แชร์

บทที่ 422

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-28 16:00:00
“เพคะ”

ทุกคนยืนขึ้นและติดตามไทเฮาออกจากพระตำหนักอันชิ่งไป

ฮูหยินไห่และฮูหยินในชุดสีน้ำเงินมองหน้ากัน รู้ดีว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป และดีใจที่ไทเฮาไม่ได้กล่าวโทษพวกนาง

ณ พระตำหนักเจาฮุยที่อบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิ ร่างของหญิงนักร่ายรำในชุดกระโปรงผ้าไหมที่ตัวอ่อนราวกับงูน้ำ และแขนเสื้อที่โบกเป็นวงกลมช่วยสร้างบรรยากาศอันน่าหลงใหลขึ้น

ที่นั่งถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งขวานำโดยเย่เหลียนตามด้วยเย่เฟยหลีและองค์ชายคนอื่น ๆ บุตรชายของตระกูลต่าง ๆ ปิดท้ายด้วยขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ทางด้านซ้ายนำโดยเจี่ยงจาวอวิ๋นตามด้วย ฉู่เนี่ยนซี บรรดาชายาขององค์ชายและฮูหยินของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ รวมไปถึงบุตรีของตระกูลต่าง ๆ

“ลูกขออวยพรให้เสด็จแม่ทรงมีพลานามัยแข็งแรงและมีพระชนม์มายุยืนยาว”

องค์จักรพรรดิทรงยกจอกสุราขึ้นพลางมองไปยังฮองเฮาที่อยู่ข้าง ๆ ส่วนบรรดาอ๋อง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ชายาเอกของอ๋อง และฮูหยินคนอื่น ๆ ก็ยกจอกสุราขึ้นและกล่าวตามว่า “กระหม่อม/หม่อมฉันขออวยพรให้ไทเฮาทรงมีพลานามัยแข็งแรงและมีพระชนม์มายุยืนยาวพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”

หลังจากที่ทุกคนดื่มสุราอย่างมีความสุข ก็พาให้บรรยากาศมีชีวิตชีวามากไปสักพักหนึ่ง

หลังจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 423

    “เจ้าเป็นโอรสของข้า ดังนั้นแน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่มีอันใดบกพร่อง เมื่อพูดถึงการสร้างตัว หากข้าให้เจ้าแต่งงานก่อน เจ้าก็จะให้ความสำคัญกับการสร้างตัวมากขึ้น”องค์จักรพรรดิมองเย่ฉงเฉิงด้วยความกังวล และคิดว่าควรมีใครสักคนมาดูแลเขาจริง ๆ“เสด็จพ่อ ลูกปวดท้อง คงไม่ได้แล้ว ลูกต้องขอออกไปก่อนพ่ะย่ะค่ะ”เย่ฉงเฉิงจับท้องของเขาพลางทำหน้าแหย และรีบหนีไปก่อนที่องค์จักรพรรดิจะพูดอะไรต่อ“เจ้าเฉิงเอ๋อร์นี่เอาแต่ทำตัวเป็นเด็กจริง ๆ”องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรไปยังที่นั่งที่บัดนี้ว่างเปล่าของเย่ฉงเฉิงอย่างจนใจพลางส่ายหน้าฉู่เนี่ยนซีรู้สึกสับสนเล็กน้อย เย่ฉงเฉิงรักสิ่งสวย ๆ งาม ๆ มาตลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดหญิงงามเช่นนี้มาอยู่ตรงหน้าเขา เขากลับดูเหมือนตกใจกลัวแต่การเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ตลกนิดหน่อยจริง ๆ“หม่อมฉันไม่ได้พูดถึงเฉิงเอ๋อร์”ไทเฮาทรงขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางมององค์จักรพรรดิด้วยความไม่พอใจ“ดูเหมือนว่าเสด็จแม่ทรงมีคนในใจแล้ว”“หม่อมฉันว่าเป็นหลีเอ๋อร์ก็ไม่เลว เขามีความสามารถและฉลาด ซีเอ๋อร์ของหม่อมฉันเป็นคนว่านอนสอนง่าย นางได้รับการเลี้ยงดูในพระตำหนักอันชิ่งมาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมารยาทหรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-28
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 424

    เย่เฟยหลีมองฉู่เนี่ยนซีด้วยสายตาอันมั่นคง จากนั้นก็ยืนขึ้นทำมือคำนับไทเฮาด้วยสีหน้าและดวงตาที่แน่วแน่แน่นอนว่าฉู่เนี่ยนซีอยากลุกขึ้นยืนตามเย่เฟยหลี แต่นางไม่กล้ามองเขา“เสด็จย่า หลานไม่คู่ควรกับแม่นางจื่อซี เกรงว่าจะทำให้เสด็จย่าต้องผิดหวังแล้ว หลานไม่อาจตบแต่งกับซุนจื่อซีแต่งงานในฐานะชายาเอกอีกคนได้ อีกทั้งยังไม่อาจหย่ากับชายาหลีได้ เพราะหลานจะมีชายาเพียงคนเดียวนั่นคือชายาหลีผู้นี้ ขอเสด็จย่าโปรดทรงถอนรับสั่งด้วยพ่ะย่ะค่ะ”แม้ว่าน้ำเสียงของเย่เฟยหลีจะสงบ แต่ทั้งตัวของเขาก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เยือกเย็น ความเยือกเย็นและความชัดเจนในน้ำเสียงของเขาราวกับมีดคม ๆ แทงเข้าไปในหัวใจของซุนจื่อซีราวกับสามารถได้ยินเสียงเลือดหยดลงมาได้อาจเป็นเพราะถูกองค์ชายสองคนปฏิเสธติด ๆ กัน ซุนจื่อซีที่เริ่มขายหน้าจึงพูดกับไทเฮาอย่างแทบจะสงบจิตใจแทบไม่ไหว “เสด็จย่า ซีเอ๋อร์เพียงอยากอยู่ปรนนิบัติข้างกายพระองค์เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงคนทำความสะอาดก็ถือเป็นพรสำหรับซีเอ๋อร์แล้วเพคะ”เมื่อฟังเสียงที่สั่นเทาของซุนจื่อซี ไทเฮาก็ยิ่งกริ้วมากขึ้น นางก็ตบโต๊ะและตะโกนใส่เย่เฟยหลี“โอหัง! ข้าประทานงานอภิเษกให้เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-29
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 425

    ฮูหยินในชุดสีน้ำเงินเข้มถูกฮูหยินในชุดสีแดงลูกท้อตบไหล่ นางพูดใกล้ ๆ หู “ฮูหยินเหยียน เหตุใดข้าถึงเห็นว่าท่านอ๋องเหลียนถึงเอาแต่มองมาทางนี้ล่ะ?”ฮูหยินเหยียนเงยหน้าขึ้นสบตากับเย่เหลียนพลางยิ้มอย่างสง่างามด้วยสายตาที่ซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ไม่รู้เลยว่าเย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีออกจากพระตำหนักเจาฮุยมาตั้งแต่เมื่อใดทั้งสองเดินบนแผ่นหินสีครามแกะสลักที่วางเป็นทางยาวและเยือกเย็น ล้อมรอบด้วยกำแพงสีแดงสูงตระหง่านและกระเบื้องสีทองสุกใสผู้คนภายนอกคิดเพียงว่าสังคมชนชั้นสูงนั้นมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ ส่วนผู้คนในวังก็คิดว่าผู้คนข้างนอกนั้นมีอิสระและกล้าหาญเย่เฟยหลีบังลมให้ฉู่เนี่ยนซีด้วยเสื้อคลุม เขาก็ยิ้มอย่างลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับนึกถึงอะไรบางอย่าง ฉู่เนี่ยนซีมองเขาอย่างนึกสงสัย ขณะนั้นใบหน้าเย็นชาก็ถูกสายลมพัดเข้าหา“เมื่อครู่ได้ยินไทเฮาทรงตรัสว่าเคยเสนอเรื่องการแต่งงานเช่นนี้มาก่อนแล้วแต่ถูกเจ้าปฏิเสธ เจ้าบอกข้าหน่อยสิว่าเหตุใดถึงปฏิเสธ?”ฉู่เนี่ยนซีนึกคำพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง วันนั้นนางรู้สึกอึดอัดใจเพียงเท่านั้น รวมไปถึงมีความโกรธที่อธิบายไม่ได้แผดเผาหัวใจและตับของนางจนไหม้เท่านั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-29
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 426

    ฉู่เนี่ยนซีห้ามเย่เฟยหลีแล้วเดินไปหาเย่เซวียนเล่ออย่างสงบด้วยสายตาแน่วแน่และไม่แยแส “องค์หญิงห้า องค์หญิงเป็นธิดาผู้สูงศักดิ์ของราชวงศ์ องค์หญิงควรรู้ดีที่สุดว่าหากจะกำจัดศัตรูต้องทำเช่นไร องค์จักรพรรดิไม่ทรงถอดยศฮองเฮา ทั้งยังไม่ลากตระกูลไป๋เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่เพราะฮองเฮาโชคดี แต่เพราะสวรรค์ยังเมตตา ท่านอ๋องหลีเองก็มีส่วนช่วยด้วยครึ่งหนึ่ง”“องค์หญิงห้าจะไม่สำนึกบุญคุณ หม่อมฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่หากองค์จักรพรรดิทรงทราบว่าองค์หญิงห้ากำลังก่อเรื่องและพูดจาไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่รู้ว่าจะกระทบไปถึงฮองเฮาหรือไม่? หากฮองเฮาทรงถูกถอดยศจริง ๆ องค์หญิงห้าทรงเคยคำนึงถึงชะตากรรมของตัวเองบ้างหรือไม่ แม้จะมีการลดโทษเพราะเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ก็เกรงว่าจะอยู่รอดในวังแห่งนี้ได้ยากนะเพคะ”“องค์หญิงห้าโปรดใช้สมองไตร่ตรองให้ดี นกที่ดีย่อมเลือกต้นไม้ที่จะเกาะ คิดคำนวนถึงประโยชน์ต่อตัวท่านให้ดีเถิด”หากเป็นการต่อสู้ของจริง ฉู่เนี่ยนซีจะไม่แลเย่เซวียนเล่อเลย แต่การที่เย่เซวียนเล่อสร้างปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่านั้นเป็นการกระทำที่ชวนให้หงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง หวังว่าเย่เซวียนเล่อจะเข้าใจและอยู่ให้ห่างจากนางต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-29
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 427

    ตอนนั้นหม่อมฉันตกใจมากจึงคิดว่าจะไปหาท่านพ่อท่านแม่เพื่อสอบถามรายละเอียด แต่ท่านอ๋องก็ทรงรั้งหม่อมฉันไว้แล้ว พะ...พูดว่าด้วยรูปร่างหน้าตาของหม่อมฉัน หากสามารถแต่งเข้าจวนท่านอ๋องเหลียนได้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ แต่ว่าหม่อมฉัน...หม่อมฉัน”ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าอย่างเข้าใจ ในขณะที่ทั้งสองกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี นางกำนัลนางหนึ่งก็เข้ามาพูดด้วยความนอบน้อม “พระชายาหลีเพคะ องค์หญิงฉางเล่อเชิญท่านไปดื่มชากับพระองค์ที่ตำหนักฉางหลิงเพคะ”“เข้าใจแล้ว” ฉู่เนี่ยนซีจับมือเหยียนจือซินกำลังจะเดินไป แต่เหยียนจือซินก็ดึงมือออกพลางถอยหลังไปสองก้าว นางก้มหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่...ไม่ได้ เรื่องนี้...มัน…”เหยียนจือซินเริ่มตื่นตระหนกอีกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง ดวงตาของนางเลิ่กลั่ก พลางพูดไม่เป็นประโยคอยู่สักพัก จากนั้นนางก็กำลังจะหันหลังวิ่งหนีไป“เหยียนจือซิน”ด้วยเสียงเรียกของฉู่เนี่ยนซี เหยียนจือซินจึงหยุด แต่ไม่ยอมหันหลังกลับมาฉู่เนี่ยนซีไม่ได้มีนิสัยชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เมื่อเห็นสตรีตัวเล็ก ๆ ที่ขี้อายอีกทั้งยังมีความมั่นใจในตัวเองน้อยเช่นนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจฉู่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-01
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 428

    เย่หลิงเอ๋อร์มองไปที่เหยียนจือซินอย่างเงียบ ๆ และฉู่เนี่ยนซีก็ถอนหายใจให้นาง และจากเนื้อหาในบทสนทนาของพวกนาง ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยมุมปากของนางยิ้มแย้มแจ่มใส และดวงตาของนางสุกสกาว“ว่ากันว่าสตรีมักจะแต่งตัวพิถีพิถันเพื่อคนที่ตนชอบ นี่เป็นเรื่องจริง แต่ที่จริงยิ่งกว่านั้นคือสตรีที่ดูแลตัวเองเพื่อตัวเอง รูปร่างหน้าตาเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ของผู้อื่น ใช้ชีวิตด้วยตัวเองไม่ใช่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจากถ้อยคำของผู้อื่น แม้ว่าข้าจะร่างกายอ่อนแอ และอาศัยอยู่ในวังหลังมาเป็นเวลานาน แต่หากข้าเอาแต่โทษทุกสิ่งทุกอย่าง ชีวิตก็คงไม่มีความสุข ”คำพูดของเย่หลิงเอ๋อร์ทำให้เหยียนจือซินเงยหน้าขึ้น นางมองไปยังองค์หญิงฉางเล่อแล้วมองไปที่ฉู่เนี่ยนซี ทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่องค์หญิงฉางเล่อมีชีวิตอิสระและอีกทั้งยังอยู่อย่างสุขกายสบายใจ ส่วนฉู่เนี่ยนซีเองก็ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระตามอำเภอใจ“หม่อมฉัน…”“ข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะยังทำใจยอมรับไม่ได้ เหตุใดเราไม่ลองแก้ปัญหาอื่นกันก่อนล่ะ?”ฉู่เนี่ยนซีมองเหยียนจือซินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ แล้วพูดกับเย่หลิงเอ๋อร์ว่า "ขอบพระทัยองค์หญิงสำหรับการต้อนรับเพคะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 429

    เมื่อค่อย ๆ ได้ฟังสิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูด ฮูหยินเหยียนก็หันหน้าไปมองบุตรสาวและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“ลูกสาวของหม่อมฉันเก่งทุกอย่าง เว้นเสียแต่เป็นคนใจอ่อนเกินไป”“ในพระตำหนักอันชิ่ง ท่านกล่าวว่าตระกูลซ่างกวานถูกรื้อค้น หากไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและให้นางออกเรือนกับตระกูลร่ำรวยอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นคนไม่ดี เกรงว่าอนาคตของนางคงจะมืดมน และไม่ได้ดีไปกว่าตระกูลซ่างกวาน ฮูหยินเหยียน แม่ทุกคนย่อมรู้ดีว่าสำหรับสตรีไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ควรเตรียมพร้อมให้บุตรสาวมากกว่านี้หรือ?”คำพูดของฉู่เนี่ยนซีทั้งจริงใจและสมเหตุสมผลจนฮูหยินเหยียนเริ่มไตร่ตรองในความพูดของนาง “หม่อมฉันยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะ...”“ข้าไม่รู้ว่าจะมีใครมาสู่ขอหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงว่าใครจะมาสู่ขอเลย ข้าแค่ถือว่าจือซินเป็นสหาย ดังนั้นจึงได้พูดสิ่งมากมายกับท่านเช่นนี้ ฮูหยินเหยียน ท่านเองก็เคยเป็นบุตรสาวของบ้านเดิมตนเองมาก่อน แน่นอนว่าย่อมหวังให้จือซินได้ตบแต่งกับคนที่นางรักและดูแลนางได้”ฉู่เนี่ยนซีพูดแทรกฮูหยินเหยียน นางไม่ได้กลัวเย่เหลียน และไม่กลัวฮองเฮา เพียงแต่ไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับเย่เฟยหลีอีก เพราะนางสร้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 430

    “ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กฉลาด”องค์จักรพรรดิถูกเย่เซวียนเล่อทำให้รู้สึกขบขัน จนเกิดเส้นขีดที่หางตาของเขา“เสด็จพ่อเพคะ” เมื่อเห็นว่าองค์จักรพรรดิอารมณ์ดี เย่เซวียนเล่อจึงถือโอกาสกล่าวขึ้นว่า “เสด็จพ่อและลูกมีจิตเชื่อมโยงกัน แต่เสด็จแม่และลูกก็มีจิตเชื่อมโยงกันเช่นกัน ลูกรู้สึกว่าเสด็จแม่อยู่ในตำหนักเฟิงอี้อย่างยากลำบาก ลูกขอไปพบเสด็จแม่หน่อยได้หรือไม่เพคะ เพียงครู่เดียวก็ได้”รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์จักรพรรดิจางหายไป เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม่ของเจ้าทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ข้ามีราชโองการไปแล้วว่าไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออก เจ้ากลับไปเสียเถอะ”“เพคะ ลูกเองก็รู้ว่าเสด็จแม่ทรงทำผิด ดังนั้นจึงอยากจะไปเกลี้ยกล่อมพระองค์” เย่เซวียนเล่อส่ายแขนขององค์จักรพรรดิและพูดอย่างออดอ้อน “เสด็จพ่อ ได้โปรดให้ลูกได้ไปเกลี้ยกล่อมเสด็จแม่เถิด หากลูกไปแล้ว เสด็จแม่จะต้องฟังเล่อเอ๋อร์อย่างแน่นอนเพคะ”“เจ้าพูดฟังค่อนข้างมีเหตุผล รีบไปรีบกลับ อย่าได้อยู่นานจนเกินไป”องค์จักรพรรดิคิดว่ามันคงจะดีหากเย่เซวียนเล่อโน้มน้าวฮองเฮาได้จริง ๆเย่เซวียนเล่อรีบเข้าไปในตำหนักเฟิงอี้ทันที และร้องเรียก "เสด็จแม่" น้ำเสียงของนางกังวลมาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-06

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status