นอกด่านเป่ยลู่ หยุนเจิงพาทุกคนไปส่งฉินลิ่วก่านมาถึงนอกด่าน“เอาล่ะ ไม่ต้องส่งแล้ว!”ฉินลิ่วก่านโบกมือให้ทุกคน “ไปทำงานของพวกเจ้าเถอะ! เจ้าหนุ่ม ซั่วเป่ยต้องยกให้เจ้าแล้ว หากเจ้าทำให้ซั่วเป่ยเสียไป ต่อจะสู้ตายเอาชีวิตเจ้าให้ได้!”“……”หยุนเจิงมองฉินลิ่วก่อนด้วยสายตาเอือมระอา จากนั้นก็กล่าวอย่างเคร่งขรึม “หรงกั๋วกงวางใจ หากซั่วเป่ยเสียไป ข้าคงตายไปแล้ว ไม่ต้องให้ท่านถ่อมาถึงนี่อีกครั้ง!”“ดี! ข้าเชื่อเจ้า!”ฉินลิ่วก่อนหัวเราะ “เอาล่ะ ไปก่อนแล้ว!”กล่าวจบ ฉินลิ่วก่อนเตะท้องม้า ควบม้าออกไปอย่างรวดเร็วมองดูฉินลิ่วก่านที่ไปไกลแล้ว หยุนเจิงไม่ได้มีความเศร้าจากการพรากจากกัน เพียงแค่ตัดสินใจเงียบๆ ต้องทำให้เป่ยหวนไม่กล้ารุกรานต้าเฉียนอีก!ระหว่างทางกลับจวน หยุนเจิงพลันถามฮูหยินเสิ่น “ท่านแม่ยาย ข้าว่าวรยุทธของท่านกับสะใภ้ใหญ่ล้วนไม่เลว ลองบัญชาการทหารในซั่วเป่ยดีหรือไม่?”“พวกเรา...บัญชาการทหาร?”ฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงมองหยุนเจิงด้วยความมึนงง ราวกับไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง“ใช่แล้ว!”หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย “ขอแค่พวกท่านยินดีก็พอ หากไม่ยินดี ก็ไม่เป็นไร”ตอนนี้เขาเป็นซั่วเป่ยเจี๋ยตู้สื่อ
“ก็ได้!”หยุนเจิงไม่บังคับดูออกว่าจ้าวจี้ไม่พอใจที่เขาแอบยึดอำนาจทหารของกองทหารมณฑลทางเหนือแต่ว่า ไม่เป็นไรในเมื่อเขากล้าทำเรื่องนี้ ก็ไม่หวังให้คนทั่วทั้งใต้หล้าคิดว่าเขาเป็นขุนนางภักดีจ้าวจี๋นิ่งเงียบเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยถามอีกครั้ง “แผนการแสดงบทบาทหนานหยวนเมื่อก่อน ล้วนเป็นฝีมือขององค์ชายหกกระมัง?”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้ายอมรับเวลานี้แล้ว ยังมีสิ่งใดไม่อาจยอมรับได้อีก“องค์ชายเก่งกาจจริงด้วย!”จ้าวจี๋กล่าวด้วยความเลื่อมใส “องค์ชายหกปกปิดซ่อนเร้นมาตั้งหลายปี หลอกลวงทุกคน ความสามารถและความอดทนขององค์ชายหก ข้าเลื่อมใสยิ่ง!”ข้าปกปิดซ่อนเร้นที่ใดกัน!ก่อนหน้านี้พี่ชายไม่ได้เรื่องจริงๆ!“ล้วนเป็นเพราะความจำเป็น”หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา “หากแม่ทัพอาวุโสคิดว่าข้าเป็นโจรกบฎ ข้าก็ไม่มีสิ่งใดให้กล่าว”“หวังว่าองค์ชายหกจะไม่ใช่!”จ้าวจี๋ยิ้มเรียบๆ ไม่ได้กล่าวสิ่งใดมากความ “องค์ชายส่งคนมารับมอบเสบียงเหล่านี้ได้แล้ว”“ไม่รีบ!”หยุนเจิงหัวเราะ จากนั้นก็หยั่งเชิง “แม่ทัพอาวุโสจ้าว ท่านคงไม่ลงมือกับเสบียงอาหารเหล่านี้หรอกกระมัง?”นี่เป็นเรื่องที่หยุนเจิงกังวลที่สุดตอนนี้ถึ
เสบียงอาหารสามล้านตันนั้นเยอะมากจริงแท้พวกเขารับมอบกันโดยไม่ได้หลับพักผ่อนเป็นเวลาสองวัน จึงสามารถรับมอบเสบียงอาหารทั้งสามล้านตันเสร็จสิ้นระหว่างนั้น หยุนเจิงสั่งให้คนซุ่มตรวจสอบเสบียงเป็นระยะ โดยพื้นฐานแล้วล้วนไม่มีปัญหาใดแต่อาจเพราะอากาศภายในด่านเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว เสบียงบางส่วนได้รับความชื้นมาระหว่างทางพวกหยุนเจิงรับมอบเสบียงเสร็จสิ้น จ้าวจี๋ก็ถอนทัพกลับฟู่โจวแล้ววันถัดมา หยุนลี่เดินทางไกลรอนแรมพาครอบครัวของตู๋กูเช่อมาถึงนอกด่านเป่ยลู่“พวกเจ้าเดาสิ เจ้าสามกำลังตะโกนสิ่งใดอยู่เบื้องล่าง?”หยุนเจิงยืนอยู่บนกำแพงด่าน ยิ้มตาหยีถามเสิ่นลั่วเยี่ยน“แน่นอนกำลังด่าเจ้าหน้าเนื้อใจเสือ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนหัวเราะสดใสเมื่อได้ฟังคำของเสิ่นลั่วเยี่ยน เยี่ยจื่อและเมี่ยวอินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่งเจ้าหมอนี่ ไม่ใช่คนหน้าเนื้อใจเสือหรือไร!ขอแค่หยุนลี่มา ไม่ว่าเว่ยเหวินจงจะรอดถึงเมืองจักรพรรดิหรือไม่ เขาล้วนซวยทั้งนั้นต่อให้พวกเขาพี่น้องสองคนมีบรรพบุรุษร่วมกัน คาดว่าหยุนลี่คงเริ่มทักทายบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของหยุนเจิงแล้ว“เจ้าสามผู้นี้ ทะเยอทะยานไม่น้อย สมองกลับมีแต่ขี้เลื่อย”หยุ
นี่เป็นความคิดที่หยุนลี่คิดได้ตอนออกจากเมืองจักรพรรดิทั้งต้องทำให้เว่ยเหวินจงตาย ทั้งต้องไม่ทำให้เขามีส่วนเกี่ยวข้อง มีเพียงยืมมือเจ้าหกจัดการเว่ยเหวินจง!ถึงแม้ เขาไม่ยินดีมอบเงินให้เจ้าหกแต่เขาก็ไม่อยากถูกจักรพรรดิเหวินลงโทษ!เงินไม่มีแล้ว ยังสามารถหาได้ใหม่แต่ใบหน้าเสียไปแล้ว ก็มีแต่ต้องเสียไปเท่านั้นที่สำคัญคือ ตอนนี้เกรงว่ามีแม่ทัพไม่น้อยในราชสำนักสงสัยว่าเขาชี้นำเว่ยเหวินจงทำเช่นนี้!หากเว่ยเหวินตายตอนคุ้มกันกลับเมืองจักรพรรดิ คนเหล่านั้นก็จะคิดว่าเขากำลังฆ่าคนปิดปาก!แม้ไม่มีหลักฐาน แต่ก็ไม่เป็นประโยชน์ในการเอาชนะใจคนสำหรับรัชทายาทอย่างเขา!ยืมมือเจ้าหกจัดการเว่ยเหวินจง สามารถขจัดข้อสงสัยของเขาได้มากที่สุด!“ห้าแสนตำลึงเงินแล้วกัน!”หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย “พี่สาม เช่นไรเจ้าก็เป็นรัชทายาท ห้าแสนตำลึงเงิน สำหรับท่านแล้ว ก็เป็นเพียงแค่เศษขนเท่านั้นกระมัง?”“เปล่า!” หยุนลี่กัดฟันคำรามเสียงต่ำ “ข้าบอกแล้ว สองแสนตำลึงเงินเป็นขีดจำกัดของข้า! หากเจ้าอยากได้มากกว่านี้ ข้ายินดีถูกเสด็จพ่อลงโทษ!”“พี่สาม เงินนี่ ข้าไม่ได้ต้องการเพื่อตัวข้า!” หยุนเจิงโน้มน้าวด้วยความอดทน “การ
นอกด่านเป่ยลู่ เสิ่นลั่วเยี่ยนทำตามคำสั่งของหยุนเจิง ตอนที่แลกเปลี่ยนตัวประกัน ยิงธนูปลิดชีวิตเว่ยเหวินจงหยุนลี่ด่ารุนแรงด้วยความโกรธสองสามประโยค จากนั้นก็พาคนจากไปแม้ต้องจ่ายเงินสี่แสนตำลึงเงิน แต่เว่ยเหวินจงก็นับว่าตายแล้ว!หยุนลี่ในเวลานี้ เจ็บปวดแต่มีความสุขเช่นกัน“เหตุใดพวกเขาไม่ห้ามเขาไว้หน่อย?”เมื่อรู้เรื่องนี้ ฮูหยินเสิ่นดุเยี่ยจื่อและเสิ่นลั่วเยี่ยนทันที“พวกเราห้ามเขาเพื่อสิ่งใดเล่า?”เสิ่นลั่วเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้สี่แสนตำลึงเงินมาเปล่าๆ ทั้งยังได้ฆ่าเว่ยเหวินจงด้วยตัวเองล้างแค้นให้เหล่าทหาร เป็นเรื่องดี!”“เรื่องดีอะไร!” ฮูหยินเสิ่นจ้องเสิ่นลั่วเยี่ยนด้วยความหงุดหงิด “พวกเจ้าฆ่าเว่ยเหวินจง ในราชสำนักต้องมีคนคิดว่าพวกเจ้าใส่ร้ายเว่ยเหวินจง! แต่หากเว่ยเหวินจงตายระหว่างคุ้มกันกลับเมืองจักรพรรดิ คนในราชสำนักจะคิดว่ารัชทายาทฆ่าคนปิดปาก เช่นนี้ ก็สามารถทำลายชื่อเสียงของรัชทายาท!”สี่แสนตำลึงเงิน นับว่าไม่น้อยเลยข้าวสารหนึ่งตั้น ราคาประมาณหนึ่งตำลึงเงินเท่านั้น!ใช้เงินสี่แสนตำลึงเงินไปซื้อเสบียง สามารถให้กองทหารมณฑลทางเหนือสองแสนห้าหมื่นคนกินอิ่มไปได้สองสามเด
นางเป็นผู้ดูแล เป็นตำแหน่งที่มีสิทธิ์ทางบัญชีของซั่วฟาง!ความจริง หยุนเจิงไม่อยากให้เยี่ยจื่อเหนื่อยเกินไป เดิมเขาอยากให้จางซูทำงานนี้แต่เจ้าชั่วจางซูไม่สนใจงานนี้หากใช้จางซู เขาทำเรื่องจุกจิกเล็กน้อยไม่ได้ เขาเพียงชอบหาเงินและใช้เงินด้วยความจนปัญญา หยุนเจิงทำให้ได้สั่งให้เยี่ยจื่อรับหน้าที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ชั่วคราวรอมีตัวเลือกที่เหมาะสมแล้ว ค่อยให้เยี่ยจื่อถอนตัวออกมาเขาไม่อยากให้ผู้หญิงของตนเหนื่อยจนป่วยหลังจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว หยุนเจิงเรียกจางซูและหมิงเย่ว์มา“ทหารสองแสนห้าหมื่นคนของกองทหารมณฑลทางเหนือ ต้องพึ่งเทพแห่งความมั่งคั่งอย่างเจ้าแล้ว”หยุนเจิงยิ้มมองจางซู“องค์ชาย ท่านทำให้ข้ารู้สึกกดดันอย่างมากแล้ว!”จางจูหัวเราะมองหยุนเจิงจางซูรู้สึกกัดดันจริง อีกทั้งความกดทชดันไม่ใช่แค้มากระดับธรรมดามารดาเขาสิ นี่มันคนสองแสนห้าหมื่นคนเชียวนะ!ต่อให้หักทหารชาวนาที่เป็นค่าใช้จ่ายค่อนข้างน้อย ก็ยังมีหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นคน!ไม่ใช่เพียงเรื่องง่ายดายแค่ทำให้ท้องอิ่มเท่านั้น!มีสถานที่ต้องให้ใช้จ่ายเงินมากมาย!นี่เป็นเหมือนหลุมที่ไร้ก้นเหว!ต่อให้โยนเงินเข้าไปมากมายเพ
พรุ่งนี้หยุนเจิงต้องไปยังชายแดนกู้แล้วตอนกลางคืน ทุกคนก็ต้องรวมตัวกันดื่มสักสองแก้วหยุนเจิงไม่นับว่าคอแข็งแม้ทุกคนจะไม่ได้ตั้งใจรินเหล้าให้เขา หนึ่งมื้อกินเสร็จ เขาก็ยังดื่มจนรู้สึกมึนหัวซินเซิงพยุงหยุนเจิงนั่งลงกลางห้อง จากนั้นก็กล่าวว่า “องค์ชายรอเดี๋ยว บ่าวจะไปตักน้ำมาล้างเท้าให้ท่าน”“อืมๆ”หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ สะบัดศีรษะที่เริ่มมึนงงมารดาเขาสิ!เหล้านี่ต้องดื่มให้น้อยหน่อยแล้ว!โดยเฉพาะไปถึงชายแดนกู้ พยายามไม่ดื่มจะดีกว่ารอจนทำให้เป่ยหวนถอยออกไปหลายร้อยลี้ แย่งทุ่งหญ้ามู่หม่ากลับมา ค่อยเมาหัวราน้ำสักรอบก็ยังไม่สาย!คิดถึงทุ่งหญ้ามู่หม่า หยุนเจิงตาร้อนขึ้นมาแล้วมารดาเขาสิ ทุ่งหญ้าที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ไม่แย่งมา รู้สึกผิดกับตัวเองแล้ว!มีทุ่งหญ้าที่ยอดเยี่ยมแล้ว ก็สามารถผสมพันธ์ม้าศึกได้มากขึ้นแต่ว่า ระยะเวลาในการเติบโตของม้าศึกนั้นนานเกินไปโดยพื้นฐานแล้วม้าอายุห้าปีขึ้นไปจึงจะสามารถเป็นม้าศึกได้เรื่องผสมพันธ์ก็ส่วนเรื่องผสมพันธ์ หากต้องการม้าศึกมากขึ้นโดยไว ไปแย่งม้าศึกของเป่ยหวนเป็นไปได้มากกว่า!ขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดเรื่อยเปื่อย ร่างสง่างามเดินถือกะละมังไม
หยุนเจิงกอดเยี่ยจื่อ นานๆ ทีจะมีความคิดรักทะนุถนอมนางสักครั้ง เพียงแค่บอกนางเรื่องจางซูจะให้สถานะกับหมิงเย่ว์ จากนั้นก็กล่าวอย่างจริงใจ “ข้าว่า ข้าควรให้สถานะกับเจ้าและเมี่ยวอิน”“ข้าไม่ต้องการสถานะ”เยี่ยจื่อส่ายหน้าเบาๆ “ข้าอยู่กับเจ้าเช่นนี้ก็พอแล้ว”“พูดอะไรน่ะ?”หยุนเจิงเชยใบหน้าเยี่ยจื่อขึ้นมา “ให้เจ้าติดตามข้าโดยไร้สถานะได้เช่นไร?”“ข้าไม่ต้องการสถานะจริงๆ” เยี่ยจื่อส่ายหน้าอีกครั้ง กล่าวอย่างจริงใจ “ฐานะของข้าค่อนข้างพิเศษ เจ้าให้สถานะกับข้า คนทั้งใต้หล้าจะมองเจ้าเช่นไร? ข้าไม่อาจทำเพื่อสถานะจอมปลอมมาทำลายชื่อเสียงเจ้า”ความสัมพันธ์ของนางและหยุนเจิง ทำเช่นไรก็ขัดกับกฎเกณฑ์ในเมื่อนางตัดสินใจอยู่กับหยุนเจิงแล้ว ย่อมไม่สนใจสายตาคนภายนอกอีกต่อไปแต่หยุนเจิงไม่ได้!หยุนเจิงคือจิ้งเป่ยอ๋อง เป็นแม่ทัพใหญ่ฝู่กั๋ว แล้วยังเป็นซั่วเป่ยเจี๋ยตู้สื่อ!นางไม่อาจปล่อยให้หยุนเจิงขึ้นชื่อว่าเป็นคนรังแกภรรยาดูหมิ่นสะใภ้“ชื่อเสียงผายลมสิ”หยุนเจิงหัวเราะไม่ใส่ใจ “แม้แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นโจรชั่วสร้างความแตกแยกข้าล้วนไม่สนใจ ยังจะสนใจชื่อเสียงเช่นนี้ด้วยหรือ? ใครกล้าพูดจาเหลวไหล ข้าจะตัดล