Share

บทที่ 440

Auteur: ชาผลไม้
“เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?!”

เสี่ยวเถากดดันอิ๋นหลิงมากขึ้นอีกเล็กน้อยแล้วตะโกนใส่นางด้วยความตกใจ

“ท่านไม่จำเป็นต้องมาบอกใบ้ว่าข้าไม่ควรพูดความจริง เพียงแต่ข้าคาดไม่ถึงว่าพระชายาหลีจะเหยียบศพของข้าเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากฮูหยินเหยียน ตอนนี้เรื่องต่าง ๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องปกปิดมันแทนพระชายาหลีอีกต่อไป!”

อิ๋นหลิงหันไปมองฮูหยินเหยียนด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

“ฮูหยิน พระชายาหลีทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นมีชีวิตที่ดีกว่านาง นางจึงสั่งให้ข้าวางยาคุณหนูด้วยเจตนาร้าย และจงใจส่งคนออกไปพูดอะไรบางอย่างกับป้าฟางเพื่อคลายข้อสงสัยที่มีต่อนาง

“ฮูหยิน ข้าไม่เคยทำสิ่งที่เป็นอันตรายเช่นนี้มาก่อน ข้าเลยกลัวมาก จึงไปที่ประตูเพื่อแอบฟัง คาดไม่ถึงว่า… คาดไม่ถึงว่าพระชายาจะใช้ข้าตัดปัญหา ฮูหยิน อิ๋นหลิงไม่มีทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้จริง ๆ ดังนั้น…”

ก่อนที่อิ๋นหลิงจะพูดจบนางไม่รู้ว่ามีพลังจากไหนปะทุออกมาจากทั่วทั้งร่างกายของนางจนหลุดจากการจับกุมของเสี่ยวเถา พาร่างของนางไปกระแทกกับเสาสีแดงหนาที่อยู่ข้าง ๆ อย่างเต็มแรง อิ๋นหลิงล้มลงกับพื้นแล้วหมดลมหายใจ

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างหวาดกลัวและตกตะ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 441

    หลังจากแจ้งทุกอย่างแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็มาหยุดอยู่ตรงประตูมองคราบเลือดที่ชัดเจนบนเสา ในใจของนางมีร่องรอยของความโกรธ อีกทั้งยังมีสายตาที่น่ากลัวอย่างสุดซึ้งฉายแววออกมา“เหตุใดเจ้าถึงต้องทำเรื่องนี้เพื่ออ๋องเหลียนด้วยนะ คนเช่นนั้นพูดอะไรเชื่อถือได้เสียที่ไหน”นางมองฮูหยินเหยียน น้ำเสียงของนางเย็นชาราวกับน้ำแข็งสูงเก้าศอก “ฮูหยินเหยียน หากข้าอยากจะทำร้ายใครสักคนจริง ๆ ข้าก็สามารถทำให้พวกเขาทรมานได้โดยใช้เพียงเข็มเงิน ข้าจะคิดการใหญ่อ้อมโลกขนาดนี้ เพียงเพื่อทำร้ายใบหน้าของจือซินน่ะหรือ? ข้าเป็นพระชายาผู้ซื่อตรงและเที่ยงธรรม คงไม่สามารถใช้วิธีการที่น่ารังเกียจและซับซ้อนเช่นนี้ได้หรอก”“วันนี้ข้าขอประกาศไว้ตรงนี้ว่าข้าไม่สนใจหมาบ้าอย่างอ๋องเหลียนอะไรนั่นแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงหน้าข้าในตอนนี้ ข้าก็กล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าเขา ฮูหยินเหยียน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องการสร้างความร้าวฉานระหว่างตระกูลเหยียน จวนอ๋องหลีและตระกูลฉู่ ข้าหวังว่าท่านจะคิดอย่างรอบคอบ”ฉู่เนี่ยนซีทิ้งคำพูดทั้งหมดไว้แล้วให้เสี่ยวเถากลับไปตามอวี๋หนานที่จวนอ๋องหลี ส่วนนางและฮูหยินเหยียนก็ไปห้องหนังสือของตระกูลเหยียนใต้

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 442

    “เจ้ายังจำเด็กหนุ่มที่มาจวนของเราเมื่อเดือนที่แล้วได้หรือไม่ เขาเป็นคนซื่อสัตย์และมีแรงบันดาลใจ พรสวรรค์ของเขาก็อยู่ในลำดับต้น ๆ เขาเคยพบซินเอ๋อร์สองครั้ง ข้ารู้สึกว่าว่าซีเอ๋อร์ดูเหมือนจะมีใจให้เขาอยู่บ้าง ข้าจึงไปถามเด็กนั่นเป็นการส่วนตัว และดูเหมือนว่าเขาเองก็สนใจซินเอ๋อร์ เหตุใดเราไม่ลองแยกกันไปถามเด็กทั้งสองดูล่ะ…?”“นายท่าน ท่านอ๋องหลีเสด็จมาขอรับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งประกาศขึ้นที่ประตูเมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยินคำว่าท่านอ๋องหลีก็ลุกขึ้นยืนทันที ฮูหยินเหยียนก็เปิดประตูและกล่าวกับชายหนุ่มคนนั้นว่า “รีบเชิญท่านอ๋องหลีไปที่ห้องโถงใหญ่ แล้วนำชาดี ๆ ไปถวายให้พระองค์”“ขอรับ”ฮูหยินเหยียนมองไปที่ฉู่เนี่ยนซีและทำท่าทางเชิญ “ชายาหลี ในเมื่อท่านอ๋องหลีมาที่นี่แล้วงั้นเราก็ไปด้วยกันเถิด”“ตกลง” ฉู่เนี่ยนซีรู้ว่าเย่เฟยหลีมาที่นี่เพราะนาง ดังนั้นนางจึงคิดที่จะไปพบเขาพร้อมกันฮูหยินเหยียนและฉู่เนี่ยนซีกำลังจะออกไปห้องโถงใหญ่ เหยียนจือซินยืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่ที่หน้าประตูและเกือบจะชนเข้ากับทั้งสอง นางคุกเข่าลงและมองใต้เท้าเหยียนอย่างอ้อนวอนพลางร้องไห้ “ท่านพ่อ ลูกไม่อยากแต่งกับท่านอ๋องเหลียน ได้โปรด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 443

    หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว อวี๋หนานก็รีบกลับจากบ้านพ่อแม่ของอิ๋นหลิง และรายงานกับฉู่เนี่ยนซีว่า “นายหญิง กระหม่อมกำลังจับตาดูทั้งคู่อยู่ แม้ว่าจะไม่เห็นพวกเขาติดต่อกับใคร แต่ได้ยินมาว่าพวกเขาได้รับเงินจำนวนมากพ่ะย่ะค่ะ และมีการคุยกันเรื่องการซื้อเรือนและข้าทาส กระหม่อมคิดว่าพวกเขาคงพบกันก่อนที่กระหม่อมจะไปถึงพ่ะย่ะค่ะ”ดูเหมือนจะเป็นข้อตกลงที่ใช้ชีวิตลูกสาวเข้าแลกกับความมั่งคั่งของพ่อแม่ฉู่เนี่ยนซีสาปแช่งในใจ ‘ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเขาถูกสุนัขกินไปแล้วงั้นหรือ?’วันรุ่งขึ้น เย่เฟยหลีออกจากท้องพระโรง กลับมายังจวนของอ๋องหลีเมื่อเห็นฉู่เนี่ยนซีกำลังคัดแยกวัตถุดิบยา เขาจึงถามถึงสรรพคุณทางยาดังกล่าว เมื่อได้ยินว่ายาเหล่านี้เตรียมไว้สำหรับเหยียนจือซิน เขาก็นั่งข้างฉู่เนี่ยนซีและทัดผมของนางที่ตกลงมาขึ้นไว้ข้างหูเย่เฟยหลีกล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยน “มีสองเรื่อง หนึ่งคือใต้เท้าเหยียนไปหาเสด็จพ่อ เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาได้หมั้นหมายไว้กับบุรุษอื่นแล้ว แต่เขายังลังเลเรื่องที่จะให้บุตรสาวออกเรือน ดังนั้นจึงขอเวลาก่อน เมื่อถึงเวลา เขาจะส่งจอกสุรามงคลให้กับเสด็จพ่อด้วยตั

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 444

    “ข้าต้องไปท้องพระโรงแล้ว ไม่เช่นนั้นจะสายเอาได้”เตาใหญ่ในความฝันพูดได้ และเสียงของเขาก็ฟังดูคุ้นเคยเป็นพิเศษฉู่เนี่ยนซียังคงสับสนว่าเหตุใดเตาผิงต้องไปท้องพระโรงด้วย แต่เมื่อคิดว่าไม่ควรรั้งเตาผิงไว้ นางจึงยอมปล่อยเตาผิงไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักจนเมื่อมีเสียงเอี๊ยดของประตูดังขึ้น ลมหนาวด้านนอกก็เริ่มพัดเข้ามา ไม่รู้ว่านางตื่นเพราะลมหนาว หรือตื่นเพราะเสียงดังรบกวนกันแน่ฉู่เนี่ยนซีลืมตาขึ้นอย่างง่วงงุน และทันใดนั้นนางก็ได้สติ ‘หา? เตาผิงที่กอดเมื่อคืนคือเย่เฟยหลีอย่างนั้นหรือ?’“เสี่ยวเถา” ฉู่เนี่ยนซีร้องเรียกด้วยเสียงแหบแห้ง หลังจากรออยู่พักหนึ่งจึงได้เห็นเสี่ยวเถาวางเตาไฟสีแดงไว้ข้าง ๆหลังจากที่เสี่ยวเถาไล่ให้คนออกไป นางก็เข้ามาหาฉู่เนี่ยนซีด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อและถามนางว่าจะลุกเลยหรือไม่ ฉู่เนี่ยนซีจ้องไปที่แก้มแดง ๆ ของนางแล้วถามขึ้นว่า “เหตุใดเจ้าจึงหน้าแดงนัก?”เสี่ยวเถารู้สึกอับอายจนพูดไม่ออกอยู่เป็นเวลานาน ฉู่เนี่ยนซีคิดว่าเสี่ยวเถามีคนที่นางชอบ ความอยากรู้อยากเห็นจึงถูกปลุกขึ้น และกดดันให้เสี่ยวเถาพูดออกมา“ก่อนที่ท่านอ๋องจะออกจากจวน พระองค์กำชับบ่าวให้พระชายาเสวยอาห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 445

    ฉู่เนี่ยนซีสัมผัสใบหน้าของบุคคลในภาพวาด รู้สึกปิติและซาบซึ้งมากนางมีหน้าตาเช่นนี้นี่เอง เดิมทีคิดว่าตัวเองมีโอกาสได้รูจักมารดาจากคำที่คนอื่นเล่าให้ฟังเพียงเท่านั้นเย่เฟยหลีสังเกตเห็นอารมณ์อันอ่อนไหวของฉู่เนี่ยนซี จึงยืนอยู่ข้างนาง มองดูบุคคลในภาพวาดด้วยกันกับนางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ตามหลักแล้ว ข้าควรเรียกนางว่าท่านแม่ยาย นางเสียชีวิตจากการคลอดบุตรในวันที่เจ้าเกิดไม่ใช่หรือ? เจ้ายังไม่เคยกราบไหว้ดวงวิญญาณของนางเลย เหตุใดวันนี้ไม่ไปกราบไหว้นางเสียหน่อยเล่า?”ฉู่เนี่ยนซีหันศีรษะไปมองเย่เฟยหลี รู้สึกอบอุ่นเล็กน้อยกับความใส่ใจของเขา นางพยักหน้าและออกเดินทางไปยังจวนเสนาบดีฉู่พร้อมกันกับเขาบนรถม้า เย่เฟยหลี่หยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าตรงแขนเสื้อแล้วมอบให้ฉู่เนี่ยนซี แววตาของเขาดูไม่สบายใจเล็กน้อย “นี่คือของขวัญวันเกิดจากข้า เจ้าลองเปิดดูสิว่าชอบหรือไม่”หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีเปิดมันออก นางก็เห็นปิ่นหยกที่ขาวใสราวกับหิมะอยู่ภายใน ลวดลายของดอกฮวานฮวา*ถูกแกะสลักไว้อย่างประณีต เมื่อสูดดมกลิ่นพบว่ามีกลิ่นหอมจาง ๆ เจืออยู่เล็กน้อยนางดึงปิ่นปักผมบนศีรษะออก พลางคลำหาจุดเพื่อสอด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 446

    เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกอย่างระมัดระวังเพื่อโอบนางไว้ในอ้อมแขน เขาหันไปด้านข้างเล็กน้อยแล้วแนบศรีษะของฉู่เนี่ยนซีไว้กับแผ่นอกกว้างของตนเมื่อก้มศีรษะลง ก็มองเห็นหน้าผากอิ่มเอิบของฉู่เนี่ยนซี ขนตางอนยาวราวกับขนนกที่ค่อย ๆ ตกลงมาบนยอดหัวใจของเขา มันเงียบแต่ก็เต็มไปด้วยน้ำหนักพลบค่ำกำลังจะสิ้นสุดลง และแสงสุดท้ายก็จางหายไปจากท้องฟ้าอันไร้ขอบเขตฉู่เนี่ยนซีพลิกตัวและรู้สึกว่าภายใต้ร่างกายของตัวเองนั้นนุ่มผิดปกติจึงลืมตาขึ้นด้วยความสับสน และผ้าม่านที่ปักหลากสีเหนือศีรษะก็ปรากฏขึ้นในดวงตานางลุกขึ้นนั่ง มองหมอกที่อยู่นอกหน้าต่างพลางรู้สึกสับสนเล็กน้อย“เสี่ยวเถา”เสี่ยวเถาเปิดม่านลูกปัดและเดินเข้ามาเงียบ ๆ “พระชายาตื่นแล้วหรือเพคะ พระองค์หลับอยู่ตลอดทั้งบ่ายทีเดียว”“ข้า…ข้ากลับมาที่นี่ได้อย่างไร?”ภาพสุดท้ายในความทรงจำของฉู่เนี่ยนซีคือภาพภายในรถม้าที่ง่อนแง่น นางลองคิดถึงอย่างไรก็นึกอะไรไม่ออก“พระชายาผลอยหลับไปบนรถม้า ท่านอ๋องเป็นคนอุ้มพระชายากลับมาเพคะ หลังจากที่ท่านอ๋องสั่งไม่ให้บ่าวปลุกพระชายา พระองค์ก็เสด็จไปห้องอักษร”“ข้า…” ฉู่เนี่ยนซีเกาหลังคอแล้วกระซิบ “ข้าไม่ได้ถามเจ้าว่าเข

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 447

    ในที่สุดเย่เฟยหลีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเริ่มเพลิดเพลินกับอาหารเย็นของเขาอย่างมีความสุขขณะกำลังทานอาหาร ฉู่เนี่ยนซีก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะถามเย่เฟยหลีหลังจากกลืนบะหมี่ลงคอ “ท่านใส่อะไรผิดแผกลงไปอีกหรือเปล่า?”“ไม่นะ ก็แค่ไข่กับบะหมี่”เย่เฟยหลีมองดูฉู่เนี่ยนซีด้วยความสงสัย กลัวว่าเขาจะทำทุกอย่างพัง“รสชาติมันกรุบกรอบ เหมือน...”เหมือนเปลือกไข่ทันใดนั้น ฉู่เนี่ยนซีก็รู้แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีมีสีหน้ากังวล และคิดว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาทำบะหมี่ นางจึงกลืนคำพูดกลับลงคอไป“เหมือนกับว่าเส้นบะหมี่ถูกนวดมาเป็นเวลานานจึงมีความเหนียวนุ่มมากน่ะเจ้าค่ะ”“อาจเป็นเพราะท่านอ๋องฝึกวรยุทธตลอดทั้งปี จึงได้แข็งแกร่งกว่าพ่อครัว ดังนั้นแป้งที่นวดออกมาจึงเหนียวนุ่มกว่ากระมังเพคะ”เสี่ยวเถาที่อยู่ด้านข้างคาดเดาฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าและพอใจกับการเดาของเสี่ยวเถามาก เมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองอย่างยินดีของเย่เฟยหลี ฉู่เนี่ยนซีจึงทำได้เพียงต้องกินบะหมี่ชามนี้ให้หมดเท่านั้นโชคดีที่เปลือกไข่มีไม่มาก หากมองข้ามข้อบกพร่องนี้ไป รสชาติของมันก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวหลังอาหารเย็น แสงสีฟ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 448

    ความยิ่งใหญ่ของพระราชวังทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเข้าไปในพระราชวังจะยังคงตื่นตาไปกับการตกแต่งอันงดงามซุนจื่อซียืนอยู่ข้างกระจกสี่เหลี่ยมและถอดปิ่นปักผมออกจากศรีษะ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวังทั้งห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางยังคงดูอ่อนแรง“ซีเอ๋อร์รู้สึกว่าท่านป้าดูอ่อนเยาว์ลงอีกแล้วนะเพคะ ดูเหมือนว่าอายุจะทำอะไรท่านป้าไม่ได้เลย”เสียงที่อ่อนหวานของซุนจื่อซีทำให้ไทเฮายิ้มไม่หุบ ไทเฮามองผ่านกระจกและเฝ้าดูซุนจื่อซีที่กำลังหวีผมให้นางอย่างอ่อนโยน ความรักในหัวใจของนางก็ลึกซึ้งขึ้นไปอีกนางเอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจ “ซีเอ๋อร์ ข้าจะหาผู้ชายดี ๆ ในท้องพระโรงให้เจ้าเอง ในโลกนี้ใช่ว่าจะมีอย่างหลีเอ๋อร์แค่ผู้เดียว”รอยยิ้มบนใบหน้าของซุนจื่อซีจางลง เมื่อนึกถึงการถูกปฏิเสธในวันนั้นนางยังคงรู้สึกเสียใจ แต่นางก็ระงับอารมณ์ไว้ไม่แสดงออกมา“ซีเอ๋อร์รู้ว่าท่านป้ารักและเอ็นดูซีเอ๋อร์เพียงใด และซีเอ๋อร์ก็เคยคิดด้วยว่าหากไม่ได้ท่านป้า ป่านนี้ซีเอ๋อร์อาจกลายเป็นคนเร่ร่อนอยู่ที่ใดสักแห่งก็ได้เพคะ”“ซีเอ๋อร์อยู่ดูแลท่านป้ามานานหลายปี จึงมีนิสัยและความคิดคล้

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status