Share

บทที่ 160

Author: ชาผลไม้
ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยังยืนกรานที่จะบดขยี้อีกฝ่ายให้ได้!

นางถูกเอาอกเอาใจอยู่เสมอและมีฐานะโดดเด่นมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งนางก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลฉู่ เหตุใดถึงต้องระเห็จไปอยู่กับมารดาในสถานที่ที่ไกลจากบ้านเกิดของตัวเองโดยอาศัยอยู่ใต้ชายคาของคนอื่นด้วยเล่ส?!

ดังนั้น ต้องทำให้ชื่อเสียงของฉู่เนี่ยนซีป่นปี้ไปตลอดชีวิตให้ได้!

“แม้ว่าหว่านเอ๋อจะจิตใจไม่เข้มแข็งนัก แต่ก็ทนเห็นทุกคนหน้ามืดตามัวอยู่เช่นนั้นไม่ได้ หม่อมฉันหวังว่าพี่หญิงจะยกโทษให้!” ฉู่หว่านเอ๋อร์พูดด้วยใบหน้าที่ใจดีและโค้งคำนับให้ฉู่เนี่ยนซี และยังพูดต่อว่า “นี่คือบทกวีที่หม่อมฉันเห็นตอนนั้น เมื่อครู่หม่อมฉันจำไม่ได้ว่ามีกี่บท แต่ตอนนี้หม่อมฉันจำได้อย่างแม่นยำเลยทีเดียวเพคะ”

“ลองดูให้ละเอียดกว่านี้ เอาให้แน่ใจว่าเป็นบทกวีเดียวกันกับที่เจ้าเคยเห็น ไม่ผิดเพี้ยนไปเลยสักตัวอักษรเดียวรึ!”

เมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยินสิ่งที่ฉู่หว่านเอ๋อร์พูด เสียงที่ตื่นตัวของนางก็ดังขึ้นทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธ เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนกำลังถูกเร่งเร้า

เห็นเช่นนั้น เย่เฟยหลีก็รู้สึกกังวล เขาไม่เคยเห็นฉู่เนี่ยนซีหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 161

    ใบหน้าของฉู่หว่านเอ๋อร์แดงก่ำและตื่นตระหนก แต่นางก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ เหตุการณ์ที่พลิกผันนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ฉู่หว่านเอ๋อร์หน้าแดง แต่ยังทำให้คนที่เพิ่งกังขาในตัวกับฉู่เนี่ยนซีต้องก้มหน้าด้วยความอับอาย แต่เมื่อพวกเขาคิดได้ว่าหากไม่ใช่เป็นเพราะฉู่หว่านเอ๋อร์ ตัวเองคงไม่ดูถูกฉู่เนี่ยนซีเช่นก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงมองนางด้วยสายตาที่โกรธแค้น ตอนนี้ความจริงก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าฉู่หว่านเอ๋อร์เป็นคนโกหก “สตรีเช่นนี้ไม่มีจิตสำนึกเอาเสียเลย คาดไม่ถึงว่านางจะกล้าใส่ร้ายพี่สาวของตัวเอง!” “หากพระชายาหลีไม่ฉลาดขนาดนี้ แม้จะกระโดดลงแม่น้ำฮวงโหก็คงไม่อาจล้างมลทินได้!” “พระชายาหลีช่างจิตใจดีจริง ๆ มิน่าล่ะ ถึงถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเคยเห็นบทกวีเหล่านี้จริง ๆ หรือไม่ นั่นคงเป็นการมอบโอกาสให้นางได้กลับใจ!” “นั่นสิ ตอนนั้นที่ฉู่หว่านเอ๋อร์พูดดูมีเหตุผลมาก แต่ตอนนี้กลับเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ! คนเช่นนี้ควรได้รับการลงโทษที่เด็ดขาด!” “ใช่! นำตัวไปโบยเสียเดี๋ยวนี้เลยจะดีกว่า...” ทุกคนตะโกนราวกับว่าพวกเขาเป็นคนที่ถูกใส่ร้ายเสียเอง ทำราวกับไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็คงไม่อาจบรรเทาความโกรธของพวกเขาได้ ฉู่หว่า

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 162

    ทุกคนช่วยกันเรียก แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง ฉู่เนี่ยนซีก้าวไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเฉยเมยและจิ้มเข็มเงินสองสามเข็มลงไปตรงจุดฝังเข็มของนาง จู่ ๆ ฉู่หว่านเอ๋อร์ก็ไอและสำลักน้ำออกมา เมื่อเห็นว่าฉู่หว่านเออร์ตื่นแล้ว เย่เหลียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นว่า “พาคุณหนูหว่านเอ๋อร์ไปพักผ่อนที่ห้องข้าง ๆ โถงใหญ่ เรือเทียบท่าแล้วค่อยว่ากันอีกที!” สายตาของฉู่หว่านเอ๋อร์เจ็บปวดเมื่อเห็นผู้ชายที่นางโหยหาไม่ตามดูแล แต่ก็ยังขอให้ใครสักคนพานางไปพักผ่อน นี่เขาชอบนางหรือไม่? เมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงถูกพาไปที่ห้องด้านข้างด้วยความสุขใจ เมื่อฉู่หว่านเอ๋อร์ออกจากฉากไปแล้ว ทุกคนก็อ่านบทกวีของฉูนี่ยนซีต่อ พลางชื่นชมและพูดคุยกันอย่างจริงใจ แต่ฉู่เนี่ยนซีกลับไม่รู้สึกดีกับคำสรรเสริญเยินยอเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เอาแต่ทำสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งทำให้ทุกคนนางในทางที่สูงส่งมากขึ้น มีเพียงฉู่เนี่ยนซีเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองเพิ่งยืมบทกวีของหลี่ไป๋มาใช้ แต่ถึงจะอธิบายไปก็กลัวคนจะคิดว่าตัวเองบ้า “เจ้าไม่จำเป็นต้องชมข้าหรอก ฉู่หว่านเอ๋อร์บอกว่าข้าลอกผลงานมา ซึ่งนางก็พูดถูก เพราะนี่เป็นบทกวีของปรมาจารย์จริง ๆ เราพบกันในความฝัน

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 163

    ผู้คนรอบ ๆ ที่เห็นไม่อาจละสายตาแห่งความอิจฉาไปได้ พวกเขาไม่ได้วิจารณ์เรื่องรสนิยมประหลาด ของอ๋องหลีอีกต่อไป แต่กลับยกย่องความรักของอ๋องหลีที่มีต่อภรรยาด้วยความประหลาดใจ ฉู่เนี่ยนซีตระหนักได้ว่าบางทีเย่เฟยหลีอาจจะแค่พยายามอวด อย่างไรก็ตาม นางขี้คร้านเกินกว่าจะสนใจซ่างกวานเยียน ดังนั้นมันก็คงจะดีกว่าที่ครั้งนี้พวกนางไม่ได้กลับด้วยกัน คิดได้เช่นนั้น นางก็ผ่อนคลายร่างกายที่ตึงเครียดของตัวเอง ซึ่งทำให้เย่เฟยหลียิ้มมุมปาก จากนั้นจึงส่งเสียงเร่งม้าแล้วควบไปข้างหน้า ซ่างกวานเยียนกัดฟันแน่น เล็บของนางจิกเข้าเนื้อ พลางจ้องมองคนทั้งคู่ที่เริ่มห่างไกลออกไป และเหม่อลอยอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานาน จนกระทั่งมีเสียงบุรุษดังมาจากด้านหลัง “เจ้าบอกว่าเย่เฟยหลีชอบเจ้าไม่ใช่หรือ? ดูเหมือนวันนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นนะ” ซ่างกวานเยียนหันกลับมามองดวงตาเย้าแหย่ของเย่เหลียน คิ้วขมวดมุ่น “ท่านอ๋องเหลียนเองก็เกลียดฉู่เนี่ยนซีไม่ใช่หรือ? วันนี้ดูท่าจะไม่เป็นเช่นนั้นนะเพคะ!” คิงเหลียนหยุดยิ้มในทันใดและเปลี่ยนเป็นสีหน้าเย็นชา พลางเอามือบีบคอของนางแน่น “ใครให้เจ้าบังอาจมาพูดกับข้าเช่นนี้?” ซ่างกวานเยียนรู้สึกว่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 164

    เย่เฟยหลีตบฉู่เนี่ยนซีเบา ๆ เพื่อเรียกนาง ฉู่เนี่ยนซีลืมตาขึ้นช้า ๆ “อืม...ถึงแล้วหรือ?” พูดจบ นางก็บิดขี้เกียจและกำลังจะลงจากรถม้า แต่เมื่อเห็นป้ายหน้าประตูนางก็ถึงกับตะลึง จากนั้นเสียงของเย่เฟยหลีก็ดังขึ้น “ท่านพ่อตาไม่สบาย ข้าก็เลยพาเจ้าตรงมาที่นี่เลย” ฉู่เนี่ยนซีเพิกเฉยต่อเสียงเรียกของเย่เฟยหลี เมื่อนางได้ยินว่ามหาเสนาบดีฉู่ป่วย และรีบกระโดดลงจากรถม้าทันที ตามด้วยเย่เฟยหลีที่ตามมาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานะของฉู่เนี่ยนซี ระหว่างทางจึงไม่มีใครหยุดนาง ทั้งสองถามหามหาเสนาบดีฉู่ จากนั้นจึงรีบเดินไปยังที่หมายโดยเร็ว ก่อนจะเข้าไปในห้อง ก็ได้ยินเสียงของฉู่เจี้ยนอี้ดังมาจากข้างใน “ท่านพ่อ เหตุใดถึงไม่ให้น้องหญิงมาดูหน่อยล่ะขอรับ?” “นั่นสิ เมื่อตอนบ่ายเราไปหาท่านหมอเทวดาซานเซิงที่หอการแพทย์แต่เขาก็บอกว่าเดือนนี้รักษาไปสามคนแล้ว ขอไม่รับคนไข้เพิ่ม แต่ฝีมือของน้องหญิงก็ไม่เป็นสองรองใครนะ อย่าดูถูกนางเชียว” แต่สะใภ้ใหญ่จ้าวม่อเหยียนที่อยู่อีกฝั่งก็โน้มน้าวอย่างอดทนเช่นกัน “ข้ารู้จักร่างกายของท่านพ่อดีที่สุด ท่านแค่เหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง เหตุใดต้องถ่อไปหาหมอเทวดาซานเซิงห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 165

    ยิ่งฉู่เนี่ยนซีพูดก็ยิ่งรู้สึกโมโห แม้ใบหน้าของเขาจะซีดเซียวเพียงใด แต่ปากก็ยังบอกว่าไม่เป็นไร เพียงเพื่อให้นางวางใจ ทันใดนั้นความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ก็เกิดขึ้นในใจของนาง พูดจบ ความรู้สึกที่ว่าก็คือความปวดใจที่แล่นเข้ามาถาโถมใส่ พลันทำให้ขอบตานางเริ่มแดงโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นท่าทางเช่นนี้ของฉู่เนี่ยนซี หลังจากที่นางออกเรือนไป แม้แต่ตอนที่ไทเฮาทำพิธีเซ่นไหว้ครั้งก่อน ขนาดกำลังจะถูกโยนเข้าเตาไฟอยู่รอมร่อ นางก็ยังไม่มีท่าทางเช่นนี้ นั่นจึงทำให้ทุกคนในห้องตื่นตระหนก เย่เฟยหลีขมวดคิ้วและตบหลังนางเบา ๆ ปลอบใจนางอย่างเงียบ ๆ เมื่อมหาเสนาบดีฉู่เห็นท่าทางของลูกสาว เขาก็ทำท่าเหมือนเด็กที่ทำผิดทันที “พ่อผิดไปแล้ว! แค่ก แค่ก...พ่อไม่ควรปิดบังเจ้าเลย! แค่ก แค่ก...ครั้งหน้าพ่อจะไม่ทำอีกแล้ว!” ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้าขึ้น หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปที่มหาเสนาบดีฉู่อีกครั้ง “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ข้าเป็นลูกสาวของท่าน ไม่ใช่แค่ตอนที่ท่านร่ำรวยมีอำนาจเท่านั้น แม้ท่านจะตกอยู่ในอันตราย ข้าก็ยังคงเป็นลูกของท่าน” “ดังนั้นถ้าเกิดเรื่องไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ต้องบอกข้า!” “ได้! ไ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 166

    มหาเสนาบดีฉู่และฮูหยินฉู่มองเขาอย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นพวกเขาก็ตอบตกลงด้วยความปลาบปลื้มใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นและมีความสุข อีกทั้งยังรู้สึกซาบซึ้งใจ ไม่ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ แต่เย่เฟยหลีก็ช่วยรักษาหน้านางได้มากพอแล้ว! และทำให้พ่อแม่ของนางวางใจได้อีกด้วย “ท่านแม่ ให้ข้าไปดีกว่า” ฉู่เนี่ยนซีจับมือฮูหยินฉู่แล้วพูดต่อ “จากสถานการณ์ของท่านพ่อในตอนนี้ ท่านคงไม่รู้ว่าอาหารอะไรที่ท่านพ่อกินได้บ้าง! การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ท่านวางใจเถอะ” จากนั้นฉู่เนี่ยนซีก็หันหลังก้าวออกจากห้องโดยไม่อยู่รอคำตอบ เย่เฟยหลีมองตามหลังนางไป รู้ว่าที่นี่คือจวนมหาเสนาบดีฉู่ คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่ตามนางไป เพียงแต่อยู่ร่วมวงสนทนากับมหาเสนาบดีฉู่ต่อ “เมื่อครู่ คนของท่านอ๋องเหลียนพาฉู่หว่านเอ๋อร์กลับมา! กระหม่อมเองก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือแล้ว” ต้องขอบคุณการรักษาของฉู่เนี่ยนซีที่ทำให้สีหน้าของมหาเสนาบดีฉู่ดีขึ้น จนเขามีแรงพอที่จะพูดคุย เขาลุกขึ้นนั่งและทำมือคำนับเย่เฟยหลี “ตาแก่คนนี้ขอขอบคุณท่านอ๋องหลีที่ปกป้องลูกสาวของกระหม่อม!”

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 167

    หลังจากนั้นไม่นาน อาหารก็ถูกส่งไปยังห้องของมหาเสนาบดีฉู่พร้อมกันกับที่ฉู่เจี้ยนอี้ที่กลับมาได้สักพักแล้ว ทุกคนตื่นตะลึงเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ยินว่านางจะทำอาหาร ก็นึกว่านางแค่แสดงออกถึงความพยายาม และมหาเสนาบดีฉู่กับภรรยาก็ไม่ได้ห้ามปรามนางเพราะความกตัญญูที่นางแสดงออกมา แต่ตอนนี้ดู ๆ แล้วเหมือนว่านางจะทำอาหารเป็นจริง ๆ ฉู่เนี่ยนซีมองสีหน้าสับสนของพวกเขา กลัวว่าพวกเขาจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ นางจึงรีบหยิบตะเกียบคีบอาหารให้พวกเขา “ท่านพ่อกิน ท่านแม่กิน” “ท่านพี่กับพี่สะใภ้ลองชิมดูสิ!” พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็หยิบปลาอีกชิ้นมาใส่ชามของเย่เฟยหลีอย่างเงียบ ๆ นางสัมผัสได้ถึงการปกป้องและความน่าเชื่อถือของเขาในวันนี้ รวมไปถึงพฤติกรรมของเขาต่อหน้าบิดามารดาของนาง ล้วนทำให้นางประทับใจ ปลาชิ้นนี้ก็ถือว่าแทนคำขอบคุณ เย่เฟยหลีมองปลาในชามอย่างยิ้มแย้ม เขาคีบมันใส่ปาก “อร่อยนี่!” เมื่อเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง คนอื่น ๆ ก็พลอยมีความสุขไปด้วย และต่างก็เริ่มจับตะเกียบ ไม่ลองไม่รู้ หากได้กินแล้วคงจะหยุดไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่งบนโต๊ะก็มีแต่เสียงรับประทานอาหาร และในเวลาไม่นานอาหา

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 168

    “ยามเฉินกว่า ๆ แล้วเพคะ”‘เกือบจะเก้าโมงแล้ว?’ ฉู่เนี่ยนซีตกใจและลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว “เหตุใดถึงไม่ปลุกข้า?!” “ท่านอ๋องหลีสั่งไว้ในตอนเช้าว่าควรให้ท่านนอนนานกว่านี้อีกหน่อย และขอให้คนรับใช้ไม่ต้องปลุกเพคะ” ฉู่เนี่ยนซีร้องอ๋อเบา ๆ ไม่คิดว่าเย่เฟยหลีจะใส่ใจขนาดนี้ “รีบมาทำผมให้ข้าเถอะ” ไม่นาน ฉู่เนี่ยนซีก็เก็บข้าวของและไปที่เรือนนอนของมหาเสนาบดีฉู่ เนื่องจากอาการของมหาเสนาบดีฉู่เริ่มทรงตัวแล้ว หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีมาถึง เขาจึงขอให้คนอื่น ๆ ไปพักผ่อน ขณะนั้นเหลือเพียงบิดาและลูกสาวอยู่ในห้องเพียงลำพังเท่านั้น มหาเสนาบดีฉู่มองนางอย่างครุ่นคิด “เหตุใดท่านพ่อถึงมองเช่นนั้นเล่า?” มหาเสนาบดีฉู่กลับมามีสติอีกครั้งและชี้ไปยังใบหน้าของนาง “หน้าของเจ้า...” ฉู่เนี่ยนซีแตะที่แผลเป็นแล้วพยักหน้า “ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ!” “พ่อขอดูหน่อย...ได้หรือไม่?” มหาเสนาบดีฉู่ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้แล้วเลยไม่แปลกใจ แต่เขาก็ลังเลก่อนจะพูดออกมา ฉู่เนี่ยนซีหยิบยาขวดเล็กออกมาโดยปราศจากความลังเลแล้วทาลงบนแผลเป็น มหาเสนาบดีมองการกระทำของนางโดยไม่กระพริบตา เขากำมือแน่น รู้สึกไม่สบายใจ ผิวหนังปลอม

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status