หลังจากที่ซื้อใจทหารของกองทหารติ้งเป่ยได้แล้ว หยุนเจิงพลันรีบควบม้าพาฝูงชนไปที่ด่านเป่ยลู่ทันทีส่วนหม่าอี้ก็มอบให้ฟู่เทียนเหยียน!ถึงแม้หยวนเลี่ยจะเป็นผู้จงรักภักดีต่อเว่ยเหวินจง ทั้งยังนำกองทหารม้าชั้นยอดเก้าพันนายเฝ้าหม่าอี้ แต่อย่างไรหม่าอี้ก็ยังมีทหารแก่ชราอ่อนแอหลายหมื่นนายเช่นเดียวกัน!ทหารแก่ชราอ่อนแอเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคนของหยุนเจิงทั้งนั้นหากเช่นนี้ยังไม่สามารถยึดหม่าอี้ได้ ฟู่เทียนเหยียนก็ไร้ประโยชน์มากแล้วพูดถึงหยวนเลี่ย หยุนเจิงจึงถามตู๋กูเช่อขึ้นอย่างสงสัย “จริงสิ หยวนเลี่ยมีความสัมพันธ์เป็นญาติกับเว่ยเหวินจงจริงหรือ?”“ไม่มี”ตู๋กูเช่อส่ายศีรษะ “แต่ทว่า หยวนเลี่ยถือว่าเป็นบุตรบุญธรรมของเว่ยเหวินจงกระมัง!”บิดาของหยวนเลี่ยเคยเป็นผู้บัญชาการใกล้ชิดของเว่ยเหวินจง แต่ทว่าตายจากไปในสงครามครั้งใหญ่ซั่วเป่ยเมื่อหกปีก่อนต่อมา เว่ยเหวินจงฝากคนให้พาหยวนเลี่ยมาที่ซั่วเป่ย แล้วฝึกซ้อมเขาถึงแม้เว่ยเหวินจงจะไม่รับหยวนเลี่ยเป็นบุตรบุญธรรมอย่างเป็นทางการ แต่ทว่าก็ปฏิบัติต่อหยวนเลี่ยเป็นบุตรและเพราะว่ามีการสนับสนุนจากเว่ยเหวินจง หยวนเลี่ยถึงได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดแต่ทว่
เห็นท่าทีของคนผู้นี้แล้ว โจรที่อยู่ข้างหลังเขาต่างก็รีบมาคารวะตาม“คารวะท่านอ๋อง!”ฝูงชนคารวะพร้อมกัน ทำเอาตู๋กูเช่อและทหารม้าที่ตามมาด้วยมึนงงคนพวกนี้ก็เป็นคนของหยุนเจิงด้วยนั้นหรือ?“เอาเถอะ ไม่ต้องมากพิธี!”หยุนเจิงควบม้าออกไป แล้วมองฝูงชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ตู้กุยหยวนล่ะ?”หัวโจกรีบตอบ “ทูลท่านอ๋อง ผู้บัญชาการตู้สั่งให้พวกข้ามาตัดเส้นทางสื่อสารของด่านเป่ยลู่และติ้งเป่ยขอรับ ส่วนเขานำทัพแปดร้อยคนไปที่ด่านเป่ยลู่แล้ว…”“ดีมาก!”หยุนเจิงพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วถามว่า “พวกเจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใดกัน?”“ห้าวันก่อนขอรับ!”“ระหว่างนั้นมีทหารส่งสาส์นจากติ้งเป่ยกับหม่าอี้ผ่านมาหรือไม่?”“มีขอรับ แต่ถูกพวกข้าจับไว้หมดแล้ว!”จับไว้หมดแล้ว?หยุนเจิงเผยรอยยิ้มพึงพอใจจับได้ก็ดี!ขอเพียงตัดเส้นทางสื่อสารของด่านเป่ยลู่กับเมืองอื่นๆ คนของด่านเป่ยลู่ก็จะไม่รู้ว่าเว่ยเหวินจงถูกล้อมจับอยู่ที่เทียนหู เช่นนั้นก็จะไม่ระมัดระวังพวกเขาด้วยบัดนี้ ตู้กุยหยวนพาคนแทรกเข้าไปในด่านเป่ยลู่อีก เรื่องต่อจากนี้ก็ง่ายขึ้นแล้วหยุนเจิงตัดสินใจ แล้วโบกมือ “เอาล่ะ เช่นนั้นพวกเข้าดำเนินการตามแผนต่อเถอ
ด่านเป่ยลู่หยวนจงใจไม่นิ่งเรื่องที่กองทหารมณฑลฝ่ายเหนือถูกล้อมไว้ที่ชายแดนกู้กว่าสี่หมื่นนาย เขาต้องรู้อยู่แล้วไม่กี่วันก่อน เว่ยเหวินจงยังเร่งให้คนส่งจดหมายไปรายงานที่เมืองจักรพรรดิด้วยถึงแม้เขาจะไม่ได้ความอะไรจากปากทหารข้างกายของเว่ยเหวินจง แต่เพียงแต่แผ่นหลังของคนเหล่านั้นปักธงสามด้านไว้ก็รู้แล้วว่าป้อมเมืองฝ่ายหน้าของซั่วเป่ยเกิดเรื่องใหญ่เข้าแล้ว แถมยังต้องเป็นข่าวร้ายด้วยแน่ๆหยุนเจิงถูกล้อมไว้ที่ชายแดนกู้ เขาต้องดีใจอยู่แล้วแต่ทว่าป้อมเมืองฝ่ายหน้าของซั่วเป่ยเกิดเรื่องใหญ่ เหตุใดเว่ยเหวินจงถึงไม่ส่งข่าวมาที่ด่านเป่ยลู่เลย?ตามหลักแล้ว สถานการณ์เช่นนี้ ไม่เกินสามวันเว่ยเหวินจงต้องส่งคนมาถามสถานการณ์ของด่านเป่ยลู่แล้วนี่เป็นเรื่องขั้นพื้นฐาน!หากเป็นสถานการณ์เร่งด่วน เพียงแค่วันเดียวก็เพียงพอแล้ว!แต่นี่ก็ห่างจากวันที่ทหารข้างกายของเว่ยเหวินจงไปรายงานที่เมืองจักรพรรดิเป็นเวลาหกวันแล้ว!หกวัน!เวลานานเพียงนี้ แต่เว่ยเหวินจงกลับไม่ถามไถ่ถึงด่านเป่ยลู่เลย?และคนที่เขาส่งไปยังติ้งเป่ยเมื่อสามวันก่อน หากเป็นสถานการณ์ปกติ เมื่อคืนวานก็ควรจะกลับมาถึงแล้ว แต่ทว่าคนของเข
“หากข้าไม่มา ก็คงไม่รู้ว่าเจ้าหลับสบายแค่ไหน!”หยวนจงโกรธจัด เขาเตะไปทีหนึ่ง ทำให้หยวนกุยล้มลงกับพื้น แล้วด่าสุดฤทธิ์ว่า “สถานการณ์ป้อมเมืองฝ่ายเหนือเป็นอย่างไรไม่แน่ชัด ติ้งเป่ยก็ไม่มีข่าวสารมาเสียที ข้ากังวลแทบตาย แต่เจ้ากลับมาดื่มสุราอยู่ที่นี่? ให้ข้าโยนเจ้าเข้าไปในบ่อสุรา ดื่มให้หน่ำใจหน่อยหรือไม่?”หยวนกุยล้มอยู่กับพื้น แล้วมองหยวนจงแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าเพียงแค่กำลังคิดว่าหยุนเจิงไอ้สุนัขนั่นต้องตายแน่ๆ ข้าจึงดีใจ แล้ว…”ตุบ!หยวนกุยยังไม่ทันพูดจบ หยวนจงก็เตะไปอีกทีหนึ่ง“ไอ้ระยำ อยากตายหรือไง?”หยวนจงโกรธจนตัวสั่น แล้วเตะไอ้ระยำนั่นอีกสองสามทีไอ้ระยำรู้จักแต่กินไม่รู้จักสู้!เขาลืมแล้วหรือไงว่าปากเน่าๆ นี้ไปก่อเรื่องมามากแค่ไหน?คำพูดเช่นนี้ เขายังกล้าพูดอีก?หากแพร่ออกไปแล้ว คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกเขาจะฆ่าหยุนเจิงแน่!อยากฉลองก็แอบฉลองสิ!หยวนจงยิ่งคิดยิ่งโกรธ เตะทีหนึ่งตามด้วยอีกทีหนึ่ง“ท่านพ่อ ข้าผิดไปแล้ว!”“ข้าไม่กล้าทำอีกต่อไปแล้ว!”“ไว้ชีวิตข้าเถอะ!”หยวนกุยถูกเตะจนร้องทรมาน ร้องขอชีวิตไม่หยุดหยวนจงโกรธจัด ไม่สนใจหยวนกุย เพียงแค่เตะเต็มแรง
หยุนเจิงและตู๋กูเช่อคอยอยู่ราวสองเค่อ หยวนจงสองพ่อลูกถึงจะมาถึงจวนแม่ทัพเมื่อเห็นหยวนกุย หยุนเจิงก็ดีอกดีใจคนโง่นี่ตามมายังซั่วเป่ยจริงด้วย!ด้วยสายตาของหยุนเจิง ทำให้หยวนกุยอดกัดฟันไม่ได้หยุนเจิง!ไอ้สุนัขนี่จริงๆ ด้วย!ไอ้สุนัขนี่ฝ่าวงล้อมออกมาได้สำเร็จจริงๆ!ให้ตายเถอะ!เป็นไปได้อย่างไรกัน!กองทหารแสนกว่านายของเป่ยหวนนั่นทำอะไรอยู่?กองทหารแสนกว่านายล้อมชายแดนกู้ไว้ แต่ยังทำให้พวกเขาฝ่าออกมาได้อีก?วินาทีนี้ หยวนกุยเพียงแค่อยากทักทายบรรพบุรุษของแม่ทัพหลักของเป่ยหวนคนของเป่ยหวนเชี่ยวชาญด้านการรบและความกล้าหาญไม่ใช่หรือ?ภายใต้การล้อมด้วยคนแสนกว่านายยังสามารถทำให้หยุนเจิงฝ่าวงล้อมออกมาได้อย่างปลอดภัยด้วย?เชี่ยวชาญด้านการรบและความกล้าหาญบ้าอะไร!ไร้ประโยชน์!ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น!“ข้าหยวนจง ขอคารวะท่านอ๋อง รองผู้บัญชาการ…”แม้หยวนจงจะสงสัย แต่ก็ต้องทักทายระหว่างที่ทักทายนั้น หยวนจงยังจ้องไปที่หยวนกุยทีหนึ่งหยวนกุยได้สติ รีบทักทายตาม “ข้าหยวนกุย ขอคารวะท่านอ๋อง รองผู้บัญชาการ!”“ไม่ต้องมากพิธี!”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ แล้วมองไปที่หยวนกุย “นายกองทหารม้าหยวน ไม่ค
แม้จะรู้ว่าเขาไม่ระวัง แต่ก็ไม่น่าจะหลบฝ่าบาทที่ฝีมิอการตบไป!ให้ตายเถอะ!สารเลวนี่ไม่ได้มีแรง!ตอนอยู่เมืองจักรพรรดิ ก็ให้หยุดให้แสง!ก่อกบฏ!องค์รัชทาบาทพูดถูก ไอ้คนอันตรายนี่จะมาก่อกบฏที่ซั่วเป่ย!“หยุนเจิง เจ้าจะก่อกบฏจริงหรือ?แววตาของหยวนจงเคลื่อนไหว แล้วมองหยุนเจิงอย่างเย็นชาหยุนเจิงกล่าว แล้วฟาดมือลงไปอีกครั้งครั้งนี้ หยวนจงเตรียมตัวมา ในที่สุดก็หลบได้“อุ๊ย กล้าหลบด้วย?”หยุนเจิงมองหยวนจงยิ้มๆ “เจ้ากำลังขัดราชโองการนะ!”“เหลวไหล!”หยวนจงกล่าว “โจรทำให้ขุนนางแตกแยก ยังมีหน้ามาพูดเรื่องราชโองการกับข้าอีก?”“ท่านพ่อ ไม่ต้องเสียเวลากับเขาแล้ว!”หยวนกุยได้สติ “จับตัวโจรที่ทำให้ภายในแตกแยกคนนี้ก่อน แล้วส่งตัวไปที่เมืองจักรพรรดิทันที!”คิดจะก่อกบฏ!เขากำลังหดหู่เรื่องหยุนเจิงฝ่าวงล้อมได้สำเร็จอยู่เลย!แต่สุดท้าย หยุนเจิงกลับวิ่งมามอบความตายเอง!ครั้งนี้ ในที่สุดตนก็มีโอกาสแก้แค้นแล้ว!อีกอย่างยังเป็นผลงานจับทหารทรยศด้วย!ผลงานที่มาถึงตรงหน้าแล้ว ใครจะปฏิเสธได้?วินาทีนี้ หยวนกุยถึงไม่ได้เกลียดหยุนเจิงปานนั้นจู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าหยุนเจิงน่ารักมาก!พาทหารม้ามาพ
ค่ายทิศใต้ ด่านเป่ยลู่ทหารม้าเร็วนายหนึ่งควบม้าพุ่งมายังปากค่ายทหารอย่างรวดเร็ว“หยุด!”ทหารยามพอเห็นดังนั้นก็รีบหยุดเขาไว้“สองพ่อลูกหยวนฉงหมิ่นเบื้องสูง ใครจะลอบสังหารท่านอ๋องและรองแม่ทัพ รีบพาข้าเข้าพบท่านแม่ทัพ! หากว่าท่านอ๋องและรองแม่ทัพเกิดเสียหายอะไร ระวังหัวเจ้าจะหลุดจากบ่า!”ทหารม้าเร็วพูดและมองไปทางทหารยามด้วยสีหน้าร้อนรนพอนายทหารกลุ่มหนึ่งได้ยินคำพูดของทหารม้าเร็วแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนพลันเห็นว่าทหารม้าเร็วมาแค่คนเดียวก็ไม่ได้กังวลว่าเขาจะมาโจมตีค่าย จึงได้รีบนำเขาเข้าสู่ค่าย มีทหารอีกนายรีบวิ่งไปแจ้งหัวหน้าผู้ดูแลค่ายใหญ่ทิศใต้ฉากเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่ด่านเป่ยลู่และค่ายทหารอื่นๆ อีกด้วยเช่นกันไม่นาย นายทหารแต่ละกองก็รีบรุดออกจากค่ายใหญ่ แล้วไปที่จวนท่านแม่ทัพของหยวนฉงที่เขาอยู่อาศัยสองพ่อลูกหยวนฉงจะลอบสังหารท่านอ๋องและรองแม่ทัพ!นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก!ในขณะที่หยวนกุยจับกุมตัวหยุนเจิงและตู๋กูเช่อไปที่บริเวณค่ายของตัวเองนั้น จู่ๆ ถนนสองข้างทางก็ปรากฏพลทหารจำนวนมากผู้คนทั้งหลายวิ่งไม่หยุด ส่งผลให้พื้นผิวสั่นสะเทือนไปทั่วพอเห็นว่าพวกพลทหารเหล่านี้วิ่งไปทางที่อ
หยวนกุยมองเหล่าทหารที่เดินหน้าตรงมา ในใจเขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย ในความชุลมุน หยวนกุยชักดาบขึ้นพาดที่คอของหยุนเจิง ตะโกนขึ้นอย่างโมโห “ถอยทัพไปให้หมด ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเขาเสีย!”“แค่กๆ…”พอหยุนเจิงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเย็นวาบที่คอ เขาไม่เพียงแต่จะไม่กลัว แต่กลับแทบจะหลุดหัวเราะเจ้าคนโง่นี่ โง่ได้น่ารักจริงๆ เลยนะ!ครานี้ เขาไม่มีทางล้มล้างความผิดของตัวเองได้แล้ว!ตู๋กูเช่อชำเลืองตามองหยวนกุยคราหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวเบาๆ หยวนกุยนี่ เป็นเหมือนที่ท่านอ๋องพูดจริงๆ ด้วย เป็นเจ้าทึ่มที่สมองโตและร่างกายเติบโตแค่นั้นจริงๆชักดาบขึ้นมาพาดคอหยุนเจิงผู้เป็นท่านอ๋องต่อหน้าผู้คนมากมายเนี่ยนะ?เขาจับตัวหยุนเจิงมาข่มขู่เหล่าแม่ทัพพวกนี้ ไม่เท่ากับว่ากำลังยอมรับข้อหาที่เขาคิดจะลอบสังหารหยุนเจิงกับตนหรือ?หลังจากที่หยวนกุยกระทำการเช่นนี้ เหล่าแม่ทัพก็ยกมือขึ้นห้ามเหล่าทหารพล ความเย็นในตามากขึ้นฉับพลันเวลานี้ พวกเขามั่นใจแล้วว่าหยวนกุยคิดจะลอบสังหารหยุนเจิงและตู๋กูเช่อจริงๆ แล้ว!ฟางซีเฟิงกวาดสายตาเย็นเยือกไปทางพวกหยวนกุย แล้วตะโกนขึ้นเสียงดังด้วยความโกรธ “อู๋ฮู่ รีบนำกองกำลังพลและม้าไ