แชร์

บทที่ 414

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-25 16:00:00
หลังจากที่เหลียงหยวนรายงานเสร็จ อุณหภูมิในห้องก็ค่อย ๆ ลดลง และความดำมืดในดวงตาของเย่ เฟยหลีก็หนาขึ้นราวกับว่าช่องมังกรดินทั้งหมดหยุดปล่อยความร้อนออกมา

เฟยหลีมองเหลียงหยวนอย่างเย็นชา ด้วยความโกรธในดวงตาของเขา แต่ไม่ใช่เพราะเหลียงหยวน หากแต่เป็นเพราะซ่างกวานเยียน

“มณฑลตะวันตกอย่างนั้นหรือ? ดี! ที่แท้ข้าก็ล่อหมาป่าเข้าจวนด้วยตัวเองสินะ ไม่แปลกใจเลยที่ครั้งที่แล้ววางกับดักอย่างแยบยล แต่กลับไม่ได้อะไร ที่แท้ก็เพราะพวกนั้นซ่อนตัวอยู่ในจวนของข้านี่เอง”

“กระหม่อมได้ส่งคนออกตามล่าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

สีหน้าของฉู่เนี่ยนซีก็เย็นชาไม่แพ้กัน “คงตามไม่ทันแล้ว ในเมื่อพวกเขากล้าที่จะปล้นคน นั่นหมายความว่าพวกเขาได้วางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว แล้วซ่างกวานชางล่ะ?”

“ซ่างกวานชางยังอยู่ขอรับ คนเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่สนใจซ่างกวานชางเลย ดังนั้นเขาจึงถูกกระหม่อมคุมตัวไปขังไว้ในคุกแล้วขอรับ”

เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีมองหน้ากัน รู้สึกได้ว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

“ตอนนี้ประตูวังล็อคกลอนแล้ว คงต้องรอจนถึงพรุ่งนี้ตอนขึ้นศาล ท่านอ๋องค่อยกราบทูลกับเสด็จพ่อ” ฉู่เนี่ยนซีมองเย่เฟยหลีด้วยสีหน้าจริงจัง

“หากซ่างกวานชางไม่ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 415

    หลังจากที่เย่เฟยหลีพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ เขาก็โบกมือข้างหูส่งสัญญาณทหารที่อยู่รอบ ๆ เคลื่อนไหวไปทั่วทุกมุมของจวนซ่างกวานอย่างรวดเร็ว และคืนอันมึดมิดก็เต็มไปด้วยเสียงความวุ่นวายทันที“ท่านอ๋องหลี ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ กระหม่อมซื่อสัตย์และภักดีมาตลอด จะสมรู้ร่วมคิดกับมณฑลตะวันตกได้อย่างไร ท่านอ๋องหลี ไม่อย่างนั้น…”“จะเข้าใจผิดหรือไม่ ตรวจสอบดูก็จะรู้”เย่เฟยหลีขัดจังหวะซ่างกวานอวี้ และเดินตรงไปที่ห้องโถงต้อนรับเพื่อนั่งลงบนที่นั่งหลักเขามองออกไปนอกห้องเงียบ ๆ ด้วยสายตาเย็นชา เสื้อคลุมสีดำที่เขาสวมก็ทำให้เขาดูโหดร้ายมากยิ่งขึ้นในไม่ช้า สาวใช้ คนรับใช้ ทหารยาม ฯลฯ ทั้งหมดก็ถูกควบคุมตัวมาที่ลานบ้านคนหนึ่งตกใจมากจนเป็นลม และสาวขี้กลัวอีกคนก็ร้องไห้อย่างขมขื่น“หุบปาก ไม่เช่นนั้นชีวิตของเจ้าจะไม่รอด” ทหารที่อยู่ใกล้ ๆ ตะโกนดุสาวใช้“เชิญท่านซ่างกวาน”เย่เฟยหลีมองซ่างกวานอวี้อย่างเย็นชา เมื่อเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวที่แม้ว่าจะกลัวของเขา จึงตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าสีหน้าของเขาเป็นของปลอมหรือของจริงเมื่อมาถึงกองอารักขา กองอารักขาก็สั่งให้ซ่างกวานอวี้โค้งคำนับให้เย่เฟยหลี ก่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-26
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 416

    “เสด็จพ่อ ซ่างกวานเยียนอาศัยอยู่ในจวนของซ่างกวานมาหลายปีแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางไม่ได้นำของอะไรมาที่จวนของกระหม่อมเลย ได้โปรดอนุญาตให้กระหม่อมค้นจวนของซ่างกวานด้วยเถิด” เย่เฟยหลีทำความเคารพจักรพรรดิโกรธมากจนกระแทกถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะ ขันทีเฉินที่อยู่ข้าง ๆ เขา คุกเข่าลงและคำนับทันที“ซ่างกวานเยียนเป็นชายารองของเจ้า เจ้าหลีกเลี่ยงการกระตุ้นความสงสัยจะดีกว่า ข้าจะส่งคนจากกองอารักขาไปกับเจ้าเอง”ทันใดนั้น จวนของซ่างกวานก็แตกตื่นกันอีกครั้งทหารพลิกโต๊ะและตู้ทั้งหมดให้คว่ำลง และทุกมุมก็เต็มไปด้วยเศษซากเย่เฟยหลียืนอยู่ในเรือนของซ่างกวานเยียน และตรวจสอบทุกซอกทุกมุมที่สามารถซุกซ่อนของได้อย่างละเอียดกองอารักขาวิ่งเข้ามาหาเย่เฟยหลีและกล่าวว่า “ทูลท่านอ๋องหลี พวกเราค้นหาจนทั่วแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรเลยพ่ะย่ะค่ะ”เย่เฟยหลีเงยหน้าขึ้นและมองหาต่อ ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็หยุดมองม่านตรงมุมห้องโถงด้านใน และสั่งขึ้นว่า “ตรงนั้น” ผู้บังคับบัญชาทั้งหมดมองตามสายตาของเย่เฟยหลีก่อนจะรีบทยานเข้าไปตรงนั้น หลังจากค้นหาที่นั่นสักพัก พวกเขาก็พบจดหมายสองสามฉบับ“ทูลท่านอ๋องหลี มีอยู่จริง ๆ ด้วยพ่ะย่ะค่ะ มันถูกซ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-26
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 417

    “ฝ่าบาท นี่มันอะไรกันหรือเพคะ?”“นี่เป็นหลักฐานว่าเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับมณฑลตะวันตก! ฮองเฮา เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่?”ใบหน้าอันสง่างามของจักรพรรดิเต็มไปด้วยความโกรธ เขามองดูฮองเฮาด้วยดวงตาคมราวกับใบมีด“หม่อมฉันเปล่านะเพคะ! เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจปลอมแปลงจดหมายแล้วส่งให้กับองค์จักรพรรดิเพื่อใส่ร้ายหม่อมฉันกับอ๋องเหลียนนะเพคะ!”ฮองเฮาหรี่ตาลง แม้ว่านางจะไม่ได้เอ่ยเจาะจง แต่ก็ชัดเจนมากว่านางกำลังหมายถึงใครเย่เฟยหลีโค้งตัวลงเล็กน้อยแล้วกล่าวอย่างชอบธรรมว่า “เสด็จพ่อทรงทราบดี”เมื่อเย่เฟยหลีเห็นว่าจักรพรรดิพยักหน้าให้ตน จึง หันไปหาฮองเฮาและพูดอย่างเคร่งครึมว่า “เราได้จดหมายนี้มาจากซ่างกวานเยียน หลังจากถูกทรมาน นางจึงเปิดเผยว่าฮองเฮาสมรู้ร่วมคิดมณฑลตะวันตกมานานแล้ว”“ขั้นแรก วางแผนที่จะใส่ร้ายฉู่เนี่ยนซีเพื่อทำให้กระหม่อมแตกแยกกับเสด็จพ่อ และเมื่อเห็นว่าอำนาจทางทหารตกไปอยู่ในมือของอ๋องเหลียน แล้วจึงวางแผนที่จะรอโอกาสในการดำเนินการ เพียงแต่ไม่คิดว่าอำนาจทหารจะกลับมาสู่มือของกระหม่อมอีกครั้งเร็วเช่นนี้ ดังนั่นแผนการจึงได้ล่าช้าออกไป”เย่เฟยหลีแค่แต่งเรื่องขึ้นมา เขาต้องการดูว่าฮองเฮาจะมีปฏ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-26
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 418

    ฮองเฮาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อรู้ว่าไม่สามารถซ่อนมันได้อีกต่อไป นางจึงคุกเข่าแทบพระบาทจักรพรรดิทันที พลางกำเสื้อคลุมมังกรไว้แน่นแล้วกล่าวทั้งน้ำตา“ฝ่าบาท หม่อมฉันยอมรับว่าได้ติดต่อกับซ่างกวานเยียนจริง แต่เพียงเพื่อติดตามข่าวของอ๋องหลีเท่านั้นเพคะ หม่อมฉันไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับมณฑลตะวันตกนะเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันยอมรับว่านี่เป็นลายมือของหม่อมฉันเอง แต่จดหมายอีกสองฉบับ หม่อมฉันไม่ทราบจริง ๆ และหม่อมฉันก็ไม่ได้เป็นคนเขียนให้นางนะเพคะ”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ทราบจริง ๆ ว่าซ่างกวานเยียนเป็นสายลับของมณฑลตะวันตก หากหม่อมฉันทราบ หม่อมฉันจะต้องรายงานเรื่องนี้ต่อองค์จักรพรรดิโดยตรงแน่นอนเพคะ!”“ฝ่าบาท ตระกูลไป๋จงรักภักดีต่อพระองค์ หม่อมฉันกล้าสาบานด้วยชีวิตว่าหม่อมฉันไม่มีวันมีเจตนาไม่ดีแน่นอนเพคะ!”“หากเหล่าเทพเซียนสามารถได้ยินคำสาบานอันเป็นเท็จทั้งหมดของมนุษย์ได้ บนโลกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีการตัดสินคดี แค่ต้องดูว่าผู้คนเหล่านั้นจะทำตามคำสาบานของตนเองได้หรือไม่” เย่เฟยหลีขวางขัดทางหนีทีไล่ของฮองเฮา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “และหากท่านไม่มีเจตนาไม่ดีจริง เหตุใดต้องสืบสถานการณ์ของจวนกระหม่อมด้วย?”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-27
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 419

    เย่ฉงเฉิงสถบและตบโต๊ะอย่างแรง ราวกับว่าซ่างกวานเยียนอยู่ตรงหน้าเขา“เช่นนั้นท่านจะบอกว่าท่านอ๋องไร้ความสามารถอย่างนั้นหรือเพคะ ถึงได้ดูคนไม่ออก จนวันนี้เพิ่งมาเปิดเผยแต่โฉมหน้าที่แท้จริงของซ่างกวานเยียนได้?”ฉู่เนี่ยนซีมีรอยยิ้มซ่อนอยู่ที่มุมปาก รู้สึกตลกที่เห็นเย่ฉงเฉิงอ้าปากพูดไม่ออกและรู้สึกอึดอัดใจ“เจ้า… ข้า… ก็ได้ จะดีจะร้ายก็แล้วแต่เจ้าเลย ข้าจะพูดอะไรได้อีก หากเจ้าทะเลาะกับพี่สาม ด้วยนิสัยของเขาที่เอาแต่นิ่งเงียบ เจ้าคงได้โกรธจนอกแตกตายแน่!”เย่ฉงเฉิงนั่งลงข้าง ๆ ด้วยความโกรธโดยไม่ปลายตามองนางฉู่เนี่ยนซีอดไม่ได้ที่จะนึกถึงช่วงสิบห้าวันที่เย่เฟยหลีมาคอยพล่ามอยู่ข้าง ๆ ไม่หยุด แม้แต่เย่ฉงเฉิงก็ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ ฉู่เนี่ยนซีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจสั่นเล็กน้อยไม่นานหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงรองเท้าดังเข้ามาใกล้ ฉู่เนี่ยนซีและเย่ฉงเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นและรอเย่เฟยหลีเข้ามาทันทีที่เย่เฟยหลีเปิดประตู เขาก็เห็นตาสองคู่จับจ้องมาที่เขา และยังเห็นว่าเย่ฉงเฉิงดูเหมือนจะหงุดหงิดจากการทะเลาะกับฉู่เนี่ยนซีอีกแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตลกเล็กน้อย“เหตุใดยังไม่นอนกันอีก?” เย่เฟยหลี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-27
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 420

    เพียงชั่วพริบตา ก็ถึงช่วงกลางปีใหม่ ฉู่เนี่ยนซีกำลังศึกษายาตัวใหม่อยู่ในลานจวน และกำลังบันทึกคุณสมบัติของยาทีละรายการ ในขณะที่หันไปดูตำราแพทย์ไปด้วยเสี่ยวเถารีบเข้ามาและกล่าวขึ้นพร้อมกับทำความเคารพ “พระชายาเพคะ ขันทีในวังได้ส่งข่าวมาบอกว่าไทเฮาเชิญขุนนางและเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ไปร่วมชมดอกบ๊วยในวันพรุ่งนี้เพคะ”“บอกไปว่าข้าไม่สบาย เกรงว่าจะแพร่เชื้อให้กับไทเฮา จึงขอไม่ไปดีกว่า”ฉู่เนี่ยนซียังคงจดสูตรยาโดยคำนวณถึงปริมาณที่เหมาะสมที่สุดในใจอย่างรอบคอบ“บ่าวก็ตอบรับไปเช่นนั้นแล้วเพคะ แต่ขันทีบอกว่าเขาจะส่งรถม้าของพระราชวังมารับพระชายาเข้าวัง และจะให้แพทย์หลวงมาทำการรักษาพระชายา หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก็จากไปโดยไม่แม้แต่จะพักหยุดหายใจเลยเพคะ”ฉู่เนี่ยนซีหยุดพู่กันในมือแล้วมองไปที่เสี่ยวเถา นางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเขียนใบสั่งยาต่อ“งั้นก็ไปดูกันว่าฝ่ายนั้นจะแสดงละครเช่นไรอีก”เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่เนี่ยนซีมองไปที่เตียงเรียบร้อยอีกเตียงหนึ่ง แล้วรู้สึกว่างเปล่าเล็กน้อยฉู่เนี่ยนซีเลือกชุดลายต้นดาดตะกั่วสีน้ำเงินแล้วม้วนผมด้วยปิ่นหยก หลังจากได้ยินว่าเสี่ยวเถาบอกว่ามันธรรมดาเกินไป นางจึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-27
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 421

    “นั่นสิ ข้าว่าซีเอ๋อร์ถึงวัยที่จะต้องออกเรือนแล้ว ไม่ใช่เอาแต่อยู่กับคนแก่ ๆ เช่นช้าทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าข้าจะเอ็นดูนางเพียงใด ข้าก็ต้องปล่อยนางไป”ไทเฮามองซุนจื่อซีด้วยความเปี่ยมเมตตา แม้แต่หางตาของนางก็แสดงให้เห็นความรักที่มีต่อซุนจื่อซี“เสด็จย่า ซีเอ๋อร์ยังต้องอยู่ดูแลท่าน ซีเอ๋อร์ไม่อยากแต่งงานเพคะ”ซุนจื่อซีวางมือบนไหล่ของไทเฮาพลางนวดแขนของนางอย่างน้อยใจ“เด็กน้อยพูดอะไรไร้สาระ” ไทเฮาแสร้งทำเป็นโกรธซุนจื่อซี ทันใดนั้นดวงตาของนางก็จ้องมองไปที่ฉู่เนี่ยนซีอีกครั้ง“ข้าได้ยินมาว่าชายาหลีไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือไม่?”“ขอบพระทัยไทเฮาที่ทรงเป็นห่วงเพคะ หลายวันมานี้หม่อมฉันได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วเพคะ”ฉู่เนี่ยนซีตอบอย่างมีไหวพริบด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาเช่นเดียวกับดอกบ๊วยที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ทั้งดูสวยงามและน่าทึ่ง แต่กลับให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกอยู่เสมอฉู่เนี่ยนซีรู้สึกเพียงว่าสายตาที่ไทเฮาทรงมองมายังนางนั้นช่างดูคุ้นเคย พาลให้นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ที่ไทเฮาทรงตรัสถึงการแต่งงานของซุนจื่อซีกับนาง นางจึงแอบรู้สึกไม่ดี นี่ไม่ใช่งานชมดอกบ๊วยแล้ว คงมาชมนางเสียมากกว่ากระม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-28
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 422

    “เพคะ”ทุกคนยืนขึ้นและติดตามไทเฮาออกจากพระตำหนักอันชิ่งไปฮูหยินไห่และฮูหยินในชุดสีน้ำเงินมองหน้ากัน รู้ดีว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป และดีใจที่ไทเฮาไม่ได้กล่าวโทษพวกนางณ พระตำหนักเจาฮุยที่อบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิ ร่างของหญิงนักร่ายรำในชุดกระโปรงผ้าไหมที่ตัวอ่อนราวกับงูน้ำ และแขนเสื้อที่โบกเป็นวงกลมช่วยสร้างบรรยากาศอันน่าหลงใหลขึ้นที่นั่งถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งขวานำโดยเย่เหลียนตามด้วยเย่เฟยหลีและองค์ชายคนอื่น ๆ บุตรชายของตระกูลต่าง ๆ ปิดท้ายด้วยขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ทางด้านซ้ายนำโดยเจี่ยงจาวอวิ๋นตามด้วย ฉู่เนี่ยนซี บรรดาชายาขององค์ชายและฮูหยินของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ รวมไปถึงบุตรีของตระกูลต่าง ๆ“ลูกขออวยพรให้เสด็จแม่ทรงมีพลานามัยแข็งแรงและมีพระชนม์มายุยืนยาว”องค์จักรพรรดิทรงยกจอกสุราขึ้นพลางมองไปยังฮองเฮาที่อยู่ข้าง ๆ ส่วนบรรดาอ๋อง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ชายาเอกของอ๋อง และฮูหยินคนอื่น ๆ ก็ยกจอกสุราขึ้นและกล่าวตามว่า “กระหม่อม/หม่อมฉันขออวยพรให้ไทเฮาทรงมีพลานามัยแข็งแรงและมีพระชนม์มายุยืนยาวพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”หลังจากที่ทุกคนดื่มสุราอย่างมีความสุข ก็พาให้บรรยากาศมีชีวิตชีวามากไปสักพักหนึ่งหลังจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-28

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status