“องค์หญิง!”เมื่อเห็นเจียเหยาคุกเข่า ทหารองครักษ์ที่ยังอยู่ในขบวนรีบพุ่งเข้ามา“ไสหัวกลับไป!”เจียเหยาหันศีรษะกลับมาคำรามใส่สองสามคนที่มุ่งมา จากนั้นก็หันกลับมามองหยุนเจิง กล่าวเสียงดัง “ข้าบานต่อเทพหมาป่า ขอแค่เจ้าคืนศีรษะของพวกเสด็จพ่อให้กับข้า ข้าจากคุกเข่าที่นี่สามวัน ชดใช้ความผิดแทนเสด็จพ่อ”เมื่อได้ฟังคำพูดของเจียเหยา หยุนเจิงขมวดคิ้วแน่นอย่างควบคุมไม่อยู่สตรีผู้นี้!ไม่ปล่อยให้คนหมดความยุ่งยากเพื่อได้สบายใจเลยจำต้องเล่นลูกไม้กับเขาให้ได้เลยหรือ?น่าเสียดาย ไม่ว่าเจียเหยากล่าวสิ่งใดทำสิ่งใด เขาก็ไม่อาจนำศีรษะของฮูเจี๋ยส่งคืนให้ได้เสียงของเจียเหยาดังมาก คำพูดของนาง ย่อมลอยเข้าสู่หูของพวกเสิ่นลั่วเยี่ยนมองดูเจียเหยาที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น เสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินถอนหายใจออกมาพร้อมกันแม้พวกนางกับเจียเหยาจะเป็นศัตรูกัน แต่สำหรับเจียเหยา พวกนางนั้นเลื่อมใสมากเจียเหยานับว่าเป็นยอดสตรีโดยแท้จริงมีรูปลักษณ์สวยงาม มีความสามารถและสติปัญญา มีวิชาการต่อสู้บางที อาจเพราะเหตุนี้ นางจึงได้รับความโปรดปรานจากฮูเจี๋ยเป็นพิเศษ!หากเจียเหยาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยุนเจิง บางที นาง
“ต่อไป ทหารม้าเป่ยหวนพบพวกเราอีกครั้ง ยังไม่ทันได้เปิดศึก พวกเขาก็จะรู้สึกหวาดกลัวแล้ว!”“หากสู้กันขึ้นมา พวกเราต้องย่อมได้รับความเสียหาย แต่ว่าความเสียหายของศัตรูจะมีมากกว่า!”“ชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ยามที่สมควรสู้ก็ต้องสู้...”ความจริงแล้วนี่เป็นหลักการที่ง่ายแสนง่ายถ้าจักรพรรดิเหวินถูกตัดศีรษะโดยชาวเป่ยหวนระหว่างการเดินทางส่วนตัวแล้วถูกนำศีรษะไป ก็เป็นสร้างผลกระทบต่อต้าเฉียนเช่นกันเขาเชื่อ ไม่ว่าอย่างไรหยุนเจิงก็จะนำศีรษะทั้งสองนี้กลับไป เพราะคิดถึงด้านนี้บางที เจียเหยาอาจเข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรจึงต้องการนำศีรษะฮูเจี๋ยกลับไปเมื่อได้ฟังคำของต่งกัง สตรีทั้งสองสับสนอย่างควบคุมไม่อยู่เป็นเช่นนี้หรือ?ตอนที่พวกเขากำลังสนทนากัน หยุนเจิงปฏิเสธคำร้องขอของเจียเหยาอย่างหนักแน่นอีกครั้ง และกล่าวอย่างไม่แยแส “จิ๊ๆ พวกเราพนันกันดีหรือไม่?”“พนันสิ่งใด?”เจียเหยาเงยหน้า ดวงตาเปียกชื้นมองที่หยุนเจิงหยุนเจิงสายตาเย็นชาจองเจียเหยา “พนันว่าข้ารู้จุดประสงค์ของเจ้าหรือไม่!”จุดประสงค์?เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง เจียเหยาใจกระตุกหยุนเจิงดูจุดประสงค์ของนางออกแล้ว?”
มองดูหยุนเจิงสีหน้านิ่งเรียบสบาย ในใจเจียเหยาเกิดความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงอีกครั้งนางพลันเกิดความรู้สึกนี้ นางเมื่ออยู่ต่อหน้าหยุนเจิง ราวกับร่างกายเปลือยเปล่าทุกสิ่งที่นางคิด นางล้วนถูกหยุนเจิงดูจนทะลุปรุโปร่งเวลานี ความกดดันมาสู่ด้านเจียเหยาอีกครั้งสู้ หรือว่าไม่สู้?สู้ตอนนี้ คนและม้าของพวกเขาล้วนไม่มีแรงกำลังแล้ว การคุกเข่าเมื่อครู่ บางทีอาจพอปลุกขวัญกำลังใจทหารได้บางส่วน แต่ผลลัพธ์เมื่อเทียบกับที่นางคาดการณ์ไว้แตกต่างกันมากหากไม่สู้ตอนนี้ หากหยุนเจิงมีกองหนุนจริง รอให้กองหนุนของพวกเขามาถึง เกรงว่าพวกเขาคงต้องหนีไปฝุ่นตลบอย่างครั้งก่อนหากวันนี้พวกเขาล่าถอย นั่นเท่ากับว่าพวกเขาหวาดกลัวต้าเฉียนถึงที่สุดแล้วต่อไป ตต่อให้พวกเขามีกำลังทหารที่ยอดเยี่ยมแล้ว พวกเขาอาจไม่กล้าโจมตีทหารม้าต้าเฉียนแล้ว!พวกเขาถูกหยุนเจิงตีจนเข็ดแล้ว!หยุนจิงได้ฝังเมล็ดพันธุ์ความกลัวเช่นนี้ไว้ในใจชาวเป่ยหวนแล้วหากชนะการรบครั้งนี้ เมล็ดพันธุ์นี้ก็จะถูกบดทำลายไปหากถอยหนีเช่นนี้ เมล็ดพันธูนี้ก็จะแตกรากในใจชาวเป่ยหวนต่อไป เกรงว่าแคได้ยินชื่อหยุนเจิง คนแล้วนี้ก็คงสะดุ้งตัวสั่นแล้วสู้!จำเป็นต้
เจียเหยาเป็นหัวใจของทัพศัตรูขอแค่กองทหารโลหิตฆ่าเจียเหยาได้ หัวใจของทัพศัตรูก็จะพังทลาย“ขอรับ!”ผู้ส่งสารนำคำสั่งของหยุนเจิงไปถ่ายทอดทันทีหยุนเจิงจับจ้องทหารม้าเป่ยหวนที่บุกเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย จิตสังการแผ่ซ่านท่วมตัวอยากทำศึกเช่นกันก็ทำศึก!ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ!ตอนที่ทัพศัตรูเข้าสู่อาณาเขตสองลี้ หยุนเจิงพลันยกมือขึ้น ร้องตะโกน “เปิด!”หลังหยุนเจิงออกคำสั่ง ทหารม้าด้านหน้าแยกเป็นสองข้างขณะเดียวกัน ต่งกังจุดไฟบนหญ้าแห้งที่ผูกไว้กับม้าศึก“ฟู่ๆๆ...”ภายใต้ไฟที่กำลังลุกไหม้ ม้าศึกส่งเสียงร้องเจ็บปวด วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วมองดูม้าศึกที่ร้องด้วยความเจ็บปวดวิ่งออกไป เจียเหยาสีหน้าเปลี่ยนไปขบวนวัวไฟ!นี่ไม่ใช่ขบวนวัวไฟที่นางใช้ทะลวงแนวสันดอนเป่ยหยวนหรือ?ไอสารเลวสมควรตาย!นึกไม่ถึงว่าจะเรียนแบบขบวนวัวไฟของนางมาจัดการนาง!“ถอย! ถอย!”เจียเหยาร้องตะโกนทว่า เสียงของนางถูกกลบมิดด้วยเสียงเกือกเท้าม้าแม้หลายต่อหลายคนมีความคิดถอยหนี ทว่าระยะห่างระหว่างสองฝ่ายใกล้กันเกินไปหลายคนง้างธนูโดยไม่รู้ตัว คิดจะยิงม้าศึกที่พุ่งมาเหล่านั้นฝนธนูโปรยไปหนึ่งรอบ ม้าศึ
“นั่นไม่ใช่กองหนุนของพวกเขา!”“อย่าแตกตื่น! ทั้งหมดอย่าแตกตื่น!”“ผู้ใดกล้าหลบนี้ ฆ่า!”เจียเหยาแทบจะเดาได้ทันทีว่าหยุนเจิงกำลังสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา ตะโกนร้องไม่หยุดทว่า เสียงนางเพียงคนเดียวสุดท้ายก็มีข้อจำกัดท่ามกลางเสียงตะโกนอันแหบแห้งของทหารม้าต้าเฉียน เสียงของเจียเหยากลบมิดกองหนุน!กองหนุนของทัพศัตรู!เสียงตะโกนของทหารม้าต้าเฉียนจู่โจมจิตใจของทหารม้าเป่ยหวนไม่หยุดตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้วจนมาถึงตอนนี้ เป่ยหวนไม่รู้ว่าพ่ายแพ้ไปกี่ครั้งแล้วในระยะเวลาอันสั้น เป่ยหวนถูกสังหารจั่วโย่วเสียน พ่อลูกประมุขใหญ่ฮูเจี๋ยในสงครามอีกทหารม้าเป่ยหวนเหล่านี้ ไม่มีขวัญกำลังใจที่เชื่อถือได้นานแล้วหากไม่ใช่เพราะการกระตุ้นก่อนทำสงครามของเจียเหยา โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาไม่กล้าทำสงครามกับทหารม้าต้าเฉียนแล้วเวลานี้ เมื่อรู้ว่ากองหนุนของทหารม้าต้าเฉียนมาถึงแล้ว ความหวาดกลัวในใจของทหารม้าเป่ยหวนเพิ่มขึ้นมาดุจสายลมพัดฉวยโอกาสช่วยทัพศัตรูตื่นตระหนก ทหารม้าของต้าเฉียนฮึดสู้ชั่วอึดใจ ทำให้ขบวนที่สับสนของทัพศัตรูยิ่งหละหลวมมากขึ้นทหารห้าร้อยคนของฉินชีหู่บุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เข้าต่อสู้กับ
ทหารม้าต้าเฉียนย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ ไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งของหยุนเจิง ทุกคนก็เปิดฉากไล่ล่าต่งกังนำกองทหารโลหิตไล่ตามเจียเหยาที่หลบหนีภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ทว่า ม้าศึกของพวกเขาเทียบกับม้าศึกของเจียเหยาและองครักษ์ไม่ได้ไม่นาน เจียเหยาก็ทิ้งระยะห่างจากทหารไล่ติดตามต่งกังอย่างจะไล่ล่าต่อ ทหารม้าของเขากลับขาอ่อน โผเข้าไปหาพื้นโดยตรง แม้กระทั่งต่งกังยังถูกเหวี่ยงลอยไปไม่นาน อวี๋ซื่อจงก็นำกองกำลังบุกตามมาเนื่องจากการเข้าร่วมของพวกอวี๋ซื่อจง ในที่สุดหยุนเจิงก็หยุดไล่ตามหยุนเจิงนั่งอยู่บนหลังม้า หายใจกระหืดกระหอบ“ผู้หญิงบ้าคนนี้...”ตอนนี้เขาไม่รู้ความเสียหายของพวกเขาทางนี้ประมาณการคร่าวๆ อย่างน้อยต้องมีคนตายในสงครามนับพันคนแม้พวกเขายังมีกำลังใจทหาร ทั้งยังใช้กลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ บางอย่างด้วย ทว่าทัพศัตรูก็ยังได้เปรียบด้านจำนวนคนอย่างมากความบาดเจ็บของพวกเขาไม่มีทางต่ำแน่นอนหากไม่ใช่เจียเหยาผู้หญิงบ้าคนนี้แลกด้วยชีวิต คนเหล่านี้ ล้วนมีชีวิตรอดกลับไปสงครามดุเดือดครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดให้คิดถึงแล้วไม่นาน การต่อสู้ครั้งนี้จบลงแล้วเจียเหยานำกองกำลังทหารหนึ่งหมื่นคน คนท
สามวันให้หลัง กองกำลังหยุนเจิงนำเชลยศึกและศพทหารกลับมาถึงชายแดนเว่ยยอกจากศพทหารที่ตายในสนามรบแล้ว ยังมีคนบาดเจ็บสาหัสที่ทนไม่ไหวด้วยนับดูแล้ว กองทัพหนึ่งหมื่นคนและกองทหารโลหิตหนึ่งพันคน รวมกัยแล้วมีคนตายเกือบเจ็ดพันแปดร้อยคนแค่นายพลก็สูญเสียคนไปหกคน รวมถึงผู้บัญคับบังชาคนโปรดของหยุนเจิงตู้กุยหยวนด้วยในนั้นยังมีสามสี่ร้อยคน ต่อให้รักษาหายดีแล้ว คาดว่าคงไม่อาจอยู่ในกองทัพได้ต่อไปนับดูแล้ว ทั้งหมดหนึ่งหมื่นหนึ่งพันคน สูญเสียไปเจ็ดพันกว่าคนเหี้ยมโหดจนไม่อาจเหี้ยมโหดไปได้มากกว่านี้แล้ว!สงครามครั้งนี้ แม้พวกเขาจะได้รับผลงานมหาศาล แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสียหายสาหัสขั้นสุดกองกำลังตู๋กูเชอโจมตีค่ายทหารที่เขาห่านป่าหวนกลับไม่สำเร็จตอนที่พวกเขาบุกไป ทัพศัตรูก็ล่าถอยไปนานแล้วทว่า ตอนที่กองทัพตู๋กูเช่อไล่ตามไป พวกเขาสกัดกั้นสองชนเผ่าที่กำลังอพยพไปยังราชสำนักเป่ยหวนโดยไม่ได้ตั้งใจตู๋กูเช่อปิดล้อมโดยตรง ยึดคนและปศุสัตว์ของพวกเขาทั้งหมดมาเป็นเชลยศึกตู๋กูเช่อให้คนมาส่งข่าวให้หยุนเจิง เขาเดินทางกลับชายแดนเว่ยก่อน เหลือหนึ่งหมื่นคนคุ้มกันขนส่งเชลยศึกและปศุสัตว์เหล่านั้นกลับชายแดนเ
แต่ไหนแต่ไร มีเพียงแม่ทัพนายพลระดับสูงที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้“พอแล้ว ไม่พูดเรื่องเหล่านี้แล้ว”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปถามอวี๋ซื่อจง “เอาของดูต่างหน้ามาจากร่างทุกคนหรือยัง?”“เอามาหมดแล้ว!”อวี๋ซื่อจงตอบทันที “ของดูต่างหน้าล้วนห่อเอาไว้แยกกันและเก็บไว้พร้อมข้อมูลบุคคล”“ดี!”หยุนเจิงพยักหน้า ตะโกนเสียงดัง “เอาเหล้ามา!”คนของกายนำานำเหล้าที่ได้จากแอลกอฮอล์และน้ำมาหลายไหทันทีหยุนเจิง ตู๋กูเช่อ ฉินชีหู่ เสิ่นลั่วเยี่ยน...จำนวนเล็กๆ น้อยๆ รวมกัน เกือบหนึ่งร้อยคนทุกคนรับไหสุราจากคนข้างกายด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแสดงความเคารพหยุนเจิงหยิบไหสุรา ชูขึ้นสูง“พี่น้องทุกท่าน พวกท่านล้วนเป็นวีรบุรุษของต้าเฉียนเรา!”“ข้าอยู่ที่นี่เพื่อเชิญทุกท่านร่วมดื่มสุราฉลอง!”“พวกท่านจากไปอย่างวางใจ ข้าจะสั่งคนให้นำของดูต่างหน้าและเงินบำนาญมอบให้ถึงมือครอบครัวพวกท่าน!”“ข้าขอยืมคำพูดเสด็จพ่อ ใครกล้าแตะต้องเงินบำนาญของพวกท่าน ข้าก็กล้าแตะต้องหัวพวกเขา!”คำพูดของหยุนเจิง แม้จะกล่าวกับทหารที่เสียชีวิตเหล่านี้ แต่ก็พูดกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกันนี่เป็นการเตือนเหล่าคนที่อาจคิด