ามองสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างถี่ถ้วน แล้วเหตุใดเรื่องแค่นี้ยังไม่เข้าใจ?”เย่เฟยหลีดึงฉู่เนี่ยนซีเข้าไปในห้องโถงด้านในแล้วนั่งลงบนเตียง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เจ้าจะถือว่านางเป็นสหายก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงมิตรภาพในอดีตระหว่างข้ากับนาง หากมีเรื่องอะไรที่ข้าควรช่วย ข้าก็จะช่วย แต่หากเจ้ายังผลักไสข้าใส่นางเช่นนี้ ระวังว่าข้าจะชอบนางแล้วแต่งนางเข้าจวน ให้นางเป็นชายาของจวนอ๋องหลีไปอีกคน”“ข้าเคยบอกแล้วว่าข้าต้องการภรรยาเพียงคนเดียว และจะไม่มีการรับสตรีอื่นเข้ามา หากข้าชอบซุนจื่อซีขึ้นมาจริง ๆ เช่นนั้นในชีวิตนี้ เราก็จะไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก”เย่เฟยหลีนอนอยู่บนเตียงและจงใจพูดอย่างจริงจัง โดยเหลือบมองสีหน้าของฉู่เนี่ยนซีผ่านทางหางตา“ท่าน! บุรุษนี่ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ ก่อนหน้านี้ปากก็บอกว่ารัก อีกเดี๋ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-31
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 515

    เย่ฉงเฉิงกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งของเขาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อเห็นเย่เฟยหลีกำลังเดินเข้ามาจากระยะไกล เขาก็กระโดดขึ้นและวิ่งไปหาเย่เฟยหลีทันที“พี่สาม ท่านมาสักที ข้าเบื่อจะตายอยู่แล้ว”“ถวายบังคมพี่สะใภ้สาม”ตอนนี้เย่ฉงเฉิงยอมรับฉู่เนี่ยนซีแล้ว และไม่ได้ทะเลาะกับนางเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปซุนจื่อซีทำความเคารพเย่ฉงเฉิง “ถวายบังคมอ๋องเฉิงเพคะ”เย่ฉงเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันพูดกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม ที่นั่งของสตรีอยู่ฝั่งนู้น ท่านกับคุณหนูจื่อซีไปที่นั่นก่อนเถิด ข้ามีเรื่องจะคุยกับพี่สามสักเดี๋ยว และตรงนั้นยังมีแม่ทัพสองสามนายที่อยากจะคุยกับเราด้วย”เย่เฟยหลีมองฉู่เนี่ยนซีและพูดเสียงขรึม “เจ้าไปก่อนเถิด หากเบื่อก็ไปเดินเล่นรอบ ๆ ได้ แต่อย่าไปไกลเกินไปล่ะ”จากนั้นเขาก็หันไปสั่งเสี่ยวเถา “ดูแลพระชายาให้ดี”“เพคะ”ฉู่เหนียนซีเดินไปอีกด้านหนึ่ง ในขณะที่เย่เฟยหลีและเย่ฉงเฉิงค่อย ๆ เดินไปที่โต๊ะฝั่งบุรุษเย่ฉงเฉิงถามด้วยความสับสน “พี่สาม ช่วงนี้ข้าอยู่ที่เมืองหลวงจึงไม่ค่อยทราบข่าวใหม่ เหตุใดซุนจื่อซีถึงได้มากับพวกท่านได้? ”“ถามพี่สะใภ้สามของเจ้าดูสิ”เย่เฟยหลีเองก็อยากจะรู้ เหต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-01
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 516

    เมื่อฝั่งสตรีเห็นฉู่เนี่ยนซีและซุนจื่อซีเดินเข้ามา ทุกคนยกเว้นเจี่ยงจาวอวิ๋นก็ยืนขึ้นและทำความเคารพใบหน้าของฉู่เนี่ยนซียังคงเย็นชา นางเพียงแค่พยักหน้าให้ทุกคนเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง“คุณหนูจื่อซี ได้ยินมาว่าช่วงนี้ท่านไม่สบาย ไม่ทราบว่าดีขึ้นแล้วหรือไม่เพคะ?” หญิงสาวในชุดสีเหลืองอ่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของคุณหนูเฉา ตัวข้าอาศัยอยู่ในจวนของอ๋องหลีมาหลายวันแล้ว และได้รับการดูแลจากท่านอ๋องและพระชายาทุกวัน ตอนนี้ข้าอาการดีขึ้นมากแล้ว”ซุนจื่อซีเดินไปหาคุณหนูเฉาคนนั้น ตอนอยู่ข้างกายไทเฮาเคยเห็นหน้านางอยู่หลายครั้ง จึงไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า“แม้แต่คนที่เย็นชาและเคร่งขรึมอย่างอ๋องหลีก็ดูแลท่านเป็นอย่างดี ถือเป็นพรจริง ๆ”ดูเหมือนว่าคุณหนูเฉาจะลืมฉากการปฏิเสธของเย่เฟยหลีไปโดยสิ้นเชิง นางเพียงแค่เอ่ยขึ้นอย่างชื่นชม“อย่างไรทั้งคู่ของผูกพันธ์กันมาแต่อ้อนแต่ออก ถึงแม้จะมีใครมาคั่นกลาง แต่ก็ใช่ว่าจะหยุดไปได้ตลอดชีวิต ทั้งสองคนถูกไทเฮาเลี้ยงดูมาข้างกาย ดังนั้นจึงเหมาะสมกันมากกว่า”เจี่ยงจาวอวิ๋นพูดขณะแตะเตาอุ่นมือในอ้อมแขนของตัวเองไปด้วย แม้ว่าดวงตาจะดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-02

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status