ทหารม้าต้าเฉียนย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ ไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งของหยุนเจิง ทุกคนก็เปิดฉากไล่ล่าต่งกังนำกองทหารโลหิตไล่ตามเจียเหยาที่หลบหนีภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ทว่า ม้าศึกของพวกเขาเทียบกับม้าศึกของเจียเหยาและองครักษ์ไม่ได้ไม่นาน เจียเหยาก็ทิ้งระยะห่างจากทหารไล่ติดตามต่งกังอย่างจะไล่ล่าต่อ ทหารม้าของเขากลับขาอ่อน โผเข้าไปหาพื้นโดยตรง แม้กระทั่งต่งกังยังถูกเหวี่ยงลอยไปไม่นาน อวี๋ซื่อจงก็นำกองกำลังบุกตามมาเนื่องจากการเข้าร่วมของพวกอวี๋ซื่อจง ในที่สุดหยุนเจิงก็หยุดไล่ตามหยุนเจิงนั่งอยู่บนหลังม้า หายใจกระหืดกระหอบ“ผู้หญิงบ้าคนนี้...”ตอนนี้เขาไม่รู้ความเสียหายของพวกเขาทางนี้ประมาณการคร่าวๆ อย่างน้อยต้องมีคนตายในสงครามนับพันคนแม้พวกเขายังมีกำลังใจทหาร ทั้งยังใช้กลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ บางอย่างด้วย ทว่าทัพศัตรูก็ยังได้เปรียบด้านจำนวนคนอย่างมากความบาดเจ็บของพวกเขาไม่มีทางต่ำแน่นอนหากไม่ใช่เจียเหยาผู้หญิงบ้าคนนี้แลกด้วยชีวิต คนเหล่านี้ ล้วนมีชีวิตรอดกลับไปสงครามดุเดือดครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดให้คิดถึงแล้วไม่นาน การต่อสู้ครั้งนี้จบลงแล้วเจียเหยานำกองกำลังทหารหนึ่งหมื่นคน คนท
สามวันให้หลัง กองกำลังหยุนเจิงนำเชลยศึกและศพทหารกลับมาถึงชายแดนเว่ยยอกจากศพทหารที่ตายในสนามรบแล้ว ยังมีคนบาดเจ็บสาหัสที่ทนไม่ไหวด้วยนับดูแล้ว กองทัพหนึ่งหมื่นคนและกองทหารโลหิตหนึ่งพันคน รวมกัยแล้วมีคนตายเกือบเจ็ดพันแปดร้อยคนแค่นายพลก็สูญเสียคนไปหกคน รวมถึงผู้บัญคับบังชาคนโปรดของหยุนเจิงตู้กุยหยวนด้วยในนั้นยังมีสามสี่ร้อยคน ต่อให้รักษาหายดีแล้ว คาดว่าคงไม่อาจอยู่ในกองทัพได้ต่อไปนับดูแล้ว ทั้งหมดหนึ่งหมื่นหนึ่งพันคน สูญเสียไปเจ็ดพันกว่าคนเหี้ยมโหดจนไม่อาจเหี้ยมโหดไปได้มากกว่านี้แล้ว!สงครามครั้งนี้ แม้พวกเขาจะได้รับผลงานมหาศาล แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสียหายสาหัสขั้นสุดกองกำลังตู๋กูเชอโจมตีค่ายทหารที่เขาห่านป่าหวนกลับไม่สำเร็จตอนที่พวกเขาบุกไป ทัพศัตรูก็ล่าถอยไปนานแล้วทว่า ตอนที่กองทัพตู๋กูเช่อไล่ตามไป พวกเขาสกัดกั้นสองชนเผ่าที่กำลังอพยพไปยังราชสำนักเป่ยหวนโดยไม่ได้ตั้งใจตู๋กูเช่อปิดล้อมโดยตรง ยึดคนและปศุสัตว์ของพวกเขาทั้งหมดมาเป็นเชลยศึกตู๋กูเช่อให้คนมาส่งข่าวให้หยุนเจิง เขาเดินทางกลับชายแดนเว่ยก่อน เหลือหนึ่งหมื่นคนคุ้มกันขนส่งเชลยศึกและปศุสัตว์เหล่านั้นกลับชายแดนเ
แต่ไหนแต่ไร มีเพียงแม่ทัพนายพลระดับสูงที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้“พอแล้ว ไม่พูดเรื่องเหล่านี้แล้ว”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปถามอวี๋ซื่อจง “เอาของดูต่างหน้ามาจากร่างทุกคนหรือยัง?”“เอามาหมดแล้ว!”อวี๋ซื่อจงตอบทันที “ของดูต่างหน้าล้วนห่อเอาไว้แยกกันและเก็บไว้พร้อมข้อมูลบุคคล”“ดี!”หยุนเจิงพยักหน้า ตะโกนเสียงดัง “เอาเหล้ามา!”คนของกายนำานำเหล้าที่ได้จากแอลกอฮอล์และน้ำมาหลายไหทันทีหยุนเจิง ตู๋กูเช่อ ฉินชีหู่ เสิ่นลั่วเยี่ยน...จำนวนเล็กๆ น้อยๆ รวมกัน เกือบหนึ่งร้อยคนทุกคนรับไหสุราจากคนข้างกายด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแสดงความเคารพหยุนเจิงหยิบไหสุรา ชูขึ้นสูง“พี่น้องทุกท่าน พวกท่านล้วนเป็นวีรบุรุษของต้าเฉียนเรา!”“ข้าอยู่ที่นี่เพื่อเชิญทุกท่านร่วมดื่มสุราฉลอง!”“พวกท่านจากไปอย่างวางใจ ข้าจะสั่งคนให้นำของดูต่างหน้าและเงินบำนาญมอบให้ถึงมือครอบครัวพวกท่าน!”“ข้าขอยืมคำพูดเสด็จพ่อ ใครกล้าแตะต้องเงินบำนาญของพวกท่าน ข้าก็กล้าแตะต้องหัวพวกเขา!”คำพูดของหยุนเจิง แม้จะกล่าวกับทหารที่เสียชีวิตเหล่านี้ แต่ก็พูดกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกันนี่เป็นการเตือนเหล่าคนที่อาจคิด
เมืองจักรพรรดิจักรพรรดิเหวินไถ่ถ่ามเรื่องอันหวังก่อกบฎในราชสำนักตามปกติอีกทั้ง ผลที่ได้รับกลับทำให้จักรพรรดิแทบอยากจะกระโดดด่ามารดานี่ผ่านมากี่วันแล้ว?ยังไม่อาจสยบการก่อกบฏของอันหวัง?กองทัพของราชสำนักต้านทางทัพกบฏของอันหวังไม่ได้หรือ?นี่ทำสู้รบได้ไร้สาระ!ทว่า สุดท้ายจักรพรรดิก็ข่มอารมณ์ไว้ได้“องค์รัชทายาท เจ้ามีความคิดเห็นเช่นไร?”จักรพรรดิเหวินพยายามระงบความโกรธ หันหน้ามองหยุนลี่ “เจ้าคิดว่าข้าควรลงโทษอู๋ตู๋ที่ปราบกบฏได้ไม่ดี?”หยุนลี่ครุ่นคิด จากนั้นก็โค้งคำนับ “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่า เรื่องนี้ไม่อาจโทษแม่ทัพอู๋ได้ ตอนนี้ทางใต้มีฝนตกฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ถนนเป็นโคลน การคุ้มกันส่งเสบียงค่อนข้างล่าช้า ด้านหน้าขาดแคลนเสบียง แม่ทัพอู๋รอบครอบไม่โจมตีโดยหุนหันพลันแล่น...”“ก็จริง”จักรพรรดิเหวินพยักพระพักตร์ จากนั้นก็ทอดพระเนตรเซวียเช่อที่รับตำแหน่งเสนาบดีกรมทหาร “ข้าขี้เกียจเขียนราชโองการ! กรมทหารส่งคนไปส่งข่าวให้อู๋ตู๋ เซียวว่านโฉวหลังจากกินยาพื้นบ้าน ร่างกายกลับเป็นปกติแล้ว กำลังคิดอยากให้เขายืดเส้นยืดสาย หากเขาทำไม่ได้ ข้าจะสั่งให้เซียวว่านโฉวไป! ถึงเวลานั้น อย่าบอกว่าข้าไม่
“เร็ว นำกล่องเปิดให้ข้าดู!”จักรพรรดิเหวินทิ้งรายงานการรบ สั่งองครักษ์วังด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำสั่งของจักรพรรดิเหวิน องครักษ์วังรีบเปิดกล่องออกทันทีทว่า ยังไม่รอให้จักรพรรดิเหวินเห็นชัดเจน เหล่าขุนนางในราชสำนักก็กระเถิบเข้าไปชะโงกหน้าดูแม้พวกหันจิ้นจะโรยปูนขาวไว้บนศีรษะเหล่านั้นแล้ว ทว่าส่งศีรษะมาด้วยระยะทางไกลเช่นนี้ ศีรษะก็ยังมีกลิ่นเล็กน้อยแต่ว่า ทุกคนกลับไม่สนใจมากมาย จับจ้องศีรษะมนุษย์ทั้งสามโดยละเอียดฮูเจี๋ย!โปหลวน!ศีรษะมนุษย์อีกหัว พวกเขาไม่รู้จักทว่า ในเมื่อส่งกลับมา ย่อมต้องเป็นบุคคลสำคัญของเป่ยหวน“นี่คือลูกชายของฮูเจี๋ย!”“โปหลวน ข้าจำเจ้าสุนัขนี่ได้!”“ฮ่าๆ องค์ชายหกแค่ทำสงครามก็ประหารโปหลวนและฮูเจี๋ยได้ ชื่อมรณกรรมอู่เลี่ย สมชื่อจริง!”“ตาแก่ เจ้าเลอะเลือนแล้วกระมัง? องค์ชายหกยังมีชีวิตอยู่ดี เจ้าจะกว่าถึงชื่อมรณกรรมอะไร?”“เอ่อ...คือ...”เหล่าขุนนางอาวุโสทั้งดีใจทั้งตกใจ พูดจาไม่ผ่านสมองขบคิดแล้วเมื่อได้ฟังคำของเหล่าขุนนางอาวุโส เหล่าขุนนางพากันชะโกงหน้าไปดูคราวนี้ จักรพรรดิเหวินเองก็เห็นไม่ชัดแล้วใบหน้าหยุนเจิงเผยรอยยิ้มดีใจ ทว่าในในเด
เมื่อได้ฟังคำของจักรพรรดิเหวิน ใบหน้าหยุนลี่กระตุกทันทีปล่อยให้รัชทายาทอย่างเขาไปเป็นแนวหน้าเพื่อปราบกบฏทว่า คำพูดของเสด็จพ่อมีเหตุผลเจ้าหกทำสงครามเก่งเช่นนี้ หากเขาไม่รู้เรื่องการทหารในสักนิด หากภายหน้าไอสารเลวนี่ก่อกบฏ เขาก็คงไม่สามารถเอาแต่พึ่งพาเหล่าแม่ทัพในราชสำนักนี้ได้!ถึงเวลานั้น แม่ทัพอาวุโสหลายคนคงไม่อยู่แล้ว!ขบคิดเงียบๆ หยุนลี่โค้งคำนับกล่าว “ลูกรับพระบัญชา! ลูกจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง!”“อื้ม! เช่นนั้นก็เอาตามนี้!”จักรพรรดิเหวินโบกพระหัตถ์เบาๆ “จริงด้วย พ่อลูกหยวนฉงเหมือนจะยังอยู่ในคุก?”“พ่ะย่ะค่ะ!”หยุนเจิงโค้งตัวกล่าวหยวนฉงทิ้งด่านเป่ยลู่ ไม่ได้ทิ้งให้ตกอยู่ในมือศัตรูภายนอก แต่เป็นคำร้องขอของขุนนาง แม้ว่าจักรพรรดิเหวินจะล้มเลิกความคิดที่จะประหารสกุลหยวนกงเก้าชั่วโคตร แต่จับตัวหยวนฉงและหยวนกุยพ่อลูกเข้าคุก วางแผนที่จะประหารหลังฤดูใบไม้ร่วงจักรพรรดิเหวินครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าว “ราชสำนักตอนนี้ต้องการใช้คน ข้าจะไม่เอาชีวิตพวกเขาชั่วคราว! เจ้านำพวกเขาไปด้วย ให้พวกเขาเป็นบริวารหน้ารถม้าของเจ้า ทำความดีชดใช้ความผิด! ควรอธิบายกับพวกเขาเช่นไร เจ้าจัดกา
นี่ไม่ใช่ให้โอกาสสวีสือฝู่การจัดตั้งพรรคพวกเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือ?เมื่อเห็นฉินลิ่วก่านยังคิดไม่ได้ จักรพรรดิเหวินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยความจนใจครู่ต่อมา จักรพรรดิเหวินลุกขึ้น หยิบจดหมายฉบับหนึ่งจากช่องในห้องตำราส่งให้ฉินลิ่วก่าน “ชื่อคนในจดหมายฉบับนี้ ล้วนเป็นคนในกองทัพที่ติดต่อใกล้ชิดกับเจ้าสาม เจ้าเก็บไว้ให้ดี! พรุ่งนี้ข้าจะสั่งให้เจ้าดูแลกองทหารเสินอู่และองครักษ์อวี่หลินชั่วคราว หากคนพวกนี้ไม่ทำเกินเลย เจ้าก็ไม่เจ็บเป็นต้องเคลื่อนไหว แค่จับตามองมากหน่อยก็พอ!”“นี่... ไม่ดีกระมัง?”ฉินลิ่วก่านยิ้มแห้งมองจักรพรรดิเหวิน “ไม่อย่างนั้น ข้าไปซั่วเป่ยกับพระองค์ด้วย ข้า...”“อย่าแม้แต่จะคิด!”จักรพรรดิเหวินดับฝันฉินลิ่วก่านโดยตรง “เจ้าอยู่ที่เมืองจักรพรรดิ ข้าถึงจะวางใจ!”ฉินลิ่วก่านนิ่งไปเล็กน้อย ทำได้เพียงกลืนคำในปากลงไปอย่างรวดเร็วก็ได้!รอเขากลับมาก่อน เขาค่อยไปซั่วเป่ยอีกครั้งก็ได้!เรื่องใหญ่แค่ไหนกันเชียว!อื้ม ชีหู่เจ้าสัตว์ร้าย ทำให้เขาได้หน้าจริงๆนึกไม่ถึงว่าจะตัดหัวของฮูเจี๋ยด้วยมือตัวเองแล้ว?อื้อๆ เดี๋ยวต้องกลับไปจุดธูปไหว้บรรพชนหน่อยแล้ว!จักรพรรดิเหวิน
ชายแดนเว่ยหยุนเจิงเมื่อได้รับข่าว ชนเผ่าของเป่ยหวนและกองทัพทั้งหมดล่าถอยแล้วตอนนี้หากพวกเขาอยากจับเชลยศึกเป่ยหวน ก็ต้องวิ่งไปไกลแสนไกลแล้วตอนนี้ เขตแดนและทั่วทั้งทุ่งหญ้ามู่หม่าของเกออาซู ล้วนลายเป็นของในกระเป๋าของพวกเขาแล้วการต่อสู้จบลงชั่วคราวแล้วแต่เรื่องที่ทำให้หยุนเจิงปวดหัวมาแล้วเขตแดน เขายึดมาได้แล้วตอนนี้ปัญหาคือ จะครอบครองเขตแดนเหล่านี้ตลอดไปเช่นไรพวกเขาจะเป็นต้องส่งกองทัพขนาดใหญ่ยึดครองดินแดนเหล่านี้ เส้นทางจัดสรรเสบียงก็จะลากยาวไปไกลมากต่อให้เป็นทหารชาวนา ก็ไม่อาจเดินทางไกลเกินไป อย่างมากสุดก็แค่รอบบริเวณสามเมืองชายแดนอีกอย่าง น้ำฝนในทุ่งหญ้าแม้จะชุก ทว่ามีฤดูฝนที่ค่อนข้างสั้นเมื่อถึงฤดูฝน ทุกหนแห่งล้วนกลายเป็นดินโคลน เส้นทางจัดสรรเสบียงยิ่งยากขึ้นหากส่งคนมาน้อยเกินไป ก็ต้องกังวลว่าจะถูกเป่ยหวนจู่โจมอีกครั้งหากปล่อยที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ผืนใหญ่ไว้ดู เช่นนั้นพวกเขาสู้ยึดที่ดินผืนนี้มาจะมีประโยชน์ใด?อีกทั้ง พวกเขายังต้องสร้างสะพานบนแม่น้ำสาขาของแม่น้ำไป๋สุ่ยด้วยแม่น้ำสาขาบริเวณใกล้เขตแดนของอาหลู่ไถต้องต้องสร้างสะพาน แม่น้ำสาขาบริเวณใกล้ทุ่งหญ้ามู่หม