แชร์

บทที่ 38

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-11-29 16:00:00
แรงนั้นแข็งแกร่งมาก แทบจะหักกระดูกของเขาได้เลย

ด้วยความเจ็บปวด เขามองดูบุคคลนั้นด้วยความกลัว เพียงเพื่อพบว่าชายชุดดำที่เพิ่งเอาชนะคนกลุ่มหนึ่งได้อย่างง่ายดายด้วยฝักดาบ ไม่รู้เลยว่ามายืนอยู่ข้างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่!

อวี๋เป่ยเพิ่มความกดดันด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ปล่อยให้ชายพุงพลุ้ยร้องไห้และกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด คว้าไพ่หลายใบออกมาจากมือและกระเป๋าตรงแขนเสื้อ โยนมันลงบนโต๊ะ!

เขาต่างหาก คนที่ขี้โกง!

ทุกคนอ้าปากค้าง ทุกสายตาหันไปมองชายชุดขาวที่ถูกทุบตีก่อนหน้านี้ ชายคนนั้นเพียงก้มหัว ดูน่าสงสารมาก

ฉู่เนี่ยนซีจับโต๊ะแล้วยืนขึ้น ถามอย่างใจเย็นว่า “ตามข้อตกลงของโรงพนันหุยหุน ควรจะทำเช่นไรกับคนขี้โกงหรือ?”

บางคนในฝูงชนอัดอั้นอยู่ครึ่งวันและตะโกนว่า “ตามข้อตกลงแล้ว ต้องตัดมือชายคนนี้ข้างหนึ่ง!”

“ใช่! ผิดคําพูดไม่ได้ ชายคนนี้ก็บอกแบบนี้เอง”

“ต้องขอบคุณน้องชายที่มาช่วยเหลือ และทำให้เราเห็นธาตุแท้ของตาเฒ่าคนนี้!”

……

ท่ามกลางเสียงพูดคุยของผู้คน ฉู่เนี่ยนซีต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเข้าใจส่วนสำคัญของสถานการณ์

ที่แท้ชายพุงพลุ้ยเจ้าปัญหาผู้นี้ก็เป็นอันธพาลเลื่องชื่อในตงเฉิงนี่เอง

เขามักรังแกบุร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 39

    ทันใดนั้นสีหน้าของเซวียหนานคงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาอึ้งอยู่นานแล้วมองไปทางฉู่เนี่ยนซี “เจ้ารู้จักเจ้าของสถานที่แห่งนี้เช่นนั้นหรือ?” มีบางคนชะโงกหน้าแอบมองเพื่อฟังว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกัน ทว่ามีลูกค้าประจำบางคนกลับแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินด้วยความหัวไว แล้วดึงพวกลูกค้าใหม่ออกไป ทั้งส่ายหน้าอย่างมีความนัยที่แปลว่า ไม่ควรจะต้องดูหรือฟังเรื่องที่มิถูกมิควรฉู่เนี่ยนซีส่ายหน้า สังเกตการเคลื่อนไหวโดยรอบด้วยสายตาอันเฉียบแหลม “เจ้านายของพวกเจ้าคือใคร? เขาเรียกให้ข้าไป ข้าก็ต้องไปเช่นนั้นหรือ?” “นายท่านเป็นเจ้าของโรงพนันหุยหุน” คนสวมหัววัวมิได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย พอพูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเขาก็ประชิดตัวเข้าใกล้ฉู่เนี่ยนซีทันทีแล้วพูดต่อโดยใช้น้ำเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคนว่า “เจ้านายของพวกเราขอเชิญแม่นางมาพูดคุยด้วยความจริงใจ หากแม่นางรู้สึกว่าไม่เหมาะสม แม่นางสามารถเป็นผู้กำหนดสถานที่นัดพบได้นะขอรับ” หูของอวี๋เป่ยกระดิกและมองไปทางคนผู้นั้นด้วยความตกใจ เครื่องแต่งกายบุรุษของฉู่เนี่ยนซีวันนี้ไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด พวกเขารู้ได้อย่างไร? หัวใจของฉู่เนี่ยนซีก็หยุดชะงักไปชั่วขณะด้วยเช่นก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-29
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 40

    “วิธีการเล่นนี้ค่อนข้างใหม่ เริ่มได้ ” ได้ยินดังนั้นแล้ว บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เจ้าของโรงพนันก็เดินออกไป เมื่อเดินกลับเข้ามาอีกครั้งก็มาพร้อมกลุ่มนักดนตรีและนักเต้นรำผู้ที่ถือลูกเต๋านั่งอยู่ตรงกลาง มีโต๊ะอยู่ด้านหน้า นักดนตรีสามสี่คนนั่งล้อมอยู่รอบ ๆ ทันใดนั้นมือของผู้ที่ถือลูกเต๋าก็ขยับเล็กน้อยและเสียงดนตรีก็ดังขึ้น เสียงของผีผา กู่ฉิน ขลุ่ยเซียวและคงโหว…ดังประสานกัน ไพเราะเพราะพริ้งทั้งยังกลบเสียงลูกเต๋าอีกด้วย ฉู่เนี่ยนซีถูกทำให้เสียสมาธิเป็นอย่างมาก ในตอนที่นางต้องการมองดูการเคลื่อนไหวของคนผู้นี้อย่างระมัดระวัง นักเต้นรำกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาร่ายรำบดบังสายตาของนาง สิ่งนี้ทำให้นางอดอารมณ์เสียเล็กน้อยไม่ได้ แต่นางก็สงบนิ่งลงได้อย่างรวดเร็ว นางมิเคยพบเจอกับสถานการณ์อะไรที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อนในชาติที่แล้ว นางจะต้องพิชิตปัญหานี้ไปให้ได้ คิดเช่นนี้แล้ว นางค่อย ๆ หลับตาลงแล้วใช้นิ้วเคาะลงบนหน้าโต๊ะเป็นจังหวะ สิ่งกีดขวางที่ถูกสร้างขึ้นแทบจะจางหายไป กลายเป็นเกราะป้องกันเสียงเครื่องดนตรีพื้นบ้านเหล่านั้น ยังป้องกันเสียงฝีเท้าและเสียงกระดิ่งที่มาจากนักเต้นรำสาวไว้ด้านนอก จกา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 41

    ลมหายใจของฉู่เนี่ยนซีหยุดนิ่ง และปฏิกิริยาแรกของนางคือเหตุใดขณะที่อวี๋ตงเป็นคนเฝ้าเรือน เหตุใดเย่เฟยหลีถึงมาอยู่ที่นี่ได้?สิ่งที่นางไม่รู้ก็คืออวี๋ตงดูแลเรือนเป็นอย่างดี แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่เฟยหลีที่ปกติหลังจัดการงานราชการเสร็จแล้ว มักจะออกจากห้องอักษรกลับไปยังเรือนนอนของเขาทันที คืนนี้จะมาที่เรือนของฉู่เนี่ยนซีโดยไม่คาดคิดจากนั้น ด้วยยึดมั่นในภารกิจตามคำสั่งของผู้เป็นนายที่ยิ่งใหญ่กว่าบัญชาสวรรค์ อวี๋ตงยืนอยู่ที่ประตูเรือนและเกือบจะชักดาบสู้กับเย่เฟยหลีแน่นอนว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เย่เฟยหลีจะต่อสู้กับองครักษ์ได้จริง ๆบังเอิญว่าในตอนนั้นเอง เย่ฉงเฉิงส่งคนไปรายงานว่าเขาเห็นชายาหลีในอาภรณ์บุรุษที่สถานเริงรมย์ เย่เฟยหลีรู้สึกว่าเลือดในกายของตนกำลังเดือดพล่าน หันกลับอีกทีก็พาคนขับรถม้าคนสนิทมาถึงที่นี่เสียแล้วเขาลงจากรถม้าและกำลังจะก้าวเข้าไปข้างในสถานเริงรมย์ ทันใดนั้นกลิ่นยาที่คุ้นเคยก็ลอยมาแตะปลายจมูกของเขายังไม่ทันที่ฉู่เนี่ยนซีจะได้หาข้ออ้าง เย่เฟยหลีก็คว้าข้อมือของเธอแล้วลากไปที่รถม้าไปโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ“ปล่อย! นี่ท่านกำลังทำอะไร!”เพรามีความผิดติดตัว ฉู่เนี่ยนซีจึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 42

    ฉู่เนี่ยนซีไม่สนใจประโยคหลังของเขา ที่เอาแต่คิดว่านางไม่ควรมาที่สถานเริงรมย์เพื่อความสนุกสนานส่วนเย่ฉงเฉิงตัวปัญหา เมื่อเขารู้เรื่องนั้น ก็รีบแจ้งข่าวเพื่อรอดูท่าทางของเย่เฟยหลีแต่โชคดีที่องค์ชายเจ็ดผู้นี้และเย่เฟยหลีสนิทกัน การหยอกล้อเขาเช่นนี้คงจะไม่ทำให้เรื่องแย่ลงเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉู่เนี่ยนซีก็ปาดเหงื่อ ครั้งต่อไปนางจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ถึงอย่างไร คงไม่ใช่ทุกครั้งที่นางจะโชคดีเหมือนเช่นครั้งนี้แม้ว่ารถม้าจะเอาสัญลักษณ์ของจวนองค์ชายหลีออกแล้ว แต่แค่มองดูผ่าน ๆ ก็รู้ได้ว่าเป็นรถม้าที่เชื้อพระวงศ์ใช้คนขับรถม้าคนนี้เป็นคนสนิทของเย่เฟยหลีมาหลายปี รู้ว่าคำซุบซิบนินทาของผู้คนเป็นเรื่องน่ากลัวขนาดไหน ดังนั้นเขาจึงจงใจไม่วิ่งบนถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน และบังคับรถม้ากลับไปที่จวนผ่านตรอกซอกซอยด้วยความคุ้นเคยขณะที่รถเลี้ยวเข้าไปในซอยอื่น จู่ ๆ ก็มีบางอย่างหล่นลงมาบนหลังคารถม้า เย่เฟยหลีหรี่ตาลงอย่างระมัดระวัง เคาะที่ประตูแล้วพูดว่า "เร่งความเร็วหน่อย อย่าอยู่ที่นี่นานเกินไป" "พ่ะย่ะค่ะ"คนขับรถม้าที่ได้รับคำสั่ง เร่งเฆี่ยนแส้เพื่อเร่งความเร็วในทันที แต่มันก็สายเกินไปแล้วล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 43

    เห็นได้ชัดว่านักฆ่าเหล่านี้ซุ่มโจมตีเย่เฟยหลีหลังจากที่เขาออกจากจวนเพื่อมาตามหานาง เป้าหมายของพวกเขาจึงเป็นเย่เฟยหลีไม่ใช่นาง การเดินทางของนางเป็นความลับ ทำไมเย่ฉงเฉิงถึงเห็นนางได้?กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีบางคนใครเห็นนาง แล้วแอบบอกเย่ฉงเฉิง จากนั้นจึงกระจายข่าวไปถึงหูของเย่เฟยหลีด้วยนิสัยชอบสร้างปัญหาของเขา?ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วแน่น เย่เฟยหลีรู้เพียงว่านางไปที่สถานเริงรมย์ แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วนางไปโรงพนันพนัน หรือก็คือ คนที่เห็นนางนั้นอยู่ที่สถานเริงรมย์ ไม่ใช่ที่โรงพนันจุดประสงค์ของผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังคือการลอบสังหารเย่เฟยหลี และนางก็เป็นเพียงเหยื่อล่อเพื่อล่อให้เย่เฟยหลีออกจากจวน“เจ้ารู้วิธีใช้มีดตั้งแต่เมื่อไหร่?”เย่เฟยหลีไม่กล้าวางใจ ก่อนที่เหลียงหยวนจะเรียกหน่วยองครักษ์ทมิฬเข้ามา เขาก็วางมือไว้บนดาบไว้ที่เอวของตัวเองเช่นกันฉู่เนี่ยนซีมีบางอย่างซ่อนอยู่ในใจ จึงตอบแบบปัด ๆ "ข้าใช้เป็นตั้งนานแล้ว ท่านไม่รู้เอง"เย่เฟยหลีเลิกคิ้ว "ดูเหมือนว่าข้าจะไม่รู้อะไรเยอะทีเดียว"ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้พูดอะไรและจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เย่เฟยหลีก็ไม่ได้พูดต่อ แต่ดวงตาของเขายังคงจ้องมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-01
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 44

    ฉู่เนี่ยนซีตกอยู่ในภวังค์องค์ชายแห่งวังหลวง องค์ชายผู้สูงศักดิ์ที่ยามปกติมักจะดูถูกสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ในตอนนี้กลับทำให้รู้สึกหวั่นไหวได้... ฉู่เนี่ยนซีส่ายหน้าอย่างรุนแรง และปฏิเสธด้วยรอยยิ้มสุภาพ "ถ้าข้าไปนอนบนเตียง ไม่ใช่ว่าท่านต้องนอนบนพื้นหรือ?”ขณะที่พูดนางก็หลับตาอย่างเหนื่อยล้าอีกครั้ง แต่ในใจก็ยังคิดนั่นคิดนี่ไม่หยุดตั้งแต่เหตุการณ์ที่เย่เฟยหลีถูกวางยา การจัดงานเลี้ยงในวัง ไปจนถึงบ่อนพนัน และจากนั้นก็การลอบสังหารเมื่อครู่นี้…ก่อนที่นางจะได้คิดอะไรต่อ ก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเบาขึ้น เมื่อลืมตา พบว่านางอยู่ในอ้อมแขนของเขา นางสะดุ้ง และขัดขืนอย่างรุนแรงโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าเย่เฟยหลีจะเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ แต่แขนที่อุ้มนางไว้ก็ไม่ปล่อยง่าย ๆเมื่อดิ้นมาก ๆ เข้า ก็เริ่มทรงตัวไม่อยู่ ทำให้เขาต้องรีบวางนางลงจนนางกลิ้นหลุน ๆ อยู่บนเตียงจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าบรรยากาศดูแปลก ๆ เมื่อนึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่นางทำในชีวิตก่อนอย่างกล้าหาญและไม่ได้คำนึงถึงผลที่ตามมา ฉู่เนี่ยนซีก็รู้สึกอึดอัดอย่างห้ามไม่ได้แต่เย่เฟยหลีแค่ดึงผ้าห่มขึ้นแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม "นอนเสีย!"เพียงสองคำระงับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-01
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 45

    “เดี๋ยว!”ฉู่เนี่ยนซีตะโกนอย่างรีบร้อน ห้ามอวี๋เป่ย แล้วหันไปมองเย่เฟยหลี “ใจเย็น ๆ นี่ข้าเอง”เหงื่อเย็นของเย่เฟยหลีไหลลงมาที่หน้าผาก เสื้อสีขาวด้านในของเขาก็เปียกโชกไปหมด ดวงตาของเขาค้างอยู่เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะกลับมีสติ และค่อย ๆ เอามีดออกจากลำคอของฉู่เนี่ยนซีฉู่เนี่ยนซีมองไปที่อวี๋เป่ย อวี๋เป่ยจึงออกไปอย่างเงียบ ๆ และปิดประตู“หากท่านฝันร้ายก็พักผ่อนก่อนเถอะ ยังไม่ต้องรีบกลับหรอก”ฉู่เนี่ยนซีพูดอย่างใจเย็นในขณะที่ขยับตัวผ่านเขาไปและลงจากเตียง นางมองในกระจกคิดว่าต้องขอบคุณที่ตัวเองนอนไปทั้งที่ ๆ ใส่ชุดเดียวกันกับเมื่อคืนนี้ จึงช่วยให้นางรอดพ้นจากความลำบากใจต่อการเปลี่ยนเสื้อผ้าในเช้านี้เย่เฟยหลี่หลับตาและไม่พูดอะไร เพียงหอบเล็กน้อย ฉู่เนี่ยนซีสามารถมองเห็นการขยับขึ้นลงของแผ่นหลังที่ไม่มั่นคงของเขาผ่านกระจกได้อย่างชัดเจนผ่านไปไม่นาน ทั้งสองคนสวมผ้าคลุมอีกครั้งและเข้าไปในรถม้าที่เหลียงหยวนนำมาให้ใหม่เย่เฟยหลีกลับมาเป็นองค์ชายหลีผู้เย็นชาคนเดิมแล้วฉู่เนี่ยนซีรู้ว่านางเพิ่งได้เห็นด้านที่ค่อนข้างเปราะบางของเขาเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ นางเข้าใจเป็นอย่างดีและไม่ได้พูดถึงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-01
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 46

    ซ่างกวานเยียนมองเขา และคิดว่ารู้สึกคุ้มค่าที่ตนยอมยุ่งหัวหมุนตลอดช่วงเช้าเพื่อเตรียมอาหาร“สุขภาพเจ้าไม่ดีนัก จากนี้ก็สั่งให้คนรับใช้ทำแทนเสีย”เย่เฟยหลีคีบอาหารด้วยตะเกียบ แม้น้ำเสียงที่เขาพูดจะเย็นชาแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน ซ่างกวานเยียนที่ได้ยินดังนั้นก็ปลาบปลื้มใจ“พระองค์เองก็เพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วย หากงานราชการยังไม่เสร็จก็ทรงพักผ่อนก่อนเถิดเพคะ”ซ่างกวานเยียนช่วยรินสุราให้เขาอย่างเบามือ ขณะนั้นก็เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ สุดท้ายจึงได้ถามออกไป “เห็นพระองค์รีบออกไปจากจวนตั้งแต่คืนวาน กว่าจะกลับมาก็เช้าแล้ว มีเรื่องอะไรหรือเพคะ?”คิ้วของเย่เฟยหลีกระตุกอย่างไม่ตั้งใจเมื่อนึกถึงเมื่อคืนที่ฉู่เนี่ยนซีพาผู้ใต้บังคับบัญชาออกไปดื่มเหล้าสังสรรค์อย่างไม่เกรงใจใคร“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่ต้องกังวล ข้าแก้ไขเรียบร้อยแล้ว”ซ่างกวานเยียนรู้สึกเสียใจที่ได้ยินดังนั้น “เมื่อก่อนท่านอ๋องหลีมีเรื่องอะไรก็ทรงบอกหม่อมฉันตลอด ไม่รู้เหตุใดเดี๋ยวนี้ถึงรู้สึก...รู้สึกว่าหม่อมฉันช่วยอะไรพระองค์ไม่ได้เลย”ขณะที่พูด ขอบตาของนางค่อย ๆ แดงขึ้น และหันหน้าหนีด้วยความเศร้าใจเย่เฟยหลีละสายตามามองหน้าของซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-02

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status