แชร์

บทที่ 164

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-29 16:00:01
เย่เฟยหลีตบฉู่เนี่ยนซีเบา ๆ เพื่อเรียกนาง

ฉู่เนี่ยนซีลืมตาขึ้นช้า ๆ “อืม...ถึงแล้วหรือ?”

พูดจบ นางก็บิดขี้เกียจและกำลังจะลงจากรถม้า แต่เมื่อเห็นป้ายหน้าประตูนางก็ถึงกับตะลึง

จากนั้นเสียงของเย่เฟยหลีก็ดังขึ้น

“ท่านพ่อตาไม่สบาย ข้าก็เลยพาเจ้าตรงมาที่นี่เลย”

ฉู่เนี่ยนซีเพิกเฉยต่อเสียงเรียกของเย่เฟยหลี เมื่อนางได้ยินว่ามหาเสนาบดีฉู่ป่วย และรีบกระโดดลงจากรถม้าทันที ตามด้วยเย่เฟยหลีที่ตามมาอย่างใกล้ชิด

เนื่องจากสถานะของฉู่เนี่ยนซี ระหว่างทางจึงไม่มีใครหยุดนาง ทั้งสองถามหามหาเสนาบดีฉู่ จากนั้นจึงรีบเดินไปยังที่หมายโดยเร็ว

ก่อนจะเข้าไปในห้อง ก็ได้ยินเสียงของฉู่เจี้ยนอี้ดังมาจากข้างใน “ท่านพ่อ เหตุใดถึงไม่ให้น้องหญิงมาดูหน่อยล่ะขอรับ?”

“นั่นสิ เมื่อตอนบ่ายเราไปหาท่านหมอเทวดาซานเซิงที่หอการแพทย์แต่เขาก็บอกว่าเดือนนี้รักษาไปสามคนแล้ว ขอไม่รับคนไข้เพิ่ม แต่ฝีมือของน้องหญิงก็ไม่เป็นสองรองใครนะ อย่าดูถูกนางเชียว”

แต่สะใภ้ใหญ่จ้าวม่อเหยียนที่อยู่อีกฝั่งก็โน้มน้าวอย่างอดทนเช่นกัน

“ข้ารู้จักร่างกายของท่านพ่อดีที่สุด ท่านแค่เหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง เหตุใดต้องถ่อไปหาหมอเทวดาซานเซิงห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 165

    ยิ่งฉู่เนี่ยนซีพูดก็ยิ่งรู้สึกโมโห แม้ใบหน้าของเขาจะซีดเซียวเพียงใด แต่ปากก็ยังบอกว่าไม่เป็นไร เพียงเพื่อให้นางวางใจ ทันใดนั้นความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ก็เกิดขึ้นในใจของนาง พูดจบ ความรู้สึกที่ว่าก็คือความปวดใจที่แล่นเข้ามาถาโถมใส่ พลันทำให้ขอบตานางเริ่มแดงโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นท่าทางเช่นนี้ของฉู่เนี่ยนซี หลังจากที่นางออกเรือนไป แม้แต่ตอนที่ไทเฮาทำพิธีเซ่นไหว้ครั้งก่อน ขนาดกำลังจะถูกโยนเข้าเตาไฟอยู่รอมร่อ นางก็ยังไม่มีท่าทางเช่นนี้ นั่นจึงทำให้ทุกคนในห้องตื่นตระหนก เย่เฟยหลีขมวดคิ้วและตบหลังนางเบา ๆ ปลอบใจนางอย่างเงียบ ๆ เมื่อมหาเสนาบดีฉู่เห็นท่าทางของลูกสาว เขาก็ทำท่าเหมือนเด็กที่ทำผิดทันที “พ่อผิดไปแล้ว! แค่ก แค่ก...พ่อไม่ควรปิดบังเจ้าเลย! แค่ก แค่ก...ครั้งหน้าพ่อจะไม่ทำอีกแล้ว!” ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้าขึ้น หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปที่มหาเสนาบดีฉู่อีกครั้ง “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ข้าเป็นลูกสาวของท่าน ไม่ใช่แค่ตอนที่ท่านร่ำรวยมีอำนาจเท่านั้น แม้ท่านจะตกอยู่ในอันตราย ข้าก็ยังคงเป็นลูกของท่าน” “ดังนั้นถ้าเกิดเรื่องไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ต้องบอกข้า!” “ได้! ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 166

    มหาเสนาบดีฉู่และฮูหยินฉู่มองเขาอย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นพวกเขาก็ตอบตกลงด้วยความปลาบปลื้มใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นและมีความสุข อีกทั้งยังรู้สึกซาบซึ้งใจ ไม่ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ แต่เย่เฟยหลีก็ช่วยรักษาหน้านางได้มากพอแล้ว! และทำให้พ่อแม่ของนางวางใจได้อีกด้วย “ท่านแม่ ให้ข้าไปดีกว่า” ฉู่เนี่ยนซีจับมือฮูหยินฉู่แล้วพูดต่อ “จากสถานการณ์ของท่านพ่อในตอนนี้ ท่านคงไม่รู้ว่าอาหารอะไรที่ท่านพ่อกินได้บ้าง! การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ท่านวางใจเถอะ” จากนั้นฉู่เนี่ยนซีก็หันหลังก้าวออกจากห้องโดยไม่อยู่รอคำตอบ เย่เฟยหลีมองตามหลังนางไป รู้ว่าที่นี่คือจวนมหาเสนาบดีฉู่ คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่ตามนางไป เพียงแต่อยู่ร่วมวงสนทนากับมหาเสนาบดีฉู่ต่อ “เมื่อครู่ คนของท่านอ๋องเหลียนพาฉู่หว่านเอ๋อร์กลับมา! กระหม่อมเองก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือแล้ว” ต้องขอบคุณการรักษาของฉู่เนี่ยนซีที่ทำให้สีหน้าของมหาเสนาบดีฉู่ดีขึ้น จนเขามีแรงพอที่จะพูดคุย เขาลุกขึ้นนั่งและทำมือคำนับเย่เฟยหลี “ตาแก่คนนี้ขอขอบคุณท่านอ๋องหลีที่ปกป้องลูกสาวของกระหม่อม!”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 167

    หลังจากนั้นไม่นาน อาหารก็ถูกส่งไปยังห้องของมหาเสนาบดีฉู่พร้อมกันกับที่ฉู่เจี้ยนอี้ที่กลับมาได้สักพักแล้ว ทุกคนตื่นตะลึงเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ยินว่านางจะทำอาหาร ก็นึกว่านางแค่แสดงออกถึงความพยายาม และมหาเสนาบดีฉู่กับภรรยาก็ไม่ได้ห้ามปรามนางเพราะความกตัญญูที่นางแสดงออกมา แต่ตอนนี้ดู ๆ แล้วเหมือนว่านางจะทำอาหารเป็นจริง ๆ ฉู่เนี่ยนซีมองสีหน้าสับสนของพวกเขา กลัวว่าพวกเขาจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ นางจึงรีบหยิบตะเกียบคีบอาหารให้พวกเขา “ท่านพ่อกิน ท่านแม่กิน” “ท่านพี่กับพี่สะใภ้ลองชิมดูสิ!” พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็หยิบปลาอีกชิ้นมาใส่ชามของเย่เฟยหลีอย่างเงียบ ๆ นางสัมผัสได้ถึงการปกป้องและความน่าเชื่อถือของเขาในวันนี้ รวมไปถึงพฤติกรรมของเขาต่อหน้าบิดามารดาของนาง ล้วนทำให้นางประทับใจ ปลาชิ้นนี้ก็ถือว่าแทนคำขอบคุณ เย่เฟยหลีมองปลาในชามอย่างยิ้มแย้ม เขาคีบมันใส่ปาก “อร่อยนี่!” เมื่อเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง คนอื่น ๆ ก็พลอยมีความสุขไปด้วย และต่างก็เริ่มจับตะเกียบ ไม่ลองไม่รู้ หากได้กินแล้วคงจะหยุดไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่งบนโต๊ะก็มีแต่เสียงรับประทานอาหาร และในเวลาไม่นานอาหา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 168

    “ยามเฉินกว่า ๆ แล้วเพคะ”‘เกือบจะเก้าโมงแล้ว?’ ฉู่เนี่ยนซีตกใจและลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว “เหตุใดถึงไม่ปลุกข้า?!” “ท่านอ๋องหลีสั่งไว้ในตอนเช้าว่าควรให้ท่านนอนนานกว่านี้อีกหน่อย และขอให้คนรับใช้ไม่ต้องปลุกเพคะ” ฉู่เนี่ยนซีร้องอ๋อเบา ๆ ไม่คิดว่าเย่เฟยหลีจะใส่ใจขนาดนี้ “รีบมาทำผมให้ข้าเถอะ” ไม่นาน ฉู่เนี่ยนซีก็เก็บข้าวของและไปที่เรือนนอนของมหาเสนาบดีฉู่ เนื่องจากอาการของมหาเสนาบดีฉู่เริ่มทรงตัวแล้ว หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีมาถึง เขาจึงขอให้คนอื่น ๆ ไปพักผ่อน ขณะนั้นเหลือเพียงบิดาและลูกสาวอยู่ในห้องเพียงลำพังเท่านั้น มหาเสนาบดีฉู่มองนางอย่างครุ่นคิด “เหตุใดท่านพ่อถึงมองเช่นนั้นเล่า?” มหาเสนาบดีฉู่กลับมามีสติอีกครั้งและชี้ไปยังใบหน้าของนาง “หน้าของเจ้า...” ฉู่เนี่ยนซีแตะที่แผลเป็นแล้วพยักหน้า “ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ!” “พ่อขอดูหน่อย...ได้หรือไม่?” มหาเสนาบดีฉู่ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้แล้วเลยไม่แปลกใจ แต่เขาก็ลังเลก่อนจะพูดออกมา ฉู่เนี่ยนซีหยิบยาขวดเล็กออกมาโดยปราศจากความลังเลแล้วทาลงบนแผลเป็น มหาเสนาบดีมองการกระทำของนางโดยไม่กระพริบตา เขากำมือแน่น รู้สึกไม่สบายใจ ผิวหนังปลอม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-31
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 169

    แม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่อุทยานแห่งวังหลวงก็ยังคงดูเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ยังมีดอกไม้และพืชนานาชนิดบานสะพรั่ง ดอกเบญจมาศอันล้ำค่าหลากสีสันเรียงกันตามลำดับ ฉู่เนี่ยนซีเดินชื่นชมมาตลอดทางจนกระทั่งมาถึงศาลาจัดเลี้ยง ในหมู่พวกนางมีสตรีสูงศักดิ์หลายคนที่สังกัดอยู่ในพระราชวัง อีกทั้งนางสนมที่สังกัดในวังหลังล้วนกำลังยืนไม่ก็นั่งอยู่ในศาลากันอยู่แล้ว สาวงามมากมาย พูดคุยหัวเราะช่างเป็นภาพที่น่าดู ฉู่กุ้ยเฟยดีใจกับการตั้งครรภ์มากจึงไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยง ส่วนฮองเฮานั้นอ้างว่าป่วยจึงไม่ได้มาเช่นกัน นั่นทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ฉู่เนี่ยนซีสวมชุดสีอ่อนแล้วเดินมาอย่างเชื่องช้า เห็นดังนั้นทุกคนจึงหยุดหัวเราะ “นั่นใครกัน?” “จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ? ในเมืองรัตติกาลนี้ คนผู้เดียวที่มีรูปลักษณ์อันน่ายกย่องเช่นนี้ก็คือบุตรสาวของมหาเสนาบดีฉู่ พระชายาหลีอย่างไรเล่า” “พระชายาหลี? ไทเฮาเชิญนางมาด้วยหรือ?” “คนอื่นเขาเป็นชายาของเชื้อพระวงศ์อย่างเป็นทางการ ดังนั้นก็ย่อมมาได้อยู่แล้ว แต่สนมลี่ เจ้านี่สิ ก่อนหน้านี้เจ้าถูกสั่งกักบริเวณนี่ หากจะไม่มาก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” เมื่อผู้พูดพูดจบ ก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-31
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 170

    “จะ...เจ้าพูดอะไรไร้สาระ! ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย” จู่ ๆ เจี่ยงจาวอวิ๋นก็ตื่นตระหนก หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เนี่ยนซีและสัมผัสได้ถึงรัศมีรอบตัวนาง แต่สุดท้ายก็ยังพูดออกไปอย่างกล้าหาญ ทันใดนั้นฉู่เนี่ยนซีก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน พลางมองทุกคนด้วยสายตาเย็นชา “พวกท่านคิดว่าใครกันที่กำลังพูดเรื่องไร้สาระ?” ทุกคนที่กำลังดูอยู่เงียบ ๆ แต่เมื่อถูกฉู่เนี่ยนซีถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก็ทำให้ทุกคนอึ้งไป หากเป็นเมื่อก่อนพวกนางคงจะเลือกติดตามพระชายาเหลียนโดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้จุดเด่นของฉู่เนี่ยนซีไม่ใช่สิ่งที่เคยเป็นอีกต่อไป ข่าวลือในวันนี้ล้วนเกี่ยวกับนางเกือบทั้งหมด ว่ากันว่าความรู้ด้านการแพทย์ของนางอยู่ในระดับที่สูงมาก อีกทั้งคนยังลือกันว่าบุตรชายคนโตของตระกูลฉู่ถูกองค์จักรพรรดิทรงเรียกใช้งานอยู่บ่อย ๆ พวกนางจะกล้าเลือกข้างในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ได้อย่างไร ทุกคนจึงเริ่มแกล้งโง่และทำเป็นไม่ได้ยิน ถึงอย่างนั้นยังมีคนหลายคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจี่ยงจาวอวิ๋นและมักจะประจบประแจงอ๋องเหลียนอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีคนที่ทำเป็นไม่ได้ยินข่าวลือและเลือกที่จะปกป้องเจี่ยงจาวอวิ๋นอยู่ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-31
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 171

    “สตรีตระกูลฉู่นั่งลงสิ!” ไทเฮาเงยหน้าขึ้น ชี้ไปด้านข้างแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งฉู่เนี่ยนซีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว นางเป็นชายาของเย่เฟยหลี และถือได้ว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของราชวงศ์แล้วไทเฮาเรียกนางว่าสตรีตระกูลฉู่ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่านางเป็นบุตรสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนของตระกูลฉู่อย่างชัดเจนสิ่งนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการบอกกับทุกคนว่าไทเฮาไม่ยอมรับฉู่เนี่ยนซีเป็นหลานสะใภ้ ทุกคนฉลาดและเข้าใจโดยธรรมชาติว่าไทเฮาหมายถึงสิ่งใดนั่นทำให้พวกนางอดไม่ได้ที่จะมองฉู่เนี่ยนซีไปอีกมุมมอง ในบรรดาสตรีในวังหลัง ไทเฮานั้นมีอำนาจใหญ่ที่สุด หากไทเฮาไม่ชอบใคร ไม่ว่าจะเก่งกาจสักแค่ไหนก็จะไม่มีจุดจบที่ดี ทันใดนั้นเจี่ยงจาวอวิ๋นก็รู้สึกหยิ่งผยองเล็กน้อยขึ้นมาในใจ‘เหอะ เจ้าคนอัปลักษณ์คนนี้ก็เก่งแต่ปากเท่านั้นแหละ!เมื่อคิดเช่นนี้ เจี่ยงจาวอวิ๋นก็เดินไปหาไทเฮาด้วยรอยยิ้มที่สดใส และกล่าวขึ้นว่า "เสด็จย่า นี่เป็นขนมที่อวิ๋นเออร์ทำขึ้นเป็นพิเศษ ลองชิมดูไหมเพคะ?"“ได้สิ!” ไทเฮาหยิบขนมออกมาหักเล็กน้อยก่อนจะนำเข้าปาก “อื้ม อร่อย! สะใภ้รองนี่ช่างใส่ใจดีจริง ๆ!”“หากเสด็จย่าชอบ อวิ๋นเออร์จะทำมามอบให้ท่านทุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-01
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 172

    ฉู่เนี่ยนซีมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้า ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก“ปิ่นปักผมบนศีรษะของพระชายาหลีทำมาอย่างประณีตจริงสวยงามมากจริง ๆ เพคะ”เมื่อได้ยินคำพูดของซุนจื่อซี ฉู่เนี่ยนซีก็อดไม่ได้ที่จะแตะปิ่นปักผมบนศรีษะของตัวเองสตรีที่ชื่อหลิงเอ๋อร์เป็นคนมอบปิ่นปักผมชิ้นนี้ให้นางที่ทางเข้าสำนักหมอหลวง เดิมทีนางเพียงแค่เก็บมันเอาไว้เฉย ๆ เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าวันนี้เสี่ยวเถาจะใช้มันปักผมให้นางฉู่เนี่ยนซีกลับมามีสติอีกครั้งและยิ้มเล็กน้อย "ขอบพระทัยเพคะ!"ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ทุกคนก็มองไปที่ศรีษะของนาง “เอ๊ะ เหตุใดปิ่นปักผมอันนี้ถึงได้ดูคุ้นนัก?!”“อา! ข้าจำได้แล้ว นั่นมันปิ่นปักผมชิ้นโปรดขององค์หญิงฉางเล่อไม่ใช่หรือ?”ฉู่เนี่ยนซีตกใจเล็กน้อย องค์หญิงฉางเล่อ? สตรีนางนั้นชื่อหลิงเอ๋อร์ไม่ใช่หรือ?“องค์หญิงใหญ่ชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ และนางก็สุขภาพไม่ค่อยดีนัก นางไม่เคยไปงานเลี้ยง แล้วก็พบปะผู้คนน้อยมากด้วย”“ข้าเคยเห็น ตอนวันเกิดขององค์หญิงใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นนางก็สวมปิ่นปักผมชิ้นนี้ เพราะมันค่อนข้างพิเศษข้าจึงจำได้อย่างแม่นยำ ว่ากันว่านี่คือปิ่นปักผมชิ้นโปรดขององค์ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-01

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status